สดุดี 72 คำอธิษฐานเพื่อองค์กษัตริย์

บทประพันธ์ของซาโลมอน
การปกครองที่ยุติธรรม
1 โอ พระเจ้า ขอพระองค์ประทานความสามารถ
ให้กับองค์กษัตริย์ในการตัดสินอย่างเที่ยงธรรม
ขอทรงให้พระโอรสมีความสามารถ
ในการตัดสินพระทัยอย่างยุติธรรม
2 เพื่อท่านจะตัดสินประชากรของพระองค์อย่างยุติธรรม
และคนที่ถูกข่มเหงของพระองค์อย่างเท่าเทียมกัน
3ขอให้ภูเขานำข่าวแห่งสันติสุขมาให้ประชาชน
ให้เนินเขาประกาศความยุติธรรม
4 ขอให้ท่านได้ปกป้องคนที่ทุกข์ยากในหมู่ประชาชน
และท่านจะขยี้คนที่ข่มเหงผู้อื่น

การปกครองที่ดีซึ่งอยู่เป็นนิตย์
5ให้ประชาชนได้ยำเกรงท่าน
ตราบเท่าที่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ยังอยู่คู่ฟ้า
ยุคแล้วยุคเล่า
6 ท่านจะเป็นดั่งฝนที่โปรยลงบนทุ่งหญ้าตัดใหม่
เป็นเหมือนฝนที่รดแผ่นดินจนชุ่ม
7 ผู้ที่เที่ยงธรรมในสมัยของท่านจะรุ่งเรือง
สันติสุขจะเต็มล้นตราบเท่าที่ดวงจันทร์ยังส่องแสงประกาย


องค์กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่กว่า
8 ขอให้ท่านได้ปกครองจากริมทะเลหนึ่งไปยังทะเลอีกด้าน
​จากแม่น้ำยูเฟรตีสไปจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก
9 ขอให้เหล่าชนชาติตามริมทะเลก้มกราบท่าน
และศัตรูของท่านจะเลียผงดิน
10 ขอให้เหล่ากษัตริย์แห่งทารชิช
และกษัตริย์ของเมืองริมทะเลนำเครื่องบรรณาการมาถวาย
กษัตริย์แห่งเชบาและเสบา จะนำของกำนัลมา
11 กษัตริย์ทั้งสิ้นจะหมอบลงกราบท่าน
และชนชาติต่าง ๆ จะรับใช้ท่าน

องค์กษัตริย์ที่รักคนยากจน
12 เพราะท่านจะช่วยกู้คนที่ยากไร้
เมื่อพวกเขาร้องขอความช่วยเหลือ
ท่านจะช่วยคนที่ถูกข่มเหง ผู้ที่ไม่มีใครปกป้อง
13 ท่านจะสงสารคนยากจนและคนขัดสน
ท่านจะช่วยชีวิตคนที่ขัดสนให้รอด
14ท่านจะปกป้องพวกเขาให้พ้นจากอันตรายและความรุนแรง
ท่านเห็นคุณค่าแห่งชีวิตของพวกเขา

ทรงเป็นที่ยกย่องของชาติต่าง ๆ
15 ขอให้ท่านทรงพระชนม์
ให้มีผู้นำทองคำจากเชบามาถวาย
ให้มีผู้อธิษฐานเผื่อท่านตลอดไปและ
ให้มีผู้ที่อวยพรท่านตลอดวันเวลาของท่าน
16 ขอให้มีข้าวอย่างอุดมในแผ่นดิน
รวงข้าวโบกไหวอยู่บนยอดเขา
ขอให้ไม้ผลงอกงามดั่งป่าไม้ในเลบานอน
ขอให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ราวกับทุ่งหญ้าบนแผ่นดิน
17 ขอให้ชื่อเสียงของท่านยืนยง
ขอให้เชื้อสายของท่านดำรงอยู่ตราบเท่าที่ดวงอาทิตย์ยังอยู่บนฟ้า
18 พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล
พระองค์เป็นผู้ที่สมควรได้รับคำสรรเสริญ
พระองค์เท่านั้นที่ทรงกระทำราชกิจอันมหัศจรรย์
19 พระนามอันรุ่งโรจน์ของพระองค์
สมควรที่จะได้รับคำสรรเสริญตลอดไป
ขอให้พระสิริตระการของพระองค์เต็มทั่วแผ่นดินโลก
ขอให้เป็นจริงตามนั้น ขอให้เป็นจริงตามนั้น
20 จบคำอธิษฐานของดาวิด บุตรชายเจสซีเท่านี้

