นาฮูม 3 วิบัติแก่นครโลหิต!

ขุนนางทั้งหลายเป็นเหมือนฝูงตั๊กแตน

ภาพการถูกโจมตี
1 วิบัติแก่นครแห่งโลหิต
เต็มด้วยการหลอกลวง เต็มด้วยการปล้นสะดม 
มันไม่เคยขาดผู้คนที่เป็นเหยื่อเลย
2  เสียงแส้หวดลงไป และเสียงล้อรถศึกขยี้ถนน
เสียงม้าควบกุบกับพร้อมรถม้าศึกที่ทยานออกไป
3  พลม้าบุกทะลวงเข้าไป
ดาบส่องประกายวับวาบ หอกสะท้อนแสง
ผู้คนล้มตายเป็นเบือ  ศพกองเป็นพะเนิน
ศพนอนตายไม่จบสิ้น
พวกเขาเดินสะดุดร่างไร้ชีวิตของพี่น้องร่วมชาติ 
4  เป็นเพราะการยั่วยวนของเหล่าหญิงโสเภณีที่ไม่หยุด 
ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ด้วยคาถาแห่งความตาย
นางทรยศชาติต่าง ๆ ด้วยความเร่าร้อน
นางทรยศผู้คนด้วยมนต์แม่มด 
5  พระยาห์เวห์องค์จอมทัพทรงประกาศว่า
“เราต่อต้านพวกเจ้า (2:13)
เราจะถลกกระโปรงของเจ้าไปคลุมหน้าของเจ้า
และทำให้ชาติต่าง ๆ ได้เห็นความเปลือยเปล่าของเจ้า 
ให้อาณาจักรต่าง ๆ ได้เห็นความอัปยศอดสูของเจ้า
6  เราจะสาดสิ่งโสโครกใส่เจ้า
และจัดการกับเจ้าด้วยความรังเกียจ
เราจะประจานเจ้า
7  แล้วคนทั้งหลายที่เห็นเจ้าจะหนีห่างไปจากเจ้า กล่าวว่า
“นีนะเวห์พังพินาศไปแล้ว ใครจะมาสงสารเล่า?
เราจะไปหาใครมาปลอบโยนเจ้าเล่า?

ภาพการถูกโจมตี
3:1 นาฮูมได้ทำให้เรารู้ว่า อัสซีเรียมีชื่อเสียงในโลกโบราณว่าเป็นชาติแห่งการหลอกลวง เที่ยวปล้นไปทั่ว พวกเขาพร้อมที่จะเอาประโยชน์จากชนชาติอื่นด้วยความรุนแรง
3:2 อัสซีเรียเป็นชาติที่เข้าไปบุกประเทศต่าง ๆ เชี่ยวชาญการใช้ม้าศึก
3:3 นี่เป็นภาพเหตุการณ์ของการที่กองทัพอัสซีเรียบุกเข้าไปโจมตีประเทศนั้นประเทศนี้ พวกเขาฆ่าคนตายอย่างไม่มีความปรานี
มีการค้นพบแผ่นจารึกนับพันแผ่น ในหุบเขาเมโสโปเตเมียแสดงให้เห็นถึงความเชื่อทางไสยศาสตร์อันน่าสะพรึงกลัว เวทมนตร์คาถาหลายร้อยบทถูกเปิดเผยออกมาให้คนในปัจจุบันได้เห็นด้วย
3:4 การยั่วยวนของโสเภณี ไม่ได้หมายความแค่กิจกรรมทางเพศ แต่รวมไปถึงความเชื่อในเทพต่าง ๆ ที่มีพิธีกรรมอุบาทว์ น่าเกลียดน่าชัง
3:5 พระเจ้าตรัสอีกว่า พระองค์ทรงต่อต้านอัสซีเรีย น่ากลัวไหมหากพระเจ้าตรัสกับประเทศใด หรือผู้นำของประเทศใดเช่นนี้?
พระองค์จะทรงเปิดโปงความชั่วร้าย ความน่าเกลียดน่าชังของพวกเขาให้ทั้งโลกได้เห็น ที่ว่าเก่งนั้น เบื้องหลังคืออะไร
3:6 อัสซีเรียจะถูกประจาน กลายเป็นที่น่ารังเกียจของชนชาติต่าง ๆ ภาพนี้คือ พวกเขาถูกสาดด้วยอุจาระและต้องยืนต่อหน้าคนทั่วไป
3:7 ไม่มีใครเสียดายกับหายนะของอัสซีเรีย และนครนีนะเวห์ ต่างสมน้ำหน้า ปกติแล้วในงานศพของผู้คนก็สามารถจ้างคนมาร้องไห้โหยหวนแสดงความอาลัยได้ แต่หายนะของนีนะเวห์นั้น ไม่อาจจ้างใครมาปลอบใจได้เลย ไม่มีใครรับจ้างคร่ำครวญเผื่อเมืองนั้น!


เปรียบเทียบให้เห็น
8  เจ้าดีกว่า เธเบสซึ่งตั้งริมฝั่งแม่น้ำไนล์
ซึ่งมีน้ำล้อมรอบอย่างนั้นหรือ?
เธเบสมีน้ำทะเลเป็นปราการและมีแม่น้ำเป็นกำแพง
 9 คูชและอียิปต์เป็นกำลังที่ไม่มีวันหมดสำหรับเธอ 
พูตและลิเบียก็เป็นพันธมิตรของเธอด้วย 
10  ถึงอย่างนั้น เธอกลับต้องถูกเนรเทศ
และจะไปเป็นเชลย
ลูก ๆ ถูกฟาดแหลกเป็นชิ้น ๆ ที่หัวถนนทุกสาย
เขาจับฉลากตัดสินเลือกคนที่มีเกียรติ
และคนสูงศักดิ์ต่างถูกล่ามโซ่

เปรียบเทียบให้เห็น
3:8 นาฮูมเปรียบเทียบการล่มสลายของนีนะเวห์กับเมืองเธเบส เมืองนี้ยิ่งใหญ่ และมีศักยภาพสูงมาก เมืองนี้มีสภาพทางภูมิศาสตร์คล้ายนีนะเวห์ 663 ปีก่อนคริสตศักราช เมืองเธเบสในอียิปต์ล่มลงด้วยการบุกของจักรพรรดิซาร์กอนแห่งอัสซีเรีย
3:9-10 นาฮูมบอกให้รู้ว่า แม้จะมีพันธมิตร แต่พวกเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ และสิ่งที่อัสซีเรียทำกับเธเบสก็โหดเหี้ยม รุนแรง ไร้มนุษยธรรมอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น นีนะเวห์ก็จะไม่สามารถหลบเลี่ยงเหตุกาณณ์อย่างเดียวกันได้


