สดุดี 34 คำสรรเสริญจากถ้ำหลบภัย

สดุดีบทนี้เขียนหัวข้อไว้ว่า เป็นสดุดีของดาวิดตอนที่ท่านหนีจากกษัตริย์ซาอูล และไปขอหลบภัย
ในเมืองกัทของชาวฟีลิสเตีย เมื่อท่านทำอาการดั่งคนบ้าต่อหน้าอาคีชกษัตริย์แห่งกัท ซึ่งรู้สึกรำคาญมากที่ดาวิดเสียสติขนาดนั้น ( 1 ซามูเอล 21:10-15)
ต่อมาท่านได้ไปหลบภัยในถ้ำอดุลลัมพร้อมกับคนที่หนีไปด้วย ประมาณ 400 คน ดูเหมือนว่าสดุดีบทนี้เขียนในถ้ำและร้องสรรเสริญพระเจ้าต่อหน้าคนที่อยู่กับท่านเวลานั้น
หากเราคิดถึงบรรยากาศของคนหนีภัยแต่ยังมีใจสรรเสริญพระเจ้าแม้ทางมืดมน มันเป็นภาพที่ยิ่งเกินกว่าที่เราจะเข้าใจความรู้สึกได้จริง ๆ และควรที่เราจะเดินตามรอยของคนที่ต้องเผชิญกับการตามฆ่า แต่ยังคงกล้าหาญที่จะเชื่อพระเจ้าอย่างไม่ลดละ

ประชาชนสรรเสริญพระเจ้า
1 ข้าถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์ทุกเวลา
ปากของข้าจะกล่าวคำสรรเสริญพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง
2 วิญญาณของข้าจะอวดพระยาห์เวห์
คนที่ถ่อมตนได้ยินก็จะยินดี
3 โอ.. มายกย่องพระยาห์เวห์ด้วยกันกับข้าเถอะ
และให้เรายกชูพระนามของพระองค์ด้วยกัน
4 ข้าแสวงหาพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงตอบข้า
ทรงช่วยกู้ให้ข้าพ้นจากความกลัวทั้งสิ้น
5 ผู้ที่มองไปยังพระองค์จะสดใส
ใบหน้าของพวกเขาจะไม่ต้องอาย

คำพยานของดาวิดผู้ถูกไล่ล่า
6 ชายผู้ยากจนคนนี้ร้องทูล และพระยาห์เวห์ทรงฟังเขา
และทรงช่วยให้เขาพ้นจากความทุกข์ยากทั้งสิ้น
7 ทูตสวรรค์ของพระเจ้าอยู่ล้อมรอบ และช่วยกู้คนที่ยำเกรงพระองค์

ชวนให้มาชิมพระเจ้า
8 จงมาชิมดูแล้วจะรู้ว่า พระเจ้าทรงดีนัก
ความสุขเป็นของคนที่วางใจในพระองค์​
9 จงยำเกรงพระยาห์เวห์ วิสุทธิชนของพระองค์
เพราะคนที่ยำเกรงพระองค์จะไม่ขัดสนสิ่งใด
10 สิงโตหนุ่มยังขัดสนและหิวโหย
แต่คนที่แสวงหาพระยาห์เวห์จะไม่ขัดสนสิ่งดีใด ๆ
11 ลูกเอ๋ย จงเข้ามาฟังเรา
และเราจะสอนให้เจ้ารู้จักยำเกรงพระยาห์เวห์

เงื่อนไขของชีวิตที่ยืนนาน
12 ใครก็ตามที่ปรารถนาชีวิต และรักชีวิตดี ๆ ที่ยาวนาน
13 ก็อย่าให้ลิ้นของเจ้าพูดสิ่งชั่ว
อย่าให้ปากของเจ้ากล่าวคำหลอกลวง
14 จงหลีกเลี่ยงความชั่วและทำความดี
จงแสวงหาสันติสุขและติดตามสันติสุขนั้น

พระเจ้าทรงมองดูคนของพระองค์
15 พระเนตรของพระยาห์เวห์อยู่เหนือคนเที่ยงธรรม
และพระกรรณของพระองค์ทรงฟังเสียงร้องของพวกเขา
16 พระพักตร์ของพระยาห์เวห์ต่อต้านคนที่ทำความชั่ว
เพื่อว่าจะตัดความทรงจำถึงเขาทั้งสิ้น

กำลังใจแก่คนที่ใจสลาย
17 คนเที่ยงธรรมร้องทูล และพระยาห์เวห์ทรงฟังเสียงเขา
ทรงช่วยให้เขาให้พ้นจากความทุกข์ร้อนทั้งสิ้น
18 พระยาห์เวห์ทรงอยู่ใกล้คนใจแตกสลาย และทรงช่วยคนที่หัวใจชอกช้ำ

พระเจ้าทรงดูแลคนเที่ยงธรรม
19คนเที่ยงธรรมก็พบความทุกข์ยากหลายอย่าง
แต่พระยาห์เวห์ทรงกู้เขาให้พ้นทั้งหมด
20 พระองค์ทรงปกป้องกระดูกของเขา
ไม่มีกระดูกถูกหักสักท่อน
21 ความชั่วจะสังหารคนชั่วร้าย และคนที่เกลียดชังความเที่ยงธรรมจะถูกลงโทษ
22 พระยาห์เวห์ทรงไถ่วิญญาณของผู้รับใช้ของพระองค์
และคนที่วางใจในพระองค์จะไม่ถูกลงโทษ

