สดุดี 150 ทุกสิ่งที่หายใจ ..สรรเสริญพระเจ้าเถิด

จงให้ทุกสิ่งที่หายใจสรรเสริญพระยาห์เวห์
pexel : Anthony

ให้สรรพสิ่งสรรเสริญพระยาห์เวห์

1สรรเสริญพระยาห์เวห์
จงสรรเสริญพระเจ้าในสถานบริสุทธิ์ของพระองค์
จงสรรเสริญพระองค์ในแผ่นฟ้าอันทรงอานุภาพของพระองค์
2 จงสรรเสริญพระองค์
เพราะราชกิจอันทรงฤทธิ์ที่ล้นเหลือของพระองค์

3 จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงแตรเขาแกะ
จงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณสิบสายและพิณเล็ก
4 จงสรรเสริญพระองค์ด้วยรำมะนา
และการเต้นรำจงสรรเสริญพระองค์ด้วยเครื่องสาย และปี่
5จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงฉาบ
จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงฉาบที่ดังก้อง

6 จงให้ทุกสิ่งที่หายใจสรรเสริญพระยาห์เวห์
สรรเสริญพระยาห์เวห์

พระคำเชื่อมโยง


1* สดุดี 148:14
สดุดี 11:4; 134:2
สดุดี 68:34
2* สดุดี 145:12
เฉลยธรรมบัญญัติ 3:24
3* สดุดี 98:6;
สดุดี 33:2; 71:22
4* สดุดี 149:3;
สดุดี 45:8; 38:20; โยบ 21:12
5* 2 ซามูเอล 6:5; 1 พงศาวดาร 15:16, 19, 28; 25:1, 6
6 * สดุดี 145:21

บทสุดท้ายของสดุดีที่ผ่านมานี้ ได้ขึ้นต้นและจบลงด้วยการสรรเสริญพระยาห์เวห์
จากบทที่ 150 นี้ เราจะเห็นว่า เราถูกชวนให้สรรเสริญพระเจ้าในที่สูง ในท้องฟ้า ในที่บริสุทธิ์ของพระเจ้า ในสดุดีบทนี้คือ การสรรเสริญพระเจ้าของเหล่าทูตสวรรค์ที่อยู่ในสรวงสวรรค์ อยู่กับพระเจ้า
สรรเสริญอะไรหรือ? เราสรรเสริญที่พระเจ้าทรงทำกิจอัศจรรย์ให้กับชีวิตของมนุษย์เรา ทรงทำการยิ่งใหญ่ในอดีต แต่ที่สำคัญที่สุดคือการที่พระเยซูลงมาสิ้นพระชนม์เพื่อทำให้เราได้คืนดีกับพระบิดาอีกครั้ง
ผู้เขียนชักชวนให้ทุกคนที่สรรเสริญพระเจ้า ได้ย้อนคิดถึงราชกิจที่ทรงทำเพื่อทุกคน และราชกิจดี ๆ ที่ทรงทำเพื่อเราทุก ๆ วัน ไม่เว้นแต่ละวันด้วย ชีวิตของผู้เชื่อจึงเต็มด้วยการขอบพระคุณและการสรรเสริญไม่หยุดหย่อน ไม่มีการหยุดนิ่ง การสรรเสริญทำให้มนุษย์ได้เชื่อมโยงกับพระเจ้าอย่างเหมาะสม
นอกจากการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าที่ทุกคนทำได้ เปล่งเสียงออกมา เรายังร้องเพลงในใจได้ด้วย
แล้วผู้เขียนให้ใช้เครื่องดีด สี ตี เป่า มาสรรเสริญพระเจ้า นี่เป็นเหตุผลที่เราเห็นครอบครัวคริสเตียนมักให้ลูกหลานได้เรียนดนตรี เพื่อเป้าหมายในการใช้สรรเสริญพระเจ้า …
และเราต้องไม่ลืมว่า ในบทอื่น ๆ ได้ชวนให้เราเต้นรำถวายพระองค์ด้วย ทั้งชีวิต ทั้งร่างกาย จิตใจของมนุษย์สามารถใช้เพื่อการสรรเสริญพระเจ้าได้อย่างครบถ้วน
และในบทก่อนหน้านี้ยังมีการชวนให้ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างสรรเสริญพระองค์ ผู้เขียนได้จบสดุดีด้วยการชวนให้ทุกสิ่งที่มีลมหายใจ สรรเสริญพระเจ้า …​และนั่นคือ เขากำลังชวนเราสรรเสริญพระองค์พร้อมกันกับสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง …​
ดังนั้น ให้เราเปิดใจฟังเสียงของบรรดาสัตว์ นกที่ส่งเสียงออกมา เสียงของคลื่นลม และพายุ เสียงของฝน สายของสายน้ำ …​เหล่านี้กำลังบอกว่า พระเจ้าของเราทรงเป็นพระผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ พระเจ้าที่ทรงไถ่ และทรงโอบอุ้มเรามาตลอดชีวิต .. ให้ใจของเรายิ่งสรรเสริญพระองค์ให้มากขึ้นในชีวิตนี้ ตราบที่เรายังมีลมหายใจ

