สดุดี 115 พระพรมหาศาลจากพระยาห์เวห์

พระเจ้าทรงอยู่ในสวรรค์
1 ไม่ใช่เพื่อเรา โอพระยาห์เวห์ ไม่ใช่เพื่อเรา
แต่เราขอถวายพระเกียรติแด่พระนามของพระองค์
เพื่อเห็นแก่ความรักมั่นคง และความซื่อตรงของพระองค์
2 เหตุใดชาติต่าง ๆ จึงกล่าวว่า
“พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน?”

พระเจ้าของเราไม่ใช่รูปเคารพ
3 พระเจ้าของเราทรงอยู่ในสวรรค์
พระองค์ทรงทำทุกสิ่งที่ทรงพอพระทัย
4 รูปเคารพของพวกเขาเป็นเงินและทอง
เป็นผลงานมือมนุษย์
5 มันมีปาก แต่ไม่พูด
มีตาแต่มองไม่เห็น
6มันมีหู แต่ไม่ได้ยิน มีจมูก แต่ไม่รู้กลิ่น
7 มันมีมือ แต่ขาดความรู้สึก
มีเท้าแต่ไม่เดิน
มันไม่อาจทำเสียงออกจากลำคอ
8 คนที่สร้างมันขึ้นมาก็เป็นเหมือนรูปปั้นเหล่านั้น
รวมไปถึงคนที่วางใจรูปปั้นเหล่านั้นด้วย

มาวางใจพระเจ้าของเราสุดใจ
9 โอ อิสราเอล จงวางใจในพระยาห์เวห์
พระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือ ทรงเป็นโล่ป้องภัย
10 โอ วงศ์วานของอาโรน จงวางใจในพระยาห์เวห์
พระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือ ทรงเป็นโล่ป้องภัย
11 เหล่าผู้ที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ทั้งหลาย
จงวางใจในพระยาห์เวห์เถิดพระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือ
ทรงเป็นโล่ป้องภัย

พระพรจากพระยาห์เวห์
12 พระยาห์เวห์ทรงระลึกถึงเราทั้งหลาย
พระองค์จะทรงอวยพระพรเรา​
พระองค์ทรงอวยพระพรวงศ์วานอิสราเอล
พระองค์ทรงอวยพระพรวงศ์วานอาโรน
13 พระองค์ทรงอวยพระพรเหล่าคนที่ยำเกรงพระยาห์เวห์
ไม่ว่าจะเป็นผู้น้อยหรือผู้ใหญ่


คำอวยพรจากผู้เขียน
14 ขอพระยาห์เวห์ทรงเพิ่มพูนให้ท่าน
ทั้งตัวท่านและลูกหลานของท่าน
15 ขอให้ท่านได้รับพระพรจากพระยาห์เวห์
ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน
16 ฟ้าสวรรค์เป็นห้วงฟ้าสวรรค์ของพระยาห์เวห์
แต่พระองค์ทรงมอบแผ่นดินให้กับลูกหลานของมนุษย์
17 คนตายรวมไปถึงคนที่ก้าวไปสู่ความเงียบ
ไม่สรรเสริญพระยาห์เวห์
18 แต่เราจะถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์
ตั้งแต่เวลานี้ไปจนตลอดไปเป็นนิตย์
จงสรรเสริญพระยาห์เวห์!

ข้อพระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 79:9-10; อิสยาห์ 48:11; เอเสเคียล 20:14

