เศคาริยาห์ 14 พระยาห์เวห์ทรงครอบครอง

เหล่าผู้ทำลายนครเยรูซาเล็มถูกทำลาย
1 ดูเถิด วันของพระยาห์เวห์กำลังมาถึง เมื่อสิ่งที่พวกเจ้าริบมานั้น ถูกแบ่งปันต่อหน้าพวกเจ้า 

2 เพราะเราจะรวบรวมชาติต่าง ๆ เข้ามาต่อสู้นครเยรูซาเล็ม และนครนี้จะถูกยึด  บ้านเรือนถูกปล้น และผู้หญิงจะถูกข่มขืน  ประชากรจำนวนครึ่งหนึ่งจะถูกกวาดไปเป็นเชลย  แต่คนที่เหลือจะไม่ถูกเอาออกไป

3 แล้วพระยาห์เวห์จะทรงออกไปสู้ต่อต้านชาติต่าง ๆ เหล่านั้น ดังที่พระองค์ทรงต่อสู้ในสงคราม 

4 ในวันนั้น พระบาทของพระองค์จะยืนอยู่บนภูเขามะกอกเทศซึ่งอยู่ทางตะวันออกของนครเยรูซาเล็ม และภูเขามะกอกเทศจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนจากตะวันออกไปยังตะวันตกทำให้เกิดหุบเหวใหญ่ ครึ่งหนึ่งของภูเขาเคลื่อนไปทางเหนือ อีกครึ่งเลื่อนไปทางใต้

5 เจ้าจะหนีไปทางหุบเขาของเรา เพราะมันทอดยาวถึงอาซัล  เจ้าจะหนีไปเหมือนที่เจ้าหนีจากแผ่นดินไหวในสมัย กษัตริย์แห่งยูดาห์คืออุสซิยาห์   แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าจะเสด็จมา พร้อมกับผู้บริสุทธิ์ทั้งปวงของพระองค์ 

6ในวันนั้นจะไม่มีแสงสว่าง ไม่มีความเย็นหรือน้ำแข็ง 

7 เป็นวันที่ไม่เหมือนวันใด  ซึ่งพระยาห์เวห์เท่านั้นทรงทราบ ไม่มีกลางวันหรือกลางคืน แต่จะมีแสงสว่าง เมื่อเข้าเวลาเย็น 

8 และในวันนั้น น้ำแห่งชีวิตจะไหลออกมาจากนครเยรูซาเล็ม ครึ่งหนึ่งไหลไปทางทะเลตะวันออก อีกครึ่งหนึ่งไหลไปทางทะเลตะวันตก น้ำจะไหลไป ตลอดทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว 

9 ในวันนั้น พระยาห์เวห์จะเสด็จมาเป็นกษัตริย์ของคนทั้งแผ่นดินโลก   จะมีพระยาห์เวห์องค์เดียวเท่านั้น และพระนามของพระองค์เพียงผู้เดียว 

10 ทั้งแผ่นดินจากเกบาสู่ริมโมนทางใต้ของนครเยรูซาเล็มจะถูกเปลี่ยนเป็นที่ราบ แต่เยรูซาเล็มจะถูกยกขึ้น และจะดำรงอยู่ในที่ของมัน จากประตูเบนยามินไปถึงประตูแรก  ๆ ไปจนถึงประตูมุม และจาก หอคอยฮานันเอลถึงบ่อย่ำองุ่นหลวง

11 ประชาชนจะอาศัยที่นั่น และจะไม่มีวันถูกทำลายสิ้นเชิงอีกต่อไป ดังนั้น ผู้คนในนครเยรูซาเล็มจะอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย 

ศัตรูหายนะ
12 ภัยพิบัติที่พระยาห์เวห์จะทรงให้เกิดแก่ชาติต่าง ๆ ที่มาสู้รบกับเยรูซาเล็มนั้นคือ เนื้อของเขาจะเน่าคาตัวขณะที่ยืนอยู่ ตาของเขาเน่าไปคากระบอกตาและลิ้นของเขาก็เน่าคาปาก

13ในวันนั้น พระยาห์เวห์จะทำให้พวกเขาตื่นตระหนกกลัวลาน เพื่อว่าทุกคนก็จะจับมือของอีกคนไว้ และต่างก็สู้กันเอง 

14 ยูดาห์เองก็จะสู้รบที่เยรูซาเล็ม และพวกเขาจะเก็บรวบรวมทรัพย์สมบัติของชาติรอบ ๆ  ทั้งแร่ทอง แร่เงิน และเสื้อผ้าจำนวนมหาศาล  

15 และภัยพิบัติดังกล่าวจะเกิดกับม้า ล่อ อูฐ และลา รวมทั้งสัตว์ทั้งปวงในค่ายเหล่านั้น 

ชาติต่าง ๆ จะนมัสการองค์กษัตริย์
(เลวีนิติ 23:33–44; เนหะมีย์ 8:13–18)
16 แล้วคนที่รอดชีวิตจากชาติต่าง ๆ ที่มาต่อสู้กับเยรูซาเล็ม  จะขึ้นไปปีแล้วปีเล่า เพื่อนมัสการองค์กษัตริย์ คือ พระยาห์เวห์องค์จอมทัพ และเพื่อจะฉลองเทศกาลอยู่เพิง

17 และหากครอบครัวใดในแผ่นดินไม่ขึ้นไปยังนครเยรูซาเล็มเพื่อนมัสการองค์กษัตริย์ คือ พระยาห์เวห์องค์จอมทัพ พวกเขาก็จะไม่ได้มีฝนตกลงมา 

18 และหากประชาชนแห่งอียิปต์ ไม่ขึ้นไปด้วยตนเองแล้วละก็ ฝนจะไม่ตกให้พวกเขา  นี่จะเป็นภัยพิบัติที่พระเจ้าทรงบัลดาลให้เกิดกับชนชาติที่ไม่ขึ้นไปฉลองเทศกาลอยู่เพิง

19 นี่จะเป็นการลงโทษอียิปต์ และชาติต่าง ๆที่ไม่ขึ้นไปฉลองเทศกาลอยู่เพิง

20 ในวันนั้น ลูกกระพรวนที่ตัวม้าจะมีข้อความจารึกไว้ว่า “บริสุทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า” และหม้อในพระนิเวศของพระยาห์เวห์จะเป็นเหมือนอ่างหน้าแท่นบูชา
 
21 ที่จริงแล้ว หม้อทุกใบในเยรูซาเล็ม และยูดาห์จะบริสุทธิ์ต่อพระยาห์เวห์องค์จอมทัพและทุกคนที่มาถวายเครื่องบูชาจะรับเอาหม้อไปใช้ในการหุงต้มอาหาร จากวันนั้นมา จะไม่มีชาวคานาอัน(หรือพ่อค้า)ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์องค์จอมทัพอีกต่อไป 

อธิบายเพิ่มเติม

เศคาริยาห์บทที่ สิบสี่ กลับมากล่าวถึงการปิดล้อมเยรูซาเล็มครั้งสุดท้าย   เพิ่มเติมสิ่งที่ไม่ได้พูดถึงในบทที่ 12 คือการครอบครองขององค์พระเมสสิยาห์ในหนึ่งพันปี  เป็นภาพที่ชัด โดดเด่นว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เหตุการณ์ที่เกิดเป็นภาพสยดสยองมาก่อน และจากนั้นเต็มด้วยความตระการแห่งการปกครองของพระเจ้า   พระเจ้าจะทรงครอบครองเหนือทั้งอิสราเอลและคนต่างชาติทั่วโลก

1:1  คำว่า ดูเถิด กำลังบอกว่า มีเรื่องสำคัญที่จะบอก … เศคาริยาห์กล่าวถึง วันของพระยาห์เวห์ หรืออีกนัยหนึ่ง วันสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้านั่นเอง  เป็นวันที่น่ากลัว วันแห่งการพิพากษากำลังมาถึง เป็นการยึดเยรูซาเล็มครั้งสุดท้าย 
วันของพระเจ้า จะมาถึงเมื่อพระองค์ทรงทำตามที่ทรงดำริไว้ในพระทัย วันนั้นเป็นวันที่ชาติต่าง ๆ จะริบความมั่งคั่งของอิสราเอลและจะแบ่งสันปันส่วนกัน ในนครเยรูซาเล็ม!! 