สดุดี 149 คำสรรเสริญพร้อมกับการต่อสู้

เพราะพระยาห์เวห์ ทรงยินดีในคนของพระองค์
pixels : Luis Quintero


ชวนกันสรรเสริญพระเจ้า
1 สรรเสริญพระยาห์เวห์
มาร้องเพลงบทใหม่ถวายพระยาห์เวห์
มาร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
ในที่ประชุมของเหล่าผู้ติดตามพระองค์
2 ให้อิสราเอลยินดีในองค์พระผู้สร้างของเขา
3ให้พวกเขาสรรเสริญพระองค์ด้วยการเต้นรำ
ส่งทำนองเพลงถวายพระองค์ด้วยรำมะนา และพิณเขาคู่
4 เพราะพระยาห์เวห์ ทรงยินดีในคนของพระองค์
พระองค์ทรงตกแต่งคนที่ใจถ่อมด้วยความรอด
5 ขอให้คนของพระองค์ยินดีในพระสิริ
ให้พวกเขาร้องเพลงด้วยความยินดีบนที่นอนของเขา

คำสรรเสริญกับการต่อสู้ศัตรู
6 ให้เพลงสรรเสริญอยู่ในลำคอของพวกเขา
และมีดาบสองคมอยู่ในมือ
7 เพื่อตอบโต้ชาติต่าง ๆ เพื่อลงโทษชนชาติทั้งหลาย
8 เพื่อล่ามโซ่บรรดากษัตริย์
และสวมตรวนเหล็กให้เหล่าขุนนาง
9 เพื่อลงโทษตามคำพิพากษาที่บันทึกไว้แล้ว
นี่เป็นเกียรติยศสำหรับทุกคนที่ติดตามพระองค์
สรรเสริญพระยาห์เวห์

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 135:1; 33:3; 89:5, 7
2* สดุดี 85:6; สดุดี 95:6; โยบ 35:10;
1 ซามูเอล 12:12; Zech. 9:9
3 *สดุดี 150:4; 30:11; 150:4; อพยพ 15:20; สดุดี 150:3
4* สดุดี 35:27; 147:11; อิสยาห์ 61:3
5* โยบ 35:10; สดุดี4:4; 63:6; โฮเชยา 7:14
6* สดุดี 66:17; ฮีบรู 4:12; วิวรณ์ 1:16; 2:12; สุภาษิต 5:4
8* โยบ 36:8
9* อิสยาห์​ 65:6; โยบ 13:26;สดุดี 148:14;

สดุดี 149:1-5 ชวนกันสรรเสริญพระเจ้า
นี่เป็นคำเชิญชวนอีกครั้งให้คนของพระเจ้าสรรเสริญพระองค์ด้วยกัน คำว่า เหล่าผู้ติดตามพระองค์มในข้อ 1 กับคำว่า คนของพระองค์ในข้อ เป็นคำศัพท์ที่มีความหมาย โยงไปถึงคำว่า จงรักภักดี รัก ไว้ใจได้ เมตตา …​

