สดุดี 145 พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่

ภาพจาก pexels.com

บทเพลงสรรเสริญของดาวิด
ต้องสรรเสริญพระเจ้าอย่างนี้สิ
1 โอพระเจ้าและองค์กษัตริย์ของข้า
ข้าขอยกย่องพระองค์
และขอถวายพระพรแด่พระนามของพระองค์
ตลอดไปเป็นนิตย์
2 ข้าจะถวายพระพร
และสรรเสริญพระนามของพระองค์
ตลอดไปเป็นนิตย์
3 พระยาห์เวห์ทรงยิ่งใหญ่
และสมควรที่จะทรงรับการสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง
ความยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้น
เกินกว่าที่เราจะค้นพบได้ทั้งสิ้น


ส่งต่อคำสรรเสริญจากรุ่นสู่รุ่น
4 ชนรุ่นหนึ่งจะชื่นชมราชกิจของพระองค์ให้ชนอีกรุ่นได้รับรู้
และจะประกาศราชกิจอันทรงฤทธิ์ของพระองค์
5 ข้าจะใคร่ครวญถึงพระสิริตระการอันสูงส่งของพระองค์
และใคร่ครวญถึงการอัศจรรย์ต่าง ๆ ของพระองค์
6 พวกเขาจะกล่าวถึง
อานุภาพแห่งราชกิจอันน่าเกรงขามของพระองค์
และข้าจะประกาศความยิ่งใหญ่ของพระองค์
7 พวกเขาจะเล่าถึงพระนามเลื่องลือ
ในความดีล้ำเลิศของพระองค์
และจะร้องเพลงถึงความเที่ยงธรรมของพระองค์
ด้วยเสียงอันดัง
8 พระยาห์เวห์ทรงพระคุณและพระเมตตายิ่งนัก
ทรงพิโรธช้า และเต็มล้นด้วยความรักมั่นคง
9 พระยาห์เวห์ทรงดีต่อทุก ๆ คน
และทรงเมตตาต่อทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา

10 โอ พระยาห์เวห์ พระราชกิจทั้งสิ้นจะถวายคำขอบพระคุณ
และวิสุทธิชนของพระองค์จะถวายพระพรแด่พระองค์
11 พวกเขาจะพูดถึงพระสิริแห่งราชอาณาจักร
และเล่าถึงฤทธิ์เดชของพระองค์
12 เพื่อให้ลูกหลานของมนุษย์ ได้รับรู้
ถึงพระราชกิจอันทรงฤทธิ์
และพระสิริตระการแห่งราชอาณาจักรของพระองค์
13 ราชอาณาจักรของพระองค์
เป็นราชอาณาจักรนิรันดร์
และการปกครองของพระองค์นั้น
สืบเนื่องตลอดทุกชั่วอายุคน

(พระยาห์เวห์ทรงซื่อตรงตามพระดำรัสของพระองค์
และทรงมีน้ำพระทัยต่อราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์ )
สองบรรทัดในวงเล็บนี้ มากจาก
Hebrew manuscript, Septuagint, Syriac.

14 พระยาห์เวห์ทรงโอบอุ้มทุกคนที่กำลังล้มลง
และทรงประคองทุกคนที่ถ่อมตนลงให้ลุกขึ้นมา

ความดีของพระเจ้าต่อสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง
15 ดวงตาทุกดวงจับจ้องอยู่ที่พระองค์
และพระองค์ได้ประทานอาหารให้ตามเวลา
16 พระองค์ทรงแบพระหัตถ์ออก
เพื่อทำให้ทุกสิ่งที่มีชีวิตได้อิ่มตามความปรารถนา
17 พระยาห์เวห์ทรงยุติธรรมในหนทางทั้งสิ้นของพระองค์
และทรงดีในราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์
18 พระยาห์เวห์ทรงอยู่ใกล้ทุกคนที่ร้องเรียกหาพระองค์
ใกล้ทุกคนที่ร้องเรียกหาพระองค์อย่างจริงใจ
19 พระองค์ทรงทำให้คนที่ยำเกรงพระองค์สมปรารถนา
ทรงยินเสียงคำร้องทูลและทรงช่วยพวกเขาให้รอด
20พระยาห์เวห์ทรงรักษาทุกคนที่รักพระองค์
แต่จะทรงทำลายคนที่โหดร้าย
21 ปากของข้าจะกล่าวคำสรรเสริญพระยาห์เวห์
และขอให้ทุกชีวิตได้ถวายพระพร
แด่พระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ ตลอดไปเป็นนิตย์

