กิจการ 16 แลกมาด้วยความยินดี

เปาโล สิลาส กับทิโมธีน้องใหม่

นิมิตเรื่องชาวมาซิโดเนีย

บาดแผลที่นำชีวิตใหม่

เปาโล สิลาส กับทิโมธีน้องใหม่
กิจการ 16:1-3
จำได้ไหมที่เมืองลิสตรา เปาโลเคยถูกหินขว้าง ถูกลากออกมาจากเมือง เปาโลไม่ได้กลัวว่าจะถูกขว้างอีกหรือไม่ และที่นั่นได้พบกับชายคนหนึ่งที่เป็นลูกครึ่งกรีกยิว และดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่รับใช้พระเจ้าได้ แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาโลกแตกของยิวในเรื่องสุหนัต ท่านจึงขอให้ทิโมธีเข้าสุหนัตเสีย เป็นการตัดไฟต้นลม
เพราะทิโมธีจะต้องเป็นผู้นำต่อไป จะได้ไม่มีเรื่องแบบนี้ทำให้คนสับสนอีก คือจริง ๆ ไม่ทำสุหนัตก็ไม่ผิด แต่การป้องกันแบบนี้ก็ไม่ผิดเช่นกัน
ทิโมธี ชื่อของเขาแปลว่า คนที่ให้เกียรติพระเจ้า … และต่อมาเราจะเห็นว่าทิโมธีเป็นผู้รับใช้ร่วมกับเปาโลที่มีความคิดเดียวใจเดียวกัน ดูฟิลิปปี……… 2 ทิโมธี 1:5 เขาเป็นลูกหลานคริสเตียน มีการเลี้ยงดูมาในทางของพระเจ้าเป็นอย่างดี
กิจการ 16:4-5
ต่อมาทั้งเปาโล สิลาสและทิโมธีก็ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียน หนุนใจ สั่งสอนพี่น้อง โดยที่ท่านได้รับรองการตัดสินใจของผู้ปกครองในกรุงเยรูซาเล็ม (ในเรื่องความเชื่อของพี่น้องต่างชาติที่ไม่ต้องมารักษากฎบัญญัติของโมเสส)
คริสตจักรได้เชื่อฟังสิ่งที่บอก และพวกเขาเข้มแข็งขึ้น เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีคนเข้ามาพบพระเจ้า และเปลี่ยนชีวิตมากขึ้นทุกวัน