แผ่นดินที่เปิดให้ศัตรู
11 เจ้าเองจะเมามาย เจ้าจะหลบซ่อนตัว
และหาที่ลี้ภัยจากศัตรูของตนเอง 
12 ป้อมปราการทั้งหมดของเจ้า
เป็นเหมือนต้นมะเดื่อ ที่มีผลสุกรุ่นแรก
ถ้าหากไปเขย่า ผลนั้นจะร่วงเข้าปากของผู้ที่มากิน!
13  ดูสิ กองทัพของเจ้าเป็นเหมือนผู้หญิง
แล้วประตูเมืองในแผ่นดินของเจ้าก็เปิดกว้างให้ศัตรู
ไฟจะเผาผลาญลูกกรงประตูเมืองของเจ้า
14 จงเตรียมเก็บน้ำไว้เพราะเมืองจะถูกล้อม
จงเสริมกำแพงป้องกันเมืองให้แข็งแรง 
เตรียมดินเหนียว ย่ำปูนผสมทราย น้ำ
เตรียมแบบหล่อสำหรับทำอิฐ  
15 ไฟจะเผาผลาญเจ้าที่นั่น
ดาบจะฟาดฟันเจ้า
มันจะขย้ำกินเจ้าเหมือนอย่างตั๊กแตน 
จงทวีจำนวนคนให้มากเหมือนอย่างตั๊กแตน 
ทวีจำนวนคนให้มาเป็นฝูงตั๊กแตน

แผ่นดินที่เปิดให้ศัตรู
3:11 ขณะที่ศัตรูบุก ชาวนีนะเวห์กำลังเมาไม่รู้เรื่อง เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น แทนที่จะหนี กลับพยายามหลบซ่อนตัว แม้กระทั่งขอร้องศัตรูว่าช่วยเป็นที่กำบังให้ฉัน! เป็นภาพที่น่าสมเพชมากสำหรับเมืองและกองทัพที่เก่งกล้า
3:12-13 ป้อมปราการที่แข็งแรงในสายตาของใครต่อใคร (ซึ่งเป็นป้อมที่หนามาก ๆ ) แข็งแกร่งเพียงใด นาฮูมก็บอกว่า กลับกลายเป็นเหมือนต้นมะเดื่อที่ถูกทำลายได้ง่าย ๆ ประตูเมืองไม่ได้ปิดไว้ สิ่งที่ใช้ในสงครามเพื่อการทำลายในโลกโบราณคือไฟ และไม่ได้ต่างอะไรกับสงครามในปัจจุบันเลย
3:14-15 นาฮูมพูดเหมือนเยาะเย้ยให้รีบเสริมกำแพงเมืองให้แข็งแรงทั้งที่ ไม่มีเวลาเหลือแล้ว ศัตรูใช้เวลาสองปีในการยึดเมืองทั้งหมด นักโบราณคดีได้ค้นพบว่า เมืองนีนะเวห์ถูกเผาเพราะมีซากของเถ้าถ่านให้เห็นอย่างชัดเจน

ส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองนีนะเวห์
ภาพจากวิกิมีเดีย



ไว้ใจใครไม่ได้เลย
16 เจ้าได้เพิ่มจำนวนพ่อค้าให้มากกว่าดาวบนท้องฟ้า
แต่พวกเขากัดกินแผ่นดินจนโล่งเตียนราวกับตั๊กแตน
จากนั้น ก็บินจากไป
17 เหล่าขุนนางทั้งหลายเป็นเหมือนฝูงตั๊กแตน 
อาลักษณ์ของเจ้าเป็นเหมือนฝูงตั๊กแตนที่เกาะบนกำแพง
ในวันหนาวเย็น ​ เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น มันก็บินหนีไป
ไม่มีใครรู้ว่า พวกมันอยู่ที่ไหน
18 โอ กษัตริย์แห่งอัสซีเรีย
เหล่าคนเลี้ยงแกะของเจ้านอนหลับใหลอยู่
ขุนนางของเจ้าก็ง่วงอยู่ 
ประชากรของเจ้ากระจัดกระจายไปตามภูเขา
โดยไม่มีใครช่วยรวบรวมพวกเขาให้อยู่ด้วยกัน
19 ไม่มีสิ่งใดที่จะช่วยรักษาบาดแผลของเจ้า 
บาดแผลนั้นสาหัสนัก
คนที่ได้ยินเรื่องราวของเจ้า
จะตบมือดีใจกับการล้มลงของเจ้า
มีใครบ้าง
ที่ไม่ได้พบเจอกับความโหดร้ายอันไม่จบสิ้นของเจ้า?


ไว้ใจใครไม่ได้เลย
3:16 แม้ว่าการเงิน การค้าจะคล่องตัว แต่ก็ไม่ให้ประโยชน์ใด ๆ กับนครเลย เพราะพวกเขาต่างเอาประโยชน์เข้าตัวแล้วก็หนีจากไปเมื่อได้อย่างที่ต้องการ
3:17 ข้าราชการทั้งหลายของอัสซีเรียก็เช่นกัน พวกเขามาแค่เกาะกินสิ่งที่ต้องการ จากนั้น เมื่อได้ประโยชน์จนไม่มีอะไรเหลือแล้ว พวกเขาก็ไม่อยู่รับใช้อีกต่อไป กษัตริย์จะเป็นคนสุดท้ายที่รู้ว่า ใคร ๆ ก็หนีไปหมดแล้ว อย่างไรก็จะพบหายนะแน่นอน
3:18 หากคนเลี้ยงแกะหลับ แกะก็จะมีอันตรายไม่มีใครปกป้องได้ ดังนั้น จะเห็นว่า ขุนนางไม่ได้ทำงาน เอาแต่มีความสุขไปวัน ๆ
3:19 ไม่มีประเทศไหนจะมาเห็นใจอัสซีเรีย ทุกประเทศจะดีใจ ร่าเริงกับหายนะของนีนะเวห์ ภาพที่นาฮูมเล่านั้น ชัดเจนมาก พวกเขาจะตบมือให้เมื่อนีนะเวห์ล่ม เพราะทุกคนต่างผ่านความโหดเหี้ยมของพวกเขามาทั้งสิ้น

พระคำเชื่อมโยง

นาฮูม 3
1* ฮาบากุก 2:12
4* อิสยาห์ 47:9-12
5*นาฮูม 2:13; อิสยาห์ 42:2-3
6* นาฮูม 1:14; ฮีบรู 10:33
7* วิวรณ์ 18:10; โยนาห์ 3:3; 4:11 ;
เยเรมีย์ 15:5


8*อาโมส 6:2; เยเรมีย์ 46:25
9* เอเสเคียล 27:10
10* โฮเชยา 13:16;
เพลงคร่ำครวญ 2:19;โยเอล 3:3
11* นาฮูม 1:10
12* วิวรณ์ 6:12-13
13* อิสยาห์ 19:16; เยเรมีย์ 51:30

14* นาฮูม 1:10
15* โยเอล 1:4
16* วิวรณ์ 18:3; 11-19
17* วิวรณ์ 9:7
18* สดุดี 76:5-6; เยเรมีย์ 50:18; 1 พงศ์กษัตริย์ 22:17
19* มีคาห์ 1:9; เพลงคร่ำครวญ 2:15

นาฮูม 2 เราต่อต้านเจ้า!

