สดุดี 135 พระนามของพระองค์ดำรงนิรันดร์

ภาพโดยคุณ ตูตู ฮาร์เลน บาร์เซลลอส

ชวนกันมาสรรเสริญพระเจ้า
1 จงสรรเสริญพระนามของพระยาห์เวห์
เหล่าผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ จงสรรเสริญพระนามเถิด
2 ท่านผู้ที่ยืนอยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์
ในลานพระนิเวศของพระเจ้าของเรา

พระลักษณะของพระเจ้าผู้ทรงเลือกยาโคบ
3 จงสรรเสริญพระยาห์เวห์ เพราะพระยาห์เวห์ทรงดีเลิศ
จงร้องเพลงสดุดีพระนามของพระองค์
เพราะเป็นที่น่าชื่นใจยิ่ง
4 เพราะว่า พระยาห์เวห์ทรงเลือกยาโคบ
ไว้สำหรับพระองค์เอง
ทรงเลือกอิสราเอลให้เป็นสมบัติล้ำค่าของพระองค์

สรรเสริญพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เหนือสรรพสิ่ง
5 เพราะข้ารู้ว่า พระยาห์เวห์ทรงยิ่งใหญ่นัก
และองค์เจ้านายของพวกเราทรงยิ่งใหญ่กว่าเหล่าพระทั้งหลาย

6 พระยาห์เวห์ทรงพอพระทัยสิ่งใด
พระองค์ก็ทรงกระทำสิ่งนั้น
ทั้งในฟ้าสวรรค์ บนแผ่นดิน ทั้งในทะเลและที่น้ำลึกทั้งสิ้น
7 พระองค์ทรงทำให้เมฆลอยมาจากที่สุดปลายโลก
ทรงทำให้เกิดฟ้าแลบ กับฝน
ทรงนำลมให้พัดออกมาจากคลังลมของพระองค์

สรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงไถ่คนของพระองค์
8 พระองค์คือผู้ประหารบุตรหัวปีของอียิปต์
บุตรหัวปีของทั้งคนและสัตว์
9 โอ อียิปต์ พระองค์ทรงส่งหมายสำคัญ
และการอัศจรรย์ต่าง ๆ มาเพื่อต่อต้านฟาโรห์และเหล่าราชบริพาร 10 พระองค์ทรงประหารคนชาติต่าง ๆ เป็นอันมาก
และทรงประหารเหล่ากษัตริย์ที่มีใจกล้า
11 สิโหน กษัตริย์แห่งอาโมไรต์ โอก กษัตริย์แห่งบาชาน
และอาณาจักรทั้งสิ้นของคานาอัน
12 จากนั้นพระองค์ประทานแผ่นดินของพวกเขาให้เป็นมรดก
เป็นมรดกแก่คนของพระองค์คืออิสราเอล

พระนามอันเป็นที่จดจำ
13 โอ พระยาห์เวห์ พระนามของพระองค์ดำรงอยู่นิรันดร์
พระนามของพระองค์เป็นที่จดจำอยู่ตลอดทุกชั่วอายุคน
14 เพราะพระยาห์เวห์ทรงพิสูจน์ว่า คนของพระองค์ถูกต้อง
และทรงกรุณาต่อเหล่าผู้รับใช้ของพระองค์

ความไร้ค่าของรูปเคารพ
15 รูปเคารพของชาติต่าง ๆ เป็นเงินและทอง
เป็นฝีมือของมนุษย์
16 มันมีปาก แต่พูดไม่ได้ มีตา แต่มองไม่เห็น
17มีหูแต่ไม่ได้ยิน และไม่มีลมหายใจในปากของรูปเหล่านั้น
18คนที่สร้างรูปเหล่านั้นจะเป็นเหมือนพวกมัน
ใครที่เชื่อวางใจรูปเหล่านั้นก็เช่นกัน

ชวนทุกคนมาสรรเสริญพระเจ้า
19 วงศ์วานอิสราเอลเอ๋ย จงถวายพระพรแด่พระยาเวห์
วงศ์วานอาโรนเอ๋ย จงถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์
20 วงศ์วานเลวีเอ๋ย จงถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์
ท่านผู้ยำเกรงพระเจ้าเอ๋ย จงถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์
21 ถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์จากศิโยน
พระองค์ผู้ทรงดำรงในเยรูซาเล็ม
สรรเสริญพระยาห์เวห์กันเถิด

