สดุดี 119 พระดำรัสที่รัก…

คำนำสำหรับบทที่ 119 สดุดีบทนี้ ใช้การเล่นเหมือนกลอักษร คือ ทุกอักษรที่เริ่มต้นประโยคจะเป็น อักษรตัวเดียวกันในหนึ่งย่อหน้าซึ่งจะยาวแปดข้อ มีอักษรอยู่ 22 ตัวในภาษฮีบรู จึงได้มาเป็น 176 ข้อ

ถ้าอ่านเผิน ๆ ดูเหมือนพูดเรื่องเดียวกันซ้ำ ๆ  แต่หากสังเกตให้ดีจะเห็นคำอธิษฐาน คำสรรเสริญ  บอกความรู้สึก อุทิศตัวเชื่อฟัง มีการทูลอ้อนวอน  แนะนำว่าควรทำอย่างไรกับพระคำ  ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของพระคำของพระเจ้า เช่น ช่วยสร้างปัญญา ทำให้เราหลีกหนีจากบาป เป็นทางแห่งพระพร  
หัวข้อที่สำคัญมากคือ คำที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้าในแง่มุมต่าง ๆ ผู้เขียนใช้คำที่แตกต่างกันเพื่อ ให้เราทราบว่า ท่านกำลังต้องการสื่อในมุมใด คำที่ใช้จึงมี
พระบัญญัติ คำพยาน คำประกาศิต กฎ คำตัดสิน    พระดำรัส  พระวาจา และพันธบัญชา (พระบัญชาของพระเจ้าเป็นพันธสัญญาระหว่างพระองค์กับคนของพระองค์) 
 

1 อาเลฟ

ที่มาของพระพร
1 ความสุขเป็นของคนทั้งหลายที่ใช้ชีวิตอย่างไร้ตำหนิ
คือคนที่เดินใน พระบัญญัติ ของพระยาห์เวห์
2 ความสุขเป็นคนทั้งหลายที่รักษา คำพยาน ของพระองค์
คนที่แสวงหาพระองค์อย่างสิ้นสุดใจ
3 คนที่ไม่ทำความผิดใดๆ
แต่เดินในหนทางของพระองค์
4 พระองค์ทรงบัญชาให้ถือรักษา
คำประกาศิตของพระองค์อย่างเต็มที่
5 โอ ขอให้ข้าทุ่มเทใจ
เพื่อรักษากฎ ของพระองค์
6 เพื่อว่าจะไม่ต้องอับอาย
เมื่อข้าจับจ้องอยู่ที่ พันธบัญชา ของพระองค์
7 ข้าจะสรรเสริญพระองค์ด้วยใจมั่นคง
เวลาที่ข้าเรียนคำตัดสินอันเที่ยงธรรมของพระองค์
8 ข้าจะรักษากฎ ของพระองค์
ขออย่าทรงทอดทิ้งข้าไปอย่างสิ้นเชิง

2 เบธ

เข้ามาเพื่อชีวิตที่บริสุทธิ์​ ชีวิตที่บริสุทธิ์​
9 คนหนุ่มจะรักษาทางของเขาให้บริสุทธิ์อย่างไร? ก็โดยการทำตามพระวาจาของพระองค์
10 ข้าแสวงหาพระองค์ด้วยสุดใจ ขออย่าให้ข้าพลัดหลงไปจากพันธบัญชา ของพระองค์
11 ข้าได้สะสมพระดำรัสของพระองค์ไว้ในใจ เพื่อว่าข้าจะไม่ทำบาปต่อพระองค์
12 ขอถวายพระพรแด่พระองค์
โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงสอนกฎระเบียบของพระองค์แก่ข้า
13 ด้วยปากของข้า ข้าประกาศ คำตัดสิน ทั้งสิ้น จากพระโอษฐ์ของพระองค์
14 ข้ายินดีใน คำพยาน ของพระองค์
เท่ากับที่ยินดีในความมั่งคั่งทั้งมวล
15 ข้าจะตรึกตรองในคำประกาศิตของพระองค์ และจับจ้องอยู่ที่หนทางของพระองค์
16 ข้าจะยินดีในกฎ ของพระองค์
ข้าจะไม่ลืม พระวาจา ของพระองค์

3 กิเมล

คำทูลขอหลายประการ
17ขอพระองค์ทรงเมตตาจัดการกับผู้รับใช้ของพระองค์เพื่อข้าจะมีชีวิตและรักษาพระวาจาของพระองค์
18 ขอทรงเปิดตาข้า เพื่อข้าจะได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ออกมาจากพระบัญญัติของพระองค์
19 ข้าเป็นคนเร่ร่อนในแผ่นดินโลก
ขออย่าทรงซ่อน พันธบัญชา ไว้จากข้าเลย
20 วิญญาณของข้าเร่าร้อนปรารถนาคำตัดสินของพระองค์ไม่หยุดหย่อน
21 พระองค์ทรงกำราบคนโอหัง คนที่ถูกสาป คนที่หลงไปจาก พันธบัญชา ของพระองค์
22 ขอทรงเอาการดูหมิ่น เหยียดหยามออกไปจากชีวิตข้า เพราะข้ารักษาคำพยานของพระองค์
23 แม้ว่าผู้ปกครอง นั่งลงวางแผน ทำลายข้า ผู้รับใช้ของพระองค์ก็ยังคงไตร่ตรองกฎของพระองค์
24 คำพยานของพระองค์เป็นความยินดีของข้าเพราะเหล่านั้นเป็นที่ปรึกษาของข้า

4 ดาเลท

ความเข้าใจที่กว้างขึ้น
25 วิญญาณของข้าเกาะติดผงธุลี
ขอประทานชีวิตแก่ข้าตามพระวาจาของพระองค์
26เมื่อข้าทูลต่อพระองค์ถึงหนทางของข้า
พระองค์ก็ทรงตอบข้า ขอทรงสอนข้อบังคับของพระองค์ให้ข้าด้วย
27 ขอทรงทำให้ข้าเข้าใจถึงทางแห่งประกาศิตของพระองค์ และข้าจะทบทวนตรึกตรองถึงราชกิจอัศจรรย์ของพระองค์
28 วิญญาณของข้าละลายไปเพราะความทุกข์ ขอประทานกำลังเพิ่มให้ตามพระวาจาของพระองค์
29 ขอทรงให้หนทางเท็จนั้นห่างไกลจากข้า
และขอทรงเมตตาสอนพระบัญญัติของพระองค์แก่ข้า
30 ข้าได้เลือกหนทางแห่งความซื่อตรง
และวางคำตัดสินของพระองค์ไว้ต่อหน้า
31 ข้าเกาะติดอยู่กับคำพยานของพระองค์
โอพระยาห์เวห์ ขออย่า ให้ข้าต้องอับอาย
32 ข้าจะวิ่งในทางแห่ง พันธบัญชาของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงทำให้ข้ามีความเข้าใจกว้างขวางขึ้น