ข้อพระคำเชื่อมโยง

1* 1 พงศาวดาร 22:12-13; อิสยาห์ 11:2; ฮีบรู 1:8-9

2* อิสยาห์ 32:1, 9:7; วิวรณ์ 19:11;

3* อิสยาห์ 52:7; 2 โครินธ์ 5:19-21; โยเอล 3:18

4* อิสยาห์ 11:4; เอเสเคียล 34:15-16; วิวรณ์ 19:2

5* สดุดี 89:36-37; ดาเนียล 7:14; สดุดี 72:7

6* โฮเชยา 6:3; เฉลยธรรมบัญญัติ 32:2; 2 ซามูเอล 23:4

7* อิสยาห์ 2:4; เอเฟซัส 2:14-17; ลูกา 2:14

8* เศคาริยาห์ 9:10; อพยพ 23:31; สดุดี 89:25, 80:11

9* อิสยาห์ 49:23; มีคาห์ 7:17; ลูกา 19:27

10*อิสยาห์ 60:6, 49:7; สดุดี 68:29

11* วิวรณ์ 11:15; อิสยาห์ 49:22-23; สดุดี 86:9

12* โยบ 29:12; สดุดี 102:17; วิวรณ์ 3:17-18

13* มัทธิว 5:3; เอเสเคียล 34:16; สดุดี 109:31

14* สดุดี 116:15; วิวรณ์ 19:2; 1 เธสะโลนิกา 2:15-16

15*วิวรณ์ 5:8-14; ยูดา1:25

16* วิวรณ์ 7:9; 1 ​โครินธ์ 3:6-9; กิจการ 4:4

17* อิสยาห์ 7:14; มัทธิว 1:23

18* สดุดี 41:13, 136:4, 106:48

19* กันดารวิถี 14:21; มัทธิว 6:10

20* 2 ซามูเอล 23:1

สดุดี 72: 1-4 การปกครองที่ยุติธรรม
สดุดีบทนี้ เป็นบทประพันธ์ของกษัตริย์ซาโลมอน โดยเข้าใจว่าท่านน่าจะเป็นผู้รวบรวมสดุดีของกษัตริย์ดาวิดไว้ แล้วท่านก็เขียนเป็นบทสรุป เพราะในบทบรรยายนั้น กล่าวถึงพระเมสสิยาห์มากกว่าที่จะกล่าวถึงดาวิด
ในบทนำท่านได้ขอให้พระเจ้าทรงอวยพระพรราชวงศ์แห่งกษัตริย์อิสราเอล เป็นเรื่องเดียวกับใน 1 พงศ์กษัตริย์ 3:5-9 โดยมองว่า กษัตริย์เป็นผู้สร้างความยุติธรรมให้เกิดในหมู่ประชาชน เป็นผู้ปกป้องประชาชนที่ยากจน ข้อสามที่กล่าวถึงภูเขานั้น น่าจะมีความหมายถึงเหล่าผู้ปกครองประชาชนในระดับต่าง ๆ พวกเขาควรจะเป็นผู้นำสันติสุขมาให้ประชาชน
สดุดี 72:5-7 การปกครองที่ดีซึ่งอยู่เป็นนิตย์
และหากคำอธิษฐานได้รับคำตอบ กษัตริย์ปกครองอย่างทรงธรรม ประชาชนก็จะยำเกรงท่านไม่หยุดหย่อน ท่านจะเป็นที่ชื่นใจ ชื่นชมของประชาชน ประชาชนจะมีสันติสุข คนที่รักพระเจ้าจะเจริญรุ่งเรือง
สดุดี 72:8-11 องค์กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่กว่า
กษัตริย์โซโลมอนเริ่มมองเห็นว่า มีท่านผู้หนึ่งที่จะครอบครองไปจนสุดปลายแผ่นดิน เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่กว่าท่าน ศัตรูของพระองค์จะต้องถ่อมตนลงจนถึงกับเลียผงดิน กษัตริย์ทั้งหลายจากประเทศต่าง ๆ ทั่วทั้งโลกจะมารับใช้มหาราชาองค์นี้ และจะมีใครเล่าที่ประชาชาติทั่วโลกกำลังนมัสการพระองค์อยู่ นอกเหนือไปจากองค์พระเยซูคริสต์
