1 เธสะโลนิกา 2 การรับใช้ของท่านเปาโล

งานรับใช้ในเธสะโลนิกา

พี่น้องทั้งหลาย ท่านเองรู้อยู่ว่า การที่เรามาหาท่านนั้น ไม่ได้เปล่าประโยชน์ แต่ถึงแม้ว่า เราได้ทนทุกข์ และถูกกระทำอย่างน่าอับอายในฟีลิปปี ตามที่ท่านรู้มา เราก็ยังกล้าหาญในพระเจ้าที่จะกล่าวพระกิตติคุณแก่ท่านทั้งที่ถูกขัดขวางอย่างมาก
1 เธสะโลนิกา 2:1-2

ฟีลิปปี 2:16 กิจการ 14:5,16:19-24,17:1-9

ตอนที่อยู่เมืองฟีลิปปี ท่านเปาโลและสิลาส ถูกจับขังคุก แต่ทั้งสองก็ยังยินดีในพระเจ้าทั้งที่ถูกล่าม ร้องเพลงจนคุกสะเทือน และพระเจ้าให้เกิดแผ่น ดินไหว ในคืนนั้น ท่านทั้งสองได้โอกาสเป็นพยาน ทำให้ครอบครัวนายคุกได้มาพบพระเจ้า ดูเหมือนท่านเปาโลกับความทุกข์ การขัดขวางเป็นของคู่กันไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหน

เพราะคำชักชวนของเราไม่ได้มาจากความผิดพลาดหรือใจไม่สะอาด หรือความคิดหลอกลวง แต่เมื่อพระเจ้าทรงเห็นดีที่ให้เราประกาศข่าวประเสริฐ เราจึงพูด ไม่ใช่เพื่อให้พอใจมนุษย์ แต่เพื่อให้พอพระทัยพระเจ้า ผู้ทรงตรวจสอบใจเรา
1 เธสะโลนิกา 2:3-4

2 โครินธ์ 4:2, 2 เปโตร 1 :16

ท่านเปาโลแจ้งให้ชัดเจนว่า การรับใช้ของท่านนั้น ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาด ใจสกปรก หรือตั้งใจหลอกลวงใคร ในเมืองต่าง ๆ ที่ไปประกาศนั้น จะมีหลาย หลายกลุ่มที่หลอกเอาเงินของ ผู้หลงเชื่อติดตาม

อย่างที่ท่านรู้ เราไม่ได้มาพร้อมกับคำประจบสอพลอ หรือมาเพราะโลภ พระเจ้าทรงเป็นพยาน เราไม่แสวงหา เกียรติจากมนุษย์ ไม่ว่าจากท่าน หรือจากผู้อื่น
แม้ว่าในฐานะอัครทูต เราอาจขอร้องจากพวกท่านได้
1 เธสะโลนิกา 2:5-6

กิจการ 20:33, 2 โครินธ์ 12:17, ฟิเลโมน 1:8-9

สังเกตคนจริงของพระเจ้า พวกเขาไม่ประจบ พวกเขาจะพูดตรงไปตรงมา ทำให้คนไม่ชอบพวกเขาไม่มีสองมาตรฐาน ทำให้พวกเขาอยู่ยาก คนที่ มีอิทธิพลจะไม่ชอบคนแบบนี้
เพราะเขารู้ตัวดีว่า เขาอยู่ในฐานะทาสของพระเยซู

แต่เราอ่อนโยนท่ามกลางพวกท่าน ดังแม่ที่ดูแลลูกของตน เราเป็นห่วงท่านมาก เราจึงเป็นสุขที่จะแบ่งให้ ไม่เฉพาะข่าวประเสริฐเท่านั้น แต่ทั้งชีวิตของเราด้วย เพราะท่านเป็นที่รักของเรายิ่งนัก
1 เธสะโลนิกา 2:7-8

อิสยาห์ 16:13

ท่านเปาโลเปรียบตัวเองราวกับแม่ที่ดูแลลูก แม่มีแต่จะให้ ปกป้อง ดูแล เอาใจใส่ เลี้ยงดู
ที่สุดของที่สุดคือ ท่านพร้อม ที่จะให้ชีวิตเพื่อพี่น้องเหล่านี้ เพราะท่านรัก!

เพราะท่านยังจำการลงแรงทำงาน และความยากลำบากของเรา เราทำงานทั้งกลางคืนและกลางวัน เพื่อว่าจะไม่เป็นภาระแก่พวกท่าน ขณะที่เราประกาศพระกิตติคุณของพระเจ้าแก่ท่าน
1 เธสะโลนิกา 2:9

2 โครินธิ์ 11:9 , กิจการ 18:3

แม้ว่าผู้ที่สอน ควรจะได้รับการดูแลจากผู้ที่รับการสอน (1 โครินธ์ 9:14) แต่ท่านเปาโลและผู้ช่วยทุกคน ได้ทำงาน เลี้ยงตัวเอง แตกต่างจากผู้สอนผิดที่มีอยู่ ดาษดื่นในสังคมนั้น งาน กลางคืนและกลางวันที่ท่านหมายถึง งานเย็บกระโจม และงานหนังอื่น ๆ (ฟีลิปปี 4;16, 2 โครินธ์ 11:7-11)

