ยินดีต้อนรับสู่พระคำ.คอม

พระคำ.คอม นำพระคัมภีร์ มาเล่าพร้อมภาพประกอบเพื่อให้เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์
พระคัมภีร์นี้ ใช้เวลาเขียนเกือบ 1600 ปี ตั้งแต่ประมาณปี 1500 ปีก่อนคริสตศักราชจนถึงปี ค.ศ. 90 และมีผู้เขียนมากกว่า 40 คน
ผู้เขียนแต่ละคนได้รับการบันดาลใจจากพระเจ้าให้เขียนบันทึกไว้ และมีความเชื่อมโยงกันอย่างมหัศจรรย์ตั้งแต่เล่มแรกจนเล่มสุดท้าย
มีการคัดลอกต่อเนื่องกันมา และเก็บรักษาไว้อย่างดีจนถึงสมัยของเรา


บุคคลสำคัญในพระคัมภีร์คือ คือ พระเจ้า พระบิดาผู้ทรงสร้างโลกนี้ และองค์พระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า ที่มาบังเกิดในโลกเมื่อสองพันกว่าปีมาแล้ว
พระคัมภีร์เล่าวว่าพระองค์ทรงทำอะไรบ้าง และที่น่าทึ่งคือ มีคำบอกล่วงหน้าหลายร้อยปี ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตของพระองค์ รวมถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันด้วย!!
ขอแนะนำให้ เริ่มอ่านจาก
หนังสือมาระโก

มียูทูบสำหรับเด็ก โดยดูได้จาก พระคัมภีร์สำหรับเด็ก

มัทธิว 5 ชีวิตแบบแผ่นดินสวรรค์

Mt 5 1

1 เมื่อพระเยซูทรงเห็นคนเป็นจำนวนมาก พระองค์ทรงขึ้นไปบนภูเขา ประทับนั่งลง เหล่าศิษย์ก็มาหาพระองค์
 2 และพระองค์ทรงเริ่มต้นสอนพวกเขาดังนี้ 

ความสุขของผู้ที่ติดตามพระเจ้า

3 ความสุขเป็นของคนที่รู้ว่า
จิตวิญญาณของตนเองยังบกพร่องอยู่ 
เพราะแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาแล้ว 
4 ความสุขเป็นของคนที่เศร้าโศก
เพราะว่าเขาจะได้รับการปลอบใจ
5 ความสุขเป็นของคนที่อ่อนน้อมถ่อมตน
เพราะเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก

6ความสุขเป็นของคนที่หิวกระหายอยากที่จะมีชีวิตถูกต้องกับพระเจ้า
เพราะเขาจะได้อิ่มเต็มที่
7 ความสุขเป็นของคนที่มีใจเมตตา
เพราะเขาจะได้รับความเมตตาเช่นกัน
8 ความสุขเป็นของคนที่ใจบริสุทธิ์
เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า 

9 ความสุขเป็นของคนที่สร้างสันติ
เพราะเขาจะได้ชื่อว่า เป็นลูกของพระเจ้า 
10 ความสุขเป็นของคนที่ถูกกดขี่ข่มเหงเพราะมีชีวิตถูกต้องกับพระเจ้า
เพราะแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาแล้ว
11 ความสุขเป็นของเจ้าเมื่อใคร ๆ ดูหมิ่นเจ้า ข่มเหงเจ้า
และกล่าวใส่ร้ายเจ้าเนื่องจากเรา
12 จงชื่นชมยินดีเถิด เพราะรางวัลของเจ้านั้นมีมากมายในสวรรค์
เพราะพวกเขาได้ข่มเหงผู้รับใช้ของพระเจ้าที่มาก่อนหน้าเจ้าเช่นกัน 

เกลือ เมือง และแสงสว่าง

13 เจ้าทั้งหลายเป็นเกลือของแผ่นดินโลก แต่หากเกลือขาดรสชาติไปแล้ว
จะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร?
เกลือนั้นจะไร้ประโยชน์นอกเสียจากจะโยนทิ้งไปให้คนเดินเหยียบย่ำ

14 เจ้าทั้งหลายเป็นแสงสว่างของโลก เมืองที่ตั้งบนภูเขาไม่อาจถูกปกปิดไว้ได้

 