นิมิตเรื่องชาวมาซิโดเนีย
กิจการ 16:6-8
แล้วพระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำพวกเขาไม่ให้ประกาศในแคว้นเอเชียอีกต่อไป
จึงเดินทางไปยังฟรีเจีย กาลาเทีย ..​พวกเขาเดินทางต่อไปมิเซีย และอยากไปต่อบิธิเนียด้านเหนือของแคว้นกาลาเทีย แต่พระเจ้าทรงห้ามเอาไว้ เปาโลกระวนกระวายว่านี่มันเรื่องอะไรกัน พวกเขาอยากที่จะไปให้ทั่ว ๆ ประกาศให้ทุกเมืองในแถบนั้น
กิจการ 16:9-10
แล้วคืนหนึ่งที่เมืองโตรอัส เปาโลก็เห็นนิมิตว่ามีชายคนหนึ่งขอร้องให้ไปมาซิโดเนียซึ่งต้องข้ามทะเลไปทางตะวันตก พระเจ้าทรงปิดทางหลาย ๆ ทางเพื่อให้ทั้งสามมุ่งหน้าไปอีกที่ ซึ่งพระองค์ทรงเตรียมไว้ เมื่อเข้าใจแบบนี้ เปาโลก็ไม่สงสัยอะไรอีก ทั้งสามเห็นพ้องต้องกัน
เมืองโตรอัสเป็นเมืองหน้าด่านของเอเชีย ที่ใกล้ชิดยุโรปมาก
กิจการ 16:11-13
นี่เป็นครั้งแรกที่พระกิตติคุณเข้าไปปลูกและเกิดผลในชายแดนยุโรป และเขาไปถึงเมืองเนอาโปลิส และไปต่อยังเมืองฟีลิปปี
แน่นอนที่เปาโลต้องการเข้าไปศาลาธรรม แต่ดูเหมือนไม่มีศาลาธรรมยิวในเมืองนั้น (เป็นธรรมเนียมในเมืองต่างชาติว่า จะต้องมีชายยิว 10 คนขึ้นไปจึงจะสร้างศาลาธรรมขึ้นมา) ที่เมืองนั้นพวกเขาไปนอกเมืองริมน้ำ ได้เจอพวกผู้หญิงที่มาชุมนุมกัน คนยิวที่อยู่ต่างประเทศมักจะออกไปอธิษฐานกับพระเจ้าริมน้ำ เหมือนในสดุดี 137:1
เอ.. ในนิมิตเห็นผู้ชาย แต่กลับมาเจอผู้หญิงที่มาชุมนุมกันอยู่ ทั้งสามต้องการไปอธิษฐานแต่กลับเจอโอกาสที่จะพูดเรื่องพระเยซู.. แม้โลกโบราณจะเป็นโลกที่ชายเป็นใหญ่ แต่เปาโลรู้อยู่แล้วว่า ในพระเจ้าทุกคนเท่ากัน ไม่มีกรีก ยิว ชายหรือหญิงที่จะโดดเด่นในสายพระเนตรของพระเจ้า
กิจการ 16:14-15
ลิเดียเป็นนักธุรกิจหญิงขายผ้าสีม่วง (เป็นผ้าที่บอกให้รู้ว่า ขายให้กับคนชั้นสูงของอาณาจักรโรม) ที่มาจากเมืองทิยาธิรา ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ เธอมาพร้อมกับคนในครอบครัวด้วย และพระเจ้าทรงเปิดใจของเธอ… ตรงนี้สำคัญ.. เปาโลกล่าวพระคำ ลิเดียตั้งใจฟัง และพระเจ้าทรงเปิดใจ เธอรับเชื่อและรับบัพติศมาริมน้ำนั้นทันที แล้วยังต้อนรับผู้รับใช้ของพระเจ้าให้พักที่บ้านด้วย โดยใช้คำที่สุภาพ น่าฟัง เธอวิงวอนจนขัดไม่ได้ นี่หมายความว่า เปาโล สิลาส ทิโมธีมีที่พักพร้อมที่จะออกประกาศต่อไปในเมืองนี้
คนแรกที่รับเชื่อพระเจ้าในฟีลิปปี จึงเป็นสตรีที่มีครอบครัวใหญ่.. ขอบคุณพระเจ้า
น่าสนใจว่า ลิเดีย เป็นคนที่ทำงานกับชนชั้นสูง และเธอเองมีบ้านของตนเอง เธอไม่ใช่ทาส แต่เป็นบ้านที่มีที่ทางพอที่จะรับแขกได้ด้วย
กิจการ 16:16-18
แล้วในวันหนึ่ง ทั้งสามเดินไปยังที่อธิษฐาน ก็ได้เจอกับทาสหญิงของกลุ่มหมอดู พวกหมอดูใช้เธอทำนายอนาคต และก็เก็บเงินจากผู้คน เธอรบกวนพวกเขาด้วยการพูดความจริง แต่เป็นความจริงที่ทำให้พวกเขาดูเหมือนเป็นพวกเดียวกับหมอดู ทำราวกับว่าซาตานช่วยโฆษณา ประกาศงานของพระเจ้าแทน นี่เป็นการพูดเรื่องพระเจ้าด้วยวิญญาณที่ต่อต้านพระองค์
กิจการ 16:18b-19
ก็ทนกันมาหลายวันจนกระทั่งเปาโลไม่ทนอีกต่อไป เปาโลหันไปไล่ผีออกจากเธอ และมันก็ออกทันที ไม่มีการต่อต้านใด ๆ ทำให้นางทาสผู้นี้กลายเป็นคนปกติ เราไม่ทราบว่า เธอได้มาเชื่อพระเจ้าหรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ คือ ไม่ได้มีฤทธิ์เหมือนเคย ไม่สามารถทำนายทายทักได้อย่างที่นายเคยใช้
ดังนั้น จะต้องกำจัดคนที่ทำให้ขาดรายได้! พวกเขาลากตัวเปาโลกับสิลาสออกมาที่ตลาด ให้ผู้นำของเมืองและชาวเมือง ได้เห็นว่า สองคนนี้เป็นตัวอันตราย

