อาโมส 9 อนาคต..กลับสู่สภาพเดิม

จินตภาพที่ 5 : องค์พระยาห์เวห์ประทับข้าง ๆ แท่นบูชา 
1 ข้าพเจ้าเห็นองค์พระยาห์เวห์ประทับยืนข้าง ๆ แท่นบูชา และพระองค์ตรัสว่า “ จงฟาดลงไปที่ ยอดเสา เพื่อว่าธรณีประตูจะสั่นสะเทือน  และหล่นลงไปยังหัวของทุกคน  คนที่เหลืออยู่เราจะประหารด้วยดาบ  ไม่มีใครที่จะหนีรอดไปได้
ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะรอดไป 
2 หากพวกเขาขุดลึกลงไปถึงแดนคนตาย มือของเราจะดึงพวกเขาขึ้นมา หากพวกเขาปีนขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์
เราก็จะฉุดพวกเขาลงมา 
3 หากพวกเขาหลบซ่อนตัวบนยอดเขาคารเมล
จากที่นั่นเราจะตามล่าและจับกุมพวกเขาลงมา 
หากพวกเขาพยายามลงไปยังพื้นทะเล
เพื่อแอบซ่อนจากสายตาของเรา
เราก็จะส่งงูพิษไปกัดพวกเขา
4  และหากพวกเขาถูกศัตรูกวาดไปเป็นเชลย
เราจะสั่งคมดาบให้ประหารพวกเขาเสีย 
เราจะจับตาดูพวกเขาเพื่อให้พวกเขาพบอันตราย
ไม่ใช่พบสิ่งที่ดี
5 พระยาห์เวห์ พระเจ้าองค์จอมทัพ
พระองค์ทรงแตะแผ่นดินโลก มันก็ละลาย
คนที่อาศัยในโลกก็คร่ำครวญ
เพราะทั่วแผ่นดินเอ่อล้นขึ้นมาเหมือนอย่างแม่น้ำไนล์
และลดลงเหมือนอย่างแม่น้ำไนล์ในอียิปต์ 
6 พระองค์ทรงสร้างที่ประทับเบื้องบนสูงส่งในฟ้าสวรรค์
และทรงวางรากฐานไว้บนแผ่นดินโลก
พระองค์ทรงเรียกน้ำทะเลขึ้นมา
และเทโปรยลงไปบนผืนโลก
 พระนามของพระองค์คือ พระยาห์เวห์
 

จินตภาพที่ 5 : องค์พระยาห์เวห์ประทับข้าง ๆ แท่นบูชา 

9:1 คราวนี้ อาโมสเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าในจินตภาพอีก ไม่ได้เห็นพระองค์จริง (ไม่มีใครเห็นพระเจ้าองค์จริงได้!)ทำไมพระองค์ประทับข้างแท่นบูชา เป็นแท่นบูชาในสะมาเรียใช่ไหม?​
ขอย้อนกลับไปดูจินตภาพทั้งหมด อาโมสเห็นอะไรบ้าง?
1 ฝูงตั๊กแตนที่เข้ามากินไร่นา อาโมสขอพระเจ้ายับยั้ง
2 ไฟที่เผาไหม้ อาโมสขอพระเจ้ายับยั้ง
3 สายดิ่งที่วัดกำแพง พระเจ้าจะทรงทำลายแท่นบูชา
4 ตะกร้าใส่ผลไม้สุก พระเจ้าจะให้อิสราเอลสิ้นสุด 
5 พระเจ้าประทับข้างแท่นบูชา พระเจ้าจะทรงประหารพวกเขาด้วยดาบ ไม่มีใครรอดไปได้ 
ครั้งนี้ พระเจ้าจะทรงสั่งให้ฟาดไปที่ยอดเสาเพื่อว่า ทั้งอาคารจะได้พังลงมาทั้งหมด พวกเขาที่อยู่ในวิหาร ร่าเริงกับการไหว้รูปเคารพจะต้องเสียชีวิตหมด ไม่ใช่เพราะวิหารล้มลงมาเท่านั้น คนที่เหลือจะถูกศัตรูฟาดฟันจนไม่มีใครรอดเลย  ถ้าจะมองว่าสิ่งที่พระเจ้าตรัสไม่ใช่แค่วิหารเหล่านั้น แต่เป็นทั้งระบบความเชื่อที่พวกเขาทำให้เบี่ยงเบนไปจากความเชื่อในพระเจ้าที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่สมัยโมเสส

