พระคัมภีร์ใหม่ในพระคำ.คอม


มัทธิว 1 วันที่พระเยซูคริสต์มาบังเกิด
มัทธิว 2 ดวงดาวและความฝัน
มัทธิว 3 ทรงโปรดปรานท่านผู้นี้
มัทธิว 4 ทดสอบก่อนราชกิจ
มัทธิว 5 ชีวิตแบบแผ่นดินสวรรค์
มัทธิว 6 ทัศนคติที่แตกต่าง
มัทธิว 7 ทัศนคติตามน้ำพระทัย
มัทธิว 8 ผู้ทรงสิทธิอำนาจ
มัทธิว 9 ราชกิจเพื่อชาวเมือง
มัทธิว 10
มัทธิว 11
มัทธิว 12
มัทธิว 13
มัทธิว 14

มัทธิว 15
มัทธิว 16
มัทธิว 17
มัทธิว 18
มัทธิว 19
มัทธิว 20
มัทธิว 21
มัทธิว 22
มัทธิว 23
มัทธิว 24
มัทธิว 25
มัทธิว 26
มัทธิว 27
มัทธิว 28

มาระโก : อ่านเล่มนี้เป็นเล่มแรก สั้นและกระชับสุด
มาระโก 1 บุรุษผู้มาเตรียมทาง
มาระโก 2 สี่เรื่องราวในคาเปอร์นาอุม
มาระโก 3 ราชกิจที่ฟาริสีเคือง
มาระโก 4 อุปมาเรื่องดินและเมล็ดพันธุ์
มาระโก 5 อัศจรรย์ท้าชีวิต
มาระโก 6 มหัศจรรย์ที่เกิดแล้วเกิดอีก
มาระโก 7 เหนือประเพณี ใจ เชื้อชาติ โรคร้าย
มาระโก 8 มาตามพระเยซูกันดีกว่า



มาระโก 9 ปรากฏพระกายแท้
มาระโก 10 จะเข้าอาณาจักรของพระเจ้า
มาระโก 11 โฮซันนา! โฮซันนา!
มาระโก 12 คำอุปมาเรื่องผู้เช่าโฉดชั่ว
มาระโก 13 จงเฝ้าระวัง!
มาระโก 14 ก้าวสู่แดนประหาร
มาระโก 15 พระเยซูสิ้นพระชนม์
มาระโก 16 คืนพระชนม์

ลูกา
ลูกา 1 ทูตสวรรค์มาเยือน
ลูกา 2 พระบุตรพระเจ้าลงมาในโลก
ลูกา 3 ยอห์นผู้ให้บัพติศมา เตรียมทางล่วงหน้า
ลูกา 4 พระราชกิจตอนเริ่มแรก
ลูกา 5 เมื่อคืนจับปลาไม่ได้เลย
ลูกา 6 คำเทศนาบนที่ราบ
ลูกา 7 คนที่ทำให้ประหลาดพระทัย!
ลูกา 8 อัศจรรย์ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ลูกา 9 พระกายจริงของพระบุตร
ลูกา 10 เมตตาสะมาเรีย
ลูกา 11 คำสนทนาพระเยซู-ธรรมาจารย์-ฟาริสี
ลูกา 12 ไม่กังวลต่อไป

ลูกา 13 กลับใจสำคัญ
ลูกา 14 สองอุปมาเรื่องงานเลี้ยง
ลูกา 15 สามอุปมาแห่งความยินดี
ลูกา 16 บทนี้เรื่องเงินกับสองแผ่นดิน
ลูกา 17 อาณาจักรพระเจ้าอยู่ที่ไหน?
ลูกา 18 สองอุปมา
ลูกา 19 คนนี้ไม่มีใครคบ
ลูกา 20 คำถามเรื่องสิทธิอำนาจของพระเยซู
ลูกา 21 พระวจนะบนภูเขามะกอกเทศ
ลูกา 22 จูบพิษ
ลูกา 23 สู่แดนประหาร
ลูกา 24 สู่สวรรค์

ยอห์น
ยอห์น 1 พระเยซูคริสต์คือผู้ใด?
ยอห์น 2 งานสมรสที่บ้านคานา
ยอห์น 3 เพราะพระเจ้าทรงรักโลก
ยอห์น 4 พบที่บ่อน้ำ
ยอห์น 5 พยานทั้งห้าของพระบุตรพระเจ้า
ยอห์น 6 อาหารแห่งชีวิต
ยอห์น 7 เทศกาลอยู่เพิงสุดท้าย
ยอห์น 8 เราคือความสว่างของโลกนี้
ยอห์น 9 แสงสว่างแห่งโลก
ยอห์น 10 ผู้เลี้ยงแสนดี
ยอห์น 11 เพื่อนรักที่ฟื้นจากความตาย

ยอห์น 12 องค์ราชาปรากฏแก่ประชาชน
ยอห์น 13 อาหารมื้อสุดท้ายกับการล้างเท้า
ยอห์น 14 คำสนทนาในอาหารมื้อสุดท้าย
ยอห์น 15 ต้องเข้าสนิทในพระเยซู
ยอห์น 16 ราชกิจขององค์พระวิญญาณ
ยอห์น 17 คำทูลก่อนไม้กางเขน
ยอห์น 18 มอบชีวิตให้ด้วยพระองค์เอง
ยอห์น 19
การตรึงที่กางเขน
ยอห์น 20 ทรงฟื้นขึ้นมาแล้ว
ยอห์น 21 พบกันที่กาลิลี

กิจการ มี 28 บท
กิจการ 1 พระเยซูเสด็จไป พระวิญญาณเสด็จมา
กิจการ 2 กำเนิดคริสตจักร
กิจการ 3 การอัศจรรย์กับขอทานในพระวิหาร
กิจการ 4 การข่มเหงครั้งแรก
กิจการ 5 การเริ่มต้นที่สำคัญ
กิจการ6 แต่งตั้งผู้รับใช้ดูแลพี่น้อง
กิจการ 7 คำอธิบายของสเทเฟน
กิจการ 8 พระวิญญาณ ฟีลิป กับขุนนาง
กิจการ 9 พบผู้ถูกข่มเหงตัวจริง !
กิจการ 10 การแสวงหาของนายร้อย
กิจการ 11 อันทิโอก เปิดโลกคริสเตียน
กิจการ 12 นักโทษที่หายไป
กิจการ 13 ส่งผู้ประกาศออกไป
กิจการ 14 เจอหินเข้าแล้ว


กิจการ 15 พระคุณที่ถูกคุกคาม
กิจการ 16 แลกมาด้วยความยินดี
กิจการ 17 หว่านพระคำในเอเธนส์
กิจการ 18 เพื่อนร่วมงานจากพระเจ้า
กิจการ 19 การต่อสู้ที่แปลกออกไป
กิจการ 20 คงไม่ได้พบกันอีก
กิจการ 21 เยรูซาเล็ม.. ไปดีหรือไม่ไปดี?
กิจการ 22 ขอเป็นพยานอีกครั้ง
กิจการ 23 แผนดักฆ่า
กิจการ 24 ณ ศาลเฟลิกซ์
กิจการ 25 ณ ศาลเฟสทัส อากริปปา
กิจการ 26 คำพยานต่อหน้าอากริปปาF
กิจการ 27 เรือแตก
กิจการ 28 จบที่โรม

