สดุดี 131 บทเพลงแห่งความถ่อมตนและไว้วางใจ

บทเพลงแห่ขึ้นของดาวิด 

ถ่อมใจลงต่อพระพักตร์
1 โอ พระยาห์เวห์ ใจของข้ามิได้หยิ่งยโส
และดวงตาของข้าไม่หยิ่งผยอง
ตัวข้าไม่ได้เข้าไปเกี่ยวพัน
กับเรื่องที่ใหญ่โตหรืออัศจรรย์เกินตัวข้า 

นิ่งสงบต่อพระพักตร์
2 แต่ข้าได้ผ่อนคลายและมีใจสงบ ระงับใจของข้า
เหมือนเด็กที่หย่านมแล้วนิ่งสงบ ซบที่อกแม่ของตน
เหมือนเด็กที่หย่านมแล้ว ใจของข้าสงบอยู่ภายใน

หวังใจในพระเจ้า
3 โอ อิสราเอล จงหวังใจในพระยาห์เวห์
ตั้งแต่บัดนี้ สืบไปเป็นนิตย์ 

ข้อพระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 138:6; อิสยาห์ 57:15 สดุดี 101:5
เยเรมีย์ 45:5; โรม 12:16; โยบ 42:3

2* มัทธิว 18:3; 1 โครินธ์ 14:20

3* สดุดี 130:7

สดุดี 131:1 ถ่อมใจลงต่อพระพักตร์
เราเห็นชัดเจนว่า ดาวิดรู้สึกอย่างไรต่อพระเจ้า ท่านปฏิเสธความยิ่งใหญ่ของตัวท่านเอง แม้ประชาชนจะมองว่าท่านเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม เมื่อท่านเข้ามาหาพระเจ้าท่านกล่าวถึงใจของท่านเองว่า เป็นอย่างไรเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ดวงตาที่หยิ่งผยองนั้น เราเห็นได้ทุกที่ ๆ เราไป มันเป็นดวงตาที่มองเหยียดหยามผู้อื่น แต่ดาวิดกล่าวว่าจะไม่มีเช่นนั้นในตัวท่าน
เรื่องที่ใหญ่โตซึ่งดาวิดพูดถึงตอนนี้ คือ ความทะเยอทะยานที่จะเป็นใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ เรื่องที่ใหญ่โตเกินตัวท่าน เรื่องที่ท่านไม่สมควรจะรู้ได้ … เช่น สิ่งลี้ลับทั้งปวงที่เป็นของพระเจ้า สิ่งซึ่งพระเจ้ายังไม่ได้ทรงสำแดงให้ (เฉลยธรรมบัญญัติ 29:29)

สดุดี 131:2 นิ่งสงบต่อพระพักตร์
ดาวิดนิ่งสงบ และรู้สึกดีต่อความสงบในพระเจ้าเช่นนั้น ท่านวางใจพระเจ้าว่าจะทรงเลี้ยงดู ลูกที่อยู่ซบอกแม่ ลูกที่อยู่ใกล้ชิด อย่างไร ๆ ท่านก็จะได้รับการปกป้อง ช่วยเหลือ เลี้ยงดูจากพระเจ้าเหมือนเด็กน้อยคนนี้
ท่านย้ำให้รู้ว่า ท่านสงบจริง ๆ แม้มีอะไรวุ่นวายรอบข้าง

สดุดี 131:3หวังใจในพระเจ้า
ในฐานะกษัตริย์ผู้ปกครองประเทศ ท่านชวนให้คนอิสราเอลได้วางใจในพระเจ้าเท่านั้น ไม่มีที่อื่นที่จะวางใจได้ และไม่ได้วางใจแค่สองสามวัน สองสามปี แต่ชั่วชีวิตของเรา ตลอดไปเป็นนิตย์

สดุดี 130 รอคำตอบด้วยใจจดจ่อ

บทเพลงแห่ขึ้น
ผู้เขียนรู้สึกผิด
1 โอ พระยาห์เวห์ จากห้วงน้ำลึก
ข้าร้องเรียกหาพระองค์
2 โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงโปรดฟังเสียงของข้า
ขอทรงเอียงพระกรรณฟังคำร้องขอพระเมตตา