5 เฮ

ขอพระเจ้าทรงนำทางชีวิต
33 โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงสอนทางแห่งกฎของพระองค์แก่ข้า
และข้าจะรักษาไว้จนสุดปลายชีวิต
34 ขอให้ข้ามีความเข้าใจเพื่อข้าจะรักษาพระบัญญัติ ของพระองค์และกระทำตามอย่างสุดใจ
35 ขอทรงนำข้าไปในทางของ พันธบัญชา ของพระองค์เพราะข้ายินดีในทางนั้น
36 ขอทรงช่วยให้ใจของข้าโน้มเอียงไปหาคำพยานของพระองค์และไม่เที่ยวหาประโยชน์เข้าตัว
37 ขอทรงหันดวงตาของข้าออกจากการมองดูสิ่งที่ไร้คุณค่าและขอประทานชีวิตให้อยู่ในทางของพระองค์
38 ขอทรงยืนยันพระดำรัสต่อผู้รับใช้ของพระองค์เพื่อว่าเราจะได้ยำเกรงพระองค์
39 ขอทรงนำการตำหนิว่ากล่าวที่ข้าหวั่นนั้นออกไปเพราะ คำตัดสินของพระองค์นั้นดีนัก
40 ดูเถิด ข้าปรารถนาคำประกาศิตของพระองค์ ขอประทานชีวิตแก่ข้าในความเที่ยงธรรมของพระองค์

6 วาฟ

ข้าไม่อายคำพยานของพระองค์
41 โอพระยาห์เวห์ ขอให้ความรักมั่นคงของพระองค์มายังข้า
ขอให้ข้าได้รับความรอดตามพระดำรัส
42 แล้วข้าจะตอบคนที่เย้ยหยันข้า
เพราะข้าวางใจในพระวาจาของพระองค์
43 ขออย่าทรงเอาพระวาจาแห่งความจริงออกไปจากปากของข้า เพราะความหวังของข้านั้นอยู่ใน คำตัดสินของพระองค์
44 ข้าจะรักษาพระบัญญัติ ของพระองค์เสมอตลอดไปเป็นนิตย์
45 และข้าจะเดินไปในหนทางกว้างขวาง
เพราะข้าได้เฝ้าแสวงหาประกาศิตของพระองค์
46 ข้าจะกล่าวถึง คำพยาน ของพระองค์
ต่อหน้าผู้นำทั้งหลายโดยไม่อายเลย
47 เพราะข้าจะยินดีในพันธบัญชา ของพระองค์ ซึ่งเป็นที่รักของข้า
48ข้าจะยกมือขึ้นต่อ พันธบัญชา ของพระองค์ ซึ่งเป็นที่รักของข้า
และข้าจะใคร่ครวญถึงกฎระเบียบของพระองค์

7 ซายิน

กฎของพระองค์คือบทเพลงของข้า
49ขอพระองค์ทรงระลึกถึงพระวาจาที่ทรงมีต่อผู้รับใช้ของพระองค์ เป็นพระดำรัสที่ทำให้ข้ามีความหวังใจ
50 พระดำรัสของพระองค์ให้ชีวิตแก่ข้า
คำนี้เป็นการปลอบใจของข้ายามทุกข์เข็ญ
51 คนที่โอหัง เย้ยหยันข้ายิ่งนัก
แต่ข้าไม่หันไปจาก พระบัญญัติ ของพระองค์
52 เมื่อข้าคิดถึง คำตัดสินของพระองค์ตั้งแต่นานมา
ข้าก็ได้รับการปลอบใจ
53 ข้าโกรธนัก เมื่อเห็นคนชั่วละทิ้ง พระบัญญัติ ของพระองค์
54 กฎของพระองค์ มาเป็นบทเพลงของข้า
ในบ้านที่ข้าพักพิงชั่วครู่ชั่วยาม
55 ยามค่ำ ข้าระลึกถึงพระนามของพระองค์ โอพระยาห์เวห์
และข้าก็รักษา พระบัญญัติ ของพระองค์
56 ข้าได้รักษาประกาศิต ของพระองค์ตลอดมา ข้าจึงได้รับพระพรดังกล่าว

8 เฆท

พระเจ้าทรงเป็นทุกสิ่งในชีวิต
57 พระยาห์เวห์ทรงเป็นทุกสิ่งในชีวิตข้า
ข้าสัญญาว่า จะรักษาพระวาจาของพระองค์
58 ข้าทูลขอความโปรดปรานด้วยสิ้นสุดใจ
ขอทรงกรุณาแก่ข้าตามพระดำรัสของพระองค์
59 เมื่อข้าคิดถึงหนทางของข้า ข้าก็หันเท้าของข้าไปยัง คำพยาน ของพระองค์
60 ข้ารักษา พันธบัญชา ของพระองค์อย่างเร่งด่วน ไม่รีรอ
61 แม้ว่าบ่วงของคนชั่วร้ายดักข้า
ข้าก็จะไม่ลืม พระบัญญัติ ของพระองค์
62 ยามเที่ยงคืน ข้าตื่นขึ้นมาเพื่อสรรเสริญพระองค์
เพราะ คำตัดสิน อันเที่ยงธรรมของพระองค์
63 ข้าเป็นเพื่อนกับทุกคนที่ยำเกรงพระองค์
ทุกคนที่รักษาประกาศิตของพระองค์
64 โอ พระยาห์เวห์ แผ่นดินโลกเต็มไปด้วยความรักมั่นคงของพระองค์
ขอทรงสอนกฎของพระองค์แก่ข้าด้วยเถิด

