สดุดี 26 อธิษฐานขอพระเจ้าทรงตรวจสอบและทรงไถ่

สดุดีของดาวิด

ขอพระเจ้าทรงตัดสิน ตรวจสอบชีวิต
1 โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้าพระองค์​
เพราะข้าดำเนินชีวิตในความเที่ยงตรง
ข้าวางใจในองค์พระยาห์เวห์ ข้าจึงไม่หวั่นไหว
2 โอ พระยาห์เวห์​ ขอทรงตรวจสอบข้า และพิสูจน์ข้า
ขอทรงทดสอบความคิดและจิตใจส่วนลึกของข้า
3 เพราะความรักมั่นคงของพระองค์อยู่ตรงหน้าข้า
และข้าได้เดินในความจริงของพระองค์
ยืนยันว่าไม่คบคนชั่ว
4 ข้าไม่นั่งกับหมู่คนหลอกลวง
จะไม่เดินคู่ไปกับคนหน้าไหว้หลังหลอก
5 ข้าเกลียดชังชุมนุมคนทำชั่ว
และจะไม่นั่งกับคนโหดร้าย
ข้ารักพระนิเวศของพระเจ้า
6 ข้าจะล้างมือแสดงความบริสุทธิ์
และเดินรอบแท่นบูชาของพระองค์ โอ พระยาห์เวห์
7 เพื่อจะเปล่งเสียงขึ้นขอบคุณพระองค์
และเล่าถึงราชกิจอันน่าพิศวงของพระองค์
8 โอ พระยาห์เวห์ ข้ารักพระนิเวศของพระองค์
และสถานที่ซึ่งพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ปรากฏอยู่
อธิษฐานขอความรอดพ้น
9 ขออย่าทรงลากวิญญาณของข้าไปพร้อมกับคนบาป
หรือปลิดชีวิตของข้าไปพร้อมกับคนที่กระหายเลือด
10 คนที่มือเป็นแผนชั่วร้าย และมือขวาเต็มด้วยสินบน
11 แต่สำหรับข้า ข้าจะเดินในความเที่ยงตรง
ขอทรงไถ่ข้าและทรงเมตตาข้าด้วย
มั่นใจในพระยาห์เวห์
12 เท้าของข้ายืนมั่นคงอยู่บนพื้นราบ
ข้าจะถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์
ในที่ประชุมใหญ่

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 7:8, 2 พงศ์กษัตริย์ 20:3, สุภาษิต 20:7, สดุดี 13:5, 28:7

2* สดุดี 17:3, 139:23

3* 2 พงศ์กษัตริย์ 20:3, สดุดี 86:11

4* สดุดี 1:1, เยเรมีย์ 15:17

5* สดุดี 31:6, 139:21, 101:3-8

6* สดุดี 43:4, อพยพ 30:19-20

7* สดุดี 9:1, 145:5

8* สดุดี 27:4,84:1-4, 10

9* วิวรณ์ 22:14-15, สดุดี 139:19

10* ฉธบ. 16:19, สดุดี 52:2, 1 ซามูเอล 8:3

11* สดุดี 26:1, 1 เปโตร 1:18-19

12* สดุดี 40:2, 27:11

อธิบายเพิ่มเติม สดุดี 26

สดุดี 26:1-3
สดุดี 26-28 เป็นสดุดีที่เราจะเห็นว่า กษัตริย์ดาวิดได้กล่าวถึงการได้ชมความงามของพระนิเวศอย่างชัดเจน ข้อ 1-3 ท่านได้ทูลขอพระเจ้าทรงแก้ต่างให้ เหมือนว่ามีคนมากล่าวโทษท่าน ท่านได้บอกความในใจชัดเจนว่า จะไม่หวั่นไหว หรือจะไม่สะดุดล้มเพราะวางใจพระเจ้าจริง ๆ ท่านรู้ว่า พระเจ้าของท่านยิ่งใหญ่เพียงใด ท่านจึงมั่นคงได้ไม่ว่าศัตรูจะมาไม้ไหน ในชีวิตของเราก็เช่นกัน อย่าให้ได้มีใครมากล่าวหาความผิดของเราได้ หากเรามีชีวิตอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าจริง ๆ พระองค์ทรงตรวจสอบเราอยู่แล้วทุก ๆ วัน
คำทูลขอของท่านนั้น กล้ามาก ขอให้พระเจ้าทรงตรวจสอบทุกซอกมุมของหัวใจ เรารู้อยู่ว่าใจของเรานั้น เป็นตัวหลอกยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ดังนั้น เมื่อพระเจ้าทรงตรวจสอบ เราจะเจ็บ จำ และตามด้วยการกลับใจ ..

