สดุดี 36 มนุษย์ชั่ว แต่พระเจ้าทรงดีเหลือเกิน

ฟ้าที่อยุธยา

ถึงหัวหน้านักร้อง ของดาวิด ผู้รับใช้พระยาห์เวห์
ความชั่วร้ายของมนุษย์
1 คนชั่วนั้น ชั่วถึงกระดูก
เขาไม่เกรงกลัวพระเจ้าเลย
2 เขาหยิ่งเกินไปที่จะรับรู้ว่าตนบาป
และไม่อาจเลิกทำบาปได้
3 คำจากปากของเขาทั้งชั่วร้ายและล่อหลอก
เขาหยุดที่จะทำอย่างคนฉลาด หยุดที่จะทำดี
4 แม้กระทั่งบนที่นอน เขาก็ยังคิดแผนชั่ว
ตั้งใจไปในทางที่ไม่ดี เขาไม่เกลียดชังความชั่วเลย

พระเจ้าทรงเป็นที่สุดของที่สุด
5 โอ พระยาห์เวห์ ความรักมั่นคงของพระองค์สูงถึงฟ้า
และความซื่อตรงของพระองค์สูงถึงเมฆ
6 ความเที่ยงธรรมของพระองค์ เป็นเหมือนกับภูเขาสูงที่สุด
การพิพากษาของพระองค์เป็นเหมือนทะเลลึกที่สุด
โอ พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงรักษาทั้งมนุษย์และสัตว์ไว้
7 โอ พระเจ้าข้า
ความรักมั่นคงของพระองค์นั้นทรงคุณค่ามากเท่าใด
ดังนั้น ลูกหลานของมนุษย์ภายใต้ร่มปีกของพระองค์
จึงวางใจในพระองค์
ชีวิตของผู้ที่ติดตามพระเจ้า
8 พวกเขาเต็มอิ่มกับความมั่งคั่งจากพระวิหาร
และพระองค์ทรงให้พวกเขาดื่มจากธารน้ำ
แห่งความโปรดปรานของพระองค์
9 เพราะน้ำพุแห่งชีวิตอยู่กับพระองค์​
เราเห็นทุกสิ่งใดเพราะแสงสว่างจากพระองค์
10 ขอทรงยืนยันความรักมั่นคงต่อคนที่รู้จักพระองค์
และทรงยืนยันความเที่ยงธรรมของพระองค์
ต่อคนที่มีใจเที่ยงตรง
11 ขอโปรดอย่าให้เท้าของคนเย่อหยิ่งมาต่อสู้ข้า
หรือมือของคนชั่วร้ายมาไล่ข้าออกไป
12คนที่ทำความชั่วล้มลงไป
พวกเขาถูกโยนทิ้งไป และไม่อาจที่จะลุกขึ้นมาได้อีกเลย

พระคัมภีร์เชื่อมโยง

1* โรม 3:18; สุภาษิต 16:6

2*สดุดี 49:38; เฉลยธรรมบัญญัติ 29:19

3*เยเรมีย์ 4:22; สดุดี 55:21

4*มีคาห์ 2:1; สุภาษิต 4:16

5* สดุดี 108:4; อิสยาห์ 55:7-9

6*โรม 11:33, สดุดี 145:9

7*สดุดี 86:5; 1ยอห์น 3:1

8* สดุดี65:4; 16:11; อิสยาห์ 25:6

9* ยอห์น 8:12; 4:10,14 ; 1 ยอห์น 1:7

10* เยเรมีย์ 22:16; ฮีบรู 8:11

11*สดุดี 119:69; 17:8-14

12* สดุดี 1:5 ; วิวรณ์ 19:1-6

ราชาดาวิดเรียกตัวท่านเองว่า ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์เฉพาะในสดุดีบทที่ 18 และบทนี้เท่านั้น เข้าใจว่าบทที่ 36 เขียนเมื่อยังหนุ่ม และบทที่ 18 เป็นตอนที่ท่านอายุมากแล้ว

สดุดี 36:1-4
ความชั่วร้ายของมนุษย์
ลักษณะของคนที่ชั่วร้ายเกิดจากใจที่ไม่เกรงกลัวพระเจ้าก่อน เขาไม่คิดว่าเขาจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง สังเกตได้ว่าคนที่ทำชั่วจนเป็นนิสัย เขาคิดไม่ออกว่าสิ่งที่เขาทำนั้นผิดต่อผู้อื่นขนาดไหน เขาสามารถพูดโกหก พูดโกงต่อหน้าต่อตา ต่อประชาชนมากมายโดยไม่รู้ตัวเลยว่า ใคร ๆ ก็เห็นกึ๋นของเขา ท่านดาวิดได้บรรยายความชัดเจนมาก ท่านเห็นคนแบบนี้มาแล้วว่า ก่อนจะหลับไปยังคิดแผนชั่วได้ด้วย

สดุดี 36:5-7
พระเจ้าทรงเป็นที่สุดของที่สุด
คราวนี้ ท่านดาวิดได้หันกลับไปหาพระเจ้าผู้ประเสริฐ แตกต่างจากมนุษย์ที่ท่านกล่าวถึงในสี่ข้อแรกอย่างสิ้นเชิง เราควรที่จะเก็บพระคำข้อ 5-10 นี้ไว้ในใจของเรา จำเอาไว้ ท่องจำ มั่นใจในความดีของพระเจ้าตามที่ท่านดาวิดได้บอกเรา.
ความรักมั่นคงของพระเจ้า สูงถึงฟ้า ทรงคุณค่า (7) = มหาศาล ครอบคลุมทุกแห่ง
ความซื่อตรงของพระเจ้า สูงถึงเมฆ = เยอะมาก สวยงาม อยู่ล้อมเรา ให้เราเห็นเสมอ
ความเที่ยงธรรมของพระเจ้า เหมือนภูเขาสูงที่สุด= มองเห็นแต่ไกล เข้มแข็ง มั่นคง ไม่คลอนแคลน
การพิพากษาของพระองค์ เหมือนทะเลลึก = ลึกล้ำ เราอาจหยั่งถึงไม่หมด
ร่มปีกของพระองค์ เป็นที่พักพิง หลบภัยของเรา