รถศึกควบอย่างบ้าคลั่งไปตามถนน !

หายนะของนีนะเวห์
1 มีผู้หนึ่งที่จะทำให้เจ้ากระจัดกระจายไป
กำลังบุกเข้ามา
จงเสริมกำลังคนป้องกันป้อมปราการ
เฝ้าถนนให้ดี
เตรียมตัวพร้อมสู้ 
รวมพลังทั้งหมดที่มี
2 เพราะพระยาห์เวห์
จะ ทรงฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของยาโคบ 
ให้เหมือนกับความยิ่งใหญ่ของอิสราเอล

แม้ผู้ที่มาปล้นได้ปล้นพวกเขา
และทำลายเถาองุ่นของพวกเขา
3 โล่ของนักรบเขาเป็นสีแดง
และนักรบผู้กล้าก็สวมชุดแดงเข้ม
รถศึกนั้น ส่องประกายดั่งเปลวไฟ 
ในวันที่พวกเขาเตรียมพร้อมทำศึก
และนักรบกวัดแกว่งหอกไม้สน 
4 รถศึกควบอย่างบ้าคลั่งไปตามถนน 
มันวิ่งไปผ่านลานเมือง
มองดูเหมือนคบเพลิงลุกโชติช่วง
มันวิ่งไปมาดั่งสายฟ้าแลบ
5 เขาสั่งการเหล่าทหาร
พวกเขาสะดุดล้มขณะที่กำลังบุกไป
พวกเขาวิ่งไปยังกำแพงเมือง
เพื่อตั้งโล่ป้องกันในที่ของมัน

หายนะของนีนะเวห์
2:1 คำสั่งเหล่านี้ เหมือนเป็นคำสั่งที่จะเย้ยหยันว่า
นีนะเวห์รอดไปได้หรือ? เพราะตอนนี้ มีกองทัพใหญ่บุกเข้ามาแล้ว เป็นกองทัพที่พระเจ้าทรงส่งมาเอง ผู้ที่บุกเข้ามาจะเป็นคนที่ทำให้อัสซีเรียกระจัดกระจายไป ดังนั้นคนที่สำคัญ ผู้บัญชาการแท้จริงที่ทำให้อัสซีเรียพินาศคือพระยาห์เวห์ของอิสราเอล!
อัสซีเรียเองได้เตรียมกองทัพใหญ่ไว้ก่อนหน้าทั้งเพื่อจะโจมตีและรับมือศัตรู
(เอเสเคียล 23:24 บอกให้รู้ว่าสรรพาวุธของกองทัพอัสซีเรียมีอะไรบ้าง)

2:2 พระเจ้าทรงแจ้งให้อิสราเอลรู้ว่า แม้พวกเขาจะพ่ายแพ้ แต่วันหนึ่งพระองค์จะทรงนำเขากลับมาสู่การรื้อฟื้นอีกครั้ง ขณะที่นีนะเวห์กำลังจะล่มจม คนของพระเจ้าจะรับการฟื้นฟูใหม่ ที่กล่าวถึงยาโคบก็เพื่อให้ระลึกถึงประสบการณ์ชีวิตต่าง ๆ ที่ยาโคบ และบรรพบุรุษได้ผ่านมา ส่วนคำอิสราเอลก็หมายถึงความงดงาม ยิ่งใหญ่ที่จะกลับมาอีกครั้งยังลูกหลานของบรรพบุรุษเหล่านั้น

2:3-4 ต่อจากนี้ไปเป็นภาพการยึดนครนีนะเวห์ เป็นภาพที่ชัดเจนราวกับภาพยนต์ นักรบของศัตรูใส่เสื้อแดงเข้ม โล่ก็สีแดง รถศึกเหมือนเพลิงไฟ นักรบแกว่งหอกอย่างน่ากลัว การบุกเข้ามานั้น ไม่ใช่ช้าเชื่องแต่รวดเร็ว ปราดเปรียว พร้อมประจัญบาน อัสซีเรียจะสู้ได้หรือเปล่า?  

2:5 นักรบพยายามที่จะวิ่งไปที่กำแพงเมืองเพื่อตั้งรับ แต่ก็สะดุดล้ม ไม่ใช่คนเดียวแต่หลายคนพร้อม ๆ กัน
ยิ่งเป็นอย่างนี้ ยิ่งกลัวลาน



การทำลายที่ท่วมท้น
6 ประตูแม่น้ำถูกเปิดออก
และราชวังก็พังไปกับสายน้ำ 
7 หญิงงามถูกปลดอาภรณ์ 
เธอถูกจับตัวไป
เหล่าหญิงรับใช้ก็ร้องครวญเหมือนนกพิราบ
และตีอกของตนเอง 
8 นีนะเวห์
เป็นเหมือนบ่อที่น้ำกำลังทะลักไหลออก 
พวกเขาร้องว่า “หยุด หยุด”
แต่ไม่มีใครหันหลังกลับมา
9  “จงปล้นเงิน และปล้นทอง!”
ทรัพย์สมบัติมีมากมายไม่มีหมดสิ้น
สิ่งที่มีค่านั้นมีเหลือเฟือ 
10 ที่รกร้าง ความวิบัติ ความหายนะ! 
ใจหวาดผวา เข่าสั่นระรัว
ทรมานไปทุกส่วนของร่างกาย
ใบหน้าของทุกคนซีดเผือด

การทำลายที่ท่วมท้น
2:6 นักโบราณคดีพบว่า มีร่องรอยของน้ำท่วมที่น่าจะเกี่ยวพันกับหายนะของเมืองในครั้งนี้ และการบุกของศัตรูก็น่าจะเป็นการเข้ามาในประตูแม่น้ำ ในช่วงน้ำหลากด้วย
2:7-8 พวกผู้หญิงถูกปล้นเครื่องประดับเงินทอง อัญมณีต่าง ๆ ทุกอย่างถูกจับไปเป็นเชลย ไม่รู้ชะตากรรมว่าจะเป็นอย่างไร นีนะเวห์ถูกปล้นไปอย่างรวดเร็ว แม้จะมีคนร้องให้หยุด แต่ศัตรูที่ไหนจะฟัง