ประกาศการลงโทษ
7 พระยาห์เวห์ทรงประกาศ “อิสราเอลเอ๋ย
เจ้าเองก็เป็นเหมือนชาวคูชสำหรับเรามิใช่หรือ?  
เราไม่ได้นำอิสราเอลออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
นำชาวฟีลิสเตียออกจากคัฟโทร์
และนำชาวอารัมออกจากเมืองคีร์หรอกหรือ?
8 ดูเถิด พระเนตรของพระยาห์เวห์องค์พระเจ้า
จับอยู่ที่อาณาจักรที่บาปชั่ว
เราจะทำลายมันให้หายไปจากพื้นโลก 
อย่างไรก็ตามเราจะไม่ทำลายวงศ์วานยาโคบให้สิ้นซาก”
พระยาห์เวห์ทรงประกาศ
9 “เพราะเรากำลังจะออกคำสั่งเราจะเขย่าวงศ์วานอิสราเอลท่ามกลางชาติต่าง ๆ เหมือนกับเขย่าด้วยกระด้ง
แต่จะไม่มีเมล็ดเดียวที่จะลอดหล่นลงพื้นดินไป
10 คนบาปทั้งหลายท่ามกลางประชากรของเราที่กล่าวว่า
“จะไม่มีวิบัติเกิดขึ้น หรือมาปะทะเรา”
คนเหล่านี้จะตายด้วยดาบ  

ประกาศการลงโทษ
9:7 ใน 3:2 พระเจ้าทรงบอกเขาว่า จากประชากรในโลกนี้ พระเจ้าทรงเลือกเขาเท่านั้น   แต่ตรงนี้ พระเจ้าทรงประกาศว่า แม้คนเอธิโอเปีย(คูช) อยู่ห่างไกล เป็นคนที่ไม่ได้ทรงเลือก คนฟีลิสเตีย คนอารัม (ซีเรีย) พระองค์ทรงปกครองเหนือพวกเขาเช่นกัน ดังนั้น พวกเขาอย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่พระเจ้าทรงเลือกแล้วจะพ้นโทษ  

9:8 แทนที่เป็นอาณาจักรแห่งพระเกียรติและศักดิ์ศรี พระเจ้ากลับทรงจับจ้องที่อาณาจักรที่บาปชั่ว .. พระเจ้าจะทรงทำลายอาณาจักรอิสราเอลทางเหนือให้จบสิ้นไป  แต่ขอบคุณพระเจ้า พระองค์ยังทรงรักษาวงศ์วานยาโคบเอาไว้

9:9 การเขย่าร่อนด้วยกระด้งนั้นคือ สิ่งที่เป็นแกลบจะปลิวออกไป(คนที่ชั่วร้าย)  สิ่งที่เป็นเมล็ด (คนที่พระเจ้าทรงเลือกไว้)จะคงอยู่เป็นเมล็ดพันธุ์ต่อไป นั่นคือ ชนชาติอิสราเอลจะคงเหลืออยู่ คือคนที่ยังติดตามพระเจ้า แม้ว่าอาณาจักรถูกทำลายไปแล้ว (เลวีนิติ 26:33  เราจะให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปอยู่ตามชาติต่าง ๆ, โฮเชยา 9:17 พระเจ้าทรงเหวี่ยงเขาเพราะเขาไม่เชื่อฟัง จะเป็นคนพเนจรท่ามกลางชาติต่าง ๆ )
(Ellicott’s Commentary for English Readers และJamieson-Fausset-Brown Bible Commentary)

9:10 คนที่คิดว่าตัวเองจะรอด แต่ขณะเดียวกัน เหล่าผู้นำที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า พวกที่ไหว้รูปเคารพ ดูหมิ่นบทบัญญัติของพระเจ้า  คนที่ดูหมิ่นและเอาเปรียบผู้อื่น  .. พวกเขาจะถูกศัตรูฆ่า เหมือนในข้อสี่ได้บอกไว้

ประกาศที่ไม่คาดฝัน !
11 ในวันนั้น เราจะตั้งเต็นท์ของดาวิดที่ล้มลงขึ้นมาใหม่  เราจะซ่อมแซมส่วนที่แตกหักไป จะรื้อฟื้นสิ่งที่พังทลาย และสร้างขึ้นมาใหม่เหมือนวันวารในอดีต
12 เพื่อว่าพวกเขาจะครอบครองสิ่งที่เหลืออยู่ของเอโดม และชาติต่าง ๆ ทั้งปวงที่ถูกเรียกโดยนามของเรา นี่เป็นคำประกาศของพระยาหเวห์  พระองค์จะทรงกระทำสิ่งเหล่านี้
13 จงฟัง นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์  วันหนึ่งจะมาถึงเมื่อคนที่ไถจะตามทันคนที่ปลูก และคนที่ย้ำองุ่นจะมีผลให้ย่ำมากมายจนทันเวลาหว่านเมล็ด
ภูเขาทั้งหลายจะมีเหล้าองุ่นใหม่หยดลงมา และเนินเขาทั้งหลายจะเต็มด้วยเหล้าองุ่นใหม่เหล่านั้น
14 เราจะคืนความมั่งคั่ง รุ่งเรืองให้แก่อิสราเอลคนของเรา พวกเขาจะสร้างเมืองที่พังทลายนั้นขึ้นมาใหม่ จะปลูกสวนองุ่น และดื่มเหล้าองุ่น เขาจะทำสวน และกินผลผลิตที่ได้มา 