พระคำเชื่อมโยง

1* 1 เธสะโลนิกา 5:18, โคโลสี 3:17, สดุดี 145:2

2* 1 โครินธ์ 1:31, เยเรมีย์ 9:24

3* สดุดี 69:30, ลูกา 1:46, วิวรณ์ 19:5-6

4* สดุดี 18:6; 116:1-6

5* ฮีบรู 12:2, สดุดี 123:1-2

6* สดุดี 34:17-19; 66:16-20

7* สดุดี 91:11, ดาเนียล 6:22

8* เยเรมีย์ 31:14, สดุดี 63:5

9*ฟีลิปปี 4:19, สดุดี 23:1

10* สดุดี 84:11; 104:21

11* สุภาษิต 1:7, สดุดี 111:10; 32:8

12*เฉลยธรรมบัญญัติ 30:20; 6:2, สดุดี 4:6

13* ยากอบ 3:5-10, สดุดี 141:3

14* สดุดี 37:27, ฮีบรู 12:14

15* 1 เปโตร 3:12, สดุดี 34:17; 33:18

16* เยเรมีย์ 44:11; 17:13, สุภาษิต 10:7

17* อิสยาห์ 65:24, สดุดี 145:18-20, 34:6; 19

18* สดุดี 147:3; 145:18, อิสยาห์ 57:15

19* สดุดี 34:4; 6; 17, 1 เปโตร 4:12-13

20* ยอห์น 19:36

21*สดุดี 94:23, สุภาษิต 24:16

22* สดุดี 103:4; 71:23, วิวรณ์ 5:9

อธิบายเพิ่มเติม

สดุดี 33:1-5
ดาวิดสรรเสริญพระเจ้า ทั้ง ๆ ที่สภาพของท่านในเวลานั้น ไม่ได้อยู่ในความมั่นคงเลย ท่านทั้งกลัวและอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก ข้อ 3 คิดถึงดาวิดที่ร่างกายทรุดโทรมจากการตรากตรำ หนีหัวซุกหัวซุน แล้วมากล่าวชวนคนทั้งหลายสรรเสริญพระเจ้า ยกชูพระนามพระเจ้าอย่างนี้ ในข้อ 4-5 ท่านบอกชัดว่าท่านแสวงหาพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงตอบเสมอ ท่านและคนที่อยู่กับท่าน จะไม่ต้องอายต่อหน้าศัตรู

สดุดี 33:6-7
ดาวิดรู้ดีว่าท่านเป็นใคร ไม่ใช่นักรบที่กล้าหาญ แต่กลับเป็นคนยากไร้ ไม่มีอะไร แต่พระเจ้ากลับทรงฟังคนเช่นนี้
ยิ่งกว่านั้น ทรงให้ทูตสวรรค์มาล้อม คนยำเกรงพระเจ้าซึ่งต้องการพระเจ้าที่สุดด้วย ดาวิดมีประสบการณ์จริงกับการช่วยเหลือของทูตสวรรค์มาหลายครั้ง ซึ่งประสบการณ์แบบนี้ มีคนของพระเจ้าในสมัยต่อมา แม้ในปัจจุบันก็ได้รับเหมือนกัน

สดุดี 33:8-11
คำว่า ยำเกรงพระเจ้า… เป็นคำที่ดาวิดเน้นมาตั้งแต่ข้อ 7 จนถึงข้อ 11 ลองทบทวนข้อความเหล่านี้ให้ดีกว่า เกิดอะไรกับคนที่ยำเกรงพระเจ้าบ้าง…. ท่านชวนให้ผู้ที่ติดตามท่านไปนั้น มาชิม และมารับรู้ว่า พระเจ้าทรงดีเพียงไหน พวกเขาต้องมามีประสบการณ์กับพระเจ้าด้วยตัวเองจึงจะรู้รสชาติ จึงจะเห็น และพวกเขาจะมีความสุขที่มาจากพระเจ้าจริง ๆ
ดาวิดพร้อมที่จะสอนความยำเกรงพระเจ้าให้กับคนที่อยู่ข้าง ๆ ท่าน เราสอนได้อย่างดาวิดไหม? …

สดุดี 33:12-14
ดาวิดพูดคำนี้ตอนที่ท่านยังหนุ่มอยู่ และเราเห็นว่า ท่านได้มีชีวิตที่ยืนนานจริง ๆ เมื่อเราเรียนรู้ชีวิตของดาวิดจะเห็นว่า สิ่งหนึ่งที่ท่านมีก็คือ เป็นคนจริง เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ยำเกรงพระเจ้า แม้ว่าในชีวิตจะพลาด แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงเตือนให้ท่านไม่ปล่อยให้ความผิดนั้นลอยนวล

สดุดี 33:15-16
คำยืนยันว่า พระเจ้าทรงมองดูคนของพระองค์นี้ ดาวิดกล่าวถึงบ่อย ๆ จากสดุดีบทก่อนหน้านี้ เราจึงมั่นใจได้ว่า พระเจ้าทรงมองเราอยู่ตลอดเวลา

สดุดี 33:17-18
ขณะที่พระเจ้าทรงต่อต้านคนชั่ว พระองค์กลับทรงฟังคนเที่ยงธรรม เรื่องนี้เราดูตัวอย่างได้จากชีวิตของโมเสสในอพยพ 32-34 เราจะเห็นการโต้ตอบของพระเจ้ากับคนเที่ยงธรรมที่พระองค์ทรงรักชัดเจน
และข้อ 18 นี้ ขอบคุณพระเจ้าที่ดาวิดเขียนไว้ให้เรา เพราะในยามที่เกิดใจแตกสลาย ชอกช้ำ ผู้ที่เราต้องการที่สุดก็คือพระเจ้าเท่านั้น ในโลกของเรานี้ ผู้ที่ถูกข่มเหงน้ำใจ ถูกทำลาย ถูกใส่ร้าย ถูกล่วงละเมิดนั้นมีมากมายเหลือเกิน และต้องการพระเจ้ามากจริง ๆ เพราะมนุษย์แทบช่วยไม่ได้ และไม่ช่วยอีกด้วย

