สดุดี 127 บ้านเรา..พระเจ้าทรงสร้างให้

จะสร้างหรือปลอดภัย มาจากพระเจ้าเท่านั้น

บทเพลงแห่งขึ้นของโซโลมอน

ผู้ที่สร้างบ้านแท้ ผู้ที่ให้สันติสุขแท้
1 หากพระเจ้ามิได้ทรงสร้างบ้าน
คนที่สร้างบ้าน ก็สร้างไปเปล่า ๆ
หากพระเจ้าไม่ได้ทรงเฝ้าเมืองไว้
คนยามเมืองตื่นอยู่นั้น ก็ตื่นไปเปล่า ๆ

2 เป็นการเสียเปล่าที่ท่านตื่นแต่เช้าตรู่
และทำงานหากินจนดึกดื่น
กินอาหารจากแรงงานที่ตรากตรำ
เพราะพระเจ้าทรงอวยพรให้คนทรงรักนั้นหลับสบาย

มรดกจากพระยาห์เวห์
3 ดูเถิด ลูกชายก็เป็นมรดกจากพระยาห์เวห์
ผลแห่งครรภ์นั้นคือรางวัล
4 ลูกหลานที่เกิดขึ้นแก่คนหนุ่มนั้น
เป็นเหมือนลูกธนูในมือของนักรบ
 5 คนที่มีลูกธนูเต็มแล่งนั้นก็เป็นสุขนัก
เขาจะไม่ต้องอับอาย
เมื่อเขาเผชิญหน้ากับศัตรูของเขาที่ประตูเมือง

พระคำเชื่อมโยง
1* สดุดี 121:4
2* ปฐมกาล 3:17, 19;
สดุดี 60:5 ;มาระโก 4:26, 27
3* ปฐมกาล 33:5 ; เฉลยธรรมบัญญัติ 28:4; [สดุดี 132:11]
4* สดุดี 120:4 127:4
5 * โยบ 5:4

สดุดี 127:1-2 ผู้ที่สร้างบ้านแท้ ผู้ที่ให้สันติสุขแท้
คำว่า บ้านนี้ มีความหมายได้หลายอย่าง หมายถึงที่อาศัย ครอบครัว ตระกูลที่สืบต่อชั่วลูกชั่วหลาน ครอบครัวของอิสราเอลโบราณนั้น เรื่องการที่ครอบครัวจะมีลูกหลานสืบต่อเป็นเรื่องสำคัญมาก พวกเขารู้ดีว่า ครอบครัวจะอยู่ได้นานแสนนานก็ด้วยการอวยพระพรจากพระเจ้า
และเมืองนอกจากมีความหมายถึงเมืองจริง ๆ แล้ว ยังหมายถึงความมั่นคงของชุมชนด้วย เมืองที่ปลอดภัยก็จะทำให้ครอบครัวมั่นคง
ใช่แล้ว พระเจ้าทำให้คนที่พระองค์ทรงรัก คนที่รักพระองค์ได้หลับอย่างไม่กระสับกระส่าย ไม่หลับๆ ตื่น ๆ ให้เขาได้หลับลึก พร้อมที่จะตื่นขึ้นมาพบพระองค์ในวันต่อไป ใช้ชีวิตด้วยการวางใจพระเจ้า เชื่อในพระสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะไม่ละทิ้งเขาเลย

สดุดี 127:3-5 มรดกจากพระยาห์เวห์
การมีลูกชายในสมัยโบราณนั้นเหมือนกับการมีนักรบที่จะช่วยปกป้องบ้านเมืองเอาไว้ การพูดถึงลูกชายในที่นี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่จะเลือกชอบหญิงหรือชายมากกว่า แต่เป็นเรื่องของการรักษาวงศ์ตระกูล ลูกที่เกิดมาตอนที่พ่อยังหนุ่มนั้นช่วยได้ดีเพราะรุ่นก่อนจะชราไป ทำให้ไม่สามารถสู้รบได้อย่างแข็งแรงเหมือนคนหนุ่ม และเมื่อเผชิญกับศัตรู ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองหรือการต่อสู้ในสมัยโบราณ เป็นหน้าที่ของผู้ชายทั้งสิ้น (ยกเว้นในสมัยผู้วินิจฉัยที่ผู้หญิงต่อสู้ด้วยบางสถานการณ์)


