สดุดี 24 พระเจ้าผู้ทรงพระสิริจะเสด็จมา

ภาพภูเขา Dom ในเขต ​​Pennine Alps

สดุดีของดาวิด

1 พระยาห์เวห์ทรงสิทธิ์ครอบครองแผ่นดินโลก
คือโลกและทั้งหมดที่อาศัยในนั้น
2 เพราะพระองค์ทรงตั้งรากฐานโลกไว้บนทะเล
ทรงสถาปนามันไว้เหนือแม่น้ำทั้งปวง


3 ใครจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปยังภูเขาของ
พระ ยาห์เวห์?
หรือใครจะยืนในที่ประทับอันบริสุทธิ์ของพระองค์ได้?
4 คือคนที่มีมือสะอาดและหัวใจบริสุทธิ์
คนที่ไม่ปล่อยให้วิญญาณเชื่อสิ่งที่ไร้ค่า
และไ่ม่ยอมให้คำสัญญาด้วยเล่ห์เหลี่ยม
5 เขาจะได้รับพระพรจากพระยาห์เวห์ 
และพระเจ้าแห่งความรอดจะทรงตัดสินให้เขาพ้นผิด
6 พวกเขาเป็นผู้คนรุ่นที่แสวงหาพระเจ้า
พวกเขาแสวงหาพระเจ้าแห่งยาโคบ
เซ ลาห์

7 จงเงยหน้าขึ้น ประตูเมืองเอ๋ย
จงยกตัวเจ้าขึ้น เหล่าบานประตูนิรันดร์
เพื่อว่า องค์กษัตริย์ผู้ทรงพระสิริจะเสด็จเข้ามา
8 องค์กษัตริย์ผู้ทรงพระสิริคือผู้ใด?
คือพระยาห์เวห์ ผู้ทรงเข้มแข็งและทรงฤทธิ์
คือพระยาห์เวห์ ผู้ทรงฤทธานุภาพในการรบ

9 จงเงยหน้าขึ้น ประตูเมืองเอ๋ย
จงยกตัวเจ้าขึ้น เหล่าบานประตูนิรันดร์
เพื่อว่า องค์กษัตริย์ผู้ทรงพระสิริจะเสด็จเข้ามา
10 องค์กษัตริย์ผู้ทรงพระสิริคือผู้ใด?
คือพระยาห์เวห์ องค์จอมทัพแห่งสวรรค์
พระองค์คือ องค์กษัตริย์ผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์

เซ ลาห์​

พระคำเชื่อมโยง

1* 1 โครินธ์ 10:26,28

2* สดุดี 89:11

3* สดุดี 15:1-5

4* โยบ 17:9, สดุดี 26:6 สดุดี 51:10, 73:1, มัทธิว 5:8, สดุดี 15:4

5* ฟีลิปปี 3:9, เอเฟซัส 1:3

6* สดุดี 27:4,8

7* สดุดี 118:20, อิสยาห์ 26:2, สดุดี 29:2,9, 97:6,ฮักกัย 2:7, กิจการ7:2, 1 โครินธ์ 2:8

8* วิวรณ์ 19:13-16

9* เหมือนข้อ 7

10* มัทธิว 25:31

Golden Gate Jerusalem จาก wikiwand

อธิบายเพิ่มเติม สดุดี 24

สดุดีบทนี้แบ่งเป็นสามตอนหลัก ๆ ผู้เขียนคือกษัตริย์ดาวิด
เราไม่ทราบว่าท่านเขียนในช่วงใดของชีวิต

ข้อ 1-2 คำประกาศความเป็นเจ้าของโลกและทุกสิ่งในโลก
นี่เป็นคำประกาศที่คนในโลกพยายามปฏิเสธ พยายามพิสูจน์ว่าพระเจ้าไม่มีจริง
คนของพระองค์ที่รู้ว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้าของทุกสิ่งนั้น จึงเป็นคนที่แข็งแรง ไม่มีปมในใจ
เขารู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่เหนือทุกสิ่ง พระองค์ทรงครอบครอง
ข้อความในสองข้อนี้ เมื่อเป็นส่วนหนึ่งในคำอธิษฐานของเรา เราจะพบว่า ความเชื่อจะมั่นคงขึ้นเพราะเรารู้ว่า กำลังอธิษฐานทูลต่อพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของทั้งสิ้นในจักรวาล