15 เช่นเดียวกับคนที่จุดตะเกียง เขาจะไม่วางตะเกียงไว้ใต้ตะกร้า
แต่จะวางไว้บนที่ตั้ง เพื่อให้แสงส่องไปให้ทุกคนในบ้าน 
16 เช่นเดียวกัน จงให้ความสว่างของเจ้าส่องให้คนทั้งหลายได้เห็น
เพื่อเขาจะได้เห็นการดีของเจ้า และสรรเสริญพระบิดาของเจ้าผู้ประทับในสวรรค์


บัญญัติที่สำเร็จ

17 อย่าคิดว่าเรามาเพื่อล้มล้างบัญญัติหรือคำของผู้เผยพระดำรัส เรามิได้มาเพื่อล้มเลิกสิ่งเหล่านั้น แต่เพื่อทำให้สำเร็จ
18 เพราะเราบอกความจริงแก่เจ้าว่า 
จนกระทั่งวันที่ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินจะสิ้นสุดไป(ตราบเท่าที่ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินยังคงอยู่)จะไม่มีตัวหนังสือเล็ก ๆ หรือสักขีดเดียวที่จะหายไปจากบัญญัติจนกว่าทุกสิ่งสำเร็จตามที่บันทึกไว้

 


19 ดังนั้น ใครก็ตามที่ละเมิดบัญญัติแม้เป็นข้อเล็ก ๆ ข้อหนึ่งข้อใด และสอนให้คนอื่นทำเช่นนั้นด้วย จะถูกเรียกว่าเป็นผู้น้อยที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ 
20 เราบอกเจ้าว่า
หากความดีของเจ้าไม่ได้เหนือไปกว่าพวกธรรมาจารย์และฟาริสีแล้ว
เจ้าจะไม่มีวันที่จะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าได้เลย 


โกรธกับคืนดี 

21 เจ้าเคยได้ยินคำที่สอนในสมัยโบราณว่า ’อย่าฆ่าคน’
และ ‘ผู้ใดฆ่าคนจะถูกพิพากษาลงโทษ 
22 แต่เราขอบอกเจ้าว่า ผู้ใดโกรธพี่น้องของเขาจะต้องได้รับการพิพากษา 
เช่นกัน ผู้ใดกล่าวกับพี่น้องว่า
‘เจ้าไม่มีค่า!’
จะถูกพิพากษาที่สภาแซนเฮอดริน
แต่คนใดที่กล่าวว่า ‘เจ้าคนโง่!’ จะต้องเจอกับไฟนรก

23 ดังนั้น หากเจ้ากำลังจะถวายเครื่องบูชาที่แท่นบูชาและจำได้ว่า มีพี่น้องที่ยังมีเรื่องค้างคากับเจ้า 
24  ก็จงวางเครื่องบูชาไว้ที่แท่นบูชา และไปคืนดีกับเขาก่อน
แล้วจึงกลับมาถวายเครื่องบูชาของเจ้า

25 จงตกลงกับฝ่ายตรงข้ามของเจ้าระหว่างทางที่ไปศาลโดยเร็ว
เพื่อว่าเขาจะไม่ส่งตัวเจ้าให้กับผู้พิพากษาเพื่อส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ซึ่งจะโยนเจ้าเข้าเรือนจำ
26 เราบอกความจริงเจ้าว่า เจ้าจะไม่ได้ออกมาเป็นอิสระ
จนกว่าเจ้าจะจ่ายคืนเงินแม้สตางค์สุดท้ายทั้งหมดเสียก่อน

การล่วงประเวณี

27 เจ้าเคยได้ยินคำที่กล่าวว่า ‘อย่าล่วงประเวณี’
28 แต่เราขอบอกเจ้าว่า หากใครคนหนึ่งมองผู้หญิงด้วยใจใคร่ในตัวเธอ
ก็ได้ล่วงประเวณีกับเธอในใจของเขาแล้ว 


ดวงตาขวาและมือขวา

29 หากดวงตาข้างขวาของเจ้าทำให้เจ้าทำบาปก็จงควักมันออกมา และโยนทิ้งไปเพราะเป็นการดีกว่าที่เจ้าจะเสียอวัยวะบางส่วนไปแทนที่ร่างกายทั้งร่างจะถูกโยนลงในนรก 
30 และหากมือขวาของเจ้าทำให้ทำบาป ก็จะตัดมันออกทิ้งไป
เพราะเป็นการดีกว่าที่เจ้าจะเสียอวัยวะส่วนหนึ่งไปแทนที่จะเสียงทั้งร่างกายลงไปในนรก