บาดแผลที่นำชีวิตใหม่
กิจการ 16:20-22
จากนั้นก็นำไปยังเจ้าหน้าที่ ฟ้องว่าทั้งสองเป็นยิวมาก่อความวุ่นวายในเมือง โดยที่มาชักชวนคนโรมให้นับถือ และรับธรรมเนียมที่ผิดกฎของโรม ซึ่งเป็นคำฟ้องเท็จ พอประชาชนได้ยินอย่างนั้นก็เข้ามารุมทำร้ายทั้งสอง
ชาวเมืองทำร้ายไม่พอ เจ้าหน้าที่สั่งถอดเสื้อ สั่งโบย โบยด้วยความโกรธที่พวกเขาตัดทางทำมาหากิน
กิจการ 16:23-24
หลังจากที่ถูกโบยอย่างทารุณ ก็สั่งเข้าคุก ห้องชั้นใน ใส่ขื่อที่เท้า .. แต่ดูเหมือนทั้งสองยังไม่สลบ
กิจการ 16:25-26
ราวเที่ยงคืน เปาโลและสิลาสกำลังอธิษฐาน ทั้งสองไม่ได้กระซิบพึมพัม แต่ส่งเสียงดังพอควรในความมืด ในความเงียบของคุก .. นักโทษคนอื่น ๆ ก็ฟังทั้งสองเพลิน ๆ อยู่ แล้วก็เกิดแผ่นดินไหวทันทีทันใด รากคุกสะเทือน
บทเพลงยามค่ำคืน ในเวลาที่เจ็บปวด ขณะที่ถูกจับ ถูกขัง … ยังมีเพลงสรรเสริญพระเจ้าจากความมืดมนของชีวิต นี่เป็นบทเรียนสำหรับพวกเรายามที่ต้องเผชิญกับความจนมุมในชีวิตเรา
กิจการ 16:26b-28
ประตูที่ปิดแน่นหนา ก็เปิดออก โซ่ตรวนแตกหักเป็นชิ้น ๆ นี่เป็นโอกาสที่นักโทษจะหนีออกจากคุก! ใครจะไม่หนีบ้าง หากเป็นอย่างนี้? คนที่เป็นทุกข์มากที่สุดคือพัศดี ถ้านักโทษหนี เขานี่แหละจะต้องรับผิดชอบ รับโทษทุกอย่าง แต่เปาโลรีบห้ามไว้ทัน อย่าทำร้ายชีวิตตนเอง …​เปาโลทราบดีว่า นี่เป็นเวลาของความรอดของชีวิตพัศดีคนนี้
กิจการ 16:29-32.
พัศดีเข้าไปตรวจในคุก ตัวสั่นด้วยความกลัวยิ่งนัก เขาถึงกับทรุดตัวลงต่อหน้าเปาโลและสิลาส ถามถึงความรอดว่า ทำอย่างไรจึงจะรอดจากบาปได้?.. ดูเหมือนเขาได้ยินสิ่งที่เปาโลอธิษฐาน หรือได้ข่าวเรื่องที่ประกาศในเมืองแล้ว และรู้เหตุผลของการถูกจับ
และเปาโลก็ตอบชัดเจนทันควันว่า ขอให้เชื่อวางใจพระเยซูจะรอดทั้งครอบครัวด้วย นี่คือเงื่อนไขได้การรับความรอดโดยไม่มีว่าต้องทำสิ่งโน้นสิ่งนี้ก่อน พระคุณของพระเยซูเท่านั้นที่ทำให้รอด
แล้วประกาศเรื่องราวของพระเยซูให้พัศดีพร้อมคนอื่น ๆ โดยไม่ต้องมีพิธีรีตรองใด ๆ
กิจการ 16:33
แล้วพัศดีก็พาเปาโล สิลาสไปล้างแผล เสร็จแล้วยังไม่ทันเช้า
ภายในเวลาเที่ยงคืนถึงเช้าก็มีครอบครัวใหม่ในฟิลิปปีกลับใจมาเชื่อพระเจ้า รับบัพติศมาด้วย
สิ่งที่เปาโลกล่าวก่อนหน้านี้ว่าครอบครัวจะได้รับความรอด ก็เกิดขึ้นจริง!
กิจการ 16:34-35
เรียกได้ว่าเสร็จภายในครึ่งคืน เปาโลกับสิลาสได้ไปเยี่ยมกินอาหารที่บ้านพัศดีด้วย จากนั้นก็ต้องกลับไปขังอย่างเดิม เช้าตรู่ ด้วยเหตุผลได้ไม่ได้บันทึกไว้ เจ้าหน้าที่ส่งคำสั่งมาให้ปล่อยเปาโลกับสิลาสไป …
กิจการ 16:36-37
ผู้ว่ายอมให้เปาโลกับสิลาสออกจากคุกได้ แต่เปาโลไม่ยอม เพราะว่าพวกเขาเฆี่ยนทั้งสองโดยยังไม่สอบสวน แล้วจะมาให้ออกไปง่าย ๆ ไม่ให้ใครรู้ได้อย่างไร ในเมื่อตัวเปาโลเองเป็นชาวโรม! พวกเขาต้องพาออกไปให้ใคร ๆ ได้เห็นเช่นกัน
มีกฎหมายที่จะทำโทษคนชาวโรมโดยไม่ไต่สวนก่อนไม่ได้.. ดังนั้น เท่ากับผู้ว่าการทำพลาดไปแล้ว
กิจการ 16:38-40
ในที่สุดมีการเจรจากันระหว่างสองฝ่าย ฝ่ายเมืองขอให้เปาโลออกไป ซึ่งมีการตกลงกัน เปาโลกับสิลาสกลับไปลาลิเดีย พวกเขาหนุนใจลิเดียและครอบครัว …
เปาโล สิลาส ทิโมธี และลูกา (ซึ่งเป็นผู้เขียน) ได้เข้ามาในฟีลิปปี เกิดผล สร้างกลุ่มคริสเตียน และเดินทางต่อไป (ออกจากเมืองไปกันสองคนคือ เปาโลและสิลาส)