สดุดี 36:8-12
ชีวิตของผู้ที่ติดตามพระเจ้า
ใครที่อยู่ในพระเจ้า เขาจะเต็มบริบูรณ์ในวิญญาณของเขาเพราะพระวิหารของพระเจ้านั้นมั่งคั่ง สมบูรณ์ พระวิหารนั้นเป็นของพระเจ้าแต่ก็เป็นของเขาด้วย เพราะเขาเป็นลูกของพระองค์
ชีวิตใครที่มีความโปรดปรานของพระเจ้าอยู่ ถึงแม้เขาไม่รู้ แต่ถ้าหากเขาดูดี ๆ มองให้ออก เขาจึงจะเข้าใจว่า เมื่อพระเจ้าโปรดปรานใคร มันแตกต่างจากคนที่ไม่ทรงโปรดปรานอย่างไร
แค่นั้นยังไม่พอ เรายังมีน้ำพุแห่งชีวิตที่ทำให้สดชื่น ให้ชีวิต รวมไปถึงที่เราจะมองเห็นทุกอย่างด้วยความเข้าใจเพราะพระเจ้าให้แสงสว่างของพระองค์ ช่วยให้เราเห็นทุกสิ่งอย่างชัดเจน
จากนั้นราชาดาวิดทูลขอพระเจ้าทรงย้ำเตือนความรักมั่นคงให้กับคนของพระองค์และไม่ให้คนชั่วมาทำอันตรายคนของพระองค์ได้
นี่เป็นคำอธิษฐานที่เราจะอธิษฐานเผื่อเพื่อนผู้เชื่อในประเทศที่ต้องถูกข่มเหงได้
อย่าลืมว่าพี่น้องคริสเตียนต้องอธิษฐานเผื่อกันและกันแม้จะไม่รู้จักกันเป็นส่วนตัว

สดุดี 35 ขอร้องพระเจ้าให้ทรงล่าศัตรู

ขอพระเจ้าทรงช่วยให้พ้นจากศัตรู. สดุดีของดาวิด
ขอที่กำบัง
1 โอ พระยาห์เวห์ ขอทรงต่อสู้กับเหล่าคนที่ต่อสู้ข้า
ขอทรงรบรากับคนที่รบรากับข้า
2 ขอพระองค์ทรงถือโล่และเขน
และประทับยืนเพื่อช่วยข้า
3 ขอทรงชูหอกและหยุดเหล่าคนที่ตามไล่ล่าข้า
ขอตรัสแก่วิญญาณของข้าว่า
“เราคือความรอดของเจ้า”

ขอทรงให้หายนะมาถึงศัตรู
4 ขอให้คนที่พยายามเอาชีวิตของข้านั้น
ต้องรับความอับอาย กลายเป็นคนไร้เกียรติ
ขอให้คนที่วางแผนทำลายข้า
ต้องล่าถอยและพบเจอกับความสับสน
5 ให้พวกเขาเป็นเหมือนแกลบที่ลมพัดไป
และขอทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ไล่ล่าพวกเขา
6 ขอให้ทางของเขาทั้งมืดมนและลื่น
และทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ตามล่าพวกเขาไป
7 เพราะพวกเขาทำตาข่ายเตรียมดักข้าโดยไม่มีเหตุ
พวกเขาขุดหลุมพรางดักข้าโดยไม่มีเหตุ
8 ขอให้หายนะมาถึงเขาอย่างไม่คาดฝัน
ให้เขาตกลงไปในตาข่ายที่พวกเขาซ่อนเอาไว้เอง
9 แล้ววิญญาณของข้าจะยินดีในองค์พระยาห์เวห์
วิญญาณข้าจะชื่นชมในความรอดจากพระองค์
10 ทั้งกายและใจของข้าจะกล่าวว่า
มีใครเป็นเหมือนพระยาห์เวห์บ้าง
ที่ทรงช่วยคนอ่อนแอให้พ้นจากคนที่แข็งแรงกว่า
ทรงช่วยผู้ยากไร้และแร้นแค้นให้พ้นจากคนที่ปล้นพวกเขา

พยานเท็จที่มาใส่ร้ายและเยาะเย้ย
11 เกิดพยานเท็จที่โหดร้ายปรักปรำข้า
กล่าวหาในสิ่งที่ข้าไม่รู้เรื่อง
12 พวกเขาตอบสนองความดีด้วยความชั่ว
และวิญญาณของข้าก็หมดหวัง
13 เมื่อพวกเขาป่วย ข้าก็สวมผ้ากระสอบ
ข้าถ่อมตนลงด้วยการอดอาหาร
ข้าก้มลงอธิษฐานเผื่อ
14 ราวกับว่าพวกเขาเป็นเพื่อน พี่น้องของข้าเอง
ข้าก้มลงกับพื้นราวกับคนเศร้าโศกถึงแม่ของตนเอง
15 แต่เมื่อข้าทุกข์ร้อน พวกเขากลับรวมตัวกันแสดงความยินดี
สมคบกันเพื่อต่อต้านข้าตอนที่ข้าไม่รู้ตัว
คนที่ข้าไม่เคยรู้จัก ก็ไม่หยุดที่จะใส่ร้ายข้า
16 พวกเขาเยาะหยันข้าไม่หยุดหย่อน
เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ข้า
17 โอ พระผู้เป็นเจ้านาย
พระองค์จะทรงมองดูนานเท่าไร
ขอทรงช่วยข้าให้พ้นจากหายนะ
ขอทรงช่วยกู้ชีวิตอันมีค่าจากเหล่าสิงโต