ข้อสองให้อิสราเอลยินดี.. ในพระผู้สร้างนั้น คือ พวกเขาควรจะยินดีในพระองค์ วิธีการที่เขาทำได้ชัดเจนคือการเต้นรำและเล่นดนตรีพร้อมไปกับการร้องเพลง นี่เป็นคำชักชวนที่ตรงไปตรงมา การเต้นรำถวายพระเจ้า แตกต่างจากการเต้นรำของโลกที่มีจุดสนใจอยู่ที่คนเต้น แต่การเต้นรำถวายพระเจ้านั้น ออกมาจากหัวใจส่งไปถึงพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ คนที่เต้นนั้นไม่ได้สำคัญในสายตาของตัวเองเลย และนี่ไม่ใช่เป็นการเต้นคู่ แต่เป็นการเต้นของกลุ่มคนที่ต้องการสรรเสริญพระเจ้าด้วยกัน
ข้อสี่บอกเราชัดว่า คนของพระองค์เป็นคนใจถ่อม และความถ่อมใจนี้เป็นความงามในสายพระเนตร เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัยยิ่ง
ที่แปลกมากในข้อห้าคือ ให้พวกเขาร้องเพลงยินดีบนที่นอน เราได้ลองไหม ลองได้เลยว่า เราจะรู้สึกแปลกแตกต่างไปจากที่เราร้องพร้อม ๆ กับคนอื่น ไหม​ การสรรเสริญพระเจ้าไม่ติดกับเวลาและสถานที่เลย …​

สดุดี 149:6-9 คำสรรเสริญกับการต่อสู้ศัตรู
ทำไมสรรเสริญพระเจ้าพร้อมกับดาบสองคม? เมื่ออิสราเอลต้องต่อสู้กับศัตรู พวกเขายังมีอีกอย่างที่ต้องทำในเวลานั้น คือการสรรเสริญพระเจ้าไปด้วย ดูเหมือนการนมัสการพระเจ้า กับการต่อสู้เป็นของคู่กัน ผู้ที่นมัสการพระเจ้าเป็นผู้ที่จะต่อสู้กับศัตรูของพระองค์อย่างกล้าหาญ พวกเขาจะตอบโต้กับศัตรูของพระเจ้าพร้อมกันกับพระองค์
สงครามฝ่ายวิญญาณที่พวกเราเจอก็เช่นกัน ไม่ใช่แค่ตั้งหน้าตั้งตาสู้ แต่เราจะนมัสการพระเจ้ายิ่งใหญ่ของเราไปพร้อมกับที่เราต่อสู้ นี่เป็นคำจากผู้ที่เชี่ยวชาญในการรบและการนมัสการพระเจ้าจากสดุดี!

สดุดี 148 มาสรรเสริญพระเจ้าด้วยกัน

จงสรรเสริญพระองค์เถิด
ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวทั้งสิ้น
Hubble จับภาพ กาแล็กซีสุดสว่าง NASA

สรรเสริญพระเจ้าจากฟ้าสวรรค์
1 สรรเสริญพระนามพระยาห์เวห์
สรรเสริญพระยาห์เวห์จากห้วงฟ้าสวรรค์
สรรเสริญพระองค์จากที่สูงทั้งหลาย
2 มาสรรเสริญพระองค์เถิด
ทูตสวรรค์ทั้งสิ้นของพระองค์
มาสรรเสริญพระองค์เถิด
กองทัพทั้งสิ้นของพระองค์
3 มาสรรเสริญพระองค์เถิด
ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์
และดวงดาวทั้งสิ้นที่ส่องแสงออกมา
มาสรรเสริญพระองค์เถิด
4 มาสรรเสริญพระองค์ ฟ้าสวรรค์ที่อยู่สูงสุด
รวมทั้งน้ำที่อยู่เหนือฟ้าสวรรค์ด้วย
5 จงให้สรรพสิ่งเหล่านั้น
สรรเสริญพระนามพระยาห์เวห์
เพราะเมื่อพระองค์ทรงบัญชา
มันก็ถูกเนรมิตสร้างขึ้นมา
6 และพระองค์ทรงทำให้มันคงอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์
พระองค์ทรงสร้างขอบเขตให้กับมัน
ที่ไม่มีใครอาจ จะข้ามไปได้