สดุดี 26:4-5
ที่กษัตริย์ดาวิดมั่นใจให้พระเจ้าทรงตรวจสอบ เพราะท่านไม่ได้คบคนชั่ว ไม่ได้ยอมให้คนชั่วมาเป็นที่ปรึกษาในการปกครอง ในชีวิตของท่าน.. ท่านไม่อยู่ในหมู่คนที่หน้าไหว้หลังหลอก คนชั่วร้าย คนที่กินสินบน เหล่านั้นไม่มีทางที่จะได้มีส่วนใด ๆ ในอาณาจักรที่ท่านปกครองอยู่เลย

สดุดี 26:6-8
ยิ่งกว่านั้น ท่านรักพระนิเวศของพระเจ้าสุดหัวใจ ที่ ๆ คนของพระองค์มารวมตัวนมัสการพระองค์
ณ ที่นั่น พระสิริของพระเจ้าปรากฏอย่างชัดเจน บางทีเราไม่เข้าใจว่า แม้ในคริสตจักรเล็ก ๆ ที่มีแต่คนชราที่ซื่อตรงต่อพระเจ้ามานมัสการด้วยกัน คือ พระสิริอันงดงามของพระเจ้าฉายแสงในที่เล็ก ๆ นั้น

สดุดี 26:9-11
แล้วกษัตริย์ดาวิดก็อธิษฐานขอความรอดจากพระเจ้า ขอพระเจ้าอย่าทรงกริ้วและปลิดชีวิตของท่านไปพร้อม ๆ กับคนบาปชั่ว ท่านขอให้พระเจ้าเว้นท่านไว้จากหายนะ และท่านก็ทูลขอให้พระเจ้าทรงกู้จากการโจมตีของคนชั่วอีกครั้ง

สดุดี 26:12
แสดงความมั่นใจอย่างยิ่งว่า ได้ยืนอยู่ในที่ ๆ มั่นคง นั่นคือบนพันธสัญญาของพระเจ้าที่ซื่อตรง ท่านสัญญาว่าจะถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าในที่ประชุมใหญ่ เชื่อว่า นั่นคือการที่ ท่านได้นมัสการพระเจ้าร่วมกับประชาชนของพระองค์ ใช่แล้วท่านจะนมัสการพระเจ้าในฐานะผู้ที่มีชัยชนะในที่ ๆ คนรวมกันมากมาย

สดุดี 25 ทูลขอพระเจ้าหลายอย่าง

credit:pxfuel

สดุดีของดาวิด

คำขออย่าให้ต้องอับอาย
1 โอ พระยาห์เวห์ ข้ายกชีวิตจิตใจของข้าขึ้นไปหาพระองค์
2 พระเจ้าของข้า ข้าวางใจในพระองค์
ขออย่าทรงให้ข้าต้องอับอาย
ขออย่าทรงให้ศัตรูชนะข้าเลย
3 แท้จริงแล้ว คนที่รอคอยพระองค์จะไม่ต้องอับอาย
ขอให้คนที่อับอายคือคนที่ทรยศโดยไม่มีเหตุ

ขอพระเจ้าทรงสอน ทรงนำ ขอทรงลืม และขอทรงจำ
4 ขอทรงแสดงทางของพระองค์ให้ข้าเห็น
ขอทรงสอนวิถีของพระองค์แก่ข้าด้วยเถิด
5 ขอทรงนำข้าไปในทางแห่งความจริงของพระองค์
และโปรดสอนข้า
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งความรอดของข้า
ข้ารอคอยพระองค์ทั้งวัน
6 โอพระยาห์เวห์ ขอทรงระลึกถึงพระเมตตาที่อ่อนโยน
และความรักมั่นคงของพระองค์ 
เพราะทั้งสองนี้มีมาตั้งแต่อดีตกาล
7 ขออย่าทรงระลึกถึงบาปและการล่วงละเมิดเมื่อข้ายังเยาว์
ขอทรงระลึกถึงข้าตามความดีของพระองค์