คำสัญญาว่าจะสรรเสริญให้คนมากมายรู้
18 ข้าจะถวายคำขอบพระคุณในที่ประชุมใหญ่
ข้าจะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางผู้คนมากมาย

การเยาะเย้ยที่ดาวิดรู้ว่าจะต้องเจอ
19 ขอโปรดอย่าให้คนเหล่านั้นที่มาเป็นศัตรูยิ้มเยาะข้าได้
ขออย่าให้คนที่เกลียดข้าโดยไม่มีเหตุเยาะหยันข้าได้
20 เพราะพวกเขาไม่พูดถึงสันติ
มีแต่ความพยายามที่จะสร้างเรื่องเพื่อหลอกผู้คน
21 พวกเขาเปิดปากต่อต้านข้า
กล่าวร้ายว่า “นั่นไง นั่นไง เราเห็นมากับตา”

คำร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า ขอความอัปยศให้ศัตรู
22 โอ พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเห็น
ขออย่าทรงนิ่งเฉย
โอ องค์เจ้านาย ขออย่าทรงอยู่ห่างข้า
23 ขอพระองค์ทรงตื่นขึ้น ขอทรงลุกขึ้นปกป้องข้าพระองค์
พระเจ้าของข้า องค์เจ้านายของข้า ขอทรงเห็นแก่ข้าด้วย
24 ขอทรงพิสูจน์ว่าข้าไม่ผิด ตามความเที่ยงธรรมของพระองค์
โอ พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้า
ขออย่าทรงให้พวกเขาเยาะหยันข้าได้
25 อย่าให้เขาคิดในใจได้ว่า อา สมใจเราแล้ว
อย่าให้พวกเขาพูดได้ว่า เรากลืนเขาได้แล้ว!
26 ขอให้คนที่พอใจกับความหายนะของข้า
ต้องอับอาย และสับสน
ให้พวกเขาสวมความน่าละอาย
และให้คนที่ยกยอตนเองเหนือข้า
ต้องเจอกับความอัปยศอดสู

สัญญาว่าจะสรรเสริญพระเจ้า
27 ให้คนที่ชื่นชมกับความเที่ยงธรรมของข้า
ตะโกนด้วยความชื่นชม และยินดีนัก
ให้พวกเขากล่าวว่า “ขอยกย่องเทิดทูนพระยาห์เวห์
พระผู้ทรงพอพระทัยกับสวัสดิภาพของผู้รับใช้ของพระองค์”
28 และลิ้นของข้าจะกล่าวถึงความเที่ยงธรรมของพระองค์
และสรรเสริญพระองค์ตลอดทั้งวัน

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 43:1; 119:154; เยเรมีย์ 51:36; อิสยาห์ 49:25

2* อิสยาห์ 42:13; อพยพ 15:3

3* สดุดี 27:2; อิสยาห์ 12:2

4* สดุดี 40:14,15; 70:2; 129:5

5*โยบ 21:18; สดุดี 83:13; อิสยาห์ 29:5

6* เยเรมีย์ 23:12; 13:16

7* สดุดี 9:15; 140:5; ยอห์น 15:25

8*สดุดี 55:23; อิสยาห์ 47:11; 1 เธสะโลนิกา 5:3

9* อิสยาห์ 16:10; สดุดี 13:5; ฟีลิปปี 3:1-3

10* สดุดี 51:8; 140:12; อพยพ 15:11;

11*สดุดี 27:12; มัทธิว 26:59-60

12* สดุดี 38:20; 109:5; เยเรมีย์ 18:20; ยอห์น 10:32

13* โยบ 30:25; สดุดี 69:10-11

14* ลูกา 19:41-42; สดุดี 38:6; 2 ซามูเอล 1:11-12, 17-27

15* มาระโก 14:65; สดุดี 7:2

16* เพลงคร่ำครวญ 2:16; โยบ 16:9; สดุดี 37:12

17* สดุดี 13:1; ฮาบากุก 1:13; สดุดี 89:46

18* ฮีบรู 2:12; โรม 15:9; สดุดี 138:4-5

19* สดุดี 69:4; 13:4; ยอห์น 15:25;

20* กิจการ 25:3; มัทธิว 12:24

21* สดุดี 40:15;22:13; 70:3

22* สดุดี 28:1; 10:1; อพยพ 3:7

23* สดุดี 44:23; 7:6; อิสยาห์ 51:9

24* สดุดี 43:1; 35:19; 26:1

25*เพลงคร่ำครวญ 2:16; สดุดี 124:3

26* สดุดี 109:29

27* โรม 12:15; สดุดี 40:16; 149:4

28* สดุดี 71:24; 145:5,21

อธิบายเพิ่มเติม

หลายคนบอกว่า สดุดีบทนี้ ยอดสุดสำหรับการอธิษฐานเมื่อเราเจอสงครามฝ่ายวิญญาณในชีวิต และจริง ๆ แล้วเป็นบทอธิษฐานเผื่อเพื่อน ๆ ของเราที่ถูกกดขี่ ข่มเหง ไม่ว่าจะจากครอบครัว ที่ทำงาน ชุมชน แม้กระทั่งรัฐบาลที่ห้ามไม่ให้เชื่อพระเยซูคริสต์