ข้อ 3-6 ประกาศความบริสุทธิ์ของพระเจ้า และผู้ที่จะได้
มีโอกาสอยู่ในที่ประทับ.
มีคำถามสำคัญสองข้อ
ใครจะได้เข้าไปใกล้ชิดพระเจ้าได้?
ใครจะได้อยู่ในพระเจ้าได้?
คำตอบสี่ข้อ
1.คนทำสิ่งที่ถูกต้อง
2.คนที่ใจบริสุทธิ์
3.คนที่ไม่ติดตามสิ่งไร้ค่าในสายพระเนตร
4.คนที่พูดจริง สัญญาจริง เชื่อถือได้
ว่าไปแล้ว ไม่มีใครจะไปอยู่ใกล้พระเจ้า อยู่ในพระเจ้าได้. ยกเว้นคนที่ตามพระเยซูอย่างจริงจัง และมีพระองค์เป็น ผู้ที่อยู่ตรงกลางระหว่างพระเจ้ากับเขา !
สี่ข้อนี้เป็นข้อเตือนใจของเราเอง และข้อสามได้บอกเราว่า ทุกวันนี้เราต้องระวังเป็นที่สุดที่จะไม่ตามสิ่งไร้ค่าซึ่งชักชวนผู้คนทุกวินาทีในมือถือที่ใกล้ตัวที่สุด เราเห็นคนของพระเจ้าติดตามจอดำแบบลืมหูลืมตาไม่ขึ้น จนกลายเป็นคนไม่มีคุณค่าไปแล้วไม่น้อย น่าเศร้า น่าเสียใจจริง ๆ

ข้อ 7-10 ให้ทั้งเมืองเตรียมตัวต้อนรับพระเจ้าผู้ทรงพระสิริ
และคำยืนยันตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ และเป็นการประกาศซ้ำ ซึ่งเท่ากับเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากจริง ๆ ทั้งสี่ข้อนี้ สมควรที่เราจะจำไว้ขึ้นใจ ทบทวนเสมอ เราจะได้เห็นภาพของพระเจ้าที่เหนือกว่าที่เราเคยเห็น เคยสัมผัส แม้พระองค์จะทรงเป็นพระเจ้าที่ทรงรัก ห่วงใยผู้คน ทรงดูแลเขาราวกับเป็นผู้เลี้ยงแกะ แต่ในอีกมุมหนึ่งนั้น พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งการรบ. รบเพื่อจะได้เรากลับมาอยู่ในพระองค์อีกครั้ง

บรรณานุกรม
Enduringword.com: https://enduringword.com/bible-commentary/psalm-24/

Interlinear bible : https://biblehub.com/interlinear/psalms/24-6.htm

Lawson, J. Steven, Holman Old Testament Commentary , Psalms 1-75, Broadman and Holman Publisher, 2003.

กิจการ 3 อธิบายเพิ่มเติมและพระคำเชื่อมโยง

การอัศจรรย์กับขอทานในพระวิหาร

กิจการ 3:1-3
โดยปกติแล้ว คนยิวที่เคร่งจะอธิษฐานสามเวลาคือ เก้าโมงเช้า เที่ยง และบ่ายสาม และในทางเข้าพระวิหารด้านนั้น ก็มักจะมีคนขอทานมานั่งอยู่กันไม่น้อย ชายขอทานที่เป็นอัมพาตตั้งแต่เกิดคนหนึ่งก็มาที่นี่ทุกวันเช่นกัน
ส่วนท่านยอห์นและท่านเปโตรเองก็ยังใช้พระวิหารในการอธิษฐาน ในการพบปะผู้เชื่ออยู่ พวกเขายังไม่ถูกไล่ออกไป ดังนั้นคนที่เชื่อ พระเยซูก็ยังใช้ประโยชน์ของสถานที่นี้เหมือนอย่างที่เคยเมื่อครั้งยังไม่ได้เชื่อ
1* กิจการ 2:46, 10:3, 10:30, สดุดี 55:17, มัทธิว 27:45
2* กิจการ 14:8, ยอห์น 9:8, กิจการ 3:10