โรม
โรม 1 ข่าวประเสริฐมีฤทธิ์!
โรม 2 การพิพากษาอันเที่ยงธรรม
โรม 3 พ้นผิดได้ด้วยพระคุณ
โรม 4

โรม

1 โครินธ์ มีทั้งหมด 16 บท
1 โครินธ์ 1 พระปัญญาของพระเจ้า พระเยซูคริสต์
1 โครินธ์ 2 สติปัญญาแบบไหนดี?
1 โครินธ์ 3 รากฐานแท้
1 โครินธ์ 4 ยอมโง่เพื่อพระคริสต์
1 โครินธ์ 5 คนที่ต้องเลิกคบ
1 โครินธ์ 6 เราต้องตัดสินกันเอง
1 โครินธ์ 7 ชีวิตสมรสและชีวิตโสด
1 โครินธ์ 8 เนื้อสัตว์ในวิหารเทพ

1 โครินธ์ 9 คนงานของพระเจ้า
1 โครินธ์ 10 ตัวอย่างจากอดีต
1 โครินธ์ 11 อาหารมื้อสุดท้าย
1 โครินธ์ 12 หนึ่งเดียวที่แตกต่าง
1 โครินธ์ 13 ความหมายแห่งรัก
1 โครินธ์ 14 ของประทานแห่งคำพูด
1 โครินธ์ 15 การคืนพระชนม์.. สำคัญ!
1 โครินธ์ 16 คำอำลาฉบับแรก

2 โครินธ์
2 โครินธ์ 1 พระเจ้าแห่งการหนุนใจ
2 โครินธ์ 2 กลิ่นแห่งชีวิต
2 โครินธ์ 3 เสรีภาพในพระวิญญาณ
2 โครินธ์ 4 สิ่งที่ไม่เห็นดำรงนิรันดร์
2 โครินธ์ 5 คนที่ถูกสร้างใหม่
2 โครินธ์ 6 อาวุธของท่านเปาโล


2 โครินธ์ 7 เสียใจให้ถูกวิธี
2 โครินธ์ 8 ให้โปร่งใส
2 โครินธ์ 9 กฎการหว่าน
2 โครินธ์ 10 อวดพระเจ้า
2 โครินธ์ 11 มาแข่งกันอวด
2 โครินธ์ 12 เข้มแข็งด้วยพระคุณ
2 โครินธ์ 13 พิสูจน์ตนเอง

กาลาเทียจดหมายถึงกาลาเทีย 6 บท

เอเฟซัส
เอเฟซัส 1 องค์ผู้สูงสุด
เอเฟซัส 2 มาเป็นหนึ่งเดียวกัน
เอเฟซัส 3 เผยความลี้ลับ
เอเฟซัส 4 ชีวิตที่เปลี่ยนจริง
เอเฟซัส 5 พระคริสต์กับคริสตจักร
เอเฟซัส 6 ยุทธภัณฑ์ทั้งชุด

ฟีลิปปี
จดหมายถึงคริสตจักรฟีลิปปี 4 บท
ฟีลิปปี 1 จดหมายจากนักโทษผู้มีความสุข
ฟีลิปปี 2 ถ่อมตนอย่างองค์พระคริสต์
ฟีลิปปี 3 ทุกอย่างเพื่อพระคริสต์
ฟีลิปปี 4 พระเจ้าแห่งสันติสุข

โคโลสี
จดหมายถึงคริสตจักรโคโลสี 4 บท
โคโลสี 1 พระเยซูทรงอยู่เหนือสรรพสิ่ง
โคโลสี 2 พระคริสต์เท่านั้น
โคโลสี 3 คนใหม่สนใจเบื้องบน
โคโลสี 4 คำหนุนใจจากท่านเปาโล

1 เธสะโลนิกา 1 ตัวอย่างที่เยี่ยมยอด
1 เธสะโลนิกา 2 การรับใช้ของท่านเปาโล
1 เธสะโลนิกา 3 กำหนดให้ทนทุกข์
1 เธสะโลนิกา 4 คำขอร้องในการใช้ชีวิต
1 เธสะโลนิกา 5 วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า

2 เธสะโลนิกา 1 ถึงพี่น้องที่ถูกข่มเหง
2 เธสะโลนิกา 2 วันที่จะมาถึง
2 เธสะโลนิกา 3 ชีวิตในชุมชนผู้เชื่อ

1 ทิโมธี 1 จดหมายจากท่านเปาโล
1 ทิโมธี 2 อธิษฐานมีพลัง
1 ทิโมธี 3 คุณสมบัติผู้รับใช้
1 ทิโมธี 4 คนหนุ่มของพระเจ้า
1 ทิโมธี 5 การปฏิบัติต่อพี่น้อง
1 ทิโมธี 6 การมองโลก ชีวิต เงิน ความสัมพันธ์

2 ทิโมธี 1 จิตใจที่กล้าหาญ
2 ทิโมธี 2 คำแนะนำแก่ศิษยาภิบาลหนุ่ม
2 ทิโมธี 3 ยุคสุดท้ายกับปัญญาสู่ความรอด
2 ทิโมธี 4 คำสุดท้ายจากท่านเปาโล

ทิตัส
ทิตัส 1 จากท่านเปาโลถึงทิตัส
ทิตัส 2 พฤติกรรมที่เหมาะสม
ทิตัส 3 สิ่งที่ดีเลิศ

ฟีเลโมน อภัยให้เขาด้วย

ฮีบรู
ฮีบรู 1 พระเยซูคือผู้ใด?
ฮีบรู 2 ความรอดจากพระบุตร
ฮีบรู 3 มั่นคงจนจบ
ฮีบรู 4 พระสัญญาแห่งการพัก
ฮีบรู 5 องค์มหาปุโรหิต
ฮีบรู 6 คำปฏิญาณจากองค์ผู้สูงสุด
ฮีบรู 7 ครั้งเดียวเป็นพอ


ฮีบรู 8 เราทุกคนรู้จักพระองค์
ฮีบรู 9 พระโลหิตคือคำตอบ
ฮีบรู 10 มีชีวิตโดยความเชื่อ
ฮีบรู 11 ความเชื่อที่จะเดินตาม
ฮีบรู 12 ทรงเป็นไฟที่เผาผลาญ
ฮีบรู 13 ชีวิตที่พอพระทัย

ยากอบ
ยากอบ 1 ความเชื่อกับความยากลำบาก
ยากอบ 2 ความเชื่อกับความสัมพันธ์
ยากอบ 3 ความเชื่อกับลิ้นที่ไม่เชื่อง
ยากอบ 4 เชื่อต้องลงมือ
ยากอบ 5 คำแนะนำเรื่องต่าง ๆ

1 เปโตร
1 เปโตร 1 ใช้ชีวิตอย่างคนบังเกิดใหม่
1 เปโตร 2 พระเกียรติและหน้าที่ของคนของพระเจ้า
1 เปโตร 4 รับใช้พระเจ้าในยุคสุดท้าย
1 เปโตร 3 ความสัมพันธ์ การทนทุกข์ และพระพร
1 เปโตร 5 คำสั่งให้เลี้ยงดูฝูงแกะ