14:2  พระเจ้าจะทรงให้ชาติต่าง ๆ รวมหัวกันเข้ามาสู้กับอิสราเอล พวกเขามีเป้าหมายที่จะทำตามอย่างที่ข้อสองเขียนไว้ และก็เหมือนกับเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม  2023  เมื่อฮามาสเข้ามาบุกอิสราเอลอย่างอาจหาญ แต่นั่นยังไม่ใช่ปล้นเยรูซาเล็ม แต่เหตุการณ์จะคล้ายคลึงกัน  เหตุการณ์ที่เศคาริยาห์กล่าวถึงจะเกิดขึ้นในอนาคต  (Constablenotes ให้ความเห็นว่า จะเกิดขึ้นในช่วงพันปี)

14:3 พระเจ้าทรงพระนามเอล กิบอร์ ทรงเป็นนักรบ พระองค์ทรงเป็นพระยาห์เวห์องค์จอมทัพ จะทรงออกไปต่อสู้กับศัตรูเหล่านี้ให้เหมือนอย่างในอดีต  (อพยพ 14:13-14; โยชูวา 10:14)

14:4 เหตุการณ์นี้ บ่งบอกว่า พระเจ้าจะทรงยืนบนภูเขามะกอกเทศที่อยู่ทางตะวันออกของเยรูซาเล็ม ซึ่งจะถูกแบ่งเป็นสองส่วนจากตะวันออกไปตะวันตก เกิดหุบเหวใหญ่ ทำให้ภูเขาเคลื่อนไปเหนือและใต้…

14:5 สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ พวกเขาจะหนีไปได้อย่างปลอดภัย  อาซัลเป็นที่ ๆ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอยู่ที่ใด แต่อยู่ห่างจากเยรูซาเล็มไปทางตะวันออก  การหนีของพวกเขาเหมือนสมัยแผ่นดินไหวตอนที่กษัตริย์อุสซียาห์ครอง (อาโมส 1:1)

เศคาริยาห์ใช้คำว่า พระเจ้าของข้าพเจ้า … เขาใกล้ชิดพระองค์มาก และพระองค์มาพร้อมผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายคือ ทั้งอิสราเอลที่เชื่อ คนต่างชาติที่เชื่อ และทูตสวรรค์  (มัทธิว 25:31; 1 เธสะโลนิกา 3:13; ยูดา 14)

14:6 โลกไม่ได้ต้องการแสงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ดวงดาวอีก   ไม่มีความหนาว
ยะเยือกอีกต่อไป พระเจ้าจะทรงเป็นแสงสว่างให้กับมนุษย์ 

14:7 ดูเหมือนว่าสภาพบรรยากาศจะคล้ายกับช่วงเวลาเย็น แม้ในช่วงเวลาเย็นของที่เคย ก็ยังจะมีแสงสว่าง (อ่านเยเรมีย์ 30:7)  วันนั้นจะมีลักษณะที่แตกต่างจากที่เราเคยชินกัน
นี่เป็นสภาพใหม่ของจักรวาลในวันที่พระเจ้าทรงกำหนดด้วยพระองค์เอง ไม่ได้เป็นวันที่มียี่สิบสี่ชั่วโมงเช้าเย็นอีกต่อไป 

14:8 จะมีน้ำแห่งชีวิตไหลไปทางตะวันตกลงทะเลใหญ่เมดิเตอร์เรเนียนและด้านตะวันออกลงยังทะเลตาย  น้ำแห่งชีวิตนี้ เป็นภาพของการออกไปอย่างรวดเร็ว คงที่ ให้ชีวิตกับริมฝั่งน้ำ  และจะไหลไปตลอดทั้งปี (โยเอล 3:18) สำหรับอิสราเอลในพระคัมภีร์ ถือว่ามีสองฤดูคือร้อน และหนาว ช่วงร้อนคือ พฤษภาคมถึงกันยายน และ ช่วงที่หนาวคือ ตุลาคมถึงเมษายน
 
14:9 วันนั้น พระยาห์เวห์จะทรงครอบครองทั่วโลก  ทรงเป็นกษัตริย์องค์เดียว พระนามเดียวเป็นที่เชิดชู  จะไม่มีพระอื่นอีกต่อไป
(เฉลยธรรมบัญญัติ 6:4-5 )
พระคำข้อนี้ชัดเจนว่า พระเจ้าจะทรงครอบครองสูงสุด หนึ่งเดียว สมกับคำอธิษฐานของพระเยซูที่ว่า ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จในสวรรค์อย่างไร ก็ให้สำเร็จในแผ่นดินโลกเช่นกัน 
(อ่าน สดุดี 2; มัทธิว  6:9-10; )

14:10 พื้นที่รอบเยรูซาเล็มจะกลายเป็นที่ราบ โดยที่พื้นที่ของนครเยรูซาเล็มจะถูกยกขึ้นมา ซึ่งน่าจะเกิดจากแผ่นดินไหว
โดยที่ทุกอย่างจะยังคงอยู่ในที่เดิมของมัน  เกบานั้นอยู่ทางเหนือ (2 พงศ์กษัตริย์ 23:8 ) ส่วนริมโมนอยู่ทางใต้ออกไปอีกไกล (เนหะมีย์ 11:29)

14:11 ข้อนี้มีความหมายมาก เพราะว่า เยรูซาเล็มอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัยมาโดยตลอด ตอนนี้ จะไม่มีอันตรายอีกต่อไป  ประชากรที่ต้องอยู่กับความหวั่นไหวจากศัตรู จะพบว่า เยรูซาเล็มน่าอยู่  ผู้คนจะเป็นสุขกับการที่มีพระเจ้าทรงครอบครอง 

ศัตรูหายนะ
14:12  ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับคนที่มารบกับเยรูซาเล็มคือ พวกเขาจะเจอกับความตายที่สยดสยอง เหมือนกับตายทั้งเป็น พวกเขาจะโดนความร้อนที่รุนแรงมากจนเนื้อหนังของเขาหลุดออกมา และตาก็บอดทันที เราไม่ทราบว่ามันเป็นระเบิด หรือ โรคระบาด ถ้าเป็นระเบิด ให้ลองคิดถึงสงครามที่ญี่ปุ่นเคยโดนถล่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์



14:13 ผู้คนต่างกลัวลาน ความคิดสับสนไปหมด กลับกลายเป็นพวกเขาที่เข้ามาบุก กลับสู้กันเองจนล้มตาย 
มีเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นในอดีต   (ผู้วินิจฉัย 7:22; 1 ซามูเอล 14:15-20; 2 พงศาวดาร 20:23)

14:14  ไม่ใช่แค่ศัตรูจากชาติต่าง ๆ สู้กันเอง แต่อิสราเอลก็ออกไปรบด้วย และยังริบของได้อีกมากมาย

14:15 ภัยพิบัติไม่ได้เกิดกับมนุษย์เท่านั้น แต่เกิดกับสัตว์เลี้ยงและสัตว์พาหนะด้วย

14:16 คนที่รอดชีวิตจากชาติต่างๆ พร้อมกับคนอิสราเอลจะฉลองเทศกาลอยู่เพิง ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีความหมายระลึกถึงการที่ผู้คนจะต้องพึ่งพระเจ้ายามที่เขาอยู่ในถิ่นกันดาร
จากเทศกาลหลาย ๆ อย่างพระเจ้าทรงเลือกเทศกาลอยู่เพิงเป็นตัวแทนของเทศกาลเหล่านั้นในยุค 1000 ปีที่จะทรงครอบครอง 
 
