สดุดี 32 อย่าให้มีบาปที่ไม่สารภาพ

ภาพจาก pixels.com ถ่ายโดย Hilary Halliwell

มัสคิลบทหนึ่ง ของดาวิด
ผู้ที่พระเจ้าทรงอภัย ก็เป็นสุขเหลือเกิน
1 คนที่พระเจ้าทรงอภัยการล่วงละเมิดก็เป็นสุข
คนที่ความบาปถูกลบไปแล้ว ก็เป็นสุข
2 คนที่พระยาห์เวห์ไม่ทรงถือโทษบาปก็เป็นสุข
คนที่ไม่มีจิตใจที่ล่อลวงก็เป็นสุข

บาปที่ค้างคา ทำลายชีวิต
3 เพราะเมื่อข้านิ่งเฉยอยู่ กระดูกก็ผุเปราะไป
ข้าร้องโหยหวนคร่ำครวญทั้งวัน
4 พระหัตถ์ของพระองค์หนักอยู่เหนือข้าทั้งวันและคืน
กำลังของข้าก็เหือดหายไปราวกับไอร้อนในฤดูร้อน
5 ข้ายอมรับบาปของข้าต่อพระองค์
และไม่ได้ปกปิดความผิดเอาไว้
ข้ากล่าวว่า “ข้าจะสารภาพความผิดบาปต่อพระยาห์เวห์”
และพระองค์ก็ทรงอภัยบาปชั่วของข้า เซ ลาห์

ป้องกันหายนะที่จะมาถึงชีวิต
6 ดังนั้น ให้ทุกคนที่อยู่ในทางของพระเจ้าอธิษฐานต่อพระองค์
ในเวลาที่จะพบพระองค์ได้
แน่ที่เดียว มวลน้ำใหญ่จะไม่ท่วมถึงเขา …
7 พระองค์ทรงเป็นที่ซ่อนตัวของข้า
พระองค์ทรงรักษาข้าให้พ้นจากความทุกข์ลำบาก
พระองค์ทรงโอบล้อมข้าไว้ด้วยเสียงแห่งการช่วยกู้ เซ ลาห์

พระเจ้าทรงเป็นผู้สอนตามทางชีวิต
8 เราจะสั่งสอนและชี้นำเจ้าไปในทางที่เจ้าควรจะเดินไป
เราจะให้คำปรึกษาพร้อมกับจับตาดูเจ้า
9 อย่าเป็นเหมือนม้าหรือลาที่ไม่มีความเข้าใจ
ที่ต้องถูกบังคับด้วยสายรั้งและบังเหียน
มิฉะนั้นจะไม่ยอมเชื่อฟัง

ความยินดีในพระเจ้าของคนเที่ยงธรรม
10 คนชั่วพบความทุกข์ใจหลายอย่าง
แต่ความรักมั่นคงอยู่ล้อมรอบคนที่วางใจในพระยาห์เวห์
11จงชื่นชมในพระยาห์เวห์ และยินดีเถิด เหล่าคนเที่ยงธรรมเอ๋ย
และร้องตะโกนด้วยความยินดี เหล่าคนที่มีใจเที่ยงตรง!

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 85:2,103:3

2* 2 โครินธ์ 5:19, ยอห์น 1:47

3* สดุดี 38:3,8

4* 1 ซามูเอล 5:6,11, 39:10-11

5* สุภาษิต 28:13,

6* 1 ทิโมธี 1:16, อิสยาห์ 55:6,

7* สดุดี 9:9, อพยพ 15:1

8* สุภาษิต 3:5-6, สดุดี 33:18

9* สุภาษิต 26:3,

10* โรม 2:9, สุภาษิต 16:20

11*สดุดี 64:10, 68:3, 97:12

คำอธิบายเพิ่มเติม สดุดี 32

คนที่…​ก็เป็นสุข เป็นสดุดีที่เริ่มต้นคล้ายสดุดีบทที่ 1

สดุดี 32:1-2
ผู้ที่พระเจ้าทรงอภัย ก็เป็นสุขเหลือเกิน
สดุดีบทที่ 32 นี้ หากเราได้ใคร่ครวญ เดินตาม และมีความเข้าใจถึงการทรงอยู่ด้วยของพระเจ้าในชีวิต ใช้เวลากับบทนี้นาน ๆ ให้คำซึมซาบเข้าไปในหัวใจ ชีวิตของเราจะเปลี่ยนแปลง อย่าปล่อยสดุดีบทนี้ไปเฉย ๆ แต่ให้กลับมาเพื่อเราจะได้รู้จักที่จะสะท้อนชีวิต การกระทำ พฤติกรรมของเราและทำให้ถูกต้องต่อพระเจ้า เชื่อกันว่า ข้อความทั้งหมดที่เขียนเป็นความรู้สึกของดาวิดหลังจากที่ท่านสำนึกผิดกลับใจจากบาปที่ท่านทำต่อครอบครัวของอุรียาห์ (2 ซามูเอล 11)
อ่านสองข้อนี้ให้ดีแล้วถามตัวเองว่า เราได้รับการอภัยบาปแล้ว พระเจ้าไม่ทรงถือโทษเราแล้ว แน่ใจไหมว่าเป็นอย่างนั้น