9 เทท

ประโยชน์ของความทุกข์ยาก
65 โอ พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงดีต่อผู้รับใช้ของพระองค์
ตามพระวาจาของพระองค์​
66 ขอทรงสอนให้ข้าพระองค์มีการพินิจพิเคราะห์ที่ดีและมีความรู้
เพราะข้าพระองค์เชื่อวางใจใน พันธบัญชา ของพระองค์
67 แต่ก่อนข้านั้นต้องทุกข์ยากและหลงไปจากพระองค์
แต่บัดนี้ข้ารักษาพระดำรัสของพระองค์
68 พระองค์ทรงดี และทรงทำสิ่งดี
ขอทรงสอนกฎ ของพระองค์แก่ข้าด้วย
69 คนที่จิตใจโอหังให้ร้ายข้าด้วยคำมุสา
แต่ข้าจะรักษา ประกาศิตของพระองค์ไว้อย่างสุดใจ
70 จิตใจของพวกเขาไร้ความรู้สึกราวกับไขมัน
แต่ข้ายินดีในพระบัญญัติของพระองค์
71เป็นการดีที่ข้าต้องทุกข์ยาก

10 โยธ

พันธบัญชาที่ข้าต้องเรียนรู้
73 พระหัตถ์ของพระองค์ทรงสร้างและปั้นตัวข้าขึ้นมา ขอทรงให้ความเข้าใจแก่ข้าเพื่อข้าจะได้เรียนรู้ พันธบัญชา ของพระองค์
74 คนที่ยำเกรงพระองค์ได้เห็นข้า ก็รู้สึกยินดีเพราะข้าหวังใจในพระวาจาของพระองค์
75 โอพระยาห์เวห์ ข้ารู้ว่า คำตัดสินของพระองค์นั้นเที่ยงธรรม พระองค์ทรงทำให้ข้าทุกข์ยากด้วยความซื่อตรงของพระองค์
76 ขอทรงให้ความรักมั่นคงของพระองค์ปลอบโยนข้า ตามพระดำรัสที่มีต่อผู้รับใช้ของพระองค์
77 ขอให้พระเมตตามายังข้า เพื่อว่าข้าจะมีชีวิตอยู่ เพราะว่า พระบัญญัติของพระองค์เป็นความปีติยินดีของข้า
78 ขอให้คนใจโอหังต้องอับอาย
เพราะว่าพวกเขาได้กล่าวร้ายข้าด้วยคำมุสา
ส่วนข้าจะใคร่ครวญประกาศิตของพระองค์
79 ขอให้คนที่ยำเกรงพระองค์ หันกลับมาหาข้าด้วย เพื่อว่าพวกเขาจะได้รู้จักคำพยานของพระองค์
80 ขอให้ใจของข้าไร้ตำหนิในเรื่องกฎของพระองค์เพื่อข้าจะไม่ต้องรู้สึกละอาย

11 คาฟ

ยามที่อ่อนล้านัก..
81จิตวิญญาณของข้าเหนื่อยล้า รอคอยความรอดของพระองค์ ข้าหวังใจในพระวาจาของพระองค์
82 ดวงตาของข้าอ่อนล้าเฝ้าหาพระดำรัสของพระองค์ เมื่อไรพระองค์จะทรงปลอบโยนข้า?
83 เพราะข้าเองนั้น ได้กลายเป็นเหมือนถุงหนังเหล้าองุ่นที่อยู่ในควัน
ถึงอย่างนั้น ข้าก็ยังไม่ลืมกฎของพระองค์
84 ผู้รับใช้ของพระองค์ต้องอึด อดทนนานอีกเพียงไหน เมื่อไรนะที่พระองค์จะทรงกล่าวคำตัดสินคนที่ข่มเหงข้า
85 คนใจโอหังได้ขุดหลุมดักข้า
พวกเขาไม่ได้ใช้ชีวิตตามพระบัญญัติของพระองค์
86 พันธบัญชา ของพระองค์แน่นอนเป็นจริง
ขอทรงช่วยข้าด้วย เพราะพวกเขาข่มเหงข้าด้วยความเท็จ
87 พวกเขาเกือบจะทำให้ข้าสิ้นไปจากแผ่นดินโลกแล้ว แต่ข้าไม่ได้ละทิ้งประกาศิตของพระองค์
88 ขอทรงรักษาชีวิตข้าไว้ด้วยความรักมั่นคงของพระองค์ เพราะข้าจะรักษาคำพยานจากพระโอษฐ์ของพระองค์

12 ลาเมด

พระเจ้าทรงซื่อตรงทุกชั่วอายุ
89 โอพระยาห์เวห์ พระวาจาของพระองค์ดำรงในสวรรค์อยู่เป็นนิตย์
90 ความซื่อตรงของพระองค์ดำรงทุกชั่วอายุคน
พระองค์ทรงสถาปนาแผ่นดินโลก และมันก็ดำรงอยู่
91 สิ่งเหล่านี้ดำรงมาจนทุกวันนี้ โดยคำตัดสินของพระองค์
เพราะทุกสิ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
92 หากพระบัญญัติของพระองค์ไม่เป็นที่ยินดีของข้าแล้ว
ข้าคงพินาศอยู่ในความทุกข์ยาก
93 ข้าจะไม่ลืมประกาศิตของพระองค์
เพราะพระองค์ประทานชีวิตให้กับข้าด้วยคำนั้น
94 ข้าเป็นของพระองค์ ขอทรงช่วยข้า
เพราะข้าแสวงหาประกาศิตของพระองค์
95 คนชั่วร้ายซุ่มตัวดักทำลายข้า
แต่ข้าใคร่ครวญคำพยานของพระองค์
96 ข้าได้เห็นข้อจำกัดของความเพียบพร้อมทั้งสิ้นแต่
พันธบัญชา ของพระองค์นั้นไร้ขอบเขต

