1 ยอห์น 5 เกิดจากพระเจ้า

เกิดจากพระเจ้า มีความรัก

ทุกคนที่เชื่อว่า
พระเยซูคือพระคริสต์
(พระเมสสิยาห์)
เป็นคนที่บังเกิดจากพระเจ้า
และทุกคนที่รักองค์พระบิดานั้น ก็ย่อมรักพระบุตรของพระองค์ด้วย
1 ยอห์น 5:1

1 ยอห์น 2:22; 4:2,15; ยอห์น 1:13

ท่านยอห์น เป็นอัครทูตที่อยู่ใกล้ชิดพระเยซูมาก ท่านเห็นด้วยตา สัมผัสด้วยประสาทสัมผัส ทั้งหมด และรู้ด้วยใจมาตลอดว่า
พระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าจริง ๆ ไม่ใช่มนุษย์เดินดินธรรมดาท่านสรุปคำง่าย ๆ ว่า ใครก็ตามที่เชื่อว่าพระเยซู
ทรงเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงส่งมาเป็นผู้ช่วยให้รอด จากบาป เขาก็เกิดใหม่จากพระเจ้า และเขาจะรักทั้งองค์พระบิดาและพระบุตร!

เราจะได้รู้ว่า เรารักคนที่เป็นลูกของพระองค์
ก็เมื่อเรารักพระเจ้า และทำตามพระบัญญัติของพระองค์​
1 ยอห์น 5:2

ยอห์น 15:1; 1 ยอห์น 2:5; ยอห์น 13:34-35

การที่คนหนึ่งรักพระเจ้า และทำตามพระบัญญัติที่พระเยซูทรงให้ไว้เมื่อนานมาแล้วนั้น เราจะเห็นคนนั้นมีความรักมาก รักคนที่เป็นลูกของพระเจ้าเป็นพิเศษ ท่านยอห์นมีอายุมาก ๆ หลังจากที่ท่านกลับมาจากเกาะพัทโมส เมื่อจะไปเยี่ยมคริสตจักรก็ต้องมีคนช่วยหามท่าน ไปเพราะเดินไม่ไหว และคำเทศนาของท่าน
มีแค่ว่า “ลูกเอ๋ย จงรักกันและกัน”!

การที่เรารักพระเจ้านั้น ก็แสดงออกมาด้วยการที่เราเชื่อฟังทำตามพระบัญญัติของพระองค์
และพระบัญญัตินั้น ไม่ได้เป็นภาระหนักสำหรับเราเลย
1 ยอห์น 5:3

ยอห์น 14:15; มัทธิว 11:30; 23:4

เมื่อเรารักใครสักคน การทำสิ่งต่าง ๆ ให้เขานั้นไม่ได้เป็นภาระ แต่มันกลับกลายเป็นความสุข ที่ได้ทำให้เขา เมื่อรักพระเจ้าก็ทำตามพระบัญญัติ แห่งรักได้โดยไม่ได้ฝืนใจตนเอง
พระคำตอนนี้ บอกถึงความจริงที่เกิดขึ้นในชีวิต ของทุก ๆ คน ความรักทำให้ทุกสิ่งไม่ได้เป็น ภาระหนัก แต่การที่ต้องรักษากฎศีลธรรมที่มนุษย์ตั้งขึ้นมานั้น ยากกว่าเป็นไหน ๆ

เกิดจากพระเจ้า มีชัยชนะ

เพราะทุกคนที่เกิดจากพระเจ้าก็ชนะโลก
ความเชื่อที่เรามีอยู่ทำให้เรา
มีชัยชนะเหนือโลก
บัดนี้ ใครล่ะ ที่ชนะโลก?
ก็คือเฉพาะคนที่เชื่อว่า
พระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า
1 ยอห์น 5:4-5

ยอห์น 16:33; 1 ยอห์น 2:13; 1 โครินธ์ 15:57

การเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า และปฏิบัติต่อพระองค์อย่างสมควรกับฐานะที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตคริสเตียน เป็นรากฐานของชีวิตแห่งความเชื่อ เราจะชนะโลกที่เข้ามาล่อลวง หลอกล่อเราทุกวันได้ก็เมื่อเรามีความสัมพันธ์สนิทกับพระเยซูคริสต์ มีความเชื่อในพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ที่จะช่วยให้เราเอาชนะโลกได้

พระเยซูเชื่อมพระเจ้ากับเรา

พระเยซูคริสต์เสด็จมาโดยน้ำและพระโลหิต
พระองค์มิได้เสด็จมาโดยน้ำเท่านั้น
แต่โดยน้ำและพระโลหิต
พระวิญญาณทรงเป็นพยานยืนยัน
เพราะพระวิญญาณทรงเป็นความจริง
1 ยอห์น 5:6