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 99:5,9, 98:6
2*สดุดี 146:2
3* สดุดี 48:1; โยบ 5:9; อิสยาห์ 40:28
4* อิสยาห์ 38:19
5* สดุดี 145:12
6* สดุดี 78:4
7* อิสยาห์ 63:7
8* สดุดี 86:5, 15
9* สดุดี 100:5
10* สดุดี 19:1; 103:22; 132:9,16
12* สดุดี 105:1, ข้อ 4; 150:2; เฉลยธรรมบัญญัติ 3:24; ข้อ 5
13* สดุดี 10:16
14* สดุดี 37:17,24; 146:8
15* สดุดี 104:27
16* สดุดี 104:28, 21; 147:8
17* สดุดี 116:5, 18:25; เยเรมีย์ 3:12
18* สดุดี 34:18; 119:151; เฉลยธรรมบัญญัติ 4:7; ยอห์น 4:23-24
19* สุภาษิต 10:24; ยอห์น 9:31; สดุดี 31:22
20* สดุดี 97:10
21* สดุดี 150:6

ต้องสรรเสริญพระเจ้าอย่างนี้สิ สดุดี 145:1-3
กษัตริย์ดาวิดทรงทูลพระเจ้าว่า พระองค์ทรงเป็นทั้งพระเจ้าเหนือชีวิต และทรงเป็นกษัตริย์ด้วย สำหรับเราพระเจ้าทรงเป็นแค่ไหน.. คนสมัยใหม่มักจะมองพระเจ้าเป็นเพื่อน ซึ่งก็ไม่ผิด แต่ทำไมเราไม่มองพระองค์ในฐานะกษัตริย์บ้าง?
การยกย่องพระองค์คือ ยกพระองค์ให้สูง ส่วนคำว่าถวายพระพรนี้ หมายรวมไปถึงการคุกเข่าลงถวายสรรเสริญพระองค์ด้วย ส่วนในข้อสามที่สรรเสริญพระองค์มีความหมายถึงการที่พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ และฉายแสงของพระองค์ลงมาเหนือเราที่สรรเสริญพระองค์
มนุษย์ในโลก คิดว่าตัวเองใหญ่ สามารถ เก่ง ค้นคว้า ทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย แต่คนที่เก่งจริง ๆ จะรู้ว่า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ แบบที่มนุษย์เราไม่อาจค้นสิ่งที่ทรงสร้างหมด ไม่อาจจะรู้จักพระองค์ได้ทั้งสิ้น

ส่งต่อคำสรรเสริญจากรุ่นสู่รุ่น สดุดี 145:4-14
เมื่อพระเจ้าทรงสร้างอาดัมขึ้นมา พระองค์ทรงให้เขามีอำนาจที่จะดูแลครอบครองโลก ทรงให้เขามีลูกหลานมากมายบนแผ่นดิน … และหน้าที่สำคัญอีกประการคือ การที่จะส่งต่อความรู้ความเข้าใจเรื่องของพระองค์ให้คนรุ่นต่อไปได้สืบค้น และชื่นชมในพระราชกิจของพระองค์
หน้าที่สำคัญคือเล่า กล่าวถึง ประกาศ บอก ร้องเพลงถึงพระองค์ เป็นหน้าที่ ๆ ผู้ที่ติดตามพระเจ้าทุกคนต้องทำ ไม่ว่าจะในวงกว้างหรือวงแคบ ๆ ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงอนุญาตให้เราได้รับใช้พระองค์ในการนี้ มาดูสิว่า เขาทำอะไรบ้าง
1 ชื่นชมพระราชกิจให้ลูกหลานได้รู้ 2 ประกาศราชกิจออกไป 3 ใคร่ครวญถึงพระสิริ การอัศจรรย์ 4 กล่าวถึง พระอานุภาพ 5 ประกาศความยิ่งใหญ่ 6 เล่าถึงพระนาม ความดี 7 ร้องเพลงถึง พระองค์ 8 เขาจะถวายพระพรคำสรรเสริญ เขาจะพูดแล้วพูดอีกให้ลูกหลานได้รับรู้ พระสิริแห่งราชอาณาจักร
เราจึงเห็นว่า นอกจากคนของพระเจ้าจะประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าแล้ว ยิ่งนักวิทยาศาสตร์แขนงต่าง ๆ ค้นพบความมหัศจรรย์ของจักรวาล และโลกมากเท่าไร เราก็ยิ่งเห็นว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่านั้นมากมายนัก
และเมื่อเรารู้ว่า เวลาล้มลง เวลาทางตัน พระองค์ก็ทรงเป็นผู้ประคองโอบอุ้มให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง

ความดีของพระเจ้าต่อสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง สดุดี 145:15-21
พระคำตอนนี้ทำให้เรารู้ว่า ที่เรามีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะพระองค์ทรงเลี้ยงดู ไม่ว่าคนหรือสัตว์ พืช ล้วนต้องรับพระเมตตาของพระองค์ทั้งสิ้น
ข้อ 14 ข้างต้นลงมา เราพบว่า ชีวิตของเราขึ้นอยู่กับพระองค์จริง ๆ เป็นพระคำที่ต้องตระหนักไว้เพื่อว่าเราจะได้เข้าใจชีวิตแท้ในพระเจ้า และจะได้สรรเสริญพระองค์ตลอดไป

