สดุดี 120 การอยู่ใกล้ผู้เกลียดสันติ

บทเพลงที่ใช้แห่ขึ้นไปยังพระวิหารในเยรูซาเล็ม

เมื่อทุกข์ใจต้องอธิษฐาน
1.ในยามทุกข์ยาก ข้าร้องทูลต่อพระยาห์เวห์
และพระองค์ทรงตอบข้า
2.โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงช่วยกู้ข้าจากปากที่พูดมุสา
และจากลิ้นที่ล่อลวง

รู้อยู่แล้วว่าพระเจ้าจะทรงจัดการคนล่อลวงอย่างไร
3.โอ เจ้าลิ้นที่ล่อลวง พระเจ้าจะทรงทำอะไรกับเจ้า?
พระองค์จะทรงเพิ่มสิ่งใดให้เจ้าอีก
4.พระเจ้าจะทรงลงโทษเจ้าด้วยลูกธนูคมกริบของนักรบ
ด้วยถ่านจากซากไม้ที่เผาจนลุกโพลง

การอยู่ร่วมกับคนไม่เชื่อนานไป
5.วิบัติแก่ข้าที่เข้าไปอยู่กับคนเมเชค
ที่ข้าเข้าไปอยู่ในเต็นท์ของคนเคดาร์
6.ข้าอาศัยท่ามกลางคนที่เกลียดสันตินานไปแล้ว
7. ข้าเป็นคนแห่งสันติ
แต่เมื่อข้าพูดออกมา พวกเขาก็พร้อมทำสงคราม

ข้อพระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 18:6, 118:5; โยนาห์ 2:2

2*มัทธิว 26:59-62; สุภาษิต 12:22; สดุดี 140:1-3

3* โรม 6:21; มัทธิว 16:26; โยบ 27:8

4*ยากอบ 3:5-8; สุภาษิต 19:9; 18:21

5*ปฐมกาล 10:2, 25:13; เอเสเคียล 27:13

6* มัทธิว 10:16, 10:36; เอเสเคียล 2:6

7* มัทธิว 5:9; ฮีบรู 12:14; สดุดี 109:4

สดุดี 120:1-2 เมื่อทุกข์ใจต้องอธิษฐาน
คนเราต่างมีโอกาสที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากต่าง ๆ นา ๆ แต่สำหรับผู้เชื่อแล้ว เขามีพระเจ้าที่เขาจะร้องทูลขอความช่วยเหลือได้ ความทุกข์ของผู้เขียนครั้งนี้คือ การถูกใส่ร้าย และการล่อลวงซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรจากโลกปัจจุบัน
สดุดี 120:3-4 รู้อยู่แล้วว่าพระเจ้าจะทรงจัดการคนล่อลวงอย่างไร
คนที่มีลิ้นคมคอยล่อลวงคนอื่นนั้น จะได้รับการจัดการกับพระเจ้า ซึ่งเป็นเหมือนลูกธนูของนักรบ .. คนของพระเจ้าดูเหมือนแพ้ แต่พระเจ้าทรงเห็นทุกอย่างและพระองค์จะทรงตอบแทนคนที่ให้ร้ายคนอื่นด้วยวิธีของพระองค์
สดุดี 120:5-7 การอยู่ร่วมกับคนไม่เชื่อนานไป
การที่ผู้เขียนซึ่งเป็นผู้ที่เชื่อในพระเจ้า อยู่ในหมู่คนที่ชั่วร้าย เกลียดสันติภาพ มีแต่ความเกลียดชัง ดูเหมือนเขาจะไม่ชนะพวกนั้น แต่กลับกลายเป็นว่า อยู่ใต้มือของคนเหล่านั้น นี่เป็นตัวอย่างว่าเหตุใดพระเจ้าจึงทรงเรียกคนของพระองค์ให้มาอยู่รวมกันเป็นคริสตจักร ซึ่งมีความหมายถึงคนที่ถูกแยกออก การที่คนของพระเจ้าจะใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ไม่เชื่อนั้น ไม่ง่ายเลย