สดุดี 126 หว่านน้ำตาและเก็บเกี่ยวอย่างยินดี

บทเพลงแห่ขึ้น

1 เมื่อพระยาห์เวห์ทรงรื้อฟื้นสวัสดิภาพของศิโยน 
(เมื่อพระยาห์เวห์ทรงนำคนเป็นเชลยกลับมา)
เราเป็นเหมือนคนที่ฝันไป

2 เวลานั้น ปากของเราเต็มด้วยเสียงหัวเราะ 
และลิ้นของเราเต็มด้วยเสียงตะโกนแห่งความยินดี

3 พระยาห์เวห์ทรงกระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้เรา
 เราจึงยินดีนัก 
และพวกเขาก็กล่าวในชาติต่าง ๆ ว่า “พระยาห์เวห์ทรง
กระทำสิ่งยิ่งใหญ่เพื่อพวกเขา”

4 ขอพระยาห์เวห์ ทรงรื้อฟื้นสวัสดิภาพของพวกเรา 
(หรือ ขอพระยาห์เวห์ทรงส่งเชลยของเรากลับคืนมา)
เหมือนกับทางน้ำในเนเกบ

5คนที่หว่านด้วยน้ำตา จะเกี่ยวเก็บ
ด้วยเสียงตะโกนแห่งความยินดี 

6 แม้คนที่หิ้วถุงเมล็ดพันธ์ุไปพร้อมกับน้ำตา
แน่นอน เขาก็จะกลับมาด้วยเสียงตะโกนแห่งความยินดี
พร้อมกับรวงข้าวที่เก็บเกี่ยวมาเป็นฟ่อน 

ข้อพระคำเชื่อมโยง
1* สดุดี 85:1; อิสยาห์ 29:14
2* สดุดี 51:14, 71:19
3* อิสยาห์ 25:9
4* อิสยาห์ 35:6; 43:19
5* เยเรมีย์ 31:9
6* อิสยาห์ 35:10; 51:11

จากข้อ 1 เรารู้ว่า สดุดีบทนี้ เขียนขึ้นหลังจากการที่อิสราเอลได้กลับมาจากการเป็นเชลยในบาบิโลน ผู้เขียนมีความสุขล้นขนาดไหนเราเห็นได้จากทุกประโยคของเขา พวกเขาเดินทางกลับมาเป็นสามครั้งต่อกัน (อ่านได้จาก หนังสือเอสรา และเนหะมีย์) เป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากสดุดี 137 ที่ผู้เขียนคร่ำครวญถึงการเป็นเชลยในบาบิโลน
สดุดี 126 : 1-3
การที่ได้กลับมาบ้านเกิดเมืองนอนอย่างไม่คาดฝัน เหมือนฝันไป เป็นฝันดีที่ยิ้มได้ ที่มีความสุขล้น
คิดถึงคนจำนวนมากส่งเสียงร้องร่าเริง อย่างมีความสุขสิว่า เป็นสุขขนาดไหน นอกจากที่พวกเขาเองจะรู้ว่านี่เป็นการของพระเจ้าแล้ว คนต่างชาติอื่น ๆ ก็รับรู้ด้วยว่า นี่เป็นราชกิจของพระองค์เพื่อคนอิสราเอล
สดุดี 126 :4-6
ผู้เขียนทูลขอพระเจ้าทรงเปลี่ยนสภาพของอิสราเอลให้เหมือนทางน้ำในเนเกบ ที่แม้จะแห้งแล้งมากในหน้าร้อน แต่เมื่อฝนฤดูใบไม้ผลิมา สภาพพื้นที่นั้นจะเต็มไปด้วยน้ำอย่างรวดเร็ว เขาขอพระเจ้าทรงช่วยเร็ว ๆ แบบน้ัน
คนที่หว่านด้วยน้ำตา หมายถึงคนที่ร้องไห้ เสียใจกับความผิดที่ได้ทำลงไป พอพวกเขาสารภาพบาปกับพระเจ้า ความยินดีก็กลับคืนมาในชีวิต พระเจ้าทรงให้พวกเขากลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้งอย่างไม่คาดฝัน
ผู้เขียนทราบดีว่า ความทุกข์ใจ น้ำตาที่เกิดขึ้นในความทุกข์ยากนั้น จะได้รับผลตอบแทนเมื่อพระเจ้าทรงทำการของพระองค์อย่างยิ่งใหญ่ท่ามกลางพวกเขา

