สดุดี 147 สรรเสริญพระองค์ผู้อยู่เหนือธรรมชาติ

ทรงทำให้หญ้างอกบนเนินเขา ภาพโดยHilary Halliwell

คนของพระองค์ได้รับการรื้อฟื้นใหม่
1 จงสรรเสริญพระยาห์เวห์
เป็นการดีที่จะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าของเรา
เพราะเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม
(หรือ..เพราะพระองค์ทรงสง่างาม)
และบทเพลงสรรเสริญก็เหมาะสมยิ่งนัก
2 พระยาห์เวห์ทรงรื้อฟื้นเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่
พระองค์ทรงรวบรวมชนอิสราเอลที่กระจัดกระจายไป
3 พระองค์ทรงรักษาคนที่ใจชอกช้ำ
ทรงพันบาดแผลให้
4 พระองค์ทรงกำหนดจำนวนของดวงดาว
และทรงตั้งชื่อให้มันทุกดวง
5 พระเจ้าของเราทรงยิ่งใหญ่นัก
และทรงฤทธานุภาพ
ความเข้าใจของพระองค์ไร้ขอบเขต
6 พระยาห์เวห์ทรงยกคนที่ถูกกดขี่ขึ้น
ทรงเหวี่ยงคนอธรรมลงถึงดิน

แผ่นดินสดชื่นเพราะพระองค์ทรงจัดหาให้
7 จงร้องเพลงถวายพระยาห์เวห์ ด้วยใจขอบพระคุณ
จงสร้างสรรค์ทำนองเพลงด้วยพิณเล็ก
8 พระองค์ทรงเติมเต็มท้องฟ้าด้วยเมฆ
ทรงเตรียมสายฝนให้แผ่นดิน
ทรงทำให้หญ้างอกขึ้นบนเนินเขา
9 พระองค์ประทานอาหารแก่สัตว์ป่า
และลูกกาที่ร้องเรียก
10 ความเปรมปรีดิ์ของพระองค์ไม่ได้อยู่ที่กำลังของม้า
พระองค์ไม่ทรงยินดีในกำลังขาของมนุษย์
11แต่พระยาห์เวห์ทรงยินดีในคนที่ยำเกรงพระองค์
คนที่มีความหวังใจในความรักมั่นคงของพระองค์

พระเจ้าทรงปกป้องเรา
12 สรรเสริญพระยาห์เวห์ โอ เยรูซาเล็ม
สรรเสริญพระเจ้าของเจ้าเถิด โอ ศิโยน
13 เพราะพระองค์ทรงทำให้ดาลประตูของเจ้าแข็งแกร่ง
ทรงอวยพระพรลูกหลานที่อยู่ภายในเจ้า
14 พระองค์ทรงทำให้ในเขตแดนของเจ้ามีสันติ
พระองค์ทรงทำให้เจ้าอิ่มหนำด้วยข้าวสาลีดีที่สุด

15 พระองค์ทรงบัญชาผืนแผ่นดิน
พระดำรัสของพระองค์วิ่งไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็ว!
16 พระองค์ทรงโปรยหิมะให้ราวขนแกะปุกปุย
พระองค์ทรงโปรยน้ำค้างแข็งให้ราวกับเถ้า
17 พระองค์ทรงเขวี้ยงลูกเห็บราวกับก้อนขนมปัง
ใครจะทนความหนาวเย็นยะเยือกที่มาจากพระองค์ได้?
18 พระองค์ทรงส่งพระดำรัสของพระองค์
และละลายมันเสีย
ทรงให้ลมหายใจของพระองค์พัดมา
และน้ำก็เคลื่อนตัวไป
19 พระองค์ทรงกล่าวพระดำรัสแก่ยาโคบ
รวมทั้งกฎเกณฑ์และกฎหมายของพระองค์แก่อิสราเอล
20 พระองค์มิได้โปรดทำอย่างนั้นกับชนชาติต่าง ๆ
พวกเขาจึงไม่รู้จักกฎหมายของพระองค์
สรรเสริญพระยาห์เวห์

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 135:1, 92:1, 135:3
,33:1
2* สดุดี 51:18; 102:16
เฉลยธรรมบัญญัติ 30:3; อิสยาห์ 11:12; 27:13; 56:8; เอเสเคียล 39:28
3* สดุดี 34:18
เอเสเคียล 34:16
147:4* ปฐมกาล 15:5
อิสยาห์ 40:26
5* สดุดี 48:1
เนหะมีย์ 1:3
อิสยาห์​40:28; โยบ 5:9
6* สดุดี 146:8, 9
7* อพยพ 15:21; สดุดี 95:1, 2
; 1 พงศาวดาร 15:16
8* โยบ 5:10; สดุดี 104:14;โยบ 38:27
9* สดุดี 104:27, 28; โยบ 38:41; สดุดี 147:10-11;
สดุดี 149:4; 33:18
13* เนหะมีย์​ 7:3
14* อพยพ 34:24; สุภาษิต 16:7; อิสยาห์ 60:17, 18; สดุดี 132:15
; 81:16; เฉลยธรรมบัญญัติ32:14
15* สดุดี 148:8;
16* โยบ 37:6; 38:29
17* โยบ 37:10; 37:9
18* ข้อ 15; โยบ 37:12; สดุดี 33:9; 107:20
19*มาลาคี 4:4; สดุดี 78:5; เฉลยธรรมบัญญัติ 33:2-4
20* เฉลยธรรมบัญญัติ 4:7; 4:32-34; สดุดี 135:1