2 เปโตร
2 เปโตร 1 เริ่มต้นที่ความเชื่อ
2 เปโตร 2 คำเตือนเรื่องครูสอนผิด
2 เปโตร 3 พระสัญญาของพระเจ้าไม่เนิ่นช้า

1 2 3 ยอห์น
1 ยอห์น 1 ความสว่าง ความรัก และชีวิต
1 ยอห์น 2 บัญญัติแห่งรัก
1 ยอห์น 3 ชีวิตที่เหมาะกับการเป็นลูกของพระเจ้า
1 ยอห์น 4 รักพี่น้อง สำคัญนัก
1 ยอห์น 5 เกิดจากพระเจ้า
2 ยอห์น 1 ต้อนรับด้วยความจริง
3 ยอห์น 1 ตัวอย่างคนสองแบบ

ยูดา คำเตือนเพื่อรักษาความเชื่อ

คลังพระคำ:ความหมายคำในพระคัมภีร์

2 โครินธ์ 2 กลิ่นแห่งชีวิต

2 โครินธ์ 2:1-2
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจว่า จะไม่มาหาท่านให้ทุกข์ใจอีก เพราะหากข้าทำให้ท่านเป็นทุกข์ ใครเล่าจะทำให้ข้ายินดีนอกเหนือไปจาก คนที่ข้าเองทำให้เป็นทุกข์?
2 โครินธ์ 2:3-4
ข้าเขียนข้อความนั้นมาเพื่อว่า เมื่อข้ามาถึง พวกเขาที่ควรทำให้ข้ายินดีจะไม่ทำให้ข้าทุกข์ใจ ข้ามั่นใจในตัวท่านทุกคนว่า ทุกท่านจะมีส่วนร่วมในความยินดีของข้า เพราะข้าทุกข์ระทม ทรมานใจ
ข้าจึงเขียนถึงท่านด้วยน้ำตา ไม่ใช่เพื่อทำให้ท่านต้องเสียใจ แต่เพื่อให้ท่านรู้ว่าข้ารักพวกท่านมากเพียงไร


2 โครินธ์ 2:5-6
หากว่ามีใครทำให้เกิดความทุกข์ใจ เขาไม่ได้ทำให้ข้าเป็นทุกข์เพียงคนเดียว แต่ยังทำให้พวกท่านเป็นทุกข์ไปด้วย ข้าเองไม่ต้องการพูดเกินจริง การลงโทษที่ได้รับจากคนส่วนมากนั้นก็น่าจะพอแล้ว

2 โครินธ์ 2:7-9
ท่านจึงควรยกโทษ และหนุนใจเขามากกว่าเพื่อว่าเขาจะไม่จมในความทุกข์มากจนเกินไป ดังนั้น ข้าจึงขอให้ท่านยืนยันความรักที่มีต่อเขานี่เป็นเหตุที่ทำให้ข้าเขียนถึงท่าน เพื่อจะทดสอบว่า ท่านยอมเชื่อฟังทุกเรื่องหรือไม่
2 โครินธ์ 2:10-11
ถ้าพวกท่านยกโทษผู้ใด ข้าจะยกโทษให้เขาด้วย และถ้าข้ายกโทษเรื่องใดข้าทำต่อพระพักตร์พระคริสต์เพื่อเห็นแก่พวกท่าน เพื่อไม่ให้ซาตานฉวยโอกาสสำเร็จเพราะเรารู้ทันกลวิธีของมันแล้ว

2 โครินธ์ 2:12-13
เมื่อข้าไปถึงเมืองโตรอัส เพื่อประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์นั้น แม้ว่า
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้เปิดโอกาสให้ข้า แต่ข้ายังกังวลเพราะตามหาน้องของข้าคือทิตัสไม่พบ ข้าจะลาพวกเขาและเดินทางต่อไปยังแคว้นมาซิโดเนีย


2 โครินธ์ 2:14
แต่ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงนำให้เรามีชัยชนะในพระคริสต์เสมอ และทรงให้เราประกาศความรู้เรื่องพระคริสต์เปรียบเหมือนกลิ่นที่หอมฟุ้งไปทั่ว

2 โครินธ์ 2:15-16
เพราะเราเป็นกลิ่นหอมของพระคริสต์เพื่อพระเจ้าท่ามกลางคนที่กำลังรอด
และท่ามกลางคนที่กำลังพินาศ สำหรับคนพวกหนึ่งเป็นกลิ่นแห่ง
ความตาย นำไปสู่ความตาย สำหรับคนอีกพวก เป็นกลิ่นของชีวิต นำไปสู่ชีวิต
ใครล่ะ ที่จะเหมาะกับงานเหล่านี้ ?
2 โครินธ์ 2:17
เพราะว่า เราไม่เหมือนคนอื่น ๆ มากมายที่เอาพระคำของพระเจ้ามาหากินแต่เราพูดต่อพระพักตร์ของพระเจ้าในพระคริสต์ ด้วยความจริงใจ
ในฐานะคนที่พระเจ้าทรงส่งมา