สดุดี 32:3-5
บาปที่ค้างคา ทำลายชีวิต
การนิ่งเฉย คือความดื้อเงียบ ไม่ยอมที่จะรับว่าตนเองทำผิด คิดว่าทิ้งบาปไว้มืด ๆ ไม่มีใครเห็นก็จบกัน แต่สำหรับพระเจ้าแล้ว ไม่มีอะไรปิดบังไว้จากพระองค์ได้เลย และคนที่พระองค์ทรงรักพระองค์จะลงวินัยกับเขาอย่างแน่นอน ที่ว่าพระเจ้าตีสอน แล้วพูดกันพร่ำเพรื่อ รู้ไหมว่า คนที่ถูกตีสอนคือคนที่พระเจ้าทรงรัก ทรงให้เขาเจ็บเพื่อเขาจะไม่ทำลายชีวิตของตนเอง
จากคำของดาวิดเราจะเห็นว่า ไม่ใช่แค่สำนึก หรือมโนธรรม หรือใจที่ฟ้องตนเอง (อ่าน 1 ยอห์น 3:16-24) แต่พระหัตถ์ของพระเจ้าต่างหากที่หนักอยู่เหนือใจของท่าน
อย่าลืม… ไม่ว่าเราทำบาปต่อใคร ทำเรื่องอะไร ในที่สุดทุกอย่างมาตกที่เป็นการทำบาปต่อองค์พระเจ้าโดยตรง
แต่ถึงแม้ว่าบาปหนักเพียงไร เมื่อดาวิดตัดสินใจว่าท่านจะสารภาพบาป สำนึกผิด พระเจ้าก็ทรงซื่อตรงที่จะอภัยบาปให้ท่าน

สดุดี 32:6-7
ป้องกันหายนะที่จะมาถึงชีวิต
ดาวิดชวนให้ทุกคนอธิษฐานต่อพระเจ้าก่อนที่จะถึงเวลาแห่งความลำบาก มวลน้ำใหญ่นี้ หมายถึงความทุกข์ยาก ปัญหาต่าง ๆ อะไรก็ตามที่เกินมือของเราจะจัดการได้ ดาวิดตระหนักว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่ช่วยกู้ท่าน และการโอบล้อมของพระเจ้าที่ท่านกล่าวถึง รู้สึกไหมว่า ปลอดภัยจริง ๆ

สดุดี 32:8-9
พระเจ้าทรงเป็นผู้สอนตามทางชีวิต
แล้วพระเจ้าก็ตรัสในใจของดาวิดว่า พระองค์จะทรงสอนและนำทางที่ควรจะไป ซึ่งเราหาได้จากพระคัมภีร์ ไม่จำเป็นต้องไปรอฟังเสียงของพระเจ้าด้วยวิธีต่าง ๆ ที่ใคร ๆ แนะนำ เริ่มจากพระคำของพระองค์ แล้วความใกล้ชิดนั้นจะทำให้เราได้ยินเสียงของพระเจ้าได้ง่ายขึ้น พระเจ้าตรัสชัดเจนว่าอย่าดื้อ อย่าขาดความเข้าใจ อย่ามีตัวเองมากจนไม่ได้ยินเสียงของพระองค์ หากดื้อมาก และพระเจ้ารักมากพระองค์อาจต้องใส่บังเหียนให้กับเรา เราคงไม่อยากได้แบบนั้น

สดุดี 32:10-11
ความยินดีในพระเจ้าของคนเที่ยงธรรม
สดุดีบทนี้จบด้วยความยินดี เพราะผู้เขียนได้ผ่านการตรวจสอบจากพระเจ้า ผ่านการสำนึกผิด การสารภาพบาปต่อพระองค์ และเขาก็พบว่า พระเจ้าทรงดีจริง ๆ เพราะทรงคืนความรักมั่นคงให้ ทรงโอบล้อมชีวิตของเขาให้ปลอดภัย เขาจึงสามารถร้องเพลงสรรเสริญพระองค์จากหัวใจจริง