ท่านเป็นพยานของเรา และพระเจ้าก็ทรงเป็นพยานด้วยว่า เราได้ปฏิบัติต่อท่านผู้มีความเชื่ออย่างทุ่มเท ชอบธรรม และไร้ตำหนิอย่างไร ท่านก็รู้ว่า เราปฏิบัติต่อท่านทั้งเหมือนอย่างพ่อปฏิบัติกับลูก ๆ ของเขา
1 เธสะโลนิกา 2:10-11

1 เธสะโลนิกา 1:5,1 เปโตร 5:3

ข้อนี้ท่านปฏิบัติต่อเขาเหมือนพ่อที่ทำกับลูก ๆ พ่อเป็นผู้ต้องเตรียมลูกให้พร้อมที่จะเผชิญชีวิตให้เติบโต ในพระคัมภีร์เดิม อธิบายเปรียบเทียบว่า พระเจ้าทรงเป็นเช่นนั้น
(สดุดี 103:13, อิสยาห์ 66:13)

เราหนุนใจ ปลอบใจและสั่งให้ท่านทุกคน เดินไปอย่างสมควรต่อพระเจ้าผู้ทรงเรียกท่านเข้ามาในอาณาจักรและพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์
1 เธสะโลนิกา 2:12

1 ยอห์น 2:6, 1 ยอห์น 1:6-7

ในแง่หนึ่งอาณาจักรของพระเจ้า อยู่ในตัวเราแล้ว โรม 14:17 แต่ยังมีอาณาจักรที่สมบูรณ์แบบ
รอเราอยู่ด้วย กิจการ 17:7 ชีวิตคริสเตียนทุกคน เป็นชีวิตที่ได้พระพรจากพระเจ้าแล้ว ได้แล้ว แต่ยังไม่ครบ!

การกลับใจใหม่ของชาวเมือง

เราขอบพระคุณพระเจ้าเสมอเพราะเรื่องนี้ นั่นคือเมื่อท่านรับพระคำของพระเจ้าซึ่งได้ยินจากเรา ท่านไม่ได้รับในฐานะที่เป็นข่าวสารจากมนุษย์ แต่รับ ตามความเป็นจริง คือเป็นพระคำจากพระเจ้า ซึ่งทำราชกิจอย่างได้ผลในผู้เชื่อ
1 เธสะโลนิกา 2:13

ฮีบรู 4:12, โรม 10:17 , 1 เปโตร 1:23

เมื่อพี่น้องรับคำของพระเจ้านั้น เขาไม่ได้รับเพราะ เป็นคำอ้างอิง คำคมที่น่าสนใจ หรือเป็นข่าวสารที่น่าตื่นเต้น แต่รับ เพราะรู้ในใจว่า สิ่งที่ท่านเปาโล กล่าวเป็นความจริง เป็นคำที่มาจากพระเจ้า และเมื่อพวกเขารับแล้ว พระคำอันทรงพลังก็ เปลี่ยน แปลงชีวิตของพวกเขาจริง ๆ เห็นได้พิสูจน์ได้ มีคนเป็นพยานได้

เพราะพี่น้อง ได้มาเป็นผู้เลียนแบบ บรรดาคริสตจักรของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ซึ่งอยู่ในยูเดีย เนื่องจากว่าท่านได้ทนทุกข์อย่างเดียวกัน คือจากคนชาติเดียวกับท่าน เหมือนกับพวกเขาที่ถูกยิวข่มเหง
1 เธสะโลนิกา 2:14

1 เธสะโลนิกา 3:4 , 2 เธสะโลนิกา 1:4

พี่น้องชาวเธสะโลนิกา มารับพระเยซูคริสต์ เขาก็ถูกคนชาติเดียวกันข่มเหง
เหมือนกับผู้เชื่อในยูเดียที่ถูกชาวยิวข่มเหง เป็นเรื่องไม่แปลกเลยที่คนเชื่อพระเจ้าจะถูก ข่มเหงไม่ว่าอยู่ในครอบครัวใด หรือ ชาติใด ยุคใด

ผู้ซึ่งทั้งประหารพระเยซูคริสต์เจ้า ทั้ง ผู้เผยพระคำของพวกเขาและได้กดขี่เรา  พวกเขาทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย และยังเป็นศัตรูกับคนทั้งหลายพวกเขาห้ามไม่ให้เราพูดกับคนต่างชาติพราะกลัวว่า เขาเหล่านั้นจะรอด ผลก็คือ พวกเขาทำจนหมดขอบเขตบาปของเขา และพระพิโรธก็มาถึงพวกเขาในที่สุด
1 เธสะโลนิกา 2:15-16

มัทธิว 5:12, กิจการ 2:23,

ทั้งพระเยซูและผู้เชื่ออื่น ๆ ก็ถูกทำร้ายมาก่อนทั้งนั้นยิวไม่ต้องการให้คนมาเชื่อพระเจ้า นี่เป็นบาปใหญ่ มาก ไม่เชื่อเองแล้ว ยังขัดขวางความรอดของผู้อื่นจริง ๆ แล้ว พระเจ้าทรงให้ยิวมีหน้าที่เป็นพระพรแก่คนทั่วโลก (ปฐมกาล 12) แต่เขากลับไม่ทำเช่นนั้น