2:9-10 ทรัพย์สินที่นีนะเวห์มีอยู่นั้น ก็ต่างได้มาจากการยึด การปล้นประเทศชาติต่าง ๆ เข้ามา พวกเขามีทรัพย์มากมายให้ศัตรูมาขนไป
อัสซีเรียได้สร้างความหวาดกลัวให้ผู้อื่น ตอนนี้พวกเขาเองหวาดกลัวยิ่งกว่าอีก

เราต่อต้านเจ้า
11 ไหนล่ะ ถ้ำของสิงห์
ที่ ๆ มันใช้เลี้ยงดูลูก ๆ ของมัน?
ที่ ๆ พ่อแม่สิงโตหาเหยื่อ
ที่ ๆ ลูกของมันอยู่อย่างไม่มีใครรบกวน อยู่ที่ไหนกัน?
12 สิงโตได้ล่าเหยื่อมาให้ลูกของมัน 
มันขย้ำคอเหยื่อเพื่อให้สิงห์ตัวเมีย
มันเติมถ้ำของมันด้วยเหยื่อที่หามาจนเต็ม
และเติมที่อยู่ของมันด้วยเหยื่อที่มันฉีกเนื้อสด ๆ  
13 องค์พระยาห์เวห์องค์จอมทัพทรงประกาศดังนี้
“เราต่อต้านเจ้า เราจะเผารถศึกของเจ้าจนควันคลุ้ง
และดาบจะฟันฟาดลูกสิงโตของเจ้า
เราจะเอาเหยื่อของเจ้าออกไปจากโลกนี้
และจะไม่มีใครได้ยินเสียงของพวกผู้ส่งข่าวของเจ้าอีกต่อไป”

เราต่อต้านเจ้า 
2:11 นีนะเวห์เป็นเมืองที่มีสิงโตเป็นเครื่องหมายยืนยันว่าเป็นเจ้าแห่งโลกนี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะทำตัวเหมือนสิงโตที่กัด ฉีก ขย้ำ จนเหยื่อตายเป็นเบือ แต่ตอนนี้ นาฮูมถามว่า พ่อ แม่สิงโตอยู่ที่ไหน ? ที่ว่าเก่งนัก ตอนนี้ไม่เหลืออำนาจแล้ว

2:12 นาฮูมเปรียบนีนะเวห์เหมือนกับถ้ำสิงห์ ที่สามารถเติมความมั่งคั่งให้กับตนเองไม่หยุดหย่อน

2:13 บาบิโลน ได้ทำลายนครนีนะเวห์จนสิ้นซาก แต่ผู้ที่ส่งบาบิโลนมาคือ พระยาห์เวห์ผู้ประกาศประกาศิตสุดท้าย พระองค์ตรัสชัดเจนว่า พระองค์ทรงต่อต้านอัสซีเรีย เป็นคำตรัสที่น่ากลัวสำหรับอัสซีเรีย และสำหรับทุกคนที่จะได้ยินคำนี้


พระคำเชื่อมโยง

นาฮูม 2
9* เศฟันยาห์ 1:18
10* เปรียบเทียบ โยเอล 2:6
11* โยบ 4:10-11
12* เยเรมีย์ 51:34
13* นาฮูม 3:5; 2

นาฮูม 1 พระเจ้าแห่งอิสราเอล!

พระองค์จะทรงทำลายปฏิปักษ์ของพระองค์ ด้วยมวลน้ำท่วม

1 คำพยากรณ์ที่หนักใจเกี่ยวข้องกับนครนีนะเวห์
หนังสือนิมิตของนาฮูม ชาวเอลโขช

พระเจ้าทรงเป็นผู้ใด? ใครรู้บ้าง?
2  พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงหวงแหน และทรงแก้แค้น พระองค์ทรงพิโรธอย่างแรงกล้า
พระยาห์เวห์ทรงแก้แค้นเหล่าศัตรูของพระองค์
พระองค์ทรงพิโรธต่อศัตรูของพระองค์
3 พระยาห์เวห์ทรงกริ้วช้า
แต่ทรงฤทธิ์เต็มด้วยอานุภาพมหาศาล 
พระยาห์เวห์จะไม่ทรงให้คนผิดลอยนวล 
หนทางของพระองค์อยู่ในพายุหมุนและลมพายุกล้า
และหมู่เมฆคือผงฝุ่นใต้ฝ่าพระบาทของพระองค์
4 พระองค์ทรงกำราบทะเลให้แห้ง
และทรงทำให้แม่น้ำทั้งหลายแห้งเหือดลง
บาชาน และคารเมลก็เหี่ยวเฉา
รวมไปถึงดอกไม้แห่งเลบานอน
5 ภูเขาทั้งหลายสั่นสะเทือนต่อพระพักตร์พระองค์
และเนินเขาทั้งหลายก็ละลายไป
แผ่นดินโลกสั่นไหวหวาดหวั่นต่อพระพักตร์พระองค์ 
ทั้งโลกและทุกสิ่งที่อาศัยในโลก
6 ใครจะทนทานต่อความเดือดดาลของพระองค์ได้?
ใครจะทนต่อความกริ้วอันร้อนแรงของพระองค์ได้?
พระพิโรธถูกเทออกมาดั่งกองไฟ
แม้กระทั่งหินก็ยังแหลกละเอียดต่อพระพักตร์พระองค์

