สดุดี 38 ขอพระเจ้าทรงเมตตา สำนึกผิดแล้ว

Study of King David (adapted), Julia Margaret Cameron, 1866. Wikimedia

เพลงสดุดีของดาวิด เพื่อการระลึกถึง
ความเจ็บปวดที่ลงลึกมาก
1 โอ พระยาห์เวห์ ขออย่าทรงติเตือนข้าด้วยพระพิโรธ
ขออย่าทรงลงวินัยข้าด้วยความกริ้ว
2 เพราะลูกศรของพระองค์จมลงไปในเนื้อของข้า
พระหัตถ์ก็กดทับข้าอย่างหนัก

ความผิดของข้าท่วมท้น
3 ไม่เหลือสุขภาพที่ปกติในร่างกายของข้า
เพราะความกริ้วของพระองค์
ไม่มีความแข็งแรงในกระดูกเพราะบาปของข้าเอง
4 เพราะความผิดของข้านั้นท่วมท้นตัว
เป็นภาระหนักที่หนักเกินจะแบกไหว
5 บาดแผลของข้าก็เน่าเหม็น
และเน่าเปื่อยไปเพราะความโง่เขลาของข้าเอง

ความเจ็บปวดและสับสนของข้า
6 ข้าเศร้าหมอง ค้อมหลังลง
ข้าคร่ำครวญอยู่ทั้งวัน
7 เอวของข้าเจ็บ ปวดแสบยิ่งนัก
ไม่มีส่วนใหนในร่างกายที่ยังคงสภาพดีเลย
8 ข้าอ่อนแรงเจ็บปวด แตกร้าวอย่างสาหัส
คร่ำครวญเพราะความกระวนกระวายในหัวใจ

ขออยู่ต่อพระพักตร์ในความทุกข์นี้
9 โอพระเจ้าข้า ข้าปรารถนาเพียงอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
เสียงถอนหายใจของข้าก็ไม่ได้ซ่อนจากพระองค์
10 ใจของข้าเต้นระส่ำ กำลังก็หายไป
ดวงตาของข้านั้น แทบมองอะไรไม่เห็น

ความเห็นของคนที่เคยรักและเพื่อน
11 คนที่ข้ารัก เและเพื่อนก็ยืนมองลงมา
ญาติพี่น้องก็ยืนอยู่ห่างไกลจากโรคภัยนี้
12 คนที่จ้องเอาชีวิต ก็เตรียมกับดักไว้ให้ข้า
คนที่พยายามทำให้ข้าเจ็บก็ขู่จะทำลาย
พวกเขาคิดแผนชั่วร้ายทั้งวี่ทั้งวัน
13 แต่ข้าไม่ได้ยิน ราวกับว่าเป็นคนหูหนวก
ข้าไม่เปิดปากพูด ราวกับว่าข้าเป็นคนใบ้
14 ข้าเป็นเหมือนคนที่ไม่อาจได้ยิน
และปากก็ไม่ตอบอะไร

ข้ายังหวังใจในพระเจ้าแม้อยู่ต่อหน้าศัตรู
15 โอ พระยาห์เวห์ ข้าหวังใจในพระองค์
พระองค์จะทรงตอบ โอ พระเจ้าของข้า
16 เพราะข้ากล่าวว่า “ขออย่าให้พวกเขายินดีเพราะข้า
เมื่อข้าลื่นล้ม คนเหล่านั้นก็จะทับถมข้าต่อไปอีก”
17 ข้ากำลังจะล้ม
และความเจ็บปวดก็อยู่กับข้าตลอดเวลา
18 ดังนั้นข้าจึงสารภาพบาปผิดของข้า
ข้าเป็นทุกข์นักเพราะบาปของข้า
19 แต่ศัตรูของข้าก็ตื่นตัวและมีกำลังมาก
คนเกลียดข้าโดยไม่มีเหตุก็เพิ่มขึ้น
20 พวกเขาเป็นคนที่ตอบความดีด้วยความชั่ว
พวกเขาโจมตีและพยายามเอาชีวิตข้า
เป็นเพราะข้าเดินตามทางที่ดี