สดุดี 35:1-3 ขอที่กำบัง
ดาวิดทูลขอพระเจ้าให้ทรงออกรบแทนท่าน

สดุดี 35:4-10 ขอทรงให้หายนะมาถึงศัตรู
ดาวิดขอให้พระเจ้าทรงไล่ล่าและจัดการทำให้ศัตรูต้องละอาย คำว่าทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์นี้ มีความหมายถึงพระเยซูผู้ที่เวลานั้นยังมิได้ทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ เหมือนในสดุดี 34:7 ที่ว่า 7 ทูตสวรรค์ของพระเจ้าอยู่ล้อมรอบ และช่วยกู้คนที่ยำเกรงพระองค์. ท่านบ่งบองชัดเจนว่า ศัตรูจะทำอย่างไรกับท่าน ท่านก็จะทำตอบเขาอย่างนั้น
แผนใด ๆ ก็ตามที่ศัตรูทำขึ้นมาเพื่อจัดการท่าน ท่านขอให้กลับไปหาพวกเขาเหมือนกัน
และถ้าพระเจ้าตอบคำอธิษฐานท่านก็สัญญาจะยินดีในพระองค์

สดุดี 35:11-17 พยานเท็จที่มาใส่ร้ายและเยาะเย้ย
ท่อนนี้ เป็นการคร่ำครวญมากกว่าจะเป็นการทูลขอ. ดาวิดอธิบายชัดเจนว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ท่านกล่าวถึงความดีที่ท่านทำให้ศัตรู ในทางกลับกันหากดาวิดเจอความทุกข์ พวกเขาก็จะเยาะเย้ยและทำให้สถานการณ์แย่ลง

สดุดี 35:18 คำสัญญาว่าจะสรรเสริญพระเจ้าให้คนมากมายได้รู้
ท่านขอให้พระเจ้าอย่าทรงแค่มองดู เมื่อพระองค์ทำกิจตามคำขอ ดาวิดจะสรรเสริญพระองค์ต่อหน้าคนหมู่มาก ท่านจะทำให้ทุกคนรอบข้างได้รู้ถึงการตอบคำอธิษฐานนั้น

สดุดี 35:19-21 การเยาะเย้ยที่ดาวิดรู้ว่าจะต้องเจอ
บางครั้งการเกลียดชังที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษเลย ดาวิดขอพระเจ้าอย่าให้โอกาสคนพวกนั้นเยาะเย้ย เราจะเห็นความเกลียดที่ถูกปะทุขึ้นในทางการเมืองอยู่ตลอดเวลาในโลกทุกวันนี้ เราจึงไม่แปลกใจว่า ความเกลียดนั้นอยู่ในทุกสังคม ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นไหน เชื้อชาติใด คำอธิษฐานของดาวิดจึงเข้ากับโลกปัจจุบันนี้มาก

สดุดี 35:22-26 คำร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า
ศัตรูของดาวิดหาเรื่องใส่ร้ายได้ทุกทาง แต่ดาวิดรู้ว่า พระเจ้าทรงเห็นทุกอย่างว่าท่านทำผิดจริงหรือไม่ ดาวิดกล้าที่จะขอให้พระเจ้าทรงปกป้อง ท่านแน่ใจว่า ท่านไม่ได้ทำผิดอย่างที่ศัตรูให้ร้าย และศัตรูที่ให้ร้ายคนอื่นก็จะเป็นคนที่เย่อหยิ่ง ยกตัวขึ้นเสมอไป (26)

สดุดี 35:27-28 สัญญาว่าจะสรรเสริญพระเจ้า
จบสดุดีด้วยการที่ดาวิดขอให้คนที่อยู่ฝ่ายท่านได้ถวายพระสิริแด่พระเจ้า แม้ดาวิดจะไม่ใช่คนที่ทำถูกต้องตลอดเวลา แต่ท่านก็อยู่ฝ่ายพระเจ้าเสมอ และการที่ทำผิดและหันกลับมาหาพระเจ้าก็ดีกว่าทำผิดแล้วเตลิดไปไม่กลับมา

สดุดี 34 คำสรรเสริญจากถ้ำหลบภัย

สดุดีบทนี้เขียนหัวข้อไว้ว่า เป็นสดุดีของดาวิดตอนที่ท่านหนีจากกษัตริย์ซาอูล และไปขอหลบภัย
ในเมืองกัทของชาวฟีลิสเตีย เมื่อท่านทำอาการดั่งคนบ้าต่อหน้าอาคีชกษัตริย์แห่งกัท ซึ่งรู้สึกรำคาญมากที่ดาวิดเสียสติขนาดนั้น ( 1 ซามูเอล 21:10-15)
ต่อมาท่านได้ไปหลบภัยในถ้ำอดุลลัมพร้อมกับคนที่หนีไปด้วย ประมาณ 400 คน ดูเหมือนว่าสดุดีบทนี้เขียนในถ้ำและร้องสรรเสริญพระเจ้าต่อหน้าคนที่อยู่กับท่านเวลานั้น
หากเราคิดถึงบรรยากาศของคนหนีภัยแต่ยังมีใจสรรเสริญพระเจ้าแม้ทางมืดมน มันเป็นภาพที่ยิ่งเกินกว่าที่เราจะเข้าใจความรู้สึกได้จริง ๆ และควรที่เราจะเดินตามรอยของคนที่ต้องเผชิญกับการตามฆ่า แต่ยังคงกล้าหาญที่จะเชื่อพระเจ้าอย่างไม่ลดละ