1:1  ชื่อของนาฮูม มีความหมายว่า ปลอบใจ แต่ท่านกำลังต้องกล่าวคำพยากรณ์ที่ทำให้หนักใจ เป็นกังวลมากต่อเมื่อนีนะเวห์ ซึ่งไม่ใช่คนของพระเจ้า แต่เป็นศัตรูที่พระเจ้าเคยใช้มากวาดคนทั้งสิบเผ่าทางเหนือไปเป็นเชลย พวกเขาเคยได้รับคำเทศนาจากโยนาห์ประมาณปี 792-753 ปีก่อนคริสตศักราช ส่วนนาฮูมน่าจะกล่าวคำเหล่านี้ประมาณ 612 ปีก่อนคริสตศักราช ซึ่งต่อมานีนะเวห์ล่มเมื่อประมาณ 609 ปีก่อนคริสตศักราช (เป็นช่วงรัชสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์ กษัตริย์ของยูดาห์ ทางใต้)
พระเจ้าทรงเป็นผู้ใด? ใครรู้บ้าง?
1:2 ที่พระเจ้าทรงพิโรธต่อนีนะเวห์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอัสซีเรียเป็นอย่างมากเพราะความโหดร้าย รุนแรงของกษัตริย์ และกองทัพของอัสซีเรีย ที่มีต่อประเทศชาติทั่วไป และที่ทำต่อคนอิสราเอลด้วย ก่อนอื่นใด นาฮูมได้ทำให้เห็นว่า พระเจ้าทรงรู้สึกโกรธเพียงใด ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ความหวงแหนของพระเจ้าไม่เหมือนของมนุษย์ที่เป็นคนบาป แต่ความหวงของพระองค์คือ พระองค์ทรงเป็นห่วงสิ่งที่พระองค์ทรงเห็นว่ามีค่า และพระองค์ทรงประสงค์จะรักษาไม่ให้มันเสียไป หรือเป็นมลทิน
1:3 แม้ว่าพระเจ้าจะทรงกริ้วช้า (ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อชาวโลกที่ทำบาปต่อพระองค์) แต่พระองค์ทรงฤทธิ์ยิ่งนัก ถ้าเราอ่านอพยพ 34:6-7 ก็จะเห็นว่า พระองค์ทรงอธิบายให้โมเสสเห็นชัดว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าอย่างไร แบบไหน
ในขณะที่ผู้คนโลกโบราณถือว่า พายุ ลม ทะเล เมฆ และดาวต่าง ๆ เป็นพระเจ้า แต่พระเจ้าของอิสราเอลทรงเป็นพระเจ้าเหนือสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น
1:4 ทะเล แม่น้ำ ภูเขา ผืนป่า ต่างเป็นของพระองค์ทั้งสิ้น เมื่อทรงกำราบ
สิ่งเหล่านั้น มันก็เหี่ยวแห้ง หมดท่าไป
1:5 ตอนที่คนอิสราเอลอยู่เชิงเขาซีนาย พวกเขาได้เห็นภูเขาสั่นสะเทือน พวกเขาพบเจอกับแผ่นดินไหวเพราะพระเจ้าสถิตที่นั่น คนอิสราเอลที่ได้ยินคำของนาฮูม เคยได้ยินเรื่องเหล่านี้ที่พ่อแม่เล่าให้ฟัง ทำให้พวกเขาเข้าใจจริงว่า พระเจ้าของเขาคือผู้ใด … (อพยพ 19)
ดังนั้น อาณาจักรอัสซีเรียนั้น เป็นเรื่องเล็กสำหรับพระองค์
1:6 ภาพที่นาฮูมทำให้เราเห็นนั้น น่าสยดสยองยิ่งนัก ไม่มีใครจะรอดได้จากความกริ้วของพระเจ้า คำว่าเดือดดาลในภาษาไทยเทียบได้กับคำฮีบรูว่า זַעַם (ซาอัม) แปลว่า โกรธมากจนเดือดเหมือนน้ำเดือด ไม่มีใครสามารถยืนหยัดทนได้เลย

หายนะของนีนะเวห์
7  พระเจ้าทรงประเสริฐ
ทรงเป็นที่ป้อมปราการในวันร้าย
พระองค์ทรงดูแลคนที่หลบภัยในพระองค์
8  แต่พระองค์จะทรงทำลายปฏิปักษ์ของพระองค์
อย่างสิ้นเชิงด้วยมวลน้ำท่วม
และจะทรงไล่ศัตรูของพระองค์เข้าไปสู่ความมืด
9 ไม่ว่าพวกเจ้าจะวางแผนต่อต้านพระยาห์เวห์แบบใดก็ตาม พระองค์จะทรงทำให้มันถึงจุดจบแน่
การกดขี่ข่มเหงจะไม่เกิดขึ้นซ้ำสอง
10 เพราะพวกเขาเป็นเหมือนกับดงหนามที่รัดกัน
เหมือนกับคนเมาเป๋ขณะดื่มเหล้า
เหมือนกับตอฟางถูกเผาผลาญจนแห้งสนิท 
11  มีผู้หนึ่งออกมาจากเจ้า
เป็นคนที่วางแผนชั่วต่อต้านองค์พระยาห์เวห์
เป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ชั่วช้าไร้ค่า  

หายนะของนีนะเวห์
1:7 แต่เมื่อพระเจ้าทรงหันมายังคนที่เข้ามาหลบภัยในพระองค์ คือคนที่ยอมรับพระองค์เป็นพระเจ้าของพวกเขา คนที่เป็นของพระเจ้า พระเจ้าคือข่าวดี สำหรับคนที่เป็นคนชั่วร้าย พระเจ้าคือข่าวร้ายของพวกเขา
1:8 สองอย่างที่ศัตรูของพระเจ้าจะพบคือ พวกเขาจะเจอกับน้ำท่วมมิด และความมืดสนิท นั่นคือความตายทั้งฝ่ายร่างกายและฝ่ายวิญญาณ พวกเขาหนีไม่พ้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม จากการขุดค้นทางโบราณคดี เราได้พบว่า บาบิโลนได้เข้ามาและโจมตี เผาเมือง แล้วยังมีมวลน้ำจากแม่น้ำไทกริสเข้ามาท่วมเมืองด้วย น่าเสียดายในช่วงปีที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายไอสิส (Isis)(2004-2019) กำลังมีอำนาจทางความรุนแรงในอิรักนั้น พวกเขาได้ทำลายสถานสำคัญทางโบราณคดีไปไม่น้อย
1:9 มีคนที่วางแผนต่อต้านพระเจ้ามาตั้งแต่สมัยโบราณจนปัจจุบัน พวกเขาไม่อาจทนความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้ แต่ยังคิดว่าตัวเองสามารถจัดการกับพระเจ้าด้วยการพยายามทำลายคนของพระองค์ และทำลายคนที่อ่อนแอกว่า พวกเขาลืมไปว่า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่และสามารถทำให้พวกเขาถึงความพินาศได้ในชั่วพริบตา
1:10 จากคนที่โอ่อ่าตระการ จากกองทัพที่ยิ่งใหญ่ นีนะเวห์จะกลายเป็นเหมือนดงหนาม คนเมา และตอฟางไหม้ …
1:11 ผู้หนึ่งที่ออกมาจากนีนะเวห์ หรือประเทศใด ๆ ก็ตามที่ต่อต้านพระเจ้านั้น เป็นคนที่ไร้ค่าแบบสุด ๆ คนชั่วนี้เป็นศัตรูของพระเจ้าโดยตรง “”}}}}

พระสัญญาเพื่อการช่วยกู้
12 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ 
“แม้พวกเขาเข้มแข็งและมีจำนวนมาก
ก็ยังจะถูกโค่นลงจนสิ้นซากไป 
แม้เราจะทำให้เจ้าต้องทุกข์ทรมาน
เราจะไม่ทำอย่างนั้นต่อเจ้าอีก
13  เพราะบัดนี้เราจะหักแอกของพวกเขาจากเจ้า
และหักโซ่ตรวนที่มัดตัวเจ้าออก

