สดุดี 116 พระคุณที่เกินพอสำหรับชีวิต


คำร้องทูลของผู้เขียน
1 ข้ารักองค์พระยาห์เวห์
เพราะพระองค์ทรงฟังเสียงร้องทูลขอพระกรุณา
2 และพระองค์ทรงฟังข้า
ดังนั้น ตราบเท่าที่ข้ามีชีวิต
ข้าจะร้องหาพระองค์เมื่อข้าต้องการความช่วยเหลือ
3 บ่วงแห่งความตายล้อมข้าไว้
กับดักแห่งแดนตายประจันหน้ากับข้า
ข้าเผชิญกับความยากลำบากและความทุกข์ใจ
4 ข้าร้องเรียกพระนามพระยาห์เวห์
“ได้โปรดเถิด องค์พระยาห์เวห์ ขอทรงช่วยกู้ชีวิตข้าด้วย”

การปกป้องของพระยาห์เวห์
5 พระยาห์เวห์เต็มด้วยพระกรุณาและทรงเที่ยงธรรม
พระเจ้าของเราเต็มด้วยพระทัยสงสาร
6 พระยาห์เวห์ทรงปกป้องคนที่โง่เขลา
เมื่อข้าพบความยากลำบาก พระองค์ทรงช่วยกู้ข้า
7 จิตใจของข้าเอ๋ย จงพักสงบเถิด
เพราะพระยาห์เวห์ทรงช่วยปกป้องสิทธิของเจ้า
8 ใช่แล้ว พระองค์ทรงช่วยข้าให้พ้นจากความตาย
ทรงทำให้ข้าไม่ต้องร้องไห้
ทรงป้องกันไม่ให้เท้าของข้าสะดุด
9 ข้าจะรับใช้องค์พระยาห์เวห์ในดินแดนของคนเป็น

ฉลองชัยที่ทรงช่วยกู้ชีวิตไว้
10 ข้ายังเชื่ออยู่ แม้ข้าพูดว่า “ข้ากำลังทุกข์ยากเหลือเกิน”
11 ข้ากล่าวอย่างทันควันว่า “มนุษย์ทุกคนเป็นคนโกหก”
12 ข้าจะตอบแทนองค์พระยาห์เวห์ได้อย่างไร
สำหรับน้ำพระทัยอันกว้างขวางของพระองค์ที่มีต่อข้า?
13 ข้าจะยกถ้วยแห่งความรอดขึ้นมา 
และจะร้องเรียกพระนามของพระยาห์เวห์
14 ข้าจะทำตามคำปฏิญาณที่มอบไว้กับ
องค์พระผู้เป็นเจ้า ต่อหน้าประชาชนของพระองค์

ขอสัญญาจะทำตามคำปฏิญาณ
15 พระยาห์เวห์ทรงเห็นคุณค่าของชีวิตผู้ติดตามพระองค์อย่างจงรักภักดี
16 ใช่แล้ว โอ พระยาห์เวห์ ข้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์จริง ๆ
ข้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
ลูกชายของหญิงผู้รับใช้ของพระองค์
พระองค์ทรงช่วยข้าจากความตาย
17 ข้าจะถวายคำขอบพระคุณแด่พระองค์
และร้องเรียกพระนามของพระยาห์เวห์
18 ข้าจะทำตามคำปฏิญาณที่มอบไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า
ต่อหน้าประชาชนของพระองค์
19 ในลานพระนิเวศของพระยาห์เวห์ท่ามกลางเยรูซาเล็ม สรรเสริญพระยาห์เวห์!

