สดุดี 56 เมื่อศัตรูไล่ล่าเหยียบย่ำ

ถึงหัวหน้านักร้อง ตามทำนองนกพิราบบนต้นเทเรบินธ์
ทำนองมิคทามของดาวิด เมื่อชาวฟีลิสเตียจับท่านในเมืองกัท

ความกลัวและความเชื่อเมื่อพบอันตราย
1ขอพระเจ้าทรงเมตตาข้าด้วย โอพระเจ้า
เพราะมนุษย์กำลังเหยียบย่ำข้า เขาข่มเหงข้าทั้งวัน
2 เหล่าศัตรูของข้า เหยียบย่ำข้าทั้งวัน
พวกเขาโจมตีข้าด้วยความอหังการ
3 เมื่อข้ากลัว ข้าจะวางใจในพระองค์
4 ในองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าจึงสรรเสริญพระดำรัสของพระองค์
ข้าวางใจในพระองค์ ข้าจะไม่กลัว
มนุษย์ที่ต้องตายจะทำอะไรข้าได้?

อันตรายที่ต่อเนื่อง
5 ทั้งวัน พวกเขาบิดเบือนคำพูดของข้า
พวกเขาเอาแต่คิดต่อต้าน ปองร้ายข้า
6 พวกเขาปลุกปั่นให้สู้กัน พวกเขาซุ่มดูย่างก้าวของข้า
เพื่อคร่าชีวิตของข้า

พระเจ้าทรงห่วงดาวิด
7 พวกเขาจะหนีจากน้ำมือชั่วของตนเองได้หรือ? โอพระเจ้า
ขอทรงให้พวกเขาแพ้ราบคาบด้วยพระพิโรธเถิด
8 พระองค์ทรงนับการระหกระเหินของข้า
ทรงเก็บน้ำตาของข้าไว้
ทั้งหมดไม่ได้บันทึกไว้ในหนังสือของพระองค์หรือ?
9 แล้วศัตรูของข้าจะหันหลังกลับไปในวันที่ข้าร้องทูล
ที่ข้ารู้ เพราะว่าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายข้า

ดาวิดมั่นใจในพระเจ้า และประกาศออกมาชัดเจน
10 เพราะพระเจ้า ข้าจึงสรรเสริญพระดำรัสของพระองค์ได้
ในองค์พระยาห์เวห์ ข้าจึงสรรเสริญพระดำรัสของพระองค์
11 ข้าวางใจในพระเจ้า ข้าจะไม่กลัว
มนุษย์จะทำอะไรข้าได้?
12 ข้าจะต้องทำตามคำปฏิญาณที่ถวายพระองค์ไว้
โอ พระเจ้า ข้าจะถวายเครื่องบูชาแห่งการขอบพระคุณ
13 เพราะพระองค์ทรงช่วยกู้ข้าจากความตาย
ใช่แล้ว ทรงช่วยกู้ไม่ให้ข้าล้มลง
เพื่อว่าข้าจะเดินอยู่ต่อพระพักตร์ ในความสว่างแห่งชีวิต