2* สดุดี42:3,79:10,อพยพ 32:12; โยเอล 2:17

3* สดุดี 135:6, 103:19 ; ดาเนียล 4:35; อิสยาห์ 46:10

4* เฉลยธรรมบัญญัติ 4:28; เยเรมีย์ 10:3-5; อิสยาห์ 46:6-7

5* เยเรมีย์ 10:5

8* สดุดี 135:18; ฮาบากุก 2:18-19; เยเรมีย์ 10:8

9* สดุดี 62:8, 118:2-4; สุภาษต 30:5

10* สดุดี 118:3; กันดารวิถี 18:7, 16:40

11* กิจการ 10:35; สุภาษิต 14:26, 30:5 ; วิวรณ์ 19:5

12* สดุดี 136:23; อิสยาห์ 49:14-16; ปฐมกาล ​12:2-3

13* ลูกา 1:50; สดุดี 128:1, 112:1, 128:4-5 ; วิวรณ์ 19:5

14* เฉลยธรรมบัญญัติ 1:11 ; กิจการ 3:25, 2:39; เศคาริยาห์ 8:20-23

15* ปฐมกาล 1:1, 14:19 ; วิวรณ์ 14:7; สดุดี 96:5

16* สดุดี 8:6, 89:11; เยเรมีย์ 27:5-6; ปฐมกาล 1:28-30

17 * สดุดี 31:17, 6:5, 88:10-12; 1 ซามูเอล 2:9

18* สดุดี 113:2, 145:21; ดาเนียล 2:20; วิวรณ์ 5:13

สดุดีบทนี้ เป็นสดุดีที่ชุมชนจะร้องพร้อม ๆ กันเพื่อสรรเสริญพระเจ้า โดยที่มองมุ่งไปยังพระสิริของพระเจ้าที่พระองค์ทรงช่วยกู้คนของพระองค์

ข้อ 1-2พระเจ้าทรงอยู่ในสวรรค์
นี่เป็นคำอธิษฐานที่ไม่ใช่เหมาะกับสมัยโบราณเท่านั้น แต่ ณ วันนี้ เราต้องขอให้พระเกียรติของพระเจ้าปรากฏในแผ่นดินโลกที่เป็นศัตรูกับพระเจ้า เมื่อมีสงครามเกิดขึ้น อย่างเช่นที่ยูเครนในวันนี้ สงครามในพม่า และการต่อสู้ในที่ต่าง ๆ มากมาย บางครั้งคนจะถามว่า พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน? ไม่เห็นมาช่วยเจ้าเลย เราจึงต้องอธิษฐาน ขอพระจ้าทรงสำแดงพระสิริของพระองค์ ให้ทั้งโลกได้เห็นวันนี้ เวลานี้
ไม่ว่าใครจะไม่เชื่อในพระเจ้า ไม่เชื่อว่าพระองค์มีจริง แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงสร้าง ทรงดำรงอยู่จริง คนที่ไม่เชื่อ ก็จะยืนยันความไม่เชื่อ แต่… พระเจ้าของเราทรงพระชนม์อยู่

ข้อ 3-8 พระเจ้าของเราไม่ใช่รูปเคารพ
ผู้เขียนได้อธิบายชัดเจนว่า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่เกินกว่ารูปเคารพของชาวคานาอัน แต่เราอย่าลืมว่า พวกเราเองก็อาศัยในแผ่นดินที่เต็มด้วยรูปเคารพเช่นกัน เราเห็นภาพของผู้คนที่วางใจในรูปเคารพ แต่เราวางใจในพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ 9-11 มาวางใจพระเจ้าของเราสุดใจ
ผู้เขียนได้เชิญชวนให้ทุกคนเข้ามาวางใจพระเจ้า ท่านกล่าวถึงคนสามกลุ่ม คือ คนอิสราเอลทั้งหมด วงศ์วานของอาโรน ผู้มีหน้าที่ในการนำคนนมัสการพระเจ้า และทุกคนที่ยำเกรงพระเจ้า ซึ่งน่าจะหมายถึงคนอื่นที่ไม่ใช่เชื้อชาติอิสราเอล หมายถึงผู้ที่เชื่อในพระเจ้าให้วางใจว่าพระองค์คือ พระผู้ช่วยเหลือทุก ๆ ด้าน ลองหันกลับไปทบทวนสิ่งที่ผ่านมา เราจะเห็นหลายอย่างที่พระเจ้าทรงช่วยเราไว้ ปกป้องเราไว้ แต่เราไม่ได้สังเกตมาก่อน

12-13พระพรจากพระยาห์เวห์
ผู้เขียนมีความมั่นใจว่า คนทั้งสามกลุ่มที่กล่าวมาคือผู้ที่จะรับพระพรของพระเจ้า แบบไม่เลือกว่าจะเป็นคนใด จะเป็นผู้ปกครองหรือประชาชนธรรมดา ขอให้เขายำเกรงพระเจ้าแล้วกัน

14-18คำอวยพรจากผู้เขียน
ในเมื่อพระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดิน พระองค์ทรงกำหนดและดูแลฟ้าสวรรค์ให้ แต่แผ่นดินนั้นพระองค์ทรงให้มนุษย์ดูแล ลองกลับไปดูสดุดี เราจะเห็นว่า ฟ้าสวรรค์ที่พระเจ้าทรงดูแลให้เรานั้น มหัศจรรย์ยิ่งนัก มนุษย์เรายังไปไม่ถึงไหนกับการที่จะรู้จักพระเจ้า และเกรงว่า โลกนี้อาจถึงที่สิ้นสุดก่อนที่เราจะสำรวจจักรวาลได้หมด…​ ทบทวนพระคำข้อนี้ และมองโลกในวันนี้ เราจะต้องกล่าวคำว่า เราขอสรรเสริญพระเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์ ขอพระเจ้าทรงให้เรามีชีวิตเป็นนิตย์กับพระองค์



