สุภาษิต 6 ชีวิตหลายด้านที่ต้องระวัง

เตือนว่าอย่าสัญญาแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง

1 ลูกเอ๋ย หากเจ้าได้เอาตัวไปค้ำประกันให้เพื่อนบ้านของเจ้า
หากเจ้าให้คำสัญญากับคนแปลกหน้า 
2 หากเจ้าติดกับคำจากริมฝีปากของเจ้าเอง
และติดบ่วงด้วยคำจากปากของเจ้า

3 เจ้าจงทำสิ่งนี้ เพื่อปลดปล่อยตนเอง
ในเมื่อเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของเพื่อนบ้าน
ไปสิ ถ่อมตัวลงเสีย และอ้อนวอนขอร้องเขา
4 อย่าปล่อยให้ตาของเจ้าหลับ
อย่าปล่อยให้เปลือกตาปิดลงมา
5 จงช่วยตัวเองให้รอด
เหมือนกับกวางที่หนีจากเงื้อมมือของนายพราน
เหมือนกับนกที่หนีจากกับดักของนักล่านก



ดูมดเป็นตัวอย่าง
6 โอ เจ้าคนสันหลังยาว
จงไปทำตามอย่างมด
ให้เจ้าสังเกตทางของมันและจงฉลาดขึ้น
7 มันไม่มีผู้บัญชาการ
ไม่มีใครมาควบคุม ไม่มีใครปกครอง
8 แต่มันเตรียมอาหารไว้ในฤดูร้อน
มันรวบรวมอาหารในฤดูเก็บเกี่ยว
9 เจ้าจะนอนอยู่ตรงนั้นอีกนานเท่าไร?
เจ้าคนสันหลังยาว เมื่อไรเจ้าจะลุกขึ้นจากหลับ?
10 นอนอีกนิด ง่วงอีกหน่อย
กอดอกนอนอีกสักประเดี๋ยว
11 แล้วความยากจนจะโถมเข้ามาหาเจ้าเหมือนขโมย
ความขัดสนจะเข้ามาหาเจ้าอย่างโจร

ระวังคนแบบนี้ อย่าเข้าไปใกล้
12 คนไร้ค่า คนชั่วร้าย ใช้ชีวิตด้วยปากที่พูดวกวน
13 เขาขยิบตา เขาขยับเท้า และชี้นิ้วควบคุม
14เขาวางแผนทำสิ่งชั่วร้ายจากใจคด
และหว่านการแตกร้าวไม่หยุดหย่อน
15 ดังนั้น ความหายนะจะมาถึงเขาอย่างทันควัน
เขาจะแตกแหลกไป โดยไม่อาจรื้อฟื้นคืนมาได้

สิ่งที่พระเจ้าทรงชัง 7 อย่าง
16 มีหกสิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงชัง
เจ็ดสิ่งที่ทรงรังเกียจ คือ
17 สายตาที่เย่อหยิ่ง ลิ้นที่พูดปด
มือที่ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องหลั่งเลือด
18 ใจที่วางแผนชั่วร้าย
เท้าที่วิ่งไปทำความชั่ว
19 พยานเท็จที่ให้การเท็จ
และคนที่หว่านความแตกร้าวในหมู่พี่น้อง

เตือนว่าอย่าผิดประเวณี
20 ลูกของเราเอ๋ย จงรักษาคำสั่งของพ่อ
และอย่าละทิ้งคำสอนของแม่
21จงจารึกมันไว้บนใจของเจ้า ผูกมันไว้รอบคอของเจ้า
22 เมื่อเจ้าเดินไป มันจะนำทางให้เจ้า
เมื่อเจ้านอนลง มันจะเฝ้าเจ้าไว้ เมื่อเจ้าตื่นขึ้น มันจะพูดกับเจ้า
23 เพราะคำสั่งนี้เป็นเหมือนตะเกียงและคำสอนเป็นแสงสว่าง
คำเตือนสอนให้มีวินัยเป็นหนทางแห่งชีวิต
24 มันจะช่วยเจ้าให้พ้นจากหญิงชั่ว
จากลิ้นอ่อนหวานของหญิงเล่นชู้

คำเตือนในระดับต่อไป
25 อย่าให้ใจของเจ้าเฝ้าฝันถึงความงามของเธอ
อย่าให้ตัวเองตกเป็นทาสเพราะสายตาของเธอ
26 เพราะหญิงแพศยานั้นพอใจแลกตัวกับอาหารมื้อเดียว
และหญิงเล่นชู้จะตามไล่ล่าชีวิตของเจ้า
27 ชายคนหนึ่งจะกอดไฟไว้ในอก
โดยที่เสื้อผ้าไม่ไหม้ได้หรือ?
28 ชายคนหนึ่งจะเดินบนถ่านไฟ
โดยที่เท้าของเขาไม่ไหม้ได้หรือ?
29 ชายใดที่ไปนอนกับภรรยาของผู้อื่นก็เป็นเช่นนี้
ใครที่แตะต้องเธอจะหนีการลงโทษไปไม่ได้


สิ่งที่ได้ตอบแทนจากการเล่นชู้
30 ผู้คนยังไม่ดูหมิ่นคนขโมยหากเขา
จำต้องขโมยเพราะหิวโหย
31 แต่หากถูกจับได้ เขาจะต้องใช้คืนเจ็ดเท่า
อาจจะต้องยกทุกอย่างที่มีในบ้านให้
32 คนที่ล่วงประเวณีนั้นเป็นคนไม่รู้จักคิด
การทำเช่นนั้นเป็นการทำลายชีวิตของตนเอง

33 สิ่งที่ได้รับคือบาดแผลและความอัปยศ
และไม่อาจลบทิ้งความอับอายไปไปได้
34 เพราะความหึงหวงจะทำให้สามีโกรธเกรี้ยว
และเขาจะไม่แสดงความปราณีในวันแห่งการแก้แค้น
35 เขาจะไม่ยอมรับค่าชดใช้ใด ๆ
แม้ว่าคนที่ทำผิดจะให้ทรัพย์สมบัติอย่างมากมาย

คำอธิบายเพิ่มเติม

สุภาษิต 6:1-5
เตือนว่าอย่าสัญญาแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง
ในสมัยของโซโลมอนนั้น คนที่ไปค้ำประกันให้กับเพื่อนที่ไว้ใจไม่ได้ อาจจะต้องเสียทั้งหมดที่มี ครอบครัวด้วย และต้องกลายเป็นทาสของเจ้าหนี้
ในสมัยนี้ก็เช่นกัน อย่าได้ใจดีกับความรับผิดชอบที่เราไม่อาจรับได้ เพราะมันจะทำให้ชีวิตพังไปได้ เราเจอมาเยอะแล้วที่รักเขาแล้วช่วยประกันให้เขา แต่แล้วเขาก็หักหลังไม่ใยดี กลายเป็นเราต้องใช้หนี้ไปตลอดชีวิต ที่แย่กว่านั้นคือ ใจขมขื่นก็จะหยั่งรากลงไป หลายคนถึงกับพยายามฆ่าตัวตาย แต่เมื่อเราพลาดไปแล้ว สิ่งที่ต้องรีบทำสุด ๆ คือการไปเจรจาต่อรอง ไม่ใช่อยู่เฉย ๆ รอให้เรื่องบานปลาย นี่เป็นนิสัยของคนที่จะเอาตัวรอดได้ คือ ต้องจัดการกับประเด็นต่าง ๆ ให้จบแต่ต้นทาง

