2 ทิโมธี 4 คำสุดท้ายจากท่านเปาโล

รูปภาพประกอบในบทนี้ ส่วนใหญ่มาจากหนังสือกิจการตอนท้าย ๆ ซึ่งได้บันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตท่านเปาโลไว้

คำสั่งจากท่านเปาโล

ข้ากำชับเจ้าต่อพระพักตร์พระเจ้าและพระเยซูคริสต์ ผู้พิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย เมื่อพระองค์และอาณาจักรของพระองค์มาปรากฏ 
2 ทิโมธี 4:1

กิจการ 10:42, 1 ทิโมธี 5:21, มัทธิว 16:27

การกำชับของท่านเปาโลเป็นคำแรงมากในภาษากรีก มีความหมายเชื่อมโยงเชิงกฎหมายเช่นพยานสาบานว่าจะพูดความจริง เป็นคำพูดต่อพระพักตร์พระเจ้า พระผู้ทรงพิพากษาทุกคน จึงสำคัญยิ่งนัก

ความสำคัญของการประกาศพระคำ

จงประกาศพระคำ จงตั้งใจทำอย่างรีบเร่ง ทั้งเวลาที่มีและไม่มีโอกาส ให้ตักเตือน ว่ากล่าวและชักชวนทั้งด้วยความอดทนและการสอน เพราะจะถึงเวลาที่คนไม่ยอมฟัง คำสอนที่ถูกต้อง แต่แค่ฟังสิ่งที่อยากฟังเท่านั้นพวกเขาจะรวบรวมครูที่เขาพอใจจะฟัง
2 ทิโมธี 4:2-3

ทิตัส 1:13, 2:15,1 เธสะโลนิกา 5:14, วิวรณ์ 3:19, 2 เปโตร 2:1-3, กิจการ 17:21

ยุคนี้ เป็นยุคที่คนไม่ชอบฟังพระคำ ในยูทูบ พอดคาสต์ มีเรื่องตลก ๆ ให้ฟังไร้สาระไปวัน ๆ มากมาย แล้วก็ทิ้งเวลาไป ยังมีคนที่ชอบฟังโค้ชชีวิต โดยคิดว่า พวกนั้นจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น แต่ที่ชัดเจนคือ พวกเขาจะฟังสิ่งที่เป็นทางของเขา

และจะหันจากความจริง หันไปฟังเรื่องนิยายตำนานต่าง ๆ แต่เจ้าต้องหนักแน่นในทุกอย่าง อดทนต่อความยากลำบาก ทำหน้าที่ผู้ประกาศ ข่าวประเสริฐ และทำพันธกิจของเจ้าให้สำเร็จลุล่วง
2 ทิโมธี 4:4-5

2 เปโตร 1:16, เศคาริยาห์ 7:11, 1 ทิโมธี 1:4, 2 ทิโมธี 1:8, โคโลสี 4:17, กิจการ 20:30-31

เราจะเห็นลัทธิต่าง ๆ เกิดขึ้นมาจาก
พื้นฐานพระคัมภีร์ แล้วก็ไปแปลงเป็นเรื่องอีกเรื่อง มีเนื้อหาพระคัมภีร์ปนเปไปกับความคิดของผู้นำลัทธิ มันไม่ได้แค่เกิดในโลกโบราณ แต่ยังเกิดขึ้น
ในโลกทุกวันนี้ ยังมีภาพยนต์ ละคร รายการคอนเสิร์ต แข่งกีฬา ฯลฯ ที่ตรึงใจคนทำให้เขาไม่หันมาหาพระคำ

ความมั่นใจในชัยชนะของท่านเปาโล

เพราะข้าเองกำลังจะถูกเทในฐานะเครื่องดื่มบูชา เวลาที่ข้าต้องจากไปมาถึงแล้ว
ข้าได้สู้อย่างสุดกำลัง
ข้าได้แข่งขันถึงที่สุดแล้ว
ข้าได้รักษาความเชื่อไว้
2 ทิโมธี 4:6-7