อยากพบพี่น้องอีก

แต่เรา ถูกแยกออกจากพี่น้องไม่นาน แค่ตัวไปแต่หัวใจยังอยู่กับท่าน เราปราถนาที่จะพบหน้าพวกท่านมากขึ้น
เพราะเรา คือเปาโลอยากมาหาท่านครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ซาตานได้ขัดขวางเราไว้
1 เธสะโลนิกา 2:17-18

โคโลสี 2:5 , 1 โครินธ์ 5:3, เศคาริยาห์ 3:1-2, วิวรณ์ 2:10

ท่านเปาโลกับเพื่อน ๆ จำเป็นต้องออกจากเมือง เธสะโลนิกาโดยไม่เต็มใจ ท่านใช้คำว่า ถูกแยก ออกไป ก็คือ มีการบังคับให้ต้องไป แต่แม้ว่าอยากจะกลับมาอีก ทุกครั้งมีการขัดขวางจากมาร (โรม 15:22, กาลาเทีย 5:7)

เพราะใครเล่า เป็นความหวังหรือความยินดี หรือมงกุฎที่เราจะนำมาอวดเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า เพราะท่านเป็นเกียรติและความยินดีของเรา
1 เธสะโลนิกา 2:19-20

ฟีลิปปี 4:1, 2 โครินธ์ 1:14

ท่านไม่อาจลืมพวกเขาเพราะพวกเขา เป็นทั้งความหวัง ความยินดี เป็นมงกุฎ เป็น เกียรติที่จะนำพวกเขามาถวายพระเจ้าได้มงกุฎดังกล่าวเป็นรางวัลที่ยืนยงเป็นนิตย์​(1 โครินธ์ 9:25) เรามีมงกุฎนี้หรือเปล่า?

1 เธสะโลนิกา 1 ตัวอย่างที่เยี่ยมยอด

จากเปาโล สิลาส และทิโมธี ถึง
คริสตจักรเมืองเธสะโลนิกา ซึ่งอยู่ในพระเจ้าพระบิดา และพระเยซูคริสต์เจ้า ขอพระคุณ และสันติสุขจาก พระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซูคริสตเจ้ามาถึงพวกท่าน
1 เธสะโลนิกา 1:1

กิจการ 16:19-30, 1 เธสะโลนิกา 3:2

สิลาส เคยเข้าคุกพร้อมท่านเปาโล
ส่วนทิโมธี พ่อเป็นกรีก แม่เป็นยิว
รักพระเจ้ามาตั้งแต่เด็ก
และเดินทางไปประกาศกับเปาโลหลายแห่ง ท่านเคยส่งเขาไปรับใช้ในเมืองเธสะโลนิกาด้วย

เราขอบพระคุณพระเจ้า
เพราะท่านทุกคนอย่างต่อเนื่อง เมื่อเราอธิษฐาน
ก็เอ่ยถึงท่านเสมอ
1 เธสะโลนิกา 1:2

โรม 1:8 ,กิจการ 17:1-9

ที่เมืองเธสะโลนิกา ท่านเปาโลไปประกาศ หลายคนกลับมาเชื่อ แต่ก็มีเรื่องวุ่นวาย พระเจ้าทรงให้ เกิดผล ท่านเปาโล และเพื่อนร่วมงานของท่าน อธิษฐานเผื่อ ขอบพระคุณเพราะพวกเขาไม่หยุดหย่อน นี่เป็นต้นแบบการทำงาน รับใช้แล้ว ก็ยังอธิษฐานเผื่อต่อไป

ต่อพระพักตร์พระเจ้าของเรา และพระบิดา เราไม่หยุดที่จะระลึกถึงการกระทำที่เกิดจากความเชื่อ ทั้งหยาดเหงื่อแรงงานที่เกิดจากความรัก และความอดทนที่เกิดจากความหวังในพระเยซูคริสตเจ้าของเรา
1 เธสะโลนิกา 1:3

ยอห์น 6:29, โรม 16:6

ท่านเปาโลไม่อาจลืมคริสเตียนในคริสตจักรเมืองเธสะโลนิกาได้ เพราะการกระทำ การงาน ความ
อดทนของพวกเขา เหนือชั้นจริง ๆ เราจะเห็นสามสิ่งที่สำคัญ คือ ความเชื่อ ความรัก และความหวัง ในพวกเขาเหล่านี้ นี่เป็นสูตรของชีวิตเราเช่นกัน

พี่น้องที่รักของพระเจ้า เรารู้ว่า ท่านได้รับการทรงเลือกจากพระ องค์แล้ว เพราะข่าวประเสริฐไม่ได้มาถึงท่านแค่ถ้อยคำเท่านั้น แต่มาพร้อมกับฤทธิ์พระวิญญาณบริสุทธิ์ และเต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจ ตามที่ท่านรู้ว่า เพราะเห็นแก่ท่าน พวกเราเป็นคนอย่างไรท่ามกลางพวกท่าน
1 เธสะโลนิกา 1:4-5