ยอห์น 16:13; 15:26; ฮีบรู 9:14

พระคำข้อนี้ เป็นข้อที่ลึกลับและเข้าใจยากมากมีความเห็นหลายแบบ แต่ที่เราเห็นชัดคือ น้ำที่ท่านยอห์นหมายถึงคือการบัพติศมาพระโลหิตคือการถูกตรึงบนไม้กางเขน และในวันนั้นที่ทรงรับบัพติศมา พระบิดาและพระวิญญาณก็ทรงปรากฏ เมื่อทรงสิ้นพระชนม์บนกางเขน เพื่อรับโทษบาปของมนุษย์เรา และทั้งหมดนี้ พระวิญญาณผู้ทรงเป็นความจริงทรงเป็นพยานในใจของเราด้วยพระองค์เอง

พยานจากพระเจ้าและจากมนุษย์

ด้วยว่า มีสามสิ่งที่เป็นพยานยืนยัน
คือพระวิญญาณ และน้ำ
และพระโลหิต
และทั้งสามนี้สอดคล้อง
เป็นหนึ่งเดียวกัน
1 ยอห์น 5:7-8

มัทธิว 28:19; กิจการ 5:32;
1 เปโตร 3:21; ยอห์น 15:26; กิจการ 2:2-4

ตอนที่พระเยซูทรงรับบัพติศมาในน้ำกับยอห์น (มัทธิว 3:13-17) นั้น องค์พระวิญญาณและพระสุรเสียงของพระบิดาได้ลงมาปรากฏให้คนใน เหตุการณ์นั้นได้เห็นและบันทึกไว้ การสิ้นพระชนม์ของพระเยซู (มัทธิว 27:54) พระโลหิตที่หลั่งไหลทำให้รู้ว่า พระองค์คือพระบุตรของพระเจ้า และพระวิญญาณทรงเป็นพยานตลอดชีวิตของพระองค์ในโลกบอกว่าพระองค์คือผู้ใด(มาระโก 1:12; กิจการ 10:38

คำพยานของมนุษย์เรายังยอมรับได้ พยานของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่กว่า
เพราะเป็นคำพยานของพระเจ้ายืนยันเรื่องพระบุตรของพระองค์
1 ยอห์น 5:9

กิจการ 17:31; มัทธิว 3:16-17; ยอห์น 10:38

นี่เป็นข้อความต่อมาที่บอกว่า พยานจาก พระเจ้าคือ พระวิญญาณ น้ำ และพระโลหิต เป็นพยานที่เป็นหนึ่งเดียว พยานนี้ เป็นพยานที่ยิ่งใหญ่ และมีค่ามาก เพราะเป็นพยานด้วยชีวิตขององค์ พระเยซูที่ทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์เลยทีเดียว
พยานแปลว่าผู้ที่รู้เห็นเหตุการณ์หรือข้อเท็จจริงที่ใช้เป็นหลักฐานเครื่องพิสูจน์ได้ พระเจ้าเอง ทรงเป็นพยานผ่านเหตุการณ์ และ พระคัมภีร์ที่สืบเนื่องยาวนานหลายพันปี

ผู้ที่เชื่อในพระบุตรของพระเจ้า ก็มีคำพยานนี้อยู่ในตัวเขา
ผู้ที่ไม่เชื่อพระเจ้าก็ทำให้
พระองค์เป็นพยานที่มุสา
เพราะเขาไม่เชื่อในคำพยานที่พระเจ้าทรงยืนยันถึงพระบุตรของพระองค์​
1 ยอห์น 5:10

โรม 8:16; กาลาเทีย 4:6; ยอห์น 3:33

พระคำตอนนี้แรงมาก ชัดเจน เมื่อเราเชื่อพระคำ ของพระเจ้า เชื่อสิ่งที่พระคัมภีร์บันทึกไว้ เราก็ เชื่อพระเจ้าที่ตรัสผ่านพระคัมภีร์ แต่มีคนที่ไม่เชื่อพระคัมภีร์ ไม่ยอมรับสิ่งที่พระเจ้าทรงบอกเรื่องราวในอดีต ในอนาคต พวกเขาจึงทำเสมือนว่าพระองค์ทรงเป็นพยานเท็จในสายตาของเขา นี่เป็นคำอธิบายเรียบง่าย สำหรับพระคำข้อนี้

ความมั่นใจในชีวิตนิรันดร์

และคำพยานนี้ก็คือ พระเจ้าประทานชีวิต
นิรันดร์แก่เรา
และชีวิตนิรันดร์นี้ อยู่ในพระบุตรของพระองค์ ผู้ที่มีพระบุตรก็มีชีวิต และผู้ที่ไม่มีพระบุตรของพระเจ้าก็ไม่มีชีวิต
1 ยอห์น 5:11-12