สดุดี 114 มวลน้ำหนีไป และ ภูเขากระโดด

พระเจ้าทรงนำออกจากการเป็นทาส
1เมื่ออิสราเอลออกมาจากอียิปต์
ครอบครัวของยาโคบได้ละทิ้งชนต่างชาติไว้เบื้องหลัง
2 ยูดาห์ได้กลายเป็นสถานบริสุทธิ์ของพระองค์
อิสราเอลได้เป็นอาณาจักรของพระองค์

ธรรมชาติต่างสยบยอมต่อพระเจ้า
3 ทะเลเห็นแล้ว ก็หนีไป แม่น้ำจอร์แดนก็หันกลับไป
4 ภูเขาทั้งหลายโลดเต้นราวกับแกะผู้
เนินเขาทั้งกลายกระโดดราวกับลูกแกะ

คำถามจากพระเจ้า
5 เจ้าจะหนีไปทำไม ทะเลเอ๋ย?
เหตุใดเจ้าจึงหันกลับไป แม่น้ำจอร์แดนเอ๋ย?
6 ภูเขาทั้งหลาย เหตุใดเจ้าจึงกระโดดราวกับแกะผู้ ?
เนินเขาทั้งหลาย เหตุใดเจ้าจึงกระโดดเหมือนกับลูกแกะ ?

ท่าทีต่อพระพักตร์พระเจ้า
7 โอแผ่นดินโลก จงตัวสั่นด้วยความกลัวต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ ต่อพระพักตร์พระเจ้าแห่งยาโคบ
8 พระองค์ทรงเปลี่ยนหินให้กลายเป็นสระน้ำ
และทรงเปลี่ยนหินเหล็กไฟให้กลายเป็นน้ำพุ