โคโลสี 3:12, มาระโก 16:20, 2 โครินธ์ 6:6, ฮีบรู 2:3

ท่านเปาโลแน่ใจได้อย่างไรว่า พระเจ้าทรงเลือกพี่น้องชาวเธสะโลนิกาจริง? เพราะพระเจ้าทรงรักพวกเขา และพวกเขาได้
ตอบรับถ้อยคำของพระเจ้าอย่างมั่นใจ ได้มาพร้อมกับฤทธิ์พระวิญญาณที่เปลี่ยนชีวิต พวกเขาทำงานด้วยความรัก ความหวังใจในพระเจ้า

และท่านได้เลียนแบบชีวิตของเราและองค์พระผู้เป็นเจ้า ถึงแม้ถูกกดขี่ข่มเหงอย่างรุนแรง แต่ท่านยังต้อนรับพระคำด้วยความยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านได้กลายเป็นตัวอย่างให้กับผู้เชื่อทุกคนในแคว้นมาซิโดเนีย และอาคายา
1 เธสะโลนิกา 1:6-7

ลูกา 6:22, มัทธิว 5:10-12, 1 โครินธ์ 4:6, 11:1,กิจการ 5:41,13:52

คนที่รับพระคำของ พระเจ้าโดยไม่ย่อท้อแม้มีความลำบาก เป็นผู้เชื่อ ที่เข้มแข็ง อดทน คนเหล่านี้ จะได้รับบำเหน็จของพระเจ้าที่เหนือคนทั่ว ๆ ไปด้วยซ้ำ ในหลายประเทศที่ห้ามออกชื่อพระนามเยซู อย่าได้เอ่ยนามนี้ จะต้องโดนขัง โดนทำโทษ เราพบว่ามีผู้เชื่อจำนวนมากมายที่ต้องหนีจากบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อจะได้นมัสการ พระเจ้าอย่างอิสระ พระคำตอนนี้จึงเป็นพระคำสำหรับยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง

เพราะพระคำของพระเจ้าได้เลื่องลือออกไปจากพวกท่าน ไม่เฉพาะในแคว้นมาซิโดเนีย กับแคว้นอาคายาเท่านั้น แต่ความเชื่อของท่านเป็นที่รู้กันทุกแห่ง เราจึงไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรอีก
1 เธสะโลนิกา 1:8

โรม 10:18, 1:8,16:19

เมื่อใครคนหนึ่งเชื่อพระเจ้า เมื่อเขารู้ว่า พระเจทรงยิ่งใหญ่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะแบ่งปันสิ่งดีที่สุด
ในชีวิตให้กับคนรอบข้าง อดไม่ได้ที่ชีวิตเปลี่ยน แปลงจะเป็นที่กล่าวขานไปทั่ว บางที เรามารู้จักพระเจ้า แต่นิสัยใจคอไม่เปลี่ยน
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราต้องหันกลับมาคิด ดี ๆ ว่า เราพบพระองค์จริงหรือเปล่า

เพราะคนเหล่านั้น รายงานเรื่องของเราว่า ท่านต้อนรับเราอย่างไร และท่านได้หันจากรูปเคารพ มาหาพระเจ้า เพื่อรับใช้พระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรงพระชนม์อย่างไร
1 เธสะโลนิกา 1:9

1 เธสะโลนิกา 2:1, 1 โครินธ์ 12:2

การรับเชื่อพระเจ้าครั้งนี้ของพวกเขา ไม่ปลอม แต่เป็นจริง เพราะเห็นได้ว่า เขาได้หันหลังให้กับชีวิตแบบเดิม ที่ผ่านมาเราพบว่า เมื่อใครคนหนึ่งมีประสบการณ์ กับพระเจ้าจริง ๆ เขาก็ไม่อาจทนมีชีวิตกับรูป เคารพเหล่านั้นได้อีกเลย

และตั้งตาคอยพระบุตรของพระเจ้าจากสวรรค์ คือพระเยซูผู้ที่พระองค์ทรงให้คืนชีพขึ้นมา พระเยซูองค์นี้จะทรงช่วยกู้เราให้พ้นจากพระพิโรธที่กำลังจะมา
1 เธสะโลนิกา 1:10

โรม 2:7, โรม 5:9

คำว่าตั้งตาคอยนี้ คือ เรารอการเสด็จมาของพระเจ้าอย่างกระตือรือร้น รอด้วยความหวังใจ ซึ่งจะส่งผลให้เรามีชีวิตที่มีชีวิตชีวา เร่าร้อนในการรับใช้ ที่พระเยซูทรงช่วยให้พ้นจากพระพิโรธก็เพราะ ทรงรับโทษบาปของคนที่เชื่อในพระองค์ไปแล้วที่ไม้กางเขน เราจึงไม่ต้องกลัว พระพิโรธของพระเจ้าอีกต่อไป

2 ทิโมธี 4 คำสุดท้ายจากท่านเปาโล

รูปภาพประกอบในบทนี้ ส่วนใหญ่มาจากหนังสือกิจการตอนท้าย ๆ ซึ่งได้บันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตท่านเปาโลไว้

