ยอห์น 16 ราชกิจขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์

คำเตือนล่วงหน้า

ราชกิจของพระวิญญาณกับคนทั่วไป

ราชกิจของพระวิญญาณต่อผู้เชื่อ

พระเยซูทรงเตรียมใจคนใกล้ชิด

ความทุกข์จะกลายเป็นความยินดี

ขอได้ในพระนามพระเยซู

เราชนะโลกแล้ว

คำอธิบายและพระคำเชื่อมโยง


คำอธิบายเหล่านี้ เป็นเพียงอธิบายสั้น ๆ พระคำของพระเจ้านั้นลึกซึ้งกว่านี้มาก เราจึงศึกษาพระคำของพระเจ้าได้ตลอดชีวิต บทที่16 เป็นคำของพระเยซูที่ทรงย้ำเตือนสิ่งที่ตรัสมาก่อนล่วงหน้าแล้ว


คำเตือนล่วงหน้า ยอห์น 16:1-6
พระเยซูทรงเตือนศิษย์ล่วงหน้าว่า พวกเขาจะเจอมรสุมใหญ่มาก แบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน ทรงให้เขารู้เพื่อว่าเขาจะไม่กระจัดกระจายไปจากกันและกัน ไม่สะดุดไปเพราะเหตุการณ์ร้ายนั้น สิ่งที่ทรงบอกก็น่ากลัว คือพวกเขาจะถูกไล่จากกลุ่มพี่น้องในศาลาธรรมถูกตามฆ่าด้วย (ต่อมาเหตุการณ์ก็เป็นไปตามนั้นจริง อัครทูตทั้งสิบถูกประหารด้วยวิธีที่น่าสยดสยอง ยกเว้นท่านยอห์น คนที่ทำต่างคิดว่าพวกเขาทำเพื่อพระเจ้า แต่ความจริงคือพวกเขาไม่รู้จักทั้งพระบิดาและพระบุตร ตัวอย่างเห็นได้จากท่านเปาโลที่คิดว่าตัวเองข่มเหงคริสเตียนเพราะทำเพื่อพระเจ้า)
ทรงบอกเหตุผลว่า พระองค์กำลังจะไม่อยู่กับพวกเขาแล้ว พวกเขาต้องเตรียมใจ เมื่อเป็นเช่นนี้ ทั้งสิบเอ็ดคนจึงเป็นทุกข์มาก ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทัน แต่ดูเหมือนว่าพระเยซูไม่ได้สะทกสะท้านกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเลย

1* มัทธิว 11:6
2* ยอห์น 9:22; 12:42; 4:21; กิจการ 8:1; 9:1; 26:9-11
3* ยอห์น 8:19, 55; 15:21; 17:25
4* ยอห์น 13:19; 14:29; ลูกา 22:53; มัทธิว 9:15 
5* ยอห์น 14:12; 13:36; 14:5; 16:22; 14:1; 16:5; 14:12 ;13:36; 14:5 
6* ยอห์น 16:22; 14:1

ราชกิจของพระวิญญาณกับคนทั่วไป ยอห์น 16:7-11
แล้วพระองค์ทรงปลอบใจเขาให้รู้ความจริงว่า ที่พระองค์จากไปนั้น เป็นผลดีเพราะว่า พระองค์จะทรงองค์พระผู้ช่วยมาหาพวกเขา
สิ่งที่พระวิญญาณทรงทำในใจของผู้ที่ยังไม่เชื่อก็คือ ทรงให้พวกเขาตระหนักถึงบาปของตนที่ไม่เชื่อพระเยซู ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมาก่อนการกลับใจ
ความชอบธรรมที่พวกเขาต้องมีซึ่งเขาจะมีได้เพราะพระเยซูกำลังจะสิ้นและคืนพระชนม์ ทรงกลับไปหาพระบิดา แล้วพระวิญญาณจะทรงให้เราเห็นว่า พระเจ้าทรงพิพากษามาร การงานของมันและลิ่วล้อของมันด้วยอย่างแน่นอน
บาปสำคัญที่มนุษย์ทุกคนต้องกำจัดให้ได้คือการไม่เชื่อพระเยซู เพราะบาปนั้นเป็นเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสได้รับชีวิตนิรันดร์


