อาโมส 4 เตรียมตัวพบพระเจ้าของเจ้า!

พระดำรัสถึงผู้หญิงรักสบาย
1  จงฟังคำเหล่านี้ เหล่าแม่วัวจากบาชาน 
ผู้อาศัยบนบนภูเขาสะมาเรีย 
เหล่าผู้หญิงที่กดขี่คนยากจน 
และบดขยี้ชีวิตของคนที่ขัดสน
พวกนางพูดกับสามีว่า
“ไปหยิบเหล้ามาให้ฉันหน่อยสิ”
2 พระยาห์เวห์องค์พระเจ้าทรงปฏิญาณ
โดยความบริสุทธิ์ของพระองค์ว่า 
“ดูเถิด วันนั้นจะมาถึงแน่
เป็นวันที่เจ้าจะถูกลากออกไปด้วยขอเกี่ยว
แม้คนสุดท้ายก็จะถูกลากออกไปด้วยเบ็ดตกปลา
(หรือหม้อใส่ปลา)
3 เจ้าจะได้ออกไปตามรอยแตกในกำแพง 
ผู้หญิงแต่ละคนวิ่งตรงไป
และจะถูกลากไปตามทางไปยังฮารโมน
นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์
4 “จงไปยังเบธเอล และทำตัวดื้อดึง 
ดื้อด้านให้พอที่กิลกาล 
จงนำเครื่องบูชามาทุกเช้า 
และสิบลดหนึ่งมาทุก ๆ สามวัน
5  จงถวายขนมปังมีเชื้อเป็นเครื่องบูชาขอบพระคุณ
และอวดเสียงดังเมื่อเจ้าถวายเครื่องบูชาตามความสมัครใจ เพราะคนอิสราเอลชอบทำเช่นนี้!”
พระยาห์เวห์ทรงประกาศดังนั้น 

พระดำรัสถึงผู้หญิงรักสบาย
4:1 แม่วัวแห่งบาชาน คือ หญิงชั้นสูงชาวสะมาเรียที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา กดขี่คนยากจน ขัดสน พวกเธอไร้น้ำใจ แล้วแถมยังเป็นนายเหนือสามีที่พวกเธอมองเป็นเหมือนทาสของตัวเอง  (อิสยาห์ 3:16-26; 32:9-13). บาชานเป็นพื้นที่ซึ่งมีดินดี ทุ่งหญ้าเขียวขจี แถบภูเขาเฮอร์โมน 

4:2 พระเจ้าทรงปฏิญาณว่า เหตุการณ์ร้ายต่อไปนี้จะเกิดขึ้นกับพวกเขาแน่นอน คือ การถูกลากออกไป ไม่ใช่แค่เดินแถวไปเป็นเชลย  (สำหรับขอเกี่ยว มีบางเล่มแปลว่า  ตะกร้า) อ่านเยเรมีย์ 16:16 จะเห็นว่าเขาถูกตามล่า  จากที่อาโมสกล่าวนี้ น่าจะเป็นการถูกจับใส่ตะกร้าใหญ่ลากไป หรือถูกมัดเชือกต่อ ๆ กันเดินไปจนถึงที่หมาย 

4:3  พวกผู้หญิงจะถูกลากออกไป  บางคนอาจจะตาย และถูกทิ้งศพไว้ตามกำแพง
ไม่ทราบแน่ชัดว่า ฮารโมน อยู่ที่ใด  ภาษาเดิมเขียนไม่เหมือนคำว่าเฮอร์โมน ซึ่งเป็นภูเขาของบาชาน 
แต่นี่คือปลายทางของแม่วัวแห่งบาชาน  ผู้หญิงที่ไร้น้ำใจต่อคนยากจน 