ประชาชนสรรเสริญพระเจ้า
1 ข้าถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์ทุกเวลา
ปากของข้าจะกล่าวคำสรรเสริญพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง
2 วิญญาณของข้าจะอวดพระยาห์เวห์
คนที่ถ่อมตนได้ยินก็จะยินดี
3 โอ.. มายกย่องพระยาห์เวห์ด้วยกันกับข้าเถอะ
และให้เรายกชูพระนามของพระองค์ด้วยกัน
4 ข้าแสวงหาพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงตอบข้า
ทรงช่วยกู้ให้ข้าพ้นจากความกลัวทั้งสิ้น
5 ผู้ที่มองไปยังพระองค์จะสดใส
ใบหน้าของพวกเขาจะไม่ต้องอาย

คำพยานของดาวิดผู้ถูกไล่ล่า
6 ชายผู้ยากจนคนนี้ร้องทูล และพระยาห์เวห์ทรงฟังเขา
และทรงช่วยให้เขาพ้นจากความทุกข์ยากทั้งสิ้น
7 ทูตสวรรค์ของพระเจ้าอยู่ล้อมรอบ และช่วยกู้คนที่ยำเกรงพระองค์

ชวนให้มาชิมพระเจ้า
8 จงมาชิมดูแล้วจะรู้ว่า พระเจ้าทรงดีนัก
ความสุขเป็นของคนที่วางใจในพระองค์​
9 จงยำเกรงพระยาห์เวห์ วิสุทธิชนของพระองค์
เพราะคนที่ยำเกรงพระองค์จะไม่ขัดสนสิ่งใด
10 สิงโตหนุ่มยังขัดสนและหิวโหย
แต่คนที่แสวงหาพระยาห์เวห์จะไม่ขัดสนสิ่งดีใด ๆ
11 ลูกเอ๋ย จงเข้ามาฟังเรา
และเราจะสอนให้เจ้ารู้จักยำเกรงพระยาห์เวห์

เงื่อนไขของชีวิตที่ยืนนาน
12 ใครก็ตามที่ปรารถนาชีวิต และรักชีวิตดี ๆ ที่ยาวนาน
13 ก็อย่าให้ลิ้นของเจ้าพูดสิ่งชั่ว
อย่าให้ปากของเจ้ากล่าวคำหลอกลวง
14 จงหลีกเลี่ยงความชั่วและทำความดี
จงแสวงหาสันติสุขและติดตามสันติสุขนั้น

พระเจ้าทรงมองดูคนของพระองค์
15 พระเนตรของพระยาห์เวห์อยู่เหนือคนเที่ยงธรรม
และพระกรรณของพระองค์ทรงฟังเสียงร้องของพวกเขา
16 พระพักตร์ของพระยาห์เวห์ต่อต้านคนที่ทำความชั่ว
เพื่อว่าจะตัดความทรงจำถึงเขาทั้งสิ้น

กำลังใจแก่คนที่ใจสลาย
17 คนเที่ยงธรรมร้องทูล และพระยาห์เวห์ทรงฟังเสียงเขา
ทรงช่วยให้เขาให้พ้นจากความทุกข์ร้อนทั้งสิ้น
18 พระยาห์เวห์ทรงอยู่ใกล้คนใจแตกสลาย และทรงช่วยคนที่หัวใจชอกช้ำ

พระเจ้าทรงดูแลคนเที่ยงธรรม
19คนเที่ยงธรรมก็พบความทุกข์ยากหลายอย่าง
แต่พระยาห์เวห์ทรงกู้เขาให้พ้นทั้งหมด
20 พระองค์ทรงปกป้องกระดูกของเขา
ไม่มีกระดูกถูกหักสักท่อน
21 ความชั่วจะสังหารคนชั่วร้าย และคนที่เกลียดชังความเที่ยงธรรมจะถูกลงโทษ
22 พระยาห์เวห์ทรงไถ่วิญญาณของผู้รับใช้ของพระองค์
และคนที่วางใจในพระองค์จะไม่ถูกลงโทษ