คำอธิบายเพิ่มเติม

2 โครินธ์ 2:1-2
คราวที่แล้ว ท่านเปาโลไปเยี่ยมคริสตจักรโครินธ์แต่ก็เกิดความขัดแย้ง และมีคนที่พยายามจับผิดท่าน มีปัญหาในคริสตจักรหลายอย่าง ท่านเปาโล
ต้องจัดการกับความผิดเหล่านั้น กลายเป็นการเยี่ยมที่เป็นทุกข์ ท่านจึงเปลี่ยนแผนไม่มาเยี่ยมอย่างที่เคยตั้งใจ จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เราเห็น
ว่า ความยุ่งยากในคริสตจักรเกิดขึ้นได้จากคนที่มีนิสัยสร้างความแตกร้าว จึงเป็นสิ่งที่เราต้องระวัง
2 โครินธ์ 2:3-4
ท่านเปาโลไม่ต้องการที่จะคอยตักเตือน สอน ต่อว่าพวกเขาตลอดเวลา แต่ให้พวกเขามีโอกาสคิดเองว่าควรทำอย่างไรในการมีชีวิตร่วมกันฐานะพระกาย
ของพระคริสต์ ท่านจึงตัดสินใจที่จะไม่ไปเป็นพี่เลี้ยงตลอดเวลา จดหมายนี้จึงเป็นตัวแทนของท่านเพื่อย้ำถึงความรักที่ท่านมีต่อพวกเขา ท่านเขียน
จดหมายนี้ด้วยน้ำตา ไม่ต้องการให้พวกเขากับท่านกลายเป็นคนเข้าใจผิดกันไม่ว่าด้วยสาเหตุใด
2 โครินธ์ 2:5-6
มีบางคนในพวกเขาที่ได้ทำบาป และทำให้ท่านเปาโลและคนในคริสตจักรไม่สบายใจเอามาก ๆ ท่านใช้คำว่า ทำให้เสียใจ ทุกข์ใจ แต่ท่านก็ไม่ได้เอ่ยชื่อของเขาไว้ คนส่วนใหญ่ได้จัดการชายคนนี้เมื่ออ่านไป เรารู้สึกว่า ชายคนนี้ถูกสังคมในคริสตจักรลงวินัย เราไม่ทราบว่า วิธีไหน อาจจะเป็นการไล่ออกจากคริสตจักร (ดู 1 โครินธ์ 5:4-5)แต่จากข้อความนี้ดูเหมือนว่า เขากลับใจ ท่านจึงกล่าวว่า การถูกลงโทษน่าจะพอ จบได้
2 โครินธ์ 2:7-9
หากคนที่ทำผิด ถูกลงโทษจากคริสตจักรแล้วกลับใจ ท่านเปาโลได้ขอให้พวกเขายกโทษ ยอมรับเขากลับเข้ามาอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ชายคนนั้นเจอกับการโกรธที่ไร้การอภัยสิ่งที่ท่านขอคือ ยกโทษให้คนที่ทำผิดและกลับใจ ทั้งขอให้หนุนน้ำใจ ปลอบใจเขาด้วย หากไม่มีการยกโทษให้ คนที่อยู่ในคริสตจักรเองก็จะทำผิดกับพระเจ้า กลายเป็นบาปที่ต่อเนื่องไม่หยุด อีกอย่างคือคนนั้นจะกลายเป็นผู้ที่ถูกโลกประณามและอาจจะไม่ได้กลับมาหาพระเจ้าผู้ไถ่บาปของเขาอีกเลย 
2 โครินธ์ 2:12-13
แม้มีโอกาสมากในการประกาศพระกิตติคุณ แต่ท่านเปาโลก็ไม่สบายใจที่ไม่พบทิตัสที่เมืองโตรอัสจากข้อความตอนนี้ เราพอจะมองเห็นว่า ท่านไม่
ต้องการทำงานคนเดียว แต่ต้องการมีเพื่อนร่วมงาน ในพระกิตติคุณด้วย ระหว่างข้อนี้ ไปจนถึงบทที่ 7:4 ก่อนที่จะเล่าว่าท่านทำอะไรต่อไป
ท่านก็ได้พูดถึงการเป็นอัครทูตของท่าน ให้พี่น้องเข้าใจว่ามีความหมายอย่างไร
2 โครินธ์ 2:10-11
หลักการของชีวิตคริสเตียนแท้ ๆ คือ เมื่อมีการทำผิดต่อกันและกัน เมื่อพี่น้องทำบาป ก็ให้ เตือนสติด้วยความรัก และตระหนักว่า เราเองก็อาจเป็นคน ๆ นั้นได้ เมื่อเขาสำนึกผิดและกลับใจ ก็ต้องยกโทษให้ อย่าให้ความโกรธ ความแค้นครองใจเราเพราะนั่นเป็นการเปิดประตูให้กับศัตรูของพระเจ้า
เข้ามาเล่นกลในใจของเรา ทำให้เรากลับทำบาปต่อพระเจ้าด้วยการเก็บความขมขื่นไว้ในใจ
2 โครินธ์ 2:14
เอาล่ะ ทีนี้ ท่านก็เริ่มอธิบายให้พี่น้อง เข้าใจถึงสิ่งที่ยากขึ้น ข้อความนี้ ทำให้เรามั่นใจว่า เมื่อเราประกาศพระนาม เราทำด้วยการติดตามพระคริสต์
เหมือนกับทหารที่ตามผู้บังคับบัญชาทุกอย่าง เราจึงเป็นเหมือนกลิ่นน่าชื่นใจที่หอมกระจายไปทั่วมีพระคริสต์นำทางไป ไม่ว่าจะประกาศด้วยการพูด
หรือการกระทำที่แตกต่างจากชาวโลก เห็นจากข้อนี้ว่า ในการประกาศ พระคริสต์ทรงนำท่าน
2 โครินธ์ 2:15-16
ท่านเปาโลกำลังเขียนเปรียบเทียบผู้เชื่อกับทหารโรมการที่พระคริสต์นำผู้เชื่อ พระองค์ทรงเป็นดั่งผู้บังคับบัญชา เมื่อมีชัยชนะก็เดินขบวนเข้ามาใน
เมือง มีการจุดเครื่องหอมเป็นกลิ่นแห่งชัยชนะแต่สำหรับเชลยที่ต้องเดินเข้ามา ถูกล่าม และยังไม่รู้อนาคตของตนเองกลิ่นนี้จึงกลายเป็นเหมือนกลิ่น
แห่งความตายสำหรับพวกเขา เมื่อชาวโครินธ์อ่านจดหมายจะเข้าใจทันที ตอนนี้เราก็คงเข้าใจเช่นกัน
2 โครินธ์ 2:17
ที่ท่านเปาโลพูดเช่นนี้ เพราะมีผู้สอนเท็จมากมายเพื่อหาผลประโยชน์จากผู้ฟัง อ้างว่ามีการอัศจรรย์อ้างโน่นนี่เพื่อจะได้เงิน พวกเขาอวดความรู้ คิดว่าตัวเองเป็นคนมีปัญญา เขาไม่ได้ถูกส่งมาจากพระเจ้า(ดู 1 โครินธ์ 1:19-20) การเอาคำของพระเจ้ามาขายกินนั้น มีความหมายว่าเอาของปลอมมาอ้างว่าเป็นของแท้ ทุกวันนี้ก็มีผู้สอนเท็จเป็นจำนวนมากเช่นกันเราจึงต้องระวังให้มาก

พระคำเชื่อมโยง

1* 2 โครินธ์ 1:23
2* 2 โครินธ์ 7:8
3* 2 โครินธ์ 12:21; กาลาเทีย 5:10
4* 2 โครินธ์ 2:9; 7:8, 12
5* 1 โครินธ์ 5:1; กาลาเทีย 4:12

6* 1 โครินธ์ 5:4-5
7* กาลาเทีย 6:1
9* 2 โครินธ์ 7:15; 10:6
12* กิจการ 16:8;1 โครินธ์ 16:9
13* 2 โครินธ์ 7:6, 13; 8:6

15* 1โครินธ์ 1:18; 2 โครินธ์ 4:3
16* ลูกา 2:34; 1โครินธ์ 15:10
17* 2 เปโตร 2:3; 2โครินธ์ 1:12


2 โครินธ์ 1 พระเจ้าแห่งการหนุนใจ

2 โครินธ์ 1:1
ข้า..เปาโล เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกให้เป็นอัครทูตของพระเยซูคริสต์ ตามพระประสงค์ของพระเจ้า กับทิโมธีน้องชาย เขียนส่งมายังคริสตจักรของพระเจ้าที่เมืองโครินธ์ และวิสุทธิชนของพระเจ้าทุกท่านที่อยู่ทั่วแคว้นอาคายา
2 โครินธ์ 1:2
ขอพระคุณและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเราและจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา จงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด
2 โครินธ์ 1:3
สรรเสริญองค์พระเจ้าพระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ทรงเป็นพระบิดาผู้เมตตา องค์พระเจ้าแห่งการหนุนใจ
ทุกด้าน

2 โครินธ์ 1:4
พระองค์ทรงหนุนใจเรายามยากลำบากทั้งสิ้น เพื่อว่าเราจะได้หนุนใจเหล่าคนที่ตกอยู่ในความยากลำบากได้ เนื่องจากเราได้รับการหนุนใจจากพระองค์มาก่อน
2 โครินธ์ 1:5
เพราะเมื่อเรามีส่วนในการทนทุกข์ของพระคริสต์มากเพียงไร
พระองค์ก็ทรงหนุนใจเรามากเพียงนั้น

