สดุดี 25 ทูลขอพระเจ้าหลายอย่าง

credit:pxfuel

สดุดีของดาวิด

คำขออย่าให้ต้องอับอาย
1 โอ พระยาห์เวห์ ข้ายกชีวิตจิตใจของข้าขึ้นไปหาพระองค์
2 พระเจ้าของข้า ข้าวางใจในพระองค์
ขออย่าทรงให้ข้าต้องอับอาย
ขออย่าทรงให้ศัตรูชนะข้าเลย
3 แท้จริงแล้ว คนที่รอคอยพระองค์จะไม่ต้องอับอาย
ขอให้คนที่อับอายคือคนที่ทรยศโดยไม่มีเหตุ

ขอพระเจ้าทรงสอน ทรงนำ ขอทรงลืม และขอทรงจำ
4 ขอทรงแสดงทางของพระองค์ให้ข้าเห็น
ขอทรงสอนวิถีของพระองค์แก่ข้าด้วยเถิด
5 ขอทรงนำข้าไปในทางแห่งความจริงของพระองค์
และโปรดสอนข้า
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งความรอดของข้า
ข้ารอคอยพระองค์ทั้งวัน
6 โอพระยาห์เวห์ ขอทรงระลึกถึงพระเมตตาที่อ่อนโยน
และความรักมั่นคงของพระองค์ 
เพราะทั้งสองนี้มีมาตั้งแต่อดีตกาล
7 ขออย่าทรงระลึกถึงบาปและการล่วงละเมิดเมื่อข้ายังเยาว์
ขอทรงระลึกถึงข้าตามความดีของพระองค์

หนทางของพระเจ้าต่อคนที่ถ่อมตน
8 พระยาห์เวห์ทรงดีและเที่ยงตรง 
ดังนั้นจึงทรงสอนทางนั้นแก่คนบาป
9 พระองค์ทรงนำคนที่ถ่อมตนไปในทางเที่ยงธรรม
ทรงสอนหนทางของพระองค์แก่พวกเขา
10 หนทางทั้งสิ้นของพระยาห์เวห์
คือทั้งความรักมั่นคงและความจริงจะที่มีแก่
คนที่รักษาพันธสัญญาของพระองค์
11 โอ พระยาห์เวห์ เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์ 
ขอทรงอภัยบาปผิดของข้า เพราะบาปนั้นใหญ่หลวง

สิ่งดีที่พระเจ้าประทานแก่คนที่ยำเกรงพระองค์
12 ใครเป็นคนที่ยำเกรงพระยาห์เวห์?
พระองค์จะทรงสอนทางที่พระองค์ทรงเลือกแก่คน ๆ นั้น
13 เขาจะได้ใช้ชีวิตในความสมบูรณ์ และลูกหลานของเขา
จะได้แผ่นดินเป็นมรดก
14 พระยาห์เวห์ทรงเผยคำปรึกษาที่ลึกล้ำให้แก่คนที่ยำเกรง
พระองค์
และทรงทำให้พันธสัญญาของพระองค์กระจ่างแจ้งแก่เขา
15 ดวงตาของข้าจะมองมายังพระยาห์เวห์เสมอ
เพราะพระองค์จะทรงฉุดให้เท้าของข้าพ้นจากกับดัก
ตาข่าย

คำขอพระเจ้าทรงช่วยปกป้อง
16 ขอทรงหันมามองข้า และเมตตาต่อข้า
เพราะข้าทั้งโดดเดี่ยวและทุกข์ใจยิ่งนัก
17 ความโศกซึมเศร้าในใจมีมากขึ้น
ขอทรงนำข้าออกมาจากความกดดันนี้
18 ขอทรงมองมายังความทุกข์โศกและความเจ็บปวด
และขอทรงอภัยบาปของข้าทั้งสิ้น
19 ขอทรงดูเถิดว่า ศัตรูของข้ามีมากเพียงใด
พวกเขาทั้งเกลียดชัง และโกรธเกรี้ยวข้ายิ่งนัก
20 ขอทรงปกปักรักษาวิญญาณของข้า และช่วยกู้ข้าด้วย
ขออย่าทรงให้ข้าต้องอับอาย เพราะข้าวางใจในพระองค์
21 ขอให้ความชื่อสัตย์ และความเที่ยงตรงรักษาข้าให้
ปลอดภัย เพราะข้ารอคอยพระองค์อยู่
22โอพระเจ้า ขอทรงไถ่อิสราเอล
ให้พ้นจากความทุกข์ยากทั้งสิ้นของพวกเขา