สดุดี 72:12-14 องค์กษัตริย์ที่รักคนยากจน
ถ้าเราจะดูชีวประวัติขององค์พระเยซูในพระกิตติคุณ เราจะเห็นว่า พระองค์ทรงอยู่ท่ามกลางคนยากไร้ คนป่วยเจ็บ คนที่ถูกผู้ปกครองทอดทิ้งและเอาเปรียบ ตั้งแต่ที่ทรงบังเกิดจนกระทั่งคืนพระชนม์
พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งพวกเขาเลย
สดุดี 72:15-20 ทรงเป็นที่ยกย่องของชาติต่าง ๆ
องค์กษัตริย์เป็นผู้ได้รับเครื่องบรรณาการจากกษัตริย์ทั้งหลาย ทรงได้รับการสรรเสริญยกย่อง และพระองค์ก็ได้อวยพระพรให้กับแผ่นดิน ให้แผ่นดินนั้นอุดมสมบูรณ์สวยงาม พระนามของพระองค์ ชื่อเสียงและเชื้อสายของพระองค์ดำรงตลอดไป กษัตริย์ซาโลมอนได้มองเห็นว่า องค์กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่พระองค์นี้ จะส่องพระสิริของพระองค์ไปทั่วแผ่นดิน และก็เป็นไปตามนั้น พระนามของพระเยซูทำให้ทุกชีวิตที่รับพระองค์ได้รับการเปลี่ยนแปลง ได้รับพระพร
แล้วกษัตริย์ซาโลมอนก็ได้สรุปจบสดุดีบทต่าง ๆ ของกษัตริย์ดาวิดว่า จบเพียงตอนนี้ ตอนต่อไปจะเป็นสดุดีของท่านอื่น

กาลาเทีย 1 ข่าวประเสริฐแท้

ทักทายพี่น้อง

เปาโล อัครทูตที่ไม่ใช่มาจากมนุษย์หรือโดยมนุษย์แต่งตั้ง แต่โดยพระเยซูคริสต์และพระเจ้าพระบิดาผู้ทรงให้พระองค์คืนชีพจากความตาย และพี่น้องที่อยู่กับข้า มายังคริสตจักรกาลาเทีย
กาลาเทีย 1:1-2

กาลาเทีย 1:11-12; 1 โครินธ์ 1:1; กิจการ 9:15-16;โรม 1:1

ท่านเปาโลเป็นห่วงคริสตจักรในกาลาเทียเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่า มีคนสอนผิดไม่พอยังพยายามให้คนเลิกฟังข่าวประเสริฐที่ท่านประกาศไปก่อนหน้าไม่นานนัก คนเหล่านั้นพยายามให้พี่น้องที่เชื่อใหม่ทำตามบัญญัติเรื่องต่าง ๆ โดยบอกว่าการประพฤติตามบัญญัติจะทำให้รอด ท่านเปาโลได้ไปแถบกาลาเทียซึ่งอยู่ในเอเชียน้อยสองครั้ง (กิจการ16:6, 18:23) และท่านได้กล่าวชัดว่าท่านเป็นอัครทูตที่พระเยซูและพระบิดาทรงแต่งตั้ง

ขอพระคุณและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาและพระเยซูคริสต์เจ้าของเรามายังท่าน
พระเยซูประทานพระองค์เอง เพื่อบาปของเรา เพื่อกู้เราให้พ้นจากยุคที่ชั่วร้ายนี้ ตามพระประสงค์ของพระเจ้าพระบิดาของเรา ขอถวายพระสิริรุ่งโรจน์ตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน
กาลาเทีย  1:3-5