สดุดี 118 พระเจ้าทรงเป็นหลายสิ่งในชีวิต

ความรักที่มั่นคงตลอดกาล
1 โอ.. จงขอบพระคุณพระยาห์เวห์
เพราะว่า พระองค์ทรงดียิ่ง
เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์
2 จงให้อิสราเอลกล่าวว่า
ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์
3 จงให้วงศ์วานอาโรนกล่าวว่า
ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์
4 ให้ผู้ที่ยำเกรงพระเจ้ากล่าวว่า
ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์

ร้องหาพระเจ้า ดีที่สุด
5 ข้าร้องหาพระยาห์เวห์ ยามที่เผชิญกับความทุกข์ใจ
และพระยาห์เวห์ทรงตอบข้า ทรงช่วยให้ข้าเป็นไท
6 พระยาห์เวห์ทรงอยู่ฝ่ายข้า ข้าจะไม่กลัว
มนุษย์จะทำอะไรข้าได้?
7 พระยาห์เวห์ทรงอยู่ฝ่ายข้า ทรงเป็นพระผู้ช่วย
ข้าจะมองเห็นความพ่ายแพ้ของคนที่เกลียดชังข้า
8 เป็นการดีที่จะลี้ภัยในพระยาห์เวห์
ดีกว่าที่จะวางใจในมนุษย์
9 เป็นการดีที่จะลี้ภัยในพระยาห์เวห์
ดีกว่าที่จะวางใจในเจ้านาย


ชัยชนะมาจากพระนามของพระเจ้า
10 ในพระนามของพระเจ้า
ข้าเอาชนะชาติต่าง ๆ ที่รายล้อมข้า
11 พวกเขาโอบล้อมข้าไว้ทุกทิศ
แต่ข้าทำลายล้างพวกเขาด้วยพระนามของพระยาห์เวห์
12 พวกเขาเข้ามารุมล้อมข้าราวกับฝูงผึ้ง
แล้วพวกเขาต้องหนีกระเจิงไปราวกับไฟไหม้ต้นหนาม
ข้าทำลายล้างพวกเขาโดยพระนามพระยาห์เวห์
13 ข้าถูกผลักอย่างแรงจวนจะล้ม
แต่พระยาห์เวห์ทรงช่วยข้าไว้

กำลังและบทเพลงของข้าคือพระยาห์เวห์
14 พระยาห์เวห์ทรงเป็นกำลังและบทเพลงของข้า
พระองค์ทรงเป็นความรอดของข้า
15 บทเพลงยินดีแห่งความรอดนั้น
มาจากเต็นท์ของคนเที่ยงธรรม
พระหัตถ์ขวาของพระเจ้าทรงกระทำอย่างอาจหาญ
16 พระหัตถ์ขวาของพระเจ้าเป็นที่เทิดทูน​
พระหัตถ์ขวาของพระเจ้าทรงกระทำอย่างอาจหาญ
17ข้าจะไม่ตาย แต่ข้าจะมีชีวิต
และทบทวนประกาศสิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงกระทำ
18 พระยาห์เวห์ทรงตีสอนข้าอย่างรุนแรง
แต่พระองค์มิได้ทรงมอบข้าไว้แก่ความตาย


ประตูรั้วของพระเจ้า
19 ขอทรงเปิดประตูรั้วแห่งความเที่ยงธรรมให้ข้าได้เข้าไป
และถวายคำขอบพระคุณแด่พระยาห์เวห์
20 นี่คือประตูรั้วของพระยาห์เวห์
คนเที่ยงธรรมจะเดินเข้าไปผ่านประตูนี้
21ข้าขอบพระคุณที่พระองค์ทรงตอบข้า
และทรงมาเป็นความรอดของข้า
22 ศิลาที่ผู้ก่อสร้างได้ทิ้งนั้น
กลับกลายมาเป็นศิลามุมเอก
23 นี่คือราชกิจขององค์พระยาห์เวห์
และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในสายตาของพวกเรา
24 วันนี้เป็นวันที่พระยาห์เวห์ทรงสร้าง
ให้เราชื่นชมและยินดีในวันนี้


คำอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์
25 โอ พระยาห์เวห์ เราอธิษฐานขอพระเจ้าทรงช่วยกู้เรา
โอ พระยาห์เวห์ เราอธิษฐานขอความสำเร็จจากพระองค์
26 พระพรเป็นของท่านที่มาในพระนามของพระยาห์เวห์
เราขอถวายพรแก่ท่านจากพระนิเวศของพระยาห์เวห์
27 พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า
ทรงให้แสงสว่างของพระองค์ส่องมาเหนือเรา
ให้เราพันเครื่องบูชาแห่งเทศกาลด้วยเถาวัลย์
ไปจนถึงเชิงงอนแท่นบูชา
28 พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้า
และข้าขอถวายคำขอบคุณแด่พระองค์
พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้า ข้าจะเทิดทูนพระองค์
29 โอ จงขอบคุณพระยาห์เวห์
เพราะพระองค์ทรงดียิ่ง
เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์

พระคำเชื่อมโยง

1* 1 พงศาวดาร 16:34; เยเรมีย์ 33:11; สดุดี 107:1,106:1

2* สดุดี 115:9-11, 135:19-20; 1 เปโตร 2:9-10

3* วิวรณ์ 5:8-10, 4:7-11; สดุดี 134:1-3

4* วิวรณ์ 19:5; สดุดี 22:23

5* สดุดี 18:19, 120:1, 40:1-3

6* ฮีบรู 13:6; โรม 8:31; สดุดี 56:4,11

7* สดุดี 59:10, 54:4, 55:18

8* สดุดี 40:4, 62:8-9, มีคาห์ 7:5-7

9* เอเสเคียล 29:7; อิสยาห์ 31:8; 31:1, 30:2-3

10* วิวรณ์ 20:8-9; เศคาริยาห์ 14:1-3; วิวรณ์ 19:19-21

11* สดุดี 88:17 , 22:12-16; 1 ซามูเอล 23:26

12*เฉลยธรรมบัญญัติ 1:44; นาฮูม 1:10; สดุดี 58:9

13* สดุดี 140:4, 86:17; มีคาห์ 7:8; สดุดี 8:17-18

14* อิสยาห์ 12:2;สดุดี 17:1, 18:2; มัทธิว 1:21-23

15* กิจการ 2:46-47; สดุดี 89:13; 60:12; วิวรณ์ 18:20

16* อพยพ 15:6; กิจการ 2:32-36

17* ยอห์น 11:4; สดุดี 73:28; อิสยาห์ 38:16-20

18* 2 โครินธ์ 6:9; 1 โครินธ์ 11:32; โยบ 5:17-18


19* อิสยาห์ 26:2; วิวรณ์ 22:14; สดุดี 100:4; 9:13-14

20* วิวรณ์ 21:24-27, 22:14-15 ; อิสยาห์ 26:2, 35:8-10

21* สดุดี 116:1; 118:14; อิสยาห์ 49:8, 12:2

22* ลูกา 20:17; มัทธิว 21:42; กิจการ 4:11; 1 เปโตร 2:4-8

23*เอเฟซัส 1:19-22; โยบ 5:9; กิจการ 13:41

24* สดุดี 84:10; อิสยาห์ 58:13; เนหะมีย์ 8:10

25* สดุดี 90:17; 20:9, 69:13

26* ลูกา 19:38; มัทธิว 21:9, ยอห์น 12:13

27* 1 เปโตร 2:9; สดุดี 18:28; เอสเธอร์ 8:16

28* อิสยาห์ 25:1; สดุดี 146:2; อพยพ 15:2

29* สดุดี 118:1, 103:17; เอสรา 3:11; อิสยาห์ 63:7

ถึงแม้จะเป็นบทสดุดีชักชวนพี่น้องชาวยิวให้เดินในขบวนแห่ไปยังพระวิหาร แต่ก็เป็นพระคำที่หนุนใจเราทุกคนที่จะมีชีวิตอยู่กับพระเจ้าอย่างใกล้ชิด พระองค์ทรงเป็นทั้งกำลัง บทเพลง ความรอด แสงสว่าง ทรงเป็นแม่ทัพของเรา ทรงเป็นศิลามุมเอก เป็นประตูของพระเจ้า นี่คือชีวิตที่สุดยอดจริง ๆ