พระคำเชื่อมโยง
1* สดุดี 104:35 ; 113:1
2* สดุดี 134:1; 92:13
3* สดุดี 100:5 ;147:1; 52:9 135:3
4* เฉลยธรรมบัญญัติ 7:6, 7; 10:15; สดุดี 105:6 ; อพยพ 19:5
5* สดุดี 95:3
6* สดุดี 115:3
7* เยเรมีย์ 10:13; 51:16
โยบ 28:25, 26; 38:25; เศคาริยาห์ 10:1;
8* สดุดี 78:51
9* เฉลยธรรมบัญญัติ 6:22
10* ข้อ 10-12, สดุดี 136:17-22
11* เฉลยธรรมบัญญัติ 29:7; กันดารวิถี 21:21-26; 21:33-35 โยชูวา 12:7-24
12* เฉลยธรรมบัญญัติ 29:8; สดุดี 78:55
13* อพยพ 3:15
สดุดี 102:12 ,135:13 Or
14* เฉลยธรรมบัญญัติ 32:36 สดุดี 90:13
15* ข้อ 15-18, สดุดี 115:4-8
19 สดุดี 115:9
21 สดุดี 128:5; 132:13, 14
ข้อ 1

สดุดี 135:1-2 ชวนกันมาสรรเสริญพระเจ้า. ผู้เขียนชักชวนผู้รับใช้ของพระเจ้ามาสรรเสริญพระเจ้าเหมือนบทที่แล้ว การสรรเสริญคือการยกย่องพระเจ้าในฐานะที่พระองค์ทรงดำรงอยู่
เราจะไม่มัวจดจำความทุกข์ใจ เรื่องราวของตนเองแต่มุ่งไปที่ความบริสุทธิ์ของพระเจ้า ที่กล่าวว่าสรรเสริญพระนามคือ การสรรเสริญพระองค์โดยตรง ข้อสองคงหมายถึงประชาชนที่ไม่ได้เข้าไปในสถานบริสุทธิ์ ผู้ที่เข้ามานมัสการตามลานพระนิเวศ
สดุดี 135:3-4 พระลักษณะของพระเจ้า
การร้องเพลงสดุดีพระนามพระเจ้าแตกต่างจากการร้องเพลงทั่ว ๆ ไป ที่อาจร้องเพื่อความสุข ร้องเป็นอาชีพ ร้องเพื่อดัง แต่การสดุดีพระนามของพระเจ้านั้นต่าง ออกไป คนที่ไม่เชื่อจะรู้สึกประหลาดเมื่อได้ยินเพลงนมัสการพระเจ้า แต่สำหรับผู้เชื่อ การนมัสการเป็นเหมือนการเปิดประตูให้เราเข้าไปต่อพระพักตร์เลยทีเดียว .. ข้อสี่บอกเราว่า พระเจ้าทรงเลือกอิสราเอลด้วยพระองค์เอง ให้เป็นผู้ที่ล้ำค่า แม้ว่าในวันนี้ คนอิสราเอลก็ยังเป็นศัตรูกับพระองค์ แต่ก็มีคนเข้ามาภักดีต่อพระองค์มากขึ้นเรื่อย ๆ

สดุดี 135:5-7​ สรรเสริญพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เหนือสรรพสิ่ง
ผู้เขียนบอกสิ่งที่ท่านรู้ และแน่ใจ คือ พระเจ้าองค์นิรันดร์ ทรงยิ่งใหญ่ แล้วท่านยังย้ำความเป็นองค์เจ้านายเหนือชีวิตของเราด้วย
พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่าพระปลอมของเหล่าคนต่างชาติที่อยู่รอบ ๆ คนอิสราเอล
ผู้เขียน ยืนยันต่อ ว่าในฟ้า แผ่นดิน น้ำลึก พระเจ้าก็ยังทรงยิ่งใหญ่กว่าเหล่าพระของคนเหล่านั้น พระองค์ทรงเป็นผู้ควบคุมทั้งสามมิตินี้

สดุดี 135:8-12 สรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงไถ่คนของพระองค์
พระเจ้าทรงเป็นผู้กำจัดศัตรูของอิสราเอลให้ยามที่เขาเป็นทาสในอียิปต์ จากนั้น ในแผ่นดินคานาอัน พระองค์ก็ยังทรงกำจัดศัตรูให้อีก แล้วพระองค์จึงประทานแผ่นดินที่ทรงสัญญาให้ด้วยพระองค์เอง