พระคำเชื่อมโยง

1* 1 ยอห์น 4:19, 5:2-3 ; สดุดี 66:19-20; ยอห์น 16:24;

2* สดุดี 145:18-19; 40:1, 55:16-17, 86:6-7

3* สดุดี 38:6; ฮีบรู 5:7; ลูกา 22:44; มาระโก 14:33-36; โยนาห์ 2:2-3

4*สดุดี 118:5, 22:20, 143:6-9; ลูกา 23:42-43

5* เอสรา 9:15; สดุดี 145:17, 119:137, 103:8

6* สดุดี 79:8, 142:6, 19:7 ; 2 โครินธ์ 1:12

7* สดุดี 13:6; มัทธิว 11:28-29; เยเรมีย์ 30:10; เยเรมีย์ 6:16

8* สดุดี 56:13, 86:13 ; วิวรณ์ 21:4, 7:17

9* สดุดี 27:13, 61:7; ลูกา 1:75; 1 พงศ์กษัตริย์ 9:4

10* 2 โครินธ์ 4:13; ฮีบรู 11:1; 2 เปโตร 1:21

11* สดุดี 31:22; เยเรมีย์ 9:4-5; โรม 3:4

12* สดุดี 103:2; 1 โครินธ์​ 6:20; โรม 12:1; 2 โครินธ์ 5:14-15

13* สดุดี 16:5, 116:2; 1 โครินธ์ . 11:25-27; ลูกา 22:20

14* โยนาห์ 2:9; สดุดี 116:18, 22:25, 56:12; มัทธิว 5:33

15* สดุดี 72:14, สดุดี 37:32-33; 1 ซามูเอล 25:29

16* สดุดี 86:16, 143;12; ยากอบ 1:1; โรม 6:22

17* สดุดี 50:14; เลวีนิติ 7:12; ฮีบรู 13:15

18* สดุดี 116:14, 22:25

19* สดุดี 135:2, 96:8, 122:3-4

ข้อ 1-4 คำร้องทูลของผู้เขียน
สดุดีบทนี้เป็นบทหนึ่งในจาก 113-118 ที่เรียกว่าสดุดีสรรเสริญของชาวอียิปต์  เป็นเพลงที่ศิษย์และพระเยซูร้องกันในคืนที่พระองค์ถูกทรยศและจับตัวไป (มัทธิว 26:30, มาระโก 14:26)
ผู้เขียนมีความรู้สึกรักพระเจ้าจากส่วนลึกของหัวใจเพราะเขาได้รับคำตอบเสมอเมื่อทูลอธิษฐานต่อพระเจ้าหัวใจเต็มด้วยความยินดีในความดีของพระเจ้า  นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขารักพระเจ้า  และเขาจะต้องร้องหาพระองค์ต่อไปเพราะว่าในชีวิตของเขาไม่ใช่เป็นชีวิตที่ง่ายเลย
เขาเจอบ่วงความตาย … พระคำข้อนี้ทำให้นึกถึงพระเยซูที่ถูกบ่วงความตายห้อมล้อมพระองค์บนไม้กางเขนแต่พระเจ้าพระบิดาทรงฟังเสียงของพระบุตรและทรงให้พระองค์ทรงฟื้นขึ้นจากความตาย …​ พระองค์ทรงอธิษฐานตลอดชีวิตของพระองค์แม้ยามที่อยู่บนไม้กางเขนเผชิญกับความตายอันน่าสะพรึง 

ข้อ  5-9 การปกป้องของพระยาห์เวห์
ข้อ 5 นี้ผู้เขียนระลึกถึงพระลักษณะที่สำคัญต่อชีวิตของมนุษย์มากคือทรงกรุณาเที่ยงธรรมทรงสงสารคนของพระองค์  ถ้าเราจะคิดไปถึงพระเยซูที่พระองค์ทรงสละพระชนม์ก็เพราะหัวใจของพระองค์เป็นเช่นนี้ทรงช่วยปกป้องคนโง่ที่ทำบาป   ช่วยกู้จากความตาย   
คนเรามักไม่รู้ตัวว่าตกต่ำแค่ไหนแต่พระเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์มาช่วยเรา 
ผู้เขียนสั่งให้ตนเองพักสงบในพระเจ้ามั่นใจในพระองค์ที่จะทรงช่วยก่อนที่เราจะรู้ตัวพระองค์ทรงป้องกันชีวิตผู้ที่วางใจพระองค์ไว้ก่อนที่เขาจะสะดุดเราลองมองย้อนกลับไปในชีวิตจะเห็นการทรงนำของพระเจ้าชัดเจนเพื่อไม่ให้เราล้มลงไป
การเดินต่อพระพักตร์มีความหมายว่า  คนของพระเจ้าเดินอย่างโปร่งใสต่อพระเจ้าจะใช้ชีวิตอย่างไรก็ยำเกรงพระเจ้า  ไม่ใช่คนที่เดินทาสีฉาบหน้าให้คนเห็นว่าดี   แต่ถ้ามองในมุมของพระเยซูนั่นคือพระองค์ทรงรู้ว่าจะสิ้นพระชนม์แต่พระองค์จะได้เป็นขึ้นมาอีก 