หนทางของพระเจ้าต่อคนที่ถ่อมตน
8 พระยาห์เวห์ทรงดีและเที่ยงตรง 
ดังนั้นจึงทรงสอนทางนั้นแก่คนบาป
9 พระองค์ทรงนำคนที่ถ่อมตนไปในทางเที่ยงธรรม
ทรงสอนหนทางของพระองค์แก่พวกเขา
10 หนทางทั้งสิ้นของพระยาห์เวห์
คือทั้งความรักมั่นคงและความจริงจะที่มีแก่
คนที่รักษาพันธสัญญาของพระองค์
11 โอ พระยาห์เวห์ เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์ 
ขอทรงอภัยบาปผิดของข้า เพราะบาปนั้นใหญ่หลวง

สิ่งดีที่พระเจ้าประทานแก่คนที่ยำเกรงพระองค์
12 ใครเป็นคนที่ยำเกรงพระยาห์เวห์?
พระองค์จะทรงสอนทางที่พระองค์ทรงเลือกแก่คน ๆ นั้น
13 เขาจะได้ใช้ชีวิตในความสมบูรณ์ และลูกหลานของเขา
จะได้แผ่นดินเป็นมรดก
14 พระยาห์เวห์ทรงเผยคำปรึกษาที่ลึกล้ำให้แก่คนที่ยำเกรง
พระองค์
และทรงทำให้พันธสัญญาของพระองค์กระจ่างแจ้งแก่เขา
15 ดวงตาของข้าจะมองมายังพระยาห์เวห์เสมอ
เพราะพระองค์จะทรงฉุดให้เท้าของข้าพ้นจากกับดัก
ตาข่าย

คำขอพระเจ้าทรงช่วยปกป้อง
16 ขอทรงหันมามองข้า และเมตตาต่อข้า
เพราะข้าทั้งโดดเดี่ยวและทุกข์ใจยิ่งนัก
17 ความโศกซึมเศร้าในใจมีมากขึ้น
ขอทรงนำข้าออกมาจากความกดดันนี้
18 ขอทรงมองมายังความทุกข์โศกและความเจ็บปวด
และขอทรงอภัยบาปของข้าทั้งสิ้น
19 ขอทรงดูเถิดว่า ศัตรูของข้ามีมากเพียงใด
พวกเขาทั้งเกลียดชัง และโกรธเกรี้ยวข้ายิ่งนัก
20 ขอทรงปกปักรักษาวิญญาณของข้า และช่วยกู้ข้าด้วย
ขออย่าทรงให้ข้าต้องอับอาย เพราะข้าวางใจในพระองค์
21 ขอให้ความชื่อสัตย์ และความเที่ยงตรงรักษาข้าให้
ปลอดภัย เพราะข้ารอคอยพระองค์อยู่
22โอพระเจ้า ขอทรงไถ่อิสราเอล
ให้พ้นจากความทุกข์ยากทั้งสิ้นของพวกเขา

