พระเยซูทรงเป็นทางนั้น เป็นความจริงและชีวิต
ทรงสัญญาจะประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์
พระเยซูทรงเป็นทางนั้น เป็นความจริงและชีวิตข้อ 1-9
ศิษย์ทุกคนเพิ่งรับรู้ว่า มีเพื่อนคนหนึ่งกำลังทรยศพระเยซู เพิ่งเข้าใจว่าพระเยซูกำลังจะจากไป พวกเขาต่างกังวลใจว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร พระเยซูทรงบอกให้เขาวางใจพระเจ้าและวางใจพระองค์ด้วย
แล้วพระองค์ก็ตรัสถึงแผ่นดินสวรรค์ ที่ ๆ พระองค์จะไป พระองค์ไม่ได้ไปเฉย ๆ แต่จะทรงเตรียมที่ทางให้พวกเขา พระเยซูทรงคุ้นเคยกับสวรรค์เป็นอย่างดี ทรงรู้ว่ามีที่ทางพอสำหรับทุกคนที่จะเป็นประชากรที่นั่น
ทรงสัญญาว่าจะกลับมารับพวกเขาไปอยู่ด้วย … แต่คนหนึ่งค้านว่า พวกเขาไม่รู้ว่าพระองค์จะไปที่ไหน จะรู้ทางได้อย่างไร
แล้วพระเยซูทรงตอบเขาชัดเจนว่า ทางนั้นคือพระองค์ ถ้าใครก็ตามต้องการไปสวรรค์ ต้องการพบพระบิดา พวกเขาไปทางอื่น วิธีอื่นไม่ได้ นอกจากวิธีที่พระองค์บอก และผ่านมาทางพระองค์เท่านั้น ทรงเป็นทั้งหนทางที่ไป คำตรัสของพระองค์เป็นความจริง และพวกเขาจะได้ชีวิตนิรันดร์ ก็โดยพระองค์ผู้เดียว ทรงเป็นต้นตอของชีวิตให้กับผู้เชื่อ คำของพระเยซูตอนนี้ทำให้เรารู้ว่า ไม่ว่าใครพยายามด้วยวิธีไหน ก็ไม่อาจไปถึงเจ้าของสวรรค์ได้ พระองค์ทรงบอกให้เขาวางใจพระองค์ ซึ่งตอนนั้น เหล่าศิษย์อาจจะยังไม่เข้าใจถ่องแท้
แล้วพระเยซูทรงชี้ให้พวกเขาเห็นว่า ในเมื่อพวกเขารู้จักพระองค์แล้ว ก็เหมือนกับได้รู้จักกับพระบิดาไปพร้อม ๆ กัน
(ใช่แล้ว ถ้าเรารู้จักพระเยซู เราก็รู้จักพระบิดาด้วย ) การเปิดเผยของพระเยซูตรงนี้ทำให้เราอบอุ่นใจเวลาที่เราอธิษฐานต่อพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ เพราะเรารู้จักพระบุตร เราจึงคุ้นเคยกับพระบิดาด้วย
1* ดูข้อ 27; ยอห์น 16:22, 23; 1 เปโตร 3:14; ยอห์น 12:44
2* ยอห์น 2:16; 16:7; 8:21, 22; 13:33, 36
3* ยอห์น 14:18, 28; ยอห์น 21:22, 23; ยอห์น 12:26
5* ยอห์น 11:16; 13:36
6* ฮีบรู 9:8; 10:20; เอเฟซัส 2:18; ยอห์น 1:14, 17; 1 ยอห์น 5:20 ; ยอห์น 11:25
7* ยอห์น 8:19; 1 ยอห์น 2:13, 14; 6:46
8* ยอห์น 1:43, 44; 12:21; อพยพ 33:18
9* ยอห์น 12:45; ยอห์น 10:30; 15:24; โคโลสี 1:15; ฮีบรู 1:3
ความสัมพันธ์ของพระบุตรกับพระบิดาที่ลึกซึ้ง ….ข้อ 10-11
พระเยซูทรงถามว่า “เจ้าไม่เชื่อหรือว่า เราอยู่ในพระบิดาและพระบิดาทรงอยู่ในเรา?” ที่พระองค์ทรงถามเช่นนั้นเพราะพระองค์ย้ำแล้วย้ำอีกว่า พระบิดากับพระองค์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งกับพวกเขาและต่อหน้าพวกยิวด้วย ทำให้เราเห็นว่า เหล่าศิษย์ยังไม่ตระหนักในสิ่งที่พระเยซูตรัสเลย แล้วพระเยซูก็สรุปว่า ให้เชื่อว่าพระบิดาและพระบุตรทรงอยู่ในกันและกันจากราชกิจที่พวกเขาได้เห็นกันมามากมาย
10* ยอห์น 10:38; 5:19, 20
