สุภาษิต 6 ชีวิตหลายด้านที่ต้องระวัง

เตือนว่าอย่าสัญญาแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง

1 ลูกเอ๋ย หากเจ้าได้เอาตัวไปค้ำประกันให้เพื่อนบ้านของเจ้า
หากเจ้าให้คำสัญญากับคนแปลกหน้า 
2 หากเจ้าติดกับคำจากริมฝีปากของเจ้าเอง
และติดบ่วงด้วยคำจากปากของเจ้า

3 เจ้าจงทำสิ่งนี้ เพื่อปลดปล่อยตนเอง
ในเมื่อเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของเพื่อนบ้าน
ไปสิ ถ่อมตัวลงเสีย และอ้อนวอนขอร้องเขา
4 อย่าปล่อยให้ตาของเจ้าหลับ
อย่าปล่อยให้เปลือกตาปิดลงมา
5 จงช่วยตัวเองให้รอด
เหมือนกับกวางที่หนีจากเงื้อมมือของนายพราน
เหมือนกับนกที่หนีจากกับดักของนักล่านก



ดูมดเป็นตัวอย่าง
6 โอ เจ้าคนสันหลังยาว
จงไปทำตามอย่างมด
ให้เจ้าสังเกตทางของมันและจงฉลาดขึ้น
7 มันไม่มีผู้บัญชาการ
ไม่มีใครมาควบคุม ไม่มีใครปกครอง
8 แต่มันเตรียมอาหารไว้ในฤดูร้อน
มันรวบรวมอาหารในฤดูเก็บเกี่ยว
9 เจ้าจะนอนอยู่ตรงนั้นอีกนานเท่าไร?
เจ้าคนสันหลังยาว เมื่อไรเจ้าจะลุกขึ้นจากหลับ?
10 นอนอีกนิด ง่วงอีกหน่อย
กอดอกนอนอีกสักประเดี๋ยว
11 แล้วความยากจนจะโถมเข้ามาหาเจ้าเหมือนขโมย
ความขัดสนจะเข้ามาหาเจ้าอย่างโจร

ระวังคนแบบนี้ อย่าเข้าไปใกล้
12 คนไร้ค่า คนชั่วร้าย ใช้ชีวิตด้วยปากที่พูดวกวน
13 เขาขยิบตา เขาขยับเท้า และชี้นิ้วควบคุม
14เขาวางแผนทำสิ่งชั่วร้ายจากใจคด
และหว่านการแตกร้าวไม่หยุดหย่อน
15 ดังนั้น ความหายนะจะมาถึงเขาอย่างทันควัน
เขาจะแตกแหลกไป โดยไม่อาจรื้อฟื้นคืนมาได้

สิ่งที่พระเจ้าทรงชัง 7 อย่าง
16 มีหกสิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงชัง
เจ็ดสิ่งที่ทรงรังเกียจ คือ
17 สายตาที่เย่อหยิ่ง ลิ้นที่พูดปด
มือที่ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องหลั่งเลือด
18 ใจที่วางแผนชั่วร้าย
เท้าที่วิ่งไปทำความชั่ว
19 พยานเท็จที่ให้การเท็จ
และคนที่หว่านความแตกร้าวในหมู่พี่น้อง

เตือนว่าอย่าผิดประเวณี
20 ลูกของเราเอ๋ย จงรักษาคำสั่งของพ่อ
และอย่าละทิ้งคำสอนของแม่
21จงจารึกมันไว้บนใจของเจ้า ผูกมันไว้รอบคอของเจ้า
22 เมื่อเจ้าเดินไป มันจะนำทางให้เจ้า
เมื่อเจ้านอนลง มันจะเฝ้าเจ้าไว้ เมื่อเจ้าตื่นขึ้น มันจะพูดกับเจ้า
23 เพราะคำสั่งนี้เป็นเหมือนตะเกียงและคำสอนเป็นแสงสว่าง
คำเตือนสอนให้มีวินัยเป็นหนทางแห่งชีวิต
24 มันจะช่วยเจ้าให้พ้นจากหญิงชั่ว
จากลิ้นอ่อนหวานของหญิงเล่นชู้

คำเตือนในระดับต่อไป
25 อย่าให้ใจของเจ้าเฝ้าฝันถึงความงามของเธอ
อย่าให้ตัวเองตกเป็นทาสเพราะสายตาของเธอ
26 เพราะหญิงแพศยานั้นพอใจแลกตัวกับอาหารมื้อเดียว
และหญิงเล่นชู้จะตามไล่ล่าชีวิตของเจ้า
27 ชายคนหนึ่งจะกอดไฟไว้ในอก
โดยที่เสื้อผ้าไม่ไหม้ได้หรือ?
28 ชายคนหนึ่งจะเดินบนถ่านไฟ
โดยที่เท้าของเขาไม่ไหม้ได้หรือ?
29 ชายใดที่ไปนอนกับภรรยาของผู้อื่นก็เป็นเช่นนี้
ใครที่แตะต้องเธอจะหนีการลงโทษไปไม่ได้


สิ่งที่ได้ตอบแทนจากการเล่นชู้
30 ผู้คนยังไม่ดูหมิ่นคนขโมยหากเขา
จำต้องขโมยเพราะหิวโหย
31 แต่หากถูกจับได้ เขาจะต้องใช้คืนเจ็ดเท่า
อาจจะต้องยกทุกอย่างที่มีในบ้านให้
32 คนที่ล่วงประเวณีนั้นเป็นคนไม่รู้จักคิด
การทำเช่นนั้นเป็นการทำลายชีวิตของตนเอง

33 สิ่งที่ได้รับคือบาดแผลและความอัปยศ
และไม่อาจลบทิ้งความอับอายไปไปได้
34 เพราะความหึงหวงจะทำให้สามีโกรธเกรี้ยว
และเขาจะไม่แสดงความปราณีในวันแห่งการแก้แค้น
35 เขาจะไม่ยอมรับค่าชดใช้ใด ๆ
แม้ว่าคนที่ทำผิดจะให้ทรัพย์สมบัติอย่างมากมาย

คำอธิบายเพิ่มเติม

สุภาษิต 6:1-5
เตือนว่าอย่าสัญญาแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง
ในสมัยของโซโลมอนนั้น คนที่ไปค้ำประกันให้กับเพื่อนที่ไว้ใจไม่ได้ อาจจะต้องเสียทั้งหมดที่มี ครอบครัวด้วย และต้องกลายเป็นทาสของเจ้าหนี้
ในสมัยนี้ก็เช่นกัน อย่าได้ใจดีกับความรับผิดชอบที่เราไม่อาจรับได้ เพราะมันจะทำให้ชีวิตพังไปได้ เราเจอมาเยอะแล้วที่รักเขาแล้วช่วยประกันให้เขา แต่แล้วเขาก็หักหลังไม่ใยดี กลายเป็นเราต้องใช้หนี้ไปตลอดชีวิต ที่แย่กว่านั้นคือ ใจขมขื่นก็จะหยั่งรากลงไป หลายคนถึงกับพยายามฆ่าตัวตาย แต่เมื่อเราพลาดไปแล้ว สิ่งที่ต้องรีบทำสุด ๆ คือการไปเจรจาต่อรอง ไม่ใช่อยู่เฉย ๆ รอให้เรื่องบานปลาย นี่เป็นนิสัยของคนที่จะเอาตัวรอดได้ คือ ต้องจัดการกับประเด็นต่าง ๆ ให้จบแต่ต้นทาง

