เศคาริยาห์ 12 ในวันนั้น

การช่วยกู้นครเยรูซาเล็ม

 1 พระดำรัสที่หนักใจจากพระยาห์เวห์ เกี่ยวข้องกับอิสราเอล  พระยาห์เวห์ผู้ทรงคลี่ฟ้าสวรรค์ให้แผ่กว้างและวางฐานรากของแผ่นดินโลก  ผู้ทรงสร้างวิญญาณไว้ในตัวของมนุษย์ 
 
2“ ดูเถิด เราจะทำให้เยรูซาเล็มเป็นถ้วยแห่งความมึนเมา
แก่ประชาชนที่อยู่ล้อมรอบ ยูดาห์จะถูกล้อม เช่นเดียวกับนครเยรูซาเล็ม 
3 ในวันนั้น เมื่อชาติต่าง ๆ ในโลกชุมนุมกันเข้ามาต่อสู้กับเธอ  เราจะทำให้นครเยรูซาเล็มเป็นหินที่หนักสำหรับคนทั้งปวง  ทุกคนที่พยายามขยับก็จะบาดเจ็บสาหัส

4 ในวันนั้น พระยาห์เวห์ทรงประกาศ เราจะฟาดฟันให้ม้าทุกตัวต้องเตลิดตระหนก  พลม้าทุกคนจะคลั่งไป  เราจะจับตาดูวงศ์วานยูดาห์ แต่เราจะทำให้ม้าของชาติต่าง ๆ ตาบอด

5 แล้วผู้นำของยูดาห์จะกล่าวในใจของตนว่า “ประชากรเยรูซาเล็มเป็นกำลังของข้า เพราะพระยาห์เวห์องค์จอมทัพทรงเป็นพระเจ้าของพวกเขา”

6 ในวันนั้น เราจะทำให้วงศ์วานยูดาห์เป็นเหมือนหม้อไฟบนกองไม้ เป็นเหมือนคบไฟที่ลุกโชนในฟ่อนข้าว พวกเขาจะเผาผลาญคนทั้งหลายที่อยู่ล้อมรอบทั้งทางขวาและทางซ้าย ในขณะที่คนนครเยรูซาเล็มยังคงปลอดภัย 

7 พระยาห์เวห์จะทรงช่วยยูดาห์ก่อนใคร (เหมือนในอดีต )เพื่อว่าพระสิริแห่งวงศ์วานดาวิดและเกียรติของประชากรแห่งเยรูซาเล็มจะไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าเกียรติของยูดาห์  

8ในวันนั้น พระยาห์เวห์จะทรงปกป้องประชากรแห่งนครเยรูซาเล็ม เพื่อว่าคนที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาจะเป็นเหมือนดาวิด และวงศ์วานของดาวิดจะเป็นเหมือนพระเจ้า   เหมือนทูตของพระยาห์เวห์ทรงนำหน้าพวกเขาไป 

9 ดังนั้น ในวันนั้น เราจะตั้งหน้าทำลายชาติต่าง ๆ ที่เข้ามาโจมตีนครเยรูซาเล็ม

คร่ำครวญแด่พระองค์ผู้ที่พวกเขาแทง
(ยอห์น 19:31–37)

10 จากนั้นเราจะเทวิญญาณแห่งพระคุณและคำอธิษฐานลงเหนือประชากรแห่งนครเยรูซาเล็มและวงศ์วานดาวิด พวกเขาจะเงยหน้ามองขึ้นมายังเรา
ผู้ที่พวกเขาได้แทง พวกเขาจะร้องไห้คร่ำครวญ​เพื่อพระองค์ ราวกับคร่ำครวญเพื่อลูกคนเดียวของพวกเขา และเขาจะโศกเศร้าอย่างขมขื่นเพื่อพระองค์เหมือนกับคนที่โศกเศร้าเพราะลูกชายหัวปีของเขา 


11ในวันนั้น  การร้องไห้คร่ำครวญของนครเยรูซาเล็มจะยิ่งใหญ่เหมือนกับการคร่ำครวญ ของฮาดัด ริมโมนบนที่ราบเมกิดโด  

12 แผ่นดินจะร้องไห้เสียใจ แต่ละเผ่าจะร้องคร่ำครวญ เพื่อตระกูลของตน ตระกูลของดาวิด  และภรรยาของเขา ตระกูลแห่งเผ่านาธันและภรรยาของเขา

13 เผ่าแห่งวงศ์วานเลวีและภรรยาของพวกเขา
เผ่าแห่งวงศ์วานชิเมอีและภรรยาของพวกเขา 

14 และรวมไปถึงตระกูลที่เหลือกับภรรยาของพวกเขา  

อธิบายเพิ่มเติม

บทที่สิบสองนี้ กล่าวถึงการช่วยกู้อิสราเอล และการกลับใจของคนทั้งชาติ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นใกล้ ๆ กัน พระเจ้าทรงกล่าวถึงโลกปัจจุบันใช่หรือไม่?…  บทนี้กับบทที่ 14 เป็นเรื่องเดียวกัน แต่บทที่ 12 นี้ บอกถึงการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ที่ทำให้เกิดการกลับใจใหม่  ส่วนบทที่ 14 กล่าวถึงโลกทั้งโลก ที่จะได้รับผลจากการเสด็จกลับมาของพระเมสสิยาห์  
แม้ว่าบทนี้จะสั้น แต่ก็มีความหมายในอนาคตของอิสราเอลมาก สิ่งที่เขียนในบทอธิบายนี้ อาจจะไม่ครอบคลุมความหมายทั้งหมด เป็นเบื้องต้นที่จะทำให้เราได้สืบค้นความหมายที่ลึกไปกว่านี้

การช่วยกู้นครเยรูซาเล็ม
สิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ง่ายสำหรับคนอิสราเอลเลย
12:1 พระดำรัสที่น่าหนักใจ เป็นคำเดียวกันกับบทที่ 9 จะมีความทุกข์ยากเกิดขึ้นกับทั้งแผ่นดิน และคนอิสราเอล
เหตุใดพระองค์ตรัสถึงการทรงสร้างอีกครั้ง?  
พระเจ้าตรัสเพื่อทบทวนให้ผู้คนได้ทราบว่า พระองค์คือพระเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และโลก ผู้ประทานวิญญาณให้กับประชาชนทุกคน พวกเขาต้องตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเหนือผู้ปกครองใด ๆ และเทพใด ๆ ที่พวกเขาเฝ้าตามหา
ในบทนี้มีการใช้คำว่า ในวันนั้น หลายครั้ง  