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 86:4,143:8

2* สดุดี 34:8, 13:4, 41:44

3*เพลงคร่ำครวญ 3:25, อิสยาห์ 40:31

4* อพยพ 13:13,33:13, สดุดี 5:8, 27:11, 86:11,119:27,143:8

5* สุภาษิต 8:34, ยอห์น 16:13, อิสยาห์ 49:10

6* สดุดี 103:17, 106:1, โคโลสี 3:12, ลูกา 1:50

7* โยบ 13:26, เยเรมีย์ 3:25, สดุดี 51:1, อิสยาห์ 43:25

8* ยากอบ 1:5, เอเฟซัส 1:17-18, สดุดี 92:15

9*สุภาษิต 3:5-6, สดุดี 23:3, มัทธิว 5:5

10*ยากอบ 5:11, ฮีบรู 12:14

11* สดุดี 31:3, 79:9, 109:21, 143:11

12* สดุดี 25:8, 37:23,

13*สุภาษิต 19:23, สดุดี 37:11, 69:36

14* ยอห์น 7:17, ยอห์น 15:15

15* สดุดี 141:8, 31:4, 123:2

16*สดุดี 69:16, 143:4

17* 2 โครินธ์ 4:8-9, สดุดี 107:6

18* 2 ซามูเอล 16:12, สดุดี 31:7

19* ลูกา 22:2, สดุดี 143:3

20*สดุดี 121:7, 71:1-2

21* สดุดี 41:12, กิจการ 24:16,

22* สดุดี 130:8

อธิบายเพิ่มเติม สดุดี 25


สดุดีบทนี้ ได้สื่อถึงความรู้สึกในใจของกษัตริย์ดาวิดอย่างชัดเจน. เป็นสดุดีที่เริ่มต้นแต่ละข้อด้วยตัวอักษรที่ และในเมื่อเราเป็นผู้เชื่อในพระเจ้า สดุดีบท 25 ก็ได้สอนเราว่า เมื่อเจอวิกฤต เราควรเข้ามาหาพระเจ้าอย่างไร ชาร์ลส เสปอร์เจียนกล่าวว่า เราได้เห็นความขัดแย้งในใจ การสำนึกในความผิดที่ทำต่อพระเจ้า การกลับใจ และความทุกข์ กดดันในใจ ทุกสิ่งได้ปรากฏชัดเป็นคำคร่ำครวญ

ข้อ 1-3 คำขอร้องอย่าให้ต้องอาย
การยกชีวิตจิตใจของข้าขึ้นไปหาพระองค์ในข้อหนึ่งหมายคือการที่เขาจะวางใจพระเจ้าด้วยการอธิษฐาน ใจของกษัตริย์ดาวิดรอคอยพระองค์. การรอคอยพระเจ้าไม่ใช่นั่งเฉย ๆ แต่เป็นการที่
หัวใจของท่านรอคอยคำตอบ
คนที่ทรยศโดยไม่มีเหตุ มีความหมายได้สองอย่างคือ ทรยศโดยไม่มีสาเหตุที่จะทำ กับการทรยศแล้วไม่ได้ผลกลับมาอย่างที่ต้องการ. ไร้ผล (ฮีบรู>เรคาม>ไร้ผล)

ข้อ 4-7. ขอพระเจ้าทรงสอน ทรงนำ ขอทรงลืม และขอทรงจำ
ทางของพระเจ้าที่จะทรงสอนให้เป็นทางเดินชีวิตที่ถูกต้อง (ข้อ 8-10) เป็นทางแห่งความจริง (เรื่องนี้สำคัญเพราะคนในโลกเดินในทางเท็จ เชื่อพระที่เท็จ เชื่อสิ่งที่ไม่ใช่พระเจ้า)
ท่านกล้าที่จะขอให้พระเจ้าทรงจำสิ่งดี ๆ ของพระองค์ แต่ลืมความบาปของท่านไป

ข้อ 8-11 หนทางของพระเจ้าต่อคนที่ถ่อมตน
สิ่งหนึ่งที่กษัตริย์ดาวิดตระหนักเสมอคือ พระเจ้าทรงดีและเที่ยงตรงยิ่งนัก
อย่างไร ๆ พระองค์ทรงดีต่อคนบาปด้วย ทรงสอนทางที่ดีแก่เขา
25:10,14 พันธสัญญา. (ฮีบรู> ซาฆาร์> พันธสัญญา ) เป็นข้อตกลงระหว่างสองฝ่าย โดยมีเงื่อนไขที่ยอมรับกัน พระเจ้าทรงใช้คำนี้บ่อย ๆ เพื่อบอกถึงความสัมพันธ์ของพระองค์ที่ทรงมีต่ออิสราเอล

ข้อ 12-15 สิ่งดีที่พระเจ้าประทานแก่คนที่ยำเกรงพระองค์
คนที่ยำเกรงพระเจ้า>
1. พระเจ้าสอนทางที่ดีให้เขา เขาจะมีชีวิตสมบูรณ์ ลูกหลานจะรับแผ่นดินเป็นมรดก
2. จะได้รับคำปรึกษาที่ล้ำลึกจากพระองค์ ใคร ๆ ก็อยากได้ แต่มีให้กับคนที่ยำเกรงเท่านั้น
3. จะเข้าใจพันธสัญญาลึกซึ้ง …เป็นผลดีมาก ๆ กับชีวิต
4. พระเจ้าจะทรงช่วยให้พ้นกับดักของศัตรูในทุกด้าน