13 เมม

ข้ารักพระบัญญัติจริง ๆ
97 โอ ข้ารักพระบัญญัติของพระองค์ยิ่งนัก
เป็นคำที่ข้าไตร่ตรองทบทวนตลอดทั้งวัน
98 พันธบัญชา ของพระองค์ทำให้ข้ามีปัญญากว่าศัตรูของข้า
เพราะเป็นสิ่งที่อยู่กับตัวข้าเสมอ
99 ข้ามีความเข้าใจเกินกว่าครูอาจารย์ของข้า
เพราะข้าใคร่ครวญคำพยานของพระองค์
100 ข้าเข้าใจมากกว่าผู้สูงอายุทั้งหลาย
เพราะข้ารักษาประกาศิตของพระองค์
101 ข้ายับยั้งไม่ให้เท้าก้าวเข้าไปสู่ทางชั่วทั้งหลาย
เพื่อว่าจะได้ทำตามพระวาจาของพระองค์
102 ข้าไม่หันไปจากคำตัดสินของพระองค์
เพราะว่าพระองค์ทรงสอนข้าด้วยพระองค์เอง
103 พระดำรัสของพระองค์นั้นหวานชื่น ยิ่งกว่าน้ำผึ้งในปากของข้า
104 โดยประกาศิตของพระองค์ ทำให้ข้ามีความเข้าใจ
ดังนั้นข้าจึงเกลียดชังทางแห่งความเท็จทั้งสิ้น

14 นูน

ความสว่างส่องทางชีวิต
105 พระวาจาของพระองค์เป็นตะเกียงสำหรับเท้าของข้า
เป็นแสงสว่างแก่ทางของข้า
106 ข้าได้ปฏิญาณ และยืนยันว่า
จะรักษาคำตัดสินอันเที่ยงธรรมของพระองค์ไว้
107 ข้าพบความทุกข์ยากแสนเข็ญ โอพระยาห์เวห์
ขอโปรดให้ข้ามีชีวิตตามพระวาจาของพระองค์เถิด
108 โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงรับเครื่องบูชาแห่งการสรรเสริญ
ที่ถวายด้วยความตั้งใจ
และขอทรงสอนคำตัดสินของพระองค์แก่ข้า
109  ชีวิตของข้าตกอยู่ในอันตรายไม่หยุด
แต่ข้าไม่ลืมพระบัญญัติของพระองค์
110 คนชั่วร้ายได้วางกับดักไว้
แต่ข้าจะไม่หลงทางไปจากประกาศิตของพระองค์ 
111 คำพยานของพระองค์เป็นมรดกของข้าตลอดไป
เพราะคำนั้นเป็นความยินดีในใจข้า 
112 ข้าน้อมใจของข้าเพื่อทำตามกฎของพระองค์
ตลอดไป

15 ซาเมค

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรู
113 ข้าชังคนสองใจ แต่ข้ารักพระบัญญัติของพระองค์ 
114พระองค์ทรงเป็นที่กำบังและโล่ของข้า 
ข้าหวังใจในพระวาจาของพระองค์ 
115 คนชั่ว จงออกห่างข้าไป
เพื่อว่าข้าจะได้รักษา พันธบัญชา ของพระเจ้าของข้า
116 ขอพระองค์ทรงค้ำชูข้าตามพระดำรัสเพื่อข้าจะมีชีวิตอยู่
และขออย่าให้ข้าต้องอายเพราะความหวังของข้า 
117 ขอทรงประคองข้าขึ้นมา เพื่อว่าข้าจะปลอดภัย
และนับถือกฎของพระองค์เสมอ
118 พระองค์ทรงไล่คนที่หลงไปจากกฎ
ของพระองค์ เล่ห์เหลี่ยมของพวกเขานั้นไร้ผล
119 พระองค์จะทรงทิ้งคนชั่วร้ายของโลก
เหมือนทิ้งขี้แร่ ดังนั้น ข้ารักคำพยานของพระองค์
120 เนื้อหนังของข้าสั่นเทาด้วยความยำเกรงพระองค์
และข้ากลัวคำตัดสินของพระองค์ 

16 อายิน

คำรับรองของพระเจ้า
121 ข้าได้ทำตามคำตัดสินที่เที่ยงตรง
ขออย่าทรงทิ้งข้าไว้กับคนที่บีบคั้นข้าเลย
122 ขอพระองค์ทรงรับรองว่า ข้าจะปลอดภัย
ขออย่าทรงยอมให้คนโอหังบีบคั้นข้า
123 ดวงตาของข้าหิวหาความรอดของพระองค์
และคอยให้พระดำรัสอันเที่ยงธรรมของพระองค์บรรลุผล
124 ขอทรงทำกับผู้รับใช้ของพระองค์ตามความรักมั่นคง
และขอทรงสอนกฎของพระองค์แก่ข้า
125 ข้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
ขอโปรดประทานความเข้าใจให้ด้วย
เพื่อข้าจะรู้จักคำพยานของพระองค์
126 นี่เป็นเวลาที่พระเจ้าทรงทำราชกิจ
เพราะมีการฝ่าฝืนพระบัญญัติของพระองค์
127 ดังนั้นข้ารัก พันธบัญชา ของพระองค์
มากกว่าทองคำ มากกว่าทองคำบริสุทธิ์
128 ดังนั้น ข้าจึงมองเห็นว่าประกาศิตของพระองค์ถูกต้องทั้งสิ้น
ข้าเกลียดชังทุกเส้นทางที่ปลอมขึ้นมา

17 เพ

ความมหัศจรรย์แห่งพระวาจา
129 คำพยานของพระองค์นั้นมหัศจรรย์
จิตใจของข้าจึงรักษาเอาไว้
130 การเปิดเผยพระวาจาของพระองค์
ให้ความกระจ่าง ทำให้คนรู้น้อยเข้าใจ
131ข้าโหยหา พันธบัญชา ของพระองค์จนเหนื่อยหอบปากอ้า
132 ขอทรงหันมาหาข้า และเมตตาข้าด้วย
ตามคำตัดสินที่ทรงทำแก่คนที่รักพระนามของพระองค์
133 ขอทรงช่วยให้ย่างเท่าของข้ามั่นคงตามพระดำรัสของพระองค์
และอย่าให้มีความชั่วใด ๆ มาครอบงำข้าไว้
134 ขอทรงไถ่ข้าจากการบีบบังคับของมนุษย์
เพื่อว่าข้าจะได้รักษาประกาศิตของพระองค์
135 ขอทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ฉายแสงลงมายังตัวข้า
และขอทรงสอนระเบียบของพระองค์ให้ด้วย
136 ข้าร่ำไห้ หลั่งน้ำตาเป็นสาย
เพราะผู้คนไม่รักษาพระบัญญัติของพระองค์