มัทธิว 20:28; กาลาเทีย 2:20;
โรม 11:36; ยูดา 1:25

คำอธิษฐานของท่านเปาโลเพื่อพี่น้องคือ ให้พวกเขามีพระคุณและสันติสุขของพระเจ้าเต็มล้นในชีวิตในสามข้อสั้น ๆ ท่านได้ทำให้เราเข้าใจได้ว่า พระเจ้าทรงประสงค์ที่จะช่วยกู้เราจากโลกที่ชั่วร้าย. คนที่ถามว่าทำไมพระเจ้าปล่อยให้มีความตายหรือให้มีความทุกข์ยาก เป็นคำถามที่ต้องย้อนกลับไปดูตั้งแต่พระเจ้าทรงสร้างโลก ทรงประสงค์โลกที่สวยงาม เต็มด้วยความดีงามบรรพบุรุษคู่แรกของเราได้ทำบาป ความตายและความทุกข์ยากเข็ญความชั่วร้ายจึงเต็มโลกจนพระเจ้าทรงเสียพระทัยยิ่งนัก ปฐมกาล 6:5-6

ไม่มีข่าวประเสริฐอื่นใด

ข้าประหลาดใจที่ท่านละทิ้งพระองค์ผู้ทรงเรียกท่านด้วยพระคุณของพระคริสต์อย่างรวดเร็ว และหันไปหาข่าวประเสริฐแบบอื่น ความจริงนั้นไม่มีข่าวประเสริฐอื่นใดแต่มีบางคนต้องการทั้งกวนใจท่าน และบิดเบือนข่าวประเสริฐของ
พระเยซูคริสต์
กาลาเทีย 1:6-7

2 โครินธ์ 11:4; กาลาเทีย 5:7-8
กิจการ 15:24; กาลาเทีย 5:10

หลังจากที่ท่านเปาโลกล่าวอวยพรขอให้พระคุณและสันติสุขของพระเจ้าอยู่กับพวกเขา ท่านก็เข้าเรื่องเลย ดูเหมือนว่าท่านกำลังไม่สบายใจอย่างมากที่พี่น้องคริสเตียนแถบกาลาเทียกำลังสับสน ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงถูกต้อง เมื่อมีคนเข้ามาสอนอีกแบบที่ไม่เหมือนท่าน ก็หลงเชื่อตามไปง่าย ๆ เป็นการหลงเชื่อที่อันตรายต่อชีวิตฝ่ายวิญญาณเสียด้วย ข่าวประเสริฐของพระเยซูมีแค่ไหน เราต้องเข้าใจให้ชัดเจนเพื่อว่าจะไม่หลงไปง่าย ๆ แบบพี่น้องเหล่านี้

ถึงแม้ว่าเราหรือทูตสวรรค์จะมาประกาศข่าวประเสริฐที่ ตรงข้ามกับข่าวประเสริฐที่เราประกาศ
ไปแล้วนั้น ก็ขอให้เขาถูกสาปอย่างที่เราได้พูดมาก่อนหน้านี้ เวลานี้ข้าก็ขอพูดอีก หากมีใครคนหนึ่ง ประกาศข่าวประเสริฐแก่ท่านที่ตรงข้ามกับที่ท่านเคยได้รับ ขอให้เขาถูกสาป
กาลาเทีย 1:8-9

2โครินธ์ 11:13-14; วิวรณ์ 22:18-19; 1 โครินธ์​16:22; สุภาษิต 30:6; วิวรณ์ 22:18-19

ข่าวประเสริฐเรื่องการรอดพ้นบาปโดยพระเยซูคริสต์นั้น ไม่มีแบบอื่น ไม่ต้องมีตัวกลางคนอื่นการเชื่อพระเยซูคริสต์ว่า พระองค์ทรงเป็นผู้รับ
โทษบาปของเราไปแล้วเป็นเรื่องที่ท่านเปาโลกำลังเน้นย้ำ ในโลกนี้ มีคนมากมายพยายามจะลดความหมายสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของไม้กางเขน
ดังนั้น พวกเขาจึงพยายามหาเรื่องราวมาประกอบให้ความเชื่อในพระเยซูไขว้เขว บิดเบือนไปวันนี้เราไม่ต่างกับชาวกาลาเทีย มีคนที่เอาพระคัมภีร์ไปดัดแปลงและสอนให้คนอื่นเชื่อเช่นนั้น