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 81:5; อพยพ 13:3, 12:41-42

2*อพยพ 29:45-46; 2 โครินธ์ 6:16-17; เอเสเคียล 37:26-28

3*สดุดี 77:6; อพยพ 14:21; โยชูวา 3:13-16

4*อพยพ 19:18; ฮาบากุก 3:6; ผู้วินิจฉัย 5:4-5

5*ฮาบากุก 3:8; เยเรมีย์ 47:6-7

6* สดุดี 114:4, 29:6

7* มีคาห์ 6:1-2; เยเรมีย์ 5:22; สดุดี 104:32

8* สดุดี 107:35, 105:41; เฉลยธรรมบัญญัติ 8:15

114:1-2 นี้ ผู้เขียนสดุดีบทนี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญที่เป็นศูนย์กลางของชีวิตอิสราเอล คือการที่พระเจ้าทรงนำพวกเขาออกมาจากอียิปต์  พระเจ้าเท่านั้นที่จะเข้ามาแทรกแซงความเป็นอยู่และเปลี่ยนแปลงวิถีจากทาสเป็นไทให้ได้  เพราะถ้ามนุษย์ต้องทำเอง เชลยในอียิปต์จะไม่มีโอกาสเป็นไทได้เลยสักคน   โลกของเรามีพระเจ้าทรงครอบครองอยู่ ไม่มีอะไรในชีวิตเราเกิดจากความบังเอิญ  วันทั้งสิ้นที่กำหนดให้ผู้เชื่อนั้น ถูกบันทึกไว้ในหนังสือของพระองค์ ตั้งแต่ยังไม่มีวันนั้นเลย 
เมื่อพวกเขาออกมาจากอียิปต์ ต้องทิ้งทุกอย่างไว้และไปข้างหน้าเท่านั้น และแล้วพวกเขาก็ได้เป็นคนที่ทรงเลือกในแผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้
ส่วนเหตุการณ์สำคัญที่สุดของพวกเราก็คือ การที่พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์ คืนพระชนม์เพื่อไถ่ชีวิตของเราให้กลับมาหาพระองค์ 
114:3 โดยการที่พระเจ้าทรงเข้ามาช่วยเหลืออย่างมหัศจรรย์ ทำให้ทะเลแดงเปิดออก อพยพ 14:21-22 และแม่น้ำจอร์แดนก็แยกออกเช่นกัน โยชูวา 3:14-16  ผู้เขียนพูดประโยคสั้น ๆ แต่เหตุการณ์นั้น ยิ่งใหญ่เกิดความคาดฝันของมนุษย์ 114:4 เหตุการณ์ภูเขาโลดเต้นนั้น เราอาจจะงงว่า หมายความอย่างไรหรือ นั่นคือ ภูเขาในซีนายได้สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นเมื่อพระเจ้าทรงมอบบัญญัติสิบประการให้โมเสส เป็นวันที่พระเจ้าปรากฏพระองค์แก่มนุษย์ 
114:5-6 เป็นคำถามคล้าย ๆ กับจะหยอกเย้า ทั้งๆ ที่ผู้เขียนรู้อยู่แล้วว่า คำตอบคืออะไร  คำถามนี้เพื่อทำให้ธรรมชาติได้ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ ​ฤทธานุภาพของพระเจ้า 
114:7   เมื่ออยู่ต่อพระเจ้า จะเกิดการสั่นกลัว สั่นหวั่นไหวเพราะว่าพระเจ้าทรงฤทธานุภาพยิ่งนัก 114:8 พระเจ้าทรงทำให้หินกลายเป็นที่มาของน้ำจริง ๆ  น้ำไหลออกจากหินตามคำสั่งของโมเสส ในอพยพ 17:6-7  กันดารวิถี 20:11-13
พระเจ้าทรงรื้อฟื้นให้ความกระหายกลายเป็นความสดชื่นอิ่มใจ  พระเจ้าทรงรักษาชีวิตของพวกเขาในถิ่นกันดาร และพระองค์ยังทรงรักษาเราในวันนี้ด้วย 

การที่สดุดีบทนี้เน้นไปที่การอพยพออกจากอียิปต์  คนอิสราเอลในยุคต่อมาจึงใช้สดุดีบทนี้ในการระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญดังกล่าว ใช้ร้องในพิธีเทศกาลปัสกา 

สดุดี 113 เมื่อพระเจ้าทรงโน้มพระองค์ลงมา

มนุษย์พยายามขึ้นไป พระเจ้าทรงน้อมพระองค์ลงมา
ภาพจากhttps://wallpaperaccess.com/james-webb#related

ความยิ่งใหญ่ของพระนาม
1 สรรเสริญพระยาห์เวห์ เหล่าผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์
จงสรรเสริญ จงสรรเสริญพระนามพระยาห์เวห์
2 ขอให้พระนามของพระยาห์เวห์เป็นที่สรรเสริญ
ทั้งบัดนี้และตลอดไปเป็นนิตย์
3 จากตะวันขึ้น ไปจนถึงที่ตะวันตกดิน
สมควรที่พระนามของพระยาห์เวห์ จะรับการสรรเสริญ

พระเจ้าผู้สูงส่ง
4 พระยาห์เวห์ทรงได้รับการยกย่องเหนือชาติต่าง ๆ
พระสิริตระการของพระองค์สูงเหนือฟ้าสวรรค์
5 จะมีใครมาเทียบเท่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราได้
พระองค์ผู้ประทับบนบัลลังก์สูงส่ง
6 ทรงโน้มพระองค์ลงมา
ทอดพระเนตรฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน

พระเจ้าทรงห่วงใยชาวโลกที่ทุกข์ยาก
7 พระองค์ทรงยกคนยากจนจากพื้นดิน
และทรงยกคนที่ยากไร้ขึ้นมาจากกองเถ้า
8 เพื่อว่าพวกเขาจะได้นั่งกับเจ้านาย
นั่งกับเจ้าชายแห่งชนชาติของพระองค์
9 พระองค์ทรงทำให้หญิงเป็นหมันได้อาศัยในครอบครัว
กลายเป็นมารดาที่มีความสุขของลูก ๆ
สรรเสริญพระยาห์เวห์