18 ซาเด

ยินดีเพราะพันธบัญชาของพระองค์
137 โอ พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเที่ยงธรรม และคำตัดสินของพระองค์ก็เที่ยงตรง
138 พระองค์ทรงสถาปนาคำพยานของพระองค์ในความเที่ยงตรง และความซื่อตรงทั้งสิ้น
139 ข้าเร่าร้อนใจยิ่งนักเพราะศัตรูของข้าลืมพระวาจาของพระองค์​
140 พระดำรัสของพระองค์ได้รับการพิสูจน์แล้ว
และผู้รับใช้ของพระองค์รักคำนั้น
141ข้าเป็นคนต่ำต้อยและถูกเหยียดหยาม
แต่ข้าไม่ลืมประกาศิตของพระองค์
142 ความชอบธรรมของพระองค์ เที่ยงธรรมตลอดไป
และพระบัญญัติของพระองค์เป็นจริง
143 ความยากลำบากและความทุกข์โศกมายังชีวิตของข้า
แต่ข้ายินดีใน พันธบัญชา ของพระองค์
144 คำพยานของพระองค์นั้นเที่ยงธรรมตลอดไป
ขอประทานความเข้าใจแก่ข้าเพื่อข้าจะมีชีวิตอยู่

19 โคฟ

คำอธิษฐานอย่างสุดใจ
145 โอ พระยาห์เวห์ ข้าร้องทูลอย่างสุดใจ
ขอทรงโปรดตอบข้า ข้ารักษากฎของพระองค์
146 ข้าร้องหาพระองค์ ขอทรงช่วยให้รอด
เพื่อว่าข้าจะได้พินิจคำพยานของพระองค์
147 ข้าตื่นก่อนตะวันขึ้น และร้องขอความช่วยเหลือ
ข้าหวังใจในพระวาจาของพระองค์
148 ตาของข้าเปิดอยู่ทุกเวลายามค่ำ
เพื่อว่าข้าจะได้ใคร่ครวญพระดำรัสของพระองค์
149 ขอทรงฟังเสียงของข้าตามความรักมั่นคงของพระองค์
โอ พระยาห์เวห์ ขอประทานชีวิตแก่ข้า
ตามคำตัดสินของพระองค์
150 คนที่ต้องการข่มเหงข้านั้นเข้ามาใกล้ด้วยการมุ่งร้าย
พวกเขาอยู่ห่างจากพระบัญญัติของพระองค์
151 โอพระยาห์เวห์ แต่พระองค์ทรงอยู่ใกล้
และ พันธบัญชา ทั้งสิ้นของพระองค์ก็เป็นจริง
152 ข้ารู้มานานแล้วจากคำพยานของพระองค์ว่า
พระองค์ทรงตั้งคำนั้นไว้ให้อยู่เป็นนิรันดร์

20 เรช

ขอพระเจ้าทรงช่วยกู้
153 ขอทอดพระเนตรดูความทุกข์ยากของข้า
และขอทรงช่วยกู้ข้าให้พ้น
เพราะข้าไม่ได้ลืมพระบัญญัติของพระองค์
154 ขอทรงสู้คดีให้ข้า และขอทรงไถ่ข้า
ขอประทานคืนชีวิตให้ตามพระดำรัสของพระองค์
155 ความรอดนั้นอยู่ห่างจากคนชั่วร้าย
เพราะพวกเขาไม่ได้ตามหากฎของพระองค์
156 โอ พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเต็มด้วยพระเมตตา
ขอประทานชีวิตแก่ข้าตามคำตัดสิน ของพระองค์
157 คนที่มาข่มเหงและศัตรูของข้ามีมากมายนัก
แต่ข้าจะไม่หันไปจากคำพยานของพระองค์
158 ข้ามองดูคนไร้ความเชื่อด้วยความชัง
เพราะพวกเขาไม่รักษา พระดำรัสของพระองค์
159 ขอพระองค์ทรงพิจารณาว่า
ข้ารักประกาศิตของพระองค์มากเพียงไร
ขอประทานชีวิตแก่ข้าตามความรักมั่นคงของพระองค์
160 ความจริงคือแก่นแท้ของพระวาจาของพระองค์
และคำตัดสินอันเที่ยงธรรมของพระองค์นั้นดำรงเป็นนิตย์

21
ชินหรือซีน

ข้าจะไม่สะดุด เพราะมนุษย์คนใด
161 เหล่าผู้ปกครองข่มเหงข้าอย่างไร้สาเหตุ
แต่ใจของข้านั้น ยืนอย่างยำเกรงต่อพระวาจาของพระองค์
162 ข้ายินดีในพระดำรัสของพระองค์
ราวกับคนที่ได้เจอของที่ถูกริบมาเป็นอันมาก
163 ข้าจงเกลียดจงชังความเท็จ
แต่ข้ารักพระบัญญัติของพระองค์
164 ข้าสรรเสริญพระองค์วันละเจ็ดครั้ง
เพราะคำตัดสินอันเที่ยงตรงของพระองค์
165 คนที่รักพระบัญญัติของพระองค์นั้นจะมีสันติสุขยิ่งใหญ่
ไม่มีสิ่งใดทำให้เขาสะดุดล้มได้
166 โอ พระยาห์เวห์ ข้าหวังใจในความรอดของพระองค์
และข้าทำตาม พันธบัญชา ของพระองค์
167 วิญญาณของข้ารักษาคำพยานของพระองค์ไว้
และข้ารักคำนั้นอย่างท่วมท้น
168 ข้ารักษาประกาศิตและคำพยานของพระองค์
เพราะหนทางของข้าอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์