การหย่าร้าง


31 ยังมีคำกล่าวว่า ‘ใครที่หย่าภรรยาของตนจะต้องมอบใบหย่าให้’ 
32 แต่เราขอบอกเจ้าว่า ใครก็ตามที่หย่าภรรยา
ยกเว้นการผิดศีลธรรมทางเพศ เท่ากับทำให้เธอเป็นคนผิดประเวณี
และคนที่แต่งงานกับหญิงที่หย่าแล้ว ก็ผิดประเวณีด้วย 

คำปฏิญาณและคำสัญญา


33 พวกเจ้าได้ยินคำที่กล่าวในสมัยโบราณว่า‘อย่าเสียคำสัญญา แต่จงทำตามสัญญาที่เจ้าให้ไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าให้สำเร็จ’
34 แต่เราบอกเจ้าว่า อย่าสาบานเลย
ไม่ว่าจะสาบานต่อสวรรค์ เพราะสวรรค์เป็นพระที่นั่งของพระเจ้า 
35 หรือสาบานต่อแผ่นดินโลก
เพราะนั่นเป็นที่รองพระบาทของพระเจ้า
หรือสาบานต่อนครเยรูซาเล็ม เพราะนครนี้เป็นนครขององค์กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ 
36 และเจ้าก็ไม่ควรสาบานด้วยหัวของเจ้าเพราะเจ้าไม่สามารถทำให้ผมของเจ้าขาวหรือดำไปได้
37 จงให้คำว่าใช่ เป็นใช่ และคำว่าไม่ เป็นไม่ตามจริง สิ่งที่พูดเกินมาจากนั้นมาจากมารร้าย

กฎใหม่เมื่อถูกกระทำ


38 เจ้าเคยได้ยินคำที่กล่าวว่า ‘ตาแทนตา ฟันแทนฟัน’
39 แต่เราบอกเจ้าว่า อย่าไปสู้กับคนชั่ว
ถ้าใครตบแก้มขวาของเจ้า ก็จงหันให้เขาตบอีกข้างด้วย
40 หากใครยื่นฟ้องเจ้า และเอาเสื้อชั้นในของเจ้าไป ก็จงให้เสื้อนอกไปด้วย 
41 และหากมีใครบังคับให้เจ้าเดินไป 1 กิโลเมตร ก็จงไปกับเขา 2 กิโลเมตร
42 จงให้ แก่คนที่ขอจากเจ้า และอย่าเมินหน้าไปจากคนที่ต้องการขอยืมจากเจ้า

รักศัตรูและดีพร้อม


43 เจ้าเคยได้ยินคำที่กล่าวว่า ‘จงรักเพื่อนบ้านของเจ้า’ และ ‘จงเกลียดชังศัตรูของเจ้า’ 
44 แต่เราบอกเจ้าว่า จงรักศัตรูของเจ้า และอธิษฐานเผื่อคนที่ข่มเหงเจ้า 
45 เพื่อว่าเจ้าจะได้เป็นลูก ๆ ของพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ 
เพราะพระองค์ทรงให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ ส่องแสงให้กับทั้งคนชั่วและคนดี และทรงส่งฝนให้กับทั้งคนเที่ยงธรรมและคนอธรรม
46หากเจ้ารักเพียงคนที่รักเจ้า เจ้าจะได้รับรางวัลหรือ?เหล่าคนเก็บภาษี  ก็ทำอย่างนั้นมิใช่หรือ? 
47 และหากเจ้าทักทายเฉพาะพี่น้องของเจ้าเจ้าได้ทำอะไรมากกว่าคนอื่น ๆ เล่า?
แม้แต่คนต่างชาติก็ยังทำอย่างนั้นมิใช่หรือ?
48 ดังนั้น เจ้าจงเป็นคนที่ดีพร้อมทุกด้านเหมือนอย่างที่พระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ทรงดีพร้อมทุกประการ 