14:17-19 ดูเหมือนว่าในการปกครองพันปีนั้น ยังมีคนสองประเภทอยู่ คือที่เชื่อฟัง และไม่เชื่อฟัง คนที่ไม่เชื่อฟัง พระเจ้าทรงบอกชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแผ่นดินที่เขาอาศัยอยู่ นั่นคือ
ขาดฝนรดแผ่นดิน!
เศคาริยาห์ได้กล่าวเน้นถึงอียิปต์เป็นพิเศษว่า พวกเขาจะต้องเข้ามาร่วมเทศกาลอยู่เพิง

14:20  ปกติม้าเป็นสิ่งที่ใช้ในการสงคราม เมื่อกระพรวนคอม้ากลับมีคำเขียนเหมือนกับคำเขียนบนผ้าโพกศีรษะของปุโรหิตว่า บริสุทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เท่ากับสงครามจะยุติลง  
หม้อในพระวิหารเองก็จะกลายเป็นเหมือนอ่างหน้าแท่นบูชาที่รองเลือด กลายเป็นหม้อบริสุทธิ์ไป
 
14:21  การที่หม้อทุกใบในเมืองจะเป็นหม้อบริสุทธิ์ แสดงถึงความบริสุทธิ์ทั้งหมดในเมือง จะไม่มีคนคานาอัน ซึ่งเป็นพ่อค้าที่โลภเอาแต่ได้ ในพระนิเวศของพระเจ้าด้วย ที่พระเยซูทรงเริ่มต้นชำระตอนที่ทรงอยู่ในโลก จะได้รับการชำระอย่างถาวร 

พระคำเชื่อมโยง

Zechariah 14
1* อิสยาห์ 13:6, 9
2* เศคาริยาห์ 12:2-3
4* เอเสเคียล 11:23; โยเอล 3:12
5* อาโมส 1:1; มัทธิว 24:30-31; 25:31;
โยเอล 3:11
7* มัทธิว 24:36; อิสยาห์ 30:26


8* เอเสเคียล 47:1-12
9* วิวรณ์ 11:15; เฉลยธรรมบัญญัติ 6:4
10* เศคาริยาห์  12:6; เยเรมีย์ 31:38
11* เยเรมีย์ 31:40; 23:6
13* 1 ซามูเอล 14:15, 20; ผู้วินิจฉัย 7:22
14* เอเสเคียล 39:10, 17
15* เศคาริยาห์  14:12

16* อิสยาห์ 2:2-3; 60:6-9; 66:18-21; 27:13; เลวีนิติ 23:34-44
17* อิสยาห์ 60:12
18* อิสยาห์ 19:21; เฉลยธรรมบัญญัติ   11:10
20* อิสยาห์ 23:18; เอเสเคียล 46:20
21* อิสยาห์ 35:8; เอเฟซัส 2:19-22

เศคาริยาห์ 13 สังหารผู้เลี้ยง

จุดจบของการไหว้รูปเคารพ

1“ในวันนั้นจะมีน้ำพุเกิดขึ้นเพื่อวงศ์วานดาวิด และประชากรนครเยรูซาเล็ม เพื่อชำระพวกเขาจากความบาปและมลทินของพวกเขา (ไม้กางเขน)

2 และในวันนั้น พระยาห์เวห์ทรงประกาศว่า เราจะลบชื่อของรูปเคารพในแผ่นดินออกไป จะไม่เป็นที่จดจำอีกต่อไป และเราจะกำจัดเหล่าผู้เผยพระดำรัสเท็จและวิญญาณแห่งมลทินออกจากแผ่นดิน 

3 และหากใครยังขืนพยากรณ์ พ่อและแม่ผู้ให้กำเนิดเขามาจะกล่าวกับเขาว่า ‘เจ้าจะต้องตายเพราะเจ้ากล่าวคำเท็จในพระนามของพระยาห์เวห์’ เมื่อเขากล่าวคำพยากรณ์ พ่อและแม่ที่ให้กำเนิดเขามาจะแทงเขาทะลุ

4 และในวันนั้น ผู้พยากรณ์ที่ได้กล่าวคำพยากรณ์จะละอายเพราะนิมิตของพวกเขา พวกเขาจะไม่สวมเสื้อขนสัตว์เพื่อตบตาหลอกลวงประชาชนอีกต่อไป

5 เขาจะกล่าวว่า ‘ข้าไม่ได้เป็นผู้พยากรณ์ ข้าเป็นคนทำไร่ไถนา  เพราะข้าถูกซื้อเป็นบ่าวมาตั้งแต่เด็ก’

6 หากมีใครถามเขาว่า ‘บาดแผลบนตัวเจ้าหมายความว่าอย่างไร?’ เขาจะตอบว่า ‘นี่เป็นแผลที่ได้มาจากบ้านเพื่อน’

คนเลี้ยงแกะถูกโจมตี และแกะก็กระจัดกระจาย

(มัทธิว 26:31–35; มาระโก 14:27–31)

7 โอ ดาบเอ๋ย จงตื่นขึ้นต่อต้านผู้เลี้ยงแกะของเราเถิด ต่อต้านคนที่เป็นเพื่อนสนิทของเรา พระยาห์เวห์องค์จอมทัพทรงประกาศ จงฟาดฟันคนเลี้ยงแกะ แล้วฝูงแกะจะกระจัดกระจายไป  และเราจะหันมือของเราไปจัดการกับเด็กเล็ก ๆ 

8 พระยาห์เวห์ทรงประกาศว่า และในแผ่นดินทั้งสิ้น สองส่วนสามจะถูกตัดออกและพินาศไป เหลือไว้ในแผ่นดินเพียงหนึ่งในสาม

9 คนหนึ่งในสามนี้ เราจะนำเขาผ่านไฟ เราจะถลุงพวกเขาเหมือนถลุงแร่เงิน และทดสอบพวกเขาเหมือนทดสอบแร่ทอง พวกเขาจะเรียกร้องนามของเรา และเราจะตอบเขา
เราจะกล่าวว่า “พวกเขาเป็นประชากรของเรา” และเขาจะกล่าวว่า “พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าของพวกเรา”

อธิบายเพิ่มเติม

บทนี้สืบเนื่องต่อจากบทที่สิบสอง เป็นเรื่องเดียวกัน จนถึงข้อหกในบทนี้ พระเจ้าทรงชำระอิสราเอลจากการไหว้รูปเคารพ จากนั้นเล่าเรื่องผู้เลี้ยงแกะอีกครั้ง ซึ่งถ้าเราเข้าใจว่าท่านผู้นี้คือ ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดพระเจ้าที่สุด ก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพระเยซู!

13:1 เศคาริยาห์ 13:1   กล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตอันเดียวกันกับ 3:8-9   น้ำพุนี่คือใคร … ท่านมาเพื่อชำระวงศ์วานดาวิด และชาวนครเยรูซาเล็ม    มีบางท่านจากวงศ์วานดาวิดนี้มาเป็นน้ำพุ  เป็นน้ำที่จะชำระบาปมลทินของอิสราเอล  น้ำพุนี้เป็นน้ำพิเศษที่จะล้างบาปได้!