สุภาษิต 6:6-11
ดูมดเป็นตัวอย่าง
กษัตริย์โซโลมอน ทรงสั่งให้คนเกียจคร้านไปสังเกตว่า มดใช้ชีวิตอย่างไร เพราะท่านเห็นคนไม่น้อยที่ขี้เกียจสันหลังยาว มีนิสัยไม่ยอมทำงาน เอาแต่เผาเวลาแต่ละวันให้หมดไปโดยไม่ได้เห็นคุณค่าของเวลา หากคนเกียจคร้านยอมให้มดสอน ชีวิตของเขาก็จะดีขึ้น… แปลกจัง กษัตริย์ผู้ทรงปัญญา ทรงให้คนไปเรียนจากเจ้ามดตัวน้อย

สุภาษิต 6:12-15
ระวังคนแบบนี้ อย่าเข้าไปใกล้
การคบคนที่วาจาร้าย มุสา วกวน มีใจที่คอยวางแผนชั่ว คนที่คอยหว่านความแตกร้าวในหมู่เพื่อนฝูง ในครอบครัว ในหมู่บ้าน หรือแม้แต่ประเทศชาติ คนเหล่านั้น อาจคิดว่า ตนเองมือหนึ่ง อยู่เหนือคนอื่น แต่พระราชาผู้ปกครองประเทศที่เขียนสุภาษิต ทรงบอกชัดว่า แล้วพวกเขาจะเจอจุดจบอย่างไร

สุภาษิต 6:16-19
สิ่งที่พระเจ้าทรงชัง 7 อย่าง
สังเกตไหมว่า ความยุ่งยากในโลกปัจจุบันนี้มันเกิดขึ้นอย่างไร เริ่มจากสงครามจากนั้น ก็แบ่งฝ่ายเป็นขั้ว ๆ ในโลกนี้ ทั้งหมดเกิดจากนิสัยเจ็ดอย่างของมนุษย์ที่กษัตริย์โซโลมอนเรียงรายการเอาไว้ คนที่หว่านความแตกร้าย และพยานเท็จจะเป็นคนที่กระพือให้ความโกลาหลในโลกของเรายิ่งวุ่นวายมากขึ้นไปอีก เราแทบไม่ต้องไปค้นหาที่ไหนเลย สงครามความแตกร้าวอยู่ต่อหน้าต่อตาของเราทุกหัวระแหง

สุภาษิต 6:20-24
เตือนว่าอย่าผิดประเวณี
จากนั้น องค์กษัตริย์ได้หันมาพูดกับชายหนุ่มโดยตรงว่า การฟังคำของพ่อแม่จะทำให้พ้นจากเรื่องทางเพศ ท่านไม่ได้ขอให้เขาแค่ฟังเฉย ๆ แต่ขอให้จำในใจ คิดใคร่ครวญเสมอ ยามตื่น ยามหลับ ก็ให้คำสอนดี ๆ เป็นแสงสว่างนำทางชีวิต

สุภาษิต 6:25-29
คำเตือนในระดับต่อไป
องค์กษัตริย์ทรงทราบดีว่า หากชายคนหนึ่งไปหลงผู้หญิงเข้าให้แล้วจะเกิดอะไรในใจของเขา เพราะท่านเองได้ตกอยู่ในสภาพนั้นมาก่อน
การที่เล่นกับไฟแบบนี้ ตอนเล่นอยู่นั้น มันสนุก ท้าทาย เย้ายวน แต่แล้วมันก็กลายเป็นเหมือนนรกในเวลาต่อมา เพราะโทษรออยู่ข้างหน้า ท่านได้กล่าวถึงทั้งการเล่นชู้และการเที่ยวเล่นกับหญิง ในสมัยของเราวันนี้ เรื่องที่ท่านกล่าวไม่เจาะจงชายหญิงแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องที่ชุลมุนมาก เพศสภาพที่พยายามสร้างกันขึ้นมา ทำให้เรื่องแบบนี้ซับซ้อนขึ้นไปอีก

สุภาษิต 6:30-35
สิ่งที่ได้ตอบแทนจากการเล่นชู้
ไม่ว่าอะไรที่กษัตริย์โซโลมอนได้เตือนเอาไว้ในโลกโบราณ ผ่านมาหลายพันปี ความจริงก็ยังคงเป็นอย่างนั้น ไม่เฉพาะความอับอายที่เกิดขึ้นกับตน แต่มีพ่อเป็นจำนวนมากที่ทิ้งลูก ๆ ไปเพื่อหาความสุขส่วนตน จำนวนของครอบครัวที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยวมากขึ้นจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไปแล้ว แต่ทั้งหมด มันก็เกิดจากการทำตามใจปรารถนาของตนเอง … เสียดายเด็ก ๆ ที่ขาดพ่อหรือแม่ไปโดยไม่จำเป็น และทำให้พวกเขาเติบโตมาอย่างยากขึ้นไปอีก

พระคำเชื่อมโยง

1* สุภาษิต 11:5
4* สดุดี 132:4
6* โยบ 12:7
9* สุภาษิต 24:33-34
11* สุภาษิต 10:4
13* โยบ 15:12
14* มีคาห์ 2:1; สุภาษิต 6:19

15* อิสยาห์ 30:13; เยเรมีย์ 19:11; 2 พงศาวดาร 36:16
17* สดุดี 101:5; 120:2; อิสยาห์ 1:15
18* ปฐมกาล 6:5; อิสยาห์ 59:7
19* สดุดี 27:12; สุภาษิต 6:14
20* เอเฟซัส 6:1
21* สุภาษิต 3:3
22* สุภาษิต 3:23; 2:11

23* สดุดี 19:8
24* สุภาษิต 2:16
25* มัทธิว 5:28
26* สุภาษิต 29:3
31* อพยพ 22:1-4
32* สุภาษิต 7:7
34* บทเพลงโซโลมอน 8:6

2 โครินธ์ 3 เสรีภาพในพระวิญญาณ

2 โครินธ์ 3:1
นี่เรากำลังจะต้องแนะนำตัวเองอีกหรือ? หรือว่า เราต้องมีจดหมายรับรองมาให้ท่าน หรือว่า ต้องมีจดหมายรับรองมาจากท่าน อย่างที่บางคนเขาทำอยู่?
2 โครินธ์ 3:2-3
พวกท่าน เป็นจดหมายรับรองที่เขียนไว้ในใจของเรา ให้ทุกคนได้รู้ ได้อ่านพวกท่านเป็นจดหมายจากพระคริสต์ส่งออกไปโดยพวกเรา ซึ่งไม่ได้เขียนด้วยหมึก แต่ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ไม่ได้เขียนบนแผ่นหินแต่จารึกไว้บนแผ่นหัวใจมนุษย์


2 โครินธ์ 3:4-5
เรามีความมั่นใจอย่างนี้ในพระเจ้าผ่านองค์พระคริสต เราไม่อาจจะอ้างได้ว่า ความสามารถนั้นมาจากตัวเราเอง แต่ความสามารถทั้งหมดมาจากพระเจ้า
2 โครินธ์ 3:6
ผู้ทรงทำให้เรามีศักยภาพที่จะเป็นผู้รับใช้ของพันธสัญญาใหม่ที่ไม่ได้มาจากข้อบัญญัติ แต่มาจากพระวิญญาณ เพราะบัญญัตินั้น นำความตายมาแต่พระวิญญาณประทานชีวิต


2 โครินธ์ 3:7-8
แต่หากบัญญัติที่จารึกบนแผ่นหินซึ่งนำความตายมาให้นั้น ยังนำมาซึ่งสง่าราศี
ทำให้คนอิสราเอลไม่อาจมองดูใบหน้าที่เต็มด้วยรัศมีของโมเสสได้ ทั้งที่จางลงไปแล้วการปรนนิบัติรับใช้ตามพระวิญญาณจะไม่มีสง่าราศียิ่งกว่านั้นหรือ?