กิจการ3: 4-7
อัครทูตทั้งสองไม่ได้สนใจคนอื่น แต่กลับมาสนใจชายเป็นอัมพาตคนนี้ ท่านคงได้รับการเตือนใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพิเศษเพื่อรักษาชายคนนี้ แล้วท่านก็บอกชายขอทานชัดเจนว่า ไม่มีเงิน ไม่มีทองจะให้ แต่ที่มีนั้นเป็นสิ่งที่ชายขอทานไม่คาดคิด! คำว่า ในพระนามพระเยซูคริสต์
 พระนามของพระเยซูเป็นสัญลักษณ์ อำนาจแทนพระเยซูดังนั้น เมื่อกล่าวว่าในพระนามพระเยซูจึงหมายถึงพระองค์เองโดยตรง อัครทูตกำลังเชิญให้พระเยซูคริสต์เสด็จมารักษาชายผู้นี้ด้วยพระองค์เอง เมื่อท่านกล่าวถึงพระนามเท่ากับเป็นการเชิญพระองค์มา
แล้วชายผู้นี้ก็ยืนได้ ขามีกำลังอย่างทันทีทันใด นี่เป็นการอัศจรรย์แรกของอัครทูตที่ท่านลูกาบันทึกไว้ แต่ความจริงแล้วมีการอัศจรรย์อื่น ๆ เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ (ดูในกิจการ 2) การที่ชายเป็นอัมพาตหายป่วย เป็นการดึงความสนใจของผู้คนให้หันมาฟังสิ่งที่ท่านเปโตรกำลังจะกล่าวต่อไป
6* กิจการ 14:9-10, 4:10, 2 โครินธ์ 8:97* กิจการ 9:41, ลูกา 13:13, มาระโก 9:27

กิจการ 3:8-10
ชายที่เดินได้ใหม่ ๆ คนนี้ตื่นเต้นที่สุด เขาดีใจสรรเสริญพระเจ้าไป และใคร ๆ ก็เห็นว่าเป็นคนที่เคยจับเจ่าขอทานริมทางเข้าพระวิหาร พวกเขาก็เคยให้ทานกับชายคนนี้ มาวันนี้เขากลับเดินได้ …. พวกเขาจึงดีใจไปกับเขา แต่ขณะนั้นยังไม่รู้ว่า มีคำอธิบายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคน
8* กิจการ 14:10, อิสยาห์ 35:6, ยอห์น 5:8-9
9* กิจการ 4:16, 21, มาระโก 2:11-12
10* ยอห์น 9:8, กิจการ4:21-22, ยอห์น 5:20

คำเทศนาที่เฉลียงโซโลมอน

กิจการ 3:11-13
พอผู้คนได้ยินเรื่องนี้ต่อ ๆ กันไป พวกเขาก็อยากเห็นด้วยตาตนเองว่ามีคนพิการแต่เกิดเดินได้ ใครล่ะไม่อยากเห็น? กลายเป็นว่ามีคนเข้ามามุงดูกันเป็นจำนวนมากและนี่เป็นโอกาสที่อัครทูตเปโตรฉวยไว้ เพื่อจะอธิบายให้กับพวกเขาเข้าใจว่า ผู้ที่ให้หายป่วยคือพระเจ้าที่ชาวยิวทั้งหลายนับถือ
การเดินได้ของชายอัมพาตเกี่ยวข้องกับพระเยซูโดยตรง เกี่ยวอย่างไรหรือ? นั่นคือพระเจ้าทรงให้เขาเดินได้ เพื่อเป็นเกียรติของพระเยซูต่อหน้าหมู่คนยิว เห็นกันต่อหน้าต่อตา ท่านเปโตรโยงเรื่องให้เห็นว่า พวกเขาปฏิเสธพระเยซูอย่างไร
11* ยอห์น 10:23, กิจการ 5:12
12* 2 โครินธ์ 3:5, ยอห์น 3:27-28, ปฐมกาล 41:16
13* ยอห์น 5:30, อิสยาห์ 49:3, ยอห์น 7:39, 12:23, 13:31, มัทธิว 27:2, 20, มาระโก 15:11, ลูกา 23:28, ยอห์น 18:40, กิจการ 13:28,