สดุดี 135:13-14 พระนามอันเป็นที่จดจำ
พระนามดำรงนิรันดร์ เท่ากับองค์พระเจ้าเองทรงดำรงนิรันดร์ มนุษย์จะเกิดตายไปกี่รุ่น พระเจ้าก็ยังทรงพระชนม์อยู่เหมือนเดิม

สดุดี 135:15-18 ความไร้ค่าของรูปเคารพ
ผู้เขียนแจ้งให้ผู้อ่านทราบว่า รูปเคารพมีลักษณะอย่างไร และคนที่เชื่อรูปปั้นเหล่านั้น ก็เหมือนตายอย่างพวกมัน

สดุดี 135:19-21 ชวนทุกคนมาสรรเสริญพระเจ้า
จากนั้น ท่านชวนผู้รับใช้ในตำแหน่งต่าง ๆ มาสรรเสริญพระเจ้า และเหล่าประชาชนผู้เชื่อในพระเจ้ามานมัสการพระเจ้าร่วมกัน

สดุดี 134 มาสรรเสริญพระยาห์เวห์กันเถอะ

บทเพลงแห่ขึ้น 

1 มา เหล่าผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์เอ๋ย
ผู้ที่รับใช้พระองค์อยู่ในพระนิเวศยามค่ำคืน 
เรามาสรรเสริญพระยาห์เวห์กันเถิด

2 จงยกมือของท่านตรงต่อสถานบริสุทธิ์
และสรรเสริญพระยาห์เวห์ 

3 ขอให้พระยาห์เวห์
พระองค์ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน
เทพระพรเหนือท่านจากศิโยน 

พระคำเชื่อมโยง

1*สดุดี 120, เฉลยธรรมบัญญัติ10:8; 18:7; 1 พงศาวดาร 23:30; 2 พงศาวดาร 29:11; 35:5 1 พงศาวดาร 9:33; เลวีนิติ 8:35

2* สดุดี 28:2 ; สดุดี 63:2

3* กันดารวิถี 6:24 สดุดี 128:5; สดุดี 115:15

บทเพลงแห่ขึ้นตั้งแต่บทที่ 120 มาจบที่บทที่ 134 ผู้เขียนได้ชวนให้ผู้รับใช้ของพระเจ้าในสถานนมัสการคือเหล่าเลวี และปุโรหิต มานมัสการพระเจ้าในยามค่ำ เขาชวนให้ทุกคนหันไปหาพระเจ้า คิดถึงพระองค์ ยกย่องพระองค์ แม้ว่าในเวลานั้น ผู้คนจะออกไปจากสถานนมัสการกันหมดแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมีชีวิตที่จะยกย่องพระเจ้าต่อไป นี่เป็นการใช้ชีวิตที่นมัสการพระเจ้าเสมอทุกเวลา
การยกมือขึ้นตรงต่อพระเจ้านั้น เป็นเครื่องหมายของการยอมจำนนต่อพระเจ้า และจิตใจของคนที่รับการสอนได้
แล้วผู้เขียนก็ได้ทูลขอพระเจ้าทรงอวยพระพรพวกเขาอย่างล้นเหลือ

สดุดี 133 เมื่อได้อยู่ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว

ภูเขาเฮอร์โมนมองจากภูเขาเบนทัล

บทเพลงแห่ขึ้นของดาวิด

1 ดูเถิด ทั้งดีและน่าชื่นใจขนาดไหน
ที่พี่น้องอยู่ร่วมกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน 

2 แบบนี้ เหมือนกับน้ำมันอันมีค่า
ซึ่งชโลมบนศีรษะของอาโรน แล้วไหลลงอาบหนวดเครา
บนหนวดเคราของอาโรน 
และไหลลงมายังคอเสื้อของเสื้อคลุมของท่าน 

3 เป็นเหมือนน้ำค้างบนภูเขาเฮอร์โมน
ซึ่งตกลงสู่เทือกเขาศิโยน
เพราะที่นั่น พระยาห์เวห์ทรงบัญชาพระพรลงมา
นั่นก็คือชีวิตที่ยืนยาวนิรันดร์ 

พระคำเชื่อมโยง


1* ปฐมกาล 13:8; ฮีบรู 13:1

2* อพยพ 30:25, 30 อพยพ 29:7; เลวีนิติ 8:12
อพยพ 28:33; 39:24; อพยพ 28:32; 39:23; โยบ 30:18

3* สุภาษิต 19:12; มีคาห์ 5:7 เฉลยธรรมบัญญัติ 3:9; 4:48 ; สดุดี 48:1; เลวีนิติ 25:21; เฉลยธรรมบัญญัติ 28:8; สดุดี 42:8

ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความรักในหมู่พี่น้องแม้มีความแตกต่าง เปรียบได้กับน้ำมันเจิมที่ชโลมมาจากผู้นำ ไหลลงมาสู่พี่น้องในพระกายเดียวกันทั่วถ้วนหน้า สิ่งนี้ เป็นความแข็งแกร่งที่ศัตรูของพระเจ้าพยายามจะทำลาย หากทุกคนมีความเข้าใจว่า น้ำหนึ่งใจเดียวกันในองค์พระผู้เป็นเจ้านั้น สำคัญขนาดไหน พวกเขาก็สามารถก้าวข้ามความไม่ลงรอยกัน และสามารถยกโทษ ปรับตัวเข้าหากันได้ และจะทำให้ชุมชนของพระเจ้าเต็มด้วยพระพร เป็นพระพรแห่งชีวิตที่ยืนยาว และจะได้อยู่ด้วยกันต่อพระพักตร์พระเจ้านิรันดร์

สดุดี 132 พระยาห์เวห์ทรงเลือกศิโยนเป็นที่ประทับ

บทเพลงแห่ขึ้น

หิวหาพระสิริของพระเจ้า
1 โอ พระยาห์เวห์ เพื่อเห็นแก่ดาวิด
ขอทรงระลึกว่า
ท่านได้เผชิญกับความทุกข์ยากขนาดไหน
2 ท่านได้ปฏิญาณตนต่อพระยาห์เวห์
องค์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์แห่งยาโคบอย่างไร
3 “ข้าจะไม่เข้าไปยังที่พัก หรือเข้านอน
4 ข้าจะไม่ยอมให้ดวงตาของข้าปิด
หรือปล่อยให้หนังตาหย่อนลง
5 จนกว่าข้าจะหาสถานที่ให้กับองค์พระยาเวห์
คือที่ประทับของผู้ทรงฤทธิ์แห่งยาโคบสำเร็จ

ตามหาพระสิริของพระเจ้า
6 ดูเถิด เราได้ยินเรื่องนี้ในเอฟราธาห์
ได้พบสิ่งนี้ในท้องทุ่งของยาอาร์
7 “ให้เราไปยังที่ประทับของพระองค์
ให้เราไปนมัสการยังแท่นรองพระบาทของพระองค์กันเถิด”
8 โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงลุกขึ้น
และเสด็จไปยังที่พักของพระองค์
พระองค์และทั้งหีบอันทรงฤทธิ์ของพระองค์
9 ขอให้ปุโรหิตของพระองค์
สวมความเที่ยงธรรม และให้วิสุทธิชนของพระองค์
พากันโห่ร้องด้วยความยินดี

อธิษฐานขอเพื่อพระสิริของพระเจ้า
10 เพื่อเห็นแก่ดาวิด ผู้รับใช้ของพระองค์
ขออย่าทรงเมินพระพักตร์ไปจากผู้ที่พระองค์ทรงเจิมไว้
11 พระยาห์เวห์ทรงปฏิญาณกับดาวิด
อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าพระองค์จะไม่ทรงคืนคำ
“หนึ่งในลูกหลานของเจ้าจะถูกแต่งตั้งให้อยู่บนบัลลังก์”
12 หากลูกชายของเจ้าจะรักษาพันธสัญญา
และคำพยานของเรา เราจะสอนพวกเขา และลูก ๆ
ของพวกเขาก็จะได้นั่งบนบัลลังก์ของเจ้าตลอดไป”

พระสัญญาต่อศิโยน
13 เพราะพระยาห์เวห์ทรงเลือกศิโยนไว้
พระองค์ทรงปรารถนาศิโยนเป็นที่ประทับของพระองค์
14 ตรัสว่า “นี่คือที่พักของเราตลอดไป
เราจะอาศัยที่นี้ เพราะเราปรารถนาที่แห่งนี้
15 เราจะอวยพรให้เมืองนี้มีกินอย่างอุดม
เราจะให้คนเมืองที่ยากจนได้อิ่มหนำ

พระสัญญาที่มีต่อผู้ที่พระองค์ทรงเจิม
16 เราจะสวมเสื้อแห่งความรอดให้กับปุโรหิต
และวิสุทธิชนของเมืองจะตะโกนด้วยความยินดี
17 จากที่นั่น เราจะสร้างเขาให้งอกขึ้นมาเพื่อดาวิด
เราได้เตรียมตะเกียงดวงหนึ่ง สำหรับผู้ที่เราเจิมไว้
18 เราจะให้ศัตรูของเขาสวมความอับอาย
แต่มงกุฎของเขาจะส่องประกายออกมา”