2 โครินธ์ 3:9-10
เพราะหากว่า การปรนนิบัติรับใช้ที่นำมาซึ่งการกล่าวโทษ ยังมีสง่าราศี
การปรนนิบัติรับใช้ที่ให้ความเที่ยงธรรมจะมีสง่าราศีกว่านั้นสักเท่าใด? ความจริงคือ สิ่งที่เคยมีสง่าราศี บัดนี้ไร้สง่าราศีเพราะถูกสง่าราศีที่สว่างสุกใสกว่ามาปิดบัง
2 โครินธ์ 3:11
เพราะหากว่าสิ่งที่จางหายไปได้ยังมีสง่าราศีมากขนาดนี้ สิ่งที่ยั่งยืนจะยิ่งมาพร้อมกับสง่าราศีที่สว่างสุกใสกว่าขนาดไหน



2 โครินธ์ 3:12-13
ดังนั้น ในเมื่อเรามีความหวังเช่นนี้ เราจึงกล่าวออกมาด้วยใจกล้าเราไม่เป็นเหมือนโมเสสผู้ที่ต้องใช้ผ้าคลุมศีรษะเพื่อไม่ให้คนอิสราเอลจ้องมองไปยังสง่าราศีที่กำลังจางหายไป
2 โครินธ์ 3:14
แต่ในเวลานั้น ใจของเขาแข็ง ปิดตายเพราะจนกระทั่งถึงวันนี้ เมื่อพวกเขาได้ยินคำอ่านจากพันธสัญญาเดิม ผ้าคลุมนั้นก็ยังปิดใจเขาอยู่ ผ้าคลุมไม่ได้ถูกเปิดออก เพราะว่ามีพระคริสต์เท่านั้นที่จะช่วยให้ผ้าคลุมเปิดออกได้

2 โครินธ์ 3:15-16
แต่จนกระทั่งวันนี้ เมื่อไรมีการอ่านสิ่งที่โมเสสบันทึกไว้ ก็ยังมีผ้าคลุมปิดบังใจของพวกเขา แต่เมื่อคนหันเข้าหาองค์พระผู้เป็นเจ้า ผ้าคลุมนั้นก็ถูกเปิดออก
2 โครินธ์ 3:17
พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณและที่ใดมีพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าที่นั่นก็มีเสรีภาพ
2 โครินธ์ 3:18
และเราทุกคนกำลังรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ให้เหมือนพระฉายของพระองค์โดยมีสง่าราศีขึ้นเป็นลำดับมากขึ้นไปเหมือนอย่างสง่าราศีที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นพระวิญญาณ