22 ทาฟ

ข้าหลงทาง ขอทรงตามหาข้าด้วย
169 โอ พระยาห์เวห์ ขอให้เสียงร้องทูลของข้ามาถึงพระพักตร์พระองค์
ขอทรงโปรดให้ข้ามีความเข้าใจแจ่มแจ้งตามพระวาจาของพระองค์
170 ขอให้คำร้องขอไปถึงพระองค์
ขอทรงช่วยกู้ข้าตามพระดำรัสสัญญา
171 ริมฝีปากของข้าจะกล่าวคำสรรเสริญ
เพราะพระองค์ทรงสอนกฎของพระองค์แก่ข้า
172 ลิ้นของข้าจะร้องพระดำรัสของพระองค์
เพราะ พันธบัญชา ของพระองค์ทุกข้อเที่ยงธรรมทั้งสิ้น
173 ขอให้พระกรของพระองค์พร้อมที่จะช่วยข้า
เพราะข้าได้เลือกเดินตามประกาศิตของพระองค์
174 ข้าปราถนาความรอดของพระองค์ โอ พระยาห์เวห์
และพระบัญญัติของพระองค์เป็นความยินดีของข้า
175 ขอให้จิตวิญญาณของข้ามีชีวิตและสรรเสริญพระองค์
และขอให้ คำตัดสินของพระองค์ ช่วยข้าไว้
176 ข้าหลงทางไป เหมือนแกะหลง
ขอพระองค์ทรงตามหาผู้รับใช้ของพระองค์ด้วย
เพราะข้าไม่ลืม พันธบัญชา ของพระองค์

สดุดี 150 ทุกสิ่งที่หายใจ ..สรรเสริญพระเจ้าเถิด

จงให้ทุกสิ่งที่หายใจสรรเสริญพระยาห์เวห์
pexel : Anthony

ให้สรรพสิ่งสรรเสริญพระยาห์เวห์

1สรรเสริญพระยาห์เวห์
จงสรรเสริญพระเจ้าในสถานบริสุทธิ์ของพระองค์
จงสรรเสริญพระองค์ในแผ่นฟ้าอันทรงอานุภาพของพระองค์
2 จงสรรเสริญพระองค์
เพราะราชกิจอันทรงฤทธิ์ที่ล้นเหลือของพระองค์

3 จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงแตรเขาแกะ
จงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณสิบสายและพิณเล็ก
4 จงสรรเสริญพระองค์ด้วยรำมะนา
และการเต้นรำจงสรรเสริญพระองค์ด้วยเครื่องสาย และปี่
5จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงฉาบ
จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงฉาบที่ดังก้อง

6 จงให้ทุกสิ่งที่หายใจสรรเสริญพระยาห์เวห์
สรรเสริญพระยาห์เวห์

พระคำเชื่อมโยง


1* สดุดี 148:14
สดุดี 11:4; 134:2
สดุดี 68:34
2* สดุดี 145:12
เฉลยธรรมบัญญัติ 3:24
3* สดุดี 98:6;
สดุดี 33:2; 71:22
4* สดุดี 149:3;
สดุดี 45:8; 38:20; โยบ 21:12
5* 2 ซามูเอล 6:5; 1 พงศาวดาร 15:16, 19, 28; 25:1, 6
6 * สดุดี 145:21

บทสุดท้ายของสดุดีที่ผ่านมานี้ ได้ขึ้นต้นและจบลงด้วยการสรรเสริญพระยาห์เวห์
จากบทที่ 150 นี้ เราจะเห็นว่า เราถูกชวนให้สรรเสริญพระเจ้าในที่สูง ในท้องฟ้า ในที่บริสุทธิ์ของพระเจ้า ในสดุดีบทนี้คือ การสรรเสริญพระเจ้าของเหล่าทูตสวรรค์ที่อยู่ในสรวงสวรรค์ อยู่กับพระเจ้า
สรรเสริญอะไรหรือ? เราสรรเสริญที่พระเจ้าทรงทำกิจอัศจรรย์ให้กับชีวิตของมนุษย์เรา ทรงทำการยิ่งใหญ่ในอดีต แต่ที่สำคัญที่สุดคือการที่พระเยซูลงมาสิ้นพระชนม์เพื่อทำให้เราได้คืนดีกับพระบิดาอีกครั้ง
ผู้เขียนชักชวนให้ทุกคนที่สรรเสริญพระเจ้า ได้ย้อนคิดถึงราชกิจที่ทรงทำเพื่อทุกคน และราชกิจดี ๆ ที่ทรงทำเพื่อเราทุก ๆ วัน ไม่เว้นแต่ละวันด้วย ชีวิตของผู้เชื่อจึงเต็มด้วยการขอบพระคุณและการสรรเสริญไม่หยุดหย่อน ไม่มีการหยุดนิ่ง การสรรเสริญทำให้มนุษย์ได้เชื่อมโยงกับพระเจ้าอย่างเหมาะสม
นอกจากการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าที่ทุกคนทำได้ เปล่งเสียงออกมา เรายังร้องเพลงในใจได้ด้วย
แล้วผู้เขียนให้ใช้เครื่องดีด สี ตี เป่า มาสรรเสริญพระเจ้า นี่เป็นเหตุผลที่เราเห็นครอบครัวคริสเตียนมักให้ลูกหลานได้เรียนดนตรี เพื่อเป้าหมายในการใช้สรรเสริญพระเจ้า …
และเราต้องไม่ลืมว่า ในบทอื่น ๆ ได้ชวนให้เราเต้นรำถวายพระองค์ด้วย ทั้งชีวิต ทั้งร่างกาย จิตใจของมนุษย์สามารถใช้เพื่อการสรรเสริญพระเจ้าได้อย่างครบถ้วน
และในบทก่อนหน้านี้ยังมีการชวนให้ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างสรรเสริญพระองค์ ผู้เขียนได้จบสดุดีด้วยการชวนให้ทุกสิ่งที่มีลมหายใจ สรรเสริญพระเจ้า …​และนั่นคือ เขากำลังชวนเราสรรเสริญพระองค์พร้อมกันกับสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง …​
ดังนั้น ให้เราเปิดใจฟังเสียงของบรรดาสัตว์ นกที่ส่งเสียงออกมา เสียงของคลื่นลม และพายุ เสียงของฝน สายของสายน้ำ …​เหล่านี้กำลังบอกว่า พระเจ้าของเราทรงเป็นพระผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ พระเจ้าที่ทรงไถ่ และทรงโอบอุ้มเรามาตลอดชีวิต .. ให้ใจของเรายิ่งสรรเสริญพระองค์ให้มากขึ้นในชีวิตนี้ ตราบที่เรายังมีลมหายใจ