12:2 ถ้วยในนี้มีความหมายถึงธรณีประตูหมายถึงการเปลี่ยนแปลง และพระองค์กำลังจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง! จากยุคนี้ ไปสู่ยุคแห่งพระเมสสิยาห์
 ถ้วยแห่งความมึนเมา .. ชาติต่าง ๆ ล้อมอิสราเอลก็จะหนักใจ ได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากการที่พวกเขามาสู้กับอิสราเอล
พวกเขาจะเหมือนกับดื่มเหล้าที่ประหลาด ทำให้เมามึนอย่างไม่คาดฝัน
พระเจ้าจะทรงปกป้องอิสราเอลทั้งคนในเมือง และคนนอกเมือง ไม่ใช่ว่าพระองค์จะทรงปกป้องแต่คนเมืองเท่านั้น  ทุกคนได้รับการปกป้องจากพระเจ้าเท่า ๆ กัน

12:3 วันนั้นคือวันของพระยาห์เวห์ วันที่เราจะต้องให้การเรื่องตัวเองกับพระเจ้า   เยรูซาเล็มจะกลายเป็นหินที่หนักสำหรับ
ชาติทั้งหลายที่พยายามจะทำลายอิสราเอล  อิสราเอลจะยืนโดดเดี่ยวในขณะที่ชาติต่าง ๆ ในโลกรุมต่อสู้ด้วยความเกลียดชัง  ซึ่งถ้าเรามองภาพเหตุการณ์ปัจจุบัน เราจะเห็นจริงว่าเป็นเช่นนั้น 
พระเจ้าทรงวางไว้ว่า เยรูซาเล็มจะเป็นพื้นที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก เราจะต้องตามดูให้เห็นว่าพระองค์ทรงทำอย่างไร
อีกสิ่งที่พระองค์ทรงทำคือ แผนการของชาติต่าง ๆจะล้มเหลว (สดุดี 33:10)

12:4  ม้าหมายถึงอำนาจ คืออาวุธต่าง ๆ ที่ชาติต่าง ๆ เอามาใช้  ม้าจะบ้าไป  ทำให้ม้าตาบอดไป นั่นคือ การที่อาวุธที่พวกเขาเตรียมมาเพื่อทำลาย ไม่อาจจะใช้ได้ 
ให้เราเทียบอาวุธของอิสราเอลในตอนนี้กับชาติต่าง ๆ ดูแล้วกันว่า มันห่างชั้นกันขนาดไหน อ่านเศคาริยาห์จริงจังจะเห็นว่า เหตุการณ์กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ในช่วงชีวิตของเรานี่เอง  

12:5 ผู้นำเหล่านี้ คิดว่า ประชากรเยรูซาเล็มซึ่งอยู่ในพระเจ้าจะเป็นกำลังของพวกเขา (เมื่อพูดถึงประชากรในเยรูซาเล็ม ก็จะหมายถึงประชากรที่ต้องการนมัสการพระเจ้า)  ผู้นำเองตระหนักว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้นำทัพให้พวกเขา เขาเริ่มมองเห็นว่า ใครเป็นใครในสงครามที่กำลังเผชิญอยู่

12:6 แล้วพระเจ้าจะทรงให้เขามีความสามารถอย่างยิ่งในการจัดการกับศึกที่เข้ามาต่อต้านพวกเขา เหมือนในสมัยโบราณ อ่าน ผู้วินิจฉัย 15:3-5 , เอสเธอร์ 9:1-28 อาจารย์บารุค คอรแมน จาก loveisrael.org ให้ความเห็นว่า เราจะทำให้วงศ์วานยูดาห์เป็นไฟคือ พวกเขาจะเข้มแข็งและทำลายทุกชาติที่เข้ามาโจมตีเยรูซาเล็ม

12:7 พระเจ้าทรงช่วยยูดาห์ คือวงศ์วานดาวิด และยังทรงช่วยประชากรเยรูซาเล็มด้วย ทั้งสองพวกได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์เหมือนกัน

12:8 วันนั้น พระเจ้าจะทรงรักษาคนที่นมัสการพระองค์ แม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดก็จะเข้มแข็งขึ้นมาแบบเหนือธรรมชาติ   พระเจ้าจะให้พวกเขามีชัยชนะ

12:9  ในวันนั้น พระเจ้าจะทรงตั้งพระทัย ทำลายชาติที่เข้ามาทำลายอิสราเอล
นี่เป็นคำที่น่ากลัว แต่คนทั้งหลายที่กำลังบุกอิสราเอลไม่ได้กลัวเลย แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าชัยชนะจะได้มาง่าย ๆ เพราะอิสราเอลจะต้องเจอศึกนานและหนักจนกว่าจะถึงวันนั้นที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้

คร่ำครวญแด่พระองค์ผู้ที่พวกเขาแทง
12:10 แล้วพระเจ้าจะทรงเทพระวิญญาณแห่งพระคุณ และคำอธิษฐานลงมาเหนือประชากร
ต่อมาอีกไม่นานหลังจากที่พระเยซูเสด็จสู่สวรรค์ พระเจ้าทรงส่งพระวิญญาณลงมาเหนือคนอิสราเอลที่มาจากแผ่นดินต่าง ๆ รอบอิสราเอล มีคนที่ต้อนรับพระองค์ในวันนั้นด้วย
พระวิญญาณทรงทำการตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
ผู้ที่พวกเขาได้แทงท่านนี้ เป็นคนเดียวกับหน่อที่งอกขึ้นมา (ในเศคาริยาห์ 3:8-9)
นี่เป็นภาพที่ตัวเศคาริยาห์เองก็ยังไม่เข้าใจ เพราะเป็นภาพที่ไกลจากเขาหลายร้อยปี ไม่มีใครนึกได้ว่าจะเกิดขึ้น
พระเยซูตรัสถึงพระคัมภีร์ตอนนี้ใน ยอห์น 19:37 ภาพที่เห็นในข้อนี้คือไม้กางเขนของพระองค์นั่นเอง
สำหรับเราในปัจจุบัน เราไม่ทราบว่า เหตุการณ์ที่คนอิสราเอลจำนวนมากจะกลับใจ และร้องไห้กับการสิ้นพระชนม์ เสียใจในบาป อย่างที่พระคัมภีร์ข้อนี้กล่าว จะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่พระเจ้าทรงบอกล่วงหน้าว่า สิ่งนี้จะเกิดขึ้นแน่