โอพระเจ้าโปรดรีบมาช่วยข้า
21 ขออย่าทรงทอดทิ้งข้า โอ พระยาห์เวห์
ขออย่าทรงอยู่ห่างไกลข้า โอ พระเจ้าของข้า
22 ขอทรงรีบมาช่วยข้าด้วยเถิด
โอ องค์เจ้านาย พระผู้ช่วยให้รอดของข้า …

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 6:1; ฮีบรู 12:5-11

2*สดุดี 32:4; โยบ 6:4; สดุดี 64:7

3*สดุดี 6:2; 51:8; อิสยาห์ 1:5-6

4* สดุดี 40:12; เอสรา 9:6; 1 เปโตร 2:24

5* อิสยาห์ 1:5-6; เยเรมีย์ 8:22; สดุดี 69:5

6* สดุดี 35:14; 42:9; โยบ 30:28

7* สดุดี 102:3; กิจการ 12:23

8* สดุดี 32:3;
โยบ 3:24

9* สดุดี 102:5; 10:17

10* สดุดี 6:6-7; 88:9; 69:3

11* สดุดี 31:11; โยบ 19:13-17

12* สดุดี 35:20; 140:5

13* สดุดี 39:9; อิสยาห์ 53:7

14* มาระโก 15:3-5

15* สดุดี 17:6; 39:7; 138:3

16*สดุดี 94:18; 35:24-26

17* สดุดี 35:15;38:6; มีคาห์ 4:6-7

18* สดุดี 32:5; สุภาษิต 28:13

19*สดุดี 35:19; ยอห์ร 15:18-25

20* สดุดี 35:12; 1 ยอห์น 3:12; เยเรมีย์ 18:20

21* สดุดี 22:24; 22:19; 35:21-22

22* สดุดี 40:13; 27:1; อิสยาห์ 12:2

เป็นสดุดีบอกถึงการสำนึกผิด รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง กษัตริย์ดาวิดได้กลับมาหาพระเจ้า เพื่อขอพระเมตตาจากพระองค์

สดุดี 38: 1-2 ความเจ็บปวดที่ลงลึกมาก
กษัตริย์ดาวิดได้ทำผิดต่อพระเจ้า และท่านรับรสชาติของความเจ็บปวดที่ได้รับจากความไม่พอพระทัยของพระเจ้า แทนที่ท่านจะหนีห่างจากพระองค์ ท่านกลับเข้ามาทูลอ้อนวอนขอความกรุณา ทั้ง ๆ ที่ท่านรู้ว่าพระเจ้าทรงกริ้วแค่ไหนกับการที่ท่านทำบาป

สดุดี 38:3-4 ความผิดของข้าท่วมท้น
เราเห็นจากสิ่งที่เขียนลงมาว่า สุขภาพ ร่างกายของกษัตริย์ดาวิดนั้นทรุดโทรมลงไปมาก มีบาดแผลที่เน่า ท่านใช้คำว่า เน่าเหม็น เน่าเปื่อย แสดงว่า ตกอยู่ในสภาพที่ยับเยินจริง ๆ และก็ตกในสภาพนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ท่านมั่นใจจริง ๆ ว่า ที่เกิดเหตุเช่นนี้เป็นเพราะท่านได้ทำบาปต่อพระเจ้า ข้อสี่บอกว่าความผิดท่วมตัว เราเคยรู้สึกอย่างนี้ใช่ไหม ไม่ได้ต่างอะไรจากดาวิดเลย ตอนนี้ท่านเจ็บปวดมากทั้งใจและกาย

สดุดี 38:6-8 ความเจ็บปวดและสับสนของข้า
เรามาดูต่อไปว่า เกิดอะไรขึ้น ท่านเจ็บปวด ค้อมตัวลงเพื่อบรรเทาความเจ็บนั้น เจ็บทั้งร่างกายโดยเฉพาะที่เอวของท่าน คำว่าเอวนี้ ในความหมายของคนยิวคือ อารมณ์ ท่านกำลังปั่นป่วนในใจ กษัตริย์ดาวิดไม่ใช่แค่คร่ำครวญ ร้องครางเพราะเจ็บทางกาย ในข้อ 8 เราเห็นว่า ท่านเจ็บที่ใจมาก มีความกังวล ทุกข์ร้อนข้างในผสมไปกับร่างกายที่มีแต่บาดแผล และการลงวินัยจากพระเจ้า ( ข้อ 1)