สดุดี 149 คำสรรเสริญพร้อมกับการต่อสู้

เพราะพระยาห์เวห์ ทรงยินดีในคนของพระองค์
pixels : Luis Quintero


ชวนกันสรรเสริญพระเจ้า
1 สรรเสริญพระยาห์เวห์
ร้องเพลงบทใหม่ถวายพระยาห์เวห์
ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
ในที่ประชุมของเหล่าผู้ติดตามพระองค์
2 ให้อิสราเอลยินดีในองค์พระผู้สร้างของเขา
3ให้พวกเขาสรรเสริญพระองค์ด้วยการเต้นรำ
ส่งทำนองเพลงถวายพระองค์ด้วยรำมะนา และพิณเขาคู่
4 เพราะพระยาห์เวห์ ทรงยินดีในคนของพระองค์
พระองค์ทรงตกแต่งคนที่ใจถ่อมด้วยความรอด
5 ขอให้คนของพระองค์ยินดีในพระสิริ
ให้พวกเขาร้องเพลงด้วยความยินดีบนที่นอนของเขา

คำสรรเสริญกับการต่อสู้ศัตรู
6 ให้เพลงสรรเสริญอยู่ในลำคอของพวกเขา
และมีดาบสองคมในมือ
7 เพื่อตอบโต้ชาติต่าง ๆ เพื่อลงโทษชนชาติทั้งหลาย
8 เพื่อล่ามโซ่บรรดากษัตริย์
และสวมตรวนเหล็กให้เหล่าขุนนาง
9 เพื่อลงโทษตามคำพิพากษาที่บันทึกไว้แล้ว
นี่เป็นเกียรติยศสำหรับทุกคนที่ติดตามพระองค์
สรรเสริญพระยาห์เวห์

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 135:1; 33:3; 89:5, 7
2* สดุดี 85:6; สดุดี 95:6; โยบ 35:10;
1 ซามูเอล 12:12; Zech. 9:9
3 *สดุดี 150:4; 30:11; 150:4; อพยพ 15:20; สดุดี 150:3
4* สดุดี 35:27; 147:11; อิสยาห์ 61:3
5* โยบ 35:10; สดุดี4:4; 63:6; โฮเชยา 7:14
6* สดุดี 66:17; ฮีบรู 4:12; วิวรณ์ 1:16; 2:12; สุภาษิต 5:4
8* โยบ 36:8
9* อิสยาห์​ 65:6; โยบ 13:26;สดุดี 148:14;

สดุดี 149:1-5 ชวนกันสรรเสริญพระเจ้า
นี่เป็นคำเชิญชวนอีกครั้งให้คนของพระเจ้าสรรเสริญพระองค์ด้วยกัน คำว่า เหล่าผู้ติดตามพระองค์มในข้อ 1 กับคำว่า คนของพระองค์ในข้อ เป็นคำศัพท์ที่มีความหมาย โยงไปถึงคำว่า จงรักภักดี รัก ไว้ใจได้ เมตตา …​

ข้อสองให้อิสราเอลยินดี.. ในพระผู้สร้างนั้น คือ พวกเขาควรจะยินดีในพระองค์ วิธีการที่เขาทำได้ชัดเจนคือการเต้นรำและเล่นดนตรีพร้อมไปกับการร้องเพลง นี่เป็นคำชักชวนที่ตรงไปตรงมา การเต้นรำถวายพระเจ้า แตกต่างจากการเต้นรำของโลกที่มีจุดสนใจอยู่ที่คนเต้น แต่การเต้นรำถวายพระเจ้านั้น ออกมาจากหัวใจส่งไปถึงพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ คนที่เต้นนั้นไม่ได้สำคัญในสายตาของตัวเองเลย และนี่ไม่ใช่เป็นการเต้นคู่ แต่เป็นการเต้นของกลุ่มคนที่ต้องการสรรเสริญพระเจ้าด้วยกัน
ข้อสี่บอกเราชัดว่า คนของพระองค์เป็นคนใจถ่อม และความถ่อมใจนี้เป็นความงามในสายพระเนตร เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัยยิ่ง
ที่แปลกมากในข้อห้าคือ ให้พวกเขาร้องเพลงยินดีบนที่นอน เราได้ลองไหม ลองได้เลยว่า เราจะรู้สึกแปลกแตกต่างไปจากที่เราร้องพร้อม ๆ กับคนอื่น ไหม​ การสรรเสริญพระเจ้าไม่ติดกับเวลาและสถานที่เลย …​

สดุดี 149:6-9 คำสรรเสริญกับการต่อสู้ศัตรู
ทำไมสรรเสริญพระเจ้าพร้อมกับดาบสองคม? เมื่ออิสราเอลต้องต่อสู้กับศัตรู พวกเขายังมีอีกอย่างที่ต้องทำในเวลานั้น คือการสรรเสริญพระเจ้าไปด้วย ดูเหมือนการนมัสการพระเจ้า กับการต่อสู้เป็นของคู่กัน ผู้ที่นมัสการพระเจ้าเป็นผู้ที่จะต่อสู้กับศัตรูของพระองค์อย่างกล้าหาญ พวกเขาจะตอบโต้กับศัตรูของพระเจ้าพร้อมกันกับพระองค์
สงครามฝ่ายวิญญาณที่พวกเราเจอก็เช่นกัน ไม่ใช่แค่ตั้งหน้าตั้งตาสู้ แต่เราจะนมัสการพระเจ้ายิ่งใหญ่ของเราไปพร้อมกับที่เราต่อสู้ นี่เป็นคำจากผู้ที่เชี่ยวชาญในการรบและการนมัสการพระเจ้าจากสดุดี!

สดุดี 148 มาสรรเสริญพระเจ้าด้วยกัน

จงสรรเสริญพระองค์เถิด
ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวทั้งสิ้น
Hubble จับภาพ กาแล็กซีสุดสว่าง NASA

สรรเสริญพระเจ้าจากฟ้าสวรรค์
1 สรรเสริญพระนามพระยาห์เวห์
สรรเสริญพระยาห์เวห์จากห้วงฟ้าสวรรค์
สรรเสริญพระองค์จากที่สูงทั้งหลาย
2 จงสรรเสริญพระองค์เถิด
ทูตสวรรค์ทั้งสิ้นของพระองค์
จงสรรเสริญพระองค์เถิด
กองทัพทั้งสิ้นของพระองค์
3 จงสรรเสริญพระองค์เถิด
ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์
และดวงดาวทั้งสิ้นที่ส่องแสงออกมา
จงสรรเสริญพระองค์เถิด
4 จงสรรเสริญพระองค์ ฟ้าสวรรค์ที่อยู่สูงสุด
รวมทั้งน้ำที่อยู่เหนือฟ้าสวรรค์ด้วย
5 จงให้สรรพสิ่งเหล่านั้น
สรรเสริญพระนามพระยาห์เวห์
เพราะเมื่อพระองค์ทรงบัญชา
มันก็ถูกเนรมิตสร้างขึ้นมา
6 และพระองค์ทรงทำให้มันคงอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์
พระองค์ทรงสร้างขอบเขตให้กับมัน
ที่ไม่มีใครจะข้ามไปได้

