1 เธสะโลนิกา 1 ตัวอย่างที่เยี่ยมยอด

จากเปาโล สิลาส และทิโมธี ถึง
คริสตจักรเมืองเธสะโลนิกา ซึ่งอยู่ในพระเจ้าพระบิดา และพระเยซูคริสต์เจ้า ขอพระคุณ และสันติสุขจาก พระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซูคริสตเจ้ามาถึงพวกท่าน
1 เธสะโลนิกา 1:1

กิจการ 16:19-30, 1 เธสะโลนิกา 3:2

สิลาส เคยเข้าคุกพร้อมท่านเปาโล
ส่วนทิโมธี พ่อเป็นกรีก แม่เป็นยิว
รักพระเจ้ามาตั้งแต่เด็ก
และเดินทางไปประกาศกับเปาโลหลายแห่ง ท่านเคยส่งเขาไปรับใช้ในเมืองเธสะโลนิกาด้วย

เราขอบพระคุณพระเจ้า
เพราะท่านทุกคนอย่างต่อเนื่อง เมื่อเราอธิษฐาน
ก็เอ่ยถึงท่านเสมอ
1 เธสะโลนิกา 1:2

โรม 1:8 ,กิจการ 17:1-9

ที่เมืองเธสะโลนิกา ท่านเปาโลไปประกาศ หลายคนกลับมาเชื่อ แต่ก็มีเรื่องวุ่นวาย พระเจ้าทรงให้ เกิดผล ท่านเปาโล และเพื่อนร่วมงานของท่าน อธิษฐานเผื่อ ขอบพระคุณเพราะพวกเขาไม่หยุดหย่อน นี่เป็นต้นแบบการทำงาน รับใช้แล้ว ก็ยังอธิษฐานเผื่อต่อไป

ต่อพระพักตร์พระเจ้าของเรา และพระบิดา เราไม่หยุดที่จะระลึกถึงการกระทำที่เกิดจากความเชื่อ ทั้งหยาดเหงื่อแรงงานที่เกิดจากความรัก และความอดทนที่เกิดจากความหวังในพระเยซูคริสตเจ้าของเรา
1 เธสะโลนิกา 1:3

ยอห์น 6:29, โรม 16:6

ท่านเปาโลไม่อาจลืมคริสเตียนในคริสตจักรเมืองเธสะโลนิกาได้ เพราะการกระทำ การงาน ความ
อดทนของพวกเขา เหนือชั้นจริง ๆ เราจะเห็นสามสิ่งที่สำคัญ คือ ความเชื่อ ความรัก และความหวัง ในพวกเขาเหล่านี้ นี่เป็นสูตรของชีวิตเราเช่นกัน

พี่น้องที่รักของพระเจ้า เรารู้ว่า ท่านได้รับการทรงเลือกจากพระ องค์แล้ว เพราะข่าวประเสริฐไม่ได้มาถึงท่านแค่ถ้อยคำเท่านั้น แต่มาพร้อมกับฤทธิ์พระวิญญาณบริสุทธิ์ และเต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจ ตามที่ท่านรู้ว่า เพราะเห็นแก่ท่าน พวกเราเป็นคนอย่างไรท่ามกลางพวกท่าน
1 เธสะโลนิกา 1:4-5

โคโลสี 3:12, มาระโก 16:20, 2 โครินธ์ 6:6, ฮีบรู 2:3

ท่านเปาโลแน่ใจได้อย่างไรว่า พระเจ้าทรงเลือกพี่น้องชาวเธสะโลนิกาจริง? เพราะพระเจ้าทรงรักพวกเขา และพวกเขาได้
ตอบรับถ้อยคำของพระเจ้าอย่างมั่นใจ ได้มาพร้อมกับฤทธิ์พระวิญญาณที่เปลี่ยนชีวิต พวกเขาทำงานด้วยความรัก ความหวังใจในพระเจ้า