คำอธิบายเพิ่มเติม

2 โครินธ์ 3:1
ท่านเปาโลกำลังบอกให้รู้ถึงความจริงใจของท่านในการรับใช้พี่น้องในเมืองโครินธ์ ทั้งนี้เป็นเพราะมีคนงานปลอม ครูสอนผิดที่พยายามโจมตี ทำให้คน
ไม่เชื่อถือเปาโล ท่านจึงตั้งคำถามสองอย่างชัด ๆคือต้องให้ท่านมีจดหมายรับรองเหมือนกับผู้รับใช้ทั่วไปในสมัยคริสตจักรเริ่มแรก ที่ส่วนใหญ่จะมี
จดหมายรับรองมาจากผู้ที่เชื่อถือได้ และครูสอนผิดเหล่านี้ก็มักเขียนจดหมายรับรองตนเองเพื่อให้ตัวเองน่าเชื่อถือ
2 โครินธ์ 3:2-3
ชีวิตของพี่น้องเป็นจดหมายจากพระคริสต์แท้ ๆไม่ต้องใช้ตัวหนังสือเขียน แต่การเปลี่ยนชีวิตอย่างมหัศจรรย์ พระเจ้าทรงเป็นผู้เขียนลงในหัวใจของ
มนุษย์ ดังนั้น จดหมายจากชีวิตของพี่น้องจึงเป็นพยานให้เห็นว่า ท่านเป็นอัครทูตของแท้พระเจ้าเคยตรัสว่า ทรงเขียนบัญญัติของพระองค์ไว้
ในใจของมนุษย์ ในเยเรมีย์ 31:33 ที่ท่านต้องย้ำเรื่องนี้ก็เพราะว่า ครูสอนผิดจะเน้นให้คนทำตามบัญญัติเพื่อจะได้รับความรอด”
2 โครินธ์ 3:4-5
ท่านเปาโลมั่นใจว่าพระคริสต์จะเป็นผู้ทำให้งานเปลี่ยนชีวิตพี่น้องนี้ เกิดผลเป็นที่ประจักษ์ดู 2:16 ใครจะเหมาะกับงานรับใช้นี้ นอกจากพวกเราที่ประกาศอย่างจริงใจด้วยการพึ่งพระเจ้า ต่อพระพักตร์พระองค์ พระเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้คนหนึ่งมีความสามารถรับใช้พระองค์ได้ ท่านเปาโลรู้ดี
เพราะฉะนั้น เมื่อพระเจ้าทรงใช้เรา เราจึงมั่นใจได้ว่าพระเจ้าจะประทานความสามารถให้เพียงพอกับงานนั้น ดู 2 เธสะโลนิกา 2:13
2 โครินธ์ 3:6
พันธสัญญาใหม่..คือพันธสัญญาที่พระเจ้าอภัยบาปเราผ่านการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู มัทธิว 26:28 พันธสัญญาใหม่โดยพระวิญญาณนี้ มีความสำคัญที่เราต้องเข้าใจ เพราะที่ว่าบัญญัตินำความตายก็คือ บัญญัติแค่บอกเราว่า ความถูกต้อง และความผิดคืออะไร แต่บัญญัติไม่ได้ให้พลังที่เราจะทำตามได้อย่างครบถ้วน ยิ่งอ่านบัญญัติยิ่งชี้ให้เห็นว่าเราไม่อาจเป็นคนชอบธรรมเต็มร้อยได้เลย บัญญัติจึงบอกเราว่า เราสิ้นหวัง
2 โครินธ์ 3:7-8
ขนาดบัญญัติที่นำความตาย ยังทำให้ใบหน้าของโมเสสเต็มด้วยราศีในเวลาที่เขาไปรับบัญญัติจากพระเจ้าบนภูเขาซีนาย (อพยพ 19:10-25) ที่
เป็นเช่นนั้นเพราะโมเสสได้อยู่กับพระเจ้านานจนหน้าของเขาสะท้อนพระสง่าราศีของพระองค์ เจิดจ้าจนคนทนมองไม่ได้ เช่นเดียวกับที่เราจ้องมอง
ดวงอาทิตย์ไม่ได้ แต่การรับใช้ตามพระสัญญาใหม่โดยพระวิญญาณนั้น มีราศีที่ทำให้มนุษย์ได้รับความเที่ยงธรรมจากพระเจ้า เป็นสิ่งที่เหนือบัญญัติ
2 โครินธ์ 3:9-10
ตรงนี้เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง การรับใช้ตามบัญญัติ กับการรับใช้โดยพระวิญญาณ ว่าการรับใช้ทั้งสองแบบต่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี แต่มีไม่เท่ากัน
เพราะบัญญัติทำให้เราตาย แต่พระวิญญาณทรงทำให้คนเรามีชีวิต มีเกียรติ ศักดิ์ศรีมากเกินกว่าคนที่เอาแต่ติดตามบัญญัติ และท่านเปาโลก็
เห็นว่า บัญญัตินั้น แม้เคยเป็นที่นับถือว่าเป็นหนึ่ง ก็ด้อยกว่าการรับใช้พระเจ้าโดยพระวิญญาณมากนัก
2 โครินธ์ 3:11
สง่าราศีที่จางหายไปของกฎบัญญัติหรือพูดให้ชัดคือพันธสัญญาเดิมที่พระเจ้าประทานให้ก่อนที่พระองค์จะประทานพันธสัญญาใหม่โดยพระเยซูคริสต์เพราะว่า พระเยซูคริสต์ผู้ที่มาพร้อมกับพันธสัญญาใหม่นั้น ทรงฤทธานุภาพให้ชีวิตนิรันดร์ แก่ทุกคนที่เชื่อในพระองค์ เปรียบได้กับเราจุดเทียนในสวนมืด เทียนนั้นสว่างในความมืดจริง ๆ แต่เมื่อเช้ามา แสงอาทิตย์ก็จะทำให้แสงของเทียนหมดความหมายไปเลย ….​นี่คือสิ่งที่ท่านเปาโลต้องการสื่อ
2 โครินธ์ 3:12-13
เรามีความหวังที่ว่า เรามีพันธสัญญาที่สว่างสุกใสกว่าธรรมบัญญัติที่ชาวยิวยึดถืออย่างเคร่งครัดท่านเปาโลจึงมีความกล้าที่จะบอกพี่น้องให้ทราบว่า
พันธสัญญาเดิมนั้นผูกมัดทำให้คนติดกับ และยังแยกพวกเขาออกจากพระเจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์ ไม่มีทางที่ทำให้เขาเป็นคนบริสุทธิ์ได้เลย มีแต่ความ
ผิดหวังเพราะไม่อาจเข้าใกล้พระเจ้าได้ พันธสัญญาใหม่โดยไม้กางเขนทำให้เราไปหาพระเจ้าได้เพราะพระเยซูทรงเป็นทางเดียวที่จะไปหาพระบิดา
2 โครินธ์ 3:14
ท่านเปาโลมั่นใจว่า พระเยซูคริสต์ทรงอยู่เหนือบัญญัติทั้งหลายในอดีต ท่านรู้ว่า คนยิวไม่เห็นว่างานรับใช้ของท่านโมเสสนั้นเทียบงานของพระเยซู
ไม่ติด ที่เป็นอย่างนั้นเพราะเวลาเขาอ่านพันธสัญญาเดิม พวกเขาก็ยังถือว่า พันธสัญญานั้นยิ่งใหญ่มากและพวกเขาก็ไม่ยอมรับพระเยซูพวกเขาควรมองที่พระเยซูได้แล้ว แต่ยังติดกับของความเป็นบัญญัติอยู่ ผ้าคลุมหน้าโมเสส กลายมาเป็นผ้าคลุมใจของพวกเขา ไม่ให้เห็นความจริง
2 โครินธ์ 3:15-16
“แม้จนกระทั่งวันนี้” ไม่ได้เป็นแค่ในสมัยท่านเปาโลเท่านั้น แต่หมายถึงปัจจุบันด้วย ที่คนอิสราเอลไม่ได้พบพระเยซูได้ง่าย ๆ เพราะมีบางอย่างที่ปิดบังใจ
เอาไว้ ทำให้เขาไม่อาจพบพระเยซูเลย คนโบราณติดที่บัญญัติ คิดว่า เขาจะรอดได้ด้วยการทำดีตามบัญญัติ ไม่ทำสิ่งชั่วที่บัญญัติห้าม โดยลืมว่าไม่มีใครสามารถทำดีได้เต็มร้อย แถมทุกคนยังเป็นคนบาปติดตัวมาแต่เกิดด้วย ส่วนคนสมัยใหม่ก็มีเหตุผลที่จะไม่เอาพระเจ้าแตกต่างไปอีก
2 โครินธ์ 3:17
เสรีภาพจากอะไร ? อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เราตกอยู่ในที่จองจำฝ่ายวิญญาณ? ลองคิดดูดี ๆ พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ พระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ องค์ตรีเอกานุภาพคือพระเจ้าองค์เดียวกัน คนที่ไม่มีพระวิญญาณของพระเจ้าเท่ากับชีวิตของเขาเป็น “ทาสบาป” อยู่ออกมาไม่ได้ อำนาจที่จะช่วยปล่อยเขาให้พ้นจากสภาพนั้นมายังพระสง่าราศีของพระเจ้าก็โดยผ่านองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์


2 โครินธ์ 3:18
การเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราจนเป็นเหมือนพระเจ้าขึ้นเป็นลำดับนั้น ไม่ได้เป็นเพราะนั่งเฉย ๆ อยู่นิ่ง ๆแต่การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเมื่อเราประกาศพระนาม แบ่งปันพระองค์ให้กับผู้อื่น เมื่อมีการเปิดเผยการสำแดงให้รู้จักพระเยซูคริสต์ ทั้งคนพูดและคนฟังก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อเราเปิดเผยพระเจ้าให้ผู้อื่นรู้ เมื่อมีการหลุดพ้นจากบาปด้วยความเชื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันด้วยฤทธิ์แห่งพระวิญญาณ

พระคำเชื่อมโยง

1* 2 โครินธ์ 5:12; 10:12, 18; 12:11; กิจการ 18:27
2* 1โครินธ์ 9:2
3* 1โครินธ์ 3:5; อพยพ 24:12; 31:18; 32:15 ; สดุดี 40:8
5* ยอห์น 15:5; 1โครินธ์ 15:10

6* 1โครินธ์ 3:5; เยเรมีย์ 31:31; โรม 2:27; กาลาเทีย 3:10; ยอห์น 6:63
7* โรม 7:10; อพยพ 34:1; 34:29
8* กาลาเทีย 3:5
9* โรม 1:17; 3:21
12* เอเฟซัส 6:19