สดุดี 33:19-22
เราเห็นความแตกต่างว่าพระเจ้าทรงปฏบัติต่อคนสองแบบไม่เหมือนกันเลย คนเที่ยงธรรมที่วางใจพระเจ้า กับคนอธรรมที่มีตัวเองเป็นพระเจ้านั้น ต่างมีปลายทางไม่เหมือนกัน แต่ยังมีคนอธรรมมากมายที่คิดว่า ปลายทางของพวกเขาดีกว่า เราอย่าไปเชื่อ ขอให้เชื่อเถิดว่า พระเจ้าจะไม่ลงโทษคนที่วางใจในพระองค์

สดุดี 33 แด่พระเจ้าผู้ทรงเต็มด้วยรักมั่นคง

การแบ่งเป็นหัวข้อนี้ เพื่อให้การอ่านสะดวกขึ้น ท่านอาจจะแบ่งหัวข้อแตกต่างออกไป การทำเช่นนี้จะทำให้ได้เข้าใจ เห็นชัดว่า ผู้เขียนกำลังคิดถึงอะไร และเขาเปลี่ยนหัวเรื่องที่เขาคิดตอนไหน

สดุดี 33
ชวนให้ร้องเพลงถวายพระเจ้า
1 จงร้องเพลงด้วยความยินดี โอ เหล่าคนที่เที่ยงธรรม
คำสรรเสริญจากคนเที่ยงตรงก็งดงาม
2 จงสรรเสริญพระยาห์เวห์ด้วยเสียงพิณ
ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณสิบสาย
3 จงร้องเพลงใหม่ถวายพระองค์
เล่นดนตรีอย่างเชี่ยวชาญพร้อมกับเสียงตะโกนอย่างชื่นชม
พระลักษณะของพระเจ้า
4 เพราะพระดำรัสของพระยาห์เวห์นั้นถูกต้อง
ทรงทำราชกิจทั้งสิ้นด้วยความซื่อตรง
5 พระองค์ทรงรักความเที่ยงธรรมและความยุติธรรม 
แผ่นดินโลกเต็มด้วยความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์
จักรวาลที่พระองค์ทรงสร้าง
6 ฟ้าสวรรค์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยพระดำรัสของพระยาห์เวห์
และดวงดาวทั้งหลายเกิดขึ้นมาโดยลมจากพระโอษฐ์
7 พระองค์ทรงรวบรวมน้ำทะเลเป็นมวลน้ำใหญ่
ทรงเก็บห้วงน้ำลึกไว้ให้อยู่ในคลัง
8 ทั้งโลกเอ๋ย จงเกรงกลัวตัวสั่นต่อพระยาห์เวห์ 
ผู้ที่อาศัยในโลกทั้งสิ้น จงยืนตะลึงเพราะพระองค์
9 เมื่อพระเจ้าตรัส โลกก็เกิดขึ้น 
เมื่อพระองค์ทรงบัญชา โลกก็มั่นคง
ใครจะตั้งตัวต่อต้านพระองค์?
10 พระยาห์เวห์ทรงทำให้การสมคบคิดของชาติต่าง ๆ ไร้ผล
พระองค์ทรงทำให้แผนการของมนุษย์ล้มเหลวไป
11 คำปรึกษาของพระยาห์เวห์ดำรงนิรันดร์ 
แผนการในน้ำพระทัยของพระองค์ มีต่อชนทุกชั่วอายุ
12 ความสุขเป็นของชาติที่พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของพวกเขา  ประชากรที่พระองค์ทรงเลือกให้เป็นมรดกของพระองค์
พระเจ้าทรงมองดูมนุษย์เสมอ
13 พระยาห์เวห์ทอดพระเนตรมาจากสวรรค์
ทรงมองดูลูกหลานของมนุษย์
14 จากที่ประทับของพระองค์
ทรงมองดูผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกอย่างพินิจพิเคราะห์
15 พระองค์เท่านั้นเป็นผู้สร้างใจให้พวกเขา
พระองค์ทรงพิจารณาการงานของพวกเขา
ใครล่ะ จะทำให้ชนะได้จริง ๆ?
16 กษัตริย์มิได้รอดโดยกองทัพใหญ่โต
ผู้ที่แข็งแรงมิได้รับการช่วยกู้ด้วยกำลังมากมายของเขา
17 ที่จะหวังให้ม้าศึกช่วยให้ชัยชนะ ก็ไร้ประโยชน์
มันไม่อาจช่วยใครด้วยกำลังมหาศาลของมัน
18 ดูเถิด พระเนตรของพระเจ้าอยู่เหนือคนที่ยำเกรงพระองค์
อยู่เหนือคนที่หวังในความรักมั่นคงของพระองค์
19 เพื่อให้พระองค์ทรงช่วยกู้เขาจากความตาย
และทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้ในยามกันดาร
เราตั้งใจรอคอยพระเจ้าของเรา
20 วิญญาณของเรารอคอยพระยาห์เวห์
ทรงเป็นพระผู้ช่วยและโล่กำบังของเรา
21 จิตใจของเรายินดีในพระองค์
เพราะเราวางใจในพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์
22 โอ พระยาห์เวห์.
ขอให้ความรักมั่นคงของพระองค์อยู่เหนือพวกเรา
ตามที่เราหวังใจในพระองค์