สรรเสริญพระเจ้าจากทุกสิ่งในแผ่นดิน
7 สรรเสริญพระยาห์เวห์จากแผ่นดินโลก
เจ้าสัตว์ทะเลขนาดมหึมา และน้ำในที่ลึกทั้งสิ้น
8 ไฟ และลูกเห็บ หิมะและหมอก
ลมพายุที่ทำตามพระบัญชาของพระองค์
9 ภูเขาและเนินเขาทั้งสิ้น
ต้นไม้ผลและต้นซีดาร์ทั้งสิ้น
10 สัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย
สัตว์เลื้อยคลาน และนกที่มีปีก
11บรรดากษัตริย์ในแผ่นดิน
และชนชาติทั้งปวง
เหล่าเจ้านาย และผู้นำของโลก
12 คนหนุ่มรวมไปถึงคนสาว คนชรา
กับเด็กเล็กทั้งหลาย

สรรเสริญพระเจ้าจากประชากรของพระองค์
13 ให้ทั้งสิ้นนี้ สรรเสริญพระนามพระยาห์เวห์
เพราะพระนามของพระองค์เท่านั้น
ที่สมควรรับการยกย่อง
พระสิริตระการของพระองค์
อยู่เหนือแผ่นดินและฟ้าสวรรค์
14 พระองค์ทรงทำให้ประชากรของพระองค์เข้มแข็ง
ทรงเป็นที่สรรเสริญของผู้ที่จงรักภักดีทั้งหลาย
ของคนอิสราเอล ผู้ที่อยู่ใกล้พระองค์
สรรเสริญพระยาห์เวห์

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 135:1; 69:34
; มัทธิว 21:9
2* สดุดี 103:20, 21
4* สดุดี 68:33; เฉลยธรรมบัญญัติ 10:14; เนหะมีย์ 9:6; 1 พงศ์กษัตริย์ 8:27; 1:7
5* ดูข้อ 13; สดุดี 33:6, 9
6* สดุดี 119:90, 91; 28:26; Jer. 31:35, 36; 33:25;
สดุดี 104:9; เอสเธอร์ 1:19; โยบ 14:5
7* ดูข้อ 1; ปฐมกาล 1:21 ; สดุดี 74:13
8* สดุดี 18:12; 105:32
; 147:16; 107:25; 103:20; 147:15-18
9* อิสยาห์ 44:23; 49:13; 55:12
ปฐมกาล 1:11;
สดุดี 104:16
10* ปฐมกาล 1:24
ปฐมกาล 1:20, 21
11* วิวรณ์ 7:9
13* ดูข้อ 5; สดุดี 8:1; สดุดี 113:4
14* 1 ซามูเอล 2:1; เฉลยธรรมบัญญัติ 10:21; เยเรมีย์ 17:14
เฉลยธรรมบัญญัติ 4:7; เอเฟซัส 2:17; สดุดี 135:1


สดุดี 148:1-6 สรรเสริญพระเจ้าจากฟ้าสวรรค์
ผู้เขียนได้ชวนให้ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมา สรรเสริญพระองค์ไปด้วยกันพร้อมกับเขา ไม่ว่าสิ่งนั้นจะอยู่ในอวกาศแสนไกลที่เรามองไม่เห็น ไม่ว่าจะอยู่ในสวรรค์ หรือเป็นเทหวัตถุบนท้องฟ้า ไม่มีอะไรที่จะหยุดให้เขาชวนสรรพสิ่งมาสรรเสริญพระเจ้าได้เลย …
เขาสรุปอย่างน่าชื่นใจว่า พระเจ้าทรงบัญชา มันก็เกิดขึ้นมา และพระเจ้าทรงมีขอบเขตให้กับทุกสิ่งที่ทรงสร้าง มันไม่อาจข้ามไปจากที่พระองค์ทรงวางไว้ได้

สดุดี 148:7-12 สรรเสริญพระเจ้าจากทุกสิ่งในแผ่นดิน
ไม่มีสิ่งใดที่นิ่งอยู่โดยไม่ได้สรรเสริญพระเจ้า ผู้เขียนไม่ได้สนใจเลยว่า สิ่งนั้นจะมีคำงาม ๆ ที่จะสรรเสริญหรือไม่ ความเป็นตัวของมันเอง สรรเสริญพระเจ้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ทูตสวรรค์ ไปจนถึงสัตว์ทุกตัวที่อยู่บนโลก ไม่ว่าจะใหญ่หรือตัวเล็กจนมองไม่เห็นอย่างพวกแพลงตอนในทะเล …
การที่ผู้เขียนชวนสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มาสรรเสริญพระเจ้านั้น น่าสนใจมาก เขาคิดอะไรอยู่จึงชวนกันง่าย ๆ เช่นนี้?