สรรเสริญพระเจ้าจากทุกสิ่งในแผ่นดิน
7 สรรเสริญพระยาห์เวห์จากแผ่นดินโลก
เจ้าสัตว์ทะเลขนาดมหึมา และน้ำในที่ลึกทั้งสิ้น
8 ไฟ และลูกเห็บ หิมะและหมอก
ลมพายุที่ทำตามพระบัญชาของพระองค์
9 ภูเขาและเนินเขาทั้งสิ้น
ต้นไม้ผลและต้นซีดาร์ทั้งสิ้น
10 สัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย
สัตว์เลื้อยคลาน และนกที่มีปีก
11บรรดากษัตริย์ในแผ่นดิน
และชนชาติทั้งหลาย
เหล่าเจ้านาย และผู้นำของโลก
12 คนหนุ่มรวมไปถึงคนสาวคนชรา
กับเด็กเล็กทั้งหลาย

สรรเสริญพระเจ้าจากประชากรของพระองค์
13 ให้ทั้งสิ้นนี้ สรรเสริญพระนามพระยาห์เวห์
เพราะพระนามของพระองค์เท่านั้น
ที่สมควรรับการยกย่อง
พระสิริตระการของพระองค์
อยู่เหนือแผ่นดินและฟ้าสวรรค์
14 พระองค์ทรงทำให้ประชากรของพระองค์เข้มแข็ง
ทรงเป็นที่สรรเสริญของผู้ที่จงรักภักดีทั้งหลาย
ของคนอิสราเอล ผู้ที่อยู่ใกล้พระองค์
สรรเสริญพระยาห์เวห์

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 135:1; 69:34
; มัทธิว 21:9
2* สดุดี 103:20, 21
4* สดุดี 68:33; เฉลยธรรมบัญญัติ 10:14; เนหะมีย์ 9:6; 1 พงศ์กษัตริย์ 8:27; 1:7
5* ดูข้อ 13; สดุดี 33:6, 9
6* สดุดี 119:90, 91; 28:26; Jer. 31:35, 36; 33:25;
สดุดี 104:9; เอสเธอร์ 1:19; โยบ 14:5
7* ดูข้อ 1; ปฐมกาล 1:21 ; สดุดี 74:13
8* สดุดี 18:12; 105:32
; 147:16; 107:25; 103:20; 147:15-18
9* อิสยาห์ 44:23; 49:13; 55:12
ปฐมกาล 1:11;
สดุดี 104:16
10* ปฐมกาล 1:24
ปฐมกาล 1:20, 21
11* วิวรณ์ 7:9
13* ดูข้อ 5; สดุดี 8:1; สดุดี 113:4
14* 1 ซามูเอล 2:1; เฉลยธรรมบัญญัติ 10:21; เยเรมีย์ 17:14
เฉลยธรรมบัญญัติ 4:7; เอเฟซัส 2:17; สดุดี 135:1


สดุดี 148:1-6 สรรเสริญพระเจ้าจากฟ้าสวรรค์
ผู้เขียนได้ชวนให้ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมา สรรเสริญพระองค์ไปด้วยกันพร้อมกับเขา ไม่ว่าสิ่งนั้นจะอยู่ในอวกาศแสนไกลที่เรามองไม่เห็น ไม่ว่าจะอยู่ในสวรรค์ หรือเป็นเทหวัตถุบนท้องฟ้า ไม่มีอะไรที่จะหยุดให้เขาชวนสรรพสิ่งมาสรรเสริญพระเจ้าได้เลย …
เขาสรุปอย่างน่าชื่นใจว่า พระเจ้าทรงบัญชา มันก็เกิดขึ้นมา และพระเจ้าทรงมีขอบเขตให้กับทุกสิ่งที่ทรงสร้าง มันไม่อาจข้ามไปจากที่พระองค์ทรงวางไว้ได้

สดุดี 148:7-12 สรรเสริญพระเจ้าจากทุกสิ่งในแผ่นดิน
ไม่มีสิ่งใดที่นิ่งอยู่โดยไม่ได้สรรเสริญพระเจ้า ผู้เขียนไม่ได้สนใจเลยว่า สิ่งนั้นจะมีคำงาม ๆ ที่จะสรรเสริญหรือไม่ ความเป็นตัวของมันเอง สรรเสริญพระเจ้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ทูตสวรรค์ ไปจนถึงสัตว์ทุกตัวที่อยู่บนโลก ไม่ว่าจะใหญ่หรือตัวเล็กจนมองไม่เห็นอย่างพวกแพลงตอนในทะเล …
การที่ผู้เขียนชวนสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มาสรรเสริญพระเจ้านั้น น่าสนใจมาก เขาคิดอะไรอยู่จึงชวนกันง่าย ๆ เช่นนี้?

สดุดี 148:13-14 สรรเสริญพระเจ้าจากประชากรของพระองค์
จะปล่อยให้ห้วงอวกาศทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ รวมไปถึง สัตว์ทะเล สรรเสริญพระเจ้า สัตว์ต่าง ๆ คนอื่น ๆ สรรเสริญพระเจ้าหรือ?
พระเจ้าทรงสนพระทัยที่จะฟังคำสรรเสริญจากคนของพระองค์
แล้วพวกเขามีคำสวย ๆ ดี ๆ ที่เหมาะกับพระองค์ไหม?
พวกเขาได้เตรียมอะไรไว้บ้างเพื่อที่จะสรรเสริญพระเจ้าได้อย่างที่สมควรจะทำ?
ตรงนี้เอง เป็นหน้าที่ของคนของพระเจ้าที่จะสรรเสริญพระเจ้าให้ได้งดงามเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า …​อย่าอยู่เฉย ๆ กัน แต่ให้เรา มาจริงจังกับการสรรเสริญพระเจ้ากันเถอะ