13* อพยพ 34:33-35; กาลาเทีย 3:23
14* อิสยาห์ 29:10; กิจการ 28:26
16* โรม 11:23; อิสยาห์ 25:717* 1โครินธ์ 15:45; กาลาเทีย 5:1, 13
18* 1โครินธ์ 13:12; 2โครินธ์ 4:4, 6; โรม 8:29-30

พระคัมภีร์ใหม่ในพระคำ.คอม


มัทธิว 1 วันที่พระเยซูคริสต์มาบังเกิด
มัทธิว 2 ดวงดาวและความฝัน
มัทธิว 3 ทรงโปรดปรานท่านผู้นี้
มัทธิว 4 ทดสอบก่อนราชกิจ
มัทธิว 5 ชีวิตแบบแผ่นดินสวรรค์
มัทธิว 6 ทัศนคติที่แตกต่าง
มัทธิว 7 ทัศนคติตามน้ำพระทัย
มัทธิว 8 ผู้ทรงสิทธิอำนาจ
มัทธิว 9 ราชกิจเพื่อชาวเมือง
มัทธิว 10 ทรงส่งศิษย์ออกไป
มัทธิว 11 เหนื่อยนัก มาพักในเรา
มัทธิว 12 ผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่า อยู่ตรงนี้
มัทธิว 13 คลังคำอุปมา
มัทธิว 14 การเลี้ยงครั้งใหญ่

มัทธิว 15
มัทธิว 16
มัทธิว 17
มัทธิว 18
มัทธิว 19
มัทธิว 20
มัทธิว 21
มัทธิว 22
มัทธิว 23
มัทธิว 24
มัทธิว 25
มัทธิว 26
มัทธิว 27
มัทธิว 28

มาระโก : อ่านเล่มนี้เป็นเล่มแรก สั้นและกระชับสุด
มาระโก 1 บุรุษผู้มาเตรียมทาง
มาระโก 2 สี่เรื่องราวในคาเปอร์นาอุม
มาระโก 3 ราชกิจที่ฟาริสีเคือง
มาระโก 4 อุปมาเรื่องดินและเมล็ดพันธุ์
มาระโก 5 อัศจรรย์ท้าชีวิต
มาระโก 6 มหัศจรรย์ที่เกิดแล้วเกิดอีก
มาระโก 7 เหนือประเพณี ใจ เชื้อชาติ โรคร้าย
มาระโก 8 มาตามพระเยซูกันดีกว่า



มาระโก 9 ปรากฏพระกายแท้
มาระโก 10 จะเข้าอาณาจักรของพระเจ้า
มาระโก 11 โฮซันนา! โฮซันนา!
มาระโก 12 คำอุปมาเรื่องผู้เช่าโฉดชั่ว
มาระโก 13 จงเฝ้าระวัง!
มาระโก 14 ก้าวสู่แดนประหาร
มาระโก 15 พระเยซูสิ้นพระชนม์
มาระโก 16 คืนพระชนม์

ลูกา
ลูกา 1 ทูตสวรรค์มาเยือน
ลูกา 2 พระบุตรพระเจ้าลงมาในโลก
ลูกา 3 ยอห์นผู้ให้บัพติศมา เตรียมทางล่วงหน้า
ลูกา 4 พระราชกิจตอนเริ่มแรก
ลูกา 5 เมื่อคืนจับปลาไม่ได้เลย
ลูกา 6 คำเทศนาบนที่ราบ
ลูกา 7 คนที่ทำให้ประหลาดพระทัย!
ลูกา 8 อัศจรรย์ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ลูกา 9 พระกายจริงของพระบุตร
ลูกา 10 เมตตาสะมาเรีย
ลูกา 11 คำสนทนาพระเยซู-ธรรมาจารย์-ฟาริสี
ลูกา 12 ไม่กังวลต่อไป

ลูกา 13 กลับใจสำคัญ
ลูกา 14 สองอุปมาเรื่องงานเลี้ยง
ลูกา 15 สามอุปมาแห่งความยินดี
ลูกา 16 บทนี้เรื่องเงินกับสองแผ่นดิน
ลูกา 17 อาณาจักรพระเจ้าอยู่ที่ไหน?
ลูกา 18 สองอุปมา
ลูกา 19 คนนี้ไม่มีใครคบ
ลูกา 20 คำถามเรื่องสิทธิอำนาจของพระเยซู
ลูกา 21 พระวจนะบนภูเขามะกอกเทศ
ลูกา 22 จูบพิษ
ลูกา 23 สู่แดนประหาร
ลูกา 24 สู่สวรรค์

ยอห์น
ยอห์น 1 พระเยซูคริสต์คือผู้ใด?
ยอห์น 2 งานสมรสที่บ้านคานา
ยอห์น 3 เพราะพระเจ้าทรงรักโลก
ยอห์น 4 พบที่บ่อน้ำ
ยอห์น 5 พยานทั้งห้าของพระบุตรพระเจ้า
ยอห์น 6 อาหารแห่งชีวิต
ยอห์น 7 เทศกาลอยู่เพิงสุดท้าย
ยอห์น 8 เราคือความสว่างของโลกนี้
ยอห์น 9 แสงสว่างแห่งโลก
ยอห์น 10 ผู้เลี้ยงแสนดี
ยอห์น 11 เพื่อนรักที่ฟื้นจากความตาย

ยอห์น 12 องค์ราชาปรากฏแก่ประชาชน
ยอห์น 13 อาหารมื้อสุดท้ายกับการล้างเท้า
ยอห์น 14 คำสนทนาในอาหารมื้อสุดท้าย
ยอห์น 15 ต้องเข้าสนิทในพระเยซู
ยอห์น 16 ราชกิจขององค์พระวิญญาณ
ยอห์น 17 คำทูลก่อนไม้กางเขน
ยอห์น 18 มอบชีวิตให้ด้วยพระองค์เอง
ยอห์น 19
การตรึงที่กางเขน
ยอห์น 20 ทรงฟื้นขึ้นมาแล้ว
ยอห์น 21 พบกันที่กาลิลี

กิจการ มี 28 บท

กิจการ 1 พระเยซูเสด็จไป พระวิญญาณเสด็จมา
กิจการ 2 กำเนิดคริสตจักร
กิจการ 3 การอัศจรรย์กับขอทานในพระวิหาร
กิจการ 4 การข่มเหงครั้งแรก
กิจการ 5 การเริ่มต้นที่สำคัญ
กิจการ6 แต่งตั้งผู้รับใช้ดูแลพี่น้อง
กิจการ 7 คำอธิบายของสเทเฟน
กิจการ 8 พระวิญญาณ ฟีลิป กับขุนนาง
กิจการ 9 พบผู้ถูกข่มเหงตัวจริง !
กิจการ 10 การแสวงหาของนายร้อย
กิจการ 11 อันทิโอก เปิดโลกคริสเตียน
กิจการ 12 นักโทษที่หายไป
กิจการ 13 ส่งผู้ประกาศออกไป
กิจการ 14 เจอหินเข้าแล้ว