สดุดี 144 พระศิลาและป้อมปราการของชีวิต

จาก www.pxfuel.com

ของดาวิด

สรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงช่วยในการสงคราม
1 ขอถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์
ผู้ทรงเป็นพระศิลา
ผู้ทรงฝึกมือของข้าให้ทำสงคราม
ฝึกนิ้วของข้าเพื่อต่อสู้
2 พระองค์ทรงเป็นความรักมั่นคงของข้า
และทรงเป็นป้อมปราการ ที่กำบัง และผู้ช่วยกู้ของข้า
ทรงเป็นโล่และทรงเป็นผู้ที่ข้าเข้าไปลี้ภัย
ทรงทำให้คนในชาติของข้า ต้องสยบลงต่อข้า

พระเจ้าทรงห่วงใย ทรงรักมนุษยชาติ
3 โอ พระยาห์เวห์
มีอะไรในตัวมนุษย์ที่พระองค์จะต้องมาใส่พระทัย?
หรือบุตรมนุษย์เป็นใครที่พระองค์ทรงคิดถึง?
4 มนุษย์เป็นเหมือนลมหายใจ
วันคืนของเขาเป็นเหมือนเงาที่ผ่านไป

ทูลขอการช่วยกู้
5 โอ พระยาห์เวห์
ขอทรงเปิดฟ้าสวรรค์ และเสด็จลงมา
ขอทรงแตะต้องภูเขา เพื่อมันจะปล่อยควันออกมา
6 ขอทรงปล่อยแสงฟ้าแลบ
และทำให้พวกเขากระเจิดกระเจิงไป
ขอทรงยิงลูกธนูของพระองค์
และให้เขากระจัดกระจายไป
7 ขอทรงยื่นพระหัตถ์ลงมาจากเบื้องสูง
ขอทรงช่วยกู้ข้า
และปลดปล่อยให้ข้าพ้นจากน้ำมากหลาย
พ้นจากเงื้อมมือของคนต่างชาติ
8 ที่ปากพูดมุสา
และมือขวาของเขาเป็นมือของการหลอกลวง

สรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงช่วยกู้
9 โอ พระยาห์เวห์
ข้าจะร้องเพลงบทใหม่ถวายพระองค์
ข้าจะเล่นพิณสิบสายถวายแต่พระองค์
10 พระองค์ทรงให้เหล่ากษัตริย์ได้รับชัยชนะ
พระองค์ผู้ทรงช่วยกู้ดาวิด ผู้รับใช้ของพระองค์

ขอทรงช่วยกู้ และให้คนของพระเจ้ารุ่งเรือง
11 ขอทรงช่วยกู้ข้า
และปลดปล่อยข้าจากมือของคนต่างชาติ
ที่ปากพูดมุสา
มีมือขวาเป็นมือของการหลอกลวง

12 ขอให้ลูกชายวัยหนุ่มของเรา
เป็นดั่งต้นไม้ที่เติบโตเต็มที่
และลูกสาวเป็นเหมือนเสาหลักมุม
ที่ถูกแกะสลักดั่งโครงร่างราชวัง
จัดเตียมอาหารหลากหลายชนิด
ขอให้แกะของเรามีลูกดก
นับพันนับหมื่นในทุ่งของเรา
14 ขอให้วัวของเรามีลูกมากมาย
ไม่มีการแท้งลูก ไม่มีการสูญเสีย….
ไม่มีใครต้องร้องไห้เป็นทุกข์ตามถนนของเรา
15 ชนชาติที่ได้รับพระพรเช่นนี้ ก็เป็นสุข
ชนชาติที่พระเจ้าของพวกเขา
คือพระยาห์เวห์นั้น ก็เป็นสุข

พระคำเชื่อมโยง


1* สดุดี 18:2, 31, 46; 18:34
2* สดุดี 59:10, 17; โยนาห์ 2:8 สดุดี 18:2; 91:2 ; 18:2; 59:9; 7:10; 18:2; 18:47; 144:2; 8:4; 31:7
4* สดุดี 39:5; 102:11; 109:23
5 สดุดี 18:9; อิสยาห์ 64:1; สดุดี 104:32
6 สดุดี 18:14 ;18:14
7 สดุดี 18:16; 69:14 ; 18:44, 45
8* สดุดี 12:2; 41:6 ; 106:26; ปฐมกาล 14:22; เฉลยธรรมบัญญัติ 32:40; Isa. 62:8
9* สดุดี 33:2, 3; 33:2, 3
10* สดุดี 18:50
11* ดูข้อ 7
12*สดุดี 128:3; เศคาริยาห์ 9:15
13*โยเอล 2:24; อิสยาห์ 30:23]
14*สดุดี 144:14; อิสยาห์ 24:11; เยเรมีย์ 14:2; 46:12
15* เฉลยธรรมบัญญัติ 33:29
สดุดี 33:12; 146:5

สรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงช่วยในการสงคราม ข้อ 1-2
ไม่ว่าจะทำสงคราม จะทำงานอะไร ถ้าจะให้สำเร็จด้วยดี ก็ต้องมีการฝึกมาอย่างเข้มข้น แม้กษัตริย์ดาวิดจะเป็นนักรบเก่งกล้าเพียงใด ท่านรู้ว่า ผู้ที่ฝึกท่านคือ พระเจ้าของท่าน
ไม่ใช่แค่ฝึก แต่เวลาต้องถอย ท่านก็จะกลับไปหาพระเจ้า เพราะว่า พระองค์คือที่ลี้ภัย ป้อมปราการที่จะทำให้ปลอดภัย ลองคิดถึงชีวิตของเราดูว่า พระเจ้าทรงฝึกอะไรให้เรา และเมื่อเราแพ้ หรือต้องถอยไปตั้งหลัก เราจะไปที่ไหน
อีกประการหนึ่งการฝึกฝนของพระเจ้า ไม่มีวันจบ ฝึกกันไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ …​

พระเจ้าทรงห่วงใย ทรงรักมนุษยชาติ ข้อ 3-4
พระเจ้าผู้ทรงเป็นพระผู้สร้าง พระเจ้าผู้ทรงเป็นองค์จอมทัพ ทรงยิ่งใหญ่นัก ไม่ได้ทรงต้องการอะไรเพิ่มเติมอีก แต่พระองค์กลับทรงห่วงใย ใส่พระทัย คิดถึงมนุษย์ที่เป็นลมหายใจ … พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์มาเพื่อให้เขาไม่เป็นแค่เงา แต่ได้อยู่กับพระองค์เป็นนิตย์ นี่เป็นพระกรุณาสูงส่งยิ่งนัก เราตอบคำถามนี้ไม่ได้เลย

ทูลขอการช่วยกู้ ข้อ 5-8
คำทูลช่วงนี้คือ ขอพระเจ้าทรงจัดการกับคนต่างชาติที่พูดมุสา และมือขวาหลอกลวง เราจะเห็นว่าท่านขอหลายอย่างทีเดียว ขอให้ฟ้าเปิด ขอทรงลงมา ขอทรงแตะให้ภูเขาพ่นควัน ขอฟ้าแลบ ขอลูกธนูของพระองค์ เพื่อให้ศัตรูวิ่งหนี กระจัดกระจายไป
นอกจากนั้น ขอทรงช่วยกู้ท่านให้พ้นจากน้ำมากหลายคือ ปัญหาสารพัน
เห็นอย่างหนึ่งไหม ปัญหาที่มาจากศัตรูนั้นคือ จากคนที่ไม่ใช่มาจากพระเจ้า เป็นคนที่จ้องทำลาย และดาวิดไม่ได้แค่รบด้วยมือของท่าน แต่ท่านรบด้วยการทูลขอจากพระเจ้า…. เราจึงไม่ลืมว่า เมื่อเราสู้สิ่งใดเราจะเข้ามาขอพระเจ้าทรงช่วยอย่างดาวิด

สรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงช่วยกู้ ข้อ9-11
และเมื่อพระเจ้าทรงช่วยกู้ สิ่งที่ดีสุดคือ บทเพลงใหม่ถวายพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นบทกวี คำกลอน คำประกาศก้องให้คนอื่นได้ยิน เป็นคำสรรเสริญ เป็นเพลง ได้ทั้งนั้น ผู้เชื่อทุกคนควรคิดคำใหม่ ๆ ที่จะสรรเสริญพระเจ้าเสมอ เป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ และสร้างความตื่นเต้นในหัวใจของเรา

ขอให้คนของพระเจ้ารุ่งเรือง ข้อ 12-15​
แล้วจากนั้น ก็ทูลขอเพื่อคนรุ่นต่อไป เพื่อชุมชนที่รุ่งเรืองแข็งแรง รักพระเจ้า ติดตามพระองค์ เมื่อเราอ่านพระพรที่เขาทูลขอจากพระเจ้า เราจะเห็นพระพรสำหรับชีวิตประจำวันเลยทีเดียว ลูกสาว ลูกชายที่โตมาอย่างดี อาหารบนโต๊ะ จำนวนของสัตว์เลี้ยง ชีวิตที่ไม่ต้องร้องไห้คร่ำครวญเพราะการสูญเสีย
ข้อ 14 เป็นข้อที่ทำให้เรารู้สึกท้อใจสำหรับสังคมปัจจุบันที่ไม่ได้ต้องการมีลูกมากมาย แต่คนเป็นจำนวนมาก ได้ทำแท้งอย่างไม่รู้สึกเสียใจ…​โดยไม่รู้ว่า การได้ลูกหลานที่แข็งแรง รักพระเจ้าเป็นพรสำหรับครอบครัวจริง ๆ ความเห็นของคนโบราณช่างต่างจากคนสมัยนี้ลิบลับ