11* ยอห์น 5:19, 20; 5:36
คำสัญญาที่แปลก ข้อ 12-14
แล้วพระเยซูก็ทรงสัญญาว่า เมื่อพระองค์เสด็จไปหาพระบิดาแล้ว คนที่วางใจในพระองค์จะทำสิ่งที่ทรงทำ แถมจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า หากเราย้อนไปตอนที่พระเยซูสอนให้ศิษย์อธิษฐาน เราจะเห็นว่า พระองค์ทรงสอนให้เขาอธิษฐานต่อพระบิดาในสวรรค์ และตรงนี้พระองค์ให้เขาขอในพระนามของพระองค์ นั่นคือ เรากำลังทูลต่อพระบิดาว่า เรารู้จักและวางใจในพระบุตร เรากำลังทูลขอตามน้ำพระทัยพระบุตร และการได้รับคำตอบนั้น จะทำให้พระบิดาทรงได้รับพระเกียรติ
12* มัทธิว17:20; 21:21; Mark 11:23; 16:17; ยอห์น 14:28; 16:28; 7:33; 13:1, 3; 16:5, 10, 17; 17:11, 13; 20:17
13* ยอห์น 15:16; 16:23, 24; มัทธิว 7:7; ยอห์น 13:31
14* ยอห์น 13:31
พระวิญญาณบริสุทธิ์ ข้อ 15-17
ตรงนี้ พระเยซูทรงวางเงื่อนไขไว้ นั่นคือ เมื่อพวกเขารักพระองค์… พวกเขาจะทำตามบัญญัติของพระองค์คือ รักกันและกัน ….
พระองค์จะทูลขอพระบิดา…พระบิดาจะประทานพระผู้ช่วยที่จะอยู่กับพวกเขาตลอดไป (ในขณะที่พระองค์กำลังจะทรงจากเขาไป) คือพระวิญญาณแห่งความจริงที่จะทรงอยู่ในตัวพวกเขา นี่เป็นคำสัญญาที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อน พระวิญญาณของพระเจ้าจะเข้ามาอยู่ในตัวมนุษย์! และเห็นไหมว่า ตรงนี้ พระเยซูตรัสถึงพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ชัดเจนมาก แต่เหล่าศิษย์เพิ่งได้ยิน อีกไม่นานพวกเขาจะมีประสบการณ์กับพระวิญญาณอย่างที่ไม่คาดฝันมาก่อน
15* ดูข้อ 21, 23; ยอห์น 15:10; 1 ยอห์น 5:3; 2 ยอห์น 6 ;1 ยอห์น 2:3
16* ดูข้อ 26; ยอห์น 15:26; 16:7; ยอห์น 14:26; 15:26; 16:7; 14:17;
17* ยอห์น 15:26; 16:13; 1 โครินธ์ 2:12-14; 1 ยอห์น 2:27; 4:6; 5:6; 1 โครินธ์ 2:14 ; กิจการ 2:4; 1 ยอห์น 2:27; 2 ยอห์น 2; โรม 8:9
ทรงรับรองว่าจะอยู่ด้วย ข้อ 18-21
แล้วพระเยซูทรงสัญญากับพวกเขาอีกว่า จะไม่ทิ้งพวกเขาให้กำพร้าขาดคนดูแล (ตอนนั้นใจพวกเขาเศร้ามาก อาจไม่เข้าใจทุกอย่างที่ตรัส) สำหรับพวกเขา คำตรัสของพระองค์ฟังแล้ววนไปมา แต่ยอห์นผู้ที่เขียนบันทึกไว้ก็เขียนไว้อย่างละเอียดว่าพระองค์ตรัสอะไรบ้าง
พระเยซูตรัสว่า โลกจะไม่เห็นพระองค์นั่นคือเมื่อเสด็จสู่สวรรค์แล้ว จะไม่มีใครเห็นพระองค์อีก แต่พวกเขาจะเห็นพระองค์ในโลกฝ่ายวิญญาณ พระวิญญาณของพระองค์จะมาอยู่ในพวกเขา พระเยซูตรัสถึงการดำรงอยู่ในกันและกัน ของพระบิดา พระองค์เอง และพวกเขา ใช่แล้ว ผู้ที่เชื่อในพระเจ้าจะมีทั้งพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเขา
18* ดูข้อ 3, 28
19* ยอห์น 7:33; 12:45; 16:16 ; โรม 5:10; เอเฟซัส 2:5; วิวรณ์ 20:4
20* ยอห์น 16:23, 26; 14:10; 15:4-7; 1 ยอห์น 2:28; 17:21, 23, 26
21* ยอห์น 7:17; 8:31, 32 ; ดูข้อ 15; 1 ยอห์น 2:5; ยอห์น16:27; 12:26; 7:4
ตอบคำถาม ข้อ 22-24