กิจการ 15 พระคุณที่ถูกคุกคาม
กิจการ 16 แลกมาด้วยความยินดี
กิจการ 17 หว่านพระคำในเอเธนส์
กิจการ 18 เพื่อนร่วมงานจากพระเจ้า
กิจการ 19 การต่อสู้ที่แปลกออกไป
กิจการ 20 คงไม่ได้พบกันอีก
กิจการ 21 เยรูซาเล็ม.. ไปดีหรือไม่ไปดี?
กิจการ 22 ขอเป็นพยานอีกครั้ง
กิจการ 23 แผนดักฆ่า
กิจการ 24 ณ ศาลเฟลิกซ์
กิจการ 25 ณ ศาลเฟสทัส อากริปปา
กิจการ 26 คำพยานต่อหน้าอากริปปาF
กิจการ 27 เรือแตก
กิจการ 28 จบที่โรม

โรม
โรม 1 ข่าวประเสริฐมีฤทธิ์!
โรม 2 การพิพากษาอันเที่ยงธรรม
โรม 3 พ้นผิดได้ด้วยพระคุณ
โรม 4 ผ่านได้ด้วยความเชื่อ
โรม 5 รอดได้ด้วยพระเยซู
โรม 6 เป็นอิสระจากบาปแล้ว
โรม 7 ต่อสู้กันตลอด
โรม 8 ได้เป็นลูกของพระเจ้า!


โรม 9 อิสราเอลปฏิเสธพระคริสต์
โรม 10 ทุกคนต้องรับด้วยปากเชื่อด้วยใจ
โรม 11
โรม 12
โรม 13
โรม 14
โรม 15
โรม 16

1 โครินธ์ มีทั้งหมด 16 บท
1 โครินธ์ 1 พระปัญญาของพระเจ้า พระเยซูคริสต์
1 โครินธ์ 2 สติปัญญาแบบไหนดี?
1 โครินธ์ 3 รากฐานแท้
1 โครินธ์ 4 ยอมโง่เพื่อพระคริสต์
1 โครินธ์ 5 คนที่ต้องเลิกคบ
1 โครินธ์ 6 เราต้องตัดสินกันเอง
1 โครินธ์ 7 ชีวิตสมรสและชีวิตโสด
1 โครินธ์ 8 เนื้อสัตว์ในวิหารเทพ

1 โครินธ์ 9 คนงานของพระเจ้า
1 โครินธ์ 10 ตัวอย่างจากอดีต
1 โครินธ์ 11 อาหารมื้อสุดท้าย
1 โครินธ์ 12 หนึ่งเดียวที่แตกต่าง
1 โครินธ์ 13 ความหมายแห่งรัก
1 โครินธ์ 14 ของประทานแห่งคำพูด
1 โครินธ์ 15 การคืนพระชนม์.. สำคัญ!
1 โครินธ์ 16 คำอำลาฉบับแรก

2 โครินธ์
2 โครินธ์ 1 พระเจ้าแห่งการหนุนใจ
2 โครินธ์ 2 กลิ่นแห่งชีวิต
2 โครินธ์ 3 เสรีภาพในพระวิญญาณ
2 โครินธ์ 4 สิ่งที่ไม่เห็นดำรงนิรันดร์
2 โครินธ์ 5 คนที่ถูกสร้างใหม่
2 โครินธ์ 6 อาวุธของท่านเปาโล


2 โครินธ์ 7 เสียใจให้ถูกวิธี
2 โครินธ์ 8 ให้โปร่งใส
2 โครินธ์ 9 กฎการหว่าน
2 โครินธ์ 10 อวดพระเจ้า
2 โครินธ์ 11 มาแข่งกันอวด
2 โครินธ์ 12 เข้มแข็งด้วยพระคุณ
2 โครินธ์ 13 พิสูจน์ตนเอง

กาลาเทียจดหมายถึงกาลาเทีย 6 บท

เอเฟซัส
เอเฟซัส 1 องค์ผู้สูงสุด
เอเฟซัส 2 มาเป็นหนึ่งเดียวกัน
เอเฟซัส 3 เผยความลี้ลับ
เอเฟซัส 4 ชีวิตที่เปลี่ยนจริง
เอเฟซัส 5 พระคริสต์กับคริสตจักร
เอเฟซัส 6 ยุทธภัณฑ์ทั้งชุด

ฟีลิปปี
จดหมายถึงคริสตจักรฟีลิปปี 4 บท
ฟีลิปปี 1 จดหมายจากนักโทษผู้มีความสุข
ฟีลิปปี 2 ถ่อมตนอย่างองค์พระคริสต์
ฟีลิปปี 3 ทุกอย่างเพื่อพระคริสต์
ฟีลิปปี 4 พระเจ้าแห่งสันติสุข

โคโลสี
จดหมายถึงคริสตจักรโคโลสี 4 บท
โคโลสี 1 พระเยซูทรงอยู่เหนือสรรพสิ่ง
โคโลสี 2 พระคริสต์เท่านั้น
โคโลสี 3 คนใหม่สนใจเบื้องบน
โคโลสี 4 คำหนุนใจจากท่านเปาโล

1 เธสะโลนิกา 1 ตัวอย่างที่เยี่ยมยอด
1 เธสะโลนิกา 2 การรับใช้ของท่านเปาโล
1 เธสะโลนิกา 3 กำหนดให้ทนทุกข์
1 เธสะโลนิกา 4 คำขอร้องในการใช้ชีวิต
1 เธสะโลนิกา 5 วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า

2 เธสะโลนิกา 1 ถึงพี่น้องที่ถูกข่มเหง
2 เธสะโลนิกา 2 วันที่จะมาถึง
2 เธสะโลนิกา 3 ชีวิตในชุมชนผู้เชื่อ

1 ทิโมธี 1 จดหมายจากท่านเปาโล
1 ทิโมธี 2 อธิษฐานมีพลัง
1 ทิโมธี 3 คุณสมบัติผู้รับใช้
1 ทิโมธี 4 คนหนุ่มของพระเจ้า
1 ทิโมธี 5 การปฏิบัติต่อพี่น้อง
1 ทิโมธี 6 การมองโลก ชีวิต เงิน ความสัมพันธ์

2 ทิโมธี 1 จิตใจที่กล้าหาญ
2 ทิโมธี 2 คำแนะนำแก่ศิษยาภิบาลหนุ่ม
2 ทิโมธี 3 ยุคสุดท้ายกับปัญญาสู่ความรอด
2 ทิโมธี 4 คำสุดท้ายจากท่านเปาโล

ทิตัส
ทิตัส 1 จากท่านเปาโลถึงทิตัส
ทิตัส 2 พฤติกรรมที่เหมาะสม
ทิตัส 3 สิ่งที่ดีเลิศ

ฟีเลโมน อภัยให้เขาด้วย

ฮีบรู
ฮีบรู 1 พระเยซูคือผู้ใด?
ฮีบรู 2 ความรอดจากพระบุตร
ฮีบรู 3 มั่นคงจนจบ
ฮีบรู 4 พระสัญญาแห่งการพัก
ฮีบรู 5 องค์มหาปุโรหิต
ฮีบรู 6 คำปฏิญาณจากองค์ผู้สูงสุด
ฮีบรู 7 ครั้งเดียวเป็นพอ