สดุดี 148:13-14 สรรเสริญพระเจ้าจากประชากรของพระองค์
จะปล่อยให้ห้วงอวกาศทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ รวมไปถึง สัตว์ทะเล สรรเสริญพระเจ้า สัตว์ต่าง ๆ คนอื่น ๆ สรรเสริญพระเจ้าหรือ?
พระเจ้าทรงสนพระทัยที่จะฟังคำสรรเสริญจากคนของพระองค์
แล้วพวกเขามีคำสวย ๆ ดี ๆ ที่เหมาะกับพระองค์ไหม?
พวกเขาได้เตรียมอะไรไว้บ้างเพื่อที่จะสรรเสริญพระเจ้าได้อย่างที่สมควรจะทำ?
ตรงนี้เอง เป็นหน้าที่ของคนของพระเจ้าที่จะสรรเสริญพระเจ้าให้ได้งดงามเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า …​อย่าอยู่เฉย ๆ กัน แต่ให้เรา มาจริงจังกับการสรรเสริญพระเจ้ากันเถอะ

สดุดี 147 สรรเสริญพระองค์ผู้อยู่เหนือธรรมชาติ

ทรงทำให้หญ้างอกบนเนินเขา ภาพโดยHilary Halliwell

คนของพระองค์ได้รับการรื้อฟื้นใหม่
1 จงสรรเสริญพระยาห์เวห์
เป็นการดีที่จะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าของเรา
เพราะเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม
(หรือ..เพราะพระองค์ทรงสง่างาม)
และบทเพลงสรรเสริญก็เหมาะสมยิ่งนัก
2 พระยาห์เวห์ทรงรื้อฟื้นเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่
พระองค์ทรงรวบรวมชนอิสราเอลที่กระจัดกระจายไป
3 พระองค์ทรงรักษาคนที่ใจชอกช้ำ
ทรงพันบาดแผลให้
4 พระองค์ทรงกำหนดจำนวนของดวงดาว
และทรงตั้งชื่อให้มันทุกดวง
5 พระเจ้าของเราทรงยิ่งใหญ่นัก
และทรงฤทธานุภาพ
ความเข้าใจของพระองค์ไร้ขอบเขต
6 พระยาห์เวห์ทรงยกคนที่ถูกกดขี่ขึ้น
ทรงเหวี่ยงคนอธรรมลงถึงดิน

แผ่นดินสดชื่นเพราะพระองค์ทรงจัดหาให้
7 จงร้องเพลงถวายพระยาห์เวห์ ด้วยใจขอบพระคุณ
จงสร้างสรรค์ทำนองเพลงด้วยพิณเล็ก
8 พระองค์ทรงเติมเต็มท้องฟ้าด้วยเมฆ
ทรงเตรียมสายฝนให้ผืนดิน
ทรงทำให้หญ้างอกขึ้นบนเนินเขา
9 พระองค์ประทานอาหารแก่สัตว์ป่า
และลูกกาที่ร้องเรียก
10 ความเปรมปรีดิ์ของพระองค์ไม่ได้อยู่ที่กำลังของม้า
พระองค์ไม่ทรงยินดีในกำลังขาของมนุษย์
11แต่พระยาห์เวห์ทรงยินดีในคนที่ยำเกรงพระองค์
คนที่มีความหวังใจในความรักมั่นคงของพระองค์

พระเจ้าทรงปกป้องเรา
12 สรรเสริญพระยาห์เวห์ โอ เยรูซาเล็ม
สรรเสริญพระเจ้าของเจ้าเถิด โอ ศิโยน
13 เพราะพระองค์ทรงทำให้ดาลประตูของเจ้าแข็งแกร่ง
ทรงอวยพระพรลูกหลานที่อยู่ภายในเจ้า
14 พระองค์ทรงทำให้ในเขตแดนของเจ้ามีสันติ
พระองค์ทรงทำให้เจ้าอิ่มหนำด้วยข้าวสาลีดีที่สุด