บารุคให้ความเห็นว่า ในวันที่ พระเยซูเสด็จไปรับบัพติศมาในแม่น้ำจอร์แดนด้วยยอห์นนั้น เป็นการที่พระองค์กำลังสื่อกับพระบิดาว่า พระองค์จะทรงทำตามแผนของพระเจ้า อิสราเอลจะเข้าสู่วันแห่งการบัพติศมา  และพวกเขาจะได้รับการชำระ (https://www.youtube.com/watch?v=NEsyiKLdFSk)

 13:2 เราจะเห็นเลยว่ารูปเคารพ  คนเผยพระดำรัสเท็จกับวิญญาณที่สกปรกนั้น มีความเกี่ยวพันกันอย่างชัดเจน เมื่อมีการสอนผิดเกิดขึ้นในชุมชนผู้เชื่อ มารก็สามารถทำงานได้อย่างสะดวก สบาย เพราะงานของมันขึ้นอยู่กับคำโกหกอยู่แล้ว   พระเจ้าจะทรงกำจัดการมุสาออกไปจากแผ่นดิน … 








ในช่วงเวลานั้น อิสราเอลจะรักภักดีต่อพระเจ้า มีความสัมพันธ์กับพระเจ้าอย่างถูกต้อง ผ่านองค์พระเยซูผู้เป็นพระเมสสิยาห์ของพวกเขา  ไม่มีที่ให้กับผู้เผยเท็จอีกต่อไป

13:3 คนที่ยังไม่เชื่อฟัง ขัดขืนพระเจ้า กล่าวคำโกหกในพระนามของพระเจ้า แม้พ่อแม่ของเขาก็จะกำจัดเขาเอง 

13:4-5 เวลาผู้เผยพระดำรัสทำงาน พวกเขามักจะสวมเสื้อคลุมที่ทำให้คนรู้ว่า เขาเป็นผู้เผยพระดำรัส  แต่ตอนนี้เขาทำงานแบบนี้ไม่ได้อีก  เขาจะไม่อาจจะโกหกได้ต่อไป  แทนที่จะแสดงตัว กลับกลายเป็นหลบหน้าคน  ถึงกับโกหกว่าตัวเองเคยถูกซื้อมาให้ทำงานในไร่นา 

13:6   ที่มีคำถามว่า บาดแผลมาจากไหน เป็นเพราะพวกเขามักจะเอามีดกรีดตัวเองตอนที่ทำหน้าที่ เพื่อว่าจะได้สร้างความศักดิ์สิทธิ์ต่อหน้าคนมากขึ้น  เขาเลยบอกว่า ได้แผลมาจากเหตุผลอื่น (เยเรมีย์​16:6) เพื่อคนจะได้ไม่รู้ว่าเขาเคยเป็นผู้เผยเท็จมาก่อน

13:7  พระเจ้าทรงเรียกดาบให้ต่อต้าน ผู้เลี้ยงแกะของพระองค์  ผู้เลี้ยงแกะคนนั้นปรากฎพระองค์ในยอห์น บทที่ 10  และคนที่เป็นเพื่อนสนิทของพระองค์  เรียกภาษาฮีบรูว่า อามิติ (עֲמִיתִ֔י)    ซึ่งมีความหมายถึงคนที่อยู่กันอย่างสนิทสนม  เขาคนนี้เป็นคนที่ใกล้ชิดกับพระเจ้า  พูดเหมือนพระเจ้า แต่กลับมีลักษณะแตกต่างจากพระองค์ 

คิดให้ดี ๆ ท่านผู้นี้ก็คือพระบุตรของพระองค์นั่นเอง  พระเจ้าทรงยอมให้พระบุตรของพระองค์ถูกฟาดฟัน จนสิ้นพระชนม์ !!
เศคาริยาห์ทำให้เราเห็นว่า การสิ้นพระชนม์ของพระบุตรนั้นเกิดขึ้นด้วยพระองค์เอง และอิสราเอล (อิสยาห์ 53:10, เศคาริยาห์ 12:10-14)
เด็กเล็ก ๆ มีความหมายถึงประชากรอิสราเอล คนธรรมดาทั่วไป  พระเจ้าจะทรงให้พวกเขากระจัดกระจายเขาออกไปทั่วโลก และพระองค์จะทรงเมตตาเขาอีกครั้ง 

13:8 อิสราเอลจะถูกทำลาย 2/3 ในวันยุคสุดท้าย  จะเผชิญกับความทุกข์ยากอย่างยิ่ง ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนในโลก
เหลือเพียงหนึ่งส่วนที่พวกเขาจะต้องเผชิญกับไฟ  เขาพวกนี้คือผู้ที่หลงเหลืออยู่ (เยเรมีย์ 30:7  เรียกเหตุการณ์นี้ว่า ความทุกข์ร้อนของยาโคบ)

13:9  ที่พระเจ้าจำต้องทำเช่นนี้ เพื่อว่า พวกเขาจะได้รับความรอด และเขาจะได้เปลี่ยนแปลง กลายเป็นคนของพระเจ้า พวกเขาต้องผ่านการถลุงของพระเจ้า เพื่อจะได้เป็นคนบริสุทธิ์ จะได้กลับมาเป็นคนของพระองค์จริง ๆ  เป็นเวลาเดียวกับที่พระเจ้าจะทรงจัดการกับชาติต่าง ๆ ที่ทำร้ายอิสราเอลด้วย  

พระคำเชื่อมโยง

Zechariah 13
1* วิวรณ์ 21:6-7; ฮีบรู 9:14; เอเสเคียล 36:25
2* อพยพ 23:13; เยเรมีย์ 23:14-15
3* เฉลยธรรมบัญญัติ 18:20; 13:6-11
4* มีคาห์ 3:6-7; 2 พงศ์กษัตริย์ 1:8

5* อาโมส 7:14
6* ยอห์น 20:25, 27
7* อิสยาห์ 40:11; ยอห์น 10:30; มัทธิว 26:31, 56, 67; ลูกา 12:32
8* เอเสเคียล 5:2, 4, 12; โรม 11:5
9* อิสยาห์ 48:10; 1 เปโตร 1:6,7; สดุดี 50:15; โฮเชยา 2:23

เศคาริยาห์ 12 ในวันนั้น

การช่วยกู้นครเยรูซาเล็ม

 1 พระดำรัสที่หนักใจจากพระยาห์เวห์ เกี่ยวข้องกับอิสราเอล  พระยาห์เวห์ผู้ทรงคลี่ฟ้าสวรรค์ให้แผ่กว้างและวางฐานรากของแผ่นดินโลก  ผู้ทรงสร้างวิญญาณไว้ในตัวของมนุษย์ 
 
2“ ดูเถิด เราจะทำให้เยรูซาเล็มเป็นถ้วยแห่งความมึนเมา
แก่ประชาชนที่อยู่ล้อมรอบ ยูดาห์จะถูกล้อม เช่นเดียวกับนครเยรูซาเล็ม 
3 ในวันนั้น เมื่อชาติต่าง ๆ ในโลกชุมนุมกันเข้ามาต่อสู้กับเธอ  เราจะทำให้นครเยรูซาเล็มเป็นหินที่หนักสำหรับคนทั้งปวง  ทุกคนที่พยายามขยับก็จะบาดเจ็บสาหัส

4 ในวันนั้น พระยาห์เวห์ทรงประกาศ เราจะฟาดฟันให้ม้าทุกตัวต้องเตลิดตระหนก  พลม้าทุกคนจะคลั่งไป  เราจะจับตาดูวงศ์วานยูดาห์ แต่เราจะทำให้ม้าของชาติต่าง ๆ ตาบอด

5 แล้วผู้นำของยูดาห์จะกล่าวในใจของตนว่า “ประชากรเยรูซาเล็มเป็นกำลังของข้า เพราะพระยาห์เวห์องค์จอมทัพทรงเป็นพระเจ้าของพวกเขา”

6 ในวันนั้น เราจะทำให้วงศ์วานยูดาห์เป็นเหมือนหม้อไฟบนกองไม้ เป็นเหมือนคบไฟที่ลุกโชนในฟ่อนข้าว พวกเขาจะเผาผลาญคนทั้งหลายที่อยู่ล้อมรอบทั้งทางขวาและทางซ้าย ในขณะที่คนนครเยรูซาเล็มยังคงปลอดภัย 

7 พระยาห์เวห์จะทรงช่วยยูดาห์ก่อนใคร (เหมือนในอดีต )เพื่อว่าพระสิริแห่งวงศ์วานดาวิดและเกียรติของประชากรแห่งเยรูซาเล็มจะไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าเกียรติของยูดาห์  