สดุดี 118:1-4 ความรักที่มั่นคงตลอดกาล
เป็นการเรียกให้ผู้เชื่อในพระเจ้าเข้ามาขอบพระคุณพระองค์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์ ไม่ใช่แค่ขอบคุณ แต่จะใคร่ครวญว่า พระเจ้าทรงทำอะไรให้บ้าง สดุดีบทนี้เริ่มและจบด้วยคำแบบเดียวกัน มีการเรียกทั้งคนอิสราเอล วงศ์วานอาโรน และผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าทั้งหมด ให้มาร่วมใจกันขอบพระคุณ ไม่ได้เว้นใครเลย

สดุดี 118:5-9 ร้องหาพระเจ้าดีที่สุด
ในยามลำบาก ผู้ที่เชื่อในพระเจ้าไม่ใช่แค่พยายามเท่านั้น แต่เขาร้องหาพระเจ้าเพราะศัตรูที่เกลียดชังอยู่ตรงหน้า และพระคำตอนนี้ ย้ำชัดสำหรับเราทุกคนว่า เราต้องพึ่งพระเจ้ามากกว่าพึ่งมนุษย์

สดุดี 118:10-13 ชัยชนะมาจากพระนามของพระเจ้า
ผู้เขียนไม่ได้มีแค่ศัตรูที่เป็นตัวต่อตัว แต่เขามีศัตรูที่เป็นชนชาติต่าง ๆ ที่รายล้อม ดังนั้น แม้ไม่ได้บอกว่าใครเป็นผู้เขียนแต่หลาย ๆ ท่านก็มองว่าเป็นกษัตริย์ดาวิด เพราะข้อเขียนตอนนี้ เป็นภาพของการรบในสนามรบอย่างชัดเจน ผู้เขียนรู้ว่าตนเองได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้าให้ฟาดฟันศัตรูออกไปได้ เกือบจะเสียทีแต่พระยาห์เวห์ทรงช่วยไว้ ชีวิตเราทุกวันก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน

สดุดี 118:14-18 กำลังและบทเพลงของข้าคือพระยาห์เวห์
พระเจ้าทรงเป็นที่มาของกำลัง ของเพลงที่ร้อง และทรงเป็นความรอดของผู้ที่เชื่อ
และตรงนี้ได้กล่าวถึงพระหัตถ์ขวาของพระเจ้าว่า กระทำกิจอย่างอาจหาญ ได้รับการเทิดทูน
การมีชีวิตของผู้เชื่อที่ทำให้มั่นคงนั้นคือ ทบทวน ประกาศสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำในโลก ในชีวิต
และเมื่อเราต้องรับการตีสอน พระเจ้าก็จะให้เรียนแต่ไม่ให้ตายไปเสียก่อน

สดุดี 118:19-24 ประตูรั้วของพระเจ้า
ข้อความตอนนี้ชวนให้คิดถึงพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นประตู ทรงเป็นความรอด ทรงเป็นศิลามุมเอก
พระเยซูคือความมหัศจรรย์ทั้งสิ้นในชีวิตของเรา

สดุดี 118:25-29 คำอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์
ผู้ที่เชื่อในพระเจ้า ไม่ได้มีความสำเร็จใด ๆ จากตัวเอง แต่เป็นพระเจ้าผู้ประทานให้ วันนี้เป็นวันที่พระเจ้าทรงสร้างให้พวกเขามารวมตัวกันสรรเสริญพระองค์ มีขบวนแห่ไปจนถึงแท่นบูชาของพระเจ้า
พวกเขาขอทั้งความสำเร็จ ขอพระพร ขอแสงสว่างให้ส่องมายังพวกเขา และพวกเขาขอถวายคำขอบพระคุณ การเทิดทูนพระองค์ไปด้วยกัน








สดุดี 117 สดุดีที่ยั่งยืนอยู่เป็นนิตย์

1 ชนชาติทั้งปวงเอ๋ย จงสรรเสริญพระยาห์เวห์

จงยกย่องพระองค์เถิด  มนุษย์ทั้งหลาย

2 เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ที่มีต่อเรานั้น ยิ่งใหญ่

และความซื่อตรงของพระยาห์เวห์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

สรรเสริญพระยาห์เวห์!