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 32:11; 97:12; 147:1

2* สดุดี 150:3-6, 144:9

3* อิสยาห์ 42:10, สดุดี 96:1

4* สดุดี 12:6, ทิตัส 1:2

5*ฮีบรู 11:3, 2 เปโตร 3:5, โยบ 33:4

6* ฮีบรู 11:3, 2. เปโตร 3:5, โยบ 33:4

7* อพยพ 15:8

8* วิวรณ์ 15:4; 14:6-7, สดุดี 96:9-10

9* สดุดี 33:6, ปฐมกาล 1:3

10* อิสยาห์ 8:10; 19:3

11* โยบ 23:13,
สุภาษิต 19:21

12* สดุดี 144:15, 1 เปโตร 2:9

13* สดุดี 11:4, โยบ 28:24

14* 1 พงศ์กษัตริย์ 8:39, 1 ทิโมธี 6:16

15* เยเรมีย์ 32:19, สดุดี 44:21

16* สดุดี 44:3, เยเรมีย์ 9:23

17* สุภาษิต 21:31, สดุดี 20:7

18* 1 เปโตร 3:12, โยบ 36:7

19* สุภาษิต 10:3, สดุดี 91:10

20* สดุดี 130:5-6, อิสยาห์ 40:31

21* สดุดี 13:5, วิวรณ์ 4:8

22* สดุดี 119:49

อธิบายเพิ่มเติม

ชวนให้ร้องเพลงถวายพระเจ้า
สดุดี 33:1-3
ตอนนี้เป็นเวลาที่ดาวิดกำลังกล่าวกับคนที่ภักดีต่อพระเจ้า ท่านมองเห็นว่า เมื่อคนเที่ยงธรรมสรรเสริญพระเจ้านั้น ภาพออกมางดงาม น่าชมจริง ๆ เพราะพวกเขาสรรเสริญอย่างจริงใจ ไม่มีการหลอกลวง รู้สึกชื่นชมในพระเจ้าอย่างไรก็กล่าวออกมาอย่างนั้น ท่านชวนให้ร้องเพลงและเล่นดนตรี ร้องเพลงใหม่อยู่เสมอ การสรรเสริญของท่านในเวลานี้ ออกเสียงดังจริง ๆ ไม่มีออมเสียงไว้เลย

พระลักษณะของพระเจ้า
สดุดี 33:4-5
เราจะเห็นว่า สมควรที่เราจะสรรเสริญพระเจ้าเพราะพระองค์ทรงเที่ยงตรง ซื่อตรง ยุติธรรม นี่เป็นพระลักษณะส่วนตัวของพระเจ้าที่เห็นได้ชัด มองไปรอบ ๆ เราจะเห็นความรักมั่นคงของพระเจ้าเต็มไปหมด แม้อยู่ในความยากลำบากเราก็สัมผัสความรักของพระองค์ได้. …

จักรวาลที่พระองค์ทรงสร้าง
สดุดี 33:6-9
ดาวิดอดไม่ได้ที่จะคิดถึงการทรงสร้างของพระเจ้า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ในการทรงสร้าง เป็นเหตุให้มนุษย์ต้องหวาดหวั่นต่อพระองค์ ท่านชวนให้เรายืนตะลึงต่อพระองค์เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง
เราจึงควรขอบพระคุณในราชกิจที่ทรงทำให้แก่เรา อย่ามองธรรมชาติแบบเฉย ๆ อีกต่อไป แต่ให้เรามองแล้วสรรเสริญพระองค์ยินดีในพระองค์ไม่หยุดยั้ง

ใครจะตั้งตัวต่อต้านพระองค์?
สดุดี 33:10-12
พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่เหนือการรวมตัวของชาติต่าง ๆ ที่พยายามสร้างความยิ่งใหญ่ให้ตนเอง เราเห็นองค์กรระหว่างประเทศมากมายเกิดขึ้น และองค์กรเหล่านี้ได้ทำกิจกรรมที่ดูเหมือนดี แต่เป็นการต่อต้านพระเจ้าหลายประการที่มองผ่าน ๆ แล้วจะไม่เห็นว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่
เราอยากเห็นชาติที่ให้พระเจ้ามาเป็นที่หนึ่ง แต่ยิ่งมองไปในโลก ก็ยิ่งเห็นชาติที่พยายามทำลายความเชื่อในพระเจ้า ดาวิดเองเป็นกษัตริย์ ท่านรู้ดีว่าหากท่านนำประชากรของท่านให้หันมารับพระเจ้าสุดหัวใจ ประชากรของพระเจ้าจะมีความสุขอย่างที่ทุกชาติต้องอิจฉษ

พระเจ้าทรงมองดูมนุษย์เสมอ
สดุดี 33:13-15
ดาวิดได้เตือนทุกคนว่า พระเจ้าทรงมองดูอยู่ ทรงมองในฐานะชาติ และทรงมองในฐานะบุคคลเป็นส่วนตัว เราเชื่อว่าพระเจ้าทรงมองครอบครัว ที่ทำงาน คริสตจักร และชุมชนต่าง ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อพระเจ้าทรงมองมา พระองค์ทรงพอพระทัยสิ่งที่เราทำไหม?

ใครล่ะ จะทำให้ชนะได้จริง ๆ?
สดุดี 33:16-19
กษัตริย์ดาวิดเป็นนักรบ ดังนั้นสิ่งที่ท่านกล่าวเป็นความจริง ท่านรู้ชัดว่า กำลังของกองทัพหรือนักรบที่กล้าหาญเข้มแข็งไม่ได้ช่วยอะไร แต่ ผู้ที่ช่วยให้มีชัยชนะคือพระเจ้า ..​นี่เป็นความมั่นใจของเราเช่นกันว่าสติปัญญาหรือกำลังของเราไม่ได้ช่วยเราได้เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงช่วยในทุก ๆ สถานการณ์

เราตั้งใจรอคอยพระเจ้าของเรา
สดุดี 33:20-22
กษัตริย์ดาวิดได้กล่าวถึงพระเจ้าในด้านต่าง ๆ มากมาย ถึงเวลาที่ท่านจะรอคอยพระเจ้าองค์ที่ท่านสรรเสริญบูชา ท่านมองว่าพระเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยและโล่ปกป้อง ท่านยินดีในพระเจ้า วางใจพระองค์
จบด้วยการอธิษฐานขอให้รักมั่นคงของพระองค์อยู่เหนือประชากรของพระองค์. เป็นคำอธิษฐานที่เหมาะสำหรับคนที่เป็นกษัตริย์ปกครองประชากรของพระเจ้า เพราะท่านรู้ว่า พระเจ้าต่างหากที่เป็นผู้ปกป้องแท้จริง หาใช่ท่านเองไม่