ร้องทูลขอการอภัยบาป
3 หากว่าพระยาห์เวห์ทรงบันทึกความบาปไว้
ใครเล่าจะยืนอยู่ต่อพระพักตร์ได้?
4 แต่ว่าในพระองค์นั้น มีการให้อภัย
เพื่อว่ามนุษย์จะได้ยำเกรงพระองค์

การเฝ้ารอคำตอบด้วยความอดทน
5 ข้ารอคอยพระยาห์เวห์
วิญญาณของข้าคอยพระองค์อยู่
ข้าหวังใจในพระดำรัสตอบของพระองค์
6 วิญญาณของข้ารอคอยพระองค์
ตั้งใจยิ่งกว่าคนยามที่คอยเวลาเช้าตรู่
เป็นอย่างนั้นจริงนะ
ยิ่งกว่าคนยามที่คอยเวลาเช้าตรู่

มั่นใจในพระเจ้า
7 โอ อิสราเอล จงหวังใจในพระยาห์เวห์
เพราะพระยาห์เวห์ทรงเต็มด้วยพระกรุณา
และการไถ่อย่างล้นเหลือ
8 และพระองค์จะทรงไถ่อิสราเอล
ให้พ้นจากบาปทั้งสิ้นของพวกเขา

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 69:2, 14; บทเพลงคร่ำครวญ 3:55; โยนาห์ 2:2

2* สดุดี 86:6; 2 พงศาวดาร 6:40; สดุดี 140:6

3* สดุดี 90:8 ; โยบ 10:14
สดุดี 76:7; อาโมส 2:15; เนหะมีย์ 1:6; มาลาคี 3:2; เอเฟซัส 6:13; วิวรณ์ 6:17; สดุดี 143:2

4* อิสยาห์ 55:7; ดาเนียล 9:9; สดุดี86:5, 15 ; 1 พงศ์กษัตริย์ 8:39, 40; เยเรมีย์ 33:8, 9; โรม 2:4

5*สดุดี 40:1; อิสยาห์ 8:17; 26:8 สดุดี 33:20, 119:74, 81

6* สดุดี123:2, สดุดี 63:6; 119:147,สดุดี 5:3

7* สดุดี 131:3, ข้อ 4

8* สดุดี 111:9; ลูกา 1:68; ทิตัส 2:14; มัทธิว 1:21; สดุดี 25:22

สดุดี 130: 1-2 ผู้เขียนรู้สึกผิด
เมื่อใช้คำว่า ห้วงน้ำลึก มักมีความหมายถึง สถานการณ์อันตรายร้ายแรงถึงชีวิต เป็นเวลาที่ไม่อาจช่วยตัวเองได้ ต้องการความช่วยเหลืออย่างด่วน ผู้เขียนพูดซ้ำสองครั้งให้พระเจ้าทรงฟัง และทรงเอียงพระกรรณฟังด้วย และดูเหมือนว่า ความทุกข์นั้น ส่วนหนึ่งคือบาปในชีวิตของผู้เขียนเอง
สดุดี 130: 3-4ร้องทูลขอการอภัยบาป
เป็นความจริงที่ว่า หากพระเจ้าเก็บข้อมูลความบาปของเราแต่ละคน เราไม่มีวันรอดเลย
ท่านมั่นใจในพระกรุณาคุณของพระเจ้า มั่นใจว่าพระเจ้าจะอภัยบาปให้
การยืนอยู่ต่อพระพักตร์นั้น ทำให้นึกถึงการที่เราต้องยืนต่อพระบัลลังก์แห่งการพิพากษาของพระเจ้า
เมื่อพระเจ้าอภัยบาปให้เรา เราก็สำนึกในพระคุณ และยำเกรงพระองค์ ไม่ใช่ร่าเริงแล้วทำบาปต่อไป
สดุดี 130: 5-6การเฝ้ารอคำตอบด้วยความอดทน
เมื่อผู้เขียนขอพระเจ้าทรงอภัยแล้ว ท่านก็เฝ้ารอคำตอบอย่างใจจดจ่อ
ท่านปรารถนาจะได้ยินคำตอบจากพระเจ้าโดยตรง
สดุดี 130: 7-8 มั่นใจในพระเจ้า
ท่านชวนให้คนอิสราเอลหวังใจในพระเจ้าเพราะในพระองค์มีทั้งพระกรุณา การช่วยกู้ การไถ่ให้พ้นบาป
มีใครที่ไหนจะทำอย่างนี้ให้ได้เล่า? คนของพระเจ้าจึงต้องหวังใจในพระเจ้าทุกวันทุกเวลา …