สดุดี 143 คำทูลขอที่มากมาย

ขอให้พระวิญญาณแสนดีของพระองค์ทรงนำข้าไปตามที่ราบเรียบ

สดุดีของดาวิด


ดาวิดรู้สึกเสียใจและกลับใจ
1 โอ พระยาห์เวห์
โปรดฟังคำอธิษฐานของข้า
ขอทรงเงี่ยพระกรรณฟังคำทูลขอพระเมตตาของข้าเถิด
ขอทรงตอบข้าตามความซื่อตรง
และความเที่ยงตรงของพระองค์
2 ขออย่าทรงพิพากษาผู้รับใช้ของพระองค์เลย
เพราะว่า ไม่มีใครที่มีชีวิตอยู่อย่างเที่ยงธรรม
ต่อพระพักตร์ของพระองค์

เหตุผลที่อ่อนล้าหวาดหวั่น
3 เพราะศัตรูกำลังตามติดชีวิตข้า
เขาเหยียบย่ำชีวิตข้าจมดิน
เขาทำให้ข้านั่งในที่มืดเหมือนคนที่ตายนานแล้ว
4 ดังนั้น วิญญาณของข้าจึงอ่อนล้านัก
จิตใจของข้าก็หวาดหวั่น

ความทรงจำเดิม
5 ข้ายังจำวันเก่า ๆ ได้ข้าได้ใคร่ครวญ
ถึงทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำ
ข้าคิดทบทวนถึงราชกิจแห่งพระหัตถ์ของพระองค์
6 ข้ายกมือขึ้นหาพระองค์ จิตวิญญาณของข้ากระหายหาพระองค์เหมือนอย่างดินแตกระแหง เซ ลาห์

รื้อฟื้นใจอีกครั้ง
7 ขอพระองค์ทรงตอบข้าโดยเร็วเถิด
โอ พระยาห์เวห์ วิญญาณของข้าเหนื่อยอ่อน
ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์ไปจากข้าเลย
มิฉะนั้น ข้าจะเป็นเหมือนเหล่าคนที่ลงไปยังหลุมแดนตาย

8 ขอให้ข้าได้ยินถึงความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้า
เพราะข้าวางใจในพระองค์ ขอทรงให้ข้ารู้วิถีทางที่ข้าควรเดินไป เพราะว่าจิตวิญญาณของข้าทูลต่อพระองค์
9 โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงช่วยกู้ข้าให้พ้นจากศัตรู
ข้าหนีมาลี้ภัยในพระองค์
10 ขอทรงสอนให้ข้าทำตามพระดำริของพระองค์
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้า
ขอให้พระวิญญาณแสนดีของพระองค์
ทรงนำข้าไป
ตามที่ราบเรียบ

11 โอ พระยาห์เวห์
เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์
ขอทรงรักษาชีวิตของข้าไว้
ขอทรงนำวิญญาณของข้าออกมาจากความทุกข์ยาก

12 และขอทรงกำจัดเหล่าศัตรูของข้า
โดยความรักมั่นคงของพระองค์
และพระองค์จะทรงทำลายปฏิปักษ์แห่งวิญญาณของข้า
เพราะข้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 140:6 ;1ยอห์น 1:9; สดุดี 31:1
2* โยบ 14:3; สดุดี 130:3; 1 พงศ์กษัตริย์ 8:46; โยบ 9:2; 15:14; 25:4; ปัญญาจารย์ 7:20; โรม 3:23; 1 โครินธ์ 4:4
3* สดุดี 88:3-6 ; เพลงคร่ำครวญ 3:6
4* สดุดี 77:3
5* สดุดี 77:5,11; 77:12; 111:2
6* โยบ11:13; สดุดี 42:2 ; 63:1
7* สดุดี 69:17; 102:2 ; 84:2; 27:9; 28:1; 88:4
8* สดุดี 90:14; 11:1; 25:1,2,4
9* สดุดี 59:1; 142:6 ;143:9
10* สดุดี 119:12 ; เนหะมีย์ 9:20 สดุดี 23:3; อิสยาห์ 26:10; สดุดี 27:11
11* สดุดี 23:3; 25:11; 71:20;142:7
12* สดุดี. 54:5; 116:16