8ในวันนั้น พระยาห์เวห์จะทรงปกป้องประชากรแห่งนครเยรูซาเล็ม เพื่อว่าคนที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาจะเป็นเหมือนดาวิด และวงศ์วานของดาวิดจะเป็นเหมือนพระเจ้า   เหมือนทูตของพระยาห์เวห์ทรงนำหน้าพวกเขาไป 

9 ดังนั้น ในวันนั้น เราจะตั้งหน้าทำลายชาติต่าง ๆ ที่เข้ามาโจมตีนครเยรูซาเล็ม

คร่ำครวญแด่พระองค์ผู้ที่พวกเขาแทง
(ยอห์น 19:31–37)

10 จากนั้นเราจะเทวิญญาณแห่งพระคุณและคำอธิษฐานลงเหนือประชากรแห่งนครเยรูซาเล็มและวงศ์วานดาวิด พวกเขาจะเงยหน้ามองขึ้นมายังเรา
ผู้ที่พวกเขาได้แทง พวกเขาจะร้องไห้คร่ำครวญ​เพื่อพระองค์ ราวกับคร่ำครวญเพื่อลูกคนเดียวของพวกเขา และเขาจะโศกเศร้าอย่างขมขื่นเพื่อพระองค์เหมือนกับคนที่โศกเศร้าเพราะลูกชายหัวปีของเขา 


11ในวันนั้น  การร้องไห้คร่ำครวญของนครเยรูซาเล็มจะยิ่งใหญ่เหมือนกับการคร่ำครวญ ของฮาดัด ริมโมนบนที่ราบเมกิดโด  

12 แผ่นดินจะร้องไห้เสียใจ แต่ละเผ่าจะร้องคร่ำครวญ เพื่อตระกูลของตน ตระกูลของดาวิด  และภรรยาของเขา ตระกูลแห่งเผ่านาธันและภรรยาของเขา

13 เผ่าแห่งวงศ์วานเลวีและภรรยาของพวกเขา
เผ่าแห่งวงศ์วานชิเมอีและภรรยาของพวกเขา 

14 และรวมไปถึงตระกูลที่เหลือกับภรรยาของพวกเขา  

อธิบายเพิ่มเติม

บทที่สิบสองนี้ กล่าวถึงการช่วยกู้อิสราเอล และการกลับใจของคนทั้งชาติ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นใกล้ ๆ กัน พระเจ้าทรงกล่าวถึงโลกปัจจุบันใช่หรือไม่?…  บทนี้กับบทที่ 14 เป็นเรื่องเดียวกัน แต่บทที่ 12 นี้ บอกถึงการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ที่ทำให้เกิดการกลับใจใหม่  ส่วนบทที่ 14 กล่าวถึงโลกทั้งโลก ที่จะได้รับผลจากการเสด็จกลับมาของพระเมสสิยาห์  
แม้ว่าบทนี้จะสั้น แต่ก็มีความหมายในอนาคตของอิสราเอลมาก สิ่งที่เขียนในบทอธิบายนี้ อาจจะไม่ครอบคลุมความหมายทั้งหมด เป็นเบื้องต้นที่จะทำให้เราได้สืบค้นความหมายที่ลึกไปกว่านี้

การช่วยกู้นครเยรูซาเล็ม
สิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ง่ายสำหรับคนอิสราเอลเลย
12:1 พระดำรัสที่น่าหนักใจ เป็นคำเดียวกันกับบทที่ 9 จะมีความทุกข์ยากเกิดขึ้นกับทั้งแผ่นดิน และคนอิสราเอล
เหตุใดพระองค์ตรัสถึงการทรงสร้างอีกครั้ง?  
พระเจ้าตรัสเพื่อทบทวนให้ผู้คนได้ทราบว่า พระองค์คือพระเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และโลก ผู้ประทานวิญญาณให้กับประชาชนทุกคน พวกเขาต้องตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเหนือผู้ปกครองใด ๆ และเทพใด ๆ ที่พวกเขาเฝ้าตามหา
ในบทนี้มีการใช้คำว่า ในวันนั้น หลายครั้ง  

12:2 ถ้วยในนี้มีความหมายถึงธรณีประตูหมายถึงการเปลี่ยนแปลง และพระองค์กำลังจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง! จากยุคนี้ ไปสู่ยุคแห่งพระเมสสิยาห์
 ถ้วยแห่งความมึนเมา .. ชาติต่าง ๆ ล้อมอิสราเอลก็จะหนักใจ ได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากการที่พวกเขามาสู้กับอิสราเอล
พวกเขาจะเหมือนกับดื่มเหล้าที่ประหลาด ทำให้เมามึนอย่างไม่คาดฝัน
พระเจ้าจะทรงปกป้องอิสราเอลทั้งคนในเมือง และคนนอกเมือง ไม่ใช่ว่าพระองค์จะทรงปกป้องแต่คนเมืองเท่านั้น  ทุกคนได้รับการปกป้องจากพระเจ้าเท่า ๆ กัน

12:3 วันนั้นคือวันของพระยาห์เวห์ วันที่เราจะต้องให้การเรื่องตัวเองกับพระเจ้า   เยรูซาเล็มจะกลายเป็นหินที่หนักสำหรับ
ชาติทั้งหลายที่พยายามจะทำลายอิสราเอล  อิสราเอลจะยืนโดดเดี่ยวในขณะที่ชาติต่าง ๆ ในโลกรุมต่อสู้ด้วยความเกลียดชัง  ซึ่งถ้าเรามองภาพเหตุการณ์ปัจจุบัน เราจะเห็นจริงว่าเป็นเช่นนั้น 
พระเจ้าทรงวางไว้ว่า เยรูซาเล็มจะเป็นพื้นที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก เราจะต้องตามดูให้เห็นว่าพระองค์ทรงทำอย่างไร
อีกสิ่งที่พระองค์ทรงทำคือ แผนการของชาติต่าง ๆจะล้มเหลว (สดุดี 33:10)

12:4  ม้าหมายถึงอำนาจ คืออาวุธต่าง ๆ ที่ชาติต่าง ๆ เอามาใช้  ม้าจะบ้าไป  ทำให้ม้าตาบอดไป นั่นคือ การที่อาวุธที่พวกเขาเตรียมมาเพื่อทำลาย ไม่อาจจะใช้ได้ 
ให้เราเทียบอาวุธของอิสราเอลในตอนนี้กับชาติต่าง ๆ ดูแล้วกันว่า มันห่างชั้นกันขนาดไหน อ่านเศคาริยาห์จริงจังจะเห็นว่า เหตุการณ์กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ในช่วงชีวิตของเรานี่เอง  

12:5 ผู้นำเหล่านี้ คิดว่า ประชากรเยรูซาเล็มซึ่งอยู่ในพระเจ้าจะเป็นกำลังของพวกเขา (เมื่อพูดถึงประชากรในเยรูซาเล็ม ก็จะหมายถึงประชากรที่ต้องการนมัสการพระเจ้า)  ผู้นำเองตระหนักว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้นำทัพให้พวกเขา เขาเริ่มมองเห็นว่า ใครเป็นใครในสงครามที่กำลังเผชิญอยู่

12:6 แล้วพระเจ้าจะทรงให้เขามีความสามารถอย่างยิ่งในการจัดการกับศึกที่เข้ามาต่อต้านพวกเขา เหมือนในสมัยโบราณ อ่าน ผู้วินิจฉัย 15:3-5 , เอสเธอร์ 9:1-28 อาจารย์บารุค คอรแมน จาก loveisrael.org ให้ความเห็นว่า เราจะทำให้วงศ์วานยูดาห์เป็นไฟคือ พวกเขาจะเข้มแข็งและทำลายทุกชาติที่เข้ามาโจมตีเยรูซาเล็ม

12:7 พระเจ้าทรงช่วยยูดาห์ คือวงศ์วานดาวิด และยังทรงช่วยประชากรเยรูซาเล็มด้วย ทั้งสองพวกได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์เหมือนกัน