กิจการ 3:14-16
 ท่านเปโตรพูดถึงองค์ผู้บริสุทธิ์ (คือตำแหน่งขององค์พระเมสสิยาห์จากอิสยาห์ 31:1)องค์ผู้ทรงธรรม (อิสยาห์ 53:11) ทรงเป็นถึงพระผู้ช่วยให้รอด แต่คนยิวกลับเกลียดชังและขอแลกชีวิตของพระเยซูกับฆาตกร! (ลูกา 23:28-19) พวกเขาได้ประหารพระองค์บนไม้กางเขน พระผู้ทรงให้กำเนิดชีวิตในโลก (โคโลสี 1:14-20) แต่พระเยซูทรงคืนชีพขึ้นมาด้วยฤทธิ์ของพระเจ้า
พอชายอัมพาตเชื่อพระนามพระเยซู (ซึ่งเท่ากับเขาเชื่อในตัวองค์พระเยซู ไม่ใช่แค่ชื่อเฉย ๆ) เขาจึงหายเป็นปกติให้เห็น ทุกคนเป็นพยานได้ ตอนนี้ คนที่ฟังย่อมเริ่มเข้าใจแล้วว่า อะไรเป็นอะไร พวกเขาเป็นผู้ร่วมกันประหารผู้ที่เป็นพระผู้ช่วยให้รอดพวกเขาเป็นผู้มีความผิดในสายพระเนตรพระเจ้า แต่ผู้ที่เขาตรึงตายกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริง ข่าวนี้ใคร ๆ ก็รู้กันไปทั่ว ท่านเปโตรเองก็เป็นพยาน
ที่เด็ดขาดสุด ๆ ก็คือ เห็นกับตาว่า ชายอัมพาตที่เชื่อพระเยซู เดินได้! พวกเขาไม่มีข้อแก้ตัวเลย
14* สดุดี 16:10, มาระโก 1:24, ลูกา 1:35, กิจการ 7:52, 2 โครินธ์ 5:21, ยอห์น 18:40
15* กิจการ 2:24, 2:32, วิวรณ์ 21:6, 22:17
16* มัทธิว 9:22, กิจการ 4:10, 14:9

กิจการ 3:17-19
แต่หลังจากที่กล่าวคำต่อว่าแรง ๆ ให้คนยิวทั้งหลายรู้ว่าพวกเขาได้ทำอะไรต่อพระผู้ช่วยให้รอด(พระเมสสิยาห์)ที่พระเจ้าทรงส่งมา ท่านเปโตรก็กล่าวคำเห็นใจว่า ที่พวกเขาทำไปอย่างนั้นเพราะไม่รู้ ไม่เข้าใจ ค่อยอ่อนโยนขึ้นนิดหนึ่ง
โดยกล่าวถึงการที่พระเมสสิยาห์จะต้องทนทุกข์ ซึ่งเป็น ข้อความที่พวกเขาเข้าใจยากมาก ในเมื่อมาเป็นพระเมสสิยาห์ ช่วยให้คนพ้นบาป แต่ทำไมพระองค์ต้องทนทุกข์ และถ้าพระองค์เป็นจริง ทำไมพระองค์ไม่ช่วยให้พวกเขาพ้นจากการ
เป็นเมืองขึ้นของโรม ช่วยให้พวกเขาเป็นอิสระ ความคิดที่ฝังมาว่าพระเมสสิยาห์จะต้องมีลักษณะที่เขาต้องการดังกล่าวนี้ทำให้พวกเขาตาบอด มองไม่เห็นว่าพระเยซูคือใครจริง ๆ 
แล้วท่านเปโตรก็ชวนให้พวกเขากลับใจ ให้เปลี่ยนความคิด ไม่คิดแบบเดิมต่อไป หันมาติดตามพระเจ้าเพื่อจะได้พ้นโทษบาป
17* ลูกา 23:34, ยอห์น 16:3, กิจการ13:27, 17:30, 1 โครินธ์ 2:8, 1 ทิโมธี 1:13
18* ลูกา 24:44, กิจการ 26:22, สดุดี 22, อิสยาห์ 50:6, 53:5, ดาเนียล 9:26,  โฮเชยา6:1, เศคาริยาห์ 13:6, 1 เปโตร 1:10
19* กิจการ 2:38, 26:20