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 69:13-16; 60:1; 59:1

2* วิวรณ์ 16:14; กิจการ 4:25-27

3* สดุดี 34:4; 1 ซามูเอล 30:6; 2 โครินธ์ 7:5-6

4* ฮีบรู 13:6; สดุดี 118:6

5* ลูกา 11:54; มัทธิว 22:15; สดุดี 41:7

6* สดุดี 71;10; 59:3; กิจการ 23:12-14

7* สดุดี 55:23; ฮาบากุก 1:13; เยเรมีย์ 18:19-23

8* มาลาคี 3:16; สดุดี 39:12

9*โรม 8:31; สดุดี 118:6; 102:2

10*มัทธิว 24:35; 2 เปโตร 1:4

11* อิสยาห์ 51:12-13; สดุดี112:7-8

12* สดุดี50:14; 9:1-3

13* สดุดี 116:8-9; โยบ 33:30; วิวรณ์ 21:23-24

สดุดี 56:1-4 ความกลัวและความเชื่อเมื่อพบอันตราย
ในชีวิตของเรา มีปัญหาที่เล็กน้อย หรือใหญ่โตเกิดขึ้นได้เสมอ ปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นเพราะเป็นอุบัติเหตุ สำหรับดาวิด สิ่งที่ท่านต้องเผชิญคือศัตรูที่คอยข่มเหงไม่หยุด ชาวฟิลิสเตีย กษัตริย์ซาอูล และคนอื่น ๆ ที่เกลียดชังท่าน สิ่งที่เราเห็นในดาวิดเผิน ๆ คือ ความกล้าหาญ และการเป็นนักรบที่เก่งกล้า
แต่ในข้อหนึ่งถึงสี่ของสดุดีบทนี้ เรากลับเห็นนักรบกล้าที่สารภาพกับพระเจ้าว่า ท่านกลัวมาก … ถูกเหยียบย่ำทั้งวันทั้งคืน แต่ในความกลัวนั้น ท่านเชื่อในพระเจ้าว่าจะทรงช่วย เพราะมนุษย์ที่ตายไม่อาจทำร้ายท่านได้

สดุดี 56:5-6 อันตรายที่ต่อเนื่อง
เมื่อมีการต่อสู้ เราต้องรู้ว่า มันประกอบด้วยการต่อสู้ทางร่างกาย และทางวาจา ศัตรูมักจะใช้วาจาที่บิดเบือนเพื่อให้ได้ผลอย่างที่ต้องการ ดังนั้นเราต้องรู้ว่า เมื่อศัตรูต้องการทำร้ายนั้น มันอาจเริ่มด้วยวาจาให้ร้ายก่อน แล้วจึงลงมืออีกที นี่เป็นวิธีการของคนสมัยใหม่ด้วย และดูเหมือนได้ผลมาก

สดุดี 56:7-9 พระเจ้าทรงห่วงดาวิด
ดาวิดมั่นใจว่า พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายท่าน ในข้อ 9 ท่านจึงมั่นใจว่า พระเจ้าจะทรงเป็นผู้ต่อสู้ จัดการกับศัตรูแทนท่าน ท่านมั่นใจว่า คำอธิษฐานของท่านได้รับการบันทึกไว้ แน่ใจว่า พระเจ้าทรงรวบรวมและทรงเผชิญศัตรูให้ท่านอย่างแน่นอน

สดุดี 56:10-13 ดาวิดมั่นใจในพระเจ้า และประกาศออกมาชัดเจน
ขณะที่ดาวิดถูกจับกุม ขณะที่ศัตรูเป็นต่อ ท่านก็ยังเชื่อว่า พระเจ้าจะช่วยกู้ท่านอย่างแน่นอน เมื่อคริสเตียนเผชิญกับปัญหาเร่งด่วน หรือปัญหาเรื้อรัง เราต้องมั่นใจอย่างดาวิดว่า พระเจ้าจะทรงช่วยกู้
แม้ว่าในขณะนั้นจะดูมืดมิด และทางตัน แต่ในช่วงเวลานั้นมิใช่หรือ ที่เราจะสัมผัสการช่วยเหลือของพระเจ้ามากที่สุด
การเดินในความสว่างแห่งชีวิต เป็นการเดินที่มีเป้าหมายตรงกับที่พระเจ้าทรงวางไว้ให้ชีวิตเรา

สดุดี 55 มอบความทุกข์ใจของท่านไว้กับพระเจ้า

 ถึงหัวหน้านักร้องพร้อมเครื่องสาย
มัสคิลบทหนึ่งของดาวิด


ความทุกข์ใจ และความกลัวของดาวิด
1โอพระเจ้า ขอพระองค์ทรงฟังคำอธิษฐานของข้า
และขออย่าทรงซ่อนพระองค์จากคำข้าร้องทูลขอพระกรุณา
2  ขอทรงฟัง และตอบข้าด้วย
ข้าร้องทูลไม่หยุดพัก ข้าคร่ำครวญ
3 เพราะเสียงของศัตรู เพราะการข่มเหงของคนชั่วร้าย
เพราะพวกเขาโยนความยากเข็ญใส่ข้า
พวกเขาโกรธเกรี้ยวและเต็มด้วยความชัง
4  ใจของข้าขมเป็นทุกข์อยู่ข้างใน
ความกลัวตายครอบงำใจข้า
5  ความกลัว ความประหวั่นพรั่นพรึงเข้ามาในใจข้า
และความหวาดกลัวท่วมทับข้า
6 และข้ากล่าวว่า “โอ ข้าอยากมีปีกเหมือนนกพิราบ
เพื่อข้าจะได้บินไปไกลและพักสงบ
7 ใช่แล้ว ข้าจะเร่ร่อนไปไกลแสนไกล
และจะอาศัยในที่กันดาร เซ ลาห์
8 ข้าจะรีบไปหาที่พักพิงให้พ้นจากลมแรงกล้า
พายุลูกใหญ่นี้”