สดุดี 32 อย่าให้มีบาปที่ไม่สารภาพ

ภาพจาก pixels.com ถ่ายโดย Hilary Halliwell

มัสคิลบทหนึ่ง ของดาวิด
ผู้ที่พระเจ้าทรงอภัย ก็เป็นสุขเหลือเกิน
1 คนที่พระเจ้าทรงอภัยการล่วงละเมิดก็เป็นสุข
คนที่ความบาปถูกลบไปแล้ว ก็เป็นสุข
2 คนที่พระยาห์เวห์ไม่ทรงถือโทษบาปก็เป็นสุข
คนที่ไม่มีจิตใจที่ล่อลวงก็เป็นสุข

บาปที่ค้างคา ทำลายชีวิต
3 เพราะเมื่อข้านิ่งเฉยอยู่ กระดูกก็ผุเปราะไป
ข้าร้องโหยหวนคร่ำครวญทั้งวัน
4 พระหัตถ์ของพระองค์หนักอยู่เหนือข้าทั้งวันและคืน
กำลังของข้าก็เหือดหายไปราวกับไอร้อนในฤดูร้อน
5 ข้ายอมรับบาปของข้าต่อพระองค์
และไม่ได้ปกปิดความผิดเอาไว้
ข้ากล่าวว่า “ข้าจะสารภาพความผิดบาปต่อพระยาห์เวห์”
และพระองค์ก็ทรงอภัยบาปชั่วของข้า เซ ลาห์

ป้องกันหายนะที่จะมาถึงชีวิต
6 ดังนั้น ให้ทุกคนที่อยู่ในทางของพระเจ้าอธิษฐานต่อพระองค์
ในเวลาที่จะพบพระองค์ได้
แน่ที่เดียว มวลน้ำใหญ่จะไม่ท่วมถึงเขา …
7 พระองค์ทรงเป็นที่ซ่อนตัวของข้า
พระองค์ทรงรักษาข้าให้พ้นจากความทุกข์ลำบาก
พระองค์ทรงโอบล้อมข้าไว้ด้วยเสียงแห่งการช่วยกู้ เซ ลาห์

พระเจ้าทรงเป็นผู้สอนตามทางชีวิต
8 เราจะสั่งสอนและชี้นำเจ้าไปในทางที่เจ้าควรจะเดินไป
เราจะให้คำปรึกษาพร้อมกับจับตาดูเจ้า
9 อย่าเป็นเหมือนม้าหรือลาที่ไม่มีความเข้าใจ
ที่ต้องถูกบังคับด้วยสายรั้งและบังเหียน
มิฉะนั้นจะไม่ยอมเชื่อฟัง

ความยินดีในพระเจ้าของคนเที่ยงธรรม
10 คนชั่วพบความทุกข์ใจหลายอย่าง
แต่ความรักมั่นคงอยู่ล้อมรอบคนที่วางใจในพระยาห์เวห์
11จงชื่นชมในพระยาห์เวห์ และยินดีเถิด เหล่าคนเที่ยงธรรมเอ๋ย
และร้องตะโกนด้วยความยินดี เหล่าคนที่มีใจเที่ยงตรง!

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 85:2,103:3

2* 2 โครินธ์ 5:19, ยอห์น 1:47

3* สดุดี 38:3,8

4* 1 ซามูเอล 5:6,11, 39:10-11

5* สุภาษิต 28:13,

6* 1 ทิโมธี 1:16, อิสยาห์ 55:6,

7* สดุดี 9:9, อพยพ 15:1

8* สุภาษิต 3:5-6, สดุดี 33:18

9* สุภาษิต 26:3,

10* โรม 2:9, สุภาษิต 16:20

11*สดุดี 64:10, 68:3, 97:12

คำอธิบายเพิ่มเติม สดุดี 32

คนที่…​ก็เป็นสุข เป็นสดุดีที่เริ่มต้นคล้ายสดุดีบทที่ 1

สดุดี 32:1-2
ผู้ที่พระเจ้าทรงอภัย ก็เป็นสุขเหลือเกิน
สดุดีบทที่ 32 นี้ หากเราได้ใคร่ครวญ เดินตาม และมีความเข้าใจถึงการทรงอยู่ด้วยของพระเจ้าในชีวิต ใช้เวลากับบทนี้นาน ๆ ให้คำซึมซาบเข้าไปในหัวใจ ชีวิตของเราจะเปลี่ยนแปลง อย่าปล่อยสดุดีบทนี้ไปเฉย ๆ แต่ให้กลับมาเพื่อเราจะได้รู้จักที่จะสะท้อนชีวิต การกระทำ พฤติกรรมของเราและทำให้ถูกต้องต่อพระเจ้า เชื่อกันว่า ข้อความทั้งหมดที่เขียนเป็นความรู้สึกของดาวิดหลังจากที่ท่านสำนึกผิดกลับใจจากบาปที่ท่านทำต่อครอบครัวของอุรียาห์ (2 ซามูเอล 11)
อ่านสองข้อนี้ให้ดีแล้วถามตัวเองว่า เราได้รับการอภัยบาปแล้ว พระเจ้าไม่ทรงถือโทษเราแล้ว แน่ใจไหมว่าเป็นอย่างนั้น