ข้อ 10-14 ฉลองชัยที่ทรงช่วยกู้ชีวิตไว้
แม้ขณะที่กำลังทุกข์ยาก  ผู้เขียนยังมีความเชื่อแม้ว่าในช่วงที่กำลังถูกทดสอบอย่างหนักความเชื่อไม่ได้หายไปไหน  และการที่เขาบอกว่ามนุษย์เป็นคนโกหกทั้งนั้น  เพราะเขาได้เจอกับการทรยศและการที่ไว้ใจไม่ได้…
ข้อ 12 มีอะไรที่มนุษย์จะตอบแทนพระเจ้าได้ไม่มีเลย  สิ่งที่ผู้เขียนจะทำคือการยกถ้วยแห่งความรอดซึ่งอาจหมายถึงเครื่องดื่มบูชาที่เขาจะยกขึ้นมาในขณะที่กล่าวคำขอบพระคุณที่พระเจ้าทรงช่วยจะร้องเรียกพระเจ้าต่อไปและจะทำตามคำที่เคยปฏิญาณไว้นั่นคือสิ่งที่เขาตั้งใจจะทำ

ข้อ 15-19 ขอสัญญาจะทำตามคำปฏิญาณ
ข้อ 15 ทำให้เราได้รับการปลอบใจเพราะพระเจ้าทรงให้คุณค่าของชีวิตผู้เชื่อพระองค์  พระองค์ไม่ได้มองเฉยๆยิ่งคนที่สิ้นชีวิตเพราะความเชื่อในพระองค์  พระองค์ทรงเห็นและจะทรงตอบแทนพวกเขาอย่างมีเกียรติและแน่นอนว่าการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์เป็นการสิ้นชีวิตที่มีค่าที่สุด  
ข้อ 16 นี้ยืนยันว่าอย่างไรเขาก็เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ 
ข้อ 17-18 เป็นการกล่าวซ้ำเหมือนข้อ 13-14

สดุดี 115 พระพรมหาศาลจากพระยาห์เวห์

พระเจ้าทรงอยู่ในสวรรค์
1 ไม่ใช่เพื่อเรา โอพระยาห์เวห์ ไม่ใช่เพื่อเรา
แต่เราขอถวายพระเกียรติแด่พระนามของพระองค์
เพื่อเห็นแก่ความรักมั่นคง และความซื่อตรงของพระองค์
2 เหตุใดชาติต่าง ๆ จึงกล่าวว่า
“พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน?”

พระเจ้าของเราไม่ใช่รูปเคารพ
3 พระเจ้าของเราทรงอยู่ในสวรรค์
พระองค์ทรงทำทุกสิ่งที่ทรงพอพระทัย
4 รูปเคารพของพวกเขาเป็นเงินและทอง
เป็นผลงานมือมนุษย์
5 มันมีปาก แต่ไม่พูด
มีตาแต่มองไม่เห็น
6มันมีหู แต่ไม่ได้ยิน มีจมูก แต่ไม่รู้กลิ่น
7 มันมีมือ แต่ขาดความรู้สึก
มีเท้าแต่ไม่เดิน
มันไม่อาจทำเสียงออกจากลำคอ
8 คนที่สร้างมันขึ้นมาก็เป็นเหมือนรูปปั้นเหล่านั้น
รวมไปถึงคนที่วางใจรูปปั้นเหล่านั้นด้วย