คำสั่งจากท่านเปาโล

ข้ากำชับเจ้าต่อพระพักตร์พระเจ้าและพระเยซูคริสต์ ผู้พิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย เมื่อพระองค์และอาณาจักรของพระองค์มาปรากฏ 
2 ทิโมธี 4:1

กิจการ 10:42, 1 ทิโมธี 5:21, มัทธิว 16:27

การกำชับของท่านเปาโลเป็นคำแรงมากในภาษากรีก มีความหมายเชื่อมโยงเชิงกฎหมายเช่นพยานสาบานว่าจะพูดความจริง เป็นคำพูดต่อพระพักตร์พระเจ้า พระผู้ทรงพิพากษาทุกคน จึงสำคัญยิ่งนัก

ความสำคัญของการประกาศพระคำ

จงประกาศพระคำ จงตั้งใจทำอย่างรีบเร่ง ทั้งเวลาที่มีและไม่มีโอกาส ให้ตักเตือน ว่ากล่าวและชักชวนทั้งด้วยความอดทนและการสอน เพราะจะถึงเวลาที่คนไม่ยอมฟัง คำสอนที่ถูกต้อง แต่แค่ฟังสิ่งที่อยากฟังเท่านั้นพวกเขาจะรวบรวมครูที่เขาพอใจจะฟัง
2 ทิโมธี 4:2-3

ทิตัส 1:13, 2:15,1 เธสะโลนิกา 5:14, วิวรณ์ 3:19, 2 เปโตร 2:1-3, กิจการ 17:21

ยุคนี้ เป็นยุคที่คนไม่ชอบฟังพระคำ ในยูทูบ พอดคาสต์ มีเรื่องตลก ๆ ให้ฟังไร้สาระไปวัน ๆ มากมาย แล้วก็ทิ้งเวลาไป ยังมีคนที่ชอบฟังโค้ชชีวิต โดยคิดว่า พวกนั้นจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น แต่ที่ชัดเจนคือ พวกเขาจะฟังสิ่งที่เป็นทางของเขา

และจะหันจากความจริง หันไปฟังเรื่องนิยายตำนานต่าง ๆ แต่เจ้าต้องหนักแน่นในทุกอย่าง อดทนต่อความยากลำบาก ทำหน้าที่ผู้ประกาศ ข่าวประเสริฐ และทำพันธกิจของเจ้าให้สำเร็จลุล่วง
2 ทิโมธี 4:4-5

2 เปโตร 1:16, เศคาริยาห์ 7:11, 1 ทิโมธี 1:4, 2 ทิโมธี 1:8, โคโลสี 4:17, กิจการ 20:30-31

เราจะเห็นลัทธิต่าง ๆ เกิดขึ้นมาจาก
พื้นฐานพระคัมภีร์ แล้วก็ไปแปลงเป็นเรื่องอีกเรื่อง มีเนื้อหาพระคัมภีร์ปนเปไปกับความคิดของผู้นำลัทธิ มันไม่ได้แค่เกิดในโลกโบราณ แต่ยังเกิดขึ้น
ในโลกทุกวันนี้ ยังมีภาพยนต์ ละคร รายการคอนเสิร์ต แข่งกีฬา ฯลฯ ที่ตรึงใจคนทำให้เขาไม่หันมาหาพระคำ

ความมั่นใจในชัยชนะของท่านเปาโล

เพราะข้าเองกำลังจะถูกเทในฐานะเครื่องดื่มบูชา เวลาที่ข้าต้องจากไปมาถึงแล้ว
ข้าได้สู้อย่างสุดกำลัง
ข้าได้แข่งขันถึงที่สุดแล้ว
ข้าได้รักษาความเชื่อไว้
2 ทิโมธี 4:6-7

ฟีลิปปี 1:23, 2:17, 2 เปโตร 1:14-15, ฮีบรู 12:1,1 โครินธ์ 9:24,กิจการ 20:24

การถูกเท.. หมายถึงการถวายจนหมดสิ้น เครื่องดื่มถูกเทออกมาจนหมด ไม่เหลือถวายแด่พระเจ้า แม้ท่านยังไม่ถูกประหาร แต่ใจของท่านไปที่แดนนั้น
แล้ว ท่านพร้อมที่จะไป เพราะสู้เต็มที่แข่งจนสุด ถึงเส้นชัย รักษาความเชื่อแล้ว ท่านเปาโลคิดอย่างนี้เสมอ

มงกุฎแห่งความชอบธรรม

ในอนาคต จะมีมงกุฎแห่งความชอบธรรมเตรียมไว้ให้ข้า ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้พิพากษาผู้ทรงธรรม จะประทานเป็นรางวัล แก่ข้าในวันนั้น และไม่ใช่ให้ข้าผู้เดียว แต่จะประทานแก่ทุกคนที่ยินดีเมื่อพระองค์มาปรากฏ
2 ทิโมธี 4:8

ยากอบ 1:12, ยอห์น 5:22, 2 ทิโมธี 1:12, โคโลสี 1:5

ท่านเปาโลมั่นใจว่าในอนาคตท่านจะได้รับรางวัลเป็นมงกุฎแห่งความชอบธรรม ซึ่งมีให้กับทุกคนที่รักการเสด็จมาของพระองค์ มงกุฎด้งกล่าว
เป็นเครื่องหมายว่าได้รับชัยชนะ อ่านวิวรณ์ 4:10
วันนี้เรายุ่งวุ่นวายกับชีวิตจนลืมว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาหรือเปล่า?