ในหมู่ศิษย์ ยังมีอีกคนที่ชื่อว่ายูดาส ที่เป็นคนละคนกับยูดาส อิสการิโอท เขาถามขึ้นง่าย ๆ ว่า ทำไมบอกพวกเขา แต่ไม่บอกคนอื่น ๆ … นี่เป็นคำถามที่แปลกอยู่
และคำตอบก็เพื่อผู้เชื่อที่รักพระเจ้าทุกคนจะได้เข้าใจ อบอุ่นใจว่า พระเจ้าไม่ทิ้งเราจริง และพระองค์จะเข้ามาอยู่ในชีวิตจริง ๆ
และเพื่อให้ชัดเจน พระเยซูก็ทรงบอกลักษณะนิสัย พฤติกรรมของคนที่รักพระองค์ … จะเห็นว่า รักพระเยซูแต่ปากไม่ได้แต่ต้องลงมือทำตามพระดำรัสของพระองค์ด้วย อีกอย่างที่เราเห็นชัดคือ ความรักของพระเจ้าที่มีให้กับคนที่พระองค์ถือว่าเป็นลูกของพระองค์แตกต่างจากคนนอกมาก(ดู ฮีบรู 12:4-11)
22* ลูกา 6:16; กิจการ 1:13; 10:40, 41
23* ดูข้อ 15, 21; วิวรณ์ 3:20; 2 โครินธ์ 6:16; 1 ยอห์น 2:24]
24* ดูข้อ 10; ยอห์น 7:16
การจากไปของพระเยซู และการเสด็จมาของพระวิญญาณและสันติสุข ข้อ 25-27
ทีนี้ เราจะเห็นแล้วว่า พระเยซูทรงตระหนักดีว่า ศิษย์ทุกคนยังไม่เข้าใจคำสนทนาในคืนวันนี้ทั้งหมด แต่ทรงสัญญาว่า พระวิญญาณจะเสด็จมาหาพวกเขา และสอนให้เขาเข้าใจถึงทุกสิ่งที่พระองค์ตรัสไว้ นี่เป็นบทเรียนสำหรับเราว่า แม้จะไม่เข้าใจพระคำของพระเจ้าในครั้งแรกที่อ่าน แต่พระเยซูทรงสัญญากับพวกศิษย์อย่างไร เราจะได้รับความเข้าใจจากพระวิญญาณ เช่นกัน ทุกวันนี้ พระวิญญาณยังทรงสอนผู้เชื่ออยู่ ความเข้าใจเกิดขึ้นได้ก็เพราะพระองค์ เป็นการเจิมจากพระเจ้า อ่าน 1 ยอห์น 2:27
ในเวลาแห่งความสับสน งุนงง ท้อใจ วิตก กลัวอนาคต … พระเยซูตรัสกับเขาว่าจะประทานสันติสุขให้ ไม่ต้องกลัว และสันติสุขนี้ เป็นแบบที่โลกไม่อาจให้ได้ นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมผู้เชื่อเป็นจำนวนมากในประเทศที่ห้ามเชื่อพระเจ้าจึงยังคงยึดพระเจ้าไว้มั่น …พวกเขามีสันติสุขที่โลกให้ไม่ได้ เป็นสันติสุขจากพระเยซูคริสต์ที่ทรงสัญญาไว้
26* ดูข้อ 16; ลูกา 24:49; กิจการ 2:33, ยอห์น 15:26; 16:7,16:13; 1 โครินธ์ 2:10; 1 ยอห์น 2:20, 27, 2:22
27* ยอห์น 20:19, 21, 26; ลูกา 24:36 ; ยอห์น 16:33; โคโลสี 3:15; เอเฟซัส 2:17; ฟีลิปปี 4:7; 2 ทิโมธี 1:7
ข้อดีของการที่พระเยซูเสด็จกลับไปหาพระบิดา ข้อ 28-31
การจากไปของพระเยซูเป็นการกลับไปหาพระบิดา ไม่ใช่การสูญหายไปจากโลก จากพวกเขา ดังนั้นขอให้พวกเขาดีใจที่พระองค์จะกลับสู่สวรรค์ ไม่มีอะไรต้องกังวลเลย
อีกอย่าง พระเยซูทรงทราบว่า ซาตานกำลังพยายามสังหารพระองค์ แต่มันไม่อาจมีอำนาจเหนือพระองค์ได้ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะพระองค์แพ้มัน แต่เป็นเพราะทรงทำสิ่งที่พระบิดาทรงประสงค์ให้ทำ นั่นคือ รับโทษบาปแทนมนุษย์ที่พระบิดาทรงรัก
28* ยอห์น 14:2-4, 8:21,10:29; ฟีลิปปี 2:6
29* ยอห์น 13:19; 16:4
30* ยอห์น 12:31; ยอห์น 17:14; 18:36; ฮีบรู 4:15
31* ยอห์น 12:49, 50; ฟีลิปปี 2:8; ฮีบรู 5:8; ยอห์น 17:21, 23