หนังสือกิจการนี้ เป็นเรื่องราวของคริสตจักรที่ขยายจากเยรูซาเล็มไปตามที่ต่าง ๆ จนถึงโรม และบุคคลสำคัญที่ถูกบันทึกไว้คือองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้ทรงทำการผ่านเหล่าอัครทูตของพระเยซูคริสต์
ผู้เขียนคือท่านลูกา เป็นทั้งเพื่อนร่วมงาน ทั้งแพทย์ประจำตัวของท่านเปาโล ท่านเขียนโดยได้รับการดลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เวลาเขียนน่าจะอยู่ราว ๆ ปี ค.ศ. 60-68 งานเขียนของท่านทำให้เราเห็นว่า พระเยซูทรงเริ่มต้นคริสตจักรอย่างไร ลักษณะของคริสตจักรเป็นอย่างไร และคริสตจักรมีหน้าที่อย่างไรบ้าง
สิ่งสำคัญคือ คริสตจักรจะต้องถวายพระเกียรติแด่พระคริสต์เสมอ ต้องภักดีต่อพระองค์ ด้วยฤทธิ์ของพระวิญญาณที่ทรงทำการผ่านพระกายของพระองค์
กิจการ 1 อธิบายและพระคำอ้างอิง
กิจการ 1:1-3 ท่านลูกาบอกให้รู้พระเยซูทรงอยู่อีกสี่สิบวันหลังคืนพระชนม์
ท่านลูกาอ้างอิงไปถึงงานเขียนครั้งที่แล้วคือหนังสือลูกา หนังสือกิจการเป็นเล่มที่สองของท่าน โดยทั้งสองเล่มส่งไปให้ผู้อ่านคนเดียวกันชื่อ เธโอฟีลัส (ชื่อแปลว่า ที่รักของพระเจ้า)
ท่านลูกาบอกชัดเจนว่าในหนังสือเล่มแรกได้กล่าวถึงสิ่งที่พระเยซูตั้งต้นทำ และคำสอนของพระองค์ ส่วนในเล่มนี้ ท่านกล่าวถึงการที่พระเยซูทรงยืนยันด้วยพระองค์เองว่าพระองค์ทรงคืนชีพจากความตาย พระองค์ทรงมีชีวิตอยู่จริง ในสี่สิบก่อนเสด็จสู่สวรรค์ ซึ่งแค่ในพระคัมภีร์เราก็เห็นหลาย ๆ ตอนแล้วที่อัครทูต ศิษย์ และคนอื่น ๆ ได้เห็น ได้คุย กินอาหารกับพระองค์ในช่วงเวลานั้น (อ่านพระกิตติคุณ 4 เล่ม ในบทสุดท้ายจะเห็นชัดเจน )
งานและคำสอนของพระเยซูก่อนที่จะทรงเสด็จสู่สวรรค์ก็คือเรื่องอาณาจักรของพระเจ้า เรื่องการที่พวกเขาจะต้องออกไปประกาศพระนามของพระองค์นี่เป็นรากฐานแห่งความเชื่อของคริสเตียนที่ได้เห็น ได้อยู่กับพระองค์ ตลอดเวลาที่ทรงอยู่กับพวกเขา
1* ลูกา 1:3 2-มาระโก 16:19,กิจการ 1:9,11,22, มัทธิว 28:19, มาระโก 16:15, ยอห์น 20:21, กิจการ 10:42 3* มัทธิว 28:17, มาระโก 16:12,14, ลูกา 24:34-36, ยอห์น 20:19,26, 21:1,14, 1 โครินธ์ 15:5-7
กิจการ 1:4-5 พระสัญญาเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์ แต่ก่อนที่พวกเขาจะทำตามพระบัญชานั้น พระเยซูทรงกำชับหนักแน่นให้พวกเขารอรับพระวิญญาณในกรุงเยรูซาเล็มก่อน อย่าออกไปจากเมือง!