12:11 การร้องคร่ำครวญเพราะมีคนตาย แต่ก็มีคำคร่ำครวญในการนมัสการพระเจ้าด้วย 
การที่ฮาดัดเคยร้องไห้เพื่อลูกชาย (เราไม่ทราบว่า เกิดขึ้นเมื่อไร ไม่มีบันทึกในที่อื่น )

ใน 12:1-13:6  มีการพูดถึงวงศ์วานดาวิดบ่อย ข้อ 11 ดาวิด นาธัน และเลวี เป็นตัวแทนของกษัตริย์ ผู้เผยพระดำรัส และปุโรหิต วงศ์วานของผู้นำทั้งหมด จะกลับใจใหม่
การร้องไห้แยกระหว่างชายกับหญิงเป็นการให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ก่อนที่จะพบพระเจ้า จึงแยกระหว่างชายหญิง ดู อพยพ 19:15 โมเสสเตรียมคนสำหรับวันสำคัญ ท่านให้พวกเขาเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการพบพระเจ้า
(ซึ่งเกิดขึ้นในอพยพ 20)

พระคำเชื่อมโยง

เศคาริยาห์ 12
1* อิสยาห์ 42:5; 44:24; 57:16
2* อิสยาห์ 51:17
3* เศคาริยาห์ 12:4, 6, 8; 13:1; มัทธิว 21:44
4* เอเสเคียล 38:4

6* โอบาดีย์ 18
9* ฮักกัย 2:22
10* โยเอล 2:28-29; ยอห์น 19:34, 37; 20:27; เยเรมีย์ 6:26
11* วิวรณ์ 1:7; 2 พงศ์กษัตริย์ 23:29
12* มัทธิว 24:30; ลูกา 3:31

เนื่องจากบทนี้เป็นเรื่องของอนาคตสำหรับเศคาริยาห์ และยังมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในยุคของเรา ขอแนะให้ลองเข้าไปฟัง https://www.youtube.com/watch?v=_yO8ScZOhfI จะเข้าใจเศคาริยาห์ในมุมมองคนยุคใหม่มองย้อนกลับไปในอดีต

เศคาริยาห์ 11 ประเด็นเรื่องผู้เลี้ยง

ฝูงแกะที่ถูกสังหาร
1 โอ เลบานอน จงเปิดประตู
เพื่อไฟจะได้เผาป่าต้นซีดาร์ของเจ้า
2 ต้นสนทั้งหลาย จงร้องไห้คร่ำครวญ
เพราะต้นซีดาร์ถูกโค่นลงไปแล้ว 
ต้นไม้ที่สูงตระหง่านถูกทำลายไปแล้ว 
ร้องไห้คร่ำครวญสิ  ต้นโอ๊กแห่งบาชาน
เพราะป่าทึบถูกตัดลงจนเตียนโล่งไปแล้ว   

3 จงฟังเสียงคร่ำครวญของผู้เลี้ยงแกะ
เพราะ ความร่ำรวยของเขาถูกทำลายหายนะไป
จงฟังเสียงคำรามของเหล่าสิงโตหนุ่ม
เพราะป่าไม้แห่งจอร์แดนถูกทำลาย

พยากรณ์เรื่องคนเลี้ยงแกะ
4 พระยาห์เวห์องค์พระเจ้าของข้าพเจ้าตรัสว่า
“จงเลี้ยงฝูงแกะที่กำหนดไว้ให้ถูกฆ่า
5 เป็นฝูงแกะที่คนซื้อมาฆ่าล้างพวกเขา
โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร
คนที่ขายพวกมันไปกล่าวว่า
‘สรรเสริญพระยาห์เวห์ เพราะฉันรวยแล้ว!’
แม้แต่ผู้เลี้ยงก็ไม่ได้มีใจสงสารพวกมันเลย

6 เพราะเราก็จะไม่สงสารประชากรในแผ่นดินนี้ต่อไปแล้ว
พระยาห์เวห์ทรงประกาศ
แต่ดูเถิด เราจะทำให้คนแต่ละคนตกอยู่ในมือของเพื่อนบ้าน และกษัตริย์ของเขาผู้ที่จะเข้ามาทำลายล้างดินแดนนี้ 
และเราจะไม่ช่วยให้พวกเขาพ้นจากเงื้อมมือของคนเหล่านั้น 

ไม้เท้าสองอัน
7 ดังนั้นข้าพเจ้าจึงดูแลฝูงแกะที่จะต้องถูกฆ่าหมู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่ถูกทำร้าย
แล้วข้าพเจ้าก็เอาไม้เท้าคนเลี้ยงแกะมาสองอัน
เรียกอันหนึ่งว่า เป็นที่พอใจ อีกอันว่า  เป็นหนึ่งเดียว
แล้วข้าพเจ้าก็ดูแลฝูงแกะ
8 ภายในเดือนเดียว
ข้าพเจ้าก็ไม่อาจอดทนกับฝูงแกะได้อีกต่อไป
พวกมันก็เกลียดข้าพเจ้าด้วย
ข้าพเจ้ากำจัดคนเลี้ยงแกะทั้งสามนั้นไป   
9 แล้วข้าพเจ้ากล่าวว่า
ข้าจะไม่ดูแลพวกเจ้าอีกต่อไป
ตัวไหนจะตายก็ให้ตายไป
ตัวไหนจะพินาศก็ปล่อยให้พินาศไป
ตัวที่ยังอยู่ก็ให้กินเลือดเนื้อกันเองแล้วกัน