15 เราจะปลูกอิสราเอลบนผืนดินของพวกเขา และเขาจะไม่ถูกถอนรากจากแผ่นดินที่เรามอบให้เขาอีก” องค์พระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้าตรัสดังนั้น 

 ประกาศที่ไม่คาดฝัน! 
9:11  ตรงนี้ น่าตื่นเต้น พระเจ้าบอกว่า เต็นท์ของดาวิดนั้นล้มลงไป พระเจ้าจะทรงซ่อม รื้อขึ้นมา สร้างขึ้นใหม่ ให้เหมือนเก่าที่เคยตั้งอยู่ นี่หมายความว่าอย่างไร  เต็นท์ของดาวิดคือ วงศ์วานของดาวิดนั่นเอง คนอิสราเอลและยูดาห์รู้ดีว่า ในสมัยของดาวิดนั้น พวกเขารุ่งเรืองขนาดไหน พวกเขายังรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน  ปลอดภัย มั่นคง เจริญก้าวหน้า ซึ่งตอนที่อาโมสเผยพระดำรัสนั้น เต็นท์ดาวิดถูกแบ่งเป็นทางเหนือและใต้   ถึงแม้ว่าทั้งสองจะถูกกวาดไปเป็นเชลยคนละทิศคนละทาง พระเจ้าจะทรงนำเขากลับมา และหนึ่งในลูกหลานของดาวิดจะเป็นผู้ปกครอง  (หลายท่านให้ความเห็นว่า นี่คือองค์พระเยซูคริสต์ ที่จะปกครองในพันปี)
 
9:12 อาโมสยังกล่าวถึงชนชาติต่าง ๆที่ถูกเรียกในนามของเรา นั่นคือ ผู้เชื่อที่เป็นชาวต่างชาติอย่างพวกเราใช่ไหม  งานนี้เป็นงานของพระองค์เท่านั้น
9:13 พระเจ้าจะทรงอวยพระพรคนของพระองค์ ให้คนไถตามทันคนปลูก นั่นคือ เก็บเกี่ยวได้เร็ว ได้มาก เป็นภาพของเกียรติสิริที่จะเกิดขึ้นกับอาณาจักรดาวิดที่รื้อฟื้นคืนมา (ผู้คนจะกลับมาแสวงหาพระเจ้า โฮเชยา 3:5)

9:14 พระเจ้าทรงให้คนของพระองค์บางส่วนกลับมา ใช่แล้ว พวกเขาจะกลับมาในแผ่นดินที่พวกเขาจากไป พวกเขาจะสร้างบ้านเรือนขึ้นมาใหม่ และพวกเขาจะไม่มีการถูกขับไล่ไปจากแผ่นดินนั้นอีก นี่เป็นการบ่งบอกว่า อิสราเอลจะได้กลับมาในแผ่นดินของเขาอีก (อิสยาห์ 11:12 พระเจ้าจะทรงรวบรวมยูดาห์ที่กระจายไปทั่วสี่มุมโลก เอเสเคียล 28:25-26 ก็กล่าวในทำนองเดียวกัน)

หมายเหตุปัจจุบัน::
พระเจ้าจะทรงนำอิสราเอลมายังแผ่นดินเดิมของเรา แม้ในวันนี้ ที่กำลังมีสงครามอิสราเอล กาซา  อิสราเอล อิหร่าน … (มิถุนายน 2025) ทั้งหมดนี้  ศัตรูมีแผนทำลายอิสราเอลให้หายไปจากแผนที่โลก เป็นความตั้งใจที่ศัตรูของพระเจ้าได้ใส่ไว้ในใจของผู้ทำลายเหล่านั้น แต่พระเจ้าจะทรงพิสูจน์ให้เห็นว่า แผนการของพระองค์เท่านั้นจะสำเร็จ
ดังนั้น หากเรากลับไปอ่านอาโมสใหม่ด้วยสายตาคนปัจจุบัน
เราจะเห็นการต่อสู้ฝ่ายวิญญาณที่ศัตรูของพระเจ้าพยายามทำลายคนของพระองค์ ด้วยการชวนให้พวกเขานมัสการรูปเคารพต่าง ๆ และทำให้พวกเขาต้องถูกพระเจ้าทำลายเอง  แต่แล้ว พระเจ้าทรงพระเมตตาที่จะทำให้อิสราเอลยังคงอยู่จนถึงวันนี้ 

พระคำเชื่อมโยง

อาโมส 9
1* ฮาบากุก 3:13; อาโมส 2:14
2* สดุดี 139:8; เยเรมีย์ 51:53
3* เยเรมีย์ 23:24
4* เลวีนิติ 26:33;
เยเรมีย์ 21:10; 39:16; 44:11

5* มีคาห์ 1:4; อาโมส 8:8
6* สดุดี 104:3, 13; อาโมส 5:8; 4:13; 5:27
7* เยเรมีย์ 47:4; เฉลยธรรมบัญญัติ 2:23 ;อาโมส 1:5
8* อาโมส 9:4; เยเรมีย์ 5:10; 30:11
9* อิสยาห์ 65:8-16