อธิบายเพิ่มเติม



มัทธิว 5:1-2
หลังจากที่พระเยซูทรงเตือนว่า ให้กลับใจใหม่ เพราะแผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว และพระองค์ก็ทรงอธิบายให้รู้ว่า ชีวิตที่วางใจ กลับใจเชื่อในพระเจ้าแตกต่างจากชีวิตแบบเดิม ๆ อย่างไร ผู้คนที่เข้ามาฟัง ก็ตั้งใจฟังมาก พวกเขาฟังแล้วก็เชื่อ เพราะพระองค์ทรงสอนต่างจากธรรมจารย์ในศาลาธรรมที่สอนเอาแต่ให้พวกเขาประพฤติ ปฏิบัติตามกฎต่าง ๆ มากมาย พวกเขาเห็นเลยว่า พระองค์ไม่เหมือนธรรมาจารย์เหล่านั้น (มัทธิว 7:28)

มัทธิว 5:3-12
ผู้ที่มาฟังพระเยซูส่วนใหญ่เป็นชาวเมืองที่ยากจน พวกเขาถูกควบคุมความคิดโดยเหล่าธรรมาจารย์ และกำลังอยู่ในสภาพเมืองขึ้นของโรมด้วย เมื่อได้ยินคำสอนที่ประหลาด เช่นนี้ จึงทำให้พวกเขาต้องตั้งใจฟัง และพยายามที่จะเข้าใจ
:3 คนบกพร่องฝ่ายวิญญาณ ถ้าเป็นในศาสนายิว ก็จะถูกดูหมิ่น แต่พระเยซูตรัสว่าจะมีความสุขเพราะแผ่นดินสวรรค์คือ การที่พระเจ้าทรงครอบครองใจ สุภาษิต 3:34 ก็บอกเรามาก่อนหน้าด้วยว่า พระเจ้าทรงต่อสู้คนที่หยิ่งจองหอง
:4 คนที่โศกเศร้าเสียใจ ในศาสนายิว ก็จะเสียใจมากขึ้น เพราะถูกทับถม คนไทยเราก็คอยหาทางดับทุกข์ด้วยวิธีต่าง ๆ แต่กับพระเยซู กลับได้การปลอบใจจากพระเจ้า
:5 คนที่อ่อนน้อมถ่อมตน ก็จะยิ่งถูกกดลงมากขึ้น แต่กับพระเยซู พวกเขาจะได้รับเกียรติ เหมือนกับในสดุดี 37:3
:6 คนที่อยากถูกต้องกับพระเจ้า เมื่ออยู่ในศาสนา ก็จะต้องบังคับตน ประพฤติตนให้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้ามาแสวงหาพระเจ้า เขาจะอิ่มเต็มที่ได้รับอย่างที่ปราถนา ไม่ใช่โดยความพยายามส่วนตัว แต่โดยการใกล้ชิดกับพระเจ้า รับพลังจากพระองค์
:7 คนที่เมตตา ในศาสนายิว ก็จะได้รับการยกย่องจากคน แต่พระเจ้ากลับบอกว่า เขาจะได้รับความเมตตาตอบจากพระองค์
:8 คนใจบริสุทธิ์ ในศาสนายิว จะรู้สึกเป็นคนดี ดีกว่าคนอื่น แต่พระเยซูจะทรงให้เขาได้สัมผัสกับพระเจ้ามากขึ้น รู้จัก เข้าใจพระองค์มากขึ้นทุกวัน
:9 คนที่สร้างสันติ ในหมู่พี่น้อง เป็นคนที่ไม่ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ แต่มีความพยายามให้เกิดความปรองดอง ความร่วมมือ ความรักกันและกัน คนแบบนี้ หายากมาก มีที่ไหน เขาก็เหมือนกับเป็นลูกแท้ ๆ ของพระเจ้า
:10-12 เมื่อคนใดก็ตามถูกข่มเหง ซึ่งไม่ใช่แค่ร่างกาย จิตใจ แต่บางครั้งถึงกับชีวิต แต่เขายังทนได้ ไม่ยอมก้มหัวทำผิดต่อพระเจ้า คนเหล่านี้มีรางวัลในสวรรค์รออยู่ และพระเจ้ากลับบอกให้เขายินดี ทั้งหมดนี่เป็นคำสอนบอกทางแห่งความสุขที่แตกต่างจากโลกราวฟ้ากับเหว