10 ต่อมาข้าพเจ้าเอาไม้เท้าที่เรียกว่า
เป็นที่ชื่นชอบ มาหักเป็นสองท่อน
เป็นการล้มเลิกพันธสัญญาที่ข้าพเจ้าทำกับชาติต่าง ๆ
11 พันธสัญญาจึงกลายเป็นโมฆะในวันนั้น
แกะตัวที่ทุกข์ยากในฝูงมองดูข้าพเจ้าอยู่
และก็รู้ว่า เป็นพระดำรัสขององค์พระยาห์เวห์

เงินสามสิบเหรียญ (​มัทธิว 27:3–10)
12 แล้วข้าพเจ้าบอกเขาว่า
“หากท่านเห็นว่าดี ก็จ่ายค่าจ้างให้ข้ามาเถิด
หากไม่เห็นดี ก็เก็บค่าจ้างนั้นไว้แล้วกัน”
ดังนั้นพวกเขาจึงชั่งเงินให้ข้าพเจ้ามาสามสิบเหรียญ
13 แล้วองค์พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า

“จงโยนเงินนี้ให้แก่ช่างปั้นหม้อ”
คือเงินค่าจ้างราคาสูงที่พวกเขาประเมินจ่ายให้ข้าพเจ้า 
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงนำเงินสามสิบแผ่นนี้
โยนลงไปไว้ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์เพื่อให้แก่ช่างปั้นหม้อ

14 แล้วข้าพเจ้าก็หักไม้เท้าอันที่สองซึ่งชื่อว่า
เป็นหนึ่งเดียว ..
เป็นการหักล้างความเป็นพี่น้องระหว่างยูดาห์และอิสราเอล
15 และพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า
“จงไปหยิบเครื่องมือเครื่องใช้ของคนเลี้ยงแกะที่โง่เขลามา

คนเลี้ยงแกะใจร้าย!
16 เพราะดูเถิด
เราจะตั้งคนเลี้ยงแกะผู้หนึ่งในแผ่นดิน
ที่จะไม่ใส่ใจแกะที่หลงหาย
ไม่ตามหาลูกแกะ
ไม่บำบัดรักษาตัวที่บ่วย
ไม่เลี้ยงดูตัวที่แข็งแรง
แต่เขาจะกินเนื้อแกะตัวที่อ้วนสุขภาพดี
และฉีกกีบเท้ามันออกมา 
17 “วิบัติแก่คนเลี้ยงแกะไร้ค่าที่ได้ทอดทิ้งฝูงแกะไป
ขอให้ดาบไปฟันแขนของเขาและตาขวาของเขา
ขอให้แขนของเขาลีบแห้งไป
และตาขวาของเขาบอดสนิท!”

อธิบายเพิ่มเติม

บทที่สิบเอ็ดแตกต่างจากบทที่เก้าและสิบ ซึ่งพูดถึงพระพร ความรุ่งเรือง บทนี้ กำลังให้เราเห็นภาพของบาปของผู้นำที่ทำให้ประชาชนหลงผิดไป  และยังเป็นภาพที่ให้เห็นถึงการที่อิสราเอลปฏิเสธพระเมสสิยาห์ที่พระเจ้าทรงส่งมา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก  พระเยซูทรงต้องสู้กับผู้นำศาสนายิวตลอดระยะเวลาที่ทรงอยู่ในโลก จนกระทั่งทรงสิ้นพระชนม์เพราะพวกผู้นำเหล่านั้นไม่อาจทนพระองค์ได้  

11:1-2
พระเจ้าประทานพระผู้เลี้ยงให้อิสราเอล แต่พวกเขากลับหันหลังให้พระองค์! นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้อิสราเอลถูกทำลาย พระเจ้าจะทรงเผาซีดาร์แห่งเลบานอน ซึ่งเป็นต้นไม้อันดับหนึ่งที่ทรงคุณค่า นี่เป็นภาพของวังซาโลมอนที่ใช้สนซีดาร์สร้างอย่างอลังการ   ยังหมายรวมถึงวงศ์วานยูดาห์ (เอเสเคียล 17:3-4)
ดังนั้น ต้นสน ต้นโอ๊กแห่งบาชานมีความหมายถึงความมั่งคั่ง ยิ่งใหญ่ตระการ 
บาชานเป็นแผ่นดินที่อยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนมีต้นไม้โอ๊กที่ใหญ่แข็งแรงมากมาย ทำให้ข้อนี้มีความหมายว่า แผ่นดินต่าง ๆ ผู้นำจำนวนหนึ่งจะถูกทำลาย 

11:3 เมื่อผู้เลี้ยงแกะ ซึ่งหมายถึงผู้นำของประชาชน ผู้ปกครอง ทั้งเลบานอน และจอร์แดน ไม่ได้อยู่ใต้ความจริงของพระเจ้า ไม่ได้เชื่อฟังพระองค์  พวกเขาคร่ำครวญเพราะพวกเขาไม่เหลือความมั่งคั่งจากการทำลาย     ป่าไม้ถูกทำลาย ทำให้สิงโตก็ไม่เหลือที่อยู่ 

11:4 ส่วนอิสราเอล ผู้นำศาสนายิวไม่ได้เลี้ยงดูคนของพระองค์ พวกเขาไม่ได้สอนให้ประชาชนรู้จักพระเจ้า นี่เป็นปัญหาเรื่องผู้นำที่โหดร้าย ไม่เห็นใจประชาชนที่ไม่รู้อะไร
แล้วพระเจ้าทรงสั่งให้เศคาริยาห์เลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์ ที่จะต้องถูกสังหาร เพราะผู้เลี้ยงเดิมนั้นไม่ใส่ใจ เห็นแก่ประโยชน์ของตนเองเท่านั้น 

11:5   ฝูงแกะก็คือประชากรทั้งหลายนั้นเอง พวกเขาไม่ได้รับการสอนให้รู้จักพระเจ้า พวกผู้เลี้ยงที่ควรดูแลประชากรทั้งหลายของพระเจ้า กลับขายคนเหล่านั้นไป พวกเขาเห็นแก่ได้ พวกเขาเป็นผู้เลี้ยงที่ขายแกะไปเพื่อให้ถูกฆ่า  ไม่มีใจสงสาร  ดีใจที่ตัวเองรวยขึ้นจากการขายให้ผู้ซื้อนำไปเข้าโรงเชือด

