สดุดี 130 รอคำตอบด้วยใจจดจ่อ

บทเพลงแห่ขึ้น
ผู้เขียนรู้สึกผิด
1 โอ พระยาห์เวห์ จากห้วงน้ำลึก
ข้าร้องเรียกหาพระองค์
2 โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงโปรดฟังเสียงของข้า
ขอทรงเอียงพระกรรณฟังคำร้องขอพระเมตตา

ร้องทูลขอการอภัยบาป
3 หากว่าพระยาห์เวห์ทรงบันทึกความบาปไว้
ใครเล่าจะยืนอยู่ต่อพระพักตร์ได้?
4 แต่ว่าในพระองค์นั้น มีการให้อภัย
เพื่อว่ามนุษย์จะได้ยำเกรงพระองค์

การเฝ้ารอคำตอบด้วยความอดทน
5 ข้ารอคอยพระยาห์เวห์
วิญญาณของข้าคอยพระองค์อยู่
ข้าหวังใจในพระดำรัสตอบของพระองค์
6 วิญญาณของข้ารอคอยพระองค์
ตั้งใจยิ่งกว่าคนยามที่คอยเวลาเช้าตรู่
เป็นอย่างนั้นจริงนะ
ยิ่งกว่าคนยามที่คอยเวลาเช้าตรู่

มั่นใจในพระเจ้า
7 โอ อิสราเอล จงหวังใจในพระยาห์เวห์
เพราะพระยาห์เวห์ทรงเต็มด้วยพระกรุณา
และการไถ่อย่างล้นเหลือ
8 และพระองค์จะทรงไถ่อิสราเอล
ให้พ้นจากบาปทั้งสิ้นของพวกเขา

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 69:2, 14; บทเพลงคร่ำครวญ 3:55; โยนาห์ 2:2

2* สดุดี 86:6; 2 พงศาวดาร 6:40; สดุดี 140:6

3* สดุดี 90:8 ; โยบ 10:14
สดุดี 76:7; อาโมส 2:15; เนหะมีย์ 1:6; มาลาคี 3:2; เอเฟซัส 6:13; วิวรณ์ 6:17; สดุดี 143:2

4* อิสยาห์ 55:7; ดาเนียล 9:9; สดุดี86:5, 15 ; 1 พงศ์กษัตริย์ 8:39, 40; เยเรมีย์ 33:8, 9; โรม 2:4

5*สดุดี 40:1; อิสยาห์ 8:17; 26:8 สดุดี 33:20, 119:74, 81

6* สดุดี123:2, สดุดี 63:6; 119:147,สดุดี 5:3

7* สดุดี 131:3, ข้อ 4

8* สดุดี 111:9; ลูกา 1:68; ทิตัส 2:14; มัทธิว 1:21; สดุดี 25:22

สดุดี 130: 1-2 ผู้เขียนรู้สึกผิด
เมื่อใช้คำว่า ห้วงน้ำลึก มักมีความหมายถึง สถานการณ์อันตรายร้ายแรงถึงชีวิต เป็นเวลาที่ไม่อาจช่วยตัวเองได้ ต้องการความช่วยเหลืออย่างด่วน ผู้เขียนพูดซ้ำสองครั้งให้พระเจ้าทรงฟัง และทรงเอียงพระกรรณฟังด้วย และดูเหมือนว่า ความทุกข์นั้น ส่วนหนึ่งคือบาปในชีวิตของผู้เขียนเอง
สดุดี 130: 3-4ร้องทูลขอการอภัยบาป
เป็นความจริงที่ว่า หากพระเจ้าเก็บข้อมูลความบาปของเราแต่ละคน เราไม่มีวันรอดเลย
ท่านมั่นใจในพระกรุณาคุณของพระเจ้า มั่นใจว่าพระเจ้าจะอภัยบาปให้
การยืนอยู่ต่อพระพักตร์นั้น ทำให้นึกถึงการที่เราต้องยืนต่อพระบัลลังก์แห่งการพิพากษาของพระเจ้า
เมื่อพระเจ้าอภัยบาปให้เรา เราก็สำนึกในพระคุณ และยำเกรงพระองค์ ไม่ใช่ร่าเริงแล้วทำบาปต่อไป
สดุดี 130: 5-6การเฝ้ารอคำตอบด้วยความอดทน
เมื่อผู้เขียนขอพระเจ้าทรงอภัยแล้ว ท่านก็เฝ้ารอคำตอบอย่างใจจดจ่อ
ท่านปรารถนาจะได้ยินคำตอบจากพระเจ้าโดยตรง
สดุดี 130: 7-8 มั่นใจในพระเจ้า
ท่านชวนให้คนอิสราเอลหวังใจในพระเจ้าเพราะในพระองค์มีทั้งพระกรุณา การช่วยกู้ การไถ่ให้พ้นบาป
มีใครที่ไหนจะทำอย่างนี้ให้ได้เล่า? คนของพระเจ้าจึงต้องหวังใจในพระเจ้าทุกวันทุกเวลา …