คำสุดท้ายจากเรือนจำ

ขอเจ้าพยายามอย่างที่สุดเพื่อมาหาข้าให้ได้ เพราะเดมาสได้ละทิ้งข้าไปเธสะโลนิกาเพราะหลงรักโลก เครสเซนส์ไปแคว้นกาลาเทีย ทิตัสไปเมืองดาลมาเทีย
มีท่านลูกาคนเดียวที่อยู่กับข้า อย่าลืมไปรับมาระโกมาหาข้าด้วย เพราะเขาช่วยงานรับใช้ของข้าดีมาก
2 ทิโมธี 4:9-11

โคโลสี 4:14, 1 ยอห์น 2:15, กิจการ 12:12,25, 15:37-39

ท่านเปาโลเป็นคนหนึ่งที่ชอบทำงานร่วมกับคนอื่น ๆคนที่ต้องไปจากท่านก็มีหลายแบบ เดมาสไปเพราะอยากใช้ชีวิตอย่างเดิม
เครสเซนส์กับทิตัส ไปจากท่านเพราะต้องไปทำงาน รับใช้ที่อื่น จึงเหลือหมอลูกาผู้เขียนหนังสือลูกาและกิจการที่อยู่กับท่าน หมอลูกานี้เคยเดินทางไปประกาศกับเปาโลอย่างโชกโชนเลยทีเดียว

ข้าส่งทีคิกัสไปเมืองเอเฟซัส เมื่อเจ้ามา ขอให้เอาเสื้อคลุมที่ข้าทิ้งไว้กับคารปัสที่เมืองโตรอัสมาด้วย รวมทั้งหนังสือและสำคัญที่สุดคือหนังสือแผ่นหนังช่างทองแดงชื่ออเล็กซานเดอร์ทำร้ายข้าอย่างมาก ขอพระเจ้าทรงตอบแทนให้สมกับที่เขาทำ
2 ทิโมธี 4:12-14

กิจการ 20:4, 1 ทิโม​ธี 1:20,

เสื้อคลุมที่ทิ้งไว้กับคารปัสนั้น ทำให้เรารู้ว่า ท่านฝากเสื้อคลุมไว้เพื่อเมื่อท่านโดนทหารโรมจับ ก็จะไม่เสียเสื้อนั้นไปให้กับทหารที่มักจะยึดเสื้อของ
นักโทษเอาไว้ ส่วนหนังสือแผ่นหนังนั้นก็คือส่วน หนึ่งของพระคัมภีร์เดิมนั่นเอง
อเล็กซานเดอร์ทำร้ายท่าน ดูเหมือนจะเป็นการที่เขาให้ร้ายท่านเปาโลกับคนอื่น ๆ ทำให้เสียชื่อเสียง

ตัวเจ้าเองก็ระวังเขาให้ดี เพราะเขาต่อต้านคำของเราอย่างรุนแรง ตอนที่ข้าแก้คดีครั้งแรกนั้น ไม่มีใครอยู่ข้างข้าเลย ทุกคนทิ้งข้าไปหมด แต่ขอพระเจ้าอย่าทรงถือโทษพวกเขาเลย
2 ทิโมธี 4:15-16

กิจการ 7:60

อเล็กซานเดอร์เป็นคนที่ทิโมธีต้องระวังและอย่าหลงกลเขาเป็นอันขาด ใน 1 ทิโมธี 1:20 ท่าน เขาคนนี้เป็นเหมือนเรืออัปปาง ถ้าเขาทำร้ายท่านได้ ก็จะทำร้ายทิโมธีได้เช่นกัน

แต่พระเจ้าทรงอยู่ข้างข้า และประทานกำลังเพื่อว่า ข้าจะประกาศพระกิตติคุณให้ลุล่วง
และเพื่อคนต่างชาติทุกคนจะได้ยิน
ดังนั้นข้าจึงได้รับการช่วยกู้จากปากสิงห์
2 ทิโมธี 4:17

กิจการ 23:11, 9:15, 1 ซามูเอล 17:37

พระเจ้าไม่ทรงทอดทิ้งท่านเปาโล ท่านได้มีโอกาส ที่จะประกาศพระกิตติคุณต่อหน้าเจ้าเมือง ทหารโรม คนใหญ่โตพร้อมกับคนที่อยู่ในศาล อ่านในกิจการ 25-26
ส่วนปากสิงห์นั้น มีความหมายถึงอันตรายที่ร้ายแรงแบบเอาชีวิตแทบไม่รอด ทั้งจากมนุษย์ จากซาตาน (กิจการ 14:19)

องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงกู้ข้า
จากการชั่วทุกอย่าง และจะทรงนำข้าไปสู่ อาณาจักรสวรรค์ของพระองค์อย่างปลอดภัย
ขอพระสิริรุ่งโรจน์มีแด่พระองค์ ตลอดชั่วกาลนาน อาเมน
2 ทิโมธี 4:18