พระคำเชื่อมโยง

1* เอเฟซัส 5:9-11; สดุดี 145:10, 135:20, 134:1

2* ดาเนียล 2:20; สดุดี 41:13, 1 พงศาวดาร 16:36; วิวรณ์ 5:13

3* มาลาคี 1:11; อิสยาห์ 49:13, 59:19; สดุดี 86:9

4* สดุดี 8:1, 99:2, 97:9; อิสยาห์ 66:1, 40:22

5* อิสยาห์ 40:25; เยเรมีย์ 10:6; เฉลยธรรมบัญญัติ 33:26; อพยพ 15:11

6* สดุดี 138:6, 11:4; อิสยาห์ 57:15, 6:2; โยบ 15:15

7* 1 ซามูเอล 2:7-8; สดุดี 107:41; ลูกา 1:52-53; ดาเนียล 12:2-3

8* โยบ 36:7; ฟีลิปปี 2:8-11; สดุดี 45:16

9* สดุดี 68:6; 1 ซามูเอล 2:5; อิสยาห์ 54:1; ปฐมกาล 30:22-23

ข้อ 1-3 ความยิ่งใหญ่ของพระนาม
ผู้เขียนสรรเสริญพระเจ้าและเน้นว่า มนุษย์จะสรรเสริญพระนามตลอดไป และทุกหนทุกแห่งในโลกที่ดวงอาทิตย์ส่องถึง จะสรรเสริญพระองค์ ข้อ1 การสรรเสริญพระนามนั้น คือการสรรเสริญตัวพระองค์เองโดยตรง สามข้อนี้ตอบคำถามว่า ใครสรรเสริญ? สรรเสริญใคร? นานเท่าไร? ที่ไหนบ้าง?

ข้อ 4-6พระเจ้าผู้สูงส่ง
พระเจ้าที่ไม่มีใครเทียบ พระองค์ผู้ทรงอยู่สูงเหนือเอกภพ ในที่ ๆ มนุษย์ไม่อาจไปถึง กลับทรงโน้มพระองค์ลงมาทอดพระเนตร สรรพสิ่งและมนุษย์ทุกคนที่พระองค์ทรงสร้าง สามข้อนี้ยืนยันว่า พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าสูงสุด เอล เอลโยน เมื่อเราคิดถึงยานที่นำกล้องไปถ่ายภาพดาวต่าง ๆ ในอวกาศ (ลองเปิดเรื่องของ James webb telescope ดู)เรายังรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นภาพอันตระการในอวกาศ เราจึงยังนึกภาพไม่ออกเลยว่า ความยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้น ใหญ่เพียงไหน สมองน้อย ๆ ของพวกเราจะเข้าใจพระองค์ได้อย่างไรถ้าพระองค์ไม่เปิดเผยพระองค์เองแก่เรา

ข้อ 7-9 พระเจ้าทรงห่วงใยชาวโลกที่ทุกข์ยาก
สามข้อสุดท้ายนี้ เราจะเห็นว่า พระเจ้าทรงห่วงใยคนที่ยากไร้ พระเจ้าไม่ได้ทรงเห็นแก่หน้าผู้ใด ในการทรงเลือกของพระองค์ คนยากไร้ก็นั่งข้างเจ้านายได้ ทรงเป็นผู้อวยพระพรหญิงหมันให้มีลูก เพราะพระองค์ทรงอยู่ใกล้พวกเขา และทรงยินคำอธิษฐานของพวกเขา

สดุดี 112 ชีวิตที่มีพระเจ้าเป็นหนึ่ง

ชีวิตที่มีพระเจ้าเป็นหนึ่ง
1 สรรเสริญพระยาห์เวห์
คนที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ก็เป็นสุขนัก
คือคนที่ยินดีที่จะรักษาพระบัญญัติของพระองค์ 

ผลของชีวิตที่มีพระเจ้าเป็นหนึ่ง
2 วงศ์วานของเขาจะมีอำนาจบนแผ่นดิน
คนเที่ยงธรรมจะได้รับพระพร
3ครอบครัวของเขาจะมีบริบูรณ์ และมั่งคั่ง
ความเที่ยงธรรมของเขาดำรงเป็นนิตย์  
4 ในที่มืด จะมีความสว่างส่องมาให้คนเที่ยงธรรม 
ส่องมายังคนที่มีใจกรุณา สงสาร และยุติธรรม 
5 สำหรับคนที่มีน้ำใจ ให้คนอื่นยืม
และทำธุรกิจของเขาด้วยความเป็นธรรมนั้น
ชีวิตจะเป็นสุข
6 เขาจะไม่ต้องหวั่นกลัวสิ่งใด
คืนอื่น ๆ จะระลึกถึงคนที่ยุติธรรมเสมอ
7 เขาจะไม่กลัวข่าวร้าย เขามั่นคง 
เขาวางใจในพระยาห์เวห์ 
8 ใจของเขามั่นคง เขาจึงไม่ต้องก้มหัวให้กับความกลัว
เขามั่นใจว่า
ในที่สุดเขาจะได้เขาจะเป็นผู้มีชัยชนะเหนือศัตรู
 9 เขามีน้ำใจให้กับคนที่ยากไร้
ความเที่ยงธรรมของเขาจึงยืนยง
เขาจะได้รับเกียรติและคนยกย่อง