12:8 วันนั้น พระเจ้าจะทรงรักษาคนที่นมัสการพระองค์ แม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดก็จะเข้มแข็งขึ้นมาแบบเหนือธรรมชาติ   พระเจ้าจะให้พวกเขามีชัยชนะ

12:9  ในวันนั้น พระเจ้าจะทรงตั้งพระทัย ทำลายชาติที่เข้ามาทำลายอิสราเอล
นี่เป็นคำที่น่ากลัว แต่คนทั้งหลายที่กำลังบุกอิสราเอลไม่ได้กลัวเลย แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าชัยชนะจะได้มาง่าย ๆ เพราะอิสราเอลจะต้องเจอศึกนานและหนักจนกว่าจะถึงวันนั้นที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้

คร่ำครวญแด่พระองค์ผู้ที่พวกเขาแทง
12:10 แล้วพระเจ้าจะทรงเทพระวิญญาณแห่งพระคุณ และคำอธิษฐานลงมาเหนือประชากร
ต่อมาอีกไม่นานหลังจากที่พระเยซูเสด็จสู่สวรรค์ พระเจ้าทรงส่งพระวิญญาณลงมาเหนือคนอิสราเอลที่มาจากแผ่นดินต่าง ๆ รอบอิสราเอล มีคนที่ต้อนรับพระองค์ในวันนั้นด้วย
พระวิญญาณทรงทำการตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
ผู้ที่พวกเขาได้แทงท่านนี้ เป็นคนเดียวกับหน่อที่งอกขึ้นมา (ในเศคาริยาห์ 3:8-9)
นี่เป็นภาพที่ตัวเศคาริยาห์เองก็ยังไม่เข้าใจ เพราะเป็นภาพที่ไกลจากเขาหลายร้อยปี ไม่มีใครนึกได้ว่าจะเกิดขึ้น
พระเยซูตรัสถึงพระคัมภีร์ตอนนี้ใน ยอห์น 19:37 ภาพที่เห็นในข้อนี้คือไม้กางเขนของพระองค์นั่นเอง
สำหรับเราในปัจจุบัน เราไม่ทราบว่า เหตุการณ์ที่คนอิสราเอลจำนวนมากจะกลับใจ และร้องไห้กับการสิ้นพระชนม์ เสียใจในบาป อย่างที่พระคัมภีร์ข้อนี้กล่าว จะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่พระเจ้าทรงบอกล่วงหน้าว่า สิ่งนี้จะเกิดขึ้นแน่

12:11 การร้องคร่ำครวญเพราะมีคนตาย แต่ก็มีคำคร่ำครวญในการนมัสการพระเจ้าด้วย 
การที่ฮาดัดเคยร้องไห้เพื่อลูกชาย (เราไม่ทราบว่า เกิดขึ้นเมื่อไร ไม่มีบันทึกในที่อื่น )

ใน 12:1-13:6  มีการพูดถึงวงศ์วานดาวิดบ่อย ข้อ 11 ดาวิด นาธัน และเลวี เป็นตัวแทนของกษัตริย์ ผู้เผยพระดำรัส และปุโรหิต วงศ์วานของผู้นำทั้งหมด จะกลับใจใหม่
การร้องไห้แยกระหว่างชายกับหญิงเป็นการให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ก่อนที่จะพบพระเจ้า จึงแยกระหว่างชายหญิง ดู อพยพ 19:15 โมเสสเตรียมคนสำหรับวันสำคัญ ท่านให้พวกเขาเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการพบพระเจ้า
(ซึ่งเกิดขึ้นในอพยพ 20)

พระคำเชื่อมโยง

เศคาริยาห์ 12
1* อิสยาห์ 42:5; 44:24; 57:16
2* อิสยาห์ 51:17
3* เศคาริยาห์ 12:4, 6, 8; 13:1; มัทธิว 21:44
4* เอเสเคียล 38:4

6* โอบาดีย์ 18
9* ฮักกัย 2:22
10* โยเอล 2:28-29; ยอห์น 19:34, 37; 20:27; เยเรมีย์ 6:26
11* วิวรณ์ 1:7; 2 พงศ์กษัตริย์ 23:29
12* มัทธิว 24:30; ลูกา 3:31

เนื่องจากบทนี้เป็นเรื่องของอนาคตสำหรับเศคาริยาห์ และยังมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในยุคของเรา ขอแนะให้ลองเข้าไปฟัง https://www.youtube.com/watch?v=_yO8ScZOhfI จะเข้าใจเศคาริยาห์ในมุมมองคนยุคใหม่มองย้อนกลับไปในอดีต

เศคาริยาห์ 11 ประเด็นเรื่องผู้เลี้ยง

ฝูงแกะที่ถูกสังหาร
1 โอ เลบานอน จงเปิดประตู
เพื่อไฟจะได้เผาป่าต้นซีดาร์ของเจ้า
2 ต้นสนทั้งหลาย จงร้องไห้คร่ำครวญ
เพราะต้นซีดาร์ถูกโค่นลงไปแล้ว 
ต้นไม้ที่สูงตระหง่านถูกทำลายไปแล้ว 
ร้องไห้คร่ำครวญสิ  ต้นโอ๊กแห่งบาชาน
เพราะป่าทึบถูกตัดลงจนเตียนโล่งไปแล้ว   

3 จงฟังเสียงคร่ำครวญของผู้เลี้ยงแกะ
เพราะ ความร่ำรวยของเขาถูกทำลายหายนะไป
จงฟังเสียงคำรามของเหล่าสิงโตหนุ่ม
เพราะป่าไม้แห่งจอร์แดนถูกทำลาย

พยากรณ์เรื่องคนเลี้ยงแกะ
4 พระยาห์เวห์องค์พระเจ้าของข้าพเจ้าตรัสว่า
“จงเลี้ยงฝูงแกะที่กำหนดไว้ให้ถูกฆ่า
5 เป็นฝูงแกะที่คนซื้อมาฆ่าล้างพวกเขา
โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร
คนที่ขายพวกมันไปกล่าวว่า
‘สรรเสริญพระยาห์เวห์ เพราะฉันรวยแล้ว!’
แม้แต่ผู้เลี้ยงก็ไม่ได้มีใจสงสารพวกมันเลย

6 เพราะเราก็จะไม่สงสารประชากรในแผ่นดินนี้ต่อไปแล้ว
พระยาห์เวห์ทรงประกาศ
แต่ดูเถิด เราจะทำให้คนแต่ละคนตกอยู่ในมือของเพื่อนบ้าน และกษัตริย์ของเขาผู้ที่จะเข้ามาทำลายล้างดินแดนนี้ 
และเราจะไม่ช่วยให้พวกเขาพ้นจากเงื้อมมือของคนเหล่านั้น 

ไม้เท้าสองอัน
7 ดังนั้นข้าพเจ้าจึงดูแลฝูงแกะที่จะต้องถูกฆ่าหมู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่ถูกทำร้าย
แล้วข้าพเจ้าก็เอาไม้เท้าคนเลี้ยงแกะมาสองอัน
เรียกอันหนึ่งว่า เป็นที่พอใจ อีกอันว่า  เป็นหนึ่งเดียว
แล้วข้าพเจ้าก็ดูแลฝูงแกะ
8 ภายในเดือนเดียว
ข้าพเจ้าก็ไม่อาจอดทนกับฝูงแกะได้อีกต่อไป
พวกมันก็เกลียดข้าพเจ้าด้วย
ข้าพเจ้ากำจัดคนเลี้ยงแกะทั้งสามนั้นไป   
9 แล้วข้าพเจ้ากล่าวว่า
ข้าจะไม่ดูแลพวกเจ้าอีกต่อไป
ตัวไหนจะตายก็ให้ตายไป
ตัวไหนจะพินาศก็ปล่อยให้พินาศไป
ตัวที่ยังอยู่ก็ให้กินเลือดเนื้อกันเองแล้วกัน

