คำแนะนำเรื่องวันเสด็จกลับมา
เรื่องการเสด็จมา ขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา และการที่เราจะถูกรวบรวมไปกับพระองค์นั้น เราขอร้องพี่น้องว่า อย่าหวั่นไหว ไม่ว่าท่านจะได้ยินคำ คำพูดหรือจดหมายที่เหมือนมาจากเราว่า วันนั้นมาถึงแล้ว อย่าให้ใครมาหลอกลวงท่านได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดเพราะวันนั้น จะไม่มาถึงจนกว่าเกิดการ กบฎต่อพระเจ้า และมนุษย์บาปได้ปรากฏตัวคนนี้คือ ลูกแห่งความพินาศ
2 เธสะโลนิกา 2:1-3
มาระโก 13:21, 1 ยอห์น 4:1-2, 2 เปโตร 2:1-3, เอเฟซัส 5:6, ดาเนียล 7:25
คนอื่นหลอกเราได้ หากเราไม่รู้ว่า พระคัมภีร์บอกอะไรไว้ มีคนหลอกว่า พระเยซูจะเสด็จมา ในปีนั้น เดือนนี้ และคนก็เชื่อ ทั้ง ๆ ที่พระเยซูเองตรัสว่า ไม่มีใครรู้ว่า วันนั้นจะมาถึงเมื่อใด ดังนั้นที่สำคัญคือคือ เราต้องรู้จักพระคัมภีร์ แล้วจะไม่โดนใครหลอกได้เลย …
เขาคนนี้จะต่อต้าน และยกตนเหนือทุกสิ่งที่เรียกว่าพระ หรือสิ่งใด ๆ ที่คนนมัสการ เพื่อตนเองจะได้นั่งในพระวิหารของพระเจ้า และแสดงตัวว่าเขาเป็นพระเจ้า ท่านจำไม่ได้หรือว่า ตอนที่ข้าอยู่กับท่านข้าบอกเรื่องนี้ให้ท่านทราบแล้ว
2 เธสะโลนิกา 2:4-5
เอเสเคียล 28:2, ดาเนียล 7:25,11:36 วิวรณ์ 13:6-7,
เหตุการณ์อย่างที่กล่าวมานั้น เป็นเหตุการณ์พิเศษก่อนการเสด็จมาจริง ๆ เป็นการขัดขืน ต่อต้านพระเจ้าครั้งรุนแรงที่สุด และจะรู้ ไปทั่วอย่างรวดเร็ว ชายผู้ที่ทำเรื่องนี้ ท่านเปาโลเรียกเขาว่า “มนุษย์บาป” หรือ”คนนอกกฎหมาย” เราต้องคอยสังเกตเหตุการณ์ของโลกมีการคาดเดาว่าคนนั้น คนนี้ แต่เราจะเห็นชัดว่าใครเป็นใครเมื่อเขาท้าทายพระเจ้าชัด ๆ
และท่านก็รู้ว่า อะไรได้หน่วงเหนี่ยวมันไว้ เพื่อว่ามันจะปรากฏตัวในเวลาของมัน
เพราะอำนาจนอกกฎหมายเริ่มทำงานไปแล้ว
แต่มีผู้คอยหน่วงเหนี่ยวมันอยู่ จนกว่าท่านจะออกพ้นทางไป
2 เธสะโลนิกา 2:6-7
2 เธสะโลนิกา 2:3,8, 1 ยอห์น 2:18
มนุษย์บาปผู้เป็นปฏิปักษ์พระคริสต์นั้น
ไม่ได้ทำอะไรได้ตามใจ แต่มีบุคคลหนึ่งที่ยั้งมันไว้ไม่ให้ทำอะไรตามใจชอบจนกว่าจะถึงเวลาของมัน 2 ยอห์น 2:18 มีผู้ต่อต้านเหล่านี้หลายคน พระเจ้าทรงยับยั้ง หน่วงเหนี่ยวบาปของโลกไว้ไม่ให้หนักไป
กว่านี้ด้วยพระวิญญาณของพระองค์ แม้มีคนแปลความหมายของข้อนี้หลายทาง เบื้องต้นที่เราควรเข้าใจคือว่า หากผู้ที่ หน่วงเหนี่ยวนี้ออกไปพ้นทางมารเมื่อไรโลกก็จะทุกข์ยากกว่านี้หลายเท่า
แล้วมนุษย์บาปผู้นั้นจะปรากฏตัวขึ้น และพระเยซูเจ้าจะทรงสังหารมัน ด้วยลมจากพระโอษฐ์ของพระองค์ จะทรงผลาญมันให้สิ้นสูญไปด้วยการที่พระองค์เสด็จมาปรากฏ
2 เธสะโลนิกา 2:8
ดาเนียล 7:10, อิสยาห์ 11:4, วิวรณ์ 2:16,19:15, ฮีบรู 10:27
ถึงแม้มนุษย์บาปผู้นี้มีอำนาจมาก แต่ท่านเปาโลบอกล่วงหน้าให้เราใจชื้นขึ้นว่า เขาจะถูกพระเยซูกำจัดให้สูญไปด้วยการเสด็จมาของพระองค์ เขาไม่อาจถูกทำลายด้วยผู้ใดที่เป็นมนุษย์ องค์กรใด ๆ กองทัพใด ๆ แต่ด้วยลมจากพระโอษฐ์ของพระเยซูเท่านั้น วิวรณ์ 19:19-20
ลักษณะและวิธีการของมนุษย์บาป
มนุษย์บาปนั้น มาจากซาตานพร้อมกับฤทธิ์เดชและหมายสำคัญและการอัศจรรย์ปลอม รวมถึงอุบายเล่ห์เหลี่ยมทุกอย่าง เพื่อผู้คนที่จะพินาศ เพราะพวกเขาไม่ยอมที่จะรักความจริง เพื่อว่าพวกเขาจะรอดได้