มาวางใจพระเจ้าของเราสุดใจ
9 โอ อิสราเอล จงวางใจในพระยาห์เวห์
พระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือ ทรงเป็นโล่ป้องภัย
10 โอ วงศ์วานของอาโรน จงวางใจในพระยาห์เวห์
พระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือ ทรงเป็นโล่ป้องภัย
11 เหล่าผู้ที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ทั้งหลาย
จงวางใจในพระยาห์เวห์เถิดพระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือ
ทรงเป็นโล่ป้องภัย

พระพรจากพระยาห์เวห์
12 พระยาห์เวห์ทรงระลึกถึงเราทั้งหลาย
พระองค์จะทรงอวยพระพรเรา​
พระองค์ทรงอวยพระพรวงศ์วานอิสราเอล
พระองค์ทรงอวยพระพรวงศ์วานอาโรน
13 พระองค์ทรงอวยพระพรเหล่าคนที่ยำเกรงพระยาห์เวห์
ไม่ว่าจะเป็นผู้น้อยหรือผู้ใหญ่


คำอวยพรจากผู้เขียน
14 ขอพระยาห์เวห์ทรงเพิ่มพูนให้ท่าน
ทั้งตัวท่านและลูกหลานของท่าน
15 ขอให้ท่านได้รับพระพรจากพระยาห์เวห์
ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน
16 ฟ้าสวรรค์เป็นห้วงฟ้าสวรรค์ของพระยาห์เวห์
แต่พระองค์ทรงมอบแผ่นดินให้กับลูกหลานของมนุษย์
17 คนตายรวมไปถึงคนที่ก้าวไปสู่ความเงียบ
ไม่สรรเสริญพระยาห์เวห์
18 แต่เราจะถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์
ตั้งแต่เวลานี้ไปจนตลอดไปเป็นนิตย์
จงสรรเสริญพระยาห์เวห์!

ข้อพระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 79:9-10; อิสยาห์ 48:11; เอเสเคียล 20:14

2* สดุดี42:3,79:10,อพยพ 32:12; โยเอล 2:17

3* สดุดี 135:6, 103:19 ; ดาเนียล 4:35; อิสยาห์ 46:10

4* เฉลยธรรมบัญญัติ 4:28; เยเรมีย์ 10:3-5; อิสยาห์ 46:6-7

5* เยเรมีย์ 10:5

8* สดุดี 135:18; ฮาบากุก 2:18-19; เยเรมีย์ 10:8

9* สดุดี 62:8, 118:2-4; สุภาษต 30:5

10* สดุดี 118:3; กันดารวิถี 18:7, 16:40

11* กิจการ 10:35; สุภาษิต 14:26, 30:5 ; วิวรณ์ 19:5

12* สดุดี 136:23; อิสยาห์ 49:14-16; ปฐมกาล ​12:2-3

13* ลูกา 1:50; สดุดี 128:1, 112:1, 128:4-5 ; วิวรณ์ 19:5

14* เฉลยธรรมบัญญัติ 1:11 ; กิจการ 3:25, 2:39; เศคาริยาห์ 8:20-23

15* ปฐมกาล 1:1, 14:19 ; วิวรณ์ 14:7; สดุดี 96:5

16* สดุดี 8:6, 89:11; เยเรมีย์ 27:5-6; ปฐมกาล 1:28-30

17 * สดุดี 31:17, 6:5, 88:10-12; 1 ซามูเอล 2:9

18* สดุดี 113:2, 145:21; ดาเนียล 2:20; วิวรณ์ 5:13

สดุดีบทนี้ เป็นสดุดีที่ชุมชนจะร้องพร้อม ๆ กันเพื่อสรรเสริญพระเจ้า โดยที่มองมุ่งไปยังพระสิริของพระเจ้าที่พระองค์ทรงช่วยกู้คนของพระองค์