สุภาษิต 6:6-11
ดูมดเป็นตัวอย่าง
กษัตริย์โซโลมอน ทรงสั่งให้คนเกียจคร้านไปสังเกตว่า มดใช้ชีวิตอย่างไร เพราะท่านเห็นคนไม่น้อยที่ขี้เกียจสันหลังยาว มีนิสัยไม่ยอมทำงาน เอาแต่เผาเวลาแต่ละวันให้หมดไปโดยไม่ได้เห็นคุณค่าของเวลา หากคนเกียจคร้านยอมให้มดสอน ชีวิตของเขาก็จะดีขึ้น… แปลกจัง กษัตริย์ผู้ทรงปัญญา ทรงให้คนไปเรียนจากเจ้ามดตัวน้อย

สุภาษิต 6:12-15
ระวังคนแบบนี้ อย่าเข้าไปใกล้
การคบคนที่วาจาร้าย มุสา วกวน มีใจที่คอยวางแผนชั่ว คนที่คอยหว่านความแตกร้าวในหมู่เพื่อนฝูง ในครอบครัว ในหมู่บ้าน หรือแม้แต่ประเทศชาติ คนเหล่านั้น อาจคิดว่า ตนเองมือหนึ่ง อยู่เหนือคนอื่น แต่พระราชาผู้ปกครองประเทศที่เขียนสุภาษิต ทรงบอกชัดว่า แล้วพวกเขาจะเจอจุดจบอย่างไร

สุภาษิต 6:16-19
สิ่งที่พระเจ้าทรงชัง 7 อย่าง
สังเกตไหมว่า ความยุ่งยากในโลกปัจจุบันนี้มันเกิดขึ้นอย่างไร เริ่มจากสงครามจากนั้น ก็แบ่งฝ่ายเป็นขั้ว ๆ ในโลกนี้ ทั้งหมดเกิดจากนิสัยเจ็ดอย่างของมนุษย์ที่กษัตริย์โซโลมอนเรียงรายการเอาไว้ คนที่หว่านความแตกร้าย และพยานเท็จจะเป็นคนที่กระพือให้ความโกลาหลในโลกของเรายิ่งวุ่นวายมากขึ้นไปอีก เราแทบไม่ต้องไปค้นหาที่ไหนเลย สงครามความแตกร้าวอยู่ต่อหน้าต่อตาของเราทุกหัวระแหง

สุภาษิต 6:20-24
เตือนว่าอย่าผิดประเวณี
จากนั้น องค์กษัตริย์ได้หันมาพูดกับชายหนุ่มโดยตรงว่า การฟังคำของพ่อแม่จะทำให้พ้นจากเรื่องทางเพศ ท่านไม่ได้ขอให้เขาแค่ฟังเฉย ๆ แต่ขอให้จำในใจ คิดใคร่ครวญเสมอ ยามตื่น ยามหลับ ก็ให้คำสอนดี ๆ เป็นแสงสว่างนำทางชีวิต

สุภาษิต 6:25-29
คำเตือนในระดับต่อไป
องค์กษัตริย์ทรงทราบดีว่า หากชายคนหนึ่งไปหลงผู้หญิงเข้าให้แล้วจะเกิดอะไรในใจของเขา เพราะท่านเองได้ตกอยู่ในสภาพนั้นมาก่อน
การที่เล่นกับไฟแบบนี้ ตอนเล่นอยู่นั้น มันสนุก ท้าทาย เย้ายวน แต่แล้วมันก็กลายเป็นเหมือนนรกในเวลาต่อมา เพราะโทษรออยู่ข้างหน้า ท่านได้กล่าวถึงทั้งการเล่นชู้และการเที่ยวเล่นกับหญิง ในสมัยของเราวันนี้ เรื่องที่ท่านกล่าวไม่เจาะจงชายหญิงแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องที่ชุลมุนมาก เพศสภาพที่พยายามสร้างกันขึ้นมา ทำให้เรื่องแบบนี้ซับซ้อนขึ้นไปอีก

สุภาษิต 6:30-35
สิ่งที่ได้ตอบแทนจากการเล่นชู้
ไม่ว่าอะไรที่กษัตริย์โซโลมอนได้เตือนเอาไว้ในโลกโบราณ ผ่านมาหลายพันปี ความจริงก็ยังคงเป็นอย่างนั้น ไม่เฉพาะความอับอายที่เกิดขึ้นกับตน แต่มีพ่อเป็นจำนวนมากที่ทิ้งลูก ๆ ไปเพื่อหาความสุขส่วนตน จำนวนของครอบครัวที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยวมากขึ้นจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไปแล้ว แต่ทั้งหมด มันก็เกิดจากการทำตามใจปรารถนาของตนเอง … เสียดายเด็ก ๆ ที่ขาดพ่อหรือแม่ไปโดยไม่จำเป็น และทำให้พวกเขาเติบโตมาอย่างยากขึ้นไปอีก

พระคำเชื่อมโยง

1* สุภาษิต 11:5
4* สดุดี 132:4
6* โยบ 12:7
9* สุภาษิต 24:33-34
11* สุภาษิต 10:4
13* โยบ 15:12
14* มีคาห์ 2:1; สุภาษิต 6:19

15* อิสยาห์ 30:13; เยเรมีย์ 19:11; 2 พงศาวดาร 36:16
17* สดุดี 101:5; 120:2; อิสยาห์ 1:15
18* ปฐมกาล 6:5; อิสยาห์ 59:7
19* สดุดี 27:12; สุภาษิต 6:14
20* เอเฟซัส 6:1
21* สุภาษิต 3:3
22* สุภาษิต 3:23; 2:11

23* สดุดี 19:8
24* สุภาษิต 2:16
25* มัทธิว 5:28
26* สุภาษิต 29:3
31* อพยพ 22:1-4
32* สุภาษิต 7:7
34* บทเพลงโซโลมอน 8:6

สุภาษิต 5 เหตุใด จึงหายนะ! ?