ฟีลิปปี 1:23, 2:17, 2 เปโตร 1:14-15, ฮีบรู 12:1,1 โครินธ์ 9:24,กิจการ 20:24

การถูกเท.. หมายถึงการถวายจนหมดสิ้น เครื่องดื่มถูกเทออกมาจนหมด ไม่เหลือถวายแด่พระเจ้า แม้ท่านยังไม่ถูกประหาร แต่ใจของท่านไปที่แดนนั้น
แล้ว ท่านพร้อมที่จะไป เพราะสู้เต็มที่แข่งจนสุด ถึงเส้นชัย รักษาความเชื่อแล้ว ท่านเปาโลคิดอย่างนี้เสมอ

มงกุฎแห่งความชอบธรรม

ในอนาคต จะมีมงกุฎแห่งความชอบธรรมเตรียมไว้ให้ข้า ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้พิพากษาผู้ทรงธรรม จะประทานเป็นรางวัล แก่ข้าในวันนั้น และไม่ใช่ให้ข้าผู้เดียว แต่จะประทานแก่ทุกคนที่ยินดีเมื่อพระองค์มาปรากฏ
2 ทิโมธี 4:8

ยากอบ 1:12, ยอห์น 5:22, 2 ทิโมธี 1:12, โคโลสี 1:5

ท่านเปาโลมั่นใจว่าในอนาคตท่านจะได้รับรางวัลเป็นมงกุฎแห่งความชอบธรรม ซึ่งมีให้กับทุกคนที่รักการเสด็จมาของพระองค์ มงกุฎด้งกล่าว
เป็นเครื่องหมายว่าได้รับชัยชนะ อ่านวิวรณ์ 4:10
วันนี้เรายุ่งวุ่นวายกับชีวิตจนลืมว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาหรือเปล่า?

คำสุดท้ายจากเรือนจำ

ขอเจ้าพยายามอย่างที่สุดเพื่อมาหาข้าให้ได้ เพราะเดมาสได้ละทิ้งข้าไปเธสะโลนิกาเพราะหลงรักโลก เครสเซนส์ไปแคว้นกาลาเทีย ทิตัสไปเมืองดาลมาเทีย
มีท่านลูกาคนเดียวที่อยู่กับข้า อย่าลืมไปรับมาระโกมาหาข้าด้วย เพราะเขาช่วยงานรับใช้ของข้าดีมาก
2 ทิโมธี 4:9-11

โคโลสี 4:14, 1 ยอห์น 2:15, กิจการ 12:12,25, 15:37-39

ท่านเปาโลเป็นคนหนึ่งที่ชอบทำงานร่วมกับคนอื่น ๆคนที่ต้องไปจากท่านก็มีหลายแบบ เดมาสไปเพราะอยากใช้ชีวิตอย่างเดิม
เครสเซนส์กับทิตัส ไปจากท่านเพราะต้องไปทำงาน รับใช้ที่อื่น จึงเหลือหมอลูกาผู้เขียนหนังสือลูกาและกิจการที่อยู่กับท่าน หมอลูกานี้เคยเดินทางไปประกาศกับเปาโลอย่างโชกโชนเลยทีเดียว

ข้าส่งทีคิกัสไปเมืองเอเฟซัส เมื่อเจ้ามา ขอให้เอาเสื้อคลุมที่ข้าทิ้งไว้กับคารปัสที่เมืองโตรอัสมาด้วย รวมทั้งหนังสือและสำคัญที่สุดคือหนังสือแผ่นหนังช่างทองแดงชื่ออเล็กซานเดอร์ทำร้ายข้าอย่างมาก ขอพระเจ้าทรงตอบแทนให้สมกับที่เขาทำ
2 ทิโมธี 4:12-14

กิจการ 20:4, 1 ทิโม​ธี 1:20,

เสื้อคลุมที่ทิ้งไว้กับคารปัสนั้น ทำให้เรารู้ว่า ท่านฝากเสื้อคลุมไว้เพื่อเมื่อท่านโดนทหารโรมจับ ก็จะไม่เสียเสื้อนั้นไปให้กับทหารที่มักจะยึดเสื้อของ
นักโทษเอาไว้ ส่วนหนังสือแผ่นหนังนั้นก็คือส่วน หนึ่งของพระคัมภีร์เดิมนั่นเอง
อเล็กซานเดอร์ทำร้ายท่าน ดูเหมือนจะเป็นการที่เขาให้ร้ายท่านเปาโลกับคนอื่น ๆ ทำให้เสียชื่อเสียง