10* อาโมส 6:3
11* กิจการ 15:16-18
12* โอบาดีย์ 19; กันดารวิถี 24:18
13* เลวีนิติ 26:5 ;โยเอล 3:18
14* เยเรมีย์ 30:3, 18; อิสยาห์ 61:4
15* เอเสเคียล 34:28; 37:25

อาโมส 8 ผลไม้ในตะกร้า

จินตภาพที่สี่ : ตะกร้าผลไม้สุก
1 พระยาห์เวห์องค์พระเจ้าทรงสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นตะกร้าผลไม้ฤดูร้อน  
  2 ทรงถามข้าพเจ้าว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไร?”
“เห็นตะกร้าผลไม้ฤดูร้อนพระเจ้าข้า” 
 พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า
“วันเวลาสิ้นสุดของประชากรอิสราเอลของเรามาถึงแล้ว
เราจะไม่ละเว้นพวกเขาไว้อีกต่อไป
3  ในวันนั้น บทเพลงพระวิหารจะกลายเป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญ” พระยาห์เวห์องค์พระเจ้าทรงประกาศ
“จะมีซากศพเกลื่อนไปทั่วทุกแห่ง จะมีแต่ความเงียบ”
4  จงฟังเถิด เจ้าคนที่เหยียบย่ำคนขัดสน
และกำจัดคนที่ยากจนในแผ่นดิน 
5 พวกเจ้าถามว่า “เมื่อไรจะเวลาข้างขึ้นจะผ่านพ้นไป?
เราจะได้ขายข้าว  เมื่อไรจะจบวันสะบาโต เราจะได้ขายข้าวสาลี? เราจะโกงตาชั่งและเพิ่มราคาสินค้า และโกงด้วยตาชั่งไม่เที่ยง” 
6 “เราซื้อคนยากคนด้วยเงิน และคนยากไร้ด้วยรองเท้าคู่เดียว เราขายข้าวสาลีปนเปลือก!”
7 องค์พระยาห์เวห์ทรงปฏิญาณโดยอ้างองค์ผู้ทรงเป็นความภูมิใจของยาโคบว่า  เราจะไม่ลืมการกระทำของพวกเขาเลย
8 ด้วยเหตุนี้ แผ่นดินจะไม่สั่นสะเทือนและผู้คนที่อาศัยในนั้นจะไม่คร่ำครวญหรือ?  ทั้งแผ่นดินจะเอ่อล้นขึ้นมาเหมือนแม่น้ำไนล์  จะเอ่อล้นขึ้นมาแล้วก็ลดยุบลงไปเหมือนแม่น้ำไนล์ในอียิปต์ 

จินตภาพที่สี่ : ตะกร้าผลไม้สุก
8:1-2 อาโมสเห็นจินตภาพอีกภาพ คือตะกร้าใส่ผลไม้สุกที่น่าจะมีความหมายถึงความยินดี แต่… ความหมายกลับพลิก พระเจ้าตรัสกับอาโมสว่า อิสราเอลสุกแล้ว กำลังจะไปสู่การเน่าเสีย … พระเจ้าทรงบอกว่า อิสราเอลสิ้นสุดแล้ว  พระองค์จะทรงลงโทษเหล่าผู้นำทั้งหลาย  คนที่กดขี่คนยากจน  คนที่พาให้คนหลงผิด  ประชาชนหลงคิดว่าการไหว้รูปเคารพเป็นการนมัสการพระเจ้าแท้จริง 
8:3 ภาพต่อไปที่เห็นคือคนร้องไห้ในวิหารแทนการร้องเพลง  และศพมากมายในถนน 
ยังจะมีคนที่ต้องเก็บศพเหล่านี้ ..​พวกเขาคิดอะไรอยู่? เราจะจบลงแบบศพเหล่านี้หรือเปล่า ผลไม้สุกจนเน่าจะถูกโยนทิ้งอย่างศพเหล่านี้  พระเจ้าทรงสั่งให้เงียบ พวกเขาต้องคิดให้ดีว่า เขาควรจะทำอย่างไรกับชีวิต
8:4-5  ในขณะที่คนยากไร้ถูกเหยียบย่ำ และจบชีวิตลงง่าย ๆ เพราะเมื่อศัตรูมาย่อมประหารชาวบ้านได้ง่ายกว่าเหล่าผู้นำที่ยังมีป้อมปราการ
แต่แทนที่พวกเขาจะกลับใจ กลับคิดว่า ในความยากเข็ญ พวกเขายังจะขายสินค้าจำเป็นได้ราคาดีขึ้น และแถมยังโกงตาชั่งได้อีกด้วย พวกเขายังใช้ตาชั่งซื้อ กับตาชั่งขายคนละตัว อยากให้เทศกาลข้างขึ้น ให้วันสะบาโตพ้น ๆ ไป  ทั้งที่พระเจ้าทรงสั่งให้คนของพระองค์มีน้ำใจยื่นมือช่วยคนยากจน (เฉลยธรรมบัญญัติ  15:7-11)
8:6 เมื่อมีเงินมากขึ้นจากการฉ้อโกง พวกเขาจะได้ร่ำรวยจนกระทั่งสามารถซื้อคนมาเป็นทาส โดยใช้แค่รองเท้าซื้อ  และคนจะยากจนมากขึ้นจะกระทั่งยอมซื้อเศษข้าวสาลีมากิน
สภาพของบ้านเมืองคือ ยิ่งโกงยิ่งรวย ยิ่งข่มเหงคนมากขึ้น
8:7-8 พระเจ้าทรงปฎิญาณโดยพระองค์เอง ต่อต้านความหยิ่งยะโสของยาโคบ  ย้อนกลับไปดู 6:8
พระองค์จะไม่ทรงลืมการกระทำทุกอย่างของอิสราเอล
ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ แผ่นดินไหว ผู้คนร่ำไห้  ดูจากภาพแล้ว เหมือนกับแผ่นดินไหวใหญ่มาก เป็นคำพูดเดียวกับใน
 อาโมส 9:5  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมีใครรอดเลย!