เอาใจใส่แล้วดีแน่
1 ลูกเอ๋ย จงใส่ใจในปัญญาของเรา
เอียงหูของเจ้าฟังความหยั่งรู้จากเรา
2 เพื่อว่าเจ้าจะได้รักษาดุลยพินิจไว้
และริมฝีปากของเจ้าจะได้รักษาความรู้

ระวังหญิงต้องห้าม
3 ริมฝีปากของหญิงต้องห้ามนั้นหวานราวน้ำผึ้งหยด..
และคำของเธอก็ลื่นไหลยิ่งกว่าน้ำมัน
4 แต่ในที่สุด เธอก็ขมดั่งบอระเพ็ด
และคมกริบยิ่งกว่าดาบสองคม
5 เท้าของเธอเดินลงไปสู่ความตาย
แต่ละก้าวย่างของเธอตรงไปสู่แดนคนตาย
6 เธอไม่ได้สนใจทางแห่งชีวิต เธอไม่ได้รู้เลยว่า
หนทางที่เดินอยู่นั้นไม่มั่นคงแม้แต่น้อย
7 บัดนี้ จงฟังเรา ลูก ๆ เอ๋ย
อย่าหันไปจากคำพูดจากปากของเรา

สิ่งที่จะพบถ้าไม่ระวังตัว
8 เจ้าจงให้ทางของเจ้าห่างจากเธอ
อย่าได้ไปใกล้ประตูบ้านของเธอ
9 เพราะเกรงว่า เจ้าจะสูญเสียพลังแห่งวัยเยาว์ให้กับผู้อื่น
และปีเดือนของเจ้าให้กับคนที่โหดร้าย
10 เกรงว่าคนแปลกหน้าจะมาแย่งความมั่งคั่งของเจ้าไป
และแรงงานของเจ้ากลับไปเป็นประโยชน์ให้กับคนต่างชาติ
11 ในบั้นปลายของชีวิตเจ้าจะคร่ำครวญ
เมื่อทั้งเนื้อหนังและร่างกายของเจ้าถูกใช้งานจนทรุดโทรม
12 และเจ้าจะกล่าวว่า “ดูสิ ข้าเคยเกลียดชังวินัย
และใจของข้าก็ดูหมิ่นคำตักเตือน
13 ข้าไม่ยอมฟังเสียงของครูบาอาจารย์
หรือเอียงหูฟังคำของพี่เลี้ยงที่สอนข้า
14 ข้าเกือบจะตกลงไปในหายนะ
ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก”

อย่าเที่ยวเล่นกับหญิงไปทั่ว
15 จงดื่มน้ำจากบ่อเก็บของเจ้าเอง
และจากน้ำที่ไหลมาจากน้ำพุของเจ้า
16 เหตุใดจึงจะปล่อยให้ธารน้ำของเจ้าไหลไปตามถนน
และสายน้ำของเจ้าไปยังสี่แยกสาธารณะ?
17 จงให้มันเป็นของเจ้าคนเดียวเท่านั้น
อย่าเอาไปแบ่งให้กับคนแปลกหน้า
18 จงให้ธารน้ำพุของเจ้าได้รับพร
และให้เจ้าได้ยินดีกับภรรยาที่ได้มาตั้งแต่ยังหนุ่ม
19 เปรียบดังกวางที่น่ารัก และเลียงผาที่น่าชื่นชม
ขอให้อ้อมอกของเธอทำให้เจ้าพอใจเสมอ
และให้เจ้าได้ดื่มด่ำกับความรักของเธอตลอดไป



พระเจ้าทรงตรวจสอบชีวิต
20 เหตุใดเจ้าจึงจะไปดื่มด่ำกับภรรยาของชายคนอื่น
หรือไปอยู่ในอ้อมกอดของคนแปลกหน้า?
21 เพราะว่าทางของมนุษย์คนหนึ่งก็อยู่ต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์ทรงตรวจสอบหนทางทั้งสิ้นของเขา
22 คนโหดร้ายติดกับความชั่วของตนเอง
บาปของเขาเป็นเชือกรัดเขาแน่น
23 เขาตายไปเพราะชีวิตขาดวินัย
เขาหลงทางไปเพราะความโง่อันมากมายของเขา

ข้อพระคำเชื่อมโยง

2* มาลาคี 2:7
3* สุภาษิต 2:16; สดุดี 55:21
5* สุภาษิต 7:27
18* มาลาคี 2:14
19* บทเพลงโซโลมอน 2:9

20* สุภาษิต 2:16
21* โฮเชยา 7:2
22* กันดารวิถี 32:23
23* โยบ 4:21

สดุดี 119 พระดำรัสที่รัก…

คำนำสำหรับบทที่ 119 สดุดีบทนี้ ใช้การเล่นเหมือนกลอักษร คือ ทุกอักษรที่เริ่มต้นประโยคจะเป็น อักษรตัวเดียวกันในหนึ่งย่อหน้าซึ่งจะยาวแปดข้อ มีอักษรอยู่ 22 ตัวในภาษฮีบรู จึงได้มาเป็น 176 ข้อ

ถ้าอ่านเผิน ๆ ดูเหมือนพูดเรื่องเดียวกันซ้ำ ๆ  แต่หากสังเกตให้ดีจะเห็นคำอธิษฐาน คำสรรเสริญ  บอกความรู้สึก อุทิศตัวเชื่อฟัง มีการทูลอ้อนวอน  แนะนำว่าควรทำอย่างไรกับพระคำ  ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของพระคำของพระเจ้า เช่น ช่วยสร้างปัญญา ทำให้เราหลีกหนีจากบาป เป็นทางแห่งพระพร  
หัวข้อที่สำคัญมากคือ คำที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้าในแง่มุมต่าง ๆ ผู้เขียนใช้คำที่แตกต่างกันเพื่อ ให้เราทราบว่า ท่านกำลังต้องการสื่อในมุมใด คำที่ใช้จึงมี
พระบัญญัติ คำพยาน คำประกาศิต กฎ คำตัดสิน    พระดำรัส  พระวาจา และพันธบัญชา (พระบัญชาของพระเจ้าเป็นพันธสัญญาระหว่างพระองค์กับคนของพระองค์) 
 

1 อาเลฟ

ที่มาของพระพร
1 ความสุขเป็นของคนทั้งหลายที่ใช้ชีวิตอย่างไร้ตำหนิ
คือคนที่เดินใน พระบัญญัติ ของพระยาห์เวห์
2 ความสุขเป็นคนทั้งหลายที่รักษา คำพยาน ของพระองค์
คนที่แสวงหาพระองค์อย่างสิ้นสุดใจ
3 คนที่ไม่ทำความผิดใดๆ
แต่เดินในหนทางของพระองค์
4 พระองค์ทรงบัญชาให้ถือรักษา
คำประกาศิตของพระองค์อย่างเต็มที่
5 โอ ขอให้ข้าทุ่มเทใจ
เพื่อรักษากฎ ของพระองค์
6 เพื่อว่าจะไม่ต้องอับอาย
เมื่อข้าจับจ้องอยู่ที่ พันธบัญชา ของพระองค์
7 ข้าจะสรรเสริญพระองค์ด้วยใจมั่นคง
เวลาที่ข้าเรียนคำตัดสินอันเที่ยงธรรมของพระองค์
8 ข้าจะรักษากฎ ของพระองค์
ขออย่าทรงทอดทิ้งข้าไปอย่างสิ้นเชิง