ข้อ 16-22 คำขอพระเจ้าทรงช่วยปกป้อง
เราจะเห็นว่า ข้อ1-7 และข้อ 16-22 เป็นคำอธิษฐานที่คล้ายกัน ความรู้สึกของกษัตริย์ดาวิดเวลานั้น แม้จะอยู่ในตำแหน่งสูงคือ โดดเดี่ยว เป็นทุกข์ กังวล กดดันมากที่มีศัตรูมาอยู่ล้อมรอบ
25:20 ปกปักรักษา คือ คอยปกป้อง (ฮีบรู> ชามาร์>ดูแล ปกป้อง ยาม เฝ้าประตู ) แปลว่า ทำรั้วล้อมรอบบางอย่าง หรือ ตั้งยามเฝ้า กษัตรย์ดาวิดขอพระเจ้าทรงป้องกันท่านไว้รอบด้าน
แต่ในยามที่อันตรายนี้ ท่านไม่ลืมที่จะขอพระเจ้าทรงยกโทษบาปที่เกิดขึ้นในใจ หรือในการกระทำ
ที่ขอพระองค์ล้อมรอบ ปกป้องไว้เพราะศัตรูมีมากเหลือเกิน
จบด้วยคำอธิษฐานของกษัตริย์เพื่อทุกคนในชาติคือ ขอพระเจ้าทรงไถ่อิสราเอลจากความเดือดร้อนทุกอย่าง. พอเห็นคำในข้อ 22 แล้ว ทำให้รู้สึกว่า บางทีกษัตริย์ดาวิดกำลังอธิษฐานอ้อนวอนเผื่ออิสราเอลทั้งประเทศมาตั้งแต่ข้อแรกแล้วก็เป็นได้


สดุดี 24 พระเจ้าผู้ทรงพระสิริจะเสด็จมา

ภาพภูเขา Dom ในเขต ​​Pennine Alps

สดุดีของดาวิด

1 พระยาห์เวห์ทรงสิทธิ์ครอบครองแผ่นดินโลก
คือโลกและทั้งหมดที่อาศัยในนั้น
2 เพราะพระองค์ทรงตั้งรากฐานโลกไว้บนทะเล
ทรงสถาปนามันไว้เหนือแม่น้ำทั้งปวง


3 ใครจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปยังภูเขาของ
พระ ยาห์เวห์?
หรือใครจะยืนในที่ประทับอันบริสุทธิ์ของพระองค์ได้?
4 คือคนที่มีมือสะอาดและหัวใจบริสุทธิ์
คนที่ไม่ปล่อยให้วิญญาณเชื่อสิ่งที่ไร้ค่า
และไ่ม่ยอมให้คำสัญญาด้วยเล่ห์เหลี่ยม
5 เขาจะได้รับพระพรจากพระยาห์เวห์ 
และพระเจ้าแห่งความรอดจะทรงตัดสินให้เขาพ้นผิด
6 พวกเขาเป็นผู้คนรุ่นที่แสวงหาพระเจ้า
พวกเขาแสวงหาพระเจ้าแห่งยาโคบ
เซ ลาห์

7 จงเงยหน้าขึ้น ประตูเมืองเอ๋ย
จงยกตัวเจ้าขึ้น เหล่าบานประตูนิรันดร์
เพื่อว่า องค์กษัตริย์ผู้ทรงพระสิริจะเสด็จเข้ามา
8 องค์กษัตริย์ผู้ทรงพระสิริคือผู้ใด?
คือพระยาห์เวห์ ผู้ทรงเข้มแข็งและทรงฤทธิ์
คือพระยาห์เวห์ ผู้ทรงฤทธานุภาพในการรบ