พระเจ้าประทานสดุดีไว้ให้เราเป็นต้นแบบในการอธิษฐานส่วนตัวและอธิษฐานในที่ประชุม สำหรับบทนี้ ลองนับดูสิว่า ดาวิดทูลขอพระเจ้ากี่อย่าง มากมายเหลือเกิน และมีสองอย่างที่ขอพระเจ้าอย่าทรงทำ คือขออย่าทรงพิพากษาตัดสินความ และขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์จากท่าน
พระคำบทนี้ ไม่ได้สื่อถึงความทุกข์ยากในชีวิตทางร่างกายเท่านั้น แต่สื่อถึงการต่อสู้ฝ่ายวิญญาณด้วย. ผู้เขียนรู้ตัวว่า ได้ทำผิดต่อพระเจ้า ท่านเข้าใจชัดว่า ไม่มีใครเที่ยงธรรมเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ และสิ่งที่เหมือนกับกำลังเผชิญอยู่คนเดียว โดดเดี่ยว คือศัตรูได้ตามติด ไล่ล่า เหยียบย่ำ (3-4) และท่านกล่าวว่า ท่านเป็นเหมือนคนที่ตายนานแล้ว
หลายครั้งที่เราอยู่ห่างพระเจ้า และเราถูกศัตรูคือโลก และมารปิดกั้น ทำให้เรามองไม่เห็นพระเจ้า ไม่เห็นทางแห่งความสว่าง โลก และสิ่งของในโลก กั้นเราไว้จากพระเจ้า เราจึงเป็นเหมือนคนที่ตายนานแล้ว
ผู้เขียนตระหนักว่า ท่านช่วยตัวเองไม่ได้ ท่านร้องเรียกพระเจ้าว่า ขอทรงฟัง ขอทรงตอบ ขอทรงตอบโดยเร็ว ขอให้ได้ยินความรักมั่นคงของพระองค์อีกครั้ง ขอทรงช่วยกู้ ขอทรงสอนให้เดินไปตามทางแห่งความชอบธรรม ขอทรงนำไปทางชีวิตที่ราบเรียบ ท่านขอการพักจากการถูกทำร้าย ขอพระเจ้าทรงรักษาชีวิต ขอทรงนำออกจากความทุกข์ยาก ….. และในที่สุด ขอพระเจ้าทรงทำลายศัตรูให้สิ้นซาก
เราทุกคนต้องการคำอธิษฐานนี้ ไม่ว่าเพื่อพ้นจากศัตรูประเภทใดก็ตาม

ยอห์น 16 ราชกิจขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์

คำเตือนล่วงหน้า

ราชกิจของพระวิญญาณกับคนทั่วไป

ราชกิจของพระวิญญาณต่อผู้เชื่อ

พระเยซูทรงเตรียมใจคนใกล้ชิด

ความทุกข์จะกลายเป็นความยินดี

ขอได้ในพระนามพระเยซู

เราชนะโลกแล้ว

คำอธิบายและพระคำเชื่อมโยง


คำอธิบายเหล่านี้ เป็นเพียงอธิบายสั้น ๆ พระคำของพระเจ้านั้นลึกซึ้งกว่านี้มาก เราจึงศึกษาพระคำของพระเจ้าได้ตลอดชีวิต บทที่16 เป็นคำของพระเยซูที่ทรงย้ำเตือนสิ่งที่ตรัสมาก่อนล่วงหน้าแล้ว


คำเตือนล่วงหน้า ยอห์น 16:1-6
พระเยซูทรงเตือนศิษย์ล่วงหน้าว่า พวกเขาจะเจอมรสุมใหญ่มาก แบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน ทรงให้เขารู้เพื่อว่าเขาจะไม่กระจัดกระจายไปจากกันและกัน ไม่สะดุดไปเพราะเหตุการณ์ร้ายนั้น สิ่งที่ทรงบอกก็น่ากลัว คือพวกเขาจะถูกไล่จากกลุ่มพี่น้องในศาลาธรรมถูกตามฆ่าด้วย (ต่อมาเหตุการณ์ก็เป็นไปตามนั้นจริง อัครทูตทั้งสิบถูกประหารด้วยวิธีที่น่าสยดสยอง ยกเว้นท่านยอห์น คนที่ทำต่างคิดว่าพวกเขาทำเพื่อพระเจ้า แต่ความจริงคือพวกเขาไม่รู้จักทั้งพระบิดาและพระบุตร ตัวอย่างเห็นได้จากท่านเปาโลที่คิดว่าตัวเองข่มเหงคริสเตียนเพราะทำเพื่อพระเจ้า)
ทรงบอกเหตุผลว่า พระองค์กำลังจะไม่อยู่กับพวกเขาแล้ว พวกเขาต้องเตรียมใจ เมื่อเป็นเช่นนี้ ทั้งสิบเอ็ดคนจึงเป็นทุกข์มาก ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทัน แต่ดูเหมือนว่าพระเยซูไม่ได้สะทกสะท้านกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเลย

1* มัทธิว 11:6
2* ยอห์น 9:22; 12:42; 4:21; กิจการ 8:1; 9:1; 26:9-11
3* ยอห์น 8:19, 55; 15:21; 17:25
4* ยอห์น 13:19; 14:29; ลูกา 22:53; มัทธิว 9:15 
5* ยอห์น 14:12; 13:36; 14:5; 16:22; 14:1; 16:5; 14:12 ;13:36; 14:5 
6* ยอห์น 16:22; 14:1

ราชกิจของพระวิญญาณกับคนทั่วไป ยอห์น 16:7-11
แล้วพระองค์ทรงปลอบใจเขาให้รู้ความจริงว่า ที่พระองค์จากไปนั้น เป็นผลดีเพราะว่า พระองค์จะทรงองค์พระผู้ช่วยมาหาพวกเขา
สิ่งที่พระวิญญาณทรงทำในใจของผู้ที่ยังไม่เชื่อก็คือ ทรงให้พวกเขาตระหนักถึงบาปของตนที่ไม่เชื่อพระเยซู ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมาก่อนการกลับใจ
ความชอบธรรมที่พวกเขาต้องมีซึ่งเขาจะมีได้เพราะพระเยซูกำลังจะสิ้นและคืนพระชนม์ ทรงกลับไปหาพระบิดา แล้วพระวิญญาณจะทรงให้เราเห็นว่า พระเจ้าทรงพิพากษามาร การงานของมันและลิ่วล้อของมันด้วยอย่างแน่นอน
บาปสำคัญที่มนุษย์ทุกคนต้องกำจัดให้ได้คือการไม่เชื่อพระเยซู เพราะบาปนั้นเป็นเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสได้รับชีวิตนิรันดร์


7* ยอห์น 7:39; 15:26; 14:16; กิจการ 2:33; ยอห์น 14:2; 14:26
8* ยอห์น 8:28; 8:46
9* ยอห์น 8:24; กิจการ 2:36, 37; 1 โครินธ์ 12:3]
10* กิจการ 17:31; ยอห์น 16:16, 17, 19
11* ยอห์น 12:31; โคโลสี 2:15; ฮีบรู 2:14

าชกิจของพระวิญญาณต่อผู้เชื่อ ยอห์น 16:12-15
ยังมีหลายสิ่งที่พระเยซูจะบอกศิษย์ใกล้ชิด แต่ว่า พวกเขายังไม่อาจรับได้ทุกเรื่อง ดังนั้น พระเยซูจึงให้สิ่งต่าง ๆ ที่ต้องบอกเป็นราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงยืนยันว่า พระวิญญาณจะตรัสในสิ่งที่ทรงได้ยินจากพระบิดาที่ส่งต่อผ่านมาทางพระบุตร เวลาเรามาเชื่อพระเจ้าใหม่ ๆ เราก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไป บางสิ่งมันก็ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เราจะเข้าใจ อาจจะต้องใช้เวลา เพราะว่า ความรู้ที่ได้จากพระเจ้านั้นไปพร้อมกับการเติบโต ยิ่งเติบโต พระเจ้าก็จะทรงสอนในสิ่งที่ยากขึ้น ละเอียดขึ้นให้แก่เรา
พระบุตรทรงถวายพระเกียรติแด่พระบิดา และพระวิญญาณก็จะทรงถวายพระเกียรติแด่พระเยซู แต่ทั้งหมดนี้ ศิษย์ทั้ง 11 คน ก็ไม่ได้เข้าใจอะไรกระจ่าง …​เหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่า เรียนรู้จักพระเจ้าไปเถอะ มีบางอย่างที่ไม่เข้าใจเวลานี้ แต่พระวิญญาณจะทรงให้ความเข้าใจแก่เรา และเราเองก็จะช่วยให้คนอื่นได้เข้าใจด้วย


13* ยอห์น14:17; 14:26; กิจการ 8:31; ยอห์น 1:17; 14:6; สดุดี 25:5; ยอห์น 15:15
14* ยอห์น 7:39
15* ยอห์น17:10 ; ดูข้อ 14

วามทุกข์จะกลายเป็นความยินดี ยอห์น 16:18-23ก
พวกเราสมัยนี้ รู้ว่า พระเยซูตรัสถึงอะไร ความตายที่ใกล้เข้ามา แต่ศิษย์ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ทำไมพวกเขาร้องไห้ในขณะที่โลกยินดี? นี่มันเรื่องอะไรกันหรือ? ศิษย์ถาม แต่พระเยซูไม่ได้ตอบอย่างที่พวกเขาต้องการเพราะอย่างไร ๆ พวกเขาก็จะไม่เข้าใจอยู่ดี
แล้วพระเยซูทรงเปรียบเทียบว่า ความยินดีของพวกเขาจะมา เหมือนกับแม่ที่คลอดบุตร ใช่แล้ว มันเจ็บปวดมากก่อนที่จะได้เจอกับเวลาแห่งความยินดี เช่นกัน พวกเขาเป็นทุกข์ แต่ก็จะได้พบกับพระองค์อีก แล้วเมื่อพบพระองค์ ก็ไม่ต้องมีคำถามอะไรอีกเลย เพราะความยินดีนั้นท่วมท้น