สดุดี 32:3-5
บาปที่ค้างคา ทำลายชีวิต
การนิ่งเฉย คือความดื้อเงียบ ไม่ยอมที่จะรับว่าตนเองทำผิด คิดว่าทิ้งบาปไว้มืด ๆ ไม่มีใครเห็นก็จบกัน แต่สำหรับพระเจ้าแล้ว ไม่มีอะไรปิดบังไว้จากพระองค์ได้เลย และคนที่พระองค์ทรงรักพระองค์จะลงวินัยกับเขาอย่างแน่นอน ที่ว่าพระเจ้าตีสอน แล้วพูดกันพร่ำเพรื่อ รู้ไหมว่า คนที่ถูกตีสอนคือคนที่พระเจ้าทรงรัก ทรงให้เขาเจ็บเพื่อเขาจะไม่ทำลายชีวิตของตนเอง
จากคำของดาวิดเราจะเห็นว่า ไม่ใช่แค่สำนึก หรือมโนธรรม หรือใจที่ฟ้องตนเอง (อ่าน 1 ยอห์น 3:16-24) แต่พระหัตถ์ของพระเจ้าต่างหากที่หนักอยู่เหนือใจของท่าน
อย่าลืม… ไม่ว่าเราทำบาปต่อใคร ทำเรื่องอะไร ในที่สุดทุกอย่างมาตกที่เป็นการทำบาปต่อองค์พระเจ้าโดยตรง
แต่ถึงแม้ว่าบาปหนักเพียงไร เมื่อดาวิดตัดสินใจว่าท่านจะสารภาพบาป สำนึกผิด พระเจ้าก็ทรงซื่อตรงที่จะอภัยบาปให้ท่าน

สดุดี 32:6-7
ป้องกันหายนะที่จะมาถึงชีวิต
ดาวิดชวนให้ทุกคนอธิษฐานต่อพระเจ้าก่อนที่จะถึงเวลาแห่งความลำบาก มวลน้ำใหญ่นี้ หมายถึงความทุกข์ยาก ปัญหาต่าง ๆ อะไรก็ตามที่เกินมือของเราจะจัดการได้ ดาวิดตระหนักว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่ช่วยกู้ท่าน และการโอบล้อมของพระเจ้าที่ท่านกล่าวถึง รู้สึกไหมว่า ปลอดภัยจริง ๆ

สดุดี 32:8-9
พระเจ้าทรงเป็นผู้สอนตามทางชีวิต
แล้วพระเจ้าก็ตรัสในใจของดาวิดว่า พระองค์จะทรงสอนและนำทางที่ควรจะไป ซึ่งเราหาได้จากพระคัมภีร์ ไม่จำเป็นต้องไปรอฟังเสียงของพระเจ้าด้วยวิธีต่าง ๆ ที่ใคร ๆ แนะนำ เริ่มจากพระคำของพระองค์ แล้วความใกล้ชิดนั้นจะทำให้เราได้ยินเสียงของพระเจ้าได้ง่ายขึ้น พระเจ้าตรัสชัดเจนว่าอย่าดื้อ อย่าขาดความเข้าใจ อย่ามีตัวเองมากจนไม่ได้ยินเสียงของพระองค์ หากดื้อมาก และพระเจ้ารักมากพระองค์อาจต้องใส่บังเหียนให้กับเรา เราคงไม่อยากได้แบบนั้น

สดุดี 32:10-11
ความยินดีในพระเจ้าของคนเที่ยงธรรม
สดุดีบทนี้จบด้วยความยินดี เพราะผู้เขียนได้ผ่านการตรวจสอบจากพระเจ้า ผ่านการสำนึกผิด การสารภาพบาปต่อพระองค์ และเขาก็พบว่า พระเจ้าทรงดีจริง ๆ เพราะทรงคืนความรักมั่นคงให้ ทรงโอบล้อมชีวิตของเขาให้ปลอดภัย เขาจึงสามารถร้องเพลงสรรเสริญพระองค์จากหัวใจจริง

สดุดี 31 คำอธิษฐาน และคำสรรเสริญพระเจ้า

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด
คำร้องทูลของดาวิด
1 โอ พระยาห์เวห์ ข้าลี้ภัยในพระองค์
ขออย่าทรงให้ข้าต้องอับอาย
ขอทรงช่วยกู้ข้าในความเที่ยงธรรมของพระองค์
2 ขอทรงเงี่ยพระกรรณฟังข้าด้วย ขอทรงรีบมาช่วยกู้
ขอทรงเป็นศิลาที่ลี้ภัยของข้า
เป็นป้อมปราการที่ช่วยให้รอด
3 เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นศิลาและที่กำบังของข้า
ขอทรงนำทางและจูงข้าไป เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์
4 ขอทรงฉุดข้าออกจากตาข่าย ที่พวกเขาแอบไว้เพื่อดักข้า
เพราะพระองค์ทรงเป็นที่หลบภัยของข้า

ดาวิดมั่นใจในพระเจ้า
5 ข้าขอมอบจิตวิญญาณไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์
พระองค์ได้ทรงไถ่ข้า
โอ พระยาห์เวห์ องค์พระเจ้าแห่งความจริง
6 ข้าชังคนเหล่านั้นที่เชื่อในคำมุสาอันไร้ค่า
แต่ข้าวางใจในพระยาห์เวห์
7 ข้าจะยินดีและชื่นชมในความรักมั่นคงของพระองค์
เพราะพระองค์ทรงเห็นความยากเข็ญของข้า
พระองค์ทรงทราบความทุกข์ร้อนในจิตวิญญาณ
8 และพระองค์ไม่ได้ปล่อยให้ชีวิตข้าอยู่ในเงื้อมมือศัตรู
พระองค์ทรงวางเท้าของข้าไว้ในที่กว้างขวาง