2 โครินธ์ 1:6
หากว่าเราต้องทนทุกข์ยาก ก็เป็นไปเพื่อท่านจะได้รับการหนุนใจ และรับความรอดหากว่าเราได้รับการหนุนใจ ก็เป็นไปเพื่อท่านจะได้รับการหนุนใจในยามที่ท่านต้องเผชิญกับความทุกข์ยากแบบเดียวกับที่เราเผชิญอยู่นั้น
2 โครินธ์ 1:7
ความหวังของเราที่มีในตัวท่านนั้นมั่นคง เพราะเรารู้ว่า ในขณะที่ท่านรับทุกข์ยากร่วมกับเรา ท่านจะได้รับการหนุนใจ ร่วมกับเราด้วย

2 โครินธ์ 1:8-9
เราอยากให้พี่น้องได้รู้ถึงความยากเข็ญที่เกิดขึ้นกับเราในแคว้นเอเชีย เราถูกบีบคั้นอย่างหนักจนเกือบไม่มีหวังที่จะรอดชีวิต เรารู้สึกว่า เราถูกตัดสินประหารชีวิต ที่เป็นอย่างนี้เพื่อเราจะไม่วางใจในตัวเราเองแต่วางใจในพระเจ้าผู้ทรงโปรดให้คนตายได้ฟื้นคืนชีพ
2 โครินธ์ 1:10
พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดตายมาแล้ว และพระองค์ทรงช่วยเราและเราหวังในพระองค์ว่า จะทรงช่วยเราต่อไป

2 โครินธ์ 1:11
ในเมื่อพวกท่านต่างมีส่วนช่วยในการอธิษฐานทูลขอเพื่อเรา เพื่อคนเป็นจำนวนมากจะได้ขอบพระคุณแทนเรา สำหรับพระคุณของขวัญที่ประทานแก่เราผ่านคำอธิษฐานของคนจำนวนมาก!

2 โครินธ์ 1:12
สิ่งที่เราอวดได้คือ คำพยานจากมโนธรรมของเราที่ว่า เราได้ประพฤติตัวในโลกด้วยความเรียบง่ายบริสุทธิ์ และความจริงใจจากพระเจ้า ไม่ใช่จากปัญญาของโลกแต่โดยพระคุณของพระเจ้า และเราประพฤติเช่นนั้นต่อท่านมากกว่านั้นอีก
2 โครินธ์ 1:13-14
เพราะเราไม่ได้เขียนสิ่งอื่นใดมาให้ท่านนอกจากสิ่งที่ท่านอ่านและเข้าใจได้ บัดนี้ ข้าเชื่อว่า ท่านจะเข้าใจกระจ่างจนจบอย่างที่ท่านพอจะเข้าใจบ้างแล้วว่าในวันขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้น พวกเราจะภูมิใจในตัวท่านเหมือนอย่างที่ท่านภูมิใจในเรา

2 โครินธ์ 1:15-16
เพราะมั่นใจอย่างนี้ จึงตั้งใจมาเยี่ยมท่านก่อน เพื่อท่านจะได้รับพระคุณสองต่อ โดยจะแวะเยี่ยมท่านตอนที่เดินทางไปยังแคว้นมาซิโดเนีย และเมื่อกลับจากที่นั่นก็จะแวะมาหาท่านอีก แล้วให้ท่านช่วยส่งข้าเดินทางต่อไปยังแคว้นยูเดีย
2 โครินธ์ 1:17-18
เมื่อข้าวางแผนเช่นนี้ ข้าทำด้วยความลังเลใจ หรือว่าทำอย่างขอไปที ข้าวางแผนตามใจตัว เดี๋ยวมาเดี๋ยวไม่มาอย่างนั้นหรือ?พระเจ้าทรงซื่อตรงฉันใด คำของเราที่มีมายังท่านก็ซื่อตรงฉันนั้น

2 โครินธ์ 1:19
เพราะว่าพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าที่ข้า สิลวานัส และทิโมธีประกาศนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่อาจจะจริงหรือไม่จริงแบบขอไปทีแต่ในพระองค์นั้น มีแต่ความจริงทั้งสิ้น!
2 โครินธ์ 1:20
เพราะว่าคำที่พระเจ้าทรงสัญญาผ่านพระเยซู เป็นจริงทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ เราจึงกล่าวคำว่า “อาเมน” เป็นที่ถวายพระเกียรติแด่พระองค์
2 โครินธ์ 1:21-22
พระเจ้าทรงให้เราและท่านยืนมั่นคงในพระคริสต์ และทรงเจิมเรา พระองค์ทรงประทับตราแสดงกรรมสิทธิ์ในตัวเราและประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ในใจเราเป็นหลักประกันของสิ่งที่จะมาในอนาคต

2 โครินธ์ 1:23-24
ยิ่งกว่านั้น ข้าขออัญเชิญพระเจ้ามาเป็นพยานถึงสิ่งที่อยู่ในใจว่าที่ข้าไม่กลับมายังโครินธ์ ก็เพื่อท่านจะไม่ต้องลำบากใจ
ข้าไม่ได้เป็นผู้ชี้ขาดความเชื่อของท่าน แต่เราเป็นผู้รับใช้กับท่านเพื่อความยินดีของท่าน เพราะท่านมั่นคงในความเชื่อ