พระคำเชื่อมโยง

1* 1 เธสะโลนิกา 5:18, โคโลสี 3:17, สดุดี 145:2

2* 1 โครินธ์ 1:31, เยเรมีย์ 9:24

3* สดุดี 69:30, ลูกา 1:46, วิวรณ์ 19:5-6

4* สดุดี 18:6; 116:1-6

5* ฮีบรู 12:2, สดุดี 123:1-2

6* สดุดี 34:17-19; 66:16-20

7* สดุดี 91:11, ดาเนียล 6:22

8* เยเรมีย์ 31:14, สดุดี 63:5

9*ฟีลิปปี 4:19, สดุดี 23:1

10* สดุดี 84:11; 104:21

11* สุภาษิต 1:7, สดุดี 111:10; 32:8

12*เฉลยธรรมบัญญัติ 30:20; 6:2, สดุดี 4:6

13* ยากอบ 3:5-10, สดุดี 141:3

14* สดุดี 37:27, ฮีบรู 12:14

15* 1 เปโตร 3:12, สดุดี 34:17; 33:18

16* เยเรมีย์ 44:11; 17:13, สุภาษิต 10:7

17* อิสยาห์ 65:24, สดุดี 145:18-20, 34:6; 19

18* สดุดี 147:3; 145:18, อิสยาห์ 57:15

19* สดุดี 34:4; 6; 17, 1 เปโตร 4:12-13

20* ยอห์น 19:36

21*สดุดี 94:23, สุภาษิต 24:16

22* สดุดี 103:4; 71:23, วิวรณ์ 5:9

อธิบายเพิ่มเติม

สดุดี 33:1-5
ดาวิดสรรเสริญพระเจ้า ทั้ง ๆ ที่สภาพของท่านในเวลานั้น ไม่ได้อยู่ในความมั่นคงเลย ท่านทั้งกลัวและอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก ข้อ 3 คิดถึงดาวิดที่ร่างกายทรุดโทรมจากการตรากตรำ หนีหัวซุกหัวซุน แล้วมากล่าวชวนคนทั้งหลายสรรเสริญพระเจ้า ยกชูพระนามพระเจ้าอย่างนี้ ในข้อ 4-5 ท่านบอกชัดว่าท่านแสวงหาพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงตอบเสมอ ท่านและคนที่อยู่กับท่าน จะไม่ต้องอายต่อหน้าศัตรู

สดุดี 33:6-7
ดาวิดรู้ดีว่าท่านเป็นใคร ไม่ใช่นักรบที่กล้าหาญ แต่กลับเป็นคนยากไร้ ไม่มีอะไร แต่พระเจ้ากลับทรงฟังคนเช่นนี้
ยิ่งกว่านั้น ทรงให้ทูตสวรรค์มาล้อม คนยำเกรงพระเจ้าซึ่งต้องการพระเจ้าที่สุดด้วย ดาวิดมีประสบการณ์จริงกับการช่วยเหลือของทูตสวรรค์มาหลายครั้ง ซึ่งประสบการณ์แบบนี้ มีคนของพระเจ้าในสมัยต่อมา แม้ในปัจจุบันก็ได้รับเหมือนกัน

สดุดี 33:8-11
คำว่า ยำเกรงพระเจ้า… เป็นคำที่ดาวิดเน้นมาตั้งแต่ข้อ 7 จนถึงข้อ 11 ลองทบทวนข้อความเหล่านี้ให้ดีกว่า เกิดอะไรกับคนที่ยำเกรงพระเจ้าบ้าง…. ท่านชวนให้ผู้ที่ติดตามท่านไปนั้น มาชิม และมารับรู้ว่า พระเจ้าทรงดีเพียงไหน พวกเขาต้องมามีประสบการณ์กับพระเจ้าด้วยตัวเองจึงจะรู้รสชาติ จึงจะเห็น และพวกเขาจะมีความสุขที่มาจากพระเจ้าจริง ๆ
ดาวิดพร้อมที่จะสอนความยำเกรงพระเจ้าให้กับคนที่อยู่ข้าง ๆ ท่าน เราสอนได้อย่างดาวิดไหม? …

สดุดี 33:12-14
ดาวิดพูดคำนี้ตอนที่ท่านยังหนุ่มอยู่ และเราเห็นว่า ท่านได้มีชีวิตที่ยืนนานจริง ๆ เมื่อเราเรียนรู้ชีวิตของดาวิดจะเห็นว่า สิ่งหนึ่งที่ท่านมีก็คือ เป็นคนจริง เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ยำเกรงพระเจ้า แม้ว่าในชีวิตจะพลาด แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงเตือนให้ท่านไม่ปล่อยให้ความผิดนั้นลอยนวล

สดุดี 33:15-16
คำยืนยันว่า พระเจ้าทรงมองดูคนของพระองค์นี้ ดาวิดกล่าวถึงบ่อย ๆ จากสดุดีบทก่อนหน้านี้ เราจึงมั่นใจได้ว่า พระเจ้าทรงมองเราอยู่ตลอดเวลา

สดุดี 33:17-18
ขณะที่พระเจ้าทรงต่อต้านคนชั่ว พระองค์กลับทรงฟังคนเที่ยงธรรม เรื่องนี้เราดูตัวอย่างได้จากชีวิตของโมเสสในอพยพ 32-34 เราจะเห็นการโต้ตอบของพระเจ้ากับคนเที่ยงธรรมที่พระองค์ทรงรักชัดเจน
และข้อ 18 นี้ ขอบคุณพระเจ้าที่ดาวิดเขียนไว้ให้เรา เพราะในยามที่เกิดใจแตกสลาย ชอกช้ำ ผู้ที่เราต้องการที่สุดก็คือพระเจ้าเท่านั้น ในโลกของเรานี้ ผู้ที่ถูกข่มเหงน้ำใจ ถูกทำลาย ถูกใส่ร้าย ถูกล่วงละเมิดนั้นมีมากมายเหลือเกิน และต้องการพระเจ้ามากจริง ๆ เพราะมนุษย์แทบช่วยไม่ได้ และไม่ช่วยอีกด้วย

สดุดี 33:19-22
เราเห็นความแตกต่างว่าพระเจ้าทรงปฏบัติต่อคนสองแบบไม่เหมือนกันเลย คนเที่ยงธรรมที่วางใจพระเจ้า กับคนอธรรมที่มีตัวเองเป็นพระเจ้านั้น ต่างมีปลายทางไม่เหมือนกัน แต่ยังมีคนอธรรมมากมายที่คิดว่า ปลายทางของพวกเขาดีกว่า เราอย่าไปเชื่อ ขอให้เชื่อเถิดว่า พระเจ้าจะไม่ลงโทษคนที่วางใจในพระองค์