พระคำเชื่อมโยง

1* โรม 15:11; วิวรณ์ 15:4, 5:9

2* อิสยาห์ 25:1; สดุดี 85:10;
โรม 15:8-9

เป็นการเรียก เชิญคนทั้งโลกมาสรรเสริญพระเจ้า ไม่เว้นใครเลย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะพระเจ้าทรงรักมนุษย์ทุกคนมาก เมื่อเขาเกิดมา พระเจ้าประทานสิ่งจำเป็นรอพวกเขาอยู่แล้ว เพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้
เป็นความรักที่ให้กับทุกคนโดยไม่เห็นแก่หน้าใคร
อย่างไรก็ตาม พระเจ้ายังมีความรักพิเศษให้กับทุกคนที่รักพระองค์
ความรักและความซื่อตรงของพระเจ้ามีมาใหม่ทุกเวลาเช้า ไม่พอ… ยังมีดำรงคงอยู่ยั่งยืนเป็นนิตย์

สดุดี 116 พระคุณที่เกินพอสำหรับชีวิต


คำร้องทูลของผู้เขียน
1 ข้ารักองค์พระยาห์เวห์
เพราะพระองค์ทรงฟังเสียงร้องทูลขอพระกรุณา
2 และพระองค์ทรงฟังข้า
ดังนั้น ตราบเท่าที่ข้ามีชีวิต
ข้าจะร้องหาพระองค์
เมื่อข้าต้องการความช่วยเหลือ
3 บ่วงแห่งความตายล้อมข้าไว้
กับดักแห่งแดนตายประจันหน้ากับข้า
ข้าเผชิญกับความยากลำบากและความทุกข์ใจ
4 ข้าร้องเรียกพระนามพระยาห์เวห์
“ได้โปรดเถิด องค์พระยาห์เวห์
ขอทรงช่วยกู้ชีวิตข้าด้วย”

การปกป้องของพระยาห์เวห์
5 พระยาห์เวห์เต็มด้วยพระกรุณา
และทรงเที่ยงธรรม
พระเจ้าของเราเต็มด้วยพระทัยสงสาร
6 พระยาห์เวห์ทรงปกป้องคนที่โง่เขลา
เมื่อข้าพบความยากลำบาก
พระองค์ทรงช่วยกู้ข้า
7 จิตใจของข้าเอ๋ย จงพักสงบเถิด
เพราะพระยาห์เวห์ทรงช่วย
ปกป้องสิทธิของเจ้า
8 ใช่แล้ว พระองค์ทรงช่วยข้า
ให้พ้นจากความตาย
ทรงทำให้ข้าไม่ต้องร้องไห้
ทรงป้องกันไม่ให้เท้าของข้าสะดุด
9 ข้าจะรับใช้องค์พระยาห์เวห์
ในดินแดนของคนเป็น

ฉลองชัยที่ทรงช่วยกู้ชีวิตไว้
10 ข้ายังเชื่ออยู่ แม้ข้าพูดว่า
“ข้ากำลังทุกข์ยากเหลือเกิน”
11 ข้ากล่าวอย่างทันควันว่า
“มนุษย์ทุกคนเป็นคนโกหก”
12 ข้าจะตอบแทนองค์พระยาห์เวห์ได้อย่างไร
สำหรับน้ำพระทัยอันกว้างขวางของพระองค์
ที่มีต่อข้า?
13 ข้าจะยกถ้วยแห่งความรอดขึ้นมา 
และจะร้องเรียกพระนามของพระยาห์เวห์
14 ข้าจะทำตามคำปฏิญาณที่มอบไว้กับ
องค์พระผู้เป็นเจ้า
ต่อหน้าประชาชนของพระองค์