สดุดี 129 ขอทรงตัดเชือกคนชั่วร้ายออกไป

บทเพลงแห่ขึ้น

คนของพระเจ้าถูกข่มเหง
1 “ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นมา พวกเขาก็เอาแต่ข่มเหงข้าไม่หยุด ”
ให้อิสราเอลกล่าวออกมา
2 “หลายครั้งที่พวกเขาข่มเหงข้ามาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น
แต่พวกเขาก็ไม่ชนะข้า”
3”ผู้ไถ ก็ไถบนหลังของข้า เข้าทำให้เกิดเป็นร่องยาว”

พระเจ้าทรงปกป้องคนของพระองค์
4พระเจ้าทรงเที่ยงธรรม
พระองค์ทรงตัดเชือกของคนชั่วร้ายออกไป

คำร้องทูลเพื่อคนของพระเจ้า
5 ขอให้ทุกคนที่เกลียดศิโยนนั้น
ต้องอับอายและถอยกลับออกไป
6 ขอให้เขาเป็นเหมือนต้นหญ้าที่งอกขึ้นบนหลังคา
ซึ่งจะเหี่ยวแห้งไปก่อนที่แตกยอด
7 ซึ่งทำให้คนเกี่ยวเก็บไม่ได้เต็มกำมือ
หรือคนที่มัดเป็นฟ่อนได้ไม่เต็มอ้อมแขน
8และคนที่ผ่านไปมาก็จะไม่พูดว่า
“ขอให้พระพรของพระยาห์เวห์
อยู่เหนือท่านทั้งหลาย
เราอวยพรท่านในพระนามของพระยาห์เวห์”

พระคำเชื่อมโยง

1 อพยพ 1:14; ผู้วินิจฉัย 3:8, 14; 4:3; 6:2; 10:8; อิสยาห์ 47:12; เยเรมีย์ 2:2; 22:21; โฮเชยา 2:15 ;สดุดี 124:1

2* 2 โครินธ์ 4:8-10

3 มีคาห์ 3:12 อิสยาห์ 50:6; 51:23

4 สดุดี . 2:3

5 สดุดี . 35:4

6 2 พงศ์กษัตริย์ 19:26; อิสยาห์ 37:27; สดุดี 37:2; Job 8:12

8 นางรูธ 2:4 สดุดี 118:26

สดุดี 129:1-3 คนของพระเจ้าถูกข่มเหง
ชนชาติอิสราเอลนั้น พบกับสงครามกับเพื่อนบ้าน ชนชาติที่อยู่ล้อมรอบมาตั้งแต่โบราณจนทุกวันนี้ ผู้เขียนได้ทูลขอพระเจ้าจะทรงทำลายศัตรูของศิโยน ท่านได้อธิบายว่า ความเป็นศัตรูกันนั้นต่อเนื่องเนิ่นนานขนาดไหน เข้าใจว่าคนอิสราเอลท่องสดุดีบทนี้ตอนที่เดินทางขึ้นไปยังเยรูซาเล็มในเทศกาลต่าง ๆ
ข้อสามได้บอกถึงการที่ศัตรู ทำร้ายคนอิสราเอลราวกับว่า พวกเขาซึ่งเป็นคนกลับกลายเป็นเหมือนท้องนา


สดุดี 129:4 พระเจ้าทรงปกป้องคนของพระองค์
เมื่อพระเจ้าตัดเชือกออก เหมือนกับตัดเชือกที่ผูกวัวด้วยกันออก พวกเขาก็ไม่อาจไถ ไม่อาจทำร้ายอิสราเอลได้อีกต่อไป