9 นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์องค์พระเจ้า “และในวันนั้น เราจะทำให้ดวงอาทิตย์ตกเวลาเที่ยงวัน จะทำให้แผ่นดินมืดมิดในเวลากลางวัน
10 เราจะเปลี่ยนงานเทศกาลของเจ้าเป็นการไว้ทุกข์  และเพลงที่เจ้าร้องกลายเป็นการคร่ำครวญ เราจะทำให้ทุกคนต้องสวมเสื้อกระสอบ และโกน ผมไม่เว้นใคร  เราจะทำให้ความโศกเศร้านั้น เป็นเหมือนการร้องคร่ำครวญถึงลูกชายหัวปี ให้วันนั้นเป็นวันอันขมขื่นยิ่งนัก


11  พระยาห์เวห์ องค์พระเจ้าทรงประกาศว่า “วันเหล่านั้นกำลังจะมาถึง
คือวันที่เราส่งความอดอยากมาทั่วแผ่นดิน  ไม่ใช่ความอดอยากอาหารหรือกระหายน้ำดื่ม  แต่เป็นความหิวโหยที่จะได้ฟังพระดำรัสขององค์พระยาห์เวห์
12 ประชากรจะเร่ร่อน ซมซานจากทะเลหนึ่ง ไปยังทะเลอีกแห่ง  จะพเนจรจากทางเหนือไปทางตะวันออก เพื่อแสวงหาพระดำรัสของพระเจ้า แต่พวกเขาจะไม่พบ
13 ในวันนั้น หญิงสาวที่สวยงาม และชายหนุ่มก็เช่นกัน จะเป็นลมล้มไปเพราะความกระหาย
14 เหล่าคนที่สาบานโดยอ้างรูปเคารพแห่งสะมาเรียและกล่าวว่า “โอ เมืองดาน ตราบเท่าที่เทพเจ้าของเจ้ายังมีชีวิตแน่ฉันใด” หรือ “เทพเจ้าของเบเออร์เชบามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด” คนเหล่านี้จะล้มลง และไม่มีวันที่จะลุกขึ้นมาอีกเลย

8:9-10 โลกจะมืดลงทั้ง ๆ ที่ยังมีความสว่างของวันอยู่ สวมเสื้อกระสอบคือเสื้อไว้ทุกข์ ส่วนการโกนผมก็เป็นสัญลักษณ์ของการมีความทุกข์ใจ ซึ่งโดยปกติแล้วพระเจ้าทรงห้ามเรื่องนี้เอาไว้  แต่ทำเมื่อไรก็เพราะลูกหลานต้องตกไปเป็นเชลย  (เลวีนิติ 21:5; มีคาห์ 1:16)  พวกเขาจะเจอความทุกข์แบบที่ไม่อาจแก้ไขกลับคืนมาได้ ที่กล่าวถึงลูกชายหัวปี บ่งบอกถึงว่า พวกเขาจะไม่มีใครดูแลยามชรา วันสุดท้ายของพวกเขานั้นขมจริง

พระเจ้าทรงเงียบไป
8:11 นอกจากความอดอยากอาหาร น้ำ ยังมีความอดอยากที่พวกเขาคาดไม่ถึง คือ พวกเขาต้องการฟังพระคำของพระเจ้า พระดำรัสที่เคยพวกเขาเคยปฏิเสธ อย่าลืมว่า ในสะมาเรียนั้น ไม่มีกษัตริย์ดี ๆ สักองค์เดียว ครองราชย์มา 19 รัชกาล มีแต่กษัตริย์ร้ายทั้งสิ้น และกษัตริย์เหล่านี้ก็กั้นไม่ให้มีผู้รับใช้แท้ ๆ ของพระเจ้าอยู่เลย แม้แต่เอลียาห์ก็ยังถูกตามล่า
พวกเขาอยากได้คำหนุนใจ คำแห่งพระพร คำเตือนสติ ขอฟังพระดำรัสของพระเจ้า แต่พระเจ้ากลับทรงเงียบไป!