2 เบธ

เข้ามาเพื่อชีวิตที่บริสุทธิ์​ ชีวิตที่บริสุทธิ์​
9 คนหนุ่มจะรักษาทางของเขาให้บริสุทธิ์อย่างไร? ก็โดยการทำตามพระวาจาของพระองค์
10 ข้าแสวงหาพระองค์ด้วยสุดใจ ขออย่าให้ข้าพลัดหลงไปจากพันธบัญชา ของพระองค์
11 ข้าได้สะสมพระดำรัสของพระองค์ไว้ในใจ เพื่อว่าข้าจะไม่ทำบาปต่อพระองค์
12 ขอถวายพระพรแด่พระองค์
โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงสอนกฎระเบียบของพระองค์แก่ข้า
13 ด้วยปากของข้า ข้าประกาศ คำตัดสิน ทั้งสิ้น จากพระโอษฐ์ของพระองค์
14 ข้ายินดีใน คำพยาน ของพระองค์
เท่ากับที่ยินดีในความมั่งคั่งทั้งมวล
15 ข้าจะตรึกตรองในคำประกาศิตของพระองค์ และจับจ้องอยู่ที่หนทางของพระองค์
16 ข้าจะยินดีในกฎ ของพระองค์
ข้าจะไม่ลืม พระวาจา ของพระองค์

3 กิเมล

คำทูลขอหลายประการ
17ขอพระองค์ทรงเมตตาจัดการกับผู้รับใช้ของพระองค์เพื่อข้าจะมีชีวิตและรักษาพระวาจาของพระองค์
18 ขอทรงเปิดตาข้า เพื่อข้าจะได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ออกมาจากพระบัญญัติของพระองค์
19 ข้าเป็นคนเร่ร่อนในแผ่นดินโลก
ขออย่าทรงซ่อน พันธบัญชา ไว้จากข้าเลย
20 วิญญาณของข้าเร่าร้อนปรารถนาคำตัดสินของพระองค์ไม่หยุดหย่อน
21 พระองค์ทรงกำราบคนโอหัง คนที่ถูกสาป คนที่หลงไปจาก พันธบัญชา ของพระองค์
22 ขอทรงเอาการดูหมิ่น เหยียดหยามออกไปจากชีวิตข้า เพราะข้ารักษาคำพยานของพระองค์
23 แม้ว่าผู้ปกครอง นั่งลงวางแผน ทำลายข้า ผู้รับใช้ของพระองค์ก็ยังคงไตร่ตรองกฎของพระองค์
24 คำพยานของพระองค์เป็นความยินดีของข้าเพราะเหล่านั้นเป็นที่ปรึกษาของข้า

4 ดาเลท

ความเข้าใจที่กว้างขึ้น
25 วิญญาณของข้าเกาะติดผงธุลี
ขอประทานชีวิตแก่ข้าตามพระวาจาของพระองค์
26เมื่อข้าทูลต่อพระองค์ถึงหนทางของข้า
พระองค์ก็ทรงตอบข้า ขอทรงสอนข้อบังคับของพระองค์ให้ข้าด้วย
27 ขอทรงทำให้ข้าเข้าใจถึงทางแห่งประกาศิตของพระองค์ และข้าจะทบทวนตรึกตรองถึงราชกิจอัศจรรย์ของพระองค์
28 วิญญาณของข้าละลายไปเพราะความทุกข์ ขอประทานกำลังเพิ่มให้ตามพระวาจาของพระองค์
29 ขอทรงให้หนทางเท็จนั้นห่างไกลจากข้า
และขอทรงเมตตาสอนพระบัญญัติของพระองค์แก่ข้า
30 ข้าได้เลือกหนทางแห่งความซื่อตรง
และวางคำตัดสินของพระองค์ไว้ต่อหน้า
31 ข้าเกาะติดอยู่กับคำพยานของพระองค์
โอพระยาห์เวห์ ขออย่า ให้ข้าต้องอับอาย
32 ข้าจะวิ่งในทางแห่ง พันธบัญชาของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงทำให้ข้ามีความเข้าใจกว้างขวางขึ้น

5 เฮ

ขอพระเจ้าทรงนำทางชีวิต
33 โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงสอนทางแห่งกฎของพระองค์แก่ข้า
และข้าจะรักษาไว้จนสุดปลายชีวิต
34 ขอให้ข้ามีความเข้าใจเพื่อข้าจะรักษาพระบัญญัติ ของพระองค์และกระทำตามอย่างสุดใจ
35 ขอทรงนำข้าไปในทางของ พันธบัญชา ของพระองค์เพราะข้ายินดีในทางนั้น
36 ขอทรงช่วยให้ใจของข้าโน้มเอียงไปหาคำพยานของพระองค์และไม่เที่ยวหาประโยชน์เข้าตัว
37 ขอทรงหันดวงตาของข้าออกจากการมองดูสิ่งที่ไร้คุณค่าและขอประทานชีวิตให้อยู่ในทางของพระองค์
38 ขอทรงยืนยันพระดำรัสต่อผู้รับใช้ของพระองค์เพื่อว่าเราจะได้ยำเกรงพระองค์
39 ขอทรงนำการตำหนิว่ากล่าวที่ข้าหวั่นนั้นออกไปเพราะ คำตัดสินของพระองค์นั้นดีนัก
40 ดูเถิด ข้าปรารถนาคำประกาศิตของพระองค์ ขอประทานชีวิตแก่ข้าในความเที่ยงธรรมของพระองค์

6 วาฟ

ข้าไม่อายคำพยานของพระองค์
41 โอพระยาห์เวห์ ขอให้ความรักมั่นคงของพระองค์มายังข้า
ขอให้ข้าได้รับความรอดตามพระดำรัส
42 แล้วข้าจะตอบคนที่เย้ยหยันข้า
เพราะข้าวางใจในพระวาจาของพระองค์
43 ขออย่าทรงเอาพระวาจาแห่งความจริงออกไปจากปากของข้า เพราะความหวังของข้านั้นอยู่ใน คำตัดสินของพระองค์
44 ข้าจะรักษาพระบัญญัติ ของพระองค์เสมอตลอดไปเป็นนิตย์
45 และข้าจะเดินไปในหนทางกว้างขวาง
เพราะข้าได้เฝ้าแสวงหาประกาศิตของพระองค์
46 ข้าจะกล่าวถึง คำพยาน ของพระองค์
ต่อหน้าผู้นำทั้งหลายโดยไม่อายเลย
47 เพราะข้าจะยินดีในพันธบัญชา ของพระองค์ ซึ่งเป็นที่รักของข้า
48ข้าจะยกมือขึ้นต่อ พันธบัญชา ของพระองค์ ซึ่งเป็นที่รักของข้า
และข้าจะใคร่ครวญถึงกฎระเบียบของพระองค์