สดุดี 129:5-8 คำร้องทูลเพื่อคนของพระเจ้า
ผู้เขียนยังคงอธิษฐานต่อ ท่านรู้ว่า คนที่เกลียดศิโยน เท่ากับเกลียดองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วย ขอจากพระเจ้าที่พวกเขาจะไม่มีวันเจริญและไม่มีวันได้คำอวยพร

สดุดี 128 ความสุขของคนที่ยำเกรงพระเจ้า

บทเพลงแห่ขึ้น  

ความยำเกรงพระเจ้านำมาซึ่งพระพร
1 ความสุขเป็นของทุกคนที่ยำเกรงพระเจ้า
ทุกคนที่เดินในทางของพระองค์ 

พระพรของพระเจ้าเป็นอย่างนี้
2 ท่านจะได้กินผลแห่งน้ำมือของท่าน
ท่านจะได้รับพระพร และชีวิตที่เดินไปด้วยดี
3 ภรรยาของท่านจะเป็นเหมือนเถาองุ่น
ที่มีลูกดกในบ้านของท่าน
ลูก ๆ ของท่านจะเป็นเหมือนกิ่งมะกอก
ที่เรียงรายรอบโต๊ะอาหารของท่าน 
4 ดูเถิด  บุรุษที่ยำเกรงพระเจ้า
จะได้รับพระพรอย่างนี้  

ทูลขอพระพรเพื่อประชากรของพระเจ้า
5 ขอพระยาห์เวห์ทรงอวยพระพรแก่ท่านจากศิโยน 
และขอให้ท่านได้เห็นความเจริญแห่งเยรูซาเล็ม
ตลอดชีวิตของท่าน 
6 ขอให้ท่านได้เห็น ลูก ๆ ของลูก ๆท่าน 
ขอสันติภาพมีอยู่ในอิสราเอล 

พระคำเชื่อมโยง

1 *สดุดี 112:1 ,119:1; สุภาษิต 8:32

2 อิสยาห์ 3:10; สดุดี 109:11

3 เอเสเคียล. 19:10; ปฐมกาล 49:22; สดุดี 52:8

5สดุดี 134:3, 20:2; 135:21, 122:9

6 สุภาษิต 17:6; โยบ 42:16 สดุดี 125:5

สดุดี 128:1 ความยำเกรงพระเจ้านำมาซึ่งพระพร
พระพรของพระเจ้าที่ผู้เขียนบรรยาย แตกต่างจากสิ่งที่โลกต้องการ บทนี้เพิ่มเติมจากบทที่ผ่านมา
ในบริบทของโลกอิสราเอลโบราณ พระพรหมายถึงทุ่งที่มีพืชอุดม ภรรยาที่ซื่อสัตย์ และลูก ๆ ที่ล้อมรอบโต๊ะอาหาร พระพร สิ่งดีต่าง ๆที่พระเจ้าประทานให้นั้น เป็นของชุมชนของพระเจ้าด้วย ไม่แค่พระพรเฉพาะตัวคนเดียวเท่านั้น และผู้ที่จะนำพระพรมาสู่ครอบครัว ชุมชน คือผู้นำที่ยำเกรงพระเจ้า ไม่ใช่คนที่ขาดความรับผิดชอบกับคนรอบข้าง

สดุดี 128:2-4 พระพรของพระเจ้าเป็นอย่างนี้
การที่ได้กินผลแห่งน้ำมือนั้นคือ ไร่นา ฝูงสัตว์ของเขาเกิดผลเป็นอย่างดี สมัยก่อนโน้น ต้องมีลูกไว้เยอะ ๆ เป็นดี ภรรยาเป็นเหมือนเถาองุ่น มีลูกได้หลายคน ไม่เป็นหมัน ส่วนลูก ๆ เหมือนหน่อมะกอก รายล้อมโต๊ะอาหารทุกมื้อ นี่เป็นภาพของบุรุษที่พระเจ้าทรงอวยพระพร

สดุดี 128:5-6 ทูลขอพระพรเพื่อประชากรของพระเจ้า
จากนั้น ผู้เขียนได้อธิษฐานขอให้คนที่ยำเกรงพระเจ้าได้เห็นลูก หลาน เหลน … แต่เราสังเกตไหมว่า เขาไม่ได้เป็นคนที่นั่งเฉย แต่เป็นคนที่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง รักและดูแลลูก ภรรยาเป็นอย่างดี นี่เป็นภาพอันงดงามของครอบครัวที่พระเจ้าทรงอวยพระพร