อธิบายเพิ่มเติม


2 โครินธ์ 1:1
จดหมายฉบับนี้เขียนเพื่อให้พี่น้องตามคริสตจักรในแคว้นอาคายาได้อ่านกันถ้วนหน้า เป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ในประเทศกรีซ ท่านย้ำว่าท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงประสงค์ที่จะส่งออกไปประกาศพระนาม ท่านไม่ได้แต่งตั้งตนเองขึ้นมา (อัครทูตมีความหมายว่าผู้ที่ถูกส่งออกไป) การเขียนครั้งนี้ มีทิโมธีเป็นผู้ที่อยู่กับท่านใด้วย ทิโมธีเองเป็นคนที่ชาวโครินธ์รู้จักเพราะอยู่กับท่านเปาโลเมื่อท่านตั้งคริสตจักรดูกิจการ 18:1-5
2 โครินธ์ 1:2
ทำไมท่านเปาโลจึงขอพระคุณ และสันติสุข? ทำไมท่านไม่ขอให้ร่ำรวย มั่งคั่งอยู่ดีกินดีเหมือนที่บ้านเราชอบอวยพรกันนัก?พระคุณจากพระบิดาและพระคริสต์มีให้เราอยู่แล้วและเมื่อเราพบพระองค์ ได้รับชีวิตใหม่ นั่นคือพระคุณพิเศษที่ต่อเนื่องไม่หยุด คริสเตียนทุกยุค ทุกแห่งต้องการสองสิ่งนี้จากพระเจ้ามาก ลองคิดถึงชีวิตที่ขาดพระคุณ และสันติสุขดู เราจะอยู่ต่อไปได้หรือ? เราจะมีความหวังอะไรเหลืออยู่บ้าง?
2 โครินธ์ 1:3
พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้หนุนใจและปลอบใจมานานแล้ว อิสยาห์ได้กล่าวถึงพระองค์ผู้ทรงปลอบใจหลายครั้ง (อิสยาห์ 40:1, 51:3 เป็นต้น) ท่านเปาโลไม่ได้คิดขึ้นมาเอง แต่พระเจ้าทรงสำแดงว่าทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงหนุนใจ ทรงปลอบใจเสมอมา. ในยามที่พระเยซูทรงอยู่ท่ามกลางผู้คน พระองค์ก็ทรงทำเช่นนั้นไม่ขาด คำว่าพระเจ้าแห่งการหนุนใจหรือปลอบใจนี้ มีความหมายรวมไปถึงการทำให้
สบายใจขึ้น ให้กำลัง ช่วยให้เข้มแข็งและกล้าหาญ
2 โครินธ์ 1:4
เวลาเรามีความทุกข์ใจ เดือดร้อน ยุ่งยาก จะมาจากการประกาศพระนามพระเจ้า หรือจะเป็น ปัญหาใดๆ ท่านเปาโลบอกแล้วว่าทุกเรื่อง ทุกด้านเรามาหาพระเจ้า พระองค์จะทรงหนุนให้เรามีกำลังสู้ทั้ง ๆ ที่ดูแล้วเหตุการณ์นั้นยากเกินที่จะฝ่าฟัน ความลำบากในที่นี้ ภาษาเดิมหมายถึงการถูกบีบคั้น ทำให้จนตรอก คนที่ต้องเผชิญความทุกข์ร้อนอย่างที่ท่านเปาโลกล่าวถึง นี้ รู้สึกว่าไม่สามารถหนีออกไปได้
2 โครินธ์ 1:5
พระคำข้อนี้ มีผู้แปลบางสำนักแปลว่า “ยิ่งความทุกข์ยากของพระคริสต์ไหลล้นสู่ชีวิตเรามากเท่าไร การปลอบโยน การหนุนใจจากพระองค์ก็ไหลล้นสู่ชีวิตเรามากขึ้นเพียงนั้น” ดังนั้น ชีวิตคริสเตียนจึงแตกต่าง เพราะว่าความทุกข์ยากในชีวิตกลับจะทำให้ได้รับการปลอบโยนใจจากพระเจ้ามากขึ้น นี่เป็นเหตุให้ผู้เชื่อที่ทุกข์ยากที่ถูกข่มเหงจึงอดทนได้ ด้วยการปลอบโยนจากพระเจ้าโดยตรง
2 โครินธ์ 1:6
ท่านเปาโลต้องทนทุกข์ ทนการข่มเหง การถูกลอบทำร้าย เผชิญภัยนานาก็เพื่อว่า คนต่างชาติที่ท่านพบเจอจะได้รับการช่วยกู้จากพระเจ้า และพวกเขายังได้รับการปลอบประโลมใจจากพระองค์ด้วยพี่น้องโครินธ์ในเวลานั้นมองข้ามความสำคัญของการทนทุกข์และการปลอบใจจากพระเจ้า ท่านจึงเน้นย้ำให้รู้ถึงเป้าหมายของการทนทุกข์เพื่อพระเจ้าพวกเขาจะได้มีมุมมองที่ถูกต้องว่า การทนทุกข์และการปลอบใจจากพระเจ้าเป็นของคู่กัน
2 โครินธ์ 1:7
ความทุกข์ยากทั้งหลายที่ท่านเปาโลต้องเผชิญนั้น ท่านตระหนัก มั่นใจว่า เป็นความทุกข์ยากของพระคริสต์ ไม่ใช่ของตัวท่านแต่อย่างเดียวพระเจ้าทรงประสงค์ให้เราอดทนจนผ่านความทุกข์ยากไป แต่ไ่ม่ใช่แค่ก้มหน้ารับความทุกข์ เป็นความอดทนแบบที่เราจะก้าวข้ามความเจ็บปวดและความทุกข์เพื่อไปถึงเป้าหมายของเรา คล้าย ๆ กับนักกีฬาที่สู้จนได้ชัย การเป็นผู้เชื่อกับการที่ต้องเจอความทุกข์ยากนั้นเป็นเรื่องธรรมดา
2 โครินธ์ 1:8-9
ท่านเปาโลได้เผชิญกับความลำบากนา ๆประการอย่างที่ไม่น่าจะรอดชีวิตมา แต่ท่านก็รอดมาเสมอเพื่อจะได้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ท่าน เฉียดกับความตายมาหลายรอบมากจนกระทั่งรู้สึกว่า นี่เป็นโทษประหารสำหรับตัวท่านเอง และแล้วท่านก็เข้าใจว่า ท่านอาจจะตายเมื่อไรก็ได้ เอาแค่ต้องเจอกับความวุ่นวายในเอเฟซัส (กิจการ19:21-41) การถูกโบย (2 โครินธ์ 11:24) ก็สาหัสแล้ว
2 โครินธ์ 1:10
เมื่อเราอ่านพระคำตอนนี้ ทำให้นึกถึง ฮีบรู 11:32-38 คนของพระเจ้าต้องเจอกับความยากลำบากมากมาย แต่พระเจ้าก็ทรงจัดคำตอบให้แต่ละคนไม่เหมือนกัน ที่สุดคือชีวิตนิรันดร์ที่ทรง เตรียมไว้ให้ พระเจ้าทรงวางแผนไว้ให้แต่ละคน
ดังนั้นในชีวิตของเรา เราหันไปดูอดีตที่พระเจ้าทรงช่วยเรา ดูในวันนี้ และมีความมั่นใจต่อไปในอนาคต
2 โครินธ์ 1:11
พระคัมภีร์ข้อนี้ทำให้เราเห็นว่า พระเจ้าทรงพอพระทัยที่พี่น้องจะอธิษฐานเผื่อกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน. การขอให้เพื่อนอธิษฐานเผื่อ การขอจากพี่น้องคริสเตียนที่เราอาจไม่รู้จักเป็นส่วนตัว เราไม่ต้องกังวลใจ เราไม่รู้จักเขาแต่พระเจ้าทรงรู้จักคนที่เรา อธิษฐานเผื่อเป็นอย่างดี เมื่อพระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐาน ทุกคนที่มีส่วนก็จะยินดีกันถ้วนหน้าเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าผู้ทรงตอบคำทูล
2 โครินธ์ 1:12
ท่านเปาโลได้ยืนยันว่า มโนธรรมของท่าน ก็คือส่วนที่บอกมนุษย์ว่า อะไรผิด อะไรถูก ส่วนที่คอยดูว่า แรงจูงใจจริง ๆ นั้นมาจากไหน มโนธรรมของท่านบอกตัวท่านว่า ท่านจริงใจ ท่านใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และประพฤติอย่างดีต่อพี่น้องชาวโครินธ์ที่ท่านต้องกล่าวเช่นนี้เพราะมีบางคนที่กล่าวหาว่าท่านเป็นคนหยิ่งยะโส เห็นแก่ตัว เชื่อไม่ได้ ท่านจึงบอกให้มั่นใจว่า เมื่อท่านพิจารณาตัวเองด้วยมโนธรรมแล้ว ท่านผ่าน ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิด
2 โครินธ์ 1:13-14
คนบางคนในคริสตจักรโครินธ์ อ่านจดหมายของท่านเปาโลแล้วตีความไปว่าท่านมีความหมายอื่น ๆแฝงอยู่ แต่ท่านยืนยันว่า การเขียนของท่านชัดเจนตรงไปตรงมา เข้าใจได้อยู่แล้ว แม้จดหมายของท่านบางตอนอาจจะยากที่จะเข้าใจ มีการใช้คำเปรียบเทียบ แต่ท่านจะไม่เขียนอย่างหนึ่งเพื่อให้มีความหมายไปอีกอย่าง และท่านปรารถนาที่จะภูมิใจในตัวพบเขาต่อพระพักตร์ของพระเจ้าจริง ๆ
2 โครินธ์ 1:15-16
แม้ท่านเปาโลตั้งใจจะเดินทางไปหาพี่น้องชาวโครินธ์สองครั้ง แต่เราไม่พบว่ามีการเดินทางแบบนั้น ในบันทึกจากพระคัมภีร์ ท่านเองกลับเดินทางจากเอเฟซัสไปทางเมืองโตรอัสแทนเมืองโครินธ์(2:13)
จากข้อความตอนนี้ จะเห็นว่า คริสตจักรแต่ละแห่งควรมีหน้าที่ต่อกันและกัน ช่วยเหลือกัน ช่วยส่งผู้รับใช้ออกไปเพื่อสร้างเสริมพี่น้อง การพบปะกันทุกครั้งของผู้เชื่อคือเพิ่มพระคุณให้ทั้งสองฝ่ายดูการเดินทางของท่าน 7:5, 8:1, 9:2,4
2 โครินธ์ 1:17-18
การตั้งคำถามแบบนี้ของท่านเปาโล เท่ากับคำตอบควรจะเป็นว่า “ไม่” ความตั้งใจของท่านเปาโลนั้นชัดเจน แต่ท่านกลับทำตามนั้นไม่ได้ คนที่เป็นศัตรูก็เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นที่จะชักชวนให้พี่น้องเลิกฟังคำของท่าน แต่ท่านเปาโลก็ยังยืนยันว่าท่านตั้งใจอย่างนั้นจริง ๆ แม้ว่าแผนการเดินทางต้องถูกเปลี่ยน แต่หลักการที่ท่านประกาศ และคำสอน เป็นความจริงเสมอ
2 โครินธ์ 1:19
เวลานี้ เปาโลเน้นย้ำว่า ความจริงเรื่องพระเยซูคริสต์เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ท่านเปาโลเป็นห่วงมากที่สุดคือ พี่น้องจะไม่มั่นคง หันเหความคิดไปตามคนที่พยายามทำลายความเชื่อถือของพวกเขาที่มีต่อท่าน แต่ปัจจุบันเราก็เห็นการใส่ร้ายผู้รับใช้ การพูดเท็จเกี่ยวกับคน ๆ หนึ่งโดยอาจจะเอาคำของเขา การกระทำของเขาที่พลาดจริงๆ มาเป็นประเด็นทำให้คนขาดความเชื่อถือในผู้รับใช้
2 โครินธ์ 1:21-22
ข้อความนี้ บอกว่าพระเจ้าทรงทำสี่อย่างกับเราทำให้มั่นคง ทรงเจิม ทรงประทับตราแจ้งว่าเราเป็นของพระองค์ และประทานพระวิญญาณเพื่อเรา
จะได้รับการสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาทุกอย่าง โรม 8:11 บอกเราว่า พระเจ้าประทานชีวิตให้แก่เราโดยพระวิญญาณ ผู้ประทับในเรา ชีวิตที่สมบูรณ์
อยู่กับพระเจ้าเป็นนิตย์นั้น จะมีให้กับคนที่มีหลักประกันคือองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิต​ซึ่งก็เป็นผลจากการที่คนนั้นยอมรับเชื่อพระเยซูคริสต์
2 โครินธ์ 1:23-24
การขอพระเจ้ามาเป็นพยาน การพูดอย่างนี้คล้าย ๆ กับว่า “ขอสาบานต่อพระพักตร์พระเจ้าว่า” ในเมื่อพี่น้องที่โครินธ์คิดว่า ท่านเห็นแก่ตัวที่ไม่มาเยี่ยม ท่านจึงบอกเหตุผล และยังยืนยันว่า อย่างไรก็ดีท่านไม่ได้เป็นเจ้านายบังคับให้ใครเชื่ออะไร แต่เป็นผู้ร่วมงานในการรับใช้พระเจ้าด้วยกัน
ท่านปรารถนาให้พวกเขาเข้าใจอย่างถูกต้อง พระคำตอนนี้ ถ้าไม่ทราบบริบทก็จะเข้าใจยากอยู่