บัดนี้ ข้ากำลังตามหาการยอมรับของมนุษย์หรือของพระเจ้ากัน?
หรือว่าข้าต้องการเอาใจมนุษย์?
หากข้าพยายามที่จะทำให้มนุษย์พอใจ ข้าก็ไม่ใช่ทาสรับใช้ของพระคริสต์
กาลาเทีย 1:10

1 เธสะโลนิกา 2:4; กิจการ 5:29; เอเฟซัส 6:6

ถ้าท่านเปาโลพยายามเอาใจมนุษย์ ท่านจะไม่สาป คนที่สอนข่าวประเสริฐผิด ๆ ท่านจะตามน้ำไปเพื่อไม่ให้ใครรู้สึกแย่ แต่ท่านไม่อาจทำอย่างนั้นเพราะข่าวประเสริฐแท้จริง ข่าวประเสริฐที่เป็นแผนการของพระเจ้าและมีพระเยซูทรงมาทำให้สำเร็จ เป็นทางเดียวที่มนุษย์จะได้รับความรอดไม่ใช่เชื่ออะไรตามใจมนุษย์ปั้นแต่งขึ้นมา ท่านถึงกับกล่าวว่า
หากตัวท่านเองบิดเบือนข่าวประเสริฐท่านก็สมควรถูกสาปแช่ง

ผู้ที่ทรงใช้ให้ไปประกาศ

พี่น้องเอ๋ย เพราะข้าอยาก
ให้ท่านทราบว่าข่าวประเสริฐ ที่ข้าประกาศไปนั้นไม่ใช่เป็นข่าวประเสริฐของมนุษย์ เพราะข้าไม่ได้รับสิ่งใดจากใครเลย และข้าไม่ได้รับคำสอนจากใคร แต่รับมาโดยการสำแดงของพระเยซูคริสต์
กาลาเทีย 1:11-12

1 โครินธ์ 11:23; เอเฟซัส 3:3-8;
กาลาเทีย 1:16; 2 โครินธ์ 12:1

ท่านเปาโลกำลังแจ้งให้ทราบว่า ข่าวประเสริฐที่ท่านเขียนในจดหมาย ที่ท่่านสอนในคริสตจักรนั้น ท่านไม่ได้เรียนมาจากโรงเรียนไหน อาจารย์ใดผู้ที่สอนท่านคือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเยซูคริสต์ ท่านเปาโลเป็นคนหนึ่งที่โดดเด่นในการเป็นนักเรียนขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ท่ามกลางโลกที่เต็มด้วยคำสอนแปลก ๆ ตามความคิดของมนุษย์ ท่านเปาโลที่เก่งกาจในบทบัญญัติของโมเสส กลับไม่เรียนจากใคร แต่เรียนจากพระเจ้าโดยตรง

เพราะท่านรู้ถึงชีวิตในอดีต ตอนที่ข้าเชื่อศาสนายิวว่า ข้าได้ข่มเหงคริสตจักรของพระเจ้าอย่างรุนแรง และพยายามที่จะทำลายคริสตจักรด้วย
กาลาเทีย 1:13

กิจการ 8:3; 1 ทิโมธี 1:13; 1 โครินธ์ 15:9; กิจการ26:4-5

นักเรียนขององค์พระวิญญาณผู้นี้ เคยมีอดีตที่เป็นคนเชื่อศาสนายิว ถือกฎบัญญัติของโมเสสอย่างเคร่งครัด แดมยังมีกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ช่วยกันตั้งขึ้นมาในช่วง 400 ปีก่อนที่พระเยซูมาบังเกิด ท่านเปาโลเองตกอยู่ภายใต้กฎเหล่านี้ ท่านมองว่า การเชื่อพระเยซูเป็นสิ่งที่บ่อนทำลายศาสนายิว ดังนั้นจึงต้องกำจัดความเชื่อในพระเยซูให้สิ้นซาก