พระคำเชื่อมโยง

1*  โรม 16:21; ฟีลิปปี 2:19; 1 เธสะโลนิกา 3:2,6,  2 ทิโมธี 1:5
2*  ฮีบรู 11:2; กิจการ 13:51; 16:40;  2 ทิโมธี 3:11,15 
3* กาลาเทีย 2:3; 5:6; 1 โครินธ์ 9:20
4* กิจการ 15:28-29; 11:30; 15:2,28
5* กิจการ 2:47; 9:31;
6* กิจการ 2:9; 18:23; 1 เปโตร 1:1
7* กิจการ 8:29; โรม 8:9; กาลาเทีย 4:6; ฟีลิปปี 1:19; 1 เปโตร 1:11
8* กิจการ 16:11; 20:5-6; 2 โครินธ์ 2:12; 2 ทิโมธี 4:13
9* กิจการ 9:10; 20:1,3; โรม 15:26
10* 2 โครินธ์ 2:12-13; กิจการ 27:1-28-16
12* กิจการ 20:6; ฟีลิปปี 1:1; 1 เธสะโลนิกา 2:2
13* กิจการ 13:14; โคโลสี 1:23


14* ลูกา 24:45; กิจการ 18:7; วิวรณ์ 1:11; เอเฟซัส 1:17-18
15* ฮีบรู 13:2; ปฐมกาล 19:3; ลูกา 24:29; กิจการ 11:14
16* เลวีนิติ 19:31; เฉลยธรรมบัญญัติ 18:11; 1 ซามูเอล 28:3,7
17* ยอห์น 14:6; 1 เปโตร 2:16; มาระโก 5:7
18*   มาระโก 16:17; ลูกา 10:17-19
19* กิจการ 8:3; 17:6-8; 19:25-26; 21:30; ยากอบ 2:6
20* ยากอบ 4:4; โรม 12:2
21* เอสเธอร์ 3:8; กิจการ 16:12
22* 2 โครินธ์ 6:5; 11:25; 1 เธสะโลนิกา 2:2
24* โยบ 13:27; 33:11; เยเรมีย์ 20:2-3; 29:26
25* 1 เธสะโลนิกา 5:16-18; ยากอบ 1:2
26* 1; กิจการ 4:31; 5:19; 12:7,10