สดุดี 129 ขอทรงตัดเชือกคนชั่วร้ายออกไป

บทเพลงแห่ขึ้น

คนของพระเจ้าถูกข่มเหง
1 “ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นมา พวกเขาก็เอาแต่ข่มเหงข้าไม่หยุด ”
ให้อิสราเอลกล่าวออกมา
2 “หลายครั้งที่พวกเขาข่มเหงข้ามาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น
แต่พวกเขาก็ไม่ชนะข้า”
3”ผู้ไถ ก็ไถบนหลังของข้า เข้าทำให้เกิดเป็นร่องยาว”

พระเจ้าทรงปกป้องคนของพระองค์
4พระเจ้าทรงเที่ยงธรรม
พระองค์ทรงตัดเชือกของคนชั่วร้ายออกไป

คำร้องทูลเพื่อคนของพระเจ้า
5 ขอให้ทุกคนที่เกลียดศิโยนนั้น
ต้องอับอายและถอยกลับออกไป
6 ขอให้เขาเป็นเหมือนต้นหญ้าที่งอกขึ้นบนหลังคา
ซึ่งจะเหี่ยวแห้งไปก่อนที่แตกยอด
7 ซึ่งทำให้คนเกี่ยวเก็บไม่ได้เต็มกำมือ
หรือคนที่มัดเป็นฟ่อนได้ไม่เต็มอ้อมแขน
8และคนที่ผ่านไปมาก็จะไม่พูดว่า
“ขอให้พระพรของพระยาห์เวห์
อยู่เหนือท่านทั้งหลาย
เราอวยพรท่านในพระนามของพระยาห์เวห์”

พระคำเชื่อมโยง

1 อพยพ 1:14; ผู้วินิจฉัย 3:8, 14; 4:3; 6:2; 10:8; อิสยาห์ 47:12; เยเรมีย์ 2:2; 22:21; โฮเชยา 2:15 ;สดุดี 124:1

2* 2 โครินธ์ 4:8-10

3 มีคาห์ 3:12 อิสยาห์ 50:6; 51:23

4 สดุดี . 2:3

5 สดุดี . 35:4

6 2 พงศ์กษัตริย์ 19:26; อิสยาห์ 37:27; สดุดี 37:2; Job 8:12

8 นางรูธ 2:4 สดุดี 118:26

สดุดี 129:1-3 คนของพระเจ้าถูกข่มเหง
ชนชาติอิสราเอลนั้น พบกับสงครามกับเพื่อนบ้าน ชนชาติที่อยู่ล้อมรอบมาตั้งแต่โบราณจนทุกวันนี้ ผู้เขียนได้ทูลขอพระเจ้าจะทรงทำลายศัตรูของศิโยน ท่านได้อธิบายว่า ความเป็นศัตรูกันนั้นต่อเนื่องเนิ่นนานขนาดไหน เข้าใจว่าคนอิสราเอลท่องสดุดีบทนี้ตอนที่เดินทางขึ้นไปยังเยรูซาเล็มในเทศกาลต่าง ๆ
ข้อสามได้บอกถึงการที่ศัตรู ทำร้ายคนอิสราเอลราวกับว่า พวกเขาซึ่งเป็นคนกลับกลายเป็นเหมือนท้องนา


สดุดี 129:4 พระเจ้าทรงปกป้องคนของพระองค์
เมื่อพระเจ้าตัดเชือกออก เหมือนกับตัดเชือกที่ผูกวัวด้วยกันออก พวกเขาก็ไม่อาจไถ ไม่อาจทำร้ายอิสราเอลได้อีกต่อไป


สดุดี 129:5-8 คำร้องทูลเพื่อคนของพระเจ้า
ผู้เขียนยังคงอธิษฐานต่อ ท่านรู้ว่า คนที่เกลียดศิโยน เท่ากับเกลียดองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วย ขอจากพระเจ้าที่พวกเขาจะไม่มีวันเจริญและไม่มีวันได้คำอวยพร