ขอสัญญาจะทำตามคำปฏิญาณ
15 ความตายของวิสุทธิชนของพระยาห์เวห์
มีค่ายิ่งในสายพระเนตรของพระองค์
16 ใช่แล้ว โอ พระยาห์เวห์
ข้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์จริง ๆ
ข้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
ลูกชายของหญิงผู้รับใช้ของพระองค์
พระองค์ทรงช่วยข้าจากความตาย
17 ข้าจะถวายคำขอบพระคุณแด่พระองค์
และร้องเรียกพระนามของพระยาห์เวห์
18 ข้าจะทำตามคำปฏิญาณ
ที่มอบไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า
ต่อหน้าประชาชนของพระองค์
19 ในลานพระนิเวศของพระยาห์เวห์
ท่ามกลางเยรูซาเล็ม
สรรเสริญพระยาห์เวห์!

พระคำเชื่อมโยง

1* 1 ยอห์น 4:19, 5:2-3 ; สดุดี 66:19-20; ยอห์น 16:24;

2* สดุดี 145:18-19; 40:1, 55:16-17, 86:6-7

3* สดุดี 38:6; ฮีบรู 5:7; ลูกา 22:44; มาระโก 14:33-36; โยนาห์ 2:2-3

4*สดุดี 118:5, 22:20, 143:6-9; ลูกา 23:42-43

5* เอสรา 9:15; สดุดี 145:17, 119:137, 103:8

6* สดุดี 79:8, 142:6, 19:7 ; 2 โครินธ์ 1:12

7* สดุดี 13:6; มัทธิว 11:28-29; เยเรมีย์ 30:10; เยเรมีย์ 6:16

8* สดุดี 56:13, 86:13 ; วิวรณ์ 21:4, 7:17

9* สดุดี 27:13, 61:7; ลูกา 1:75; 1 พงศ์กษัตริย์ 9:4

10* 2 โครินธ์ 4:13; ฮีบรู 11:1; 2 เปโตร 1:21

11* สดุดี 31:22; เยเรมีย์ 9:4-5; โรม 3:4

12* สดุดี 103:2; 1 โครินธ์​ 6:20; โรม 12:1; 2 โครินธ์ 5:14-15

13* สดุดี 16:5, 116:2; 1 โครินธ์ . 11:25-27; ลูกา 22:20

14* โยนาห์ 2:9; สดุดี 116:18, 22:25, 56:12; มัทธิว 5:33

15* สดุดี 72:14, สดุดี 37:32-33; 1 ซามูเอล 25:29

16* สดุดี 86:16, 143;12; ยากอบ 1:1; โรม 6:22

17* สดุดี 50:14; เลวีนิติ 7:12; ฮีบรู 13:15

18* สดุดี 116:14, 22:25

19* สดุดี 135:2, 96:8, 122:3-4

ข้อ 1-4 คำร้องทูลของผู้เขียน
สดุดีบทนี้เป็นบทหนึ่งในจาก 113-118 ที่เรียกว่าสดุดีสรรเสริญเมื่อครั้งที่อยู่ในอียิปต์ หรือ คำสรรเสริญจากแผ่นดินอียิปต์  
เป็นเพลงที่ศิษย์และพระเยซูร้อง ในคืนที่พระองค์ถูกทรยศและจับตัวไป (มัทธิว 26:30, มาระโก 14:26)

สดุดีชุดนี้มีเนื้อความที่กล่าวถึงการพ้นจากบาป การได้รับอิสระจากชีวิตบาป

ผู้เขียนมีความรู้สึกรักพระเจ้าจากส่วนลึกของหัวใจเพราะเขาได้รับคำตอบเสมอเมื่อทูลอธิษฐานต่อพระเจ้าหัวใจเต็มด้วยความยินดีในความดีของพระเจ้า  นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขารักพระเจ้า  และเขาจะต้องร้องหาพระองค์ต่อไปเพราะว่าในชีวิตของเขาไม่ใช่เป็นชีวิตที่ง่ายเลย
เขาเจอบ่วงความตาย … พระคำข้อนี้ทำให้นึกถึงพระเยซูที่ถูกบ่วงความตายห้อมล้อมพระองค์บนไม้กางเขนแต่พระเจ้าพระบิดาทรงฟังเสียงของพระบุตรและทรงให้พระองค์ทรงฟื้นขึ้นจากความตาย …​ พระองค์ทรงอธิษฐานตลอดชีวิตของพระองค์แม้ยามที่อยู่บนไม้กางเขนเผชิญกับความตายอันน่าสะพรึง 