ข้ามีความเข้าใจลึกซึ้งในศาสนายิวมากกว่าคนพวกเดียว กันที่อายุเท่ากัน
ข้ากระตือรือร้นสุดโต่ง
เพื่อความเชื่อของบรรพบุรุษ
กาลาเทีย 1:14

กิจการ 26:5; 1 เปโตร 1:8; โคโลสี 2:8; ฟีลิปปี 3:4-6

เราจะเห็นชัดว่า ท่านเปาโลเป็นคนที่ไปจนสุด
ไม่ว่าในเรื่องอะไร เมื่อท่านข่มเหงคนของพระเจ้าท่านก็ทำอย่างสุดหัวใจ เมื่อท่านเรียนรู้บทบัญญัติของโมเสส ท่านก็มีความลึกซึ้ง
มีความเข้าใจมากกว่าเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกัน
และยังมีแรงผลักดันที่จะให้ความเชื่อดั้งเดิม
นั้นคงอยู่อย่างมั่นคงด้วย ท่านได้ให้เราได้ทราบถึงเบื้องหลังของชีวิตท่านด้วยตัวเอง
นี่เป็นคำพยานของคนที่ต่อต้านพระเยซูอย่าง
สุด ๆ แล้วต้องมาสยบให้พระองค์

แต่เมื่อพระองค์ทรงพอพระทัย
พระเจ้าทรงเลือกข้าออกมา
จากครรภ์มารดา
ทรงเรียกข้ามาโดยพระคุณของพระองค์
กาลาเทีย 1:15

เยเรมีย์ 1:5; อิสยาห์ 49:1,5; 2 ทิโมธี 1:9

เมื่อเราได้ยินคำอธิบายนี้ เราก็ต้องย้อนไปดูว่า
พระเจ้าทรงทำอะไรก่อนทรงสร้างโลกนี้
เอเฟซัส 1:4 กล่าวว่า เพราะพระองค์ได้ทรง
เลือกเราไว้ในพระคริสต์ ตั้งแต่ก่อนที่พระองค์
ทรงสร้างโลก เพื่อห้เราบริสุทธิ์ และไร้ตำหนิ
ในสายพระเนตร… ทรงเลือกเรามานานแล้ว
และที่พระเจ้าทรงยอมให้ท่านเปาโลข่มเหงคนของพระองค์ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ล่ะ ท่านอธิบายว่าอย่างไร? ใน 1 ทิโมธี 1:16 เพื่อพวกเราจะได้เห็นว่า พระเจ้าทรงอดกลั้นแค่ไหนกับคนบาป

ทรงพอพระทัยที่จะสำแดงพระบุตรของพระองค์ในข้า เพื่อว่าข้าจะได้ประกาศพระองค์ท่าม กลางคนต่างชาติ
ตอนนั้นข้าไม่ได้ขอคำแนะนำจากใครเลย
กาลาเทีย 1:16

มัทธิว 16:17; เอเฟซัส 3:5-10, 6:12; 3:1

พระเจ้าทรงประสงค์ให้คนได้เห็นพระเยซูคริสต์ในตัวของท่านเปาโล ในอดีตท่านเป็นคนที่มองว่าคนต่างชาติเป็นคนต่ำกว่าคนยิว เป็นคนไร้ค่าแต่แล้วพระเจ้ากลับทรงใช้ท่านให้ไปปรนนิบัติคน
เหล่านั้น นี่เป็นการพลิกการมองโลกของท่าน
หน้ามือเป็นหลังมือ อีกประการ ท่านเปาโลได้รับความหมายของข่าวประเสริฐจากพระเยซูโดยตรง ท่านจึงไม่ได้ไปขอความเห็นจากอัครทูตที่มาก่อนเลย