7* ยอห์น 7:39; 15:26; 14:16; กิจการ 2:33; ยอห์น 14:2; 14:26
8* ยอห์น 8:28; 8:46
9* ยอห์น 8:24; กิจการ 2:36, 37; 1 โครินธ์ 12:3]
10* กิจการ 17:31; ยอห์น 16:16, 17, 19
11* ยอห์น 12:31; โคโลสี 2:15; ฮีบรู 2:14

าชกิจของพระวิญญาณต่อผู้เชื่อ ยอห์น 16:12-15
ยังมีหลายสิ่งที่พระเยซูจะบอกศิษย์ใกล้ชิด แต่ว่า พวกเขายังไม่อาจรับได้ทุกเรื่อง ดังนั้น พระเยซูจึงให้สิ่งต่าง ๆ ที่ต้องบอกเป็นราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงยืนยันว่า พระวิญญาณจะตรัสในสิ่งที่ทรงได้ยินจากพระบิดาที่ส่งต่อผ่านมาทางพระบุตร เวลาเรามาเชื่อพระเจ้าใหม่ ๆ เราก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไป บางสิ่งมันก็ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เราจะเข้าใจ อาจจะต้องใช้เวลา เพราะว่า ความรู้ที่ได้จากพระเจ้านั้นไปพร้อมกับการเติบโต ยิ่งเติบโต พระเจ้าก็จะทรงสอนในสิ่งที่ยากขึ้น ละเอียดขึ้นให้แก่เรา
พระบุตรทรงถวายพระเกียรติแด่พระบิดา และพระวิญญาณก็จะทรงถวายพระเกียรติแด่พระเยซู แต่ทั้งหมดนี้ ศิษย์ทั้ง 11 คน ก็ไม่ได้เข้าใจอะไรกระจ่าง …​เหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่า เรียนรู้จักพระเจ้าไปเถอะ มีบางอย่างที่ไม่เข้าใจเวลานี้ แต่พระวิญญาณจะทรงให้ความเข้าใจแก่เรา และเราเองก็จะช่วยให้คนอื่นได้เข้าใจด้วย


13* ยอห์น14:17; 14:26; กิจการ 8:31; ยอห์น 1:17; 14:6; สดุดี 25:5; ยอห์น 15:15
14* ยอห์น 7:39
15* ยอห์น17:10 ; ดูข้อ 14

วามทุกข์จะกลายเป็นความยินดี ยอห์น 16:18-23ก
พวกเราสมัยนี้ รู้ว่า พระเยซูตรัสถึงอะไร ความตายที่ใกล้เข้ามา แต่ศิษย์ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ทำไมพวกเขาร้องไห้ในขณะที่โลกยินดี? นี่มันเรื่องอะไรกันหรือ? ศิษย์ถาม แต่พระเยซูไม่ได้ตอบอย่างที่พวกเขาต้องการเพราะอย่างไร ๆ พวกเขาก็จะไม่เข้าใจอยู่ดี
แล้วพระเยซูทรงเปรียบเทียบว่า ความยินดีของพวกเขาจะมา เหมือนกับแม่ที่คลอดบุตร ใช่แล้ว มันเจ็บปวดมากก่อนที่จะได้เจอกับเวลาแห่งความยินดี เช่นกัน พวกเขาเป็นทุกข์ แต่ก็จะได้พบกับพระองค์อีก แล้วเมื่อพบพระองค์ ก็ไม่ต้องมีคำถามอะไรอีกเลย เพราะความยินดีนั้นท่วมท้น


18* ยอห์น 14:5
19* ดูข้อ 30; ยอห์น 2:24, 25
20* มัทธิว 9:15; มาระโก 16:10; ลูกา 23:27; วิวรณ์ 11:10; เยเรมีย์ 31:13; มัทธิว 5:4
21* อิสยาห์ 26:17; สดุดี 48:6; อิสยาห์ 13:8; 1 เธสะโลนิกา 5:3; วิวรณ์12:2
22* ดูข้อ 6; 2 โครินธ์ 6:10; ดูข้อ 16;สดุดี 33:21; อิสยาห์ 66:14; ลูกา 24:52; กิจการ 2:46; 8:8, 39;
23* ดูข้อ 26; ยอห์น 14:20; ดูข้อ 19, 30; ยอห์น 14:13; 15:16; เอเฟซัส 1:3