ข้อ  5-9 การปกป้องของพระยาห์เวห์
ข้อ 5 นี้ผู้เขียนระลึกถึงพระลักษณะที่สำคัญต่อชีวิตของมนุษย์มากคือทรงกรุณาเที่ยงธรรมทรงสงสารคนของพระองค์  เราจะคิดไปถึงพระเยซูที่พระองค์ทรงสละพระชนม์ ก็เพราะหัวใจของพระองค์เป็นเช่นนี้ ทรงช่วยปกป้องคนโง่ที่ทำบาป   ช่วยกู้จากความตาย   
คนเรามักไม่รู้ตัวว่าตกต่ำแค่ไหนแต่พระเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์มาช่วยเรา 
ผู้เขียนสั่งให้ตนเองพักสงบในพระเจ้า มั่นใจในพระองค์ที่จะทรงช่วยก่อนที่เราจะรู้ตัว พระองค์ทรงป้องกันชีวิตผู้ที่วางใจพระองค์ไว้ก่อนที่เขาจะสะดุด เราลองมองย้อนกลับไปในชีวิต จะเห็นการทรงนำของพระเจ้าชัดเจนเพื่อไม่ให้เราล้มลงไป
การเดินต่อพระพักตร์มีความหมายว่า  คนของพระเจ้าเดินอย่างโปร่งใสต่อพระเจ้า จะใช้ชีวิตอย่างไรก็ยำเกรงพระเจ้า  ไม่ใช่คนที่เดินทาสีฉาบหน้าให้คนเห็นว่าดี  

ข้อ 10-14 ฉลองชัยที่ทรงช่วยกู้ชีวิตไว้
แม้ขณะที่กำลังทุกข์ยาก  ผู้เขียนยังมีความเชื่อแม้ว่าในช่วงที่กำลังถูกทดสอบอย่างหนักความเชื่อไม่ได้หายไปไหน  และการที่เขาบอกว่ามนุษย์เป็นคนโกหกทั้งนั้น  เพราะเขาได้เจอกับการทรยศและการที่ไว้ใจไม่ได้…
ข้อ 12 มีอะไรที่มนุษย์จะตอบแทนพระเจ้าได้ไม่มีเลย  สิ่งที่ผู้เขียนจะทำคือการยกถ้วยแห่งความรอดซึ่งอาจหมายถึงเครื่องดื่มบูชาที่เขาจะยกขึ้นมาในขณะที่กล่าวคำขอบพระคุณที่พระเจ้าทรงช่วยจะร้องเรียกพระเจ้าต่อไปและจะทำตามคำที่เคยปฏิญาณไว้นั่นคือสิ่งที่เขาตั้งใจจะทำ

ข้อ 15-19 ขอสัญญาจะทำตามคำปฏิญาณ
ข้อ 15 ทำให้เราได้รับการปลอบใจเพราะพระเจ้าทรงให้คุณค่าของชีวิตผู้เชื่อพระองค์  พระองค์ไม่ได้มองเฉยๆยิ่งคนที่สิ้นชีวิตเพราะความเชื่อในพระองค์  พระองค์ทรงเห็นและจะทรงตอบแทนพวกเขาอย่างมีเกียรติและแน่นอนว่าการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์เป็นการสิ้นชีวิตที่มีค่าที่สุด  
ข้อ 16 นี้ยืนยันว่าอย่างไรเขาก็เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ 
ข้อ 17-18 เป็นการกล่าวซ้ำเหมือนข้อ 13-14