มัทธิว 5:13-16
คนของพระเจ้าเป็นเหมือนเกลือที่ทำหน้าที่รักษาไม่ให้เน่าเสีย ให้รสชาติ ซึ่งผู้เชื่อของพระเจ้าจะต้องเป็นคนช่วยรักษาสังคมให้ดี ไม่เน่าเสียไปจากทางของพระเจ้า อีกอย่างที่เกี่ยวกับเกลือ ในอิสราเอลมีเกลือบางอย่างที่ผสมกับแร่ธาตุอื่น ๆ ทำให้ความเค็มหายไปผสมกับแร่อื่น ๆ เหล่านั้น เกลือประเภทนี้เขาเอาไว้เทเป็นทางเดิน
:14และในชีวิตของเขาจะต้องเป็นแสงสว่าง เป็นพยานให้กับคนที่ยังไม่รู้จักแสงสว่างคือ พระเยซูคริสต์
:16 ที่น่าสนใจคือ ใคร ๆ จะเห็นแสงสว่างได้จากการกระทำที่ดีเพื่อผู้อื่น ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียว ผลที่ได้คือ เขาจะสรรเสริญพระบิดา ผู้ประทับในสวรรค์

มัทธิว 5:17-20
:17 พระเยซูตรัสชัดเจนว่า พระองค์ทรงมาเพื่อให้หนังสือ 5 เล่มแรกของพระคัมภีร์เดิมนั้นสำเร็จผล รวมทั้งหนังสือผู้พยากรณ์ทั้งหลายด้วย ระบบการถวายเครื่องบูชาเพื่อไถ่บาป พระองค์ทรงทำที่ไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปคนทั้งโลก
ถ้าเราได้อ่านพระคัมภีร์เดิม เราจะเห็นว่า ทุกเล่มมีสิ่งที่ชี้ให้เราซึ่งเป็นคนยุคศตวรรษที่ 21 ได้เห็นว่า คำทำนายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระเยซูเป็นจริงทั้งสิ้น
คำสอนทั้งหลายของพระเยซู ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อทำลายคำสอนเดิม แต่เพื่อทำให้สำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ
:18 ความจริงแล้วพระเจ้าทรงยกย่องพระคำของพระองค์มาก ดังนั้นทุกคำเป็นจริง และจะเกิดขึ้นตามที่บอกไว้ ไม่มีพลาดเลย สดุดี 138:2b
เพราะว่า พระองค์ทรงยกพระนามและพระดำรัสของพระองค์ขึ้นเหนือสิ่งอื่นใด

:19 การเป็นผู้สอนคนอื่น จึงเสี่ยงมากที่จะกลายเป็นผู้เล็กน้อยในแผ่นดินสวรรค์ หากว่า ไปสอนในสิ่งที่ผิดพลาด​…​
:20 ข้อนี้ เหมือนพระเยซูกำลังจะบอกว่า ไม่มีใครที่จะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าเพราะความดีได้เลย…แม้กระทั่งธรรมาจารย์และฟาริสี ก็ยังไม่ผ่าน

มัทธิว 5:21-26
:21-22 ต่อไปนี้ พระเยซูจะทรงเริ่มด้วยคำว่า เจ้าเคยได้ยินคำกล่าวว่า .. แล้วทรงบอกว่า พระองค์ทรงมีความเห็นอย่างไรในเรื่องนั้น (ทั้งหมดหกเรื่อง) เราจะเห็นว่า การโกรธนั้น เป็นพื้นฐานของการฆ่าคน พระองค์ทรงเริ่มที่ให้เราจัดการกับความโกรธที่เกิดขึ้นก่อน คนที่ช่างโกรธจะต้องเจอกับปัญหามากมายตามมา และที่สุดคือไฟนรก แสดงว่า เรื่องความโกรธจนแสดงออกมาเป็นวาจาที่น่ารังเกียจนั้น เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องระมัดระวังให้มาก
:23-24 ถ้าจะเข้าเฝ้าพระเจ้า พร้อมกับยังมีปัญหากับพี่น้อง ก็ขอให้จัดการคืนดีเสียก่อน
:25-26 เวลาเจอคดีความ ก็ให้รีบไกล่เกลี่ยก่อนถ้าทำได้ จะได้ไม่เจอกับโทษที่ทำให้ลำบากไปกว่าที่เป็นอยู่