9 จงเงยหน้าขึ้น ประตูเมืองเอ๋ย
จงยกตัวเจ้าขึ้น เหล่าบานประตูนิรันดร์
เพื่อว่า องค์กษัตริย์ผู้ทรงพระสิริจะเสด็จเข้ามา
10 องค์กษัตริย์ผู้ทรงพระสิริคือผู้ใด?
คือพระยาห์เวห์ องค์จอมทัพแห่งสวรรค์
พระองค์คือ องค์กษัตริย์ผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์

เซ ลาห์​

พระคำเชื่อมโยง

1* 1 โครินธ์ 10:26,28

2* สดุดี 89:11

3* สดุดี 15:1-5

4* โยบ 17:9, สดุดี 26:6 สดุดี 51:10, 73:1, มัทธิว 5:8, สดุดี 15:4

5* ฟีลิปปี 3:9, เอเฟซัส 1:3

6* สดุดี 27:4,8

7* สดุดี 118:20, อิสยาห์ 26:2, สดุดี 29:2,9, 97:6,ฮักกัย 2:7, กิจการ7:2, 1 โครินธ์ 2:8

8* วิวรณ์ 19:13-16

9* เหมือนข้อ 7

10* มัทธิว 25:31

Golden Gate Jerusalem จาก wikiwand

อธิบายเพิ่มเติม สดุดี 24

สดุดีบทนี้แบ่งเป็นสามตอนหลัก ๆ ผู้เขียนคือกษัตริย์ดาวิด
เราไม่ทราบว่าท่านเขียนในช่วงใดของชีวิต

ข้อ 1-2 คำประกาศความเป็นเจ้าของโลกและทุกสิ่งในโลก
นี่เป็นคำประกาศที่คนในโลกพยายามปฏิเสธ พยายามพิสูจน์ว่าพระเจ้าไม่มีจริง
คนของพระองค์ที่รู้ว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้าของทุกสิ่งนั้น จึงเป็นคนที่แข็งแรง ไม่มีปมในใจ
เขารู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่เหนือทุกสิ่ง พระองค์ทรงครอบครอง
ข้อความในสองข้อนี้ เมื่อเป็นส่วนหนึ่งในคำอธิษฐานของเรา เราจะพบว่า ความเชื่อจะมั่นคงขึ้นเพราะเรารู้ว่า กำลังอธิษฐานทูลต่อพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของทั้งสิ้นในจักรวาล

ข้อ 3-6 ประกาศความบริสุทธิ์ของพระเจ้า และผู้ที่จะได้
มีโอกาสอยู่ในที่ประทับ.
มีคำถามสำคัญสองข้อ
ใครจะได้เข้าไปใกล้ชิดพระเจ้าได้?
ใครจะได้อยู่ในพระเจ้าได้?
คำตอบสี่ข้อ
1.คนทำสิ่งที่ถูกต้อง
2.คนที่ใจบริสุทธิ์
3.คนที่ไม่ติดตามสิ่งไร้ค่าในสายพระเนตร
4.คนที่พูดจริง สัญญาจริง เชื่อถือได้
ว่าไปแล้ว ไม่มีใครจะไปอยู่ใกล้พระเจ้า อยู่ในพระเจ้าได้. ยกเว้นคนที่ตามพระเยซูอย่างจริงจัง และมีพระองค์เป็น ผู้ที่อยู่ตรงกลางระหว่างพระเจ้ากับเขา !
สี่ข้อนี้เป็นข้อเตือนใจของเราเอง และข้อสามได้บอกเราว่า ทุกวันนี้เราต้องระวังเป็นที่สุดที่จะไม่ตามสิ่งไร้ค่าซึ่งชักชวนผู้คนทุกวินาทีในมือถือที่ใกล้ตัวที่สุด เราเห็นคนของพระเจ้าติดตามจอดำแบบลืมหูลืมตาไม่ขึ้น จนกลายเป็นคนไม่มีคุณค่าไปแล้วไม่น้อย น่าเศร้า น่าเสียใจจริง ๆ