ขอได้ในพระนามพระเยซู อห์น 16:23ข-28
การขอในพระนามพระเยซูคือการขอโดยสิทธิอำนาจของพระองค์
เราบอกเจ้าเป็นคำภาพ (Figurative Language) บางครั้งคำที่เป็นภาพก็เข้าใจได้ง่ายขึ้นอย่างเช่นเรื่องพระองค์เป็นต้นองุ่น ทรงเป็นผู้เลี้ยงที่ดี
ที่พระเยซูตรัสว่า พระองค์จะไม่อธิษฐานต่อพระบิดาเพื่อพวกเขาอีก เพราะว่า เวลานี้ พวกเขาทูลขอต่อพระบิดาได้โดยตรง ในพระนามของพระบุตรที่พระบิดาทรงรักมาก พวกเขาไม่ใช่แค่ขอเพื่อตัวเอง แต่ขอเพื่อคนอื่น ๆ ได้เหมือนที่พระเยซูทรงอธิษฐานเผื่อชาวโลกนี้ (ฮีบรู 7:25)
ข้อ 28 นี้ เป็นการบอกชีวิตของพระองค์ในประโยคสั้น ๆ ทรงมาจากพระบิดา ทรงเข้ามาเป็นมนุษย์ในโลก จะทรงสิ้นพระชนม์ และจะทรงมีชีวิตกลับไปหาพระบิดา


24* มัทธิว 7:7 ; ยอห์น 15:11
25* ดูข้อ 2
27* ยอห์น 14:21, 23; 17:23; 21:15-17; 1 โครินธ์ 16:22; ดูข้อ 30; ยอห์น 17:8
28* ยอห์น 8:14; 13:3; 14:12

เราชนะโลกแล้ว ยอห์น 16:29-33
แล้วในที่สุด ศิษย์ของพระองค์ก็เริ่มเห็นภาพ และเข้าใจว่า ตนเองเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง มีความมั่นใจในความเชื่อมากกว่าความเป็นจริง จากนั้นทรงบอกเขาล่วงหน้าว่า พวกเขาจะกระจัดกระจายหนีไปเพราะความกลัว และทิ้งพระองค์ไว้ผู้เดียว พระองค์ทรงเตือนเขาว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ไม่ได้ทรงตำหนิพวกเขา ดูเหมือนว่าพระองค์อยู่ผู้เดียวหรือ? เปล่าเลย พระบิดาทรงอยู่กับพระองค์ตลอดเวลา
ที่พระองค์ทรงบอกเหตุการณ์ต่าง ๆ ล่วงหน้านี้เพื่อไม่ให้พวกเขาทุกข์ใจ แต่ให้เป็นสุขเพราะว่า พระองค์ทรงชนะตามแผนการของพระเจ้าที่วางไว้ทุกประการ
พระเยซูทรงบอกไว้เลยว่า แม้จะพบความทุกข์ยากแต่ก็ขอให้ยินดี เพราะว่า พระเยซูทรงชนะแล้ว ทรงไถ่มนุษย์ให้กลับไปหาพระบิดา ทรงมีชัยชนะเหนือความตาย


29* ดูข้อ 25
30* ยอห์น 21:17; 2:24, 25; ดูข้อ 27, 28; ยอห์น 3:2]
32* ยอห์น 4:21, 23; มัทธิว 26:31; มาระโก14:27; อิสยาห์ 63:5; ยอห์น 8:16, 29
33* ยอห์น 14:27; โคโลสี 3:15; ยอห์น 15:18-21; วิวรณ์ 1:9; กิจการ 14:22
ยอห์น 14:1, 27; โรม 8:37; 1 ยอห์น 4:4; 5:4, 5; วิวรณ์ 3:21; 12:11