11:6    พระเจ้าทรงอนุญาตให้มีความยากเข็ญเกิดขึ้น นั่นคือ คนต่างชาติจะเข้ามาทำลายทั้งประเทศ และพระเจ้าจะปล่อยให้เกิดขึ้น  ในปี 70 โรมได้เข้ามาและทำลายเยรูซาเล็ม พระเจ้าไม่ได้ช่วยพวกเขา เพราะพวกเขาปฏิเสธพระบุตรของพระองค์ที่ทรงส่งมาเพื่อให้พวกเขารอด 

11:7 เศคาริยาห์จึงดูแลฝูงแกะที่มีอยู่จำนวนน้อย  นั่นคือคนที่ยอมรับพระเจ้า พวกเขาเป็นพวกที่ถูกดูหมิ่น  การเลี้ยงดูของเขา เขามีไม้เท้าสองอัน ชื่อไม้เท้า โนอาม เป็นที่พอใจหรือเป็นที่โปรดปราน กับ  อีกไม้เท้าคือ การเป็นหนึ่งเดียว  ไม้เท้าแรกสื่อความหมายว่า พระเจ้าทรงมีความโปรดปรานคนของพระองค์เป็นพิเศษ  อีกอันหนึ่งมีความหมายถึงการที่พระองค์จะรวบรวมเขาเป็นชาติที่เป็นหนึ่งเดียว ไม่แยกเป็นเหนือใต้เหมือนก่อน

11:8 น่าแปลกที่เศคาริยาห์เลี้ยงแกะแค่เดือนเดียว ก็เกิดเรื่องว่า ฝูงแกะเกลียดชังเขา คนเลี้ยงแกะสามคน ซึ่งมีความหมายถึง ผู้เผยพระดำรัส ปุโรหิต และกษัตริย์ (แต่บางท่านเห็นว่าเป็นปุโรหิต ผู้ใหญ่  สภายิว บ้างก็เห็นว่า เป็นกษัตริย์สามองค์สุดท้ายของเยรูซาเล็ม)   จะถูกทำลายไปในช่วงที่โรมจัดการ เพราะคนเลี้ยงแกะทั้งสาม ทำให้พระเจ้า ไม่พอพระทัยมาก 

11:9 เศคาริยาห์จะไม่ดูแลฝูงแกะอีกต่อไป   ตัวที่พินาศ ให้พินาศ ตัวที่เหลือ กินเนื้อกันเอง  ภาพที่เห็นคือ เมื่อพระเจ้าทรงกำหนดไว้ให้เกิดโศกนาฏกรรม เศคาริยาห์ก็จะปล่อยไป ไม่ยื้อไว้  เราจะพบว่า เมื่อเกิดการโจมตีจากศัตรู อิสราเอลจะพบกับการอดอยาก ทำให้คนกินเนื้อคนด้วยกันเอง เป็นภาพที่น่าสลดมาก (เฉลยธรรมบัญญัติ 28:53-57)

11:10  พระเจ้าจะเอาไม้โนอาม (เป็นที่โปรดปราน) มาหักเป็นสองท่อน  เราจะเห็นว่า การหักไม้เท้าที่มีชื่อเฉพาะนี้ สื่อให้เห็นว่าจากที่พระเจ้าทรงเคยให้สัญญาว่าจะปกป้องพวกเขาจากการบุกรุกนั้น กลายเป็นโมฆะ พระองค์ทรงล้มเลิกการปกป้องนั้น
(เราต้องเข้าใจว่า พันธสัญญาที่ทรงมีต่ออับราฮัมหรือดาวิด ไม่มีวันที่จะเป็นโมฆะได้ อ่านปฐมกาล 7:12-16; 2 ซามูเอล 7:12-16 )

11:11 แกะตัวที่ทุกข์ยากมองมา นั่นคือ คนที่เข้าใจก็จะรู้ว่าทำไมพระเจ้าทรงทำเช่นนี้ 

การทรยศ
ข้อ 11:12  เศคาริยาห์ เป็นผู้เลี้ยงแกะที่สื่อถึงองค์พระเมสสิยาห์ แล้วเศคาริยาห์ก็ไปพูดถึงเงินสามสิบเหรียญ  (ซึ่งเราต้องไม่ลืมว่า เขาพูดล่วงหน้าก่อนการที่พระเยซูจะถูกทรยศหลายร้อยปี นี่เป็นคำพยากรณ์ที่ตรงไปตรงมา เห็นว่าเกิดขึ้นจริงตามนั้น!)
ค่าจ้างดังกล่าวเป็นค่าจ้างสำหรับคนเลี้ยงแกะรับจ้าง สามสิบเหรียญ เป็นราคาของการจ่ายค่าชีวิตของทาสที่ถูกฆ่า (อพยพ 21:32)
ตอนนี้เขากำลังกล่าวถึงพระผู้เลี้ยงแสนดีที่จะทรงมาสิ้นพระชนม์เพื่อแกะในอนาคต

11:13 พระเจ้าทรงตอบว่า ให้เศคาริยาห์โยนเงินให้ช่างปั้นหม้อ … เป็นการกระทำที่บอกว่า ไม่เอาเงิน ในพระคัมภีร์ฮีบรู บอกว่าส่งไปให้คลังพระวิหาร  คนที่รับเงินมานั้น เขารู้ว่าผิด  พระเจ้าให้โยนเงินนี้กลับไป ไม่เอา ถูกสบประมาท และเราพบว่า ยูดาสเองได้พยายามคืนเงินจำนวนนี้กลับไปให้พวกยิวที่จ้างให้เขาทรยศพระเยซู  และปุโรหิตไม่ได้เอาเงินคืน แต่ก็ใช้เงินนี้ไปซื้อทุ่งของช่างปั้นเพื่อเอาไว้ฝังศพคนยากจน  (มัทธิว 27:3-10) ทำให้เราเห็นว่า สิ่งที่เศคาริยาห์ เกิดขึ้นจริงในชีวิตของพระเยซู