ข้อ 7-10 ให้ทั้งเมืองเตรียมตัวต้อนรับพระเจ้าผู้ทรงพระสิริ
และคำยืนยันตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ และเป็นการประกาศซ้ำ ซึ่งเท่ากับเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากจริง ๆ ทั้งสี่ข้อนี้ สมควรที่เราจะจำไว้ขึ้นใจ ทบทวนเสมอ เราจะได้เห็นภาพของพระเจ้าที่เหนือกว่าที่เราเคยเห็น เคยสัมผัส แม้พระองค์จะทรงเป็นพระเจ้าที่ทรงรัก ห่วงใยผู้คน ทรงดูแลเขาราวกับเป็นผู้เลี้ยงแกะ แต่ในอีกมุมหนึ่งนั้น พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งการรบ. รบเพื่อจะได้เรากลับมาอยู่ในพระองค์อีกครั้ง

บรรณานุกรม
Enduringword.com: https://enduringword.com/bible-commentary/psalm-24/

Interlinear bible : https://biblehub.com/interlinear/psalms/24-6.htm

Lawson, J. Steven, Holman Old Testament Commentary , Psalms 1-75, Broadman and Holman Publisher, 2003.

สดุดี 23 องค์พระผู้เลี้ยงดู

ภาพ Shepherd and Sheepวาดโดย Anton Mauve 1838-1888

สดุดีของดาวิด 23

พระเจ้าผู้ทรงนำทาง -ทุกวัน

1 พระยาห์เวห์ทรงเป็นผู้เลี้ยงดูข้า ข้าจึงไม่ขาดสิ่งใด
2 พระองค์ทรงทำให้ข้านอนลงบนทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม
พระองค์ทรงนำข้าไปยังริมธารน้ำสงบ
3 พระองค์ทรงรื้อฟื้นกำลังจิตใจของข้าให้กลับคืนมา
ทรงนำข้าไปตามทางที่เที่ยงธรรม 
เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์

พระเจ้าผู้ทรงปกป้อง-ยามยาก

4 ถึงแม้ข้าจะต้องเดินผ่านหุบเขาเงาความตาย
ข้าก็ไม่กลัวสิ่งชั่วร้ายใด ๆ
เพราะพระองค์ทรงยืนอยู่กับข้า
ไม้กระบองและไม้เท้าของพระองค์ทำให้ข้าอบอุ่นใจ

พระเจ้าผู้ทรงจัดเตรียม-วันนี้และอนาคต

5 พระองค์ทรงจัดเตรียมงานเลี้ยงต่อหน้าข้า
ต่อหน้าต่อตาศัตรูทั้งหลาย
พระองค์ทรงเจิมศีรษะของข้าด้วยน้ำมัน 
จอกน้ำของข้าเต็มล้น
6 แน่นอน ที่ความดีและความรักมั่นคงของพระองค์
จะตามติดข้าไปตลอดชีวิตของข้า
และข้าจะอาศัยในพระนิเวศของพระยาห์เวห์เป็นนิตย์

พระคัมภีร์อ้างอิง


1. สดุดี 78:52, 80:1, อิสยาห์ 40:11,
เอเสเคียล 34:11, 12, ยอห์น 10:11,
1 เปโตร 2:25, วิวรณ์ 7:16,17,สดุดี 34:9-10,
ฟีลิปปี 4:19,2

2.สดุดี 65:11-13, เอเสเคียล 34:14, วิวรณ์ 7:173

3. สดุดี 5:8, 31:3, สดุดี 8:204

4.โยบ 3:5, 10:21,22, 24:17, สดุดี 44:19, 3:6,27:1,16:8, อิสยาห์ 43:25

5.สดุดี 104:15, 92:10, ลูกา 7:466

6.สดุดี 27:4, 103:17, 2 ทิโมธี 4:18,

อธิบายเพิ่มเติม

ข้อ 1 ใครเลี้ยงดูผู้เขียน? สิ่งที่เกิดขึ้นจากนั้น พระเจ้าทรงเลี้ยงดูราวกับผู้เลี้ยงแกะ เป็นการดูแลที่ใกล้ชิดมาก ปกป้อง นำทาง หาอาหารให้ ทั้งเขาและพระองค์สนิทสนมกัน ไม่ได้ห่างกันเลย ผู้เลี้ยงที่ดีจะสละชีวิตเพื่อฝูงแกะ (ยอห์น 10:11)กษัตริย์ดาวิดรู้สึกว่าท่านเองเป็นแกะของพระเจ้า และภาพนี้เป็นภาพที่คุ้นชินของคนอิสราเอล พวกเขาเป็นฝูงแกะของพระองค์เราจะเข้าใจความสัมพันธ์ของผู้เลี้ยงและแกะได้ชัดจากข้อพระคัมภีร์อ้างอิงด้านบน