8:12-13 ไม่ว่าผู้คนจะพยายามหาพระเจ้าที่ใด พวกเขาก็จะไม่พบ ไม่มีผู้เผยพระดำรัสแท้ของพระเจ้าที่จะกล่าวให้เขาได้ยิน หญิงสาว ชายหนุ่มต่างโหยหาพระคำ แต่ก็ไม่พบ พวกเขาไม่ได้ยิน ไม่เคยได้ยินคำฝ่ายวิญญาณที่จะทำให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ พวกเขาจะล้มลงไป อาจจะถึงตาย ไม่อาจมีลูกหลานสืบประเทศต่อไป
 นี่เป็นสิ่งที่เตือนเราว่า หากเราสนใจอย่างอื่นจนลืมพระเจ้าไป วันหนึ่งเหตุการณ์อย่างนี้อาจจะเกิดขึ้นกับเราก็ได้

8:14  จากเมืองดาน ไปยังเบเออร์เชบา พวกเขายังคงสาบานในนามของเทพเจ้าต่าง ๆ ที่เขานับถือ
คนที่ยังหลงใหลกับรูปปั้นเหล่านี้ จะไม่มีวันที่จะลุกขึ้นมาได้อีก นี่เป็นพระดำรัสของพระเจ้าที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา…
แต่ยังพอจะไม่ใครหลงเหลือ รอดจากหายนะครั้งนี้ไปได้บ้าง?

พระคำเชื่อมโยง

อาโมส 8
2* เอเสเคียล 7:2; อาโมส 7:8
3* อาโมส 5:23; 6:9-10
5* เนหะมีย์ 13:5; มีคาห์ 6:10-11; เลวีนิติ 19:35-36


6* อาโมส 2:6
7* อาโมส 6:8; โฮเชยา 7:2; 8:13
8* โฮเชยา 4:3; อาโมส 9:5
9* โยบ 5:14
10* เอเสเคียล 7:18; 27:31; เศคาริยาห์  12:10

11* เอเสเคียล 7:26
12* โฮเชยา 5:6
14* โฮเชยา 4:15;
เฉลยธรรมบัญญัติ   9:21; อาโมส 5:5

อาโมส 7 พระเจ้าทรงเตือนด้วยจินตภาพ

จินตภาพที่หนึ่ง : ฝูงตั๊กแตน
1 พระยาห์เวห์องค์พระเจ้าทรงสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นดังนี้
พระองค์ทรงเตรียมฝูงตั๊กแตนจำนวนมากมายขึ้นมา ตอนที่ต้นอ่อนของรุ่นที่สองกำลังงอก
หลังจากที่ได้เกี่ยวเก็บรุ่นแรกของกษัตริย์ไปแล้ว
2 เมื่อตั๊กแตนทั้งฝูงเขมือบกินผักพืชพันธุ์เหล่านั้นจนไม่เหลือ ข้าพเจ้าทูลว่า “โอ พระยาห์เวห์ องค์พระเจ้า  ขอทรงอภัยด้วย แล้วยาโคบจะอยู่รอดได้อย่างไร ในเมื่อเขาเล็กน้อยเช่นนี้?”
3 พระยาห์เวห์จึงทรงยั้งพระทัยในเรื่องนี้ “เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น” พระองค์ตรัส  

จินตภาพที่หนึ่ง : ฝูงตั๊กแตน
7:1-3และแล้ว พระเจ้าก็ทรงทำให้อาโมสได้มองเห็นภาพเพื่อบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น  มกราคม กุมภาพันธ์เป็นช่วงที่จะหว่านปลูก และเก็บเกี่ยวผลประมาณ ฝูงตั๊กแตนที่มานั้น มาหลังจากที่เก็บเกี่ยวส่วนภาษีซึ่งเป็นของกษัตริย์ (1 พงศ์กษัตริย์ 18:5)ไปแล้ว ดังนั้นการเก็บเกี่ยวทีหลังเป็นของประชาชน อาโมสเห็นดังนั้นจึงร้องทูลพระเจ้า ทักท้วงพระองค์ ทูลว่าพวกเขาเป็นคนเล็กน้อย ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ … แล้วเขาก็ได้รับคำตอบ พระเจ้าทรงเปลี่ยนพระทัยไม่ทำลายไร่นา  เป็นคำอธิษฐานที่ร้อนรนจากคนของพระเจ้าที่จริงใจ และจะไม่ยอมแพ้ (ยากอบ 5:16-18) แต่ยังมีบางสิ่งที่เมื่อพระองค์ตัดสินพระทัยแล้วก็จะไม่มีวันเปลี่ยนได้เช่นกัน (เยเรมีย์ 7:16)
คำตอบที่อาโมสได้นั้น ทำให้เขาโล่งใจขึ้น  ..เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิด!!
แต่เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อคนอิสราเอลทำผิดต่อพระเจ้าไม่ใช่หรือ ?? (เฉลยธรรมบัญญัติ 28:38, 42; โยเอล 1:1-7) 