7 ซายิน

กฎของพระองค์คือบทเพลงของข้า
49ขอพระองค์ทรงระลึกถึงพระวาจาที่ทรงมีต่อผู้รับใช้ของพระองค์ เป็นพระดำรัสที่ทำให้ข้ามีความหวังใจ
50 พระดำรัสของพระองค์ให้ชีวิตแก่ข้า
คำนี้เป็นการปลอบใจของข้ายามทุกข์เข็ญ
51 คนที่โอหัง เย้ยหยันข้ายิ่งนัก
แต่ข้าไม่หันไปจาก พระบัญญัติ ของพระองค์
52 เมื่อข้าคิดถึง คำตัดสินของพระองค์ตั้งแต่นานมา
ข้าก็ได้รับการปลอบใจ
53 ข้าโกรธนัก เมื่อเห็นคนชั่วละทิ้ง พระบัญญัติ ของพระองค์
54 กฎของพระองค์ มาเป็นบทเพลงของข้า
ในบ้านที่ข้าพักพิงชั่วครู่ชั่วยาม
55 ยามค่ำ ข้าระลึกถึงพระนามของพระองค์ โอพระยาห์เวห์
และข้าก็รักษา พระบัญญัติ ของพระองค์
56 ข้าได้รักษาประกาศิต ของพระองค์ตลอดมา ข้าจึงได้รับพระพรดังกล่าว

8 เฆท

พระเจ้าทรงเป็นทุกสิ่งในชีวิต
57 พระยาห์เวห์ทรงเป็นทุกสิ่งในชีวิตข้า
ข้าสัญญาว่า จะรักษาพระวาจาของพระองค์
58 ข้าทูลขอความโปรดปรานด้วยสิ้นสุดใจ
ขอทรงกรุณาแก่ข้าตามพระดำรัสของพระองค์
59 เมื่อข้าคิดถึงหนทางของข้า ข้าก็หันเท้าของข้าไปยัง คำพยาน ของพระองค์
60 ข้ารักษา พันธบัญชา ของพระองค์อย่างเร่งด่วน ไม่รีรอ
61 แม้ว่าบ่วงของคนชั่วร้ายดักข้า
ข้าก็จะไม่ลืม พระบัญญัติ ของพระองค์
62 ยามเที่ยงคืน ข้าตื่นขึ้นมาเพื่อสรรเสริญพระองค์
เพราะ คำตัดสิน อันเที่ยงธรรมของพระองค์
63 ข้าเป็นเพื่อนกับทุกคนที่ยำเกรงพระองค์
ทุกคนที่รักษาประกาศิตของพระองค์
64 โอ พระยาห์เวห์ แผ่นดินโลกเต็มไปด้วยความรักมั่นคงของพระองค์
ขอทรงสอนกฎของพระองค์แก่ข้าด้วยเถิด

9 เทท

ประโยชน์ของความทุกข์ยาก
65 โอ พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงดีต่อผู้รับใช้ของพระองค์
ตามพระวาจาของพระองค์​
66 ขอทรงสอนให้ข้าพระองค์มีการพินิจพิเคราะห์ที่ดีและมีความรู้
เพราะข้าพระองค์เชื่อวางใจใน พันธบัญชา ของพระองค์
67 แต่ก่อนข้านั้นต้องทุกข์ยากและหลงไปจากพระองค์
แต่บัดนี้ข้ารักษาพระดำรัสของพระองค์
68 พระองค์ทรงดี และทรงทำสิ่งดี
ขอทรงสอนกฎ ของพระองค์แก่ข้าด้วย
69 คนที่จิตใจโอหังให้ร้ายข้าด้วยคำมุสา
แต่ข้าจะรักษา ประกาศิตของพระองค์ไว้อย่างสุดใจ
70 จิตใจของพวกเขาไร้ความรู้สึกราวกับไขมัน
แต่ข้ายินดีในพระบัญญัติของพระองค์
71เป็นการดีที่ข้าต้องทุกข์ยาก

10 โยธ

พันธบัญชาที่ข้าต้องเรียนรู้
73 พระหัตถ์ของพระองค์ทรงสร้างและปั้นตัวข้าขึ้นมา ขอทรงให้ความเข้าใจแก่ข้าเพื่อข้าจะได้เรียนรู้ พันธบัญชา ของพระองค์
74 คนที่ยำเกรงพระองค์ได้เห็นข้า ก็รู้สึกยินดีเพราะข้าหวังใจในพระวาจาของพระองค์
75 โอพระยาห์เวห์ ข้ารู้ว่า คำตัดสินของพระองค์นั้นเที่ยงธรรม พระองค์ทรงทำให้ข้าทุกข์ยากด้วยความซื่อตรงของพระองค์
76 ขอทรงให้ความรักมั่นคงของพระองค์ปลอบโยนข้า ตามพระดำรัสที่มีต่อผู้รับใช้ของพระองค์
77 ขอให้พระเมตตามายังข้า เพื่อว่าข้าจะมีชีวิตอยู่ เพราะว่า พระบัญญัติของพระองค์เป็นความปีติยินดีของข้า
78 ขอให้คนใจโอหังต้องอับอาย
เพราะว่าพวกเขาได้กล่าวร้ายข้าด้วยคำมุสา
ส่วนข้าจะใคร่ครวญประกาศิตของพระองค์
79 ขอให้คนที่ยำเกรงพระองค์ หันกลับมาหาข้าด้วย เพื่อว่าพวกเขาจะได้รู้จักคำพยานของพระองค์
80 ขอให้ใจของข้าไร้ตำหนิในเรื่องกฎของพระองค์เพื่อข้าจะไม่ต้องรู้สึกละอาย

11 คาฟ

ยามที่อ่อนล้านัก..
81จิตวิญญาณของข้าเหนื่อยล้า รอคอยความรอดของพระองค์ ข้าหวังใจในพระวาจาของพระองค์
82 ดวงตาของข้าอ่อนล้าเฝ้าหาพระดำรัสของพระองค์ เมื่อไรพระองค์จะทรงปลอบโยนข้า?
83 เพราะข้าเองนั้น ได้กลายเป็นเหมือนถุงหนังเหล้าองุ่นที่อยู่ในควัน
ถึงอย่างนั้น ข้าก็ยังไม่ลืมกฎของพระองค์
84 ผู้รับใช้ของพระองค์ต้องอึด อดทนนานอีกเพียงไหน เมื่อไรนะที่พระองค์จะทรงกล่าวคำตัดสินคนที่ข่มเหงข้า
85 คนใจโอหังได้ขุดหลุมดักข้า
พวกเขาไม่ได้ใช้ชีวิตตามพระบัญญัติของพระองค์
86 พันธบัญชา ของพระองค์แน่นอนเป็นจริง
ขอทรงช่วยข้าด้วย เพราะพวกเขาข่มเหงข้าด้วยความเท็จ
87 พวกเขาเกือบจะทำให้ข้าสิ้นไปจากแผ่นดินโลกแล้ว แต่ข้าไม่ได้ละทิ้งประกาศิตของพระองค์
88 ขอทรงรักษาชีวิตข้าไว้ด้วยความรักมั่นคงของพระองค์ เพราะข้าจะรักษาคำพยานจากพระโอษฐ์ของพระองค์