27* กิจการ 12:19
28* 1 เธสะโลนิกา 5:15; ลูกา 23:34
29* วิวรณ์ 3:9; กิจการ 24:25
30* กิจการ 2:37; 22:10; 16:7
31* กิจการ 2:38-39; ยอห์น 3:36
32* 1 ทิโมธี 1:13-16; 1 เธสะโลนิกา 2:8
33* 1 โครินธ์ 1:16; กิจการ 16:15; 16:25
34* โรม 15:13; กิจการ2:46; 1 ยอห์น 3:18
35* กิจการ 5:40; เยเรมีย์ 5:22
36* กิจการ 15:33; ยอห์น 14:27; กิจการ 16:27
37* กิจการ 22:25-29; มัทธิว 10:16
38* กิจการ 22:29; มัทธิว 21:46
39* มัทธิว 8:34; มาระโก 5:17; มีคาห์ 7:9-10
40* 1 เธสะโลนิกา 3:2-3; กิจการ 4:23

กิจการ 12 นักโทษที่หายไป!

อธิษฐานแล้ว …คำตอบก็มา

จุดจบเฮโรด

อธิษฐาน แล้วคำตอบก็มา
กิจการ 12:1-3
ชื่อเฮโรดเป็นเหมือนชื่อตำแหน่ง วงศ์ของเฮโรด เราจึงเจอเฮโรดหลายคนในพระคัมภีร์ ต้องดูดี ๆ ว่า เป็นคนไหน ส่วนคนนี้ นามว่าเฮโรด อะกริปปาที่หนึ่ง สืบเชื้อสายจากวงศ์ฮาสโมเนียนซึ่งมีเชื้อสายยิว เป็นเฮโรดที่เชื่อในศาสนายิว ดังนั้นเขาจึงพยายามเอาใจยิวให้มาก เขาได้จับยากอบพี่ชายของยอห์น แล้วประหารเสีย คนต่อไปที่เขาจะกำจัดคือ เปโตร และก็จับมาได้เสียด้วย เพราะอัครทูตไม่ได้อยู่หลบ ๆ ซ่อน ๆ แต่พวกเขาประกาศพระนามอย่างกล้าหาญ
น่าจะเป็นประมาณปี ค.ศ. 43-44 ที่เฮโรดผู้นี้เริ่มก่อกวน และตามข่มเหงคนของพระเจ้า เขาสนใจคนที่เป็นผู้นำ และมักจะทำงานร่วมกับพวกสภาแซนฮีดรินสะดูสี ส่วนพวกฟาริสีก็ไม่ได้ตามติดที่จะทำร้ายคริสเตียนนัก ดูกิจการ 5:33-39
กิจการ 12:4-5
เฮโรดตั้งใจว่า จบเทศกาลไร้เชื้อเมื่อไรค่อยจัดการปลิดชีวิตเปโตร โดยเป็นเทศกาลปัสกาด้วย (ซึ่งเป็นงานที่ระลึกถึงการที่พระเจ้าทรงปลดปล่อยพวกเขาจากการเป็นทาสอียิปต์) เฮโรดตั้งใจจะนำตัวเปโตรสอบสวนแล้วค่อยประหาร แต่ต้องรอให้เทศกาลจบเสียก่อนไม่อย่างนั้นผู้คนอาจลุกฮือขึ้นมาได้ เราคงจำได้ว่า พวกปุโรหิตจับพระเยซูมา แต่ก็จะไม่ทำอะไรในช่วงเทศกาล เพราะกลัวประชาชนลุกฮือ (มาระโก 14:2)
แต่พี่น้องไม่ได้อยู่เฉย พวกเขาไม่ได้ไปเดินขบวนประท้วง แต่พวกเขาร่วมใจกันอธิษฐานเพื่อเปโตรอย่างจริงจัง เขาไม่ต้องการให้เสียไปอีกคนหลังจากที่เสียยากอบไปแล้ว
กิจการ 12:6-7
พี่น้องอธิษฐานอย่างร้อนรนนอกคุก แต่เปโตรก็สามารถหลับได้อย่างเป็นสุขข้าง ๆ ทหารที่มาคุม ดูเขาไม่เดือดเนื้อร้อนใจสักเท่าไร น่าจะเป็นเพราะครั้งที่พระเยซูตรัสกับเขาที่ริมทะเลสาปกาลิลีว่า เมื่อเจ้าแก่ก็จะ
มีคนพาเจ้าไป.. ซึ่งทำให้เขารู้ว่า ครั้งนี้ไม่น่าจะเป็นวันตายของเขา (ยอห์น 21:18)
พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์มาให้นำเขาออกไป สิ่งแรกที่มหัศจรรย์คือ ทูตมา อย่างที่สองคือโซ่หลุดออก