ชีวิตของคนที่มีแต่ตัวเอง
10เมื่อคนชั่วเห็นก็โกรธ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน และละลายหายไป
ความปรารถนาของคนอธรรมจะสูญสิ้นไป

ข้อพระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 128:1, 111:10; โรม 8:6; อิสยาห์ 50:10

2* ปฐมกาล 17:7; สดุดี 37:26,102:28; สุภาษิต 20:7; กิจการ 2:39

3* สุภาษิต 15:6, 3:16; มัทธิว 6:33; อิสยาห์ 33:6

4* โยบ 11:17; โคโลสี 3:12-13; สดุดี 97:11; อิสยาห์ 58:10

5* สดุดี 37:21, 37:25-26; เอเฟซัส 5:15; สุภาษิต 2:20

6* สุภาษิต 10:7; ฮีบรู 6:10; สดุดี 125:1, 62:2

7* อิสยาห์ 26:3-4; สดุดี 57:7; สุภาษิต 1:33; 3:25-26

8* ฮีบรู 13:9; สดุดี 118:7, 91:8, 59:10

9* สดุดี 75:10, 92:10; ฮีบรู 13:16, 6:10

10* ลูกา 13:28; สุภาษิต 11:7; สดุดี 58:7-8, 37:12

ข้อ 1
จำได้ไหม บทที่แล้วข้อสุดท้ายบอกว่า ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นจุดเริ่มต้นของสติปัญญา เหล่าคนที่ทำตามก็เป็นผู้มีความเข้าใจดี   ส่วนบทนี้ ข้อที่หนึ่งอธิบายเพิ่มเติมว่า ยำเกรงพระเจ้านั้นหมายถึงอย่างไร ก็หมายถึงการที่เป็นสุข ยินดี พอใจ ในพระบัญญัติของพระเจ้ามาก ๆ นั่นเอง
ข้อ 2-3
ดูเหมือนผู้เขียนมองพระพรเป็นความสำเร็จในชีวิต มีอำนาจ มั่งคั่ง มีอย่างบริบูรณ์ ซึ่งนี่เป็นภาพมองรวม ๆ ของพระพรในพระคัมภีร์เดิม เป็นลักษณะของวัตถุมากกว่าฝ่ายวิญญาณ แต่หากเราคิดให้ดีแล้ว การมีชีวิตใกล้ชิดพระเจ้า รู้พระทัยพระองค์ มาเหนือความสำเร็จในแง่ความมั่งคั่งและอำนาจ
ข้อ 4-6
ความสว่างที่ส่องมานั้น เป็นความจำเป็นสำหรับโลกมืดที่เราอาศัยอยู่อย่างมาก พระเจ้าทรงสัญญาว่า ทางสว่าง ทางโล่งจะมาให้กับคนที่มีน้ำใจ มีความยุติธรรมต่อผู้อื่น
ข้อ 7-9
ชีวิตแบบที่ไม่ต้องก้มหัวให้ความกลัวนี้ สุดยอด ที่เป็นอย่างนี้ได้เพราะเขาวางใจพระเจ้า ไม่ได้วางใจตนเอง เขามั่นใจด้วยว่า เขาจะชนะศัตรู ที่เขามั่นคงเป็นเพราะเขามีน้ำใจกับคนยากไร้ คนที่ด้อยโอกาสกว่าเขา ศัตรูของเขาคือใครนะ
ข้อ 10
ศัตรูของเขาเห็นความเจริญที่พระเจ้าประทานให้ก็โกรธเกรี้ยวนัก และแทนที่จะเป็นผู้ชนะ พวกเขาจะละลายหายไป ไม่ได้ยืนอยู่ให้เห็นอีกต่อไป
สรุปแล้ว บุคคลที่เที่ยงธรรมผู้นี้ เขาเป็นคนอย่างไรหรือ?
เขายำเกรงพระเจ้า รักพระคำ เป็นคนมั่งคั่ง เป็นคนสร้างครอบครัว เป็นคนมีน้ำใจ สงสารคนอื่น ช่วยเหลือ เป็นคนฉลาด แข็งแรง ไม่เอาอำนาจของตนมาทำร้ายผู้อื่น เป็นที่เกลียดชังของคนอธรรม