12 ลาเมด

พระเจ้าทรงซื่อตรงทุกชั่วอายุ
89 โอพระยาห์เวห์ พระวาจาของพระองค์ดำรงในสวรรค์อยู่เป็นนิตย์
90 ความซื่อตรงของพระองค์ดำรงทุกชั่วอายุคน
พระองค์ทรงสถาปนาแผ่นดินโลก และมันก็ดำรงอยู่
91 สิ่งเหล่านี้ดำรงมาจนทุกวันนี้ โดยคำตัดสินของพระองค์
เพราะทุกสิ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
92 หากพระบัญญัติของพระองค์ไม่เป็นที่ยินดีของข้าแล้ว
ข้าคงพินาศอยู่ในความทุกข์ยาก
93 ข้าจะไม่ลืมประกาศิตของพระองค์
เพราะพระองค์ประทานชีวิตให้กับข้าด้วยคำนั้น
94 ข้าเป็นของพระองค์ ขอทรงช่วยข้า
เพราะข้าแสวงหาประกาศิตของพระองค์
95 คนชั่วร้ายซุ่มตัวดักทำลายข้า
แต่ข้าใคร่ครวญคำพยานของพระองค์
96 ข้าได้เห็นข้อจำกัดของความเพียบพร้อมทั้งสิ้นแต่
พันธบัญชา ของพระองค์นั้นไร้ขอบเขต

13 เมม

ข้ารักพระบัญญัติจริง ๆ
97 โอ ข้ารักพระบัญญัติของพระองค์ยิ่งนัก
เป็นคำที่ข้าไตร่ตรองทบทวนตลอดทั้งวัน
98 พันธบัญชา ของพระองค์ทำให้ข้ามีปัญญากว่าศัตรูของข้า
เพราะเป็นสิ่งที่อยู่กับตัวข้าเสมอ
99 ข้ามีความเข้าใจเกินกว่าครูอาจารย์ของข้า
เพราะข้าใคร่ครวญคำพยานของพระองค์
100 ข้าเข้าใจมากกว่าผู้สูงอายุทั้งหลาย
เพราะข้ารักษาประกาศิตของพระองค์
101 ข้ายับยั้งไม่ให้เท้าก้าวเข้าไปสู่ทางชั่วทั้งหลาย
เพื่อว่าจะได้ทำตามพระวาจาของพระองค์
102 ข้าไม่หันไปจากคำตัดสินของพระองค์
เพราะว่าพระองค์ทรงสอนข้าด้วยพระองค์เอง
103 พระดำรัสของพระองค์นั้นหวานชื่น ยิ่งกว่าน้ำผึ้งในปากของข้า
104 โดยประกาศิตของพระองค์ ทำให้ข้ามีความเข้าใจ
ดังนั้นข้าจึงเกลียดชังทางแห่งความเท็จทั้งสิ้น

14 นูน

ความสว่างส่องทางชีวิต
105 พระวาจาของพระองค์เป็นตะเกียงสำหรับเท้าของข้า
เป็นแสงสว่างแก่ทางของข้า
106 ข้าได้ปฏิญาณ และยืนยันว่า
จะรักษาคำตัดสินอันเที่ยงธรรมของพระองค์ไว้
107 ข้าพบความทุกข์ยากแสนเข็ญ โอพระยาห์เวห์
ขอโปรดให้ข้ามีชีวิตตามพระวาจาของพระองค์เถิด
108 โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงรับเครื่องบูชาแห่งการสรรเสริญ
ที่ถวายด้วยความตั้งใจ
และขอทรงสอนคำตัดสินของพระองค์แก่ข้า
109  ชีวิตของข้าตกอยู่ในอันตรายไม่หยุด
แต่ข้าไม่ลืมพระบัญญัติของพระองค์
110 คนชั่วร้ายได้วางกับดักไว้
แต่ข้าจะไม่หลงทางไปจากประกาศิตของพระองค์ 
111 คำพยานของพระองค์เป็นมรดกของข้าตลอดไป
เพราะคำนั้นเป็นความยินดีในใจข้า 
112 ข้าน้อมใจของข้าเพื่อทำตามกฎของพระองค์
ตลอดไป

15 ซาเมค

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรู
113 ข้าชังคนสองใจ แต่ข้ารักพระบัญญัติของพระองค์ 
114พระองค์ทรงเป็นที่กำบังและโล่ของข้า 
ข้าหวังใจในพระวาจาของพระองค์ 
115 คนชั่ว จงออกห่างข้าไป
เพื่อว่าข้าจะได้รักษา พันธบัญชา ของพระเจ้าของข้า
116 ขอพระองค์ทรงค้ำชูข้าตามพระดำรัสเพื่อข้าจะมีชีวิตอยู่
และขออย่าให้ข้าต้องอายเพราะความหวังของข้า 
117 ขอทรงประคองข้าขึ้นมา เพื่อว่าข้าจะปลอดภัย
และนับถือกฎของพระองค์เสมอ
118 พระองค์ทรงไล่คนที่หลงไปจากกฎ
ของพระองค์ เล่ห์เหลี่ยมของพวกเขานั้นไร้ผล
119 พระองค์จะทรงทิ้งคนชั่วร้ายของโลก
เหมือนทิ้งขี้แร่ ดังนั้น ข้ารักคำพยานของพระองค์
120 เนื้อหนังของข้าสั่นเทาด้วยความยำเกรงพระองค์
และข้ากลัวคำตัดสินของพระองค์ 

16 อายิน

คำรับรองของพระเจ้า
121 ข้าได้ทำตามคำตัดสินที่เที่ยงตรง
ขออย่าทรงทิ้งข้าไว้กับคนที่บีบคั้นข้าเลย
122 ขอพระองค์ทรงรับรองว่า ข้าจะปลอดภัย
ขออย่าทรงยอมให้คนโอหังบีบคั้นข้า
123 ดวงตาของข้าหิวหาความรอดของพระองค์
และคอยให้พระดำรัสอันเที่ยงธรรมของพระองค์บรรลุผล
124 ขอทรงทำกับผู้รับใช้ของพระองค์ตามความรักมั่นคง
และขอทรงสอนกฎของพระองค์แก่ข้า
125 ข้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
ขอโปรดประทานความเข้าใจให้ด้วย
เพื่อข้าจะรู้จักคำพยานของพระองค์
126 นี่เป็นเวลาที่พระเจ้าทรงทำราชกิจ
เพราะมีการฝ่าฝืนพระบัญญัติของพระองค์
127 ดังนั้นข้ารัก พันธบัญชา ของพระองค์
มากกว่าทองคำ มากกว่าทองคำบริสุทธิ์
128 ดังนั้น ข้าจึงมองเห็นว่าประกาศิตของพระองค์ถูกต้องทั้งสิ้น
ข้าเกลียดชังทุกเส้นทางที่ปลอมขึ้นมา