และท่านได้เลียนแบบชีวิตของเราและองค์พระผู้เป็นเจ้า ถึงแม้ถูกกดขี่ข่มเหงอย่างรุนแรง แต่ท่านยังต้อนรับพระคำด้วยความยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านได้กลายเป็นตัวอย่างให้กับผู้เชื่อทุกคนในแคว้นมาซิโดเนีย และอาคายา
1 เธสะโลนิกา 1:6-7

ลูกา 6:22, มัทธิว 5:10-12, 1 โครินธ์ 4:6, 11:1,กิจการ 5:41,13:52

คนที่รับพระคำของ พระเจ้าโดยไม่ย่อท้อแม้มีความลำบาก เป็นผู้เชื่อ ที่เข้มแข็ง อดทน คนเหล่านี้ จะได้รับบำเหน็จของพระเจ้าที่เหนือคนทั่ว ๆ ไปด้วยซ้ำ ในหลายประเทศที่ห้ามออกชื่อพระนามเยซู อย่าได้เอ่ยนามนี้ จะต้องโดนขัง โดนทำโทษ เราพบว่ามีผู้เชื่อจำนวนมากมายที่ต้องหนีจากบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อจะได้นมัสการ พระเจ้าอย่างอิสระ พระคำตอนนี้จึงเป็นพระคำสำหรับยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง

เพราะพระคำของพระเจ้าได้เลื่องลือออกไปจากพวกท่าน ไม่เฉพาะในแคว้นมาซิโดเนีย กับแคว้นอาคายาเท่านั้น แต่ความเชื่อของท่านเป็นที่รู้กันทุกแห่ง เราจึงไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรอีก
1 เธสะโลนิกา 1:8

โรม 10:18, 1:8,16:19

เมื่อใครคนหนึ่งเชื่อพระเจ้า เมื่อเขารู้ว่า พระเจทรงยิ่งใหญ่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะแบ่งปันสิ่งดีที่สุด
ในชีวิตให้กับคนรอบข้าง อดไม่ได้ที่ชีวิตเปลี่ยน แปลงจะเป็นที่กล่าวขานไปทั่ว บางที เรามารู้จักพระเจ้า แต่นิสัยใจคอไม่เปลี่ยน
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราต้องหันกลับมาคิด ดี ๆ ว่า เราพบพระองค์จริงหรือเปล่า

เพราะคนเหล่านั้น รายงานเรื่องของเราว่า ท่านต้อนรับเราอย่างไร และท่านได้หันจากรูปเคารพ มาหาพระเจ้า เพื่อรับใช้พระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรงพระชนม์อย่างไร
1 เธสะโลนิกา 1:9

1 เธสะโลนิกา 2:1, 1 โครินธ์ 12:2

การรับเชื่อพระเจ้าครั้งนี้ของพวกเขา ไม่ปลอม แต่เป็นจริง เพราะเห็นได้ว่า เขาได้หันหลังให้กับชีวิตแบบเดิม ที่ผ่านมาเราพบว่า เมื่อใครคนหนึ่งมีประสบการณ์ กับพระเจ้าจริง ๆ เขาก็ไม่อาจทนมีชีวิตกับรูป เคารพเหล่านั้นได้อีกเลย

และตั้งตาคอยพระบุตรของพระเจ้าจากสวรรค์ คือพระเยซูผู้ที่พระองค์ทรงให้คืนชีพขึ้นมา พระเยซูองค์นี้จะทรงช่วยกู้เราให้พ้นจากพระพิโรธที่กำลังจะมา
1 เธสะโลนิกา 1:10

โรม 2:7, โรม 5:9

คำว่าตั้งตาคอยนี้ คือ เรารอการเสด็จมาของพระเจ้าอย่างกระตือรือร้น รอด้วยความหวังใจ ซึ่งจะส่งผลให้เรามีชีวิตที่มีชีวิตชีวา เร่าร้อนในการรับใช้ ที่พระเยซูทรงช่วยให้พ้นจากพระพิโรธก็เพราะ ทรงรับโทษบาปของคนที่เชื่อในพระองค์ไปแล้วที่ไม้กางเขน เราจึงไม่ต้องกลัว พระพิโรธของพระเจ้าอีกต่อไป