ข้อ 1-2พระเจ้าทรงอยู่ในสวรรค์
นี่เป็นคำอธิษฐานที่ไม่ใช่เหมาะกับสมัยโบราณเท่านั้น แต่ ณ วันนี้ เราต้องขอให้พระเกียรติของพระเจ้าปรากฏในแผ่นดินโลกที่เป็นศัตรูกับพระเจ้า เมื่อมีสงครามเกิดขึ้น อย่างเช่นที่ยูเครนในวันนี้ สงครามในพม่า และการต่อสู้ในที่ต่าง ๆ มากมาย บางครั้งคนจะถามว่า พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน? ไม่เห็นมาช่วยเจ้าเลย เราจึงต้องอธิษฐาน ขอพระจ้าทรงสำแดงพระสิริของพระองค์ ให้ทั้งโลกได้เห็นวันนี้ เวลานี้
ไม่ว่าใครจะไม่เชื่อในพระเจ้า ไม่เชื่อว่าพระองค์มีจริง แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงสร้าง ทรงดำรงอยู่จริง คนที่ไม่เชื่อ ก็จะยืนยันความไม่เชื่อ แต่… พระเจ้าของเราทรงพระชนม์อยู่

ข้อ 3-8 พระเจ้าของเราไม่ใช่รูปเคารพ
ผู้เขียนได้อธิบายชัดเจนว่า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่เกินกว่ารูปเคารพของชาวคานาอัน แต่เราอย่าลืมว่า พวกเราเองก็อาศัยในแผ่นดินที่เต็มด้วยรูปเคารพเช่นกัน เราเห็นภาพของผู้คนที่วางใจในรูปเคารพ แต่เราวางใจในพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ 9-11 มาวางใจพระเจ้าของเราสุดใจ
ผู้เขียนได้เชิญชวนให้ทุกคนเข้ามาวางใจพระเจ้า ท่านกล่าวถึงคนสามกลุ่ม คือ คนอิสราเอลทั้งหมด วงศ์วานของอาโรน ผู้มีหน้าที่ในการนำคนนมัสการพระเจ้า และทุกคนที่ยำเกรงพระเจ้า ซึ่งน่าจะหมายถึงคนอื่นที่ไม่ใช่เชื้อชาติอิสราเอล หมายถึงผู้ที่เชื่อในพระเจ้าให้วางใจว่าพระองค์คือ พระผู้ช่วยเหลือทุก ๆ ด้าน ลองหันกลับไปทบทวนสิ่งที่ผ่านมา เราจะเห็นหลายอย่างที่พระเจ้าทรงช่วยเราไว้ ปกป้องเราไว้ แต่เราไม่ได้สังเกตมาก่อน

12-13พระพรจากพระยาห์เวห์
ผู้เขียนมีความมั่นใจว่า คนทั้งสามกลุ่มที่กล่าวมาคือผู้ที่จะรับพระพรของพระเจ้า แบบไม่เลือกว่าจะเป็นคนใด จะเป็นผู้ปกครองหรือประชาชนธรรมดา ขอให้เขายำเกรงพระเจ้าแล้วกัน

14-18คำอวยพรจากผู้เขียน
ในเมื่อพระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดิน พระองค์ทรงกำหนดและดูแลฟ้าสวรรค์ให้ แต่แผ่นดินนั้นพระองค์ทรงให้มนุษย์ดูแล ลองกลับไปดูสดุดี เราจะเห็นว่า ฟ้าสวรรค์ที่พระเจ้าทรงดูแลให้เรานั้น มหัศจรรย์ยิ่งนัก มนุษย์เรายังไปไม่ถึงไหนกับการที่จะรู้จักพระเจ้า และเกรงว่า โลกนี้อาจถึงที่สิ้นสุดก่อนที่เราจะสำรวจจักรวาลได้หมด…​ ทบทวนพระคำข้อนี้ และมองโลกในวันนี้ เราจะต้องกล่าวคำว่า เราขอสรรเสริญพระเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์ ขอพระเจ้าทรงให้เรามีชีวิตเป็นนิตย์กับพระองค์