17 เพ

ความมหัศจรรย์แห่งพระวาจา
129 คำพยานของพระองค์นั้นมหัศจรรย์
จิตใจของข้าจึงรักษาเอาไว้
130 การเปิดเผยพระวาจาของพระองค์
ให้ความกระจ่าง ทำให้คนรู้น้อยเข้าใจ
131ข้าโหยหา พันธบัญชา ของพระองค์จนเหนื่อยหอบปากอ้า
132 ขอทรงหันมาหาข้า และเมตตาข้าด้วย
ตามคำตัดสินที่ทรงทำแก่คนที่รักพระนามของพระองค์
133 ขอทรงช่วยให้ย่างเท่าของข้ามั่นคงตามพระดำรัสของพระองค์
และอย่าให้มีความชั่วใด ๆ มาครอบงำข้าไว้
134 ขอทรงไถ่ข้าจากการบีบบังคับของมนุษย์
เพื่อว่าข้าจะได้รักษาประกาศิตของพระองค์
135 ขอทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ฉายแสงลงมายังตัวข้า
และขอทรงสอนระเบียบของพระองค์ให้ด้วย
136 ข้าร่ำไห้ หลั่งน้ำตาเป็นสาย
เพราะผู้คนไม่รักษาพระบัญญัติของพระองค์

18 ซาเด

ยินดีเพราะพันธบัญชาของพระองค์
137 โอ พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเที่ยงธรรม และคำตัดสินของพระองค์ก็เที่ยงตรง
138 พระองค์ทรงสถาปนาคำพยานของพระองค์ในความเที่ยงตรง และความซื่อตรงทั้งสิ้น
139 ข้าเร่าร้อนใจยิ่งนักเพราะศัตรูของข้าลืมพระวาจาของพระองค์​
140 พระดำรัสของพระองค์ได้รับการพิสูจน์แล้ว
และผู้รับใช้ของพระองค์รักคำนั้น
141ข้าเป็นคนต่ำต้อยและถูกเหยียดหยาม
แต่ข้าไม่ลืมประกาศิตของพระองค์
142 ความชอบธรรมของพระองค์ เที่ยงธรรมตลอดไป
และพระบัญญัติของพระองค์เป็นจริง
143 ความยากลำบากและความทุกข์โศกมายังชีวิตของข้า
แต่ข้ายินดีใน พันธบัญชา ของพระองค์
144 คำพยานของพระองค์นั้นเที่ยงธรรมตลอดไป
ขอประทานความเข้าใจแก่ข้าเพื่อข้าจะมีชีวิตอยู่

19 โคฟ

คำอธิษฐานอย่างสุดใจ
145 โอ พระยาห์เวห์ ข้าร้องทูลอย่างสุดใจ
ขอทรงโปรดตอบข้า ข้ารักษากฎของพระองค์
146 ข้าร้องหาพระองค์ ขอทรงช่วยให้รอด
เพื่อว่าข้าจะได้พินิจคำพยานของพระองค์
147 ข้าตื่นก่อนตะวันขึ้น และร้องขอความช่วยเหลือ
ข้าหวังใจในพระวาจาของพระองค์
148 ตาของข้าเปิดอยู่ทุกเวลายามค่ำ
เพื่อว่าข้าจะได้ใคร่ครวญพระดำรัสของพระองค์
149 ขอทรงฟังเสียงของข้าตามความรักมั่นคงของพระองค์
โอ พระยาห์เวห์ ขอประทานชีวิตแก่ข้า
ตามคำตัดสินของพระองค์
150 คนที่ต้องการข่มเหงข้านั้นเข้ามาใกล้ด้วยการมุ่งร้าย
พวกเขาอยู่ห่างจากพระบัญญัติของพระองค์
151 โอพระยาห์เวห์ แต่พระองค์ทรงอยู่ใกล้
และ พันธบัญชา ทั้งสิ้นของพระองค์ก็เป็นจริง
152 ข้ารู้มานานแล้วจากคำพยานของพระองค์ว่า
พระองค์ทรงตั้งคำนั้นไว้ให้อยู่เป็นนิรันดร์

20 เรช

ขอพระเจ้าทรงช่วยกู้
153 ขอทอดพระเนตรดูความทุกข์ยากของข้า
และขอทรงช่วยกู้ข้าให้พ้น
เพราะข้าไม่ได้ลืมพระบัญญัติของพระองค์
154 ขอทรงสู้คดีให้ข้า และขอทรงไถ่ข้า
ขอประทานคืนชีวิตให้ตามพระดำรัสของพระองค์
155 ความรอดนั้นอยู่ห่างจากคนชั่วร้าย
เพราะพวกเขาไม่ได้ตามหากฎของพระองค์
156 โอ พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเต็มด้วยพระเมตตา
ขอประทานชีวิตแก่ข้าตามคำตัดสิน ของพระองค์
157 คนที่มาข่มเหงและศัตรูของข้ามีมากมายนัก
แต่ข้าจะไม่หันไปจากคำพยานของพระองค์
158 ข้ามองดูคนไร้ความเชื่อด้วยความชัง
เพราะพวกเขาไม่รักษา พระดำรัสของพระองค์
159 ขอพระองค์ทรงพิจารณาว่า
ข้ารักประกาศิตของพระองค์มากเพียงไร
ขอประทานชีวิตแก่ข้าตามความรักมั่นคงของพระองค์
160 ความจริงคือแก่นแท้ของพระวาจาของพระองค์
และคำตัดสินอันเที่ยงธรรมของพระองค์นั้นดำรงเป็นนิตย์

21
ชินหรือซีน

ข้าจะไม่สะดุด เพราะมนุษย์คนใด
161 เหล่าผู้ปกครองข่มเหงข้าอย่างไร้สาเหตุ
แต่ใจของข้านั้น ยืนอย่างยำเกรงต่อพระวาจาของพระองค์
162 ข้ายินดีในพระดำรัสของพระองค์
ราวกับคนที่ได้เจอของที่ถูกริบมาเป็นอันมาก
163 ข้าจงเกลียดจงชังความเท็จ
แต่ข้ารักพระบัญญัติของพระองค์
164 ข้าสรรเสริญพระองค์วันละเจ็ดครั้ง
เพราะคำตัดสินอันเที่ยงตรงของพระองค์
165 คนที่รักพระบัญญัติของพระองค์นั้นจะมีสันติสุขยิ่งใหญ่
ไม่มีสิ่งใดทำให้เขาสะดุดล้มได้
166 โอ พระยาห์เวห์ ข้าหวังใจในความรอดของพระองค์
และข้าทำตาม พันธบัญชา ของพระองค์
167 วิญญาณของข้ารักษาคำพยานของพระองค์ไว้
และข้ารักคำนั้นอย่างท่วมท้น
168 ข้ารักษาประกาศิตและคำพยานของพระองค์
เพราะหนทางของข้าอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์