10 ต่อมาข้าพเจ้าเอาไม้เท้าที่เรียกว่า
เป็นที่ชื่นชอบ มาหักเป็นสองท่อน
เป็นการล้มเลิกพันธสัญญาที่ข้าพเจ้าทำกับชาติต่าง ๆ
11 พันธสัญญาจึงกลายเป็นโมฆะในวันนั้น
แกะตัวที่ทุกข์ยากในฝูงมองดูข้าพเจ้าอยู่
และก็รู้ว่า เป็นพระดำรัสขององค์พระยาห์เวห์

เงินสามสิบเหรียญ (​มัทธิว 27:3–10)
12 แล้วข้าพเจ้าบอกเขาว่า
“หากท่านเห็นว่าดี ก็จ่ายค่าจ้างให้ข้ามาเถิด
หากไม่เห็นดี ก็เก็บค่าจ้างนั้นไว้แล้วกัน”
ดังนั้นพวกเขาจึงชั่งเงินให้ข้าพเจ้ามาสามสิบเหรียญ
13 แล้วองค์พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า

“จงโยนเงินนี้ให้แก่ช่างปั้นหม้อ”
คือเงินค่าจ้างราคาสูงที่พวกเขาประเมินจ่ายให้ข้าพเจ้า 
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงนำเงินสามสิบแผ่นนี้
โยนลงไปไว้ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์เพื่อให้แก่ช่างปั้นหม้อ

14 แล้วข้าพเจ้าก็หักไม้เท้าอันที่สองซึ่งชื่อว่า
เป็นหนึ่งเดียว ..
เป็นการหักล้างความเป็นพี่น้องระหว่างยูดาห์และอิสราเอล
15 และพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า
“จงไปหยิบเครื่องมือเครื่องใช้ของคนเลี้ยงแกะที่โง่เขลามา

คนเลี้ยงแกะใจร้าย!
16 เพราะดูเถิด
เราจะตั้งคนเลี้ยงแกะผู้หนึ่งในแผ่นดิน
ที่จะไม่ใส่ใจแกะที่หลงหาย
ไม่ตามหาลูกแกะ
ไม่บำบัดรักษาตัวที่บ่วย
ไม่เลี้ยงดูตัวที่แข็งแรง
แต่เขาจะกินเนื้อแกะตัวที่อ้วนสุขภาพดี
และฉีกกีบเท้ามันออกมา 
17 “วิบัติแก่คนเลี้ยงแกะไร้ค่าที่ได้ทอดทิ้งฝูงแกะไป
ขอให้ดาบไปฟันแขนของเขาและตาขวาของเขา
ขอให้แขนของเขาลีบแห้งไป
และตาขวาของเขาบอดสนิท!”

อธิบายเพิ่มเติม

บทที่สิบเอ็ดแตกต่างจากบทที่เก้าและสิบ ซึ่งพูดถึงพระพร ความรุ่งเรือง บทนี้ กำลังให้เราเห็นภาพของบาปของผู้นำที่ทำให้ประชาชนหลงผิดไป  และยังเป็นภาพที่ให้เห็นถึงการที่อิสราเอลปฏิเสธพระเมสสิยาห์ที่พระเจ้าทรงส่งมา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก  พระเยซูทรงต้องสู้กับผู้นำศาสนายิวตลอดระยะเวลาที่ทรงอยู่ในโลก จนกระทั่งทรงสิ้นพระชนม์เพราะพวกผู้นำเหล่านั้นไม่อาจทนพระองค์ได้  

11:1-2
พระเจ้าประทานพระผู้เลี้ยงให้อิสราเอล แต่พวกเขากลับหันหลังให้พระองค์! นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้อิสราเอลถูกทำลาย พระเจ้าจะทรงเผาซีดาร์แห่งเลบานอน ซึ่งเป็นต้นไม้อันดับหนึ่งที่ทรงคุณค่า นี่เป็นภาพของวังซาโลมอนที่ใช้สนซีดาร์สร้างอย่างอลังการ   ยังหมายรวมถึงวงศ์วานยูดาห์ (เอเสเคียล 17:3-4)
ดังนั้น ต้นสน ต้นโอ๊กแห่งบาชานมีความหมายถึงความมั่งคั่ง ยิ่งใหญ่ตระการ 
บาชานเป็นแผ่นดินที่อยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนมีต้นไม้โอ๊กที่ใหญ่แข็งแรงมากมาย ทำให้ข้อนี้มีความหมายว่า แผ่นดินต่าง ๆ ผู้นำจำนวนหนึ่งจะถูกทำลาย 

11:3 เมื่อผู้เลี้ยงแกะ ซึ่งหมายถึงผู้นำของประชาชน ผู้ปกครอง ทั้งเลบานอน และจอร์แดน ไม่ได้อยู่ใต้ความจริงของพระเจ้า ไม่ได้เชื่อฟังพระองค์  พวกเขาคร่ำครวญเพราะพวกเขาไม่เหลือความมั่งคั่งจากการทำลาย     ป่าไม้ถูกทำลาย ทำให้สิงโตก็ไม่เหลือที่อยู่ 

11:4 ส่วนอิสราเอล ผู้นำศาสนายิวไม่ได้เลี้ยงดูคนของพระองค์ พวกเขาไม่ได้สอนให้ประชาชนรู้จักพระเจ้า นี่เป็นปัญหาเรื่องผู้นำที่โหดร้าย ไม่เห็นใจประชาชนที่ไม่รู้อะไร
แล้วพระเจ้าทรงสั่งให้เศคาริยาห์เลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์ ที่จะต้องถูกสังหาร เพราะผู้เลี้ยงเดิมนั้นไม่ใส่ใจ เห็นแก่ประโยชน์ของตนเองเท่านั้น 

11:5   ฝูงแกะก็คือประชากรทั้งหลายนั้นเอง พวกเขาไม่ได้รับการสอนให้รู้จักพระเจ้า พวกผู้เลี้ยงที่ควรดูแลประชากรทั้งหลายของพระเจ้า กลับขายคนเหล่านั้นไป พวกเขาเห็นแก่ได้ พวกเขาเป็นผู้เลี้ยงที่ขายแกะไปเพื่อให้ถูกฆ่า  ไม่มีใจสงสาร  ดีใจที่ตัวเองรวยขึ้นจากการขายให้ผู้ซื้อนำไปเข้าโรงเชือด

11:6    พระเจ้าทรงอนุญาตให้มีความยากเข็ญเกิดขึ้น นั่นคือ คนต่างชาติจะเข้ามาทำลายทั้งประเทศ และพระเจ้าจะปล่อยให้เกิดขึ้น  ในปี 70 โรมได้เข้ามาและทำลายเยรูซาเล็ม พระเจ้าไม่ได้ช่วยพวกเขา เพราะพวกเขาปฏิเสธพระบุตรของพระองค์ที่ทรงส่งมาเพื่อให้พวกเขารอด 

11:7 เศคาริยาห์จึงดูแลฝูงแกะที่มีอยู่จำนวนน้อย  นั่นคือคนที่ยอมรับพระเจ้า พวกเขาเป็นพวกที่ถูกดูหมิ่น  การเลี้ยงดูของเขา เขามีไม้เท้าสองอัน ชื่อไม้เท้า โนอาม เป็นที่พอใจหรือเป็นที่โปรดปราน กับ  อีกไม้เท้าคือ การเป็นหนึ่งเดียว  ไม้เท้าแรกสื่อความหมายว่า พระเจ้าทรงมีความโปรดปรานคนของพระองค์เป็นพิเศษ  อีกอันหนึ่งมีความหมายถึงการที่พระองค์จะรวบรวมเขาเป็นชาติที่เป็นหนึ่งเดียว ไม่แยกเป็นเหนือใต้เหมือนก่อน