พระคำเชื่อมโยง

1* 2 ทิโมธี 1:1; 1โครินธ์ 16:10; โคโลสี 1:2
2* โรม 1:7
3* 1 เปโตร 1:3
4* อิสยาห์ 51:12; 66:13
5* 2 โครินธ์ 4:10
6* 2 โครินธ์ 4:15; 12:15
7* โรม 8:17
8* กิจการ 19:23

9* เยเรมีย์ 17:5,7
10* 2 เปโตร 2:9
11* โรม 15:30; 2 โครินธ์ 4:15; 9:11
12* 2 โครินธ์ 2:17; 1 โครินธ์ 2:4
14* 2 โครินธ์ 5:12; ฟีลิปปี 2:16
15* 1 โครินธ์ 4:19; โรม 1:11; 15:29
16* 1 โครินธ์ 16:3-6
17* 2 โครินธ์ 10:2; 11:18

18* 1 ยอห์น 15:20
19* มาระโก 1:1; 1 เปโตร 5:12; 2โครินธ์ 1:1; ฮีบรู 13:8
20* โรม 15:8-9
21* 1 ยอห์น 2:20; 27
22* เอเฟซัส 4:30; 1:14
23* กาลาเทีย 1:20; 1 โครินธ์ 4:21
24* 1 เปโตร 5:3; โรม 11:12