สดุดี 125 อิสราเอลมั่นคงเพราะพระเจ้า

ภาพถ่ายโดย Luis Ruiz : pexels.com

บทเพลงแห่ขึ้น

คนของพระเจ้าและภูเขาศิโยน
1. คนที่วางใจในพระยาห์เวห์เป็นเหมือนภูเขาศิโยน
​ ที่ไม่สั่นสะเทือน แต่มั่นคงเป็นนิตย์

2 เยรูซาเล็ม มีภูเขาล้อมรอบอย่างไร
พระยาห์เวห์ก็ทรงอยู่รอบคนของพระองค์
ทั้งในเวลานี้และตลอดไป

3 คทาของคนชั่วจะไม่ดำรงอยู่
เหนือแผ่นดินของผู้เที่ยงธรรม
เพื่อว่าผู้เที่ยงธรรมจะไม่ยื่นมือ
ออกไปทำการอยุติธรรม

4 ขอทรงทำสิ่งดี โอ พระยาห์เวห์
ต่อคนที่ดี ต่อคนที่หัวใจเที่ยงตรง
รวม​ถึง​บรรดา​ผู้​มี​ความ​ชอบธรรม​ใน​จิตใจ​เถิด

5 แต่สำหรับคนที่หันไปหาทางคดเคี้ยว
พระยาห์เวห์​จะ​ให้​พวก​เขา​จบ​ชีวิต​ลง​
พร้อมกับคนที่ทำความชั่ว

6 สันติสุขจงมีแก่อิสราเอล

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 46:5
2* เศคาริยาห์ 2:5
3* สดุดี 89:22; อิสยาห์ 14:5
4* สดุดี 7:10; 119:68
5* สดุดี 92:7,9; 94:4, 128:5-6

1เคยรู้ตัวไหมว่า หากเราวางใจในพระเจ้า เราจะมั่นคง ไม่มีอะไรมาทำร้ายเราได้ มั่นคงราวกับภูเขา ไม่เหมือนหาดทรายแต่เป็นหินผาที่แข็งแกร่ง นี่เป็นภาพของความรักที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงที่พระเจ้าทรงมีต่อคนอิสราเอล
อิสยาห์เองได้บอกว่า “แม้ภูเขาสั่นสะเทือน และเนินเขาถูกขยับไป แต่ความรักของเราที่มีต่อเจ้าจะไม่สะเทือน พันธสัญญาแห่งสันติของเราก็จะไม่ถูกขยับไป” อิสยาห์ 54:10
2พระเจ้าทรงอยู่รอบผู้ที่วางใจพระองค์ไม่ใช่แค่ไม่กี่วัน แต่ตลอดไปเป็นนิตย์ พระคำตอนนี้เหมือนเป็นพระสัญญาที่มีต่อผู้ที่วางใจ
3 สังเกตไหมว่า เมื่อใดที่อิสราเอลทำผิด พวกเขาจะเจอกษัตริย์ที่โหดร้าย ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เป็นอย่างนั้นในอิสราเอล
4 ขอพระเจ้าทรงดีต่อคนที่มีใจซื่อตรงต่อพระเจ้าและต่อพี่น้อง
ตามหลักการของพระเจ้าที่มีต่อคนอิสราเอล นั่นคือ พระพรมีแก่คนเชื่อฟัง และคำสาปแช่งมีแก่คนที่ไม่เชื่อฟัง ซึ่งบันทึกไว้ในอพยพ และเฉลยธรรมบัญญัติมากมาย
5 คนที่ไปทางคดเคี้ยวคือคนที่มีอุบาย และทำบาปต่อพระเจ้า
การพิพากษาของพระเจ้ามีให้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเร็วหรือช้าตามเวลาของพระองค์
6 สันติสุขจงมีแก่อิสราเอล เป็นคำอธิษฐานที่ผู้เชื่อควรมีต่ออิสราเอล และคริสตจักรของพระเจ้าเสมอ