ดาวิดโกรธที่มีความรุนแรง การข่มเหง หายนะในชุมชน
9  โอพระผู้เป็นเจ้า ขอทรงทำลาย ขอทรงฉีกลิ้นของพวกเขา
เพราะข้าเห็นความรุนแรงและการต่อสู้ในเมือง
10 พวกเขาเดินรอบกำแพงเมืองทั้งวันทั้งคืน
ภายในเมืองนั้นเต็มด้วยความชั่วร้ายและความวุ่นวาย
11 ความหายนะอยู่ในนั้น
การกดขี่และการหลอกลวงไม่ได้ห่างไปจากที่ชุมชน

มิตรที่กลายเป็นศัตรู
12 ไม่ใช่ศัตรูที่กำลังเหยียดหยามข้า ซึ่งข้ายังทนได้
ไม่ใช่ปฏิปักษ์ที่ใช้วาจาข่มข้า ซึ่งข้าจะซ่อนตัวได้
13  แต่กลับเป็นท่าน คนที่ทัดเทียมกับข้า
คนที่เคยเป็นสหาย เป็นเพื่อนที่คุ้นเคย
14 เราเคยพูดคุยกันอย่างชื่นมื่นในพระนิเวศของพระเจ้า
เราพากันเดินพร้อมกับฝูงชน
15 ขอให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความตาย
ให้เขาลงไปยังแดนคนตายทั้งเป็น
เพราะความชั่วนั้นสิงอยู่ในที่อาศัยของพวกเขา
ทั้งในใจของพวกเขาด้วย

ดาวิดมั่นใจว่า พระเจ้าทรงฟัง
16 แต่ข้าร้องหาพระเจ้า
และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยข้าให้รอด
17 ยามเย็น ยามเช้า และเที่ยงวัน ข้าร้องทูลคร่ำครวญ
และพระองค์ทรงยินเสียงของข้า
18 พระองค์ทรงไถ่วิญญาณของข้าให้ปลอดภัย
จากการสู้รบที่ข้าเผชิญ เพราะหลายคนกำลังต่อต้านข้าอยู่
19  พระเจ้าจะทรงฟัง และทรงสยบพวกเขา
พระองค์ผู้ประทับบนบัลลังก์มาตั้งแต่โบราณกาล.
เพราะพวกเขาไม่เปลี่ยน และไม่เกรงกลัวพระเจ้า เซ ลาห์​
20 เพื่อนของข้าได้ยื่นมือออกไปทำร้ายเพื่อนของเขา
เขาละเมิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้
21 คำพูดของเขานุ่มนวลเหมือนเนย
แต่ใจของเขาเต็มด้วยสงคราม
คำพูดของเขาอ่อนโยนกว่าน้ำมัน
แต่มันกลับกลายเป็นดาบที่ชักออกมา

คำขอสุดท้าย
22 จงมอบภาระใจของท่านไว้กับพระเจ้า
และพระองค์จะทรงโอบอุ้มท่านไว้
พระองค์จะไม่ทรงยอมให้คนเที่ยงธรรมต้องสั่นคลอน
23  แต่พระองค์ โอพระเจ้า
จะทรงโยนพวกเขาลงไปในหลุมแห่งความพินาศ
คนเหล่านั้นที่กระหายเลือด เต็มด้วยความคดโกง
จะไม่มีชีวิตยืนอยู่ถึงครึ่งหนึ่งของที่ควร
แต่ข้าจะวางใจในพระองค์