11:8 น่าแปลกที่เศคาริยาห์เลี้ยงแกะแค่เดือนเดียว ก็เกิดเรื่องว่า ฝูงแกะเกลียดชังเขา คนเลี้ยงแกะสามคน ซึ่งมีความหมายถึง ผู้เผยพระดำรัส ปุโรหิต และกษัตริย์ (แต่บางท่านเห็นว่าเป็นปุโรหิต ผู้ใหญ่  สภายิว บ้างก็เห็นว่า เป็นกษัตริย์สามองค์สุดท้ายของเยรูซาเล็ม)   จะถูกทำลายไปในช่วงที่โรมจัดการ เพราะคนเลี้ยงแกะทั้งสาม ทำให้พระเจ้า ไม่พอพระทัยมาก 

11:9 เศคาริยาห์จะไม่ดูแลฝูงแกะอีกต่อไป   ตัวที่พินาศ ให้พินาศ ตัวที่เหลือ กินเนื้อกันเอง  ภาพที่เห็นคือ เมื่อพระเจ้าทรงกำหนดไว้ให้เกิดโศกนาฏกรรม เศคาริยาห์ก็จะปล่อยไป ไม่ยื้อไว้  เราจะพบว่า เมื่อเกิดการโจมตีจากศัตรู อิสราเอลจะพบกับการอดอยาก ทำให้คนกินเนื้อคนด้วยกันเอง เป็นภาพที่น่าสลดมาก (เฉลยธรรมบัญญัติ 28:53-57)

11:10  พระเจ้าจะเอาไม้โนอาม (เป็นที่โปรดปราน) มาหักเป็นสองท่อน  เราจะเห็นว่า การหักไม้เท้าที่มีชื่อเฉพาะนี้ สื่อให้เห็นว่าจากที่พระเจ้าทรงเคยให้สัญญาว่าจะปกป้องพวกเขาจากการบุกรุกนั้น กลายเป็นโมฆะ พระองค์ทรงล้มเลิกการปกป้องนั้น
(เราต้องเข้าใจว่า พันธสัญญาที่ทรงมีต่ออับราฮัมหรือดาวิด ไม่มีวันที่จะเป็นโมฆะได้ อ่านปฐมกาล 7:12-16; 2 ซามูเอล 7:12-16 )

11:11 แกะตัวที่ทุกข์ยากมองมา นั่นคือ คนที่เข้าใจก็จะรู้ว่าทำไมพระเจ้าทรงทำเช่นนี้ 

การทรยศ
ข้อ 11:12  เศคาริยาห์ เป็นผู้เลี้ยงแกะที่สื่อถึงองค์พระเมสสิยาห์ แล้วเศคาริยาห์ก็ไปพูดถึงเงินสามสิบเหรียญ  (ซึ่งเราต้องไม่ลืมว่า เขาพูดล่วงหน้าก่อนการที่พระเยซูจะถูกทรยศหลายร้อยปี นี่เป็นคำพยากรณ์ที่ตรงไปตรงมา เห็นว่าเกิดขึ้นจริงตามนั้น!)
ค่าจ้างดังกล่าวเป็นค่าจ้างสำหรับคนเลี้ยงแกะรับจ้าง สามสิบเหรียญ เป็นราคาของการจ่ายค่าชีวิตของทาสที่ถูกฆ่า (อพยพ 21:32)
ตอนนี้เขากำลังกล่าวถึงพระผู้เลี้ยงแสนดีที่จะทรงมาสิ้นพระชนม์เพื่อแกะในอนาคต

11:13 พระเจ้าทรงตอบว่า ให้เศคาริยาห์โยนเงินให้ช่างปั้นหม้อ … เป็นการกระทำที่บอกว่า ไม่เอาเงิน ในพระคัมภีร์ฮีบรู บอกว่าส่งไปให้คลังพระวิหาร  คนที่รับเงินมานั้น เขารู้ว่าผิด  พระเจ้าให้โยนเงินนี้กลับไป ไม่เอา ถูกสบประมาท และเราพบว่า ยูดาสเองได้พยายามคืนเงินจำนวนนี้กลับไปให้พวกยิวที่จ้างให้เขาทรยศพระเยซู  และปุโรหิตไม่ได้เอาเงินคืน แต่ก็ใช้เงินนี้ไปซื้อทุ่งของช่างปั้นเพื่อเอาไว้ฝังศพคนยากจน  (มัทธิว 27:3-10) ทำให้เราเห็นว่า สิ่งที่เศคาริยาห์ เกิดขึ้นจริงในชีวิตของพระเยซู

11:14 ไม้เท้าอันที่สองชื่อ รวมเป็นหนึ่งเดียวหรือ ผูกพัน ​
เศคาริยาห์หักมันเป็นสองท่อน เพื่อไม่ให้อิสราเอลกับยูดาห์เป็นพี่น้องกันอีก 
ชี้ให้เห็นว่า ไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวในชาติเลย เมื่อครอบครัว แตกแยก มันจะอยู่ไม่ได้ … ไปเป็นเชลย พวกเขาปฎิเสธพระเจ้า (สิ่งที่น่าสนใจคือ ในปัจจุบัน คนอิสราเอลมีความแตกแยกกันภายในระดับสูงมาก แม้ว่าจะมีสงครามกับฮามาส และอาหรับหลายด้าน ยังมีอีกหลายฝ่ายที่มีความเห็นแตกต่าง และ ขวางการทำงานของรัฐที่พยายามสู้กับศึกรอบด้านนี้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งการเดินขบวนประท้วง ทั้งการนำเสนอข่าวปลอมต่าง ๆ มากมาย )

11:15 จะมีผู้นำที่โง่เขลาในอิสราเอล  เมื่อพวกเขาทำสิ่งที่โลกต้องการ นั่นไม่ใช่ความต้องการของพระเจ้า 

11:16 เราจะต้ังคนเลี้ยงแกะที่ไม่ใส่ใจในการเลี้ยงคนของพระเจ้า แถมยังกินเนื้อด้วย  คิดถึงแต่ตัวเอง เป็นคนโหดที่จะทำร้ายประชาชนอย่างไม่น่าเชื่อ  ในข้อนี้ยังหมายถึงการที่เกิดสภาพคนกินเนื้อคนในพื้นที่ เนื่องจากสงคราม ความอดหยาก 

11:17 นี่เป็นการกล่าวถึงผู้นำที่เป็นผู้ต่อต้านพระคริสต์ เขาคนนี้จะทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับองค์พระเมสสิยาห์  เขาเป็นคนโง่เขลา(ข้อ 15) และไร้ค่า (ข้อ 17)ที่คิดว่าตัวฉลาด  อิสราเอลจะพบกับความทุกข์ยาก ก่อนที่พระเจ้าจะทรงพิพากษาเขาด้วยการทำให้เขาตาบอด แขนลีบ จะเจอกับการพิพากษาของพระเจ้า 
ดูเหมือนมีหลายอย่างเกิดขึ้นในบทที่สิบเอ็ด ทั้งการที่พระเจ้าทรงลงโทษ พระเจ้าทรงล้มเลิกสัญญา
และยังจะมีผู้นำที่ต่อต้านพระเจ้าเกิดขึ้นด้วย เป็นบทที่ทำให้เราอาจจะสับสนบ้าง แต่เราจะดูบทต่อไปน่าจะเข้าใจอะไรขึ้นกว่านี้…

เศคาริยาห์ 11
1* เศคาริยาห์ 10:10
2* เอเสเคียล 31:3; อิสยาห์ 32:19
3* เยเรมีย์ 25:34-36
5* เยเรมีย์ 2:3; 50:7; โฮเชยา 12:8; เอเสเคียล 34:2,3
7* เศฟันยาห์ 3:12
8* โฮเชยา 5:7
9* เยเรมีย์ 15:2
11* เศฟันยาห์ 3:12
12* อพยพ 21:32; มัทธิว 27:9
13* มัทธิว 27:3-10
15* อิสยาห์ 56:11
16* เอเสเคียล 34:1-10
17* เยเรมีย์ 23:1