สดุดี 114 มวลน้ำหนีไป และ ภูเขากระโดด

พระเจ้าทรงนำออกจากการเป็นทาส
1เมื่ออิสราเอลออกมาจากอียิปต์
ครอบครัวของยาโคบได้ละทิ้งชนต่างชาติไว้เบื้องหลัง
2 ยูดาห์ได้กลายเป็นสถานบริสุทธิ์ของพระองค์
อิสราเอลได้เป็นอาณาจักรของพระองค์

ธรรมชาติต่างสยบยอมต่อพระเจ้า
3 ทะเลเห็นแล้ว ก็หนีไป แม่น้ำจอร์แดนก็หันกลับไป
4 ภูเขาทั้งหลายโลดเต้นราวกับแกะผู้
เนินเขาทั้งกลายกระโดดราวกับลูกแกะ

คำถามจากพระเจ้า
5 เจ้าจะหนีไปทำไม ทะเลเอ๋ย?
เหตุใดเจ้าจึงหันกลับไป แม่น้ำจอร์แดนเอ๋ย?
6 ภูเขาทั้งหลาย เหตุใดเจ้าจึงกระโดดราวกับแกะผู้ ?
เนินเขาทั้งหลาย เหตุใดเจ้าจึงกระโดดเหมือนกับลูกแกะ ?

ท่าทีต่อพระพักตร์พระเจ้า
7 โอแผ่นดินโลก จงตัวสั่นด้วยความกลัวต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ ต่อพระพักตร์พระเจ้าแห่งยาโคบ
8 พระองค์ทรงเปลี่ยนหินให้กลายเป็นสระน้ำ
และทรงเปลี่ยนหินเหล็กไฟให้กลายเป็นน้ำพุ