ฮีบรู 8 เราทุกคนรู้จักพระองค์
ฮีบรู 9 พระโลหิตคือคำตอบ
ฮีบรู 10 มีชีวิตโดยความเชื่อ
ฮีบรู 11 ความเชื่อที่จะเดินตาม
ฮีบรู 12 ทรงเป็นไฟที่เผาผลาญ
ฮีบรู 13 ชีวิตที่พอพระทัย

ยากอบ
ยากอบ 1 ความเชื่อกับความยากลำบาก
ยากอบ 2 ความเชื่อกับความสัมพันธ์
ยากอบ 3 ความเชื่อกับลิ้นที่ไม่เชื่อง
ยากอบ 4 เชื่อต้องลงมือ
ยากอบ 5 คำแนะนำเรื่องต่าง ๆ

1 เปโตร
1 เปโตร 1 ใช้ชีวิตอย่างคนบังเกิดใหม่
1 เปโตร 2 พระเกียรติและหน้าที่ของคนของพระเจ้า
1 เปโตร 4 รับใช้พระเจ้าในยุคสุดท้าย
1 เปโตร 3 ความสัมพันธ์ การทนทุกข์ และพระพร
1 เปโตร 5 คำสั่งให้เลี้ยงดูฝูงแกะ

2 เปโตร
2 เปโตร 1 เริ่มต้นที่ความเชื่อ
2 เปโตร 2 คำเตือนเรื่องครูสอนผิด
2 เปโตร 3 พระสัญญาของพระเจ้าไม่เนิ่นช้า

1 2 3 ยอห์น
1 ยอห์น 1 ความสว่าง ความรัก และชีวิต
1 ยอห์น 2 บัญญัติแห่งรัก
1 ยอห์น 3 ชีวิตที่เหมาะกับการเป็นลูกของพระเจ้า
1 ยอห์น 4 รักพี่น้อง สำคัญนัก
1 ยอห์น 5 เกิดจากพระเจ้า
2 ยอห์น 1 ต้อนรับด้วยความจริง
3 ยอห์น 1 ตัวอย่างคนสองแบบ

ยูดา คำเตือนเพื่อรักษาความเชื่อ

คลังพระคำ:ความหมายคำในพระคัมภีร์

2 โครินธ์ 2 กลิ่นแห่งชีวิต

2 โครินธ์ 2:1-2
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจว่า จะไม่มาหาท่านให้ทุกข์ใจอีก เพราะหากข้าทำให้ท่านเป็นทุกข์ ใครเล่าจะทำให้ข้ายินดีนอกเหนือไปจาก คนที่ข้าเองทำให้เป็นทุกข์?
2 โครินธ์ 2:3-4
ข้าเขียนข้อความนั้นมาเพื่อว่า เมื่อข้ามาถึง พวกเขาที่ควรทำให้ข้ายินดีจะไม่ทำให้ข้าทุกข์ใจ ข้ามั่นใจในตัวท่านทุกคนว่า ทุกท่านจะมีส่วนร่วมในความยินดีของข้า เพราะข้าทุกข์ระทม ทรมานใจ
ข้าจึงเขียนถึงท่านด้วยน้ำตา ไม่ใช่เพื่อทำให้ท่านต้องเสียใจ แต่เพื่อให้ท่านรู้ว่าข้ารักพวกท่านมากเพียงไร


2 โครินธ์ 2:5-6
หากว่ามีใครทำให้เกิดความทุกข์ใจ เขาไม่ได้ทำให้ข้าเป็นทุกข์เพียงคนเดียว แต่ยังทำให้พวกท่านเป็นทุกข์ไปด้วย ข้าเองไม่ต้องการพูดเกินจริง การลงโทษที่ได้รับจากคนส่วนมากนั้นก็น่าจะพอแล้ว

2 โครินธ์ 2:7-9
ท่านจึงควรยกโทษ และหนุนใจเขามากกว่าเพื่อว่าเขาจะไม่จมในความทุกข์มากจนเกินไป ดังนั้น ข้าจึงขอให้ท่านยืนยันความรักที่มีต่อเขานี่เป็นเหตุที่ทำให้ข้าเขียนถึงท่าน เพื่อจะทดสอบว่า ท่านยอมเชื่อฟังทุกเรื่องหรือไม่
2 โครินธ์ 2:10-11
ถ้าพวกท่านยกโทษผู้ใด ข้าจะยกโทษให้เขาด้วย และถ้าข้ายกโทษเรื่องใดข้าทำต่อพระพักตร์พระคริสต์เพื่อเห็นแก่พวกท่าน เพื่อไม่ให้ซาตานฉวยโอกาสสำเร็จเพราะเรารู้ทันกลวิธีของมันแล้ว

2 โครินธ์ 2:12-13
เมื่อข้าไปถึงเมืองโตรอัส เพื่อประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์นั้น แม้ว่า
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้เปิดโอกาสให้ข้า แต่ข้ายังกังวลเพราะตามหาน้องของข้าคือทิตัสไม่พบ ข้าจะลาพวกเขาและเดินทางต่อไปยังแคว้นมาซิโดเนีย


2 โครินธ์ 2:14
แต่ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงนำให้เรามีชัยชนะในพระคริสต์เสมอ และทรงให้เราประกาศความรู้เรื่องพระคริสต์เปรียบเหมือนกลิ่นที่หอมฟุ้งไปทั่ว

2 โครินธ์ 2:15-16
เพราะเราเป็นกลิ่นหอมของพระคริสต์เพื่อพระเจ้าท่ามกลางคนที่กำลังรอด
และท่ามกลางคนที่กำลังพินาศ สำหรับคนพวกหนึ่งเป็นกลิ่นแห่ง
ความตาย นำไปสู่ความตาย สำหรับคนอีกพวก เป็นกลิ่นของชีวิต นำไปสู่ชีวิต
ใครล่ะ ที่จะเหมาะกับงานเหล่านี้ ?
2 โครินธ์ 2:17
เพราะว่า เราไม่เหมือนคนอื่น ๆ มากมายที่เอาพระคำของพระเจ้ามาหากินแต่เราพูดต่อพระพักตร์ของพระเจ้าในพระคริสต์ ด้วยความจริงใจ
ในฐานะคนที่พระเจ้าทรงส่งมา