15 พระองค์ทรงบัญชาผืนแผ่นดิน
พระดำรัสของพระองค์วิ่งไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็ว!
16 พระองค์ทรงโปรยหิมะให้ราวขนแกะปุกปุย
พระองค์ทรงโปรยน้ำค้างแข็งให้ราวกับเถ้า
17 พระองค์ทรงเขวี้ยงลูกเห็บราวกับก้อนขนมปัง
ใครจะทนความหนาวเย็นยะเยือกที่มาจากพระองค์ได้?
18 พระองค์ทรงส่งพระดำรัสของพระองค์
และละลายมันเสีย
ทรงให้ลมหายใจของพระองค์พัดมา
และน้ำก็เคลื่อนตัวไป
19 พระองค์ทรงกล่าวพระดำรัสแก่ยาโคบ
รวมทั้งกฎเกณฑ์และกฎหมายของพระองค์แก่อิสราเอล
20 พระองค์มิได้โปรดทำอย่างนั้นกับชนชาติต่าง ๆ
พวกเขาจึงไม่รู้จักกฎหมายของพระองค์
สรรเสริญพระยาห์เวห์

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 135:1, 92:1, 135:3
,33:1
2* สดุดี 51:18; 102:16
เฉลยธรรมบัญญัติ 30:3; อิสยาห์ 11:12; 27:13; 56:8; เอเสเคียล 39:28
3* สดุดี 34:18
เอเสเคียล 34:16
147:4* ปฐมกาล 15:5
อิสยาห์ 40:26
5* สดุดี 48:1
เนหะมีย์ 1:3
อิสยาห์​40:28; โยบ 5:9
6* สดุดี 146:8, 9
7* อพยพ 15:21; สดุดี 95:1, 2
; 1 พงศาวดาร 15:16
8* โยบ 5:10; สดุดี 104:14;โยบ 38:27
9* สดุดี 104:27, 28; โยบ 38:41; สดุดี 147:10-11;
สดุดี 149:4; 33:18
13* เนหะมีย์​ 7:3
14* อพยพ 34:24; สุภาษิต 16:7; อิสยาห์ 60:17, 18; สดุดี 132:15
; 81:16; เฉลยธรรมบัญญัติ32:14
15* สดุดี 148:8;
16* โยบ 37:6; 38:29
17* โยบ 37:10; 37:9
18* ข้อ 15; โยบ 37:12; สดุดี 33:9; 107:20
19*มาลาคี 4:4; สดุดี 78:5; เฉลยธรรมบัญญัติ 33:2-4
20* เฉลยธรรมบัญญัติ 4:7; 4:32-34; สดุดี 135:1

คำอธิบายเพิ่มเติม

สดุดีบทนี้ เขียนหลังจากที่อิสราเอลกลับมาจากการเป็นเชลยที่บาบิโลน และพระเจ้าทรงช่วยให้พวกเขาได้กลับมา ได้สร้างเมืองขึ้นมาใหม่ ความชอกช้ำใจที่พวกเขาได้เจอมานานเจ็ดสิบปี ทำให้พวกเขาได้เห็นพระคุณของพระเจ้าที่ทรงนำพวกเขากลับมาอย่างที่ทรงสัญญาจริง ๆ และพวกเขารู้ว่า พระเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้เขาพ้นจากความทุกข์ใจ ความชอกช้ำใจที่ผ่านมา
ตอนนี้พวกเขาเข้ามาชุมนุมสรรเสริญพระเจ้าด้วยกัน