ข้อพระคำเชื่อมโยง

1*1*สดุดี 86:6; 61:1; 27:9

2* สดุดี 64:1; 66:19

3* 2 ซามูเอล 16:7-8; มัทธิว 26:19

4*สดุดี 116:3; ฮีบรู 5:7

5*โยบ 21:6; สดุดี 119:120;

6*สดุดี 11:1

7*เยเรมีย์ 9:2; 37:12

8*อิสยาห์ 17:12-13

9*มัทธิว 23:37-38

10*สดุดี 59:14-15

11*สดุดี 10:7; เยเรมีย์ 5:26-27

12*สดุดี 41;9; ยอห์น 13:18

13* 2 ซามูเอล 15:12; มีคาห์ 7:5

14* สดุดี 42:4; เอเสเคียล 33:31

15*สดุดี 42:4

16*สดุดี 64:7; กิจการ 1:18-20

17*สดุดี 109:4; 91:15

18*เอเฟซัส 6:18; สดุดี 141:2

19* 1 ยอห์น 4:4; สดุดี 118:10-12

20*เฉลยธรรมบัญญัติ 33:27; เศฟันยาห์ 1:12

21*สดุดี 109:5

22*สุภาษิต 5:3-4; สดุดี 57:4

23*สดุดี 37:5; 1 เปโตร 5:7

คำนำ
เมื่อเราถูกศัตรูทำร้าย และเราต้องต่อสู้ เราก็ยังเข้าใจสถานการณ์ แต่เมื่อเพื่อนของเรากลายเป็นคนทรยศต่อมิตรภาพที่เคยมีต่อกัน… มันเจ็บปวดยิ่งกว่าสิ่งใด ในสดุดีบทนี้เราพบว่า ดาวิดไม่ได้ตั้งใจที่จะแก้แค้นด้วยตัวเอง แต่กลับมาขอพระเจ้าให้โยนศัตรูสู่ความพินาศเลย … ศัตรูที่ไม่เกรงกลัวพระเจ้า ไม่เปลี่ยนชีวิต และจากบทนี้ ทำให้เราได้เห็นว่า เมื่อถึงยุคของพระคุณพระเยซู พระเจ้ากลับทรงให้เราอธิษฐานเผื่อศัตรู และอวยพรแก่ผู้ที่แช่งด่า ใส่ร้าย … เพราะว่า หากศัตรูคนใดยังไม่สิ้นลมหายใจ พวกเขายังมีโอกาสที่รับพระคุณของพระเจ้าเหมือนอย่างที่ท่านเปาโลกล่าวว่า “พระเยซูคริสต์ได้เสด็จเข้ามาในโลกเพื่อช่วยคนบาปให้รอด ข้าเป็นคนบาปร้ายสุดในบรรดาคนบาปนั้น”. 1 ทิโมธี 1:15

สดุดี 55:1-8 ความทุกข์ใจ และความกลัวของดาวิด
ดาวิดทูลขอพระเจ้าทรงเงี่ยพระกรรณฟังคำคร่ำครวญเนื่องจากศัตรูกำลังโจมตีด้วยความโกรธเกลียด
เป็นภาพของชายคนหนึ่งที่คร่ำครวญเสียงดังต่อพระเจ้า เวลานี้ท่านกลัวมาก กลัวตาย จนอยากจะหนีไปให้ไกลมากๆ ดาวิดเป็นนักรบที่กล้าหาญ แต่ทำไมเวลานี้ท่านจึงกลัวขนาดหนัก มองเห็นศึกครั้งนี้เป็นพายุลูกใหญ่ และเมื่ออ่านไป ๆ ก็ดูเหมือนว่า ท่านไม่อาจสู้ศึกด้วยตัวเองได้ ท่านต้องการหนีมากกว่าสู้! หนีไปอยู่ในที่กันดารยังดีกว่าอยู่ในเมืองที่มีการต่อสู้

สดุดี 55:9-11 ดาวิดโกรธที่มีความรุนแรง การข่มเหง หายนะในชุมชน
ศัตรูเดินข่มขู่ประชาชนรอบเมือง รอบแล้วรอบเล่า เกิดความวุ่นวายในเมืองอย่างหนัก เป็นภาพของการก่อการกบฎจากศัตรูที่ดาวิดไม่อาจทำอะไรได้ ทั้งเมืองเต็มด้วยความรุนแรง การต่อสู้ ความชั่วร้าย ความวุ่นวาย หายนะ การกดขี่และหลอกลวง ประชาชนก็กำลังเผชิญกับความตายเพราะศัตรูนั้นโหดร้ายมาก