สดุดี 33 แด่พระเจ้าผู้ทรงเต็มด้วยรักมั่นคง

การแบ่งเป็นหัวข้อนี้ เพื่อให้การอ่านสะดวกขึ้น ท่านอาจจะแบ่งหัวข้อแตกต่างออกไป การทำเช่นนี้จะทำให้ได้เข้าใจ เห็นชัดว่า ผู้เขียนกำลังคิดถึงอะไร และเขาเปลี่ยนหัวเรื่องที่เขาคิดตอนไหน

สดุดี 33
ชวนให้ร้องเพลงถวายพระเจ้า
1 จงร้องเพลงด้วยความยินดี โอ เหล่าคนที่เที่ยงธรรม
คำสรรเสริญจากคนเที่ยงตรงก็งดงาม
2 จงสรรเสริญพระยาห์เวห์ด้วยเสียงพิณ
ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณสิบสาย
3 จงร้องเพลงใหม่ถวายพระองค์
เล่นดนตรีอย่างเชี่ยวชาญพร้อมกับเสียงตะโกนอย่างชื่นชม
พระลักษณะของพระเจ้า
4 เพราะพระดำรัสของพระยาห์เวห์นั้นถูกต้อง
ทรงทำราชกิจทั้งสิ้นด้วยความซื่อตรง
5 พระองค์ทรงรักความเที่ยงธรรมและความยุติธรรม 
แผ่นดินโลกเต็มด้วยความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์
จักรวาลที่พระองค์ทรงสร้าง
6 ฟ้าสวรรค์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยพระดำรัสของพระยาห์เวห์
และดวงดาวทั้งหลายเกิดขึ้นมาโดยลมจากพระโอษฐ์
7 พระองค์ทรงรวบรวมน้ำทะเลเป็นมวลน้ำใหญ่
ทรงเก็บห้วงน้ำลึกไว้ให้อยู่ในคลัง
8 ทั้งโลกเอ๋ย จงเกรงกลัวตัวสั่นต่อพระยาห์เวห์ 
ผู้ที่อาศัยในโลกทั้งสิ้น จงยืนตะลึงเพราะพระองค์
9 เมื่อพระเจ้าตรัส โลกก็เกิดขึ้น 
เมื่อพระองค์ทรงบัญชา โลกก็มั่นคง
ใครจะตั้งตัวต่อต้านพระองค์?
10 พระยาห์เวห์ทรงทำให้การสมคบคิดของชาติต่าง ๆ ไร้ผล
พระองค์ทรงทำให้แผนการของมนุษย์ล้มเหลวไป
11 คำปรึกษาของพระยาห์เวห์ดำรงนิรันดร์ 
แผนการในน้ำพระทัยของพระองค์ มีต่อชนทุกชั่วอายุ
12 ความสุขเป็นของชาติที่พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของพวกเขา  ประชากรที่พระองค์ทรงเลือกให้เป็นมรดกของพระองค์
พระเจ้าทรงมองดูมนุษย์เสมอ
13 พระยาห์เวห์ทอดพระเนตรมาจากสวรรค์
ทรงมองดูลูกหลานของมนุษย์
14 จากที่ประทับของพระองค์
ทรงมองดูผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกอย่างพินิจพิเคราะห์
15 พระองค์เท่านั้นเป็นผู้สร้างใจให้พวกเขา
พระองค์ทรงพิจารณาการงานของพวกเขา
ใครล่ะ จะทำให้ชนะได้จริง ๆ?
16 กษัตริย์มิได้รอดโดยกองทัพใหญ่โต
ผู้ที่แข็งแรงมิได้รับการช่วยกู้ด้วยกำลังมากมายของเขา
17 ที่จะหวังให้ม้าศึกช่วยให้ชัยชนะ ก็ไร้ประโยชน์
มันไม่อาจช่วยใครด้วยกำลังมหาศาลของมัน
18 ดูเถิด พระเนตรของพระเจ้าอยู่เหนือคนที่ยำเกรงพระองค์
อยู่เหนือคนที่หวังในความรักมั่นคงของพระองค์
19 เพื่อให้พระองค์ทรงช่วยกู้เขาจากความตาย
และทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้ในยามกันดาร
เราตั้งใจรอคอยพระเจ้าของเรา
20 วิญญาณของเรารอคอยพระยาห์เวห์
ทรงเป็นพระผู้ช่วยและโล่กำบังของเรา
21 จิตใจของเรายินดีในพระองค์
เพราะเราวางใจในพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์
22 โอ พระยาห์เวห์.
ขอให้ความรักมั่นคงของพระองค์อยู่เหนือพวกเรา
ตามที่เราหวังใจในพระองค์