ตัวเจ้าเองก็ระวังเขาให้ดี เพราะเขาต่อต้านคำของเราอย่างรุนแรง ตอนที่ข้าแก้คดีครั้งแรกนั้น ไม่มีใครอยู่ข้างข้าเลย ทุกคนทิ้งข้าไปหมด แต่ขอพระเจ้าอย่าทรงถือโทษพวกเขาเลย
2 ทิโมธี 4:15-16

กิจการ 7:60

อเล็กซานเดอร์เป็นคนที่ทิโมธีต้องระวังและอย่าหลงกลเขาเป็นอันขาด ใน 1 ทิโมธี 1:20 ท่าน เขาคนนี้เป็นเหมือนเรืออัปปาง ถ้าเขาทำร้ายท่านได้ ก็จะทำร้ายทิโมธีได้เช่นกัน

แต่พระเจ้าทรงอยู่ข้างข้า และประทานกำลังเพื่อว่า ข้าจะประกาศพระกิตติคุณให้ลุล่วง
และเพื่อคนต่างชาติทุกคนจะได้ยิน
ดังนั้นข้าจึงได้รับการช่วยกู้จากปากสิงห์
2 ทิโมธี 4:17

กิจการ 23:11, 9:15, 1 ซามูเอล 17:37

พระเจ้าไม่ทรงทอดทิ้งท่านเปาโล ท่านได้มีโอกาส ที่จะประกาศพระกิตติคุณต่อหน้าเจ้าเมือง ทหารโรม คนใหญ่โตพร้อมกับคนที่อยู่ในศาล อ่านในกิจการ 25-26
ส่วนปากสิงห์นั้น มีความหมายถึงอันตรายที่ร้ายแรงแบบเอาชีวิตแทบไม่รอด ทั้งจากมนุษย์ จากซาตาน (กิจการ 14:19)

องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงกู้ข้า
จากการชั่วทุกอย่าง และจะทรงนำข้าไปสู่ อาณาจักรสวรรค์ของพระองค์อย่างปลอดภัย
ขอพระสิริรุ่งโรจน์มีแด่พระองค์ ตลอดชั่วกาลนาน อาเมน
2 ทิโมธี 4:18

สดุดี 121:7, โรม 11:36, 2 เธสะโลนิกา 3:3

มีศัตรูพยายามทำลายท่านเปาโล แต่ท่านรู้ว่าเบื้องหลังของการโจมตีทุกอย่างมาจากศัตรูของพระเจ้า
(เอเฟซัส 6:10-19) ท่านเปาโลเขียนไป ๆ แล้วก็สรรเสริญ พระเจ้าออกมา กลางคัน หากเราเองเป็นอย่างนั้นก็จะดี ไม่ฝึกที่จะขอบพระคุณ สรรเสริญในขณะที่ทำอะไรอีกอย่างอยู่ ดีเหมือนกัน โรม 11:36,เอเฟซัส 3:14-21

ความคิดถึงจากพี่น้องคริสเตียน

ขอฝากความคิดถึงมายังปริสคาและอาควิลลารวมทั้งคนในครอบครัวของโอเนสิโฟรัส
เอรัสทัส ยังค้างอยู่ที่เมืองโครินธ์ ข้าต้องจากโตรฟีมัสที่เมืองมิเลทัสขณะที่เขายังป่วยอยู่ ขอให้เจ้าพยายามที่สุด มาให้ทันฤดูหนาว
ยูบูลัส ปูเดนส์ ลีนัส คลาวเดีย และพี่น้องคนอื่น ๆ ฝากความคิดถึงมาด้วยขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับวิญญาณของเจ้า
ขอพระคุณอยู่กับเจ้า อาเมน
2 ทิโมธี 4:19-22