กิจการ 3:20-23
 เปโตรได้บอกพวกเขาว่า ถ้าเปลี่ยนใจ กลับใจมาหาพระเจ้า พวกเขาจะได้รับการฟื้นฟูใจ สดชื่น บรรเทาใจ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป พวกเขาจะไม่ต้องติดกับของกฎจากศาลาธรรม จากพระวิหาร ที่มนุษย์ตั้งขึ้นมาเพื่อควบคุมชีวิตของเขาต่อไป ไม่ต้องติดกับของบาปอีกต่อไป
แต่คำพูดนี้อาจหมายถึงว่า พระเยซูผู้เป็นพระเมสสิยาห์จะได้กลับมาครอบครอง ในวันที่พระเจ้าทรงสร้างฟ้าใหม่ แผ่นดินโลกใหม่
จากนั้น ท่านเปโตรก็ช่วยย้ำให้ผู้ฟังเข้าใจว่า พระเยซูองค์นี้คือคนเดียวกับที่โมเสสเคยกล่าวว่าพระเจ้าจะทรงส่งผู้รับใช้ของพระองค์ที่เหมือนเขามา ..ให้ทุกคนฟังคำของเขา (เฉลยธรรมบัญญัติ 18:15-19) ที่ว่าเหมือนโมเสสคือ ทั้งช่วยกู้ และทั้งพิพากษาพวกเขา
20* – 21* กิจการ 1:11, มัทธิว ​17:11, โรม 8:21, ลูกา 1:70 
22* ฉธบ. 18:15, 18, 19, กิจการ 7:37
23* ยอห์น 12:48

กิจการ 3:24-25
ท่านเปโตรกำลังยืนยันให้กับคนยิวที่ฟังอยู่รู้ว่า ที่พวกเขาอ่านพระคัมภีร์เดิมและเห็นว่า พระเจ้าทรงกล่าวถึงพงศ์พันธ์ุของดาวิดที่จะมาครอบครองนั้น ก็คือ พระเยซูองค์นี้เท่านั้น ไม่ใช่ผู้อื่น
ผู้ฟังเหล่านี้ เป็นคนชาติเดียวกันกับผู้เผยพระคำ เป็นลูกหลานของพวกเขา แต่ก็เป็นลูกหลานพิเศษของพระเจ้าเพราะพวกเขาสืบเชื้อสายมาจากอับราฮัมนั้นเอง ท่านเปโตรย้ำว่าพวกเขาคือคนที่จะเป็นพรให้กับมนุษยชาติ ขณะที่กำลังฟังอยู่นั้น พวกเขาเชื่อไหมนะ คิดออกหรือเปล่า?
24* 2 ซามูเอล 7:12, ลูกา 24:25, 
25* กิจการ 2:39, โรม 9:4,8, กาลาเทีย 3:26, ปฐมกาล 2:3,18:18, 22:18, 26:4, 28:14

กิจการ 3:26
พระเจ้าทรงประสงค์ที่จะอวยพรชาวโลกทั้งสิ้น แต่พระองค์ทรงเลือกที่จะอวยพรอิสราเอลก่อนใคร ๆ เป็นการย้ำว่า พระเจ้าทรงรักพวกเขา และให้เกียรติพวกเขา ผู้รับใช้ที่พระเจ้าทรงเลือกคือพระเยซูนั้น ทรงถือกำเนิดในกลุ่มของชนชาติอิสราเอล ไม่ได้ไปเกิดที่ไหนอื่น
ข่าวประเสริฐของพระเจ้านั้น เริ่มต้นที่คนยิวแล้วจึงไปหาคนต่างชาติ (กิจการ13:46, โรม 1:16) และการที่พระเจ้าจะนำอาณาจักรของพระองค์มาบนโลกนี้ ก็ต้องการ ให้คนยิวรับพระเมสสิยาห์ของพวกเขา (มัทธิว 12:39, โรม 11:26) การกลับใจของพวกเขามาก่อนที่พระเยซูคริสต์จะครอบครองบนผืนแผ่นดินนี้ (เศคาริยาห์ 12:10-14)
26* มัทธิว 15:24, ยอห์น 4:22, กิจการ 13:46, โรม 1:16, 2:9, อิสยาห์ 42:1, มัทธิว 1:21