สดุดี 121:7, โรม 11:36, 2 เธสะโลนิกา 3:3

มีศัตรูพยายามทำลายท่านเปาโล แต่ท่านรู้ว่าเบื้องหลังของการโจมตีทุกอย่างมาจากศัตรูของพระเจ้า
(เอเฟซัส 6:10-19) ท่านเปาโลเขียนไป ๆ แล้วก็สรรเสริญ พระเจ้าออกมา กลางคัน หากเราเองเป็นอย่างนั้นก็จะดี ไม่ฝึกที่จะขอบพระคุณ สรรเสริญในขณะที่ทำอะไรอีกอย่างอยู่ ดีเหมือนกัน โรม 11:36,เอเฟซัส 3:14-21

ความคิดถึงจากพี่น้องคริสเตียน

ขอฝากความคิดถึงมายังปริสคาและอาควิลลารวมทั้งคนในครอบครัวของโอเนสิโฟรัส
เอรัสทัส ยังค้างอยู่ที่เมืองโครินธ์ ข้าต้องจากโตรฟีมัสที่เมืองมิเลทัสขณะที่เขายังป่วยอยู่ ขอให้เจ้าพยายามที่สุด มาให้ทันฤดูหนาว
ยูบูลัส ปูเดนส์ ลีนัส คลาวเดีย และพี่น้องคนอื่น ๆ ฝากความคิดถึงมาด้วยขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับวิญญาณของเจ้า
ขอพระคุณอยู่กับเจ้า อาเมน
2 ทิโมธี 4:19-22

กิจการ 18:2, 2 ทิโมธี 1:16, โรม 16:23

ท่านเปาโลมีความสุขกับเพื่อนผู้รับใช้ ผู้เชื่อหลาย คน หัวใจของท่านอยู่กับพวกเขาเหล่านั้น ก่อนที่ท่านจะลาจากโลกนี้ไป ท่านขอให้พระคุณของพระเจ้าอยู่กับจิตวิญญาณของทุกคน
ท่านเปาโลจบชีวิตปี คศ. 64 โดยถูกตัดศีรษะ เพราะ การเป็นชาวโรมนั้นห้ามถูกประหารโดยตรึงกางเขน ตามที่เล่ากันมา บอกว่าเป็นวันเดียวกันกับที่ ท่านเปโตรถูกตรึงกางเขนกลับหัว

2 ทิโมธี 3 ยุคสุดท้ายกับปัญญาสู่ความรอด

หลีกจากคนแบบนี้

ขอให้เจ้าเข้าใจว่า ช่วงวันสุดท้ายของโลกจะเกิดความยุ่งยากที่น่ากลัวเพราะมนุษย์จะเห็นแก่ตัว รักตัวเอง บูชาเงิน โอ้อวด เย่อหยิ่ง วาจาก้าวร้าว ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ อกตัญญู ชั่วร้าย
2 ทิโมธี 3:1-2

1 ทิโมธี 4:1

ลักษณะคนยุคสุดท้าย เป็นยุคที่อยู่ระหว่างการเสด็จมาบังเกิดของพระเยซูจนถึงการเสด็จกลับมาอีกครั้งหรือพูดอีกอย่างคือ เป็นยุคที่มีคริสตจักร ความชั่วร้ายจะเพิ่มมากขึ้น และมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย

ไม่รักใครเลย ไม่อาจคืนดีกับใครได้ ใส่ร้ายผู้อื่น ใส่ร้ายผู้อื่น ไม่คุมตนเอง โหดร้าย เกลียดชังความดี ทรยศ มุทะลุ เหยียดหยามผู้อื่น รักสนุกมากกว่ารักพระเจ้า ทำทีว่าสนใจทางพระเจ้าในขณะที่ไม่ยอมรับฤทธิ์ ให้หลีกเลี่ยงคนอย่างนั้น
2 ทิโมธี 3:3-5

2 เปโตร 2:10, ทิตัส 1:16, 1 ทิโมธี 5:8, 2 เธสะโลนิกา 3:6

ที่จริงสิ่งที่ท่านเปาโลเขียนมานี้ มันคือสภาพที่ทำให้สังคมไม่มั่นคง สั่นคลอน ไม่ปลอดภัยเลย คนบางคนทำทีภายนอกว่า เป็นคนของพระเจ้า แต่จริงไม่ได้รับพระองค์ คนพวกนี้อันตรายจัด

วิธีการของคนชั่ว

มีคนจากพวกเขาแอบเข้าไปตามบ้าน เรือน และหลอกหญิงที่ขาดปัญญาซึ่งชีวิตเต็มด้วยบาปให้เป็นเชลยจากความปรารถนาต่าง ๆ ของพวกเธอ
แม้ว่าผู้หญิงเหล่านี้เรียนเสมอแต่กลับไม่อาจรู้ถึงความจริงได้เลย
2 ทิโมธี 3:6-7