พระคำเชื่อมโยง

1* 1 พงศาวดาร 22:14

2* สดุดี 50:14; ปฐมกาล 49:24; อิสยาห์ 49:26; 60:16

3* สุภาษิต 6:4

5* 1 พงศาวดาร 22:7; กิจการ 7:46

6* 1 ซามูเอล. 17:12; ปฐมกาล 35:19 1 ซามูเอล 7:1

7* สดุดี 5:7 ; 99:5

8* สดุดี 68:1; 2 Chr. 6:41, 42 สดุดี 78:61

9* โยบ 29:14; สดุดี 149:5

10* 2 พงศ์กษัตริย์ 18:24; 1 พงศ์กษัตริย์. 1:39


11* สดุดี 89:3, 34 ; 110:4
2 ซามูเอล 7:12; 2 พงศาวดาร 6:16; ลูกา 1:32; กิจการ 2:30 132:11

12* 1 พงศ์กษัตริย์ 8:25; โยบ 36:7

13* สดุดี78:68; 135:21; 68:16

14* มัทธิว 23:21

15* สดุดี 147:14; นางรูธ 1:6

16* 2 พงศาวดาร 6:41; สดุดี 132:9; 149:4

17* เอเสเคียล 29:21; ลูกา 1:69 ; 1 พงศ์กษัตริย์ 11:36; 15:4; 2 พงศ์กษัตริย์ 8:19; 2 พงศาวดาร 21:7

18* โยบ 8:22 ;สดุดี 35:26

สดุดี 132:1-5 หิวหาพระสิริของพระเจ้า
สดุดีบทนี้เขียนโดยผู้อื่นที่ไม่ใช่กษัตริย์ดาวิด แต่กล่าวถึงกษัตริย์ดาวิดว่าท่านได้เผชิญความทุกข์ยากมากเท่าไร เขาทูลขอพระเจ้าเพื่อว่า ความทุกข์ยากนั้นจะไม่เสียเปล่า ความทุกข์ดังกล่าวเล็งไปถึงเชื้อสายคนสำคัญของท่าน คือพระเยซูคริสต์
ยิ่งกว่านั้น ดาวิดยังได้ปฏิญาณกับพระเจ้าว่า ท่านจะสร้างพระวิหารถวายพระเจ้า ท่านจะไม่ยอมหยุดยั้งจนกว่าความตั้งใจนั้นจะสำเร็จ เราคงจำได้ถึงความเร่าร้อนที่จะสร้างพระวิหาร แต่พระเจ้าทรงปฏิเสธ สิ่งที่ท่านทำคือจัดหาเตรียมทุกอย่างให้กับผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกให้สร้างพระวิหารต่อไป

สดุดี 132:10-12 อธิษฐานขอเพื่อพระสิริของพระเจ้า
ผู้เขียนขอร้องให้พระเจ้าทรงเมตตาทุกคนที่พระเจ้าทรงเจิมให้เป็นกษัตริย์ในวงศ์วานดาวิด
แต่จะมีหนึ่งในลูกหลานจะถูกแต่งตั้งบนบัลลังก์ …จะเป็นใครไม่ได้นอกจากผู้เขียนกำลังกล่าวถึงพระเยซูองค์พระเมสสิยาห์

สดุดี 132:13-15 พระสัญญาต่อศิโยน
ศิโยนเป็นเครื่องหมายของความมั่นคงและปลอดภัย เมืองที่มีภูเขาศิโยนล้อมรอบอยู่เป็นเมืองที่พระเจ้าทรงเลือกเอาไว้ และพระองค์ทรงอวยพรแก่เมืองนี้เป็นพิเศษ

สดุดี 132:16-18 พระสัญญาที่มีต่อผู้ที่พระองค์ทรงเจิม
สามคำที่สำคัญคือ เขา ตะเกียง มงกุฎ มีความหมายถึง ความเข้มแข็ง ความโปร่งใส กระจ่าง และความสง่างามเกียรติสิริ ศัตรูของผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมจะพ่ายแพ้ แต่ท่านผู้นั้นจะทรงเกียรติที่สุด
มงกุฎของพระเยซูคริสต์จะงดงามสง่า มองเห็นชัดเจน