ความเจ็บปวดของดาวิด
9 ขอทรงพระเมตตาต่อข้า
โอ พระยาห์เวห์ เพราะข้าทุกข์ใจนัก
ดวงตาของข้าชอกช้ำจากความโศกเศร้า
รวมไปถึงจิตวิญญาณและร่างกายของข้าด้วย
10 เพราะเวลาในชีวิตของข้า ใช้ไปกับความทุกข์โศก
ปีเดือนผ่านไปด้วยการถอนหายใจ
ข้าหมดเรี่ยวหมดแรงเพราะความบาปของข้า
กระดูกของข้าก็แห้งกร่อนไป
11 ข้ากลายเป็นที่ตำหนิติเตียนเพราะเหล่าศัตรูของข้า
โดยเฉพาะกับเพื่อนบ้านของข้า
ข้าเป็นที่หวาดหวั่นของคนใกล้ชิด
เมื่อคนเห็นข้าตามทาง พวกเขาก็วิ่งหนีไป
12 ผู้คนลืมข้าไป ราวกับคนที่ตายไปแล้ว
ข้ากลายเป็นเหมือนภาชนะที่แตกหัก
13 เพราะข้าได้ยินเสียงกระซิบถึงความน่ากลัวรอบด้าน
ขณะที่พวกเขาสมคบคิดต่อต้านข้า
ขณะที่พวกเขาวางแผนจะเอาชีวิตข้า

ในความทุกข์ยาก ดาวิดวางใจในพระเจ้า
14 แต่ข้าวางใจในพระองค์ โอ พระยาห์เวห์
ข้ากล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้า”
15 เวลาของข้าก็อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์
ขอทรงช่วยข้าจากเงื้อมมือของเหล่าศัตรูและคนที่มาข่มเหง
16 ขอทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ฉายแสง
ลงมายังผู้รับใช้ของพระองค์
ขอทรงช่วยข้าในความรักมั่นคงของพระองค์
17 โอ พระยาห์เวห์ ขออย่าให้ข้าต้องละอายใจ
เพราะข้าร้องเรียกหาพระองค์
ขอทรงให้ศัตรูอับอาย ให้พวกเขาสยบนิ่งอยู่ในแดนตาย
18 ขอให้ปากที่พูดเท็จต้องเงียบไป
ปากที่กล่าวคำอหังการต่อต้านผู้ที่เที่ยงธรรม
ด้วยความก้าวร้าวและคำดูหมิ่น

ดาวิดรับว่าพระเจ้าทรงดียิ่งนัก
19 โอ ความดีของพระองค์นั้นมีมากเหลือล้นเพียงใด
พระองค์ทรงสะสมความดีนั้นไว้เพื่อคนที่ยำเกรงพระองค์
และเป็นความดีที่ทรงทำแก่คนที่ลี้ภัยในพระองค์
ต่อหน้าต่อตาลูกหลานของมนุษย์
20 พระองค์ทรงซ่อนเขาในที่ลี้ลับ ณ เบื้องพระพักตร์
ให้พ้นจากแผนการร้ายของมนุษย์
พระองค์ทรงเก็บพวกเขาไว้ใต้ร่มเพิงที่ประทับ
ให้พ้นจากลิ้นที่ชั่ว
21 ขอถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์
เพราะพระองค์ทรงแสดงความรักมั่นคงแก่ข้าอย่างน่าพิศวง
เมื่อข้าอยู่ในเมืองที่ถูกล้อม
22 ข้ากล่าวออกมาเมื่อตกใจว่า
“ข้าถูกตัดออกจากสายพระเนตรของพระองค์”
แต่พระองค์ทรงยินเสียงร้องทูลขอพระเมตตา
เมื่อข้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์

ชักชวนให้คนของพระเจ้าสรรเสริญพระองค์
23 จงรักพระยาห์เวห์ ผู้บริสุทธิ์ของพระองค์
พระยาห์เวห์ทรงปกปักรักษาผู้จงรักภักดี
แต่ทรงตอบสนองคนหยิ่งยโสอย่างเต็มขนาด
24 จงกล้าหาญ และพระองค์จะทรงเพิ่มพลังใจ
ทุกคนที่มีความหวังในองค์พระยาห์เวห์ !

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 5:8, 7:1, โรม 10:11

2* สดุดี 17:6, 18:2, 71:2

3* สดุดี 143:10-11, ยอห์น 16:13

4* สดุดี 25:15, 140:5, 2 ทิโมธี 2:26

5* ลูกา 23:46, ทิตัส 2:14,

6* โยนาห์ 2:8, สดุดี 24:4

7* อิสยาห์ 63:9, 49:13, สดุดี 119;153

8* ฉธบ. 32:30,โยบ 36:16,สดุดี 18:19

9* สดุดี 6:7, 88:9, เพลงคร่ำครวญ 5:17

10* สดุดี 88:15, 38:3, โรม 9:2

11*สดุดี 38:11,88:8, 88:18

12*โรม 9:21-22, อิสยาห์ 38:11-12, 30:14

13* เยเรมีย์ 20:10, เพลงคร่ำครวญ​ 2:22

14* สดุดี 56:3-4 140:6, 16:1-2

15* ยอห์น 17:1, โยบ 24:1

16* สดุดี 4:6, 80:3, โรม 9:15

17* สดุดี 25:2-3, เยเรมีย์ 20:11

18* ยูดา 1:15, สดุดี 94:4, 1 ซามูเอล 2:3

19* 1 โครินธ์ 2:9, อิสยาห์ 64:4,

20* สดุดี 27:5, 32:7,ยากอบ 4:6

21* สดุดี 17:7

22* เอเสเคียล 37:11, สดุดี 6:9

23* สดุดี 97:10, 34:9

24* สดุดี 27:14, 146:5

คำอธิบายเพิ่มเติม

สดุดี 31:1-4. คำร้องทูลของดาวิด
ถ้าเราเริ่มอ่านสดุดีบทนี้จากข้อ 9-13 ก่อน เราก็จะเข้าใจสภาพจิตใจของดาวิดในเวลานั้น ท่านเจอความทุกข์ใจ แต่ท่านก็เริ่มต้นด้วยการบอกว่า ขอลี้ภัย ขอพระเจ้าทรงฟัง ขอทรงช่วยกู้เร็ว ๆ ขอพระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัย ขอทรงกำบังไว้ ขอทรงนำทางและจูงไป ขอฉุดจากตาข่าย…. เรียกได้ว่าท่านระดมทูลขอแบบไม่ต้องนับเลยว่า ขออะไรบ้าง เพราะทุกข์ใจยิ่งนัก

