1 เธสะโลนิกา 3 กำหนดให้ทนทุกข์

ดังนั้น เมื่อเราทนต่อไปไม่ไหว เราจึงเต็มใจถูกทิ้งไว้ที่เมืองเอเธนส์ตามลำพังและเราส่งทิโมธี ซึ่งเป็นทั้งน้องชายและผู้ร่วมงานรับใช้พระเจ้าในการประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระคริสต์ไปหาพวกท่าน เพื่อจะได้วางฐานให้ท่านมั่นคง และหนุนใจท่านเรื่องความเชื่อ
1เธสะโลนิกา 3:1-2

กิจการ17:15,14:22-23,ฟีลิปปี 1:25

ทิโมธีมีความหมายต่อท่านเปาโลมาก เพราะยังหนุ่มแน่นและร่วมรับใช้อย่างซื่อสัตย์ ท่านยอมส่งทิโมธีมายังเมืองเธสะโลนิกาเพื่อวางรากฐานความเชื่อให้มั่นคง

เพื่อว่าจะไม่มีใครหวั่นกับความลำบากเหล่านี้ เพราะตัวท่านเองทราบว่า เราถูกกำหนดไว้สำหรับความลำบากดังกล่าว ความจริง ตอนที่เราอยู่กับท่าน เราได้บอกว่า เราจะต้องพบการข่มเหง และท่านก็รู้แล้วว่า มันเกิดขึ้นจริง
1 เธสะโลนิกา 3:3-4

กิจการ 14:22, 9:16,20:24 ยอห์น 16:2,33, 2 เธสะโลนิกา 1:4-6

เราอาจมีความเชื่อว่าชีวิตดี ๆ คือชีวิตที่สบาย แต่ความเป็นจริงแล้ว ชีวิตที่พบความยากลำบากมาก่อนคือชีวิตที่เข้มแข็ง ท่านต้องการให้รู้ว่า เราทุกคนถูกกำหนดไว้เพื่อเจอความลำบาก เพื่อชนะมันโดยพระคุณ ของพระเจ้า เราต้องเข้าใจว่า ความยากในชีวิตมีเพื่อทดสอบ และฝึกให้เราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้การได้

ด้วยเหตุนี้ เมื่อข้าไม่อาจทนต่อไปได้ข้าจึงส่งทิโมธีไปเพื่อจะได้รู้ว่า ความเชื่อของท่านเป็นอย่างไรด้วยเกรงว่า ผู้ที่มาล่อหลอกอาจล่อลวงท่านสำเร็จ งานที่เราบากบั่นทำมา จะล้มเหลวไป
1 เธสะโลนิกา 3:5

มัทธิว 4:3, ยากอบ 1:13-14, 2 โครินธ์ 2:11

คนสอนผิด คนสอนล่อลวง คนที่เอาพระคำของพระเจ้ามาบิดเบือนนั้น ไ่ม่เคยขาดหายไปจากโลก เลย ทุกวันนี้ เราพบว่า มีสิบแปดมงกุฎที่ออกทีวี
พูดจาให้คนเชื่อถือ เอาพระคัมภีร์มาสอนผิดอย่างร้ายแรง ท่านเปาโลห่วงอย่างไรในสมัยของ ท่าน พวกเราก็ควรห่วงทั้งตัวเองและเพื่อน ๆ คอยระวังระไวให้ดีตลอดเวลา

ตอนนี้ ทิโมธีจากพวกท่านมาถึงเราแล้ว และได้นำข่าวดีเรื่องความเชื่อและความรักของท่านมาด้วย และเขากล่าวว่า พวกท่านคิดถึงเราในเรื่องดี ๆ เสมอ ปรารถนาที่จะพบเราเหมือนอย่างที่เราอยากจะพบพวกท่าน
1 เธสะโลนิกา 3:6

1 โครินธ์ 11:2, อิสยาห์ 52:7

คริสเตียนในเธสะโลนิกาก็ต้องเจอกับ ปัญหา การข่มเหง การล่อลวง และปัญหาอื่น แต่พวกเขายังมั่นคงใน ความเชื่อและความรัก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิตทุก ๆ คน

ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย เราได้รับการหนุนใจ เพราะความเชื่อของพวกท่าน ด้วยเหตุนี้ เราจึงเบาใจกับความลำบากและความยากเข็ญของเรา ตอนนี้เรามีชีวิตชีวา เพราะท่านมั่นคงในองค์พระผู้เป็นเจ้า
1 เธสะโลนิกา 3:7-8

2 ทิโมธี 3:10-12, โคโลสี 1:23, ฮีบรู 10:23, ฟีลิปปี 1:21

จะมีอะไรที่ทำให้ผู้รับใช้ของพระเจ้าดีใจ เป็นสุขได้ เท่ากับได้เห็นว่า พระวิญญาณของพระเจ้าทรงทำราชกิจของพระองค์ในชีวิตของผู้ที่ฟังพระคำ
จากเขา ความยากเข็ญที่ท่านเปาโลกำลังพบอยู่จึงกลายเป็นความเบาใจ ทำให้ท่านมีกำลังที่จะสู้ต่อไป ทิโมธีเป็นผู้ส่งข่าวดีให้กับท่านในครั้งนี้

เราจะขอบคุณต่อพระพักตร์พระเจ้าให้สมกับความยินดีเพราะพวกท่านได้อย่างไร? ในขณะที่เราอธิษฐานทั้งคืนทั้งวันอย่างร้อนใจเพื่อจะได้พบหน้าท่านอีก และเพื่อจะเพิ่มเติมสิ่งที่ท่านยังขาดอยู่ให้เต็มบริบูรณ์
1 เธสะโลนิกา 3:9-10

2 โครินธ์ 9:15, สดุดี 98:8-9,2 ทิโมธี 1:3, 2 โครินธ์ 13:9

เราทุกคนเหมือน แก้วน้ำที่ยังไม่เต็ม เรายังขาดบางสิ่งอยู่ตลอดเวลา
ไม่มีใครบอกได้ว่า ตนเองบริบูรณ์ สมบูรณ์แบบแล้ว แม้แต่ท่านเปาโลเองก็กล่าวในฟีลิปปี 3:12 ว่า ไม่ใช่ว่าพร้อมแล้ว แต่กำลังก้าวไปข้างหน้าเพื่อฉวยเอาสิ่งที่พระเยซูทรงเตรียม
ไว้ให้ ตราบใดที่มีชีวิตก็ต้องเติมเต็มด้วยพระเจ้าเสมอ

ขอพระเจ้าคือองค์พระบิดาและองค์พระเยซูเจ้าของเรา ทรงนำเราไปถึงท่าน และขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเพิ่มพูนให้ท่านไหลล้นด้วยความรักกันและกัน และรักทุกคนเหมือนอย่างที่เรารักท่าน
1 เธสะโลนิกา 3:11-12

2 เธสะโลนิกา 2:16, 1 ยอห์น 3:1, ฟีลิปปี 1:9, 1 ยอห์น 3:11-19

คำอธิษฐานของท่านเปาโล มาจากคำบัญชาของพระเยซูในยอห์น 13:35 ว่าให้เรารักซึ่งกันและกัน สังเกตไหมว่า ทุกวันนี้ความรักเยือกเย็นลงมากจนกลายเป็นน้ำแข็ง จะเปลี่ยนให้เป็นรักที่ร้อนแรงได้ก็ด้วยพระเจ้าเท่านั้น ด้วยอย่างอื่น ไม่มีทาง

ขอพระองค์ทรงทำให้ใจของท่านไร้ตำหนิ อยู่ในความบริสุทธิ์ ต่อพระพักตร์พระเจ้าและพระบิดาของเรา เมื่อองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา
จะเสด็จมาพร้อมกับผู้บริสุทธิ์ของพระองค์
1 เธสะโลนิกา 3:13

โคโลสี 1:22, 1 เธสะโลนิกา 5:23, เอเฟซัส 5:27

ความปรารถนาของท่านเปาโลคือ
ชีวิตที่ไร้ตำหนิ ชีวิตที่บริสุทธิ์
เป็นชีวิตที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยพระเจ้าในขณะที่ดำเนินชีวิตตามปกติในแต่ละวัน เช้า สาย บ่าย ค่ำ ไม่ได้ลืมว่า พระเยซูจะเสด็จ กลับมา จึงรอคอยพระองค์ด้วยหัวใจที่โหยหาและระมัดระวัง