สดุดี 55:12-15 มิตรที่กลายเป็นศัตรู
และเราก็มาพบว่า ศัตรูของท่านนั้น เป็นคนที่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน เป็นเพื่อนสนิท คุยกัน พากันนำฝูงชนไป นมัสการอยู่ในพระวิหารด้วยกัน นี่เอง เป็นเหตุให้ดาวิดไม่อาจต่อสู้ ฆ่าฟันเขาได้ มันเป็นการต่อสู้ที่สู้ด้วยตัวเองไม่ได้เลย แล้วท่านก็อธิษฐานขอให้พระเจ้าทรงแก้แค้นแทนในข้อ 15 ท่านพบว่า คนที่เคยเป็นมิตรผู้นี้ กลับมีความเกลียดชัง และความแค้นฝังในบ้านของพวกเขา ท่านขอพระเจ้าให้พวกเขาเจอกับความตายทั้งเป็น เรียกว่า เจอหายนะแบบไม่รู้ตัวเลย

สดุดี 55:16-21 ดาวิดมั่นใจว่า พระเจ้าทรงฟัง
พระเจ้าผู้ที่ดาวิดกำลังร้องทูลคือ พระเจ้าผู้ทรงครอบครองมาแต่โบราณ พระองค์ทรงอยู่มาก่อนและจะอยู่ตลอดไป ท่านร้องหาพระเจ้าเช้ากลางวันเย็น ขอพระเจ้าทรงทำให้ท่านปลอดภัยจากสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ สิ่งที่ท่านทูลคือพวกเขาไม่ได้เกรงกลัวพระองค์ พวกเขาเป็นคนประเภทวาจาปราศรัย แต่ใจเชือดคอ เป็นคนที่ละเมิดคำสัญญาโดยไม่รู้สึกผิดอะไรเลย
เราเห็นดาวิดกล่าวถึงศัตรูผู้นี้ราวกับท่านกำลังอยู่ในศาล

สดุดี 55:22-23 คำขอสุดท้าย
ในคำทูลของดาวิด มีคำกล่าวถึงพระเจ้า ศัตรู คำแสดงความเชื่อ และคำร้องทูลสลับกันไป ใช่แล้ว ในคำอธิษฐานของเราก็เช่นกัน มีทั้งทูลคดีความ ทูลเรื่องราว และบอกถึงความมั่นใจที่เรามีต่อพระองค์ ทูลขอให้ประสบผลตามที่ใจปรารถนา ในที่สุดท่านก็ขอให้พระเจ้าทรงจัดการกับคนที่ไม่เกรงกลัวพระองค์ด้วยการโยนพวกเขาลงในหลุมแห่งความพินาศ …

สดุดี 54 ความช่วยเหลือยามถูกทรยศ

 ถึงหัวหน้านักร้อง พร้อมกับเครื่องสาย 
บทเพลงมัสคิลของดาวิด
ยามที่ชาวศิฟไปบอกกษัตริย์ซาอูลว่า “ดาวิดซ่อนตัวอยู่ในหมู่พวกเราไม่ใช่หรือ?” (1 ซามูเอล 26:1)

ดาวิดถูกตามล่า คำอธิษฐานขอการช่วยกู้
1  โอ พระเจ้า ขอพระองค์ทรงช่วยข้าโดยพระนามของพระองค์
และขอทรงแก้แทนข้าด้วยฤทธิ์ของพระองค์​
2 โอ พระเจ้าขอทรงฟังคำอธิษฐานของข้า
ขอทรงเอียงพระกรรณฟังคำทูลขอจากปากของข้า 
3 เพราะหมู่คนแปลกหน้าได้ลุกขึ้นต่อต้านข้า
คนที่ไร้ความเมตตากำลังตามล่าชีวิตข้า
พวกเขาไม่เห็นพระองค์ในสายตาเลย เซ ลาห์