สดุดี 31: 5-8. ดาวิดมั่นใจในพระเจ้า
การฝากจิตวิญญาณไว้กับพระเจ้านั้น คือ ทิ้งทั้งชีวิตให้อยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าแห่งความจริง …
กษัตริย์ดาวิดรู้ดีว่า การต่อสู้กับศัตรูไม่ใช่แค่ทางกายเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้กับการใส่ร้าย คำมุสาที่โหมกระหน่ำเข้ามา
ข้อเจ็ด ในความยากเข็ญ ดาวิดมั่นใจว่า พระเจ้าทรงเห็นทุกอย่างในหัวใจของท่าน
คำขอที่ให้พระเจ้าทรงวางไว้ในที่กว้างขวางจำเป็นมาก เพราะถ้าติดกับ จนมุมอยู่ก็จะหนีไปยาก ตั้งตัวยาก แต่ขอให้พระเจ้าทรงวางไว้ในที่กว้าง คือที่ ๆ มีทั้งความมั่นคงและปลอดภัยใต้พระเจ้า ไม่ได้อยู่ในเงื้อมมือศัตรู!

สดุดี  9-13 ความเจ็บปวดของดาวิด
ดูสภาพของดาวิดในห้าข้อนี้ อ่านซ้ำไปมาจะเห็นว่า เป็นชีวิตที่ทรมานจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ดาวิดเป็นผู้กล้าในสายตาของเรา ท่านสู้กับยักษ์ใหญ่ที่ตัวโตกว่ามากมายอย่างไม่กลัว ก่อนที่จะเป็นกษัตริย์ก็ใช้ชีวิตเหมือนกับผู้รักษาความสงบให้กับประชาชนที่เดือดร้อน เมื่อเราอ่านตอนนี้เราจึงเข้าใจว่า ในความเป็นวีรบุรุษ ไม่ได้หมายความว่า กล้าหาญ ชนะเสมอไป แต่ความทุกข์นั้นท่วมท้นมากมายไม่มีใครเข้าใจจริง ๆ ดาวิดจึงต้องการพระเจ้ามากเหลือเกิน
ในช่วงเวลาของชีวิตเราก็ตกอยู่ในสภาพนี้ได้เหมือนกัน. แต่…ท่านทำอย่างไรจึงพ้นสภาพนี้ได้?

สดุดี 31:14-18. ในความทุกข์ยาก ดาวิดวางใจในพระเจ้า
ข้อความตอนนี้ แตกต่างจากก่อนหน้า ดาวิดมั่นใจว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้า และเวลาของชีวิตที่มีไม่มากนั้น ก็อยู่ในการลิขิตของพระเจ้า และชีวิตก็จะไม่เป็นเหมือนข้อ 10 ที่เวลาเสียไปกับความเศร้าโศก พระเจ้าเองจะทรงเป็นผู้ช่วยให้พ้นจากศัตรู ท่านขอให้แสงจากพระเจ้ามายังใบหน้าของท่าน คือขอความโปรดปรานและความดีของพระเจ้ามาปรากฏในชีวิตของท่าน
หากเราเชื่อว่าเวลาของเราอยู่ในพระเจ้าแล้ว ความกังวลมากมายในชีวิตจะลดลงไปเพราะไม่ต้องไปห่วงไม่ต้องไปกังวลเหมือนอย่างคนในโลกที่ไม่มีพระเจ้า

สดุดี 31:19-22 ดาวิดรับว่าพระเจ้าทรงดียิ่งนัก
ตอนจบเพลงนี้ ดาวิดคนเดิมในข้อ 9-13 ก็เปลี่ยนไป ท่านยอมรับว่า พระเจ้าทรงดีเหลือเกิน ความดีของพระองค์มีเป็นคลังสะสมไว้ให้คนที่ยำเกรงพระองค์ แม้มนุษย์จะมีแผนทำลายท่าน แต่ก็ไม่มีใครอาจแตะต้องชีวิตได้เพราะพระเจ้าทรงซ่อนท่านไว้ในที่ลี้ลับในที่ประทับของพระองค์ ตรงนี้กล่าวอีกแล้วถึงลิ้นที่ใส่ร้าย ดูเหมือนว่า เป็นศึกหนักสำหรับดาวิดเลยทีเดียว
แม้ว่าดาวิดอยู่ท่ามกลางการถูกโอบล้อม แต่พระเจ้าทรงมีวิธีที่จะให้ท่านปลอดภัย
เราอย่าลืมทูลขอพระเจ้าให้ปลอดภัยจากการโอบล้อมของศัตรูในรูปแบบต่าง ๆ ด้วย
บางครั้งดาวิดรู้สึกเหมือนหมดหวัง กล่าวว่าถูกตัดขาดจากพระเจ้า แต่ทันทีท่านก็กลับมา และรู้ว่าเมื่อร้องทูล. พระเจ้าจะทรงฟัง

สดุดี 31:23-24. ชักชวนให้คนของพระเจ้าสรรเสริญพระองค์
เมื่อเราได้ประสบการณ์จากพระเจ้าอย่างเช่นดาวิด ก็อย่าเก็บไว้คนเดียว ให้ชักชวนคนอื่นรักพระเจ้าด้วย ก่อนหน้านี้เขามองตัวเอง แต่มาตอนนี้เขามองไปที่ประชาชนทั้งหลาย และในฐานะกษัตริย์ก็ชวนให้คนเหล่านั้นได้รักพระเจ้า เหตุว่าพระเจ้าทรงรักษาคนที่เที่ยงธรรมไว้ พระเจ้าจะทรงให้กำลัง ดังนั้นทุกคนควรที่จะกล้าหาญไม่หยุดเลย