11:14 ไม้เท้าอันที่สองชื่อ รวมเป็นหนึ่งเดียวหรือ ผูกพัน ​
เศคาริยาห์หักมันเป็นสองท่อน เพื่อไม่ให้อิสราเอลกับยูดาห์เป็นพี่น้องกันอีก 
ชี้ให้เห็นว่า ไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวในชาติเลย เมื่อครอบครัว แตกแยก มันจะอยู่ไม่ได้ … ไปเป็นเชลย พวกเขาปฎิเสธพระเจ้า (สิ่งที่น่าสนใจคือ ในปัจจุบัน คนอิสราเอลมีความแตกแยกกันภายในระดับสูงมาก แม้ว่าจะมีสงครามกับฮามาส และอาหรับหลายด้าน ยังมีอีกหลายฝ่ายที่มีความเห็นแตกต่าง และ ขวางการทำงานของรัฐที่พยายามสู้กับศึกรอบด้านนี้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งการเดินขบวนประท้วง ทั้งการนำเสนอข่าวปลอมต่าง ๆ มากมาย )

11:15 จะมีผู้นำที่โง่เขลาในอิสราเอล  เมื่อพวกเขาทำสิ่งที่โลกต้องการ นั่นไม่ใช่ความต้องการของพระเจ้า 

11:16 เราจะต้ังคนเลี้ยงแกะที่ไม่ใส่ใจในการเลี้ยงคนของพระเจ้า แถมยังกินเนื้อด้วย  คิดถึงแต่ตัวเอง เป็นคนโหดที่จะทำร้ายประชาชนอย่างไม่น่าเชื่อ  ในข้อนี้ยังหมายถึงการที่เกิดสภาพคนกินเนื้อคนในพื้นที่ เนื่องจากสงคราม ความอดหยาก 

11:17 นี่เป็นการกล่าวถึงผู้นำที่เป็นผู้ต่อต้านพระคริสต์ เขาคนนี้จะทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับองค์พระเมสสิยาห์  เขาเป็นคนโง่เขลา(ข้อ 15) และไร้ค่า (ข้อ 17)ที่คิดว่าตัวฉลาด  อิสราเอลจะพบกับความทุกข์ยาก ก่อนที่พระเจ้าจะทรงพิพากษาเขาด้วยการทำให้เขาตาบอด แขนลีบ จะเจอกับการพิพากษาของพระเจ้า 
ดูเหมือนมีหลายอย่างเกิดขึ้นในบทที่สิบเอ็ด ทั้งการที่พระเจ้าทรงลงโทษ พระเจ้าทรงล้มเลิกสัญญา
และยังจะมีผู้นำที่ต่อต้านพระเจ้าเกิดขึ้นด้วย เป็นบทที่ทำให้เราอาจจะสับสนบ้าง แต่เราจะดูบทต่อไปน่าจะเข้าใจอะไรขึ้นกว่านี้…

เศคาริยาห์ 11
1* เศคาริยาห์ 10:10
2* เอเสเคียล 31:3; อิสยาห์ 32:19
3* เยเรมีย์ 25:34-36
5* เยเรมีย์ 2:3; 50:7; โฮเชยา 12:8; เอเสเคียล 34:2,3
7* เศฟันยาห์ 3:12
8* โฮเชยา 5:7
9* เยเรมีย์ 15:2
11* เศฟันยาห์ 3:12
12* อพยพ 21:32; มัทธิว 27:9
13* มัทธิว 27:3-10
15* อิสยาห์ 56:11
16* เอเสเคียล 34:1-10
17* เยเรมีย์ 23:1

เศคาริยาห์ 10 เราจะนำพวกเขากลับมา

ยูดาห์และอิสราเอลจะได้รับการฟื้นฟู
1 จงทูลขอฝนจากพระยาห์เวห์ในฤดูใบไม้ผลิ
พระยาห์เวห์ทรงเป็นผู้สร้างพายุเมฆ
และพระองค์จะประทานฝน พืชผลในไร่นาแก่ทุกคน 
2 เพราะเทวรูปประจำบ้านต่างให้คำลวง
ผู้เผยพระดำรัสทั้งหลายก็เห็นจินตภาพปลอม 
พวกเขาเล่าความฝันที่มุสาและให้คำปลอบใจที่ว่างเปล่า 
เพราะประชาชนไม่มีผู้เลี้ยง ดังนั้น
พวกเขาจึงกระจัดกระจายไปเหมือนแกะ

พวกเขาถูกข่มเหงเพราะไม่มีผู้เลี้ยง 
3“เราจึงโกรธเกรี้ยวกับเหล่าผู้เลี้ยง และเราจะลงโทษผู้นำ เพราะพระยาห์เวห์องค์จอมทัพจะทรงดูแลฝูงแกะของพระองค์
คือวงศ์วานยูดาห์ และจะทำให้พวกเขา
เป็นเหมือนม้าศึกที่ทรนงองอาจในสงคราม
4 ศิลามุมเอกนั้นจะมาจากยูดาห์
หมุดยึดเต็นท์มาจากเขา
รวมทั้งธนู และผู้ปกครองมาจากเขาด้วยกันทั้งหมด
(ข้อนี้เป็นคำพยากรณ์ถึงพระเมสสิยาห์ที่ชัดเจนมาก มาจากเผ่ายูดาห์ และทำให้เห็นพระลักษณะของพระองค์ และพระราชกิจที่จะทรงทำ)
5 พวกเขาจะเป็นนักรบผู้กล้าในสงคราม
เหยียบย่ำศัตรูบนถนนโคลน

พวกเขาจะต่อสู้เพราะพระยาห์เวห์ทรงอยู่กับพวกเขา
และเขาจะเอาชนะพลม้าของศัตรู



6 เราจะทำให้วงศ์วานยูดาห์เข้มแข็งขึ้น
และช่วยกู้วงศ์วานโยเซฟให้รอด
ราจะนำพวกเขากลับมาเพราะเราสงสารพวกเขา 
และพวกเขาจะเป็นเหมือนคนที่ไม่เคยถูกเราปฏิเสธเลย
เพราะเราเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา
เราจะฟังคำทูลของพวกเขา 