พระวิญญาณทรงเป็นผู้ที่จะขับเคลื่อนงาน และคนที่จะทำ ท่านลูกากำลังรายงานว่า งานทั้งหมดที่จะทำต่อไปเกิดขึ้นจากพลังแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์คือผู้ที่สำคัญที่สุด สำหรับการสร้างคริสตจักร
คำว่า บัพติศมา ในที่นี้แปลว่า จุ่ม พระเยซูทรงกล่าวถึงยอห์นว่าได้ให้การจุ่มน้ำบัพติศมา เป็นการบอกว่ากลับใจใหม่ ได้รับการชำระ แต่ พระเยซูจะเป็นผู้ให้คริสเตียนรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ยอห์น 7:39)
ซึ่งเป็นการรับพระวิญญาณและฤทธิ์เดชของพระเจ้าเข้ามาอยู่ในชีวิต จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง และทำให้ชีวิตเกิดผลไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
4* ลูกา 24:49, ยอห์น 14:16,17,26, 15:26, กิจการ 2:33 5* มัทธิว 3:11,มาระโก 1:8, ลูกา 3:16, ยอห์น 1:33, กิจการ 11:16, โยเอล 2:28
กิจการ1:6-7 คำถามของศิษย์ก่อนจะจากกัน การเสด็จสู่สวรรค์
ตั้งแต่สมัยของเนบูคัดเนสซาร์ ยิวก็ไม่ได้มีอาณาจักรของตนเอง ดังนั้นยิวทุกคนปราถนาให้มีพระเมสสิยาห์มาช่วยกู้พวกเขา พวกศิษย์ก็สงสัยว่า พระเยซูจะทรงกู้ชาติกลับคืนมา จึงถามพระองค์ตรง ๆ พวกเขายังติดที่จะมองพระองค์เป็นภาพของอำนาจทางการเมือง พระเยซูไม่ตอบคำถามตรง ๆ แต่บอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องของเขาที่จะรู้
6* ลูกา 19:11, 17:20 7* 1 เธสะโลนิกา 5:1, มัทธิว 24:36, มาระโก 13:32,
8 คำสอนครั้งสุดท้ายและพระสัญญาก่อนการเสด็จสู่สวรรค์ พระเยซูทรงเตือนพวกเขาว่า พระวิญญาณจะเสด็จมาเป็นฤทธิ์เดชเพื่อให้พวกเขาเป็นพยานเพื่อพระองค์จนสุดปลายโลกเลยทีเดียว
8* กิจการ 2:1,4, ลูกา 24:48-49, ยอห์น 15:27, กิจการ 8:1, 5, 14, มัทธิว 28:19, มาระโก 16:15, โรม 10:18, โคโลสี 1:23, วิวรณ์ 14:6
9-11 พระเยซูเสด็จสู่สวรรค์ ขณะที่พระองค์กำลังอยู่ต่อหน้าต่อตา กำลังตรัสอวยพรพวกเขา (ลูกา 24:51) พระองค์ก็ทรงถูกรับขึ้นไป ทรงลอยขึ้นไปและลับไปจากสายตาของศิษย์ที่อยู่ด้วยในเวลานั้น ตามพระดำรัสในยอห์น 7:33-34 พระองค์เสด็จสู่สวรรค์นอกเยรูซาเล็มที่บ้านเบธานี เนินเขามะกอกเทศ และมีทูตสวรรค์มา
บอกพวกเขาว่า พระองค์จะทรงกลับมาในแบบเดียวกัน คือมาด้วยพระกายนี้ ณ สถานที่นี้
คนที่อยู่ในเหตุการณ์พบว่า พระเยซูทรงคืนชีพจริง เพราะเขาได้ยินพระองค์ อยู่กับพระองค์ และยังได้เป็นพยานการเสด็จสู่สวรรค์ของพระองค์ด้วย