4:4-5 เบธเอลเป็นที่ ๆ ยาโคบฝันถึงบันไดสู่สวรรค์ (ปฐมกาล 28) ส่วนกิลกาลเป็นที่ ๆ อิสราเอลเข้าสุหนัตก่อนที่จะเดินล้อมรอบเมืองเยรีโค (โยชูวา 5:1-9)  แต่แล้วต่อมา กลับกลายเป็นศูนย์กลางการไหว้รูปเคารพของอิสราเอล พระเจ้าทรงกล่าวเย้ยพวกเขาให้ไปที่นั่นและทำบาปต่อพระองค์เพิ่มขึ้น ให้ถวายเครื่องบูชาทุกเช้า ถวายสิบลดทุกสามวันแทนที่จะเป็นทุกสามปี (เฉลยธรรมบัญญัติ  14:28-29) ให้ทำตัวเคร่งครัดต่อการกราบไหว้รูปเทพต่าง ๆ ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาและหลงว่าเป็นพระเจ้า
ทรงบอกเขาตรง ๆ ว่า พวกเขาชอบทำตัวเช่นนั้น คือเมื่อกราบไหว้ก็ต้องเบ่ง ให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองถวายอะไรเป็นเครื่องบูชาตามสมัครใจที่น่าชื่นชมขนาดไหน   (ขนมปังมีเชื้อนั้นถวายเป็นสันติบูชาตามเลวีนิติ 7:13) 

พระเจ้าทรงลงวินัย
เราได้ทำให้เจ้าไม่มีอะไรกินในทุกเมืองของเจ้า 
ไม่มีอาหารในทุกชุมชน แต่เจ้าก็ยังไม่กลับมาหาเรา
พระยาห์เวห์ทรงประกาศ 
7  เรายับยั้งฝนไว้จากพวกเจ้า
ทั้ง ๆ ที่อีกสามเดือนก็จะต้องเก็บเกี่ยว 
เราส่งฝนมายังเมืองหนึ่ง แต่อีกเมืองไม่มีฝน 
ทุ่งนาผืนหนึ่งมีฝนตก แต่อีกทุ่งที่ไม่มีฝนนั้น
ต้นไม้ก็เหี่ยวแห้ง  
8  ชาวเมืองสองสามเมือง
ระหกระเหินไปยังอีกเมืองเพื่อหาน้ำดื่ม
แต่ก็ไม่พอดื่ม  ถึงอย่างนั้น พวกเจ้าก็ไม่กลับมาหาเรา
” พระยาห์เวห์ทรงประกาศ 

พระเจ้าทรงลงวินัย

4:6 พระเจ้าทรงลงโทษพวกเขาด้วยความอดอยาก (1 พงศ์กษัตริย์  8:37-39 )แต่พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจ ไม่กลับใจ ไม่กลับมาหาพระเจ้า ถึงแม้ โมเสสบอกไว้ (เฉลยธรรมบัญญัติ 28:17) อาโมสบอกซ้ำ ก็ยังไม่รับฟัง 

4:7-8 สามเดือนก่อนเก็บเกี่ยว พระเจ้าทรงยับยั้งไม่ให้มีฝน ทรงให้มีที่ ๆ ฝนตก บางที่ไม่มีเลย ทรงบอกสภาพของบ้านเมืองในเวลานั้นชัดเจน  พวกเขารู้อยู่ว่า ฝนแล้งเป็นผลของการไม่เชื่อฟัง ละเมิดบทบัญญัติของพระเจ้า (เฉลยธรรมบัญญัติ 28:22-24)
แต่เขาก็ไม่กลับมาหาพระองค์ 

ภาพการลงโทษ
9 “เราได้โจมตีไร่นาของพวกเจ้า
ด้วยลมร้อนและเชื้อรา 
ฝูงตั๊กแตนมาขย้ำกินต้นไม้ และต้นองุ่น
ทั้งต้นมะเดื่อและต้นมะกอกของพวกเจ้า
แต่เจ้าก็ยังไม่หันกลับมาหาเรา

พระยาห์เวห์ทรงประกาศ 
10 “เราได้ส่งภัยพิบัติมาหาเจ้า
เหมือนกับที่เราทำต่ออียิปต์
เราสังหารคนหนุ่มด้วยดาบ
รวมไปถึงม้าที่เจ้ายึดมา 
เราทำให้ค่ายทหารของเจ้ามีกลิ่นเหม็นจากศพ
คลุ้งปะทะเข้าจมูกของเจ้า
แต่เจ้าก็ยังไม่หันกลับมาหาเรา

พระยาห์เวห์ทรงประกาศ
11 “เราได้โค่นพวกเจ้าบางคนลงไป
เหมือนกับที่เราได้โค่นโสโดมและโกโมราห์ 
เจ้าเป็นเหมือนกิ่งไม้ที่ถูกฉวยออกมาจากกองไฟ
ถึงอย่างนั้นพวกเจ้าก็ยังไม่กลับมาหาเรา