จินตภาพที่สอง : ไฟ 
4 พระยาห์เวห์องค์พระเจ้าทรงสำแดงให้เห็นดังนี้
พระยาห์เวห์ องค์พระเจ้าจะทรงลงโทษด้วยไฟ
ไฟนั้นจะเผาห้วงน้ำลึก และเผาผลาญแผ่นดิน
 5 แล้วข้าพเจ้ากล่าวว่า “โอ พระยาห์เวห์ องค์พระเจ้า โปรดหยุดเถิดพระเจ้าข้า!
ยาโคบจะอยู่รอดได้อย่างไรในเมื่อเขาเล็กน้อยเช่นนี้?”
6 พระยาห์เวห์จึงทรงยั้งพระทัย ในเรื่องนี้ “จะไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเหมือนกัน”  

จินตภาพที่สอง : ไฟ
7:4-6  จินตภาพต่อมาที่เห็นคือ พระเจ้าจะทรงลงโทษอิสราเอลด้วยไฟ  ซึ่งลงมาที่แม่น้ำ และแผ่นดิน นี่เป็นภาพที่น่ากลัวกว่าเดิมอีก อาโมสก็อธิษฐานอีก แล้วพระเจ้าก็ทรงเปลี่ยนพระทัย  ถ้าอาโมสไม่อธิษฐาน พระเจ้ายังทรงทำตามพระดำริของพระองค์ จะไม่มีใครเหลือ

จินตภาพที่สาม : สายดิ่ง  
7 พระองค์ทรงสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นดังนี้คือ  พระยาห์เวห์ทรงยืนอยู่ข้างกำแพง พร้อมกับสายดิ่งในพระหัตถ์ 
8 พระยาห์เวห์ตรัสถามข้าพเจ้าว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไร?”
“สายดิ่ง พระเจ้าข้า” ข้าพเจ้าตอบ 
 แล้วพระยาห์เวห์ตรัสว่า “เราจะวางสายดิ่งท่ามกลางประชากรอิสราเอลของเรา เราจะไม่ละเว้นพวกเขาอีกต่อไป”
9 “สถานบูชาบนที่สูงจะถูกทำลายไป และสถานนมัสการทั้งหลายของอิสราเอลจะถูกพังลง เราจะลุกขึ้นต่อสู้วงศ์วานเยโรโบอัมด้วยดาบ”

จินตภาพที่สาม : สายดิ่ง
7:7-9 จินตภาพที่สามแตกต่างออกไป พระเจ้าทรงถือสายดิ่งที่จะทรงวางท่ามกลางประชาชน  ความหมายของจินตภาพนี้ก็คือ เมื่อพระองค์ทรงวัดชีวิตของประชากรของพระองค์ พวกเขาคดงอไปจากพระองค์  ไม่ตรงเหมือนสายดิ่ง พระเจ้าจะทรงทำลายสิ่งที่พวกเขารัก หวงแหน พระองค์จะนำชนชาติหนึ่งยกกองทัพมา สังหารอิสราเอล และทำลายที่สูงเหล่านี้เสีย 
นี่เป็นครั้งเดียวที่พระเจ้าทรงใช้คำอิสอัคแทนคนอิสราเอล โดยปกติจะทรงใช้คำยาโคบ … 

การต่อต้านจากอามาซิยาห์ 
10 อามาซิยาห์ ปุโรหิตแห่งเบธเอลได้ส่งสารไปยังเยโรโบอัมกษัตริย์แห่งอิสราเอล ว่า “อาโมสได้สมคบคิดวางแผนต่อต้านพระองค์ท่ามกลางวงศ์วานอิสราเอล  แผ่นดินไม่อาจทนต่อคำกล่าวของเขาได้ 
11 เพราะอาโมสกล่าวว่า ‘กษัตริย์เยโรโบอัมจะต้องสิ้นพระชนม์ด้วยดาบ และอิสราเอลจะต้องไปเป็นเชลยห่างจากบ้านเกิดของตน’”  
12 แล้วอามาซิยาห์กล่าวกับอาโมสว่า “ออกไปให้พ้น ผู้ทำนาย! จงหนีไปแผ่นดินยูดาห์เสีย ไปทำมาหากินและเผยพระดำรัสที่นั่น  
13 อย่ามาเผยพระดำรัสในเบธเอลอีก เพราะที่นี่เป็นสถานนมัสการขององค์กษัตริย์ และเป็นวิหารแห่งอาณาจักร”
14 ดังนั้นอาโมสจึงตอบอามาซิยาห์ว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้เผยพระดำรัสหรือลูกชายของผู้เผยพระดำรัส ข้าพเจ้าเป็นคนเลี้ยงแกะ และดูแลสวนมะเดื่อ 
15 แต่พระยาห์เวห์ทรงนำข้าพเจ้าออกมาจากงานเลี้ยงดูฝูงสัตว์ และตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงไป เผยพระดำรัสแก่อิสราเอล ประชากรของเรา””  
16 บัดนี้ จงฟังพระดำรัสของพระยาห์เวห์ “เจ้ากล่าวว่า อย่าเผยพระดำรัสต่อต้าน ติเตียนอิสราเอลเลย อย่าเทศนาต่อว่าวงศ์วานอิสอัคเลย”
17 ดังนั้น นี่เป็นพระดำรัสของพระยาห์เวห์ ว่า “ภรรยาของเจ้าจะกลายเป็นโสเภณีในเมือง ลูกชายและลูกสาวของเจ้าจะล้มลงด้วยดาบ แผ่นดินของเจ้าจะถูกวัดด้วยสายวัดและแบ่งออกมา  เจ้าเองจะสิ้นใจในดินแดนคนต่างชาติที่ไม่เชื่อพระเจ้า  อิสราเอลจะต้องตกไปเป็นเชลย ห่างไกลจากบ้านเกิดอย่างแน่นอน”