สดุดี 147: 1-6 คนของพระองค์ได้รับการรื้อฟื้นใหม่
สิ่งที่กล่าวถึงอย่างแรกคือ ให้ประชาชนมารวมกันสรรเสริญพระเจ้า เพราะเป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง พระเจ้าทรงรื้อฟื้นพวกเขา ทรงนำให้กลับมา ทรงช่วยให้สร้างเมืองขึ้น ทรงรักษาบาดแผลในใจ
สิ่งแรกที่คิดถึงคือ พระเจ้าทรงสร้างดวงดาวมากมายบนท้องฟ้า ทรงรู้จัก ทรงตั้งชื่อ ทรงวางตำแหน่งให้มันอย่างเหมาะสมตามน้ำพระทัย เมื่อคิดได้อย่างนี้ พวกเขาก็รู้ว่า พระองค์ทรงทำยิ่งกว่านั้นเพื่อพวกเขา ทรงเป็นผู้ยกเขาขึ้น ทรงเป็นผู้จัดการคนอธรรมให้
สิ่งที่เราต้องจดจำไว้ในใจ และตระหนักให้ชัดเจนคือ พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่มาก ทรงฤทธิ์ และความเข้าใจของพระองค์เกินที่เราจะเข้าใจ เป็นสิ่งที่เราต้องติดตามหาตลอดชีวิต

สดุดี 147:7-11 แผ่นดินสดชื่นเพราะพระองค์ทรงจัดหาให้
การกลับคืนสู่แผ่นดินคือ เท่ากับพวกเขาต้องมาสร้างทุกอย่างใหม่ ทั้งบ้านเรือน ทั้งเกษตรกรรม
พระองค์เท่านั้นเป็นผู้ให้อาหารแก่พวกเขาและสัตว์ทั้งหลาย ฝนมาจากพระเจ้า
พวกเขาตระหนักว่า สิ่งเดียวที่ทำให้พระเจ้ายินดีในพวกเขาได้คือ ที่เขาจะยำเกรงพระองค์ หวังใจในรักมั่นคงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คนอิสราเอลมักคิดได้ และก็ลืม ตอนนี้ผู้เขียนกำลังบอกพวกเขาชัดเจนว่า สิ่งสำคัญที่สุดในความสัมพันธ์กับพระเจ้าคืออะไร
และความจริงข้อนี้ เป็นความจริงสำหรับชีวิตเราในโลกปัจจุบันเช่นกัน

สดุดี 147:12-20 คำอันทรงฤทธิ์ที่ปกป้องจากพระเจ้า
เมื่อกลับมาจากการเป็นเชลย ได้มาอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอน บ้านของพระเจ้า พวกเขาร้องเพลงที่จะไม่ลืมว่า ความแข็งแกร่งของครอบครัว ของประเทศ ของเมือง อยู่ที่พระเจ้าเท่านั้น สันติภาพที่หายากในโลก มีที่พระเจ้าองค์เดียวเหมือนที่พระเยซูตรัสว่า สันติสุขที่เราให้ไม่เหมือนโลกให้
เมื่อเราพิจารณาความเชื่อมั่นและการบรรยายของผู้เขียน สรุปได้ว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกธรรมชาตินี้ พระเจ้าทรงเป็นผู้ดูแลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหิมะ ลม ฝน น้ำค้าง ลูกเห็บ น้ำในทะเล ต่างก็อยู่ในการควบคุมของพระองค์ เมื่อมนุษย์ทำให้เสียสมดุลย์ สิ่งที่เขาควรทำคือ แต่ละคน แต่ละชาติ ดูแลให้มันกลับสู่สภาพที่สามารถทำงานได้ดีที่สุดอย่างที่เคยเป็นมา มนุษย์สร้างความเจริญที่แลกมาด้วยอากาศ สภาพแวดล้อมเสียหายอย่างรุนแรง แต่เชื่อว่า ความจริงแล้ว เราสามารถช่วยกันแก้ไขได้แน่ ถ้าจะทำ…
กฎเกณฑ์ และกฎหมายของพระเจ้านี่แหละที่จะช่วยแก้ไขได้ เพราะทุกอย่างต้องเริ่มจากความไม่เห็นแก่ตัว เราจึงประกาศพระนามพระเยซู เพื่อให้ความรักของพระองค์เข้าไปอยู่ในใจของพระองค์ ให้รู้จักกฎเกณฑ์ของพระองค์ รู้จักความรักของพระเจ้า ที่จะเอื้อเฟื้อต่อกัน แล้วสมดุลย์ต่าง ๆ ในธรรมชาติจะเกิดขึ้นได้จากการร่วมมือกันอีกครั้ง