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 86:4,143:8

2* สดุดี 34:8, 13:4, 41:44

3*เพลงคร่ำครวญ 3:25, อิสยาห์ 40:31

4* อพยพ 13:13,33:13, สดุดี 5:8, 27:11, 86:11,119:27,143:8

5* สุภาษิต 8:34, ยอห์น 16:13, อิสยาห์ 49:10

6* สดุดี 103:17, 106:1, โคโลสี 3:12, ลูกา 1:50

7* โยบ 13:26, เยเรมีย์ 3:25, สดุดี 51:1, อิสยาห์ 43:25

8* ยากอบ 1:5, เอเฟซัส 1:17-18, สดุดี 92:15

9*สุภาษิต 3:5-6, สดุดี 23:3, มัทธิว 5:5

10*ยากอบ 5:11, ฮีบรู 12:14

11* สดุดี 31:3, 79:9, 109:21, 143:11

12* สดุดี 25:8, 37:23,

13*สุภาษิต 19:23, สดุดี 37:11, 69:36

14* ยอห์น 7:17, ยอห์น 15:15

15* สดุดี 141:8, 31:4, 123:2

16*สดุดี 69:16, 143:4

17* 2 โครินธ์ 4:8-9, สดุดี 107:6

18* 2 ซามูเอล 16:12, สดุดี 31:7

19* ลูกา 22:2, สดุดี 143:3

20*สดุดี 121:7, 71:1-2

21* สดุดี 41:12, กิจการ 24:16,

22* สดุดี 130:8

อธิบายเพิ่มเติม สดุดี 25


สดุดีบทนี้ ได้สื่อถึงความรู้สึกในใจของกษัตริย์ดาวิดอย่างชัดเจน. เป็นสดุดีที่เริ่มต้นแต่ละข้อด้วยตัวอักษรที่ และในเมื่อเราเป็นผู้เชื่อในพระเจ้า สดุดีบท 25 ก็ได้สอนเราว่า เมื่อเจอวิกฤต เราควรเข้ามาหาพระเจ้าอย่างไร ชาร์ลส เสปอร์เจียนกล่าวว่า เราได้เห็นความขัดแย้งในใจ การสำนึกในความผิดที่ทำต่อพระเจ้า การกลับใจ และความทุกข์ กดดันในใจ ทุกสิ่งได้ปรากฏชัดเป็นคำคร่ำครวญ

ข้อ 1-3 คำขอร้องอย่าให้ต้องอาย
การยกชีวิตจิตใจของข้าขึ้นไปหาพระองค์ในข้อหนึ่งหมายคือการที่เขาจะวางใจพระเจ้าด้วยการอธิษฐาน ใจของกษัตริย์ดาวิดรอคอยพระองค์. การรอคอยพระเจ้าไม่ใช่นั่งเฉย ๆ แต่เป็นการที่
หัวใจของท่านรอคอยคำตอบ
คนที่ทรยศโดยไม่มีเหตุ มีความหมายได้สองอย่างคือ ทรยศโดยไม่มีสาเหตุที่จะทำ กับการทรยศแล้วไม่ได้ผลกลับมาอย่างที่ต้องการ. ไร้ผล (ฮีบรู>เรคาม>ไร้ผล)