กิจการ 18:2, 2 ทิโมธี 1:16, โรม 16:23

ท่านเปาโลมีความสุขกับเพื่อนผู้รับใช้ ผู้เชื่อหลาย คน หัวใจของท่านอยู่กับพวกเขาเหล่านั้น ก่อนที่ท่านจะลาจากโลกนี้ไป ท่านขอให้พระคุณของพระเจ้าอยู่กับจิตวิญญาณของทุกคน
ท่านเปาโลจบชีวิตปี คศ. 64 โดยถูกตัดศีรษะ เพราะ การเป็นชาวโรมนั้นห้ามถูกประหารโดยตรึงกางเขน ตามที่เล่ากันมา บอกว่าเป็นวันเดียวกันกับที่ ท่านเปโตรถูกตรึงกางเขนกลับหัว

2 ทิโมธี 3 ยุคสุดท้ายกับปัญญาสู่ความรอด

หลีกจากคนแบบนี้

ขอให้เจ้าเข้าใจว่า ช่วงวันสุดท้ายของโลกจะเกิดความยุ่งยากที่น่ากลัวเพราะมนุษย์จะเห็นแก่ตัว รักตัวเอง บูชาเงิน โอ้อวด เย่อหยิ่ง วาจาก้าวร้าว ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ อกตัญญู ชั่วร้าย
2 ทิโมธี 3:1-2

1 ทิโมธี 4:1

ลักษณะคนยุคสุดท้าย เป็นยุคที่อยู่ระหว่างการเสด็จมาบังเกิดของพระเยซูจนถึงการเสด็จกลับมาอีกครั้งหรือพูดอีกอย่างคือ เป็นยุคที่มีคริสตจักร ความชั่วร้ายจะเพิ่มมากขึ้น และมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย

ไม่รักใครเลย ไม่อาจคืนดีกับใครได้ ใส่ร้ายผู้อื่น ใส่ร้ายผู้อื่น ไม่คุมตนเอง โหดร้าย เกลียดชังความดี ทรยศ มุทะลุ เหยียดหยามผู้อื่น รักสนุกมากกว่ารักพระเจ้า ทำทีว่าสนใจทางพระเจ้าในขณะที่ไม่ยอมรับฤทธิ์ ให้หลีกเลี่ยงคนอย่างนั้น
2 ทิโมธี 3:3-5

2 เปโตร 2:10, ทิตัส 1:16, 1 ทิโมธี 5:8, 2 เธสะโลนิกา 3:6

ที่จริงสิ่งที่ท่านเปาโลเขียนมานี้ มันคือสภาพที่ทำให้สังคมไม่มั่นคง สั่นคลอน ไม่ปลอดภัยเลย คนบางคนทำทีภายนอกว่า เป็นคนของพระเจ้า แต่จริงไม่ได้รับพระองค์ คนพวกนี้อันตรายจัด

วิธีการของคนชั่ว

มีคนจากพวกเขาแอบเข้าไปตามบ้าน เรือน และหลอกหญิงที่ขาดปัญญาซึ่งชีวิตเต็มด้วยบาปให้เป็นเชลยจากความปรารถนาต่าง ๆ ของพวกเธอ
แม้ว่าผู้หญิงเหล่านี้เรียนเสมอแต่กลับไม่อาจรู้ถึงความจริงได้เลย
2 ทิโมธี 3:6-7

มัทธิว 23:14, 1 ทิโมธี 2:4

เหตุการณ์จริงในสมัยของท่านคือ ผู้หญิงจะถูกเป็นเหยื่อของคนสอนผิดมากที่สุด จุดสำคัญของคนโดนหลอกคือ มีความอยากไม่สิ้นสุด คนพวกนี้ฟังครูสอนเท็จที่มีดาษดื่น ทำให้ชีวิตตกอยู่ในความหายนะ
ความรู้ถึงความจริงนั้น มีความหมายถึงการได้รับความรอด

คนเหล่านี้ต่อต้านความจริงเหมือนกับที่ยันเนสและยัมเบรสได้ต่อต้านโมเสส พวกเขาเป็นคนคดโกง ใจทราม มีความเชื่อปลอม แต่พวกเขาจะไปได้ไม่ไกล เพราะความโง่ของพวกเขาชัดเจนต่อสายตาคนทั้งหลาย เหมือนอย่างชายสองคนนั้น
2 ทิโมธี 3:8-9