สดุดี 128 ความสุขของคนที่ยำเกรงพระเจ้า

บทเพลงแห่ขึ้น  

ความยำเกรงพระเจ้านำมาซึ่งพระพร
1 ความสุขเป็นของทุกคนที่ยำเกรงพระเจ้า
ทุกคนที่เดินในทางของพระองค์ 

พระพรของพระเจ้าเป็นอย่างนี้
2 ท่านจะได้กินผลแห่งน้ำมือของท่าน
ท่านจะได้รับพระพร และชีวิตที่เดินไปด้วยดี
3 ภรรยาของท่านจะเป็นเหมือนเถาองุ่น
ที่มีลูกดกในบ้านของท่าน
ลูก ๆ ของท่านจะเป็นเหมือนกิ่งมะกอก
ที่เรียงรายรอบโต๊ะอาหารของท่าน 
4 ดูเถิด  บุรุษที่ยำเกรงพระเจ้า
จะได้รับพระพรอย่างนี้  

ทูลขอพระพรเพื่อประชากรของพระเจ้า
5 ขอพระยาห์เวห์ทรงอวยพระพรแก่ท่านจากศิโยน 
และขอให้ท่านได้เห็นความเจริญแห่งเยรูซาเล็ม
ตลอดชีวิตของท่าน 
6 ขอให้ท่านได้เห็น ลูก ๆ ของลูก ๆท่าน 
ขอสันติภาพมีอยู่ในอิสราเอล 

พระคำเชื่อมโยง

1 *สดุดี 112:1 ,119:1; สุภาษิต 8:32

2 อิสยาห์ 3:10; สดุดี 109:11

3 เอเสเคียล. 19:10; ปฐมกาล 49:22; สดุดี 52:8

5สดุดี 134:3, 20:2; 135:21, 122:9

6 สุภาษิต 17:6; โยบ 42:16 สดุดี 125:5

สดุดี 128:1 ความยำเกรงพระเจ้านำมาซึ่งพระพร
พระพรของพระเจ้าที่ผู้เขียนบรรยาย แตกต่างจากสิ่งที่โลกต้องการ บทนี้เพิ่มเติมจากบทที่ผ่านมา
ในบริบทของโลกอิสราเอลโบราณ พระพรหมายถึงทุ่งที่มีพืชอุดม ภรรยาที่ซื่อสัตย์ และลูก ๆ ที่ล้อมรอบโต๊ะอาหาร พระพร สิ่งดีต่าง ๆที่พระเจ้าประทานให้นั้น เป็นของชุมชนของพระเจ้าด้วย ไม่แค่พระพรเฉพาะตัวคนเดียวเท่านั้น และผู้ที่จะนำพระพรมาสู่ครอบครัว ชุมชน คือผู้นำที่ยำเกรงพระเจ้า ไม่ใช่คนที่ขาดความรับผิดชอบกับคนรอบข้าง

สดุดี 128:2-4 พระพรของพระเจ้าเป็นอย่างนี้
การที่ได้กินผลแห่งน้ำมือนั้นคือ ไร่นา ฝูงสัตว์ของเขาเกิดผลเป็นอย่างดี สมัยก่อนโน้น ต้องมีลูกไว้เยอะ ๆ เป็นดี ภรรยาเป็นเหมือนเถาองุ่น มีลูกได้หลายคน ไม่เป็นหมัน ส่วนลูก ๆ เหมือนหน่อมะกอก รายล้อมโต๊ะอาหารทุกมื้อ นี่เป็นภาพของบุรุษที่พระเจ้าทรงอวยพระพร

สดุดี 128:5-6 ทูลขอพระพรเพื่อประชากรของพระเจ้า
จากนั้น ผู้เขียนได้อธิษฐานขอให้คนที่ยำเกรงพระเจ้าได้เห็นลูก หลาน เหลน … แต่เราสังเกตไหมว่า เขาไม่ได้เป็นคนที่นั่งเฉย แต่เป็นคนที่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง รักและดูแลลูก ภรรยาเป็นอย่างดี นี่เป็นภาพอันงดงามของครอบครัวที่พระเจ้าทรงอวยพระพร