ยอห์น 2:25; โรม 6:23; 1 ยอห์น 5:20; ยอห์น 3:36; 3:15; 5:24; 1:12

พระเจ้าทรงมอบชีวิตนิรันดร์ให้กับทุกคนที่เชื่อในพระนามของพระเยซู ดังที่ตรัสว่า “เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระบุตรนั้น จะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น 3:16) พระคำข้อนี้จากท่านยอห์น สอคล้องกับสิ่งที่พระเยซูตรัสไว้ในหนังสือยอห์นทุกประการ

ข้าเขียนทุกสิ่งเหล่านี้มาถึงท่านที่เชื่อในพระนามของพระบุตรพระเจ้าเพื่อท่านจะได้รู้ว่า ท่านมีชีวิตนิรันดร์
1 ยอห์น 5:13

ยอห์น 20:31; 1:12; 1 ยอห์น 3:23

การมีชีวิตนิรันดร์ไม่ใช่ว่า ตายไปแล้วจึงจะได้ไปอยู่กับพระเจ้าและมีชีวิตนิรันดร์ แต่เป็น ชีวิตนิรันดร์ที่เริ่มต้นมีตั้งแต่อยู่ในโลกนี้ ท่านยอห์นต้องการให้พี่น้องทุกคนมีความมั่นใจในชีวิตนิรันดร์ที่พระเจ้าประทานมีเราบางคนที่ไม่มั่นใจว่าตนเองมีชีวิตนิรันดร์ไหมเพราะคิดว่าตัวเองดีไม่พอ เขาลืมไปว่า เมื่อพระเจ้าประทานให้ เขาก็ได้รับตามเงื่อนไขของพระองค์แล้ว

มั่นใจเมื่ออธิษฐาน

และนี่คือความมั่นใจที่เรามีอยู่เมื่อเราเข้าเฝ้าพระเจ้า
คือหากเราทูลขอสิ่งใด
ตามน้ำพระทัยของพระองค์ พระองค์ก็ทรงฟังเรา
1 ยอห์น 5:14

เยเรมีย์ 33:3; 29:12-13; ยอห์น 14:13

เมื่อเรากลับไปอ่านคำอธิษฐานของพระเยซูพระองค์ตรัสว่า น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จในสวรรค์อย่างไร ก็ให้สำเร็จเช่นนั้นในแผ่นดินโลกเหมือนกัน คำอธิษฐานนี้ยังคงมีอยู่ และผู้เชื่อก็อธิษฐาน ทุกวัน คนมากมายยังจึงมีโอกาสที่จะได้กลับมาหาพระเจ้าได้ เพราะผู้เชื่อได้อธิษฐานตามพระประสงค์ที่จะทรงสร้างชีวิตใหม่ให้กับชาวโลก

และถ้าเรารู้ว่า
พระองค์ทรงฟังเรา
ไม่ว่าเราจะทูลขอสิ่งใด
เราก็รู้ว่า
เราจะได้รับสิ่งที่เราทูลขอนั้น จากพระองค์​
1 ยอห์น 5:15

ลูกา 11:9-10; สุภาษิต 15:29; สดุดี 37:4

แต่สำหรับชีวิตประจำวันของเราล่ะ ? พระองค์จะทรงฟังเราไหม? พระองค์ทรงยินดีที่จะฟังคำขอของลูก ๆ ทั้ง หลายอยู่แล้ว คนที่เป็นลูกของพระเจ้าจริง เข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าจริงก็เหมือนคนที่เป็นลูกและเข้าใจว่าพ่อเป็นคนอย่างไร และขอ ในสิ่งที่พ่อพอใจจะให้ ขอในสิ่งที่เขาไม่อาจทำได้ ด้วยตัวเอง ขอเพราะเขารู้แน่ว่าต้องพึ่งพาจากพ่อเท่านั้น

การอธิษฐานเพื่อเพื่อนที่ทำบาป

ถ้าคนใดเห็นพี่น้องของเขาทำบาปที่ไม่นำไปสู่ความตาย เขาควรจะอธิษฐานขอ
และพระองค์จะประทานชีวิตให้แก่คนที่ทำบาปอย่างที่ไม่นำไปสู่ความตาย บาปที่นำไปสู่ความตายนั้นก็มีอยู่ ซึ่งข้าไม่ได้ขอให้อธิษฐาน ขอสำหรับคนที่ทำบาปเช่นนั้นการอธรรมทั้งสิ้นเป็นบาป แต่ก็ยังมีบาปที่ไม่นำไปสู่ความตาย
1 ยอห์น 5:16-17