18* ยอห์น 14:5
19* ดูข้อ 30; ยอห์น 2:24, 25
20* มัทธิว 9:15; มาระโก 16:10; ลูกา 23:27; วิวรณ์ 11:10; เยเรมีย์ 31:13; มัทธิว 5:4
21* อิสยาห์ 26:17; สดุดี 48:6; อิสยาห์ 13:8; 1 เธสะโลนิกา 5:3; วิวรณ์12:2
22* ดูข้อ 6; 2 โครินธ์ 6:10; ดูข้อ 16;สดุดี 33:21; อิสยาห์ 66:14; ลูกา 24:52; กิจการ 2:46; 8:8, 39;
23* ดูข้อ 26; ยอห์น 14:20; ดูข้อ 19, 30; ยอห์น 14:13; 15:16; เอเฟซัส 1:3

ขอได้ในพระนามพระเยซู อห์น 16:23ข-28
การขอในพระนามพระเยซูคือการขอโดยสิทธิอำนาจของพระองค์
เราบอกเจ้าเป็นคำภาพ (Figurative Language) บางครั้งคำที่เป็นภาพก็เข้าใจได้ง่ายขึ้นอย่างเช่นเรื่องพระองค์เป็นต้นองุ่น ทรงเป็นผู้เลี้ยงที่ดี
ที่พระเยซูตรัสว่า พระองค์จะไม่อธิษฐานต่อพระบิดาเพื่อพวกเขาอีก เพราะว่า เวลานี้ พวกเขาทูลขอต่อพระบิดาได้โดยตรง ในพระนามของพระบุตรที่พระบิดาทรงรักมาก พวกเขาไม่ใช่แค่ขอเพื่อตัวเอง แต่ขอเพื่อคนอื่น ๆ ได้เหมือนที่พระเยซูทรงอธิษฐานเผื่อชาวโลกนี้ (ฮีบรู 7:25)
ข้อ 28 นี้ เป็นการบอกชีวิตของพระองค์ในประโยคสั้น ๆ ทรงมาจากพระบิดา ทรงเข้ามาเป็นมนุษย์ในโลก จะทรงสิ้นพระชนม์ และจะทรงมีชีวิตกลับไปหาพระบิดา


24* มัทธิว 7:7 ; ยอห์น 15:11
25* ดูข้อ 2
27* ยอห์น 14:21, 23; 17:23; 21:15-17; 1 โครินธ์ 16:22; ดูข้อ 30; ยอห์น 17:8
28* ยอห์น 8:14; 13:3; 14:12

เราชนะโลกแล้ว ยอห์น 16:29-33
แล้วในที่สุด ศิษย์ของพระองค์ก็เริ่มเห็นภาพ และเข้าใจว่า ตนเองเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง มีความมั่นใจในความเชื่อมากกว่าความเป็นจริง จากนั้นทรงบอกเขาล่วงหน้าว่า พวกเขาจะกระจัดกระจายหนีไปเพราะความกลัว และทิ้งพระองค์ไว้ผู้เดียว พระองค์ทรงเตือนเขาว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ไม่ได้ทรงตำหนิพวกเขา ดูเหมือนว่าพระองค์อยู่ผู้เดียวหรือ? เปล่าเลย พระบิดาทรงอยู่กับพระองค์ตลอดเวลา
ที่พระองค์ทรงบอกเหตุการณ์ต่าง ๆ ล่วงหน้านี้เพื่อไม่ให้พวกเขาทุกข์ใจ แต่ให้เป็นสุขเพราะว่า พระองค์ทรงชนะตามแผนการของพระเจ้าที่วางไว้ทุกประการ
พระเยซูทรงบอกไว้เลยว่า แม้จะพบความทุกข์ยากแต่ก็ขอให้ยินดี เพราะว่า พระเยซูทรงชนะแล้ว ทรงไถ่มนุษย์ให้กลับไปหาพระบิดา ทรงมีชัยชนะเหนือความตาย


29* ดูข้อ 25
30* ยอห์น 21:17; 2:24, 25; ดูข้อ 27, 28; ยอห์น 3:2]
32* ยอห์น 4:21, 23; มัทธิว 26:31; มาระโก14:27; อิสยาห์ 63:5; ยอห์น 8:16, 29
33* ยอห์น 14:27; โคโลสี 3:15; ยอห์น 15:18-21; วิวรณ์ 1:9; กิจการ 14:22
ยอห์น 14:1, 27; โรม 8:37; 1 ยอห์น 4:4; 5:4, 5; วิวรณ์ 3:21; 12:11