2 เธสะโลนิกา 2:9-10
ยอห์น 8:41, ฉธบ. 13:1, 2 โครินธ์ 2:15, 1 โครินธ์ 16:22
มนุษย์บาป มีอำนาจมากจากมาร วิวรณ์ 13:7 มันต่อสู้กับคนของพระเจ้า :17 มันต้องการให้คนเชื่อ ติดตาม หลงว่ามันคือผู้ช่วยโลกให้รอด ทุกอย่างที่มันทำนั้น เป็นการลวงหน้าตาย เพราะแม้คนรู้ว่ามันโกหกก็ยังเชื่อ ไม่ต่างอะไรจากการเชื่อข่าวปลอม ที่เชื่อเพราะพอใจที่จะเชื่อ
ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงส่งความหลงใหล มายังคนที่เชื่อความเท็จ เพื่อว่าทุกคนที่ไม่เชื่อความจริงแต่พอใจกับความอธรรม จะถูกพิพากษา
2 เธสะโลนิกา 2:11-12
โรม 1:28,1:32, 1 ทิโมธี 4:1, 1 โครินธ์ 13:6
ตอนแรกก็หลงเชื่อสิ่งที่มุสาก่อน สิ่งที่มนุษย์บาปได้หลอกไว้ พวกเขาก็เชื่ออย่างง่ายดาย ที่น่าสนใจในข้อนี้คือ เขามีความพอใจในความอธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้น มีความสุขกับสิ่งนั้น และอ้างสิ่งที่ผิดต่อพระเจ้า เป็นความถูกต้องทั้งหมด พระเจ้าจึงส่งความหลงใหลมาให้ และในโลกปัจจุบันเราจะเห็นเรื่องนี้ชัดเจนมาก
คำหนุนใจผู้เชื่อยุคสุดท้าย
พี่น้องที่พระเจ้าทรงรัก
เราควรที่จะขอบพระคุณสำหรับท่านเสมอเพราะพระเจ้าทรงเลือกท่านให้เป็นผลแรกของคนที่จะได้รับความรอดผ่านการชำระให้สะอาดโดยพระวิญญาณและการที่ท่านเชื่อในความจริง
2 เธสะโลนิกา 2:13
เอเฟซัส 1:4 , 1 เธสะโลนิกา 4:7, 1 เปโตร 1:2
เราจะเห็นชัดจากข้อนี้ว่าการรับความรอดประกอบด้วยชีวิตที่ได้รับการชำระจากพระเจ้าเห็นได้จากชีวิตที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี และมีการเชื่อในข่าวประเสริฐ หากคนใดบอกว่าเขามีความเชื่อ แต่ชีวิตเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ เวลาผ่านไป เขาก็ยังไม่เปลี่ยน… แม้จะทำกิจกรรมต่าง ๆ มีการรับใช้เหมือนผู้เชื่อ หากใจยังดำ มืด ดึงดัน เท่ากับยังไม่มีการชำระจากพระวิญญาณจริง
พระองค์ทรงเรียกท่านผ่าน
พระกิตติคุณมาสู่สิ่งที่เรากล่าวมา
เพื่อว่าท่านจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์
ของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา
ขอให้พี่น้องทั้งหลายยืนอย่างมั่นคง และยึดคำสอนที่เราได้สอนท่านไว้ ไม่ว่าผ่านทางคำพูดหรือจดหมาย 2 เธสะโลนิกา 2:14-15
1 เปโตร 5:10, 1 โครินธ์ 16:13, 11:2, โรม 6:17, 2 เธสะโลนิกา 3:6, ยูดา 3
พระคำข้อนี้ บอกเราว่า เราจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเยซู พระเจ้าทรงให้สิ่งที่มากเกินที่เราจะคาดได้ นอกจากมีชีวิตนิรันดร์ แล้ว ยังมีศักดิ์ศรีที่ยอดเยี่ยมที่สุดด้วยชีวิตคริสเตียนที่เข้มแข็งคือต้องมั่นคงในพระวจนะของพระเจ้า
บัดนี้ ขอให้พระเยซูคริสต์เจ้า และพระเจ้าพระบิดาของเรา ผู้ทรงรักเราและทรงให้พลังใจนิรันดร์ รวมทั้งความหวังอันดีที่มาจากพระคุณ โปรดทรงให้ท่านอบอุ่นใจและทรงให้ท่านมั่นคงทั้งในการกระทำดีและคำพูดที่ดีทุกอย่าง
2 เธสะโลนิกา 2:16-17
วิวรณ์ 1:5 , ทิตัส 3:7, 1 เปโตร 1:3, 1 โครินธ์ 1:8
ท่านเปาโลอธิษฐานขอพระเจ้าเพื่อชาวเธสะโลนิกา เป็นตัวอย่างสำหรับเราที่จะอธิษฐานเผื่อผู้อื่นที่เราห่วงใย สองอย่างที่สำคัญคือ ขอพระเจ้าทรงปลอบใจ และให้พวกเขามั่นคงทั้งคำพูดและการกระทำ เป็นการขอที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