การต่อต้านจากอามาซิยาห์ 
7:10  หากย้อนกลับไปอ่าน  1 พงศ์กษัตริย์ 12:25-33  เราจะเห็นภาพของการที่พวกเขาสร้างสถานนมัสการในที่สูง.. กษัตริย์ไม่ต้องการให้ประชาชนไปนมัสการพระเจ้าในวิหารเยรูซาเล็มเพราะเกรงว่า ประชาชนจะไปสวามิภักดิ์ต่อกษัตริย์ทางใต้  ก็จึงสั่งสร้างวิหารเพื่อให้ประชาชนวนเวียนอยู่ที่เบธเอล กับเมืองดาน และตั้งปุโรหิตจากประชาชนขึ้นมาเอง กษัตริย์ได้ทำผิดต่อพระเจ้าโดยตรงในทุกเรื่อง และอามาซิยาห์ ปุโรหิตแห่งเบธเอลผู้นี้ ก็เป็นหนึ่งในคนที่ต่อต้านพระเจ้า.. เขาส่งสารไปโกหกกับกษัตริย์ว่า  1 อาโมส สมคบคิดต่อต้านองค์กษัตริย์  2 แผ่นดินทนฟังเขาไม่ได้

7:11-13 เพราะคำของอาโมสจากพระเจ้านั้นแรงจริง  ทำให้อามาซิยาห์ทนไม่ได้  ไล่เขาให้กลับไปบ้านเกิด  ให้เหตุผลว่า ที่เบธเอลเป็นสถานนมัสการของกษัตริย์ เป็นวิหารประจำอิสราเอลทางเหนือ จะเผยพระดำรัสก็ไปทำที่ภาคใต้ อย่ามาทำที่นี่   จะเห็นได้ว่า อาโมสต้องกล่าวพระดำรัสของพระเจ้าให้กับคนที่ใจแข็งกระด้างและมุ่งมั่นที่จะต่อต้านพระองค์ 

7:14-15 ที่อามาซิยาห์กล่าวหาว่าอาโมสสมคบคิดนั้น อาโมสก็ตอบไปให้รู้ชัดว่า เขาแค่เป็นคนเลี้ยงแกะ ดูแลต้นมะเดื่อ แต่พระเจ้าทรงเรียกมาให้เดินทางมาทางเหนือเพื่อเผยพระดำริของพระองค์ เพื่อตักเตือนให้เขากลับใจ เพื่อจะไม่มีหายนะมาถึงพวกเขา 

7:16-17  แล้วพระดำรัสที่น่าสะพรึงก็มาถึงอามาซิยาห์โดยตรง!   นอกจากตัวเขาจะตายในต่างแดน ตกเป็นเชลยพร้อมกับคนอิสราเอล เมียจะกลายเป็นหญิงขายตัว ลูก ๆ จะถูกฆ่า ที่ดินจะถูกแบ่งออกไป อามาซิยาห์จะไม่มีอะไรเหลือ เพราะเขาต่อต้านพระเจ้า และคนของพระองค์ 

พระคำเชื่อมโยง

อาโมส 7
2* อิสยาห์ 51:19
3* ยอห์น 3:10
5* อาโมส 7:2-3
8* 2 พงศ์กษัตริย์ 21:13; มีคาห์ 7:18

9* ปฐมกาล 46:1; 2 พงศ์กษัตริย์ 15:8-10
10* 1 พงศ์กษัตริย์ 12:31-33; อาโมส 4:4; 2 พงศ์กษัตริย์ 14:23
11* อาโมส 5:27; 6:7
13* อาโมส 2:12; 1 พงศ์กษัตริย์ 12:29, 32

14* 1 พงศ์กษัตริย์ 20:35; เศคาริยาห์  13:5
15* อาโมส 3:8
16* เอเสเคียล 21:2
17* เยเรมีย์ 28:12; 29:21, 32;
เศคาริยาห์ 14:2; โฮเชยา 9:3