กิจการ 12:8-10
ทูตสวรรค์สั่งให้เขาสวมเสื้อให้ครบครันทั้งรองเท้าและตามออกไป ตัวเปโตรเองก็ออกไปกับทูต แต่เวลานั้นเขาคิดว่าเขาฝันไป เป็นฝันที่มีความสุขเสียด้วย … ก็เดินผ่านทหารยามโดยไม่ได้มีใครมาจับไปล่ามโซ่อีก ดีจริง ๆ ฝันนี้
เมื่อเขาออกมาที่ถนน ทูตก็หายไป คราวนี้ เปโตรต้องจัดการตัวเองต่อแล้ว ไม่มีทูตมาช่วยพาไปอีก
กิจการ 12:11-12
พออยู่คนเดียว เขารู้สึกตัวและรู้ว่า นี่เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝัน จึงตัดสินใจไปหาพี่น้องที่บ้านของยอห์น มาระโก ความพยายามของเฮโรดที่จะทำลายคริสตจักร ต้องชะงักลงตรงนี้ เปโตรเข้าใจแล้วว่า พระเจ้าทรงอยู่กับคริสตจักร ทรงทำการร่วมกับพวกเขา
บ้านของมารีย์ซึ่งเป็นมารดาม่ายของยอห์นมาระโกน่าจะใหญ่พอสมควร เพราะต้อนรับพี่น้องให้มาอธิษฐานด้วยกันได้ และคงเป็นที่ ๆ เขานัดพบกันเสมอ เพราะเปโตรมั่นใจว่า จะพบพี่น้องที่นั่น ยอห์น มาระโกผู้นี้เป็นคนเดียวที่มีสองชื่อต่อกัน ยอห์นเป็นชื่อภาษายิว มาระโกเป็นชื่อที่ใช้ในโรม ต่อมาเขาได้รับใช้ร่วมกับบารนาบัส และเป็นผู้ที่เขียนพระกิตติคุณมาระโก
กิจการ 12:13-15
เมื่อเปโตรมาเคาะประตู มีสาวใช้มาตอบรับแต่แทนที่จะเปิดให้ กลับรีบวิ่งไปบอกพี่น้องว่าเปโตรออกมาจากคุก ทั้ง ๆที่ตั้งหน้าตั้งตาอธิษฐาน แต่เมื่อพระเจ้าตอบอย่างรวดเร็ว เหลือเชื่อขนาดนี้ ทำให้พวกเขาไม่แน่ใจหาว่า โรดา สาวใช้เสียสติไปเสียอีก ช่างย้อนแย้งเสียจริง
กิจการ 12:16-17
เปโตรไม่หยุดเคาะจนมีคนมาเปิดประตู และพบว่า เป็นเปโตรตัวจริง ..มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อสำหรับพวกเขา แต่เปโตรเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พวกเขาฟัง พี่น้องจึงเข้าใจว่า พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานอย่างไร
เปโตรกำชับพวกเขาให้แจ้งเรื่องนี้กับยากอบ ซึ่งเป็นน้องชายของพระเยซู เขาไม่ได้เชื่อพระองค์ตอนที่ยังอยู่บ้านเดียวกัน แต่ต่อมา ได้เชื่อและกลายเป็นผู้นำคนสำคัญสำหรับคริสตจักรยุคแรก เขาจะต้องเป็นคนที่ทุกคนรู้จักดีในเยรูซาเล็ม
และไม่อยู่อธิษฐานกับพวกเขา แต่เดินทางไปที่อื่น เขาคงมีแผนอะไรในใจ และเพื่อไม่ให้พี่น้องต้องลำบากหากเฮโรดตามมาเจอ
กิจการ 12:18-19
เสรีภาพของเปโตรเป็นความชื่นชมยินดีของพี่น้องคริสเตียน แต่กลับกลายเป็นว่าทหารยามทั้งหมดต้องถูกประหาร เป็นโทษฐานปล่อยนักโทษออกมา จากนั้น เฮโรดก็เลยลาไปพักผ่อนเพราะแผนล่มไปเสียแล้ว อยู่ก็เหนื่อยเปล่า