สดุดี 23 องค์พระผู้เลี้ยงดู

ภาพ Shepherd and Sheepวาดโดย Anton Mauve 1838-1888

สดุดีของดาวิด 23

พระเจ้าผู้ทรงนำทาง -ทุกวัน

1 พระยาห์เวห์ทรงเป็นผู้เลี้ยงดูข้า ข้าจึงไม่ขาดสิ่งใด
2 พระองค์ทรงทำให้ข้านอนลงบนทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม
พระองค์ทรงนำข้าไปยังริมธารน้ำสงบ
3 พระองค์ทรงรื้อฟื้นกำลังจิตใจของข้าให้กลับคืนมา
ทรงนำข้าไปตามทางที่เที่ยงธรรม 
เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์

พระเจ้าผู้ทรงปกป้อง-ยามยาก

4 ถึงแม้ข้าจะต้องเดินผ่านหุบเขาเงาความตาย
ข้าก็ไม่กลัวสิ่งชั่วร้ายใด ๆ
เพราะพระองค์ทรงยืนอยู่กับข้า
ไม้กระบองและไม้เท้าของพระองค์ทำให้ข้าอบอุ่นใจ

พระเจ้าผู้ทรงจัดเตรียม-วันนี้และอนาคต

5 พระองค์ทรงจัดเตรียมงานเลี้ยงต่อหน้าข้า
ต่อหน้าต่อตาศัตรูทั้งหลาย
พระองค์ทรงเจิมศีรษะของข้าด้วยน้ำมัน 
จอกน้ำของข้าเต็มล้น
6 แน่นอน ที่ความดีและความรักมั่นคงของพระองค์
จะตามติดข้าไปตลอดชีวิตของข้า
และข้าจะอาศัยในพระนิเวศของพระยาห์เวห์เป็นนิตย์

พระคัมภีร์อ้างอิง


1. สดุดี 78:52, 80:1, อิสยาห์ 40:11,
เอเสเคียล 34:11, 12, ยอห์น 10:11,
1 เปโตร 2:25, วิวรณ์ 7:16,17,สดุดี 34:9-10,
ฟีลิปปี 4:19,2

2.สดุดี 65:11-13, เอเสเคียล 34:14, วิวรณ์ 7:173

3. สดุดี 5:8, 31:3, สดุดี 8:204

4.โยบ 3:5, 10:21,22, 24:17, สดุดี 44:19, 3:6,27:1,16:8, อิสยาห์ 43:25

5.สดุดี 104:15, 92:10, ลูกา 7:466

6.สดุดี 27:4, 103:17, 2 ทิโมธี 4:18,

อธิบายเพิ่มเติม

ข้อ 1 ใครเลี้ยงดูผู้เขียน? สิ่งที่เกิดขึ้นจากนั้น พระเจ้าทรงเลี้ยงดูราวกับผู้เลี้ยงแกะ เป็นการดูแลที่ใกล้ชิดมาก ปกป้อง นำทาง หาอาหารให้ ทั้งเขาและพระองค์สนิทสนมกัน ไม่ได้ห่างกันเลย ผู้เลี้ยงที่ดีจะสละชีวิตเพื่อฝูงแกะ (ยอห์น 10:11)กษัตริย์ดาวิดรู้สึกว่าท่านเองเป็นแกะของพระเจ้า และภาพนี้เป็นภาพที่คุ้นชินของคนอิสราเอล พวกเขาเป็นฝูงแกะของพระองค์เราจะเข้าใจความสัมพันธ์ของผู้เลี้ยงและแกะได้ชัดจากข้อพระคัมภีร์อ้างอิงด้านบน