7 เอฟราอิมจะเป็นดั่งนักรบผู้กล้า
และใจของพวกเขาจะยินดีดั่งได้ดื่มเหล้าองุ่น
ลูกหลานของเขาจะได้เห็นและชื่นชมยิ่ง
ใจของพวกเขาจะยินดีในองค์พระยาห์เวห์
8 เราจะผิวปากเรียกให้พวกเขามาชุมนุมกัน
เพราะเราได้ไถ่พวกเขาไว้
และพวกเขาจะมีจำนวนมากมายเหมือนอย่างที่เคย 

9 แม้เราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปตามชาติต่าง ๆ  ในดินแดนที่ห่างไกลนั้นพวกเขาจะระลึกถึงเรา 
พวกเขาและลูกหลานจะมีชีวิตอยู่และกลับมา 
10 เราจะนำเขากลับมาจากอียิปต์
และรวบรวมพวกเขาจากอัสซีเรีย
เราจะนำพวกเขามายังกิเลอาดและเลบานอน
จนไม่มีที่พอสำหรับพวกเขา
 11 พวกเขาจะผ่านไปในทะเลแห่งความยากลำบาก
และจะสยบคลื่นทะเล 
น้ำลึกแห่งแม่น้ำไนล์จะแห้งเหือด
ความยะโสของอัสซีเรียจะถูกกำราบ
และคทาแห่งอียิปต์จะจากไป
12 เราจะทำให้พวกเขาเข้มแข็งโดยพลังของเรา
และพวกเขาจะเดินไปในพระนามของเรา”
พระยาห์เวห์ทรงประกาศ  

อธิบายเพิ่มเติม

ข้อ หนึ่งถึงห้า กล่าวถึงฤทธิ์ของพระเจ้าที่แตกต่างจาก ผู้นำที่เลวร้ายของอิสราเอล  ประชาชนของพระเจ้าหลงทางเพราะผู้นำชักชวนให้เขาไปทำผิด ให้จินตภาพหลอกลวง ทำให้คนอิสราเอลมีความรู้สึกดีทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์ไม่ดีเลย 
พระเจ้าจะทรงทำให้วงศ์วานยูดาห์เข้มแข็งขึ้นรวมไปถึงอิสราเอลด้วย……………………
10:1 พระเจ้าตรัสให้พวกเขารู้ว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ประทานฝนให้พวกเขาเพื่อจะมีอาหารกินบริบูรณ์ จะมีเมล็ดต่อไปให้ พวกเขาหว่าน
(อิสยาห์ 55:10 )
ประชาชนเข้าใจผิดคิดว่าต้องไปขอจากพระต่าง ๆ ที่พวกผู้นำทั้งหลายบอก (เพื่อพวกเขาจะได้เงินทองจากประชาชน)   แทนที่พวกเขาจะเชื่อพระเจ้า กลับกลายไปเชื่อรูปเคารพตามคนคานาอันซึ่งเป็นเพื่อนบ้านรอบ ๆ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเทพบาอัลที่ให้ฝน
ข้อนี้ พระเจ้าทรงย้ำเตือนให้อิสราเอลคิดให้ถูกต้องตามความเป็นจริง! 

10:2 สิ่งที่ผู้เผยพระดำรัสปลอมได้ทำกับประชาชนคือ  ฝันมุสาก็คือไม่ได้ฝันจริงเลย แต่เล่าเป็นตุเป็นตะให้ประชาชนฟัง ปลอบใจว่า บ้านเมืองจะดีขึ้น  พวกเขาไม่ได้พูดความจริงจากพระเจ้า นี่เป็นผู้นำฝ่ายวิญญาณที่พระเจ้าจะทรงจัดการ  อิสราเอลไม่มีผู้เลี้ยงแท้จริง

10:3 พระเจ้าทรงโกรธผู้นำเหล่านี้  พระองค์ต้องลงมาดูแลประชาชนด้วยพระองค์เอง  พระองค์จะทรงเป็นพระผู้เลี้ยงของพวกเขา พระองค์จะทรงเปลี่ยนคนอิสราเอลจากคนที่อ่อนแอ ไม่รู้เรื่อง จากคนที่เคยเป็นเชลยศึกพ่ายแพ้   ให้กลายเป็นคนที่เข้มแข็งดั่งม้าศึก 

10:4  แล้วจากวงศ์วานยูดาห์ พระเจ้าจะทรงส่งศิลามุมเอกมาให้ เป็นผู้นำของประชาชนที่ไม่เหมือนเหล่าคนหลอกลวง  นั่นคือ องค์พระเมสสิยาห์  ซึ่งทรงเป็นผู้นำที่จะทำให้ชาติมั่นคง (อิสยาห์  28:16) ช่วยยึดเป็นหมุดที่ทำให้พวกเขาไม่ตกลงไปในความดำมืดของผู้นำที่ชั่วช้าอีกต่อไป  หมุดนี้มีความหมายถึงผู้ที่ดูแลราชอาณาจักร แบกภาระไว้บนบ่าของพระองค์ (อิสยาห์ 22:22-24) ทรงเป็นหมุดที่ทำให้อาณาจักรของพระองค์มั่นคง  และพระเมสสิยาห์จะเป็นดั่งธนูของพระเจ้าที่ทำลายศัตรู (สดุดี 45:5)

10:5  และต่อมาผู้คนก็จะเป็นนักรบกล้าในสงคราม ทำลายศัตรูของพระเจ้า เพราะพระยาห์เวห์ทรงอยู่กับพวกเขา  แม้กระทั่งความยิ่งใหญ่ของกองทัพศัตรูที่มีรถม้า มีกำลังดูว่ามากกว่า แต่คนของพระเจ้าจะได้รับชัยชนะ ทำให้ความยิ่งใหญ่ของโลก ของศัตรูต้องอับอาย  กำลังของพวกเขาไม่ได้มาจากตัวเองแต่มาจากพระเจ้าผู้ทรงหนุนหลังพวกเขาอยู่ 