สดุดี 127 บ้านเรา..พระเจ้าทรงสร้างให้

จะสร้างหรือปลอดภัย มาจากพระเจ้าเท่านั้น

บทเพลงแห่งขึ้นของโซโลมอน

ผู้ที่สร้างบ้านแท้ ผู้ที่ให้สันติสุขแท้
1 หากพระเจ้ามิได้ทรงสร้างบ้าน
คนที่สร้างบ้าน ก็สร้างไปเปล่า ๆ
หากพระเจ้าไม่ได้ทรงเฝ้าเมืองไว้
คนยามเมืองตื่นอยู่นั้น ก็ตื่นไปเปล่า ๆ

2 เป็นการเสียเปล่าที่ท่านตื่นแต่เช้าตรู่
และทำงานหากินจนดึกดื่น
กินอาหารจากแรงงานที่ตรากตรำ
เพราะพระเจ้าทรงอวยพรให้คนทรงรักนั้นหลับสบาย

มรดกจากพระยาห์เวห์
3 ดูเถิด ลูกชายก็เป็นมรดกจากพระยาห์เวห์
ผลแห่งครรภ์นั้นคือรางวัล
4 ลูกหลานที่เกิดขึ้นแก่คนหนุ่มนั้น
เป็นเหมือนลูกธนูในมือของนักรบ
 5 คนที่มีลูกธนูเต็มแล่งนั้นก็เป็นสุขนัก
เขาจะไม่ต้องอับอาย
เมื่อเขาเผชิญหน้ากับศัตรูของเขาที่ประตูเมือง

พระคำเชื่อมโยง
1* สดุดี 121:4
2* ปฐมกาล 3:17, 19;
สดุดี 60:5 ;มาระโก 4:26, 27
3* ปฐมกาล 33:5 ; เฉลยธรรมบัญญัติ 28:4; [สดุดี 132:11]
4* สดุดี 120:4 127:4
5 * โยบ 5:4

สดุดี 127:1-2 ผู้ที่สร้างบ้านแท้ ผู้ที่ให้สันติสุขแท้
คำว่า บ้านนี้ มีความหมายได้หลายอย่าง หมายถึงที่อาศัย ครอบครัว ตระกูลที่สืบต่อชั่วลูกชั่วหลาน ครอบครัวของอิสราเอลโบราณนั้น เรื่องการที่ครอบครัวจะมีลูกหลานสืบต่อเป็นเรื่องสำคัญมาก พวกเขารู้ดีว่า ครอบครัวจะอยู่ได้นานแสนนานก็ด้วยการอวยพระพรจากพระเจ้า
และเมืองนอกจากมีความหมายถึงเมืองจริง ๆ แล้ว ยังหมายถึงความมั่นคงของชุมชนด้วย เมืองที่ปลอดภัยก็จะทำให้ครอบครัวมั่นคง
ใช่แล้ว พระเจ้าทำให้คนที่พระองค์ทรงรัก คนที่รักพระองค์ได้หลับอย่างไม่กระสับกระส่าย ไม่หลับๆ ตื่น ๆ ให้เขาได้หลับลึก พร้อมที่จะตื่นขึ้นมาพบพระองค์ในวันต่อไป ใช้ชีวิตด้วยการวางใจพระเจ้า เชื่อในพระสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะไม่ละทิ้งเขาเลย

สดุดี 127:3-5 มรดกจากพระยาห์เวห์
การมีลูกชายในสมัยโบราณนั้นเหมือนกับการมีนักรบที่จะช่วยปกป้องบ้านเมืองเอาไว้ การพูดถึงลูกชายในที่นี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่จะเลือกชอบหญิงหรือชายมากกว่า แต่เป็นเรื่องของการรักษาวงศ์ตระกูล ลูกที่เกิดมาตอนที่พ่อยังหนุ่มนั้นช่วยได้ดีเพราะรุ่นก่อนจะชราไป ทำให้ไม่สามารถสู้รบได้อย่างแข็งแรงเหมือนคนหนุ่ม และเมื่อเผชิญกับศัตรู ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองหรือการต่อสู้ในสมัยโบราณ เป็นหน้าที่ของผู้ชายทั้งสิ้น (ยกเว้นในสมัยผู้วินิจฉัยที่ผู้หญิงต่อสู้ด้วยบางสถานการณ์)