22 ทาฟ

ข้าหลงทาง ขอทรงตามหาข้าด้วย
169 โอ พระยาห์เวห์ ขอให้เสียงร้องทูลของข้ามาถึงพระพักตร์พระองค์
ขอทรงโปรดให้ข้ามีความเข้าใจแจ่มแจ้งตามพระวาจาของพระองค์
170 ขอให้คำร้องขอไปถึงพระองค์
ขอทรงช่วยกู้ข้าตามพระดำรัสสัญญา
171 ริมฝีปากของข้าจะกล่าวคำสรรเสริญ
เพราะพระองค์ทรงสอนกฎของพระองค์แก่ข้า
172 ลิ้นของข้าจะร้องพระดำรัสของพระองค์
เพราะ พันธบัญชา ของพระองค์ทุกข้อเที่ยงธรรมทั้งสิ้น
173 ขอให้พระกรของพระองค์พร้อมที่จะช่วยข้า
เพราะข้าได้เลือกเดินตามประกาศิตของพระองค์
174 ข้าปราถนาความรอดของพระองค์ โอ พระยาห์เวห์
และพระบัญญัติของพระองค์เป็นความยินดีของข้า
175 ขอให้จิตวิญญาณของข้ามีชีวิตและสรรเสริญพระองค์
และขอให้ คำตัดสินของพระองค์ ช่วยข้าไว้
176 ข้าหลงทางไป เหมือนแกะหลง
ขอพระองค์ทรงตามหาผู้รับใช้ของพระองค์ด้วย
เพราะข้าไม่ลืม พันธบัญชา ของพระองค์

สุภาษิต 4 ตั้งใจฟัง


ส่งต่อปัญญา จากรุ่นสู่รุ่น
1 ลูก ๆ ของเราเอ๋ย
จงฟังคำสอนของพ่อและเอาใจใส่
และเจ้าจะได้รับความเข้าใจ
2 เพราะเราสอนสิ่งที่ดีให้แก่เจ้า
ดังนั้นอย่าละทิ้งคำชี้แนะของเรา 
3 ตอนที่เราเป็นลูกชายในบ้านของพ่อ
เราเป็นเด็กอ่อนวัย และเป็นลูกชายคนเดียวของแม่เรา
4 พ่อสอนเราว่า “ให้ใจของเจ้ายึดคำของเราไว้
และรักษาคำสั่งของพ่อ แล้วเจ้าจะมีชีวิต”
5 จงรับปัญญา จงรับความเข้าใจ
อย่าลืมคำของพ่อ อย่าหันหลังให้คำที่พ่อสอน
6 อย่าละทิ้งปัญญา เพราะปัญญาจะช่วยปกป้องเจ้าไว้
จงรักเธอ และเธอจะคุ้มภัยให้เจ้า

7 ปัญญานั้นสูงส่ง ดังนั้นเจ้าจะต้องรับปัญญาไว้
และจากสิ่งที่เจ้าจะได้รับ จงเอาความเข้าใจไว้
8 จงรู้ถึงคุณค่าของปัญญา
และเธอจะยกย่องเจ้า หากเจ้ากอดเธอไว้
เธอจะให้เกียรติเจ้า

9 เธอจะสวมมาลัยแห่งพระคุณไว้บนหัวของเจ้า
และเธอจะมอบมงกุฎที่ทรงเกียรติให้แก่เจ้า

เลือกทางที่ถูกต้อง
10 ลูกเอ๋ย จงรับคำของเรา
และเจ้าจะมีชีวิตที่ยืนยาว
11 พ่อจะนำเจ้าไปในทางแห่งปัญญา
พ่อจะนำเจ้าไปในทางตรง
12 เมื่อเจ้าเดิน เจ้าจะไม่ถูกขวางกั้น
เมื่อเจ้าวิ่ง เจ้าจะไม่สะดุด
13 จงยึดคำสอนไว้ให้มั่นคง
อย่าปล่อยคำสอนให้หลุดมือไป
จงรักษาไว้ เพราะมันเป็นชีวิตของเจ้า

ทางนี้ไม่เลือก
14 อย่าเดินเข้าไปในทางของคนโหดร้าย
หรือเดินในทางของคนทำชั่ว
15 จงหลีกให้พ้น อย่าเดินเข้าไปในทางนั้น
หันหลังให้กับทางนั้น และเลี่ยงไปเสีย
16 เพราะคนเหล่านี้นอนไม่หลับ
จนกว่าจะได้ทำชั่วเสียก่อน
พวกเขาหลับไม่ลง จนกว่าจะทำให้ใครสักคนล้มลงก่อน
17 พวกเขากินความชั่วร้ายเป็นอาหาร
พวกเขาดื่มเหล้าองุ่นแห่งความรุนแรง
18 แต่ทางของคนเที่ยงธรรมเป็นเหมือนแสงอรุณ
ค่อย ๆ ฉายแสง แรงขึ้น ๆ จนเที่ยงวัน
19 แต่ทางของคนโหดร้ายเป็นความมืดมน
พวกเขาไม่รู้ว่า อะไรทำให้พวกเขาสะดุดล้ม


เอาใจใส่ รักษาใจและความคิด
20 ลูกเอ๋ย จงตั้งใจฟังคำพูดของพ่อ
เอียงหูของเจ้าฟังคำของพ่อ
21 อย่าให้มันคลาดจากสายตาของเจ้า
รักษามันไว้ในใจของเจ้า
22 เพราะมันเป็นชีวิตแก่ผู้ที่ค้นพบ
และทำให้ทั้งร่างกายมีสุขภาพดี
23 จงเอาใจใส่ดูแลรักษาใจของเจ้าให้ดีที่สุด
เพราะจากใจคือสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต

จดจ่อในทางเดิน
24 จงเอาคำหลอกล่อไปจากปากของเจ้า
อย่าให้ริมฝีปากของเจ้าเอ่ยคำตลบตะแลง
25 จงให้ตาของเจ้ามองตรงไป
จดจ่อ แน่วแน่ไปข้างหน้า
26 จงเอาใจใส่ ระวังย่างเท้าของเจ้า
และเจ้าจะเดินอย่างมั่นคงในทางนั้น

27 อย่าหันไปทางขวาหรือทางซ้าย
จงเบี่ยงเท้าของเจ้าออกจากความชั่ว

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 34:11
3* 1 พงศาวดาร 29:1
4* 1 พงศาวดาร28:9; สุภาษิต 7:2
5* สุภาษิต2:2-
6* 2 เธสะโลนิกา 2:10
7* มัทธิว 13:44

8* 1 ซามูเอล 2:30
9* สุภาษิต 3:22
10* สุภาษิต 3:2
11* 1 ซามูเอล 2:30
12* สดุดี 18:36; 91:11
14* สดุดี 1:1

16* สดุดี 36:4
18* มัทธิว 5:14, 45;
2 ซามูเอล 23:4
19* อิสยาห์ 59:9-10
23* มัทธิว 12:34;15:18-19
26* ฮีบรู 12:3