ฮีบรู 6:4-6; 10:26-31; 1 ยอห์น 3:4; 5:16

พระคำตอนนี้ยากที่จะอธิบายสั้น ๆ หลายท่านมีความเห็นว่า ท่านยอห์นกำลังหมายความว่า มีบางคนกำลังทำบาปที่ทำให้เขาต้องเสียชีวิต เราไม่ทราบว่า เป็นบาปอะไร ดูเหมือนว่าคนที่ ทำบาปคนนั้นจะไม่ยอมฟังคำเตือนของเพื่อน ๆ เสียด้วย อาจมีความเห็นอื่นสำหรับพระคัมภีร์ข้อนี้

เรารู้ว่า ทุกคนที่เกิดจากพระเจ้า
ไม่ทำบาปต่อเนื่อง
แต่พระองค์ผู้ทรงเกิดจากพระเจ้าทรงคุ้มครองเขาให้ปลอดภัย และมารร้ายไม่อาจแตะต้องเขาได้
1 ยอห์น 5:18

1 ยอห์น 3:9; 5:4; ยูดา 21; ยากอบ 1:27

คนของพระเจ้า จะไม่มีนิสัยทำบาปแบบทำไป เรื่อย ๆ เพราะว่าเขาเกิดใหม่จากพระเจ้าแล้ว ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนแปลงไป เราเห็นได้จากคน มากมายที่กลับใจมาเชื่อพระเจ้าที่ความคิดความประพฤติ ค่านิยมต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไป ไม่ เหมือนเดิมอีกต่อไป พระเจ้าทรงดูแลให้เขารอดพ้นภัยจากมารร้าย ด้วยพระองค์เอง ด้วยทูตสวรรค์ที่ทรงส่งมา ด้วยพระวจนะที่อยู่ในใจของพวกเขา

รู้จักศัตรูของเรา

เรารู้ว่า
เราเป็นลูกของพระเจ้า
และทั้งโลก ตกอยู่ใต้
อำนาจของมารร้าย
1 ยอห์น 5:19

2 โครินธ์ 4:4; 1 ยอห์น4:4-6; กาลาเทีย 1:4

มองไปรอบ ๆ แล้วจะรู้ว่า โลกอยู่ภายใต้อำนาจ ของมารจริง ๆ ความชั่วร้ายนั้น มีอยู่ทุกระดับ ตั้งแต่ในตัวคน ในครอบครัว ในหมู่คนที่เรียกว่าเป็นเพื่อน ในชุมชน ในที่ทำงาน ในจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศ ระหว่างประเทศ มีความชั่วร้ายแฝงอยู่ให้เห็นชัดเจน และเราเองก็อยู่ในโลก แต่พระเจ้าจะทรง ปกป้องเราไว้ให้พ้นจากความร้ายกาจของมาร

อยู่ในพระคริสต์ หนีจากรูปเคารพ

เดี๋ยวนี้เรารู้ว่า พระบุตรของพระเจ้า เสด็จมา และประทานความเข้าใจแก่เรา เพื่อว่าเราจะรู้จักพระองค์ผู้ทรงเป็นจริง
และเราอยู่ในพระองค์ผู้ทรงเป็นจริง คือเราอยู่ในพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์
พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้และทรงเป็นชีวิตนิรันดร์
1 ยอห์น 5:20

ยอห์น 17:3; 14:9; ลูกา 24:45

พระบุตรของพระเจ้าทรงส่งพระวิญญาณของ พระองค์ลงมา ทำให้เรามีความเข้าใจใน พระองค์ ทำให้เราได้เข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ผู้เป็นทางไปหาพระบิดา พระคัมภีร์ข้อนี้ เป็นการประกาศความเป็น พระบุตรของพระเจ้าอย่างชัดแจ้ง สมบูรณ์มากที่สุดข้อหนึ่งในพระคัมภีร์

ลูกเล็ก ๆ ทั้งหลาย
จงรักษาตัวเอง
ให้พ้นจากรูปเคารพ
อาเมน
1 ยอห์น 5:21

 1 โครินธ์ 10:14; 10:7; อพยพ 20:3-4

คำสุดท้ายของท่านยอห์นในจดหมายฉบับนี้สั้น ๆ แต่สำคัญยิ่งนัก เพราะรูปเคารพไม่ได้จำกัดแค่รูปปั้นของเทพพระต่าง ๆ ที่มนุษย์เคารพอีกต่อไป รูปเคารพคือสิ่งที่เราหลงไหล ให้เวลากับมัน สิ่งที่เราอยู่ด้วยจนลืมเวลาของชีวิตไป ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ถ้าเราให้ความสำคัญกับมันมากกว่าพระเจ้าสิ่งนั้นกลายเป็นรูปเคารพของเรา