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 81:5; อพยพ 13:3, 12:41-42

2*อพยพ 29:45-46; 2 โครินธ์ 6:16-17; เอเสเคียล 37:26-28

3*สดุดี 77:6; อพยพ 14:21; โยชูวา 3:13-16

4*อพยพ 19:18; ฮาบากุก 3:6; ผู้วินิจฉัย 5:4-5

5*ฮาบากุก 3:8; เยเรมีย์ 47:6-7

6* สดุดี 114:4, 29:6

7* มีคาห์ 6:1-2; เยเรมีย์ 5:22; สดุดี 104:32

8* สดุดี 107:35, 105:41; เฉลยธรรมบัญญัติ 8:15

114:1-2 นี้ ผู้เขียนสดุดีบทนี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญที่เป็นศูนย์กลางของชีวิตอิสราเอล คือการที่พระเจ้าทรงนำพวกเขาออกมาจากอียิปต์  พระเจ้าเท่านั้นที่จะเข้ามาแทรกแซงความเป็นอยู่และเปลี่ยนแปลงวิถีจากทาสเป็นไทให้ได้  เพราะถ้ามนุษย์ต้องทำเอง เชลยในอียิปต์จะไม่มีโอกาสเป็นไทได้เลยสักคน   โลกของเรามีพระเจ้าทรงครอบครองอยู่ ไม่มีอะไรในชีวิตเราเกิดจากความบังเอิญ  วันทั้งสิ้นที่กำหนดให้ผู้เชื่อนั้น ถูกบันทึกไว้ในหนังสือของพระองค์ ตั้งแต่ยังไม่มีวันนั้นเลย 
เมื่อพวกเขาออกมาจากอียิปต์ ต้องทิ้งทุกอย่างไว้และไปข้างหน้าเท่านั้น และแล้วพวกเขาก็ได้เป็นคนที่ทรงเลือกในแผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้
ส่วนเหตุการณ์สำคัญที่สุดของพวกเราก็คือ การที่พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์ คืนพระชนม์เพื่อไถ่ชีวิตของเราให้กลับมาหาพระองค์ 
114:3 โดยการที่พระเจ้าทรงเข้ามาช่วยเหลืออย่างมหัศจรรย์ ทำให้ทะเลแดงเปิดออก อพยพ 14:21-22 และแม่น้ำจอร์แดนก็แยกออกเช่นกัน โยชูวา 3:14-16  ผู้เขียนพูดประโยคสั้น ๆ แต่เหตุการณ์นั้น ยิ่งใหญ่เกิดความคาดฝันของมนุษย์ 114:4 เหตุการณ์ภูเขาโลดเต้นนั้น เราอาจจะงงว่า หมายความอย่างไรหรือ นั่นคือ ภูเขาในซีนายได้สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นเมื่อพระเจ้าทรงมอบบัญญัติสิบประการให้โมเสส เป็นวันที่พระเจ้าปรากฏพระองค์แก่มนุษย์ 
114:5-6 เป็นคำถามคล้าย ๆ กับจะหยอกเย้า ทั้งๆ ที่ผู้เขียนรู้อยู่แล้วว่า คำตอบคืออะไร  คำถามนี้เพื่อทำให้ธรรมชาติได้ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ ​ฤทธานุภาพของพระเจ้า 
114:7   เมื่ออยู่ต่อพระเจ้า จะเกิดการสั่นกลัว สั่นหวั่นไหวเพราะว่าพระเจ้าทรงฤทธานุภาพยิ่งนัก 114:8 พระเจ้าทรงทำให้หินกลายเป็นที่มาของน้ำจริง ๆ  น้ำไหลออกจากหินตามคำสั่งของโมเสส ในอพยพ 17:6-7  กันดารวิถี 20:11-13
พระเจ้าทรงรื้อฟื้นให้ความกระหายกลายเป็นความสดชื่นอิ่มใจ  พระเจ้าทรงรักษาชีวิตของพวกเขาในถิ่นกันดาร และพระองค์ยังทรงรักษาเราในวันนี้ด้วย 

การที่สดุดีบทนี้เน้นไปที่การอพยพออกจากอียิปต์  คนอิสราเอลในยุคต่อมาจึงใช้สดุดีบทนี้ในการระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญดังกล่าว ใช้ร้องในพิธีเทศกาลปัสกา 

สดุดี 113 เมื่อพระเจ้าทรงโน้มพระองค์ลงมา

มนุษย์พยายามขึ้นไป พระเจ้าทรงโน้มพระองค์ลงมา
ภาพจากhttps://wallpaperaccess.com/james-webb#related

ความยิ่งใหญ่ของพระนาม
1 สรรเสริญพระยาห์เวห์ เหล่าผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์
จงสรรเสริญ จงสรรเสริญพระนามพระยาห์เวห์
2 ขอให้พระนามของพระยาห์เวห์เป็นที่สรรเสริญ
ทั้งบัดนี้และตลอดไปเป็นนิตย์
3 จากที่ดวงอาทิตย์ ขึ้น ไปจนถึงที่ดวงอาทิตย์ตกดิน
สมควรที่พระนามของพระยาห์เวห์ จะรับการสรรเสริญ

พระเจ้าผู้สูงส่ง
4 พระยาห์เวห์ทรงได้รับการยกย่องเหนือชาติต่าง ๆ
พระสิริตระการของพระองค์สูงเหนือฟ้าสวรรค์
5 จะมีใครมาเทียบเท่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราได้
พระองค์ผู้ประทับบนบัลลังก์สูงส่ง
6 ทรงโน้มพระองค์ลงมา
ทอดพระเนตรฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน

พระเจ้าทรงห่วงใยชาวโลกที่ทุกข์ยาก
7 พระองค์ทรงยกคนยากจนจากพื้นดิน
และทรงยกคนที่ยากไร้ขึ้นมาจากกองเถ้า
8 เพื่อว่าพวกเขาจะได้นั่งกับเจ้านาย
นั่งกับเจ้าชายแห่งชนชาติของพระองค์
9 พระองค์ทรงทำให้หญิงเป็นหมันได้อาศัยในครอบครัว
กลายเป็นมารดาที่มีความสุขของลูก ๆ
สรรเสริญพระยาห์เวห์

พระคำเชื่อมโยง

1* เอเฟซัส 5:9-11; สดุดี 145:10, 135:20, 134:1

2* ดาเนียล 2:20; สดุดี 41:13, 1 พงศาวดาร 16:36; วิวรณ์ 5:13

3* มาลาคี 1:11; อิสยาห์ 49:13, 59:19; สดุดี 86:9

4* สดุดี 8:1, 99:2, 97:9; อิสยาห์ 66:1, 40:22

5* อิสยาห์ 40:25; เยเรมีย์ 10:6; เฉลยธรรมบัญญัติ 33:26; อพยพ 15:11

6* สดุดี 138:6, 11:4; อิสยาห์ 57:15, 6:2; โยบ 15:15

7* 1 ซามูเอล 2:7-8; สดุดี 107:41; ลูกา 1:52-53; ดาเนียล 12:2-3

8* โยบ 36:7; ฟีลิปปี 2:8-11; สดุดี 45:16

9* สดุดี 68:6; 1 ซามูเอล 2:5; อิสยาห์ 54:1; ปฐมกาล 30:22-23

ข้อ 1-3 ความยิ่งใหญ่ของพระนาม
ผู้เขียนสรรเสริญพระเจ้าและเน้นว่า มนุษย์จะสรรเสริญพระนามตลอดไป และทุกหนทุกแห่งในโลกที่ดวงอาทิตย์ส่องถึง จะสรรเสริญพระองค์ ข้อ1 การสรรเสริญพระนามนั้น คือการสรรเสริญตัวพระองค์เองโดยตรง สามข้อนี้ตอบคำถามว่า ใครสรรเสริญ? สรรเสริญใคร? นานเท่าไร? ที่ไหนบ้าง?

ข้อ 4-6พระเจ้าผู้สูงส่ง
พระเจ้าที่ไม่มีใครเทียบ พระองค์ผู้ทรงอยู่สูงเหนือเอกภพ ในที่ ๆ มนุษย์ไม่อาจไปถึง กลับทรงโน้มพระองค์ลงมาทอดพระเนตร สรรพสิ่งและมนุษย์ทุกคนที่พระองค์ทรงสร้าง สามข้อนี้ยืนยันว่า พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าสูงสุด เอล เอลโยน เมื่อเราคิดถึงยานที่นำกล้องไปถ่ายภาพดาวต่าง ๆ ในอวกาศ (ลองเปิดเรื่องของ James webb telescope ดู)เรายังรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นภาพอันตระการในอวกาศ เราจึงยังนึกภาพไม่ออกเลยว่า ความยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้น ใหญ่เพียงไหน สมองน้อย ๆ ของพวกเราจะเข้าใจพระองค์ได้อย่างไรถ้าพระองค์ไม่เปิดเผยพระองค์เองแก่เรา

ข้อ 7-9 พระเจ้าทรงห่วงใยชาวโลกที่ทุกข์ยาก
สามข้อสุดท้ายนี้ เราจะเห็นว่า พระเจ้าทรงห่วงใยคนที่ยากไร้ พระเจ้าไม่ได้ทรงเห็นแก่หน้าผู้ใด ในการทรงเลือกของพระองค์ คนยากไร้ก็นั่งข้างเจ้านายได้ ทรงเป็นผู้อวยพระพรหญิงหมันให้มีลูก เพราะพระองค์ทรงอยู่ใกล้พวกเขา และทรงยินคำอธิษฐานของพวกเขา