1:12-13 แล้วพระเจ้าทรงหันมาตรัสกับคนของพระองค์คือชนอิสราเอล พวกเขาเป็นเชลยของอัสซีเรีย และถูกกระทำ ถูกกดขี่ข่มเหงหนัก แต่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะทรงทำลายอำนาจของอัสซีเรีย (นีนะเวห์) ที่มีเหนือพวกเขาให้สิ้นเหมือนกับเอาแอกและโซ่ออกจากนักโทษหรือวัวควาย The มีบันทึกว่าอัสซีเรียได้ข่มเหงอิสราเอลอย่างรุนแรง ทั้งเก็บภาษีสูงด้วย
(อ่าน 2 พงศ์กษัตริย์ 19:20-37, 2 พงศาวดาร 32:1-23; อิสยาห์ 37:27-38)
อัสซีเรียสิ้นซากไปนานเลย เพราะกว่านักโบราณคดีจะขุดค้นพบว่า นีนะเวห์อยู่ที่ไหน หน้าตาเป็นอย่างไรก็ใช้เวลานานกว่าที่อื่น ๆ ถ้าสนใจให้ดูจากนักโบราณคดี เครเมอร์ที่
https://www.youtube.com/watch?v=34XBkm4QiLo

สุดปลายทางของสองประเทศ
14 พระยาห์เวห์ทรงบัญชาถึงเจ้าดังนี้ 
“เจ้าจะไม่มีลูกหลานสืบวงศ์วานของเจ้าอีกต่อไป
เราจะทำลายรูปเคารพสลัก
และรูปหล่อจากวิหารของเทพทั้งหลายของเจ้า
เราจะเตรียมหลุมศพของเจ้า เพราะเจ้าชั่วช้ายิ่งนัก”
15 จงมองไปยังภูเขาเถิด
เท้าของผู้นำข่าวดี และเป็นผู้ประกาศสันติ
โอยูดาห์ จงฉลองเทศกาลต่าง ๆ ของเจ้า
จงทำตามที่เจ้าเคยปฏิญาณไว้
เพราะคนชั่วจะไม่บุกรุกเข้ามาอีกต่อไป
พวกเขาจะถูกทำลายจนสิ้นซาก

สุดปลายทางของสองประเทศ
1:14 แล้วต่อมาพระเจ้าตรัสกับกษัตริย์แห่งอัสซีเรียให้ชัดเจนว่า พระองค์จะทรงทำอะไรกับพวกเขา วงศ์วานของกษัตริย์ จะสูญพันธุ์ไป นับเป็นความน่าอับอายอย่างยิ่ง พระองค์ทรงยืนยันว่าจะทำลายศาสนา ความเชื่อของพวกเขา เตรียมลงหลุมไปได้ เวลาอัสซีเรียไปโจมตีที่ไหน ก็มักจะนำพวกรูปเคารพกลับมาเพื่อแสดงว่า พวกเขาใหญ่กว่าเทพเหล่านั้น
(นี่เป็นสิ่งที่ประเทศในโลกโบราณนิยมทำกัน)
แต่ชาวมีเดียนที่เข้ามาโจมตีเป็นพวกที่ไม่ชอบรูปเคารพ เลยทำลายรูปเคารพที่นีนะเวห์มีอยู่

1:15 ย้อนกลับไปดูอิสยาห์ 52:7 กล่าวถึงเท้าของผู้นำข่าวดีว่างามยิ่ง พระเจ้าทรงสัญญาให้พวกเขาพ้นจากการข่มเหง นาฮูมขอให้พวกเขามั่นใจโดยที่ให้ฉลองเทศกาลต่าง ๆ อย่างที่เคยทำ พวกเขาจะไม่พบการบุกรุกจากศัตรูอีก เพราะพวกเขาถูกทำลายสิ้นไปแล้ว

พระคำเชื่อมโยง

นาฮูม 1
1* เศฟันยาห์ 2:13
2* อพยพ 20:5
3* อพยพ 34:6-7; โยบ 9:4; สดุดี 18:17
4* มัทธิว 8:26; อิสยาห์ 33:9
6* มาลาคี 3:2

7* เยเรมีย์ 33:11; 2 ทิโมธี 2:19
9* สดุดี 2:1; 1 ซามูเอล 3:12
10* 2 ซามูเอล 23:6; นาฮูม 3:11; มาลาคี 4:1
12* อิสยาห์ 10:16-19, 33-34
14* เอเสเคียล 32:22-23; นาฮูม 3:6
15* โรม 10:15; อิสยาห์ 29:7-8

อาโมส 9 อนาคต..กลับสู่สภาพเดิม

จินตภาพที่ 5 : องค์พระยาห์เวห์ประทับข้าง ๆ แท่นบูชา 
1 ข้าพเจ้าเห็นองค์พระยาห์เวห์ประทับยืนข้าง ๆ แท่นบูชา และพระองค์ตรัสว่า “ จงฟาดลงไปที่ ยอดเสา เพื่อว่าธรณีประตูจะสั่นสะเทือน  และหล่นลงไปยังหัวของทุกคน  คนที่เหลืออยู่เราจะประหารด้วยดาบ  ไม่มีใครที่จะหนีรอดไปได้
ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะรอดไป 
2 หากพวกเขาขุดลึกลงไปถึงแดนคนตาย มือของเราจะดึงพวกเขาขึ้นมา หากพวกเขาปีนขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์
เราก็จะฉุดพวกเขาลงมา 
3 หากพวกเขาหลบซ่อนตัวบนยอดเขาคารเมล
จากที่นั่นเราจะตามล่าและจับกุมพวกเขาลงมา 
หากพวกเขาพยายามลงไปยังพื้นทะเล
เพื่อแอบซ่อนจากสายตาของเรา
เราก็จะส่งงูพิษไปกัดพวกเขา
4  และหากพวกเขาถูกศัตรูกวาดไปเป็นเชลย
เราจะสั่งคมดาบให้ประหารพวกเขาเสีย 
เราจะจับตาดูพวกเขาเพื่อให้พวกเขาพบอันตราย
ไม่ใช่พบสิ่งที่ดี
5 พระยาห์เวห์ พระเจ้าองค์จอมทัพ
พระองค์ทรงแตะแผ่นดินโลก มันก็ละลาย
คนที่อาศัยในโลกก็คร่ำครวญ
เพราะทั่วแผ่นดินเอ่อล้นขึ้นมาเหมือนอย่างแม่น้ำไนล์
และลดลงเหมือนอย่างแม่น้ำไนล์ในอียิปต์ 
6 พระองค์ทรงสร้างที่ประทับเบื้องบนสูงส่งในฟ้าสวรรค์
และทรงวางรากฐานไว้บนแผ่นดินโลก
พระองค์ทรงเรียกน้ำทะเลขึ้นมา
และเทโปรยลงไปบนผืนโลก
 พระนามของพระองค์คือ พระยาห์เวห์
 