9* ลูกา 24:50,51, สดุดี 68:18,110:1, มาระโก 16:19, ลูกา 23:43, ยอห์น 20:17, กิจการ 1:2, ฮีบรู 4:14, 9:24, 1 เปโตร 3:22 10* มัทธิว 28:3, มาระโก 16:5, ลูกา 24:4, ยอห์น 20:12, กิจการ 10:3,30 11* ดาเนียล 7:13, มาระโก 13:26, ลูกา 21:27, ยอห์น 14:3, 2 เธสะโลนิกา 1:10, วิวรณ์ 1:7
12-14 มีรายชื่อของคนที่ไปยังห้องชั้นบน ซึ่งคงมีคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อนี้ด้วย เราจะเห็นว่ามีทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่เข้าไปร่วมกันอธิษฐานในห้องชั้นบน และมีมากถึง 120 คน คนเหล่านี้เป็นผู้เชื่อที่จะสร้างคริสตจักรร่วมกับพระวิญญาณในยุคแรกนี้
12* ลูกา 24:52 13- มาระโก 14:15, ลูกา 22:12, กิจการ 9:37, 39, 20:8, มัทธิว 10:2-4, ลูกา 6:15, ยูดา 1 14* กิจการ 2:1,46, ลูกา 23:49, 55, มัทธิว 13:55
15-19 เปโตร ตอนนี้ท่านทำหน้าที่เป็นผู้ที่นำให้พันธกิจดำเนินต่อไป โดยได้อ้างถึงคำของราชาดาวิดที่บันทึกไว้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ทรยศพระบุตรพระเจ้า ท่านยืนยันว่า พระคำของพระเจ้าจะต้องสำเร็จทุกอย่าง มัทธิว 27:3-8 ได้กล่าวถึงการสิ้นชีวิตของยูดาสว่า เขาแขวนคอตาย แต่ในกิจการ 1 ตอนนี้บอกว่าเขาตกลงมา ไส้ทะลักออกมา มีความเห็นว่า เขาแขวนคอแล้วเมื่อร่างค่อย ๆ เน่าเปื่อย ร่างก็คงหล่นลงมาตามนั้น เปโตรได้กล่าวย้อนไปที่พระคำสดุดี ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ทรยศพระเยซู คือให้ที่ของเขาร้าง ไม่มีใครอยู่ และให้คนมาแทนตำแหน่งของเขา
15* ลูกา 22:32, วิวรณ์ 3:4 16* สดุดี 41:9, ลูกา 22:47 17* มัทธิว 10:4, กิจการ 1:25 18* มัทธิว 27:3-10, มาระโก 14:21, 26:14, 15
20-23 เปโตรได้เสนอให้เลือกคนแทนยูดาส คุณสมบัติของคนที่เลือกมาทั้งสอง คือต้องอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต้นการทำงานของพระเยซู จากที่พระองค์รับบัพติศมาจนถึงวันที่เสด็จสู่สวรรค์ คนๆ นี้สามารถเล่าเรื่องที่ตนเห็นด้วยตาของตนเองได้เหมือนอัครทูตคนอื่น ๆ
และก็มีการเสนอชื่อสองคน ที่มีคุณสมบัติดังกล่าว
20* สดุดี 69:25, 109:8,22* กิจการ 1:8-9, 2:32 23* กิจการ 15:22
24-26 อัครทูตอธิษฐานและจับฉลากเลือกคนที่พระเจ้าทรงเลือก ในยุคก่อนที่จะมีการเติมด้วยพระวิญญาณ สมัยโมเสสใช้วิธีนี้กันตามกันมาหลายร้อยปี (เลวีนิติ 16:8) พระเจ้าก็ทรงให้คำตอบกับพวกเขาตามความเชื่อมั่นที่เขามีต่อพระองค์ และนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่มีบันทึกไว้ในพระคัมภีร์
24* 1 ซามูเอล 16:7 25* กิจการ 1:17 26* โยชูวา 18:10, เลวีนิติ 16:8