ข้อ 2-3 ผู้เขียนได้รับอะไรจากพระเจ้า? พระเจ้าทรงให้ความสดชื่นพระเจ้าทรงให้ความสงบสุขพระเจ้าทรงคืนกำลังให้เขา พระเจ้าทรงนำเขาไปตามทางที่เที่ยงธรรมเราอยู่ในโลกที่เหน็ดเหนื่อย ยากเข็ญ จิตใจของเราอ่อนล้าเราจึงต้องการพระผู้ทรงเลี้ยงดูผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง
เจ้าแกะนั้นมักนอนสบาย ๆ ไม่ได้ มันต้องไม่กลัว ต้องมีเพื่อน ต้องอิ่มต้องไม่มีพยาธิหรือสัตว์ตัวเล็ก ๆ มากวนมัน มันจึงจะนอนลงได้อย่างสบายใจ ผู้เลี้ยงจึงต้องจัดการให้สิ่งที่รบกวนหมดไปแล้วมันก็จะนอนได้ เมื่ออ่านพระคำข้อนี้เรารู้สึกสบายใจ สดชื่นได้พักผ่อนอย่างจริงจัง และผู้เลี้ยงทำให้แกะอย่างดี นำพวกมันไปในทางที่ดี เพราะว่าชื่อเสียงของท่านนั้น เป็นประกันอยู่ ท่านมีชื่อเสียงดี ท่านทำงานนี้ได้ดีเยี่ยม

ข้อ4 สิ่งชั่วร้ายรอบข้างเขา ถึงจะมี แต่พระองค์ทรงทำอะไร? ถึงจะเดินในเงามืดของชีวิต พระเจ้าทรงยืนอยู่พระองค์ทรงมีอาวุธที่จะช่วยต่อต้านศัตรู และช่วยกู้เขาจากอันตราย เมื่อแกะถูกศัตรูรุมล้อม เมื่อมันหวาดหวั่นในสถานการณ์รอบข้าง มันยังไว้ใจได้เพราะผู้เลี้ยงยืนมั่นอยู่ข้าง ๆ พร้อมที่จะสู้ปกป้องมันไว้ เวลาผู้เชื่อในพระเจ้าต้องเผชิญกับความตาย พวกเขาจะไม่กลัว เพราะเขารู้ว่าจะได้พบพระองค์แม้จะต้องตายจากโลกนี้

ข้อ 5 พระเจ้าทรงทำอะไรให้เขาบ้าง?พระองค์ทรงต้อนรับเขาให้ศัตรูได้เห็น นี่เป็นการมอบสิ่งดีให้อย่างล้นเหลือ ทรงเจิมด้วยน้ำมัน บ่งบอกความโปรดปรานพระองค์เติมน้ำในจอกมากมายเกินพอ. แม้มีศัตรู แม้อยู่ตรงหน้า พวกเขาก็จะเห็นความโปรดปรานของพระเจ้าที่มีต่อคนของพระองค์ การได้กินอาหารกับพระองค์แสดงว่าทั้งสองฝ่ายมีไมตรีมีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เมื่อพระเจ้าทรงเจิมด้วยน้ำมัน คนที่ได้รับจะสดชื่นยิ่งนัก น้ำที่พระเจ้าทรงเทให้ พระองค์ไม่ให้น้อย ๆ แต่พระพรนั้นล้นเหลือ

ข้อ 6 อะไรจะเกิดขึ้นชั่วชีวิตของเขา? ทั้งความดีและความรักมั่นคงจะไล่ตามชีวิตไปเขาจะได้อาศัยในพระนิเวศน์ของพระเจ้านิรันดร์เราอาจกล่าวได้ว่า ทั้งพระเมตตาและพระคุณของพระเจ้าจะติดตามเราไปตลอดชีวิต และนี่เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ น่าชื่นใจยิ่งนักมีอะไรที่ดีไปกว่านี้หรือ?

บรรณานุกรม