สดุดี 124 พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา

ภาพถ่ายโดย Kammeran Gonzalez-Keola pixels.com

บทเพลงแห่ขึ้นของกษัตริย์ดาวิด
พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา ทรงช่วยเรา
1 “หากพระยาห์เวห์มิได้ทรงอยู่ฝ่ายเรา..”
ให้อิสราเอลกล่าวออกมา
2 “หากพระยาห์เวห์มิได้ทรงอยู่ฝ่ายเรา..”
เมื่อมนุษย์ลุกขึ้นโจมตีเรา

แต่ถ้าพระเจ้าไม่ช่วย จะเกิดอะไรขึ้น?
3 พวกเขาคงได้กลืนเราทั้งเป็น
เมื่อความโกรธเกรี้ยวของพวกเขาเผาผลาญต่อต้านเรา
4สายน้ำคงจะลากโถมทับเรา
และกระแสน้ำคงจะโถมท่วมพาจิตวิญญาณเราไป
5 มวลน้ำเชี่ยวกรากคงจะกวาดจิตวิญญาณเราไป

เราหนีออกมาได้เพราะพระยาห์เวห์ของเรา
6 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
ผู้ไม่ยอมให้เราถูกพวกเขากัดฉีกเป็นชิ้น ๆ
7 เราหนีออกมาได้
ราวกับนกที่หนีออกมาจากกับดักของนายพราน
กับดักนั้นพัง และเราก็หนีออกมาได้
8 ความช่วยเหลือของเรา
อยู่ในพระนามของพระยาห์เวห์
ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน

ข้อพระคำเชื่อมโยง

1* โรม 8:31; สดุดี 56:9

2* สดุดี 94:17; 129:1

3* สดุดี 35:25; 56:1; สุภาษิต 1:12; มัทธิว 2:16

5* โยบ 22:11; สดุดี 32:6; 69:2

6*สดุดี 27:2; สุภาษิต 30:14

7*สดุดี 91:3

8* สดุดี 115:15; 121:

สดุดี 124:1-2 พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา ทรงช่วยเรา
ผู้เชื่อในพระเจ้า มีสิทธิพิเศษเหนือใคร ๆ เพราะว่า พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเขา ไม่ว่ามนุษย์จะเข้ามาโจมตีในแบบใดก็ตาม จะเป็นการใส่ร้าย สงคราม การต่อสู้แบบต่าง ๆ หากพระเจ้าได้อยู่ฝ่ายเขาแล้ว พวกเขาก็มั่นใจ. พระคำตอนนี้บอกเราว่า อิสราเอลมั่นใจว่า ในอดีตที่ผ่านมา พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเขาสดุดี
124:3-5 แต่ถ้าพระเจ้าไม่ช่วย จะเกิดอะไรขึ้น?
กษัตริย์ดาวิดรู้ดีว่า ถ้าพระเจ้าไม่ทรงอยู่ฝ่ายท่าน ศัตรูคงทำลายท่านไปแล้ว อย่าลืมว่า ศัตรูนั้นน่ากลัว พวกเขาเต็มด้วยวาจาที่ทำลาย กำลังพร้อมความโกรธที่จะเผาผลาญ ศัตรูมักจะมากันเป็นฝูงเหมือนน้ำเชี่ยวที่โถมเข้าใส่สดุดี
124:6-8 เราหนีออกมาได้เพราะพระยาห์เวห์ของเรา
แต่เราสามารถรอดจากเงื้อมมือของศัตรูได้โดยพระเจ้า พระองค์ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน และพระคำของนี้ จะต้องเป็นข้อที่เราจำได้ และตรึกตรองถึงทุกวัน