คำอธิบายเพิ่มเติม

2 โครินธ์ 2:1-2
คราวที่แล้ว ท่านเปาโลไปเยี่ยมคริสตจักรโครินธ์แต่ก็เกิดความขัดแย้ง และมีคนที่พยายามจับผิดท่าน มีปัญหาในคริสตจักรหลายอย่าง ท่านเปาโล
ต้องจัดการกับความผิดเหล่านั้น กลายเป็นการเยี่ยมที่เป็นทุกข์ ท่านจึงเปลี่ยนแผนไม่มาเยี่ยมอย่างที่เคยตั้งใจ จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เราเห็น
ว่า ความยุ่งยากในคริสตจักรเกิดขึ้นได้จากคนที่มีนิสัยสร้างความแตกร้าว จึงเป็นสิ่งที่เราต้องระวัง
2 โครินธ์ 2:3-4
ท่านเปาโลไม่ต้องการที่จะคอยตักเตือน สอน ต่อว่าพวกเขาตลอดเวลา แต่ให้พวกเขามีโอกาสคิดเองว่าควรทำอย่างไรในการมีชีวิตร่วมกันฐานะพระกาย
ของพระคริสต์ ท่านจึงตัดสินใจที่จะไม่ไปเป็นพี่เลี้ยงตลอดเวลา จดหมายนี้จึงเป็นตัวแทนของท่านเพื่อย้ำถึงความรักที่ท่านมีต่อพวกเขา ท่านเขียน
จดหมายนี้ด้วยน้ำตา ไม่ต้องการให้พวกเขากับท่านกลายเป็นคนเข้าใจผิดกันไม่ว่าด้วยสาเหตุใด
2 โครินธ์ 2:5-6
มีบางคนในพวกเขาที่ได้ทำบาป และทำให้ท่านเปาโลและคนในคริสตจักรไม่สบายใจเอามาก ๆ ท่านใช้คำว่า ทำให้เสียใจ ทุกข์ใจ แต่ท่านก็ไม่ได้เอ่ยชื่อของเขาไว้ คนส่วนใหญ่ได้จัดการชายคนนี้เมื่ออ่านไป เรารู้สึกว่า ชายคนนี้ถูกสังคมในคริสตจักรลงวินัย เราไม่ทราบว่า วิธีไหน อาจจะเป็นการไล่ออกจากคริสตจักร (ดู 1 โครินธ์ 5:4-5)แต่จากข้อความนี้ดูเหมือนว่า เขากลับใจ ท่านจึงกล่าวว่า การถูกลงโทษน่าจะพอ จบได้
2 โครินธ์ 2:7-9
หากคนที่ทำผิด ถูกลงโทษจากคริสตจักรแล้วกลับใจ ท่านเปาโลได้ขอให้พวกเขายกโทษ ยอมรับเขากลับเข้ามาอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ชายคนนั้นเจอกับการโกรธที่ไร้การอภัยสิ่งที่ท่านขอคือ ยกโทษให้คนที่ทำผิดและกลับใจ ทั้งขอให้หนุนน้ำใจ ปลอบใจเขาด้วย หากไม่มีการยกโทษให้ คนที่อยู่ในคริสตจักรเองก็จะทำผิดกับพระเจ้า กลายเป็นบาปที่ต่อเนื่องไม่หยุด อีกอย่างคือคนนั้นจะกลายเป็นผู้ที่ถูกโลกประณามและอาจจะไม่ได้กลับมาหาพระเจ้าผู้ไถ่บาปของเขาอีกเลย 
2 โครินธ์ 2:12-13
แม้มีโอกาสมากในการประกาศพระกิตติคุณ แต่ท่านเปาโลก็ไม่สบายใจที่ไม่พบทิตัสที่เมืองโตรอัสจากข้อความตอนนี้ เราพอจะมองเห็นว่า ท่านไม่
ต้องการทำงานคนเดียว แต่ต้องการมีเพื่อนร่วมงาน ในพระกิตติคุณด้วย ระหว่างข้อนี้ ไปจนถึงบทที่ 7:4 ก่อนที่จะเล่าว่าท่านทำอะไรต่อไป
ท่านก็ได้พูดถึงการเป็นอัครทูตของท่าน ให้พี่น้องเข้าใจว่ามีความหมายอย่างไร
2 โครินธ์ 2:10-11
หลักการของชีวิตคริสเตียนแท้ ๆ คือ เมื่อมีการทำผิดต่อกันและกัน เมื่อพี่น้องทำบาป ก็ให้ เตือนสติด้วยความรัก และตระหนักว่า เราเองก็อาจเป็นคน ๆ นั้นได้ เมื่อเขาสำนึกผิดและกลับใจ ก็ต้องยกโทษให้ อย่าให้ความโกรธ ความแค้นครองใจเราเพราะนั่นเป็นการเปิดประตูให้กับศัตรูของพระเจ้า
เข้ามาเล่นกลในใจของเรา ทำให้เรากลับทำบาปต่อพระเจ้าด้วยการเก็บความขมขื่นไว้ในใจ
2 โครินธ์ 2:14
เอาล่ะ ทีนี้ ท่านก็เริ่มอธิบายให้พี่น้อง เข้าใจถึงสิ่งที่ยากขึ้น ข้อความนี้ ทำให้เรามั่นใจว่า เมื่อเราประกาศพระนาม เราทำด้วยการติดตามพระคริสต์
เหมือนกับทหารที่ตามผู้บังคับบัญชาทุกอย่าง เราจึงเป็นเหมือนกลิ่นน่าชื่นใจที่หอมกระจายไปทั่วมีพระคริสต์นำทางไป ไม่ว่าจะประกาศด้วยการพูด
หรือการกระทำที่แตกต่างจากชาวโลก เห็นจากข้อนี้ว่า ในการประกาศ พระคริสต์ทรงนำท่าน
2 โครินธ์ 2:15-16
ท่านเปาโลกำลังเขียนเปรียบเทียบผู้เชื่อกับทหารโรมการที่พระคริสต์นำผู้เชื่อ พระองค์ทรงเป็นดั่งผู้บังคับบัญชา เมื่อมีชัยชนะก็เดินขบวนเข้ามาใน
เมือง มีการจุดเครื่องหอมเป็นกลิ่นแห่งชัยชนะแต่สำหรับเชลยที่ต้องเดินเข้ามา ถูกล่าม และยังไม่รู้อนาคตของตนเองกลิ่นนี้จึงกลายเป็นเหมือนกลิ่น
แห่งความตายสำหรับพวกเขา เมื่อชาวโครินธ์อ่านจดหมายจะเข้าใจทันที ตอนนี้เราก็คงเข้าใจเช่นกัน
2 โครินธ์ 2:17
ที่ท่านเปาโลพูดเช่นนี้ เพราะมีผู้สอนเท็จมากมายเพื่อหาผลประโยชน์จากผู้ฟัง อ้างว่ามีการอัศจรรย์อ้างโน่นนี่เพื่อจะได้เงิน พวกเขาอวดความรู้ คิดว่าตัวเองเป็นคนมีปัญญา เขาไม่ได้ถูกส่งมาจากพระเจ้า(ดู 1 โครินธ์ 1:19-20) การเอาคำของพระเจ้ามาขายกินนั้น มีความหมายว่าเอาของปลอมมาอ้างว่าเป็นของแท้ ทุกวันนี้ก็มีผู้สอนเท็จเป็นจำนวนมากเช่นกันเราจึงต้องระวังให้มาก

พระคำเชื่อมโยง

1* 2 โครินธ์ 1:23
2* 2 โครินธ์ 7:8
3* 2 โครินธ์ 12:21; กาลาเทีย 5:10
4* 2 โครินธ์ 2:9; 7:8, 12
5* 1 โครินธ์ 5:1; กาลาเทีย 4:12

6* 1 โครินธ์ 5:4-5
7* กาลาเทีย 6:1
9* 2 โครินธ์ 7:15; 10:6
12* กิจการ 16:8;1 โครินธ์ 16:9
13* 2 โครินธ์ 7:6, 13; 8:6

15* 1โครินธ์ 1:18; 2 โครินธ์ 4:3
16* ลูกา 2:34; 1โครินธ์ 15:10
17* 2 เปโตร 2:3; 2โครินธ์ 1:12