มัทธิว 23:14, 1 ทิโมธี 2:4

เหตุการณ์จริงในสมัยของท่านคือ ผู้หญิงจะถูกเป็นเหยื่อของคนสอนผิดมากที่สุด จุดสำคัญของคนโดนหลอกคือ มีความอยากไม่สิ้นสุด คนพวกนี้ฟังครูสอนเท็จที่มีดาษดื่น ทำให้ชีวิตตกอยู่ในความหายนะ
ความรู้ถึงความจริงนั้น มีความหมายถึงการได้รับความรอด

คนเหล่านี้ต่อต้านความจริงเหมือนกับที่ยันเนสและยัมเบรสได้ต่อต้านโมเสส พวกเขาเป็นคนคดโกง ใจทราม มีความเชื่อปลอม แต่พวกเขาจะไปได้ไม่ไกล เพราะความโง่ของพวกเขาชัดเจนต่อสายตาคนทั้งหลาย เหมือนอย่างชายสองคนนั้น
2 ทิโมธี 3:8-9

อพยพ 7:11, 12,22, 8:7, 9:11, 1 ทิโมธี 6:5, โรม 1:28

ในสมัยของโมเสส มีชายสองคนต่อต้านท่านอย่างรุนแรง พวกเขาเป็นนักวิทยาคมชาวอียิปต์ (ตามเรื่องเล่ากันมาในหมู่คนยิว) พวกเขาเกลียดความจริง เพราะความจริงเปิดเผยให้เห็นว่าตัวเขาเป็นอย่างไร

การข่มเหง และการติดตามพระเยซู

แต่เจ้าเอง ได้ติดตามทั้งคำสอน การดำเนินชีวิต เป้าหมาย ความเชื่อ ความอดทนนาน ความรักและความบากบั่น ทั้งการถูกข่มเหง และการทนทุกข์ซึ่งข้าต้องเผชิญในอันทิโอก อิโคนิยุม และที่ลิสตรา ข้าได้ทนต่อการข่มเหงเพียงใดเจ้าก็รู้ และองค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงช่วยกู้ข้าจากสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด
2 ทิโมธี 3:10-11

1 ทิโมธี 4:6 , กิจการ 13:44-52, กิจการ 14:1-20, สดุดี 34:19

ท่านเปาโลทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างคนที่ติดตามพระเจ้าจริง ๆ กับคนที่สอนผิด ท่านได้เผชิญกับคนเหล่านั้นมาอย่างโชกโชน พวกเราทุกคน ในทุกวันนี้ เจอคำสอนผิด ข่าวลวง อยู่ทุกวันเช่นกัน

ทางคนดี ทางคนชั่ว

ความจริงแล้ว คนที่มุ่งมั่นจะดำเนินชีวิตตามพระคริสต์จะถูกข่มเหง ขณะที่คนชั่วและคนหลอกลวงจะเลวลงไปอีก ทั้งไปหลอกคนอื่น และตัวเองถูกหลอกด้วย แต่เจ้าจงเดินต่อไปตามสิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้มา และได้เชื่ออย่างมั่นคง รู้อยู่ว่าเจ้าเรียนมาจากใคร
2 ทิโมธี 3:12-14

สดุดี 34:19, 2 เธสะโลนิกา 2:11, 2 ทิโมธี 1:13,วิวรณ์ 2:10

คนที่จะติดตามพระเจ้าก็ต้องเตรียมตัวเจอกันต่อต้าน พระเจ้าจะทรงเป็นผู้ทำให้เขาผ่านมันไปได้ คำว่าคนหลอกลวงในที่นี้ มีความหมายรวมไปถึงนักทำวิทยาคม หมอดูเหล่านี้ด้วย พวกเขาหลอกคนอื่นและหลอกตัวเองไปพร้อม ๆ กัน

ตามทางพระคัมภีร์

และรู้ว่าตั้งแต่เด็กมา เจ้าได้คุ้นเคยกับพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสามารถทำให้เจ้ามีปัญญาถึงความรอดด้วยความเชื่อในพระเยซูคริสต์
2 ทิโมธี 3:15

ยอห์น 5:39

ท่านเปาโลเน้นการที่ทิโมธีรับการอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก ทั้งคุณแม่และคุณยายสอนเขามาเป็นอย่างดี (1:5) นี่เป็นกำลังใจให้กับพ่อแม่ทุกบ้าน

พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการบันดาลใจจากพระเจ้า มีประโยชน์เพื่อสอน ตักเตือน แก้ไข ฝึกฝนในทางชอบธรรม เพื่อว่าคนของพระเจ้าจะเพียบพร้อม ถูกเตรียมไว้สำหรับงานดีทุกอย่าง
2 ทิโมธี 3:16-17

2 เปโตร 1:20,โรม 4:23, 15:4, 1 ทิโมธี 6:11, 2 ทิโมธี 2:21

รับการบันดาลใจคำนี้ มีความหมายว่าพระเจ้าทรงหายใจออกมา พระเจ้าทรงเปิดเผยความจริงให้กับอัครทูต ผู้เผยพระคำ ดังนั้นผู้เขียนพระคัมภีร์คือองค์พระผู้เป็นเจ้าเอง พระคำทำให้คนของพระเจ้าสมบูรณ์แบบ