จินตภาพที่ 5 : องค์พระยาห์เวห์ประทับข้าง ๆ แท่นบูชา 

9:1 คราวนี้ อาโมสเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าในจินตภาพอีก ไม่ได้เห็นพระองค์จริง (ไม่มีใครเห็นพระเจ้าองค์จริงได้!)ทำไมพระองค์ประทับข้างแท่นบูชา เป็นแท่นบูชาในสะมาเรียใช่ไหม?​
ขอย้อนกลับไปดูจินตภาพทั้งหมด อาโมสเห็นอะไรบ้าง?
1 ฝูงตั๊กแตนที่เข้ามากินไร่นา อาโมสขอพระเจ้ายับยั้ง
2 ไฟที่เผาไหม้ อาโมสขอพระเจ้ายับยั้ง
3 สายดิ่งที่วัดกำแพง พระเจ้าจะทรงทำลายแท่นบูชา
4 ตะกร้าใส่ผลไม้สุก พระเจ้าจะให้อิสราเอลสิ้นสุด 
5 พระเจ้าประทับข้างแท่นบูชา พระเจ้าจะทรงประหารพวกเขาด้วยดาบ ไม่มีใครรอดไปได้ 
ครั้งนี้ พระเจ้าจะทรงสั่งให้ฟาดไปที่ยอดเสาเพื่อว่า ทั้งอาคารจะได้พังลงมาทั้งหมด พวกเขาที่อยู่ในวิหาร ร่าเริงกับการไหว้รูปเคารพจะต้องเสียชีวิตหมด ไม่ใช่เพราะวิหารล้มลงมาเท่านั้น คนที่เหลือจะถูกศัตรูฟาดฟันจนไม่มีใครรอดเลย  ถ้าจะมองว่าสิ่งที่พระเจ้าตรัสไม่ใช่แค่วิหารเหล่านั้น แต่เป็นทั้งระบบความเชื่อที่พวกเขาทำให้เบี่ยงเบนไปจากความเชื่อในพระเจ้าที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่สมัยโมเสส

ประกาศการลงโทษ
7 พระยาห์เวห์ทรงประกาศ “อิสราเอลเอ๋ย
เจ้าเองก็เป็นเหมือนชาวคูชสำหรับเรามิใช่หรือ?  
เราไม่ได้นำอิสราเอลออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
นำชาวฟีลิสเตียออกจากคัฟโทร์
และนำชาวอารัมออกจากเมืองคีร์หรอกหรือ?
8 ดูเถิด พระเนตรของพระยาห์เวห์องค์พระเจ้า
จับอยู่ที่อาณาจักรที่บาปชั่ว
เราจะทำลายมันให้หายไปจากพื้นโลก 
อย่างไรก็ตามเราจะไม่ทำลายวงศ์วานยาโคบให้สิ้นซาก”
พระยาห์เวห์ทรงประกาศ
9 “เพราะเรากำลังจะออกคำสั่งเราจะเขย่าวงศ์วานอิสราเอลท่ามกลางชาติต่าง ๆ เหมือนกับเขย่าด้วยกระด้ง
แต่จะไม่มีเมล็ดเดียวที่จะลอดหล่นลงพื้นดินไป
10 คนบาปทั้งหลายท่ามกลางประชากรของเราที่กล่าวว่า
“จะไม่มีวิบัติเกิดขึ้น หรือมาปะทะเรา”
คนเหล่านี้จะตายด้วยดาบ  

ประกาศการลงโทษ
9:7 ใน 3:2 พระเจ้าทรงบอกเขาว่า จากประชากรในโลกนี้ พระเจ้าทรงเลือกเขาเท่านั้น   แต่ตรงนี้ พระเจ้าทรงประกาศว่า แม้คนเอธิโอเปีย(คูช) อยู่ห่างไกล เป็นคนที่ไม่ได้ทรงเลือก คนฟีลิสเตีย คนอารัม (ซีเรีย) พระองค์ทรงปกครองเหนือพวกเขาเช่นกัน ดังนั้น พวกเขาอย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่พระเจ้าทรงเลือกแล้วจะพ้นโทษ  

9:8 แทนที่เป็นอาณาจักรแห่งพระเกียรติและศักดิ์ศรี พระเจ้ากลับทรงจับจ้องที่อาณาจักรที่บาปชั่ว .. พระเจ้าจะทรงทำลายอาณาจักรอิสราเอลทางเหนือให้จบสิ้นไป  แต่ขอบคุณพระเจ้า พระองค์ยังทรงรักษาวงศ์วานยาโคบเอาไว้

9:9 การเขย่าร่อนด้วยกระด้งนั้นคือ สิ่งที่เป็นแกลบจะปลิวออกไป(คนที่ชั่วร้าย)  สิ่งที่เป็นเมล็ด (คนที่พระเจ้าทรงเลือกไว้)จะคงอยู่เป็นเมล็ดพันธุ์ต่อไป นั่นคือ ชนชาติอิสราเอลจะคงเหลืออยู่ คือคนที่ยังติดตามพระเจ้า แม้ว่าอาณาจักรถูกทำลายไปแล้ว (เลวีนิติ 26:33  เราจะให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปอยู่ตามชาติต่าง ๆ, โฮเชยา 9:17 พระเจ้าทรงเหวี่ยงเขาเพราะเขาไม่เชื่อฟัง จะเป็นคนพเนจรท่ามกลางชาติต่าง ๆ )
(Ellicott’s Commentary for English Readers และJamieson-Fausset-Brown Bible Commentary)

9:10 คนที่คิดว่าตัวเองจะรอด แต่ขณะเดียวกัน เหล่าผู้นำที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า พวกที่ไหว้รูปเคารพ ดูหมิ่นบทบัญญัติของพระเจ้า  คนที่ดูหมิ่นและเอาเปรียบผู้อื่น  .. พวกเขาจะถูกศัตรูฆ่า เหมือนในข้อสี่ได้บอกไว้