ข้อ 2-3 ผู้เขียนได้รับอะไรจากพระเจ้า? พระเจ้าทรงให้ความสดชื่นพระเจ้าทรงให้ความสงบสุขพระเจ้าทรงคืนกำลังให้เขา พระเจ้าทรงนำเขาไปตามทางที่เที่ยงธรรมเราอยู่ในโลกที่เหน็ดเหนื่อย ยากเข็ญ จิตใจของเราอ่อนล้าเราจึงต้องการพระผู้ทรงเลี้ยงดูผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง
เจ้าแกะนั้นมักนอนสบาย ๆ ไม่ได้ มันต้องไม่กลัว ต้องมีเพื่อน ต้องอิ่มต้องไม่มีพยาธิหรือสัตว์ตัวเล็ก ๆ มากวนมัน มันจึงจะนอนลงได้อย่างสบายใจ ผู้เลี้ยงจึงต้องจัดการให้สิ่งที่รบกวนหมดไปแล้วมันก็จะนอนได้ เมื่ออ่านพระคำข้อนี้เรารู้สึกสบายใจ สดชื่นได้พักผ่อนอย่างจริงจัง และผู้เลี้ยงทำให้แกะอย่างดี นำพวกมันไปในทางที่ดี เพราะว่าชื่อเสียงของท่านนั้น เป็นประกันอยู่ ท่านมีชื่อเสียงดี ท่านทำงานนี้ได้ดีเยี่ยม

ข้อ4 สิ่งชั่วร้ายรอบข้างเขา ถึงจะมี แต่พระองค์ทรงทำอะไร? ถึงจะเดินในเงามืดของชีวิต พระเจ้าทรงยืนอยู่พระองค์ทรงมีอาวุธที่จะช่วยต่อต้านศัตรู และช่วยกู้เขาจากอันตราย เมื่อแกะถูกศัตรูรุมล้อม เมื่อมันหวาดหวั่นในสถานการณ์รอบข้าง มันยังไว้ใจได้เพราะผู้เลี้ยงยืนมั่นอยู่ข้าง ๆ พร้อมที่จะสู้ปกป้องมันไว้ เวลาผู้เชื่อในพระเจ้าต้องเผชิญกับความตาย พวกเขาจะไม่กลัว เพราะเขารู้ว่าจะได้พบพระองค์แม้จะต้องตายจากโลกนี้

ข้อ 5 พระเจ้าทรงทำอะไรให้เขาบ้าง?พระองค์ทรงต้อนรับเขาให้ศัตรูได้เห็น นี่เป็นการมอบสิ่งดีให้อย่างล้นเหลือ ทรงเจิมด้วยน้ำมัน บ่งบอกความโปรดปรานพระองค์เติมน้ำในจอกมากมายเกินพอ. แม้มีศัตรู แม้อยู่ตรงหน้า พวกเขาก็จะเห็นความโปรดปรานของพระเจ้าที่มีต่อคนของพระองค์ การได้กินอาหารกับพระองค์แสดงว่าทั้งสองฝ่ายมีไมตรีมีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เมื่อพระเจ้าทรงเจิมด้วยน้ำมัน คนที่ได้รับจะสดชื่นยิ่งนัก น้ำที่พระเจ้าทรงเทให้ พระองค์ไม่ให้น้อย ๆ แต่พระพรนั้นล้นเหลือ

ข้อ 6 อะไรจะเกิดขึ้นชั่วชีวิตของเขา? ทั้งความดีและความรักมั่นคงจะไล่ตามชีวิตไปเขาจะได้อาศัยในพระนิเวศน์ของพระเจ้านิรันดร์เราอาจกล่าวได้ว่า ทั้งพระเมตตาและพระคุณของพระเจ้าจะติดตามเราไปตลอดชีวิต และนี่เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ น่าชื่นใจยิ่งนักมีอะไรที่ดีไปกว่านี้หรือ?

บรรณานุกรม