ข้อ 4-7. ขอพระเจ้าทรงสอน ทรงนำ ขอทรงลืม และขอทรงจำ
ทางของพระเจ้าที่จะทรงสอนให้เป็นทางเดินชีวิตที่ถูกต้อง (ข้อ 8-10) เป็นทางแห่งความจริง (เรื่องนี้สำคัญเพราะคนในโลกเดินในทางเท็จ เชื่อพระที่เท็จ เชื่อสิ่งที่ไม่ใช่พระเจ้า)
ท่านกล้าที่จะขอให้พระเจ้าทรงจำสิ่งดี ๆ ของพระองค์ แต่ลืมความบาปของท่านไป

ข้อ 8-11 หนทางของพระเจ้าต่อคนที่ถ่อมตน
สิ่งหนึ่งที่กษัตริย์ดาวิดตระหนักเสมอคือ พระเจ้าทรงดีและเที่ยงตรงยิ่งนัก
อย่างไร ๆ พระองค์ทรงดีต่อคนบาปด้วย ทรงสอนทางที่ดีแก่เขา
25:10,14 พันธสัญญา. (ฮีบรู> ซาฆาร์> พันธสัญญา ) เป็นข้อตกลงระหว่างสองฝ่าย โดยมีเงื่อนไขที่ยอมรับกัน พระเจ้าทรงใช้คำนี้บ่อย ๆ เพื่อบอกถึงความสัมพันธ์ของพระองค์ที่ทรงมีต่ออิสราเอล

ข้อ 12-15 สิ่งดีที่พระเจ้าประทานแก่คนที่ยำเกรงพระองค์
คนที่ยำเกรงพระเจ้า>
1. พระเจ้าสอนทางที่ดีให้เขา เขาจะมีชีวิตสมบูรณ์ ลูกหลานจะรับแผ่นดินเป็นมรดก
2. จะได้รับคำปรึกษาที่ล้ำลึกจากพระองค์ ใคร ๆ ก็อยากได้ แต่มีให้กับคนที่ยำเกรงเท่านั้น
3. จะเข้าใจพันธสัญญาลึกซึ้ง …เป็นผลดีมาก ๆ กับชีวิต
4. พระเจ้าจะทรงช่วยให้พ้นกับดักของศัตรูในทุกด้าน

ข้อ 16-22 คำขอพระเจ้าทรงช่วยปกป้อง
เราจะเห็นว่า ข้อ1-7 และข้อ 16-22 เป็นคำอธิษฐานที่คล้ายกัน ความรู้สึกของกษัตริย์ดาวิดเวลานั้น แม้จะอยู่ในตำแหน่งสูงคือ โดดเดี่ยว เป็นทุกข์ กังวล กดดันมากที่มีศัตรูมาอยู่ล้อมรอบ
25:20 ปกปักรักษา คือ คอยปกป้อง (ฮีบรู> ชามาร์>ดูแล ปกป้อง ยาม เฝ้าประตู ) แปลว่า ทำรั้วล้อมรอบบางอย่าง หรือ ตั้งยามเฝ้า กษัตรย์ดาวิดขอพระเจ้าทรงป้องกันท่านไว้รอบด้าน
แต่ในยามที่อันตรายนี้ ท่านไม่ลืมที่จะขอพระเจ้าทรงยกโทษบาปที่เกิดขึ้นในใจ หรือในการกระทำ
ที่ขอพระองค์ล้อมรอบ ปกป้องไว้เพราะศัตรูมีมากเหลือเกิน
จบด้วยคำอธิษฐานของกษัตริย์เพื่อทุกคนในชาติคือ ขอพระเจ้าทรงไถ่อิสราเอลจากความเดือดร้อนทุกอย่าง. พอเห็นคำในข้อ 22 แล้ว ทำให้รู้สึกว่า บางทีกษัตริย์ดาวิดกำลังอธิษฐานอ้อนวอนเผื่ออิสราเอลทั้งประเทศมาตั้งแต่ข้อแรกแล้วก็เป็นได้