และข้าก็ไม่ได้ขึ้นไปเยรูซาเล็ม
เพื่อพบกับท่านอัครทูตรุ่นพี่ แต่ข้าได้ไปที่อาราเบีย แล้วจึงกลับมาที่ดามัสกัส
3 ปีผ่านมา ข้าจึงขึ้นไปยังเยรูซาเล็มเพื่อเยี่ยมท่านเคฟาส และอยู่กับท่านอีก15 วัน และข้าไม่ได้พบอัครทูตท่านอื่น
นอกจากยากอบซึ่งเป็นน้องชายขององค์พระผู้เป็นเจ้า
กาลาเทีย 1: 17-19

2 โครินธ์ 11:32-33; กิจการ 9:20-25
กิจการ 22:17-18; 9:26-29

ท่านเปาโลมิได้เรียนรู้เนื้อหาข่าวประเสริฐที่
ท่านเขียนในจดหมายฝากต่าง ๆ จากมนุษย์
เพราะสิ่งที่ท่านเขียนนั้น อธิบายแผนการของพระเจ้าอย่างชัดเจน แตกต่างจากอัครทูตท่านอื่น ๆเราจะขาดจดหมายฝากของท่านเปาโลไม่ได้เลยเพราะจดหมายเหล่านั้น ทำให้รู้ซึ้งถึงน้ำพระทัยของพระเจ้า ช่วยเพิ่มความเข้าใจชีวิตของพระเยซู รวมถึงเป้าหมายของพระเจ้าต่อโลกมนุษย์

สิ่งที่ข้าเขียนถึงท่านเหล่านี้ต่อพระพักตร์ของพระเจ้า ข้าไม่ได้มุสา
แล้วข้าก็เดินทางไปแคว้นซีเรียและซีซิเลีย
และข้าไม่เป็นที่รู้จักในคริสตจักรต่าง ๆ ที่อยู่ในพระคริสต์ ในแคว้นยูเดีย
กาลาเทีย 1:20-22

มัทธิว​ 13:55; มาระโก 6:3
โรม 9:1; 2 โครินธ์ 11:31
กิจการ 15:41; 9:30; 1 เธสะโลนิกา 2:14; โรม 16:7

ในช่วงเวลาแรก ๆ ที่กลับจากคนข่มเหงคริสตจักรมาเป็นคนที่ประกาศพระนามพระเยซูท่านเปาโลก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักในคริสตจักรต่าง ๆ
ในยูเดียทางใต้ซึ่งมีเยรูซาเล็มเป็นศูนย์กลาง ท่านเริ่มไปประกาศสั่งสอนข่าวประเสริฐที่ท่านเรียนจากพระเจ้าโดยตรง ทางเหนือของอิสราเอลคือที่ซีเรีย และ ซีซิเลียซึ่งแคว้นนี้เป็นที่ตั้งของเมืองทารซัส บ้านเกิดของท่านเอง

พวกเขาได้ยินว่า “คนที่เคยข่มเหงพวกเรา บัดนี้ กำลังเทศนาถึงความเชื่อที่ครั้งหนึ่ง เขาพยายามทำลาย”และพวกเขาก็ถวายพระสิริแด่พระเจ้าเพราะข้า
กาลาเทีย 1:23-24

1 โครินธ์ 15:8-10; กิจการ9:13; 1 ทิโมธี
1:13-16; กิจการ 11:18; ลูกา 15:32, 15:10

จะเห็นได้จากพระคำตอนนี้ว่า ผู้ที่มีชัยชนะคือองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทรงอดกลั้นพระทัยต่อท่านเปาโล ในยามที่ท่านทำร้ายพระองค์ แม้ว่าพระองค์ทรงเรียกท่านเปาโลมานานพระองค์ทรงทำให้ท่านเองรู้ว่า ตัวจริงของท่าน
เป็นคนอย่างไร โหดร้ายต่อคนอื่นเมื่อพวกเขา
ไม่เชื่อเหมือนตนเอง และเมื่อถึงเวลาอันพอเหมาะพระเจ้าก็ทรงทำให้ท่านเข้าใจว่า ความรักของพระเจ้าไม่บังคับ ขู่เข็ญเหมือนที่ท่านเคยทำและคนทั้งหลายที่เห็นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตก็กลับมาสรรเสริญพระเจ้า