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 32:11; 97:12; 147:1

2* สดุดี 150:3-6, 144:9

3* อิสยาห์ 42:10, สดุดี 96:1

4* สดุดี 12:6, ทิตัส 1:2

5*ฮีบรู 11:3, 2 เปโตร 3:5, โยบ 33:4

6* ฮีบรู 11:3, 2. เปโตร 3:5, โยบ 33:4

7* อพยพ 15:8

8* วิวรณ์ 15:4; 14:6-7, สดุดี 96:9-10

9* สดุดี 33:6, ปฐมกาล 1:3

10* อิสยาห์ 8:10; 19:3

11* โยบ 23:13,
สุภาษิต 19:21

12* สดุดี 144:15, 1 เปโตร 2:9

13* สดุดี 11:4, โยบ 28:24

14* 1 พงศ์กษัตริย์ 8:39, 1 ทิโมธี 6:16

15* เยเรมีย์ 32:19, สดุดี 44:21

16* สดุดี 44:3, เยเรมีย์ 9:23

17* สุภาษิต 21:31, สดุดี 20:7

18* 1 เปโตร 3:12, โยบ 36:7

19* สุภาษิต 10:3, สดุดี 91:10

20* สดุดี 130:5-6, อิสยาห์ 40:31

21* สดุดี 13:5, วิวรณ์ 4:8

22* สดุดี 119:49

อธิบายเพิ่มเติม

ชวนให้ร้องเพลงถวายพระเจ้า
สดุดี 33:1-3
ตอนนี้เป็นเวลาที่ดาวิดกำลังกล่าวกับคนที่ภักดีต่อพระเจ้า ท่านมองเห็นว่า เมื่อคนเที่ยงธรรมสรรเสริญพระเจ้านั้น ภาพออกมางดงาม น่าชมจริง ๆ เพราะพวกเขาสรรเสริญอย่างจริงใจ ไม่มีการหลอกลวง รู้สึกชื่นชมในพระเจ้าอย่างไรก็กล่าวออกมาอย่างนั้น ท่านชวนให้ร้องเพลงและเล่นดนตรี ร้องเพลงใหม่อยู่เสมอ การสรรเสริญของท่านในเวลานี้ ออกเสียงดังจริง ๆ ไม่มีออมเสียงไว้เลย

พระลักษณะของพระเจ้า
สดุดี 33:4-5
เราจะเห็นว่า สมควรที่เราจะสรรเสริญพระเจ้าเพราะพระองค์ทรงเที่ยงตรง ซื่อตรง ยุติธรรม นี่เป็นพระลักษณะส่วนตัวของพระเจ้าที่เห็นได้ชัด มองไปรอบ ๆ เราจะเห็นความรักมั่นคงของพระเจ้าเต็มไปหมด แม้อยู่ในความยากลำบากเราก็สัมผัสความรักของพระองค์ได้. …

จักรวาลที่พระองค์ทรงสร้าง
สดุดี 33:6-9
ดาวิดอดไม่ได้ที่จะคิดถึงการทรงสร้างของพระเจ้า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ในการทรงสร้าง เป็นเหตุให้มนุษย์ต้องหวาดหวั่นต่อพระองค์ ท่านชวนให้เรายืนตะลึงต่อพระองค์เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง
เราจึงควรขอบพระคุณในราชกิจที่ทรงทำให้แก่เรา อย่ามองธรรมชาติแบบเฉย ๆ อีกต่อไป แต่ให้เรามองแล้วสรรเสริญพระองค์ยินดีในพระองค์ไม่หยุดยั้ง

ใครจะตั้งตัวต่อต้านพระองค์?
สดุดี 33:10-12
พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่เหนือการรวมตัวของชาติต่าง ๆ ที่พยายามสร้างความยิ่งใหญ่ให้ตนเอง เราเห็นองค์กรระหว่างประเทศมากมายเกิดขึ้น และองค์กรเหล่านี้ได้ทำกิจกรรมที่ดูเหมือนดี แต่เป็นการต่อต้านพระเจ้าหลายประการที่มองผ่าน ๆ แล้วจะไม่เห็นว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่
เราอยากเห็นชาติที่ให้พระเจ้ามาเป็นที่หนึ่ง แต่ยิ่งมองไปในโลก ก็ยิ่งเห็นชาติที่พยายามทำลายความเชื่อในพระเจ้า ดาวิดเองเป็นกษัตริย์ ท่านรู้ดีว่าหากท่านนำประชากรของท่านให้หันมารับพระเจ้าสุดหัวใจ ประชากรของพระเจ้าจะมีความสุขอย่างที่ทุกชาติต้องอิจฉษ

พระเจ้าทรงมองดูมนุษย์เสมอ
สดุดี 33:13-15
ดาวิดได้เตือนทุกคนว่า พระเจ้าทรงมองดูอยู่ ทรงมองในฐานะชาติ และทรงมองในฐานะบุคคลเป็นส่วนตัว เราเชื่อว่าพระเจ้าทรงมองครอบครัว ที่ทำงาน คริสตจักร และชุมชนต่าง ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อพระเจ้าทรงมองมา พระองค์ทรงพอพระทัยสิ่งที่เราทำไหม?

ใครล่ะ จะทำให้ชนะได้จริง ๆ?
สดุดี 33:16-19
กษัตริย์ดาวิดเป็นนักรบ ดังนั้นสิ่งที่ท่านกล่าวเป็นความจริง ท่านรู้ชัดว่า กำลังของกองทัพหรือนักรบที่กล้าหาญเข้มแข็งไม่ได้ช่วยอะไร แต่ ผู้ที่ช่วยให้มีชัยชนะคือพระเจ้า ..​นี่เป็นความมั่นใจของเราเช่นกันว่าสติปัญญาหรือกำลังของเราไม่ได้ช่วยเราได้เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงช่วยในทุก ๆ สถานการณ์

เราตั้งใจรอคอยพระเจ้าของเรา
สดุดี 33:20-22
กษัตริย์ดาวิดได้กล่าวถึงพระเจ้าในด้านต่าง ๆ มากมาย ถึงเวลาที่ท่านจะรอคอยพระเจ้าองค์ที่ท่านสรรเสริญบูชา ท่านมองว่าพระเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยและโล่ปกป้อง ท่านยินดีในพระเจ้า วางใจพระองค์
จบด้วยการอธิษฐานขอให้รักมั่นคงของพระองค์อยู่เหนือประชากรของพระองค์. เป็นคำอธิษฐานที่เหมาะสำหรับคนที่เป็นกษัตริย์ปกครองประชากรของพระเจ้า เพราะท่านรู้ว่า พระเจ้าต่างหากที่เป็นผู้ปกป้องแท้จริง หาใช่ท่านเองไม่