พระยาห์เวห์ทรงประกาศ ดังนั้น
 

ผลที่จะได้รับ
12 “ดังนั้น อิสราเอลเอ๋ย
นี่เป็นสิ่งที่เราจะกระทำต่อเจ้า
และเป็นเพราะเราจะทำกับเจ้าดังนี้
อิสราเอลก็จงเตรียมตัวที่จะพบพระเจ้าของเจ้า!”
13 พระองค์ทรงอยู่ที่นี่
พระองค์ผู้ทรงสร้างขุนเขา
ผู้ทรงสร้างสายลมขึ้นมา
และพระองค์ทรงสำแดงพระดำริของพระองค์แก่มนุษย์
พระองค์ผู้ทรงนำรุ่งอรุณออกมาจากความมืดมิด
พระองค์ผู้ทรงย่างพระบาทบนที่สูงของแผ่นดินโลก
พระนามของพระองค์คือ พระยาห์เวห์ องค์จอมทัพ

ภาพการลงโทษ
4:9 ทั้งลมร้อน เชื้อรา ฝูงแมลง มาทำลายพืชผล ที่พวกเขาควรจะเก็บเกี่ยวได้ ทุกอย่างนี้มาจากพระเจ้าทั้งสิ้น ทรงแจ้งให้เขารับรู้ 

4:10 ยิ่งกว่านั้น พระองค์ทรงให้ศัตรูมาโจมตี พวกเขาพ่ายแพ้ยับเยิน ทหารตาย ศพไม่ได้ฝังมากมาย แต่คนอิสราเอลก็ไม่กลับมาหาพระเจ้า มีอะไรอีกที่พระเจ้าจะทรงทำเพื่อให้เขากลับใจ?

4:11 พระเจ้าทรงทำลายบางเมืองไปแล้ว  ทรงทำให้เมืองเหล่านั้นไม่อาจฟื้นขึ้นมาได้อีก  ทรงทำให้บางคนตายไป  แต่ยังมีบางคนที่พระเจ้าทรงให้รอดอย่างหวุดหวิด   เป็นเพราะพระเมตตาของพระองค์ พวกเขาจึงได้มีชีวิต สร้างครอบครัวและยังไม่สูญไปเหมือนกับชนชาติอื่น ๆ รอบข้าง ทั้งความอดอยาก ความแห้งแล้ว  โรคพืช แมลงลง  ภัยพิบัติแบบอียิปต์ สงคราม ความพ่ายแพ้… เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงให้เกิดขึ้นเพื่อเตือนให้พวกเขากลับมา  แต่.. พวกเขามีใจกระด้าง ดำ มืดเกินกว่าที่จะกลับมาหาพระองค์  


ผลที่จะได้รับ
4:12 พระเจ้าตรัสให้เขาเตรียมตัวที่จะพบพระเจ้า คำ ๆนี้ พระองค์ได้ตรัสครั้งแรกเมื่อพวกเขาจะต้องเตรียมตัวพบพระเจ้าที่จะประทานพันธสัญญาแก่พวกเขาที่ภูเขาซีนาย
(อพยพ 19:11, 15)
4:13 พระเจ้าทรงทบทวนให้รู้ว่า พระเจ้าที่พวกเขาจะต้องพบคือผู้ใด พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าทรงฤทธิ์ผู้ทรงเป็นองค์จอมทัพ ทรงยิ่งใหญ่อย่างที่พวกเขาไม่อาจเข้าใจได้

พระคำเชื่อมโยง

อาโมส 4
1* สดุดี 22:12; อาโมส 2:6; สุภาษิต 23:20
2* สดุดี 89:35; เยเรมีย์ 16:16
3* เอเสเคียล 12:5
4* เอเสเคียล 20:39; โฮเชยา 4:15; กันดารวิถี 28:3;
เฉลยธรรมบัญญัติ 14:28
5* เลวีนิติ 7:13; 22:18

6* เยเรมีย์ 5:3
9* ฮักกัย 2:17; โยเอล 1:4, 7
10* สดุดี 78:50
11* อิสยาห์ 13:19
12* เยเรมีย์ 5:22
13* สดุดี 139:2; มีคาห์ 1:3; อิสยาห์ 47:4