ขอหวังและวางใจในพระเจ้า
4  ดูเถิด พระเจ้าทรงเป็นผู้ช่วยของข้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่กับผู้ที่ค้ำจุนชีวิตของข้า 
5 พระองค์จะทรงตอบศัตรูของข้าด้วยความชั่วของพวกเขา พระองค์จะทรงจัดการให้พวกเขาถึงจุดจบด้วยความซื่อตรงของพระองค์

ขอบพระคุณสำหรับคำตอบ
6 ข้าจะถวายเครื่องบูชาตามใจสมัครแด่พระองค์
โอ พระยาห์เวห์ ข้าจะถวายคำขอบคุณแด่พระนามของพระองค์ เพราะเป็นสิ่งดีที่จะทำเช่นนั้น
7 เพราะพระองค์ทรงช่วยกู้ข้าให้พ้นจากความทุกข์ยากทั้งสิ้น
และดวงตาของข้าจะเห็นชัยชนะเหนือศัตรูทั้งหลาย  

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 20:1; กิจการ 4:12

2* สดุดี 130:2; 143:7

3*สดุดี 86:14; 36:1

4*สดุดี 118:6-7; อิสยาห์ 41:10

5* สดุดี 143:12; 89:49

6*สดุดี 116:17; 52:9

7* สดุดี 59:10

สดุดี 54:1-3 ดาวิดถูกตามล่า คำอธิษฐานขอการช่วยกู้
นึกถึงดาวิดที่ถูกกษัตริย์ซาอูลตามล่า เป็นช่วงเวลาเดียวกับสถานการณ์ในสดุดี 52 ( 1 ซามูเอล 23 และ 26) ด้วยความทุกข์ใจนัก ดาวิดได้ทูลขอพระเจ้าทรงแก้ต่างแทน เพราะแม้ว่าท่านไม่ได้ทำผิด แถมยังช่วยเมืองเคอีลาห์ไว้ ท่านได้ไว้ชีวิตกษัตริย์ซาอูล แต่ก็ยังถูกถือว่าเป็นคนทรยศต่ออิสราเอล ดาวิดทูลขอพระเจ้าในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นผู้พิพากษา ขอให้พระองค์ทรงประกาศว่า ท่านไม่ผิด
คำว่าคนแปลกหน้าตรงนี้ มีความหมายถึงคนที่ไม่ใช่อิสราเอล หรือ คนที่ละเมิดพันธสัญญาของพระเจ้า ขาวศิฟนี้จริง ๆ แล้วเป็นคนอิสราเอล ที่อยู่ในเผ่าเดียวกับดาวิดเสียด้วยซ้ำ

สดุดี 54: 4-5 ขอหวังและวางใจในพระเจ้า
ข้อสี่นี้ทำให้เราเห็นว่า พระเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางคนที่ช่วยเหลือดาวิด แสดงว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตที่ท่านมีคนช่วยนั้น พระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังการช่วยเหลือเหล่านั้น และข้อความนี้ก็เป็นจริงในชีวิตเราเช่นเดียวกับดาวิด
ด้วยความซื่อตรงต่อพระสัญญาของพระองค์ พระองค์จะทรงจัดการศัตรูของผู้ที่วางใจในพระองค์อย่างแน่นอน

สดุดี 54:6-7 ขอบพระคุณสำหรับคำตอบ
ดาวิดถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าจากหัวใจจริงของท่าน ไม่ใช่ถวายตามกฎที่มีอยู่ ที่ทำเช่นนั้นเพราะพระเจ้าทรงช่วยกู้ให้ท่านพ้นความทุกข์ยาก ท่านขอบคุณทันทีที่ขอจากพระเจ้า เราไม่ทราบว่า การช่วยเหลือนั้นเกิดขึ้นหรือยัง แต่จากบริบท ดูเหมือนว่า ท่านขอบคุณด้วยความเชื่อ แม้ว่าจะได้รับแล้วหรือไม่ เราจะเห็นว่า ดาวิดมีชีวิตแบบแขวนบนเส้นด้ายตลอด แต่แล้ว พระเจ้าทรงให้ท่านปลอดภัยเสมอ

ภาพ “Der Psalter,” woodcut from illustrated German Bible, by Rudolf Schafer (1929).