10:6  อิสราเอลไม่สามารถอวดตัวเองได้ว่า พวกเขาดี พระเจ้าจึงทรงช่วยกู้ แต่ที่พระเจ้าทรงช่วยกู้เพราะพระเมตตาสงสารที่มีต่อพวกเขา พระองค์จะตอบคำร้องทูลของพวกเขา นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาหันมาหาพระเจ้าเมื่อตกทุกข์ได้ยาก เช่นเดียวกัน  พระเจ้าทรงส่งพระเยซูลงมาในโลกเพื่อจะรื้อฟื้นให้ทุกคนกลับไปหาพระองค์​ทรงดีต่อมนุษย์ทุกคน 

10:7 ประชาชนที่เคยอ่อนแอ ตกอยู่ในการควบคุมของผู้นำคดโกง  จะกลายเป็นคนที่เข้มแข็ง พวกเขาจะยินดีในพระเจ้าที่ทรงช่วยกู้พวกเขาไว้   การที่ผู้เชื่อในพระเจ้าจะได้กลับมายินดีในพระเจ้าอย่างจริงจัง เป็นเป้าหมายของพระเจ้า เขาจะไม่ยินดีในสิ่งรอบข้างไร้สาระ ที่เคยยินดี เคยปรารถนาอีกต่อไป  แต่จะยินดีในพระเจ้าและแผ่นดินของพระองค์ทุกเวลา

10:8 ต่อมาพระองค์จะทรงแค่ผิวพระโอษฐ์ เรียกคนของพระองค์กลับมา และพวกเขาก็จะติดตามพระองค์ และไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แต่เป็นคนจำนวนมากมายมหาศาล

10:9 คนเชื้อชาติอิสราเอลได้กระจัดกระจายไปตามชาติต่าง ๆ จริงอย่างที่พระเจ้าได้ตรัสไว้เมื่อหลายพันปีมาแล้ว  พวกเขาไปอยู่ในบาบิโลน และกระจายออกไปทางอิหร่าน ข้ามไปเอเชียด้วย

ส่วนในยุคก่อนสงครามโลก  พวกเขาอยู่ในยุโรปมากมาย จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองที่นาซีได้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวในห้องแก๊สกว่าหกล้านคน .. พวกเขาจึงได้กลับมายังแผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาอีกครั้ง  นี่เป็นความจริงที่น่าประหลาดใจมาก เพราะเราไม่เคยเห็นชนชาติใดที่ได้กลับมายังที่เดิมซึ่งประเทศได้หายไปแบบอิสราเอลในโลกนี้เลย 
 

ชื่อของเศคาริยาห์ แปลว่า พระเจ้าทรงระลึกถึง และพวกเขาก็ระลึกถึงพระองค์เช่นกัน

10:10 การทรงเรียกกลับมายังดินแดนเดิมนั้น เศคาริยาห์กล่าวถึงอัสซีเรียและอียิปต์ที่เป็นศัตรูคู่แค้นของอิสราเอลมายาวนานมาก เมื่อพระเจ้ากล่าวถึงกิเลอาด (เป็นพื้นที่ทางตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน อยู่ระหว่างทะเลสาปกาลิลี กับทะเลตาย ) มีความหมายถึงดินแดนที่มียาขี้ผึ้งจากยางไม้ซึ่งรักษาบาดแผล และโรคภัยบางอย่างได้ (เยเรมีย์​ 22:6) ดินแดนแห่งนี้ ทำให้เราระลึกถึงความดีของพระเจ้าที่ทรงจัดหาสิ่งดี ๆ ให้ในชีวิตเรา  ส่วน เลบานอนนั้น มีความหมายถึงความเข้มแข็ง เกียรติ และความตระการงดงาม (อ่านอิสยาห์ 35:1-2)

10:11  พวกเขาจะผ่านไปในความยากลำบาก ทะเล มีความหมายถึงความสับสน วุ่นวาย ปัญหา  ในข้อนี้ เศคาริยาห์บอกว่า พวกเขาจะผ่านความทุกข์ยากต่าง ๆ ไป  เหมือนอย่างที่เคยผ่านทะเลในสมัยของโมเสส  คลื่นที่ถาโถมเข้ามาจะสยบต่อหน้าพวกเขา  อัสซีเรียและอียิปต์เป็นตัวแทนของศัตรูของอิสราเอล พระเจ้าจะทำให้พวกเขาหยุดที่จะยะโสต่อพระองค์ (มีบางเล่มที่แปลว่า พระเจ้าจะทรงข้ามทะเลไป)

10:12 พระยาห์เวห์ทรงสัญญาจะให้พลังแก่พวกเขา จะถึงเวลาที่พวกเขาจะเดินไปในพระนาม นั่นคือ  จะได้เป็นคนของพระองค์อย่างแท้จริง จะเชื่อมั่นในองค์พระเมสสิยาห์คือ พระเยซูคริสต์ แม้ว่าวันนี้พวกเขา เข้มแข็ง ต่อสู้ศัตรูอย่างกล้าหาญ ดูเหมือนว่า พวกเขาเข้มแข็งทั้งทางการเมือง การทหาร และมีจำนวนทวีขึ้น แต่จิตวิญญาณของพวกเขายังรอเวลาที่จะเป็นของพระเยซูคริสต์อย่างสมบูรณ์แบบ

พระคำเชื่อมโยง

เศคาริยาห์ 10
1* เยเรมีย์ 14:22; เฉลยธรรมบัญญัติ  11:13-14; โยเอล 2:23
2* เยเรมีย์ 10:8; 27:9; โยบ 13:4; เยเรมีย์ 50:6, 17; เอเสเคียล 34:5-8
3* เยเรมีย์ 25:34-36; เอเสเคียล 34:17; ลูกา 1:68;
บทเพลงโซโลมอน 1:9
4* อิสยาห์ 28:16; 22:23
5* สดุดี 18:42

6* เยเรมีย์ 3:18; โฮเชยา 1:7; เศคาริยาห์ 13:9
7* สดุดี 104:15
8* อิสยาห์ 5:26; เอเสเคียล 36:37;
9* โฮเชยา 2:23 ;เฉลยธรรมบัญญัติ  30:1
10* อิสยาห์ 11:11; 49:19-20
11* อิสยาห์ 11:15; เศฟันยาห์ 2:13; เอเสเคียล 30:13
12* มีคาห์ 4:5