กิจการ 28 จบที่โรม

อธิบายเพิ่มเติม

กิจการ 28:1
เรือแตกใกล้เกาะมอลตา ทางใต้ของเกาะซิซิลี ไม่มีใครเคยมาแถบนี้ เป็นเกาะที่อยู่ 60 ไมล์ทางใต้ของเกาะซิซีลี ทุกคนรอด นายทหารได้คุมนักโทษครบทุกคน ถ้ามองด้วยสายตาของคนนอกแล้ว เป็นเรื่องแปลกมากที่นักโทษไม่หายไปสักคนเดียว!
อ่าวนี้ในปัจจุบันเรียกกันว่า อ่าวเซนท์พอล
กิจการ 28:2-4
พวกเขาพบชาวเกาะที่ใจดีมาช่วยก่อกองไฟ แต่เมื่อเกิดมีงูกัดเปาโล ทุกคนก็คิดว่า เปาโลเป็นนักโทษฉกรรจ์ ชาวเกาะคิดว่า เทพลงโทษเปาโล เรื่องนี้สำคัญมากเพราะเกี่ยวพันกับคำสัญญาของพระเยซูในหนังสือมาระโก 16:18
กิจการ 28:5-6
แต่เปาโลกลับสลัดงูลงกองไฟ แล้วไม่ตาย ไม่มีอาการใด ๆ ชาวเกาะก็กลับคิดว่าเขาเป็นเทพเสียเอง ตอนแรกคิดอย่างต่อมาคิดอีกอย่าง ขึ้นกับสถานการณ์ ทำให้เรารู้ว่า คนในสมัยโบราณ แปลความทุกอย่างที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับความเชื่อทั้งสิ้น
กิจการ 28:7-8ก
เปาโลรู้ว่า ปูบลิอัส ซึ่งเป็นผู้นำที่เป็นตัวแทนดูแลหมู่ชาวเกาะ มีพ่อที่ไม่สบาย เป็นบิด เปาโลจึงขอไปเยี่ยมอาการของเขานั้นน่าจะเป็นจากการกินอาหารที่ไม่สะอาด ตัวปูบลิอัสเองน่าจะเป็นผู้ที่โรมแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลเกาะนี้
กิจการ 28:8ข-10
เขาอธิษฐานและพ่อก็หายป่วย ชาวเกาะจึงพากันมาอธิษฐาน และหายป่วยไปตาม ๆ กัน ชาวเกาะจึงดีใจและให้เกียรติกับพวกเขามาก เป็นอันว่าตอนนี้อยู่กันอย่างสันติ ทั้งนักโทษ ทหาร ชาวเกาะและเปาโลกับเพื่อน
กิจการ 28:11-12
เมื่อมีเรือมา พวกเขาจึงได้ลงเรือออกจากมอลตา ไปยังเมืองไซราคิวส์ ซึ่งอยู่ริมฝั่งเกาะซิซีลี เชื่อกันว่าเปาโลได้ตั้งคริสตจักรที่เมืองนี้ด้วย
กิจการ 28:13-14
พอมาถึงเมืองเรยีอุมซึ่งอยู่ทางใต้ เรือก็รออีกวันให้ลมดีเสียก่อน ผ่านเข้าไปทางช่องแคบเมสินา ซึ่งแยกเกาะซิซีลีจากแผ่นดินใหญ่ มีการขออนุญาตอยู่ต่อเพื่อพบ และสนทนากับพี่น้องซึ่งนายร้อยก็อนุญาตทันที เราจึงเห็นว่า นายร้อยกับเปาโลมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน อีกอย่าง เท่ากับลดภาระที่ต้องดูแลนักโทษคนนี้ด้วย
กิจการ 28:15
ย่านอัปปีอัสอยู่ทางใต้ของโรม ห่างประมาณ 43 ไมล์ ส่วนบ้านสามโรงแรมนั้น ห่างจากโรมประมาณ​ 30 ไมล์
กิจการ 28:16
เมื่อถึงโรม มีคำสั่งขังเปาโลในบ้าน ไม่ได้เข้าคุก โดยดูจากเรื่องราวแล้ว อาจประเมินได้ว่า นายร้อยยูเลียอาจเป็นผู้ขอให้เปาโลได้รับการขังในบ้าน โดยมีทหารผลัดกันมาเฝ้า (เท่ากับผลัดกันมาฟังพระคำของพระเจ้านั่นเอง) จะเห็นว่า ถึงตอนนี้ นายร้อยยูเลียสมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเปาโลเป็นอย่างมาก ทั้งสองคนได้สนทนาเมื่ออยู่บนเรือด้วยกัน จนกลายเป็นเพื่อนสนิท
กิจการ 28:17
นี่เป็นเวลาเริ่มต้นงานใหม่ ในเมืองใหม่ เขาเริ่มต้นจากการพบผู้นำชาวยิว โดยที่เชิญพวกเขามาพบที่บ้านซึ่งเขาถูกจำจองอยู่ อธิบายพระกิตติคุณให้พวกเขาฟัง
กิจการ 28:18-19
เปาโลได้อธิบายว่า ไม่ได้มีเรื่องกับคนยิว แต่คนยิวต่างหากที่ฟ้องร้องเขา จึงต้องถวายฎีกามาพบซีซาร์
กิจการ 28:20-22
การพบกันครั้งนี้ ทำให้พี่น้องชาวยิวได้เข้าใจเรื่องราวที่แท้จริงจากปากของเปาโลโดยตรงกิจการ 28:23-24
จากนั้นก็มีการเชิญคนอื่นมาที่บ้าน เพื่อสนทนากันเรื่องพระเยซูคริสต์
กิจการ 28:25
มีทั้งคนที่เห็นด้วย และคนที่ไม่ยอมเชื่อ เปาโลจึงเข้าใจแล้วว่า คำที่อิสยาห์กล่าวเป็นความจริงกิจการ 28:26-27
นั่นคือ อย่างไร ๆ ยิวก็มักจะไม่เชื่อว่าพระเมสสิยาห์มาแล้ว และพระองค์คือ พระเยซูคริสต์ อิสยาห์บอกล่วงหน้าว่า ยิวจะไม่ยอมรับพระเยซู
กิจการ 28:28-29
ดังนั้นข่าวประเสริฐจึงต้องไปหาคนต่างชาติที่จะรับฟัง และเชื่อพระนามพระเยซู
กิจการ 28:30-31
สองปีที่เปาโลอยู่ในโรม ไม่ไร้ผล เพราะเขาได้ประกาศพระนามอย่างกล้าหาญ และไม่มีใครมาต่อต้านหรือลุกฮือขึ้นเหมือนอย่างที่เกิดในหมู่ชาวยิวที่ผ่านมาเลย

พระคำเชื่อมโยง

1* กิจการ 27:26
2* กิจการ 28:4; โรม 1:14; 1โครินธ์ 14:11; โคโลสี 3:11
5* มาระโก 16:18; ลูกา 10:19
6* กิจการ 12:22; 14:11
8* กิจการ 9:40; ยากอบ 5:14-15; มัทธิว 9:18; มาระโก 5:23; 6:5; 7:32; 16:18; ลูกา 4:40; กิจการ 9:11-12; 1โครินธ์ 12:9,28
10* มัทธิว 15:6
11* กิจการ 27:6

14* โรม 1:8
16* กิจการ 23:11; 24:25; 27:3
17* กิจการ 23:29; 24:12-13; 26:31
18* กิจการ 22:24; 24:10; 25:8; 26:32
19* กิจการ 25:11, 21,25
20* กิจการ 26:6-7; 26:29; เอเฟซัส 3:1; 4:1; 6:20; 2 ทิโมธี 1:8, 16; ฟิเลโมน 10,13
22* ลูกา 2:34; กิจการ 24:5, 14; 1 เปโตร 2:12;; 3:16; 4:14,16



23* ลูกา 24:27; กิจการ 17:3; 19:8; 26;6, 22
24* กิจการ 14:4; 19:9
26* อิสยาห์ 6:9-10; เยเรมีย์ 5:21; เอเสเคียล 12:2; มัทธิว13:14-15; มาระโก 4:12; ลูกา 12:40; โรม 11:8
28* อิสยาห์ 42:1, 6; 49:6;มัทธิว 21:41; ลูกา 2:32; โรม 11:1131* กิจการ 4:31; เอเฟซัส 6:19