จุดจบเฮโรด
กิจการ 12:20
และในช่วงนั้นเองเจ้าเมืองไทระและเจ้าเมืองไซดอนเข้ามาขอเป็นไมตรีด้วย ซึ่งเฮโรดตอบตกลง เป็นโอกาสที่เขาจะได้มีอำนาจมากขึ้น และมีผลประโยชน์อื่น ๆ มากขึ้นด้วย

กิจการ 12:21-23
ในวันที่เฮโรดจะทำสัมพันธไมตรีนั้นเอง เมื่อเขาพูดออกมา ประชาชนก็ร้องสรรเสริญเขาว่า เสียงของเฮโรดเป็นเสียงของพระ ซึ่งทำให้เขายิ่งภูมิใจตัวเอง .. ชายผู้ที่พยายามทำลายอาณาจักรของพระเจ้า ตอนนี้กำลังได้รับการเชิดชู แต่ในทันใดนั้นเอง มีทูตของพระเจ้าลงมาที่ผู้คนกำลังประชุมกันอยู่ เขาล้มลง และมีหนอนโผล่ออกมาจากตัวเขา เขาตายในอีกห้าวันต่อมา
ลูกามองว่าเหตุการณ์นี้ เป็นการพิพากษาของพระเจ้าต่อเฮโรดที่ยอมให้ประชาชนยกชูว่าเขาเป็นพระเจ้า
ไปรับเกียรติที่เป็นของพระเจ้าเพียงผู้เดียว อีกอย่างในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นไปได้ไหมที่ พระเจ้าทรงทำให้เห็นว่า พระองค์ทรงหวงคนของพระองค์ และพระองค์จะทรงจัดการกับศัตรูที่พยายามทำลายคนของพระองค์ ทรงทำให้พี่น้องคริสเตียนได้รู้ว่า พระเจ้าทรงเอาจริงกับการขยายแผ่นดินของพระองค์ ทรงทำให้ยิวที่เกลียดชังคริสเตียนต้องระวังตัวมากขึ้น

กิจการ 12:24-25

พระวจนะของพระเจ้ายังคงเผยแผ่อีกต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ถึงแม้เฮโรดและยิวพยายามทำลายงานของพระเจ้า แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้เท่าพระองค์ ความรอดจากพระเยซูคริสต์เป็นสิ่งที่ผู้คนจำนวนมากยอมรับและยังคงสืบต่อมาจนทุกวันนี้ คนทั้งโลกได้รู้จักพระเจ้า
และเราได้เห็นว่า ยอห์นมาระโก เข้ามาร่วมในการรับใช้พระเจ้าในอันทิโอกนี้ด้วย


พระคำเชื่อมโยง

2* มัทธิว 4:21;20:23
3* อพยพ 12:15; 23:15
4* ยอห์น 21:18
7* กิจการ 5:19
9* สดุดี 126:1; กิจการ 10:3, 17; 11:5

10* กิจการ 5:19; 16:26
11* สดุดี 34:7; โยบ 5:19
12* กิจการ 4:32; 13:5, 13; 15:37; 12:5
15* มัทธิว 18:10
17* กิจการ 13:16; 19:33;21:40

20* มัทธิว 11:21; เอเสเคียล 27:17
23* 2 ซามูเอล 24:16,17; สดุดี 115:1
24* กิจการ 6:7; 19:20
25* กิจการ 11:30; 13:5,13; 12:12; 15:37