ประกาศที่ไม่คาดฝัน !
11 ในวันนั้น เราจะตั้งเต็นท์ของดาวิดที่ล้มลงขึ้นมาใหม่  เราจะซ่อมแซมส่วนที่แตกหักไป จะรื้อฟื้นสิ่งที่พังทลาย และสร้างขึ้นมาใหม่เหมือนวันวารในอดีต
12 เพื่อว่าพวกเขาจะครอบครองสิ่งที่เหลืออยู่ของเอโดม และชาติต่าง ๆ ทั้งปวงที่ถูกเรียกโดยนามของเรา นี่เป็นคำประกาศของพระยาหเวห์  พระองค์จะทรงกระทำสิ่งเหล่านี้
13 จงฟัง นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์  วันหนึ่งจะมาถึงเมื่อคนที่ไถจะตามทันคนที่ปลูก และคนที่ย้ำองุ่นจะมีผลให้ย่ำมากมายจนทันเวลาหว่านเมล็ด
ภูเขาทั้งหลายจะมีเหล้าองุ่นใหม่หยดลงมา และเนินเขาทั้งหลายจะเต็มด้วยเหล้าองุ่นใหม่เหล่านั้น
14 เราจะคืนความมั่งคั่ง รุ่งเรืองให้แก่อิสราเอลคนของเรา พวกเขาจะสร้างเมืองที่พังทลายนั้นขึ้นมาใหม่ จะปลูกสวนองุ่น และดื่มเหล้าองุ่น เขาจะทำสวน และกินผลผลิตที่ได้มา 

15 เราจะปลูกอิสราเอลบนผืนดินของพวกเขา และเขาจะไม่ถูกถอนรากจากแผ่นดินที่เรามอบให้เขาอีก” องค์พระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้าตรัสดังนั้น 

 ประกาศที่ไม่คาดฝัน! 
9:11  ตรงนี้ น่าตื่นเต้น พระเจ้าบอกว่า เต็นท์ของดาวิดนั้นล้มลงไป พระเจ้าจะทรงซ่อม รื้อขึ้นมา สร้างขึ้นใหม่ ให้เหมือนเก่าที่เคยตั้งอยู่ นี่หมายความว่าอย่างไร  เต็นท์ของดาวิดคือ วงศ์วานของดาวิดนั่นเอง คนอิสราเอลและยูดาห์รู้ดีว่า ในสมัยของดาวิดนั้น พวกเขารุ่งเรืองขนาดไหน พวกเขายังรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน  ปลอดภัย มั่นคง เจริญก้าวหน้า ซึ่งตอนที่อาโมสเผยพระดำรัสนั้น เต็นท์ดาวิดถูกแบ่งเป็นทางเหนือและใต้   ถึงแม้ว่าทั้งสองจะถูกกวาดไปเป็นเชลยคนละทิศคนละทาง พระเจ้าจะทรงนำเขากลับมา และหนึ่งในลูกหลานของดาวิดจะเป็นผู้ปกครอง  (หลายท่านให้ความเห็นว่า นี่คือองค์พระเยซูคริสต์ ที่จะปกครองในพันปี)
 
9:12 อาโมสยังกล่าวถึงชนชาติต่าง ๆที่ถูกเรียกในนามของเรา นั่นคือ ผู้เชื่อที่เป็นชาวต่างชาติอย่างพวกเราใช่ไหม  งานนี้เป็นงานของพระองค์เท่านั้น
9:13 พระเจ้าจะทรงอวยพระพรคนของพระองค์ ให้คนไถตามทันคนปลูก นั่นคือ เก็บเกี่ยวได้เร็ว ได้มาก เป็นภาพของเกียรติสิริที่จะเกิดขึ้นกับอาณาจักรดาวิดที่รื้อฟื้นคืนมา (ผู้คนจะกลับมาแสวงหาพระเจ้า โฮเชยา 3:5)

9:14 พระเจ้าทรงให้คนของพระองค์บางส่วนกลับมา ใช่แล้ว พวกเขาจะกลับมาในแผ่นดินที่พวกเขาจากไป พวกเขาจะสร้างบ้านเรือนขึ้นมาใหม่ และพวกเขาจะไม่มีการถูกขับไล่ไปจากแผ่นดินนั้นอีก นี่เป็นการบ่งบอกว่า อิสราเอลจะได้กลับมาในแผ่นดินของเขาอีก (อิสยาห์ 11:12 พระเจ้าจะทรงรวบรวมยูดาห์ที่กระจายไปทั่วสี่มุมโลก เอเสเคียล 28:25-26 ก็กล่าวในทำนองเดียวกัน)

หมายเหตุปัจจุบัน::
พระเจ้าจะทรงนำอิสราเอลมายังแผ่นดินเดิมของเรา แม้ในวันนี้ ที่กำลังมีสงครามอิสราเอล กาซา  อิสราเอล อิหร่าน … (มิถุนายน 2025) ทั้งหมดนี้  ศัตรูมีแผนทำลายอิสราเอลให้หายไปจากแผนที่โลก เป็นความตั้งใจที่ศัตรูของพระเจ้าได้ใส่ไว้ในใจของผู้ทำลายเหล่านั้น แต่พระเจ้าจะทรงพิสูจน์ให้เห็นว่า แผนการของพระองค์เท่านั้นจะสำเร็จ
ดังนั้น หากเรากลับไปอ่านอาโมสใหม่ด้วยสายตาคนปัจจุบัน
เราจะเห็นการต่อสู้ฝ่ายวิญญาณที่ศัตรูของพระเจ้าพยายามทำลายคนของพระองค์ ด้วยการชวนให้พวกเขานมัสการรูปเคารพต่าง ๆ และทำให้พวกเขาต้องถูกพระเจ้าทำลายเอง  แต่แล้ว พระเจ้าทรงพระเมตตาที่จะทำให้อิสราเอลยังคงอยู่จนถึงวันนี้ 

พระคำเชื่อมโยง

อาโมส 9
1* ฮาบากุก 3:13; อาโมส 2:14
2* สดุดี 139:8; เยเรมีย์ 51:53
3* เยเรมีย์ 23:24
4* เลวีนิติ 26:33;
เยเรมีย์ 21:10; 39:16; 44:11

5* มีคาห์ 1:4; อาโมส 8:8
6* สดุดี 104:3, 13; อาโมส 5:8; 4:13; 5:27
7* เยเรมีย์ 47:4; เฉลยธรรมบัญญัติ 2:23 ;อาโมส 1:5
8* อาโมส 9:4; เยเรมีย์ 5:10; 30:11
9* อิสยาห์ 65:8-16

10* อาโมส 6:3
11* กิจการ 15:16-18
12* โอบาดีย์ 19; กันดารวิถี 24:18
13* เลวีนิติ 26:5 ;โยเอล 3:18
14* เยเรมีย์ 30:3, 18; อิสยาห์ 61:4
15* เอเสเคียล 34:28; 37:25