สดุดี 38:9-10 ขออยู่ต่อพระพักตร์ในความทุกข์นี้
ในขณะที่เจ็บปวดสุดจะทน กษัตริย์ดาวิดได้ทำในสิ่งที่แตกต่างออกไป จากคนอื่น ๆ ที่ไม่มีพระเจ้า แตกต่างไปจากคนที่ต้องช่วยตัวเองโดยไม่มีพระองค์
ท่านกล่าวว่า ข้าขอเพียงอยู่ต่อพระพักตร์ แม้จะมองแทบไม่เห็น แม้ไม่มีกำลัง ก็ขออยู่ต่อพระพักตร์ ให้คำอธิษฐานของท่านตอนนี้เป็นคำอธิษฐานของเราเมื่อเราพบความทุกข์ใจอย่างหนัก และหาทางออกไม่ได้

สดุดี 38:11-14 ความเห็นของคนที่เคยรักและเพื่อน
ในขณะที่ท่านขออยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้า คนที่ท่านรัก เพื่อน ญาติ ก็อยู่ห่าง ๆ ไม่กล้าเข้ามาใกล้ โรคนี้เป็นโรคอะไรที่ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้? มีความเห็นแตกต่างกันไป บางท่านให้ความเห็นว่าเป็นโรคเรื้อน หรือโรคผิวหนังที่ร้ายแรง บ้างก็ว่าเป็นโรคเกี่ยวกับไต เราไม่ทราบแน่ชัด แต่ในขณะที่พวกเขามองอยู่ห่าง ๆนั้นเอง ศัตรูก็คิดแผนชั่วที่จะทำร้าย แถมมาขู่ให้กลัว แต่กษัตริย์ดาวิดยามนี้ ท่านไม่สู้ แต่ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน และนิ่งเสีย ท่านกำลังรอคอยพระเจ้าอยู่

สดุดี 38:15-20. ข้ายังหวังใจในพระเจ้าแม้อยู่ต่อหน้าศัตรู
สิ่งที่เราเห็นในข้อ 15-20 นี้ คือ กษัตริย์ดาวิดขณะนี้ไม่ได้เป็นนักรบที่เก่งกล้า ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดที่ใคร ๆ ก็จะกลัว แต่ท่านกำลังเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ท่านกำลังจะล้ม มีแต่ความเจ็บปวด แต่ท่านมั่นใจอย่างหนึ่งคือ จะหวังใจในพระเจ้าไม่ว่าสถานการณ์จะมาในรูปไหน ดูว่าศัตรูจะเป็นต่อ อยู่เหนือมากเพียงใด ท่านยังคงยึดพระเจ้าไว้อย่างมั่นคง นี่เป็นตัวอย่างของชีวิตเรายามมืดจริง ๆ

สดุดี 38: 21-22 โอพระเจ้าโปรดรีบมาช่วยข้า
ดูสิว่า เมื่อคร่ำครวญจนพอแล้ว กษัตริย์ดาวิดก็หันกลับมาขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า และท่านได้ร้องทูลอย่างที่น่าแปลกใจ ท่านกล่าวถึงพระเจ้าในพระลักษณะ ในพระนามแตกต่างกันไป
พระยาห์เวห์ หมายถึงองค์พระเจ้านิรันดร์ ผู้ทรงไม่ขึ้นกับใคร ทรงอยู่ด้วยพระองค์เอง
พระเจ้าของข้า หมายถึง พระเจ้าผู้เป็นเจ้าเหนือหัวของกษัตริย์ดาวิด
องค์เจ้านาย คือพระเจ้าผู้ทรงเป็นเจ้านายที่เป็นผู้บัญชา และในขณะเดียวกันทรงเป็นผู้ดูแลผู้ที่อยู่ใต้อารักขาของพระองค์
พระผู้ช่วยให้รอด นั่นคือ กษัตริย์ดาวิดมั่นใจอย่างยิ่งว่า พระเจ้าของท่านองค์นี้จะทรงช่วยกู้ให้รอดจากเหตุการณ์ที่ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งกายใจตามที่ได้คร่ำครวญมา