มัทธิว 5:27-28 อย่าลืมว่า ในสังคมยิว การเป็นชู้คือบาปที่หนักหนาสาหัสมาก (อพยพ 20:14) เป็นการละเมิดร่างกายของอีกคน และละเมิดสัญญาการสมรส เป็นการทำลายครอบครัวหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ การสมรสในสายตาของยิวเชื่อมโยงไปถึงความสัมพันธ์ของพระเจ้าที่มีต่ออิสราเอลด้วย (มาลาคี 2:14) เหนือไปกว่านั้น พระเยซูตรัสว่า ยังไม่ได้ลงมือกระทำ แค่มองก็ผิดแล้ว!! นั่นหมายถึงว่า เราต้องมีใจที่สะอาดบริสุทธิ์ ไม่ใช่มีสิ่งที่สกปรกแอบอยู่ข้างใน ใครมองไม่เห็นแต่พระเจ้าทรงเห็นหมด! พระเจ้าทรงประสงค์คนที่มีมือสะอาดใจบริสุทธิ์ (สดุดี 24:4) ทรงสั่งให้เรารักษาใจสุดความพยายามเลยทีเดียว (สุภาษิต 4:23)

มัทธิว 5:29-30 พระเยซูตรัสถึงดวงตาขวา มือขวา มีความหมายว่าสำคัญกว่า ดวงตาเป็นตัวสร้างความอยาก มือเป็นตัวลงมือทำ คำว่าควักออกเสีย ตัดออกเสียเพื่อให้เห็นว่า การที่จะมีความซื่อสัตย์ในชีวิตสมรสก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เราต้องสละสิ่งที่มีความสำคัญในชีวิตเพื่อที่จะไม่ให้มันนำเราไปสู่ความบาป

มัทธิว 5:31-32
การมีใบหย่าทำให้ผู้หญิงคนที่หย่าแล้วมีสิทธิแต่งงานใหม่ พระเจ้าทรงช่วยให้ผู้หญิงไม่ต้องถูกหย่าโดยไร้เหตุผลที่สมควร สำหรับสังคมโบราณ การมีครอบครัวเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง ผู้หญิงโบราณจะไม่ออกไปทำงานนอกบ้านเหมือนสมัยนี้ เธอจึงจำเป็นต้องมีผู้เลี้ยงดู แสดงว่า เวลานั้นก็มีการหย่าร้างกันไม่น้อย แต่สิ่งที่พระเยซูตรัสทำให้เห็นว่า พระองค์ไม่ทรงเห็นด้วยกับการหย่าร้าง เพราะไม่ควรที่ใครจะให้คนที่สมรสเป็นหนึ่งเดียวกันแยกจากกัน (มาระโก 10:8)

มัทธิว 5:33-37
โมเสสเคยบอกถึงพระบัญชาของพระเจ้าว่า หากใครสาบานว่าจะทำสิ่งใด ก็อย่าผิดคำที่เขาลั่นวาจาไว้ (กันดารวิถี 30:2) แต่พระเยซูทรงสอนว่า ไม่ให้สาบาน อ้างโน่นอ้างนี่ แต่ให้พูดด้วยความจริง ทุกอย่าง

มัทธิว 5:38-42
:38 มีกฎการตัดสินความว่า ให้ชีวิตแทนชีวิต ตาแทนตา ฟันแทนฟัน ในเฉลยธรรมบัญญัติ 19:20 เพื่อให้การลงโทษนั้นเหมาะกับความผิด (ซึ่งเป็นกฎสำหรับการปกครอง การตัดสินความของผู้มีอำนาจ) แต่ในจุดนี้ พระเยซูกำลังกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนสองฝ่ายที่อาจเกิดมีปัญหากันขึ้น
:39 พระเยซูไม่ได้ทรงกล่าวถึงการต่อสู้ในสงคราม แต่กำลังกล่าวถึงคนสองคนที่มีปัญหากันว่า ควรจะตัดสินอย่างไร สิ่งที่เห็นคือ พระองค์ไม่ให้คนสองฝ่ายแก้แค้นกันและกัน (ในสังคมยิวสมัยก่อนนั้น เวลายิวทะเลาะกันเมื่อไร ก็จะรุนแรงมาก ๆ แถมยังจะเอาคนในครอบครัว หรือตระกูลเข้าไปร่วมการต่อสู้ส่วนตัวด้วย ) เมื่อมีปัญหา ก็ขอให้รีบจบก่อนที่จะลามไปมากกว่าที่เป็นอยู่