อพยพ 7:11, 12,22, 8:7, 9:11, 1 ทิโมธี 6:5, โรม 1:28

ในสมัยของโมเสส มีชายสองคนต่อต้านท่านอย่างรุนแรง พวกเขาเป็นนักวิทยาคมชาวอียิปต์ (ตามเรื่องเล่ากันมาในหมู่คนยิว) พวกเขาเกลียดความจริง เพราะความจริงเปิดเผยให้เห็นว่าตัวเขาเป็นอย่างไร

การข่มเหง และการติดตามพระเยซู

แต่เจ้าเอง ได้ติดตามทั้งคำสอน การดำเนินชีวิต เป้าหมาย ความเชื่อ ความอดทนนาน ความรักและความบากบั่น ทั้งการถูกข่มเหง และการทนทุกข์ซึ่งข้าต้องเผชิญในอันทิโอก อิโคนิยุม และที่ลิสตรา ข้าได้ทนต่อการข่มเหงเพียงใดเจ้าก็รู้ และองค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงช่วยกู้ข้าจากสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด
2 ทิโมธี 3:10-11

1 ทิโมธี 4:6 , กิจการ 13:44-52, กิจการ 14:1-20, สดุดี 34:19

ท่านเปาโลทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างคนที่ติดตามพระเจ้าจริง ๆ กับคนที่สอนผิด ท่านได้เผชิญกับคนเหล่านั้นมาอย่างโชกโชน พวกเราทุกคน ในทุกวันนี้ เจอคำสอนผิด ข่าวลวง อยู่ทุกวันเช่นกัน

ทางคนดี ทางคนชั่ว

ความจริงแล้ว คนที่มุ่งมั่นจะดำเนินชีวิตตามพระคริสต์จะถูกข่มเหง ขณะที่คนชั่วและคนหลอกลวงจะเลวลงไปอีก ทั้งไปหลอกคนอื่น และตัวเองถูกหลอกด้วย แต่เจ้าจงเดินต่อไปตามสิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้มา และได้เชื่ออย่างมั่นคง รู้อยู่ว่าเจ้าเรียนมาจากใคร
2 ทิโมธี 3:12-14

สดุดี 34:19, 2 เธสะโลนิกา 2:11, 2 ทิโมธี 1:13,วิวรณ์ 2:10

คนที่จะติดตามพระเจ้าก็ต้องเตรียมตัวเจอกันต่อต้าน พระเจ้าจะทรงเป็นผู้ทำให้เขาผ่านมันไปได้ คำว่าคนหลอกลวงในที่นี้ มีความหมายรวมไปถึงนักทำวิทยาคม หมอดูเหล่านี้ด้วย พวกเขาหลอกคนอื่นและหลอกตัวเองไปพร้อม ๆ กัน

ตามทางพระคัมภีร์

และรู้ว่าตั้งแต่เด็กมา เจ้าได้คุ้นเคยกับพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสามารถทำให้เจ้ามีปัญญาถึงความรอดด้วยความเชื่อในพระเยซูคริสต์
2 ทิโมธี 3:15

ยอห์น 5:39

ท่านเปาโลเน้นการที่ทิโมธีรับการอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก ทั้งคุณแม่และคุณยายสอนเขามาเป็นอย่างดี (1:5) นี่เป็นกำลังใจให้กับพ่อแม่ทุกบ้าน

พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการบันดาลใจจากพระเจ้า มีประโยชน์เพื่อสอน ตักเตือน แก้ไข ฝึกฝนในทางชอบธรรม เพื่อว่าคนของพระเจ้าจะเพียบพร้อม ถูกเตรียมไว้สำหรับงานดีทุกอย่าง
2 ทิโมธี 3:16-17

2 เปโตร 1:20,โรม 4:23, 15:4, 1 ทิโมธี 6:11, 2 ทิโมธี 2:21

รับการบันดาลใจคำนี้ มีความหมายว่าพระเจ้าทรงหายใจออกมา พระเจ้าทรงเปิดเผยความจริงให้กับอัครทูต ผู้เผยพระคำ ดังนั้นผู้เขียนพระคัมภีร์คือองค์พระผู้เป็นเจ้าเอง พระคำทำให้คนของพระเจ้าสมบูรณ์แบบ