มัทธิว 5:43-45
เข้าไปดูคุณรามิน เขาอ่านมัทธิว 5 แล้วพบความแตกต่างจากความเชื่อเดิมของเขา
https://www.youtube.com/watch?v=ShA-bWaW3LU

มัทธิว 5:46-47
คนยิวจะเกลียดคนเก็บภาษีมาก เพราะเป็นลูกน้องโรม มาขูดรีดชาวยิวด้วยกันเอง แต่พระเยซูกลับทรงสอนให้พวกเขา ปฏิบัติต่อคนเหล่านั้นเป็นอย่างดี นี่เป็นหัวใจที่ไม่มีอคติ สิ่งที่พระองค์ทรงบอกคนที่ฟังอยู่ และเราทุกคน คือการมองผู้อื่นด้วยสายตาของพระเจ้า พระองค์ประทานสิ่งดีให้กับทุกคน แล้วเราจะทำอย่างนั้นกับคนที่เราคิดว่าเขาไม่สมควรได้รับ ได้หรือไม่

มัทธิว 5:48
พระเยซูทรงบอกให้ผู้ฟังเป็นคนดีพร้อมเหมือนพระบิดาในสวรรค์ พระเจ้าพระบิดาทรงแจ้งผ่านพระเยซูให้รู้แล้วว่า อะไรดี อะไรเหมาะ ดังนั้นเมื่อผู้ที่เชื่อพระเจ้า ใช้ชีวิตตามพระดำรัสเท่ากับพวกเขากำลังเดินตามวิถีที่ดีพร้อม.. อาจจะยังไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่กำลังก้าวไป.. และพระวิญญาณทรงเป็นกำลังให้เปลี่ยนแปลง

พระคำเชื่อมโยง

1*  มาระโก 3:13                                                        2* มัทธิว 7:29
3* ลูกา 6:20-23
4* วิวรณ์ 21:4
5* สดุดี 37:11; โรม 4:13
6* ลูกา 1:53; อิสยาห์ 55:1; 65:13
7* สดุดี 41:1
8* สดุดี 15:2;24:4; 1โครินธ์ 13:12
9* ฮีบรู 12:14
10* 1 เปโตร 3:14
11* ลูกา 6:22; 1 เปโตร 4:4
12* 1 เปโตร 4:13, 14; กิจการ 7:52
13* ลูกา 14:34
14* ยอห์น 8:12
15* ลูกา 8:16
16* 1 เปโตร 2:12; ยอห์น 15:8
17* โรม 10:4

บรรณานุกรม

18* ลูกา 16:17
19* ยากอบ 2:10
20* โรม 10:3
21* อพยพ 29:13; เฉลยธรรมบัญญัติ 5:17
22* 1 ยอห์น 3:15; ยากอบ 2:20; 3:6
23* มัทธิว 8:4
24* โยบ 42:8
25* ลูกา 12:58-59; อิสยาห์ 55:6
26* มัทธิว 18:34
27* อพยพ 20:14; เฉลยธรรมบัญญัติ 5:18
28* สุภาษิต 6:25
29* มาระโก 9:43; โคโลสี 3:5
30* มาระโก 9:43
31* เฉลยธรรมบัญญัติ 24:1
32* ลูกา 16:18
33* มัทธิว 23:16; เลวีนิติ19:12; เฉลยธรรมบัญญัติ 23:23

34* ยากอบ 5:12; อิสยาห์ 66:1
35* สดุดี 48:2
36* ลูกา 12:25
37* โคโลสี 4:638* อพยพ 21:24; เลวีนิติ 24:20; เฉลยธรรมบัญญัติ 19:21
39* ลูกา 6:29; อิสยาห์ 50:6
40* ลูกา 6:29
41* มัทธิว 27:32
42* ลูกา 6:30-34
43* เลวีนิติ 19:18; เฉลยธรรมบัญญัติ 23:3-6
44* ลูกา 6:27; โรม 12:20; กิจการ 7:60
45* โยบ  25:3
46* ลูกา 6:32
47* ลูกา 6:32
48* โคโลสี 1:28; 4:12; เอเฟซัส 5:1