คำอธิบายเพิ่มเติม

สดุดีบทนี้ เขียนหลังจากที่อิสราเอลกลับมาจากการเป็นเชลยที่บาบิโลน และพระเจ้าทรงช่วยให้พวกเขาได้กลับมา ได้สร้างเมืองขึ้นมาใหม่ ความชอกช้ำใจที่พวกเขาได้เจอมานานเจ็ดสิบปี ทำให้พวกเขาได้เห็นพระคุณของพระเจ้าที่ทรงนำพวกเขากลับมาอย่างที่ทรงสัญญาจริง ๆ และพวกเขารู้ว่า พระเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้เขาพ้นจากความทุกข์ใจ ความชอกช้ำใจที่ผ่านมา
ตอนนี้พวกเขาเข้ามาชุมนุมสรรเสริญพระเจ้าด้วยกัน

สดุดี 147: 1-6 คนของพระองค์ได้รับการรื้อฟื้นใหม่
สิ่งที่กล่าวถึงอย่างแรกคือ ให้ประชาชนมารวมกันสรรเสริญพระเจ้า เพราะเป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง พระเจ้าทรงรื้อฟื้นพวกเขา ทรงนำให้กลับมา ทรงช่วยให้สร้างเมืองขึ้น ทรงรักษาบาดแผลในใจ
สิ่งแรกที่คิดถึงคือ พระเจ้าทรงสร้างดวงดาวมากมายบนท้องฟ้า ทรงรู้จัก ทรงตั้งชื่อ ทรงวางตำแหน่งให้มันอย่างเหมาะสมตามน้ำพระทัย เมื่อคิดได้อย่างนี้ พวกเขาก็รู้ว่า พระองค์ทรงทำยิ่งกว่านั้นเพื่อพวกเขา ทรงเป็นผู้ยกเขาขึ้น ทรงเป็นผู้จัดการคนอธรรมให้
สิ่งที่เราต้องจดจำไว้ในใจ และตระหนักให้ชัดเจนคือ พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่มาก ทรงฤทธิ์ และความเข้าใจของพระองค์เกินที่เราจะเข้าใจ เป็นสิ่งที่เราต้องติดตามหาตลอดชีวิต

สดุดี 147:7-11 แผ่นดินสดชื่นเพราะพระองค์ทรงจัดหาให้
การกลับคืนสู่แผ่นดินคือ เท่ากับพวกเขาต้องมาสร้างทุกอย่างใหม่ ทั้งบ้านเรือน ทั้งเกษตรกรรม
พระองค์เท่านั้นเป็นผู้ให้อาหารแก่พวกเขาและสัตว์ทั้งหลาย ฝนมาจากพระเจ้า
พวกเขาตระหนักว่า สิ่งเดียวที่ทำให้พระเจ้ายินดีในพวกเขาได้คือ ที่เขาจะยำเกรงพระองค์ หวังใจในรักมั่นคงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คนอิสราเอลมักคิดได้ และก็ลืม ตอนนี้ผู้เขียนกำลังบอกพวกเขาชัดเจนว่า สิ่งสำคัญที่สุดในความสัมพันธ์กับพระเจ้าคืออะไร
และความจริงข้อนี้ เป็นความจริงสำหรับชีวิตเราในโลกปัจจุบันเช่นกัน

สดุดี 147:12-20 คำอันทรงฤทธิ์ที่ปกป้องจากพระเจ้า
เมื่อกลับมาจากการเป็นเชลย ได้มาอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอน บ้านของพระเจ้า พวกเขาร้องเพลงที่จะไม่ลืมว่า ความแข็งแกร่งของครอบครัว ของประเทศ ของเมือง อยู่ที่พระเจ้าเท่านั้น สันติภาพที่หายากในโลก มีที่พระเจ้าองค์เดียวเหมือนที่พระเยซูตรัสว่า สันติสุขที่เราให้ไม่เหมือนโลกให้
เมื่อเราพิจารณาความเชื่อมั่นและการบรรยายของผู้เขียน สรุปได้ว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกธรรมชาตินี้ พระเจ้าทรงเป็นผู้ดูแลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหิมะ ลม ฝน น้ำค้าง ลูกเห็บ น้ำในทะเล ต่างก็อยู่ในการควบคุมของพระองค์ เมื่อมนุษย์ทำให้เสียสมดุลย์ สิ่งที่เขาควรทำคือ แต่ละคน แต่ละชาติ ดูแลให้มันกลับสู่สภาพที่สามารถทำงานได้ดีที่สุดอย่างที่เคยเป็นมา มนุษย์สร้างความเจริญที่แลกมาด้วยอากาศ สภาพแวดล้อมเสียหายอย่างรุนแรง แต่เชื่อว่า ความจริงแล้ว เราสามารถช่วยกันแก้ไขได้แน่ ถ้าจะทำ…
กฎเกณฑ์ และกฎหมายของพระเจ้านี่แหละที่จะช่วยแก้ไขได้ เพราะทุกอย่างต้องเริ่มจากความไม่เห็นแก่ตัว เราจึงประกาศพระนามพระเยซู เพื่อให้ความรักของพระองค์เข้าไปอยู่ในใจของพระองค์ ให้รู้จักกฎเกณฑ์ของพระองค์ รู้จักความรักของพระเจ้า ที่จะเอื้อเฟื้อต่อกัน แล้วสมดุลย์ต่าง ๆ ในธรรมชาติจะเกิดขึ้นได้จากการร่วมมือกันอีกครั้ง

สดุดี 146 พระเจ้าแห่งยาโคบ


ประกาศการสรรเสริญพระเจ้า
1 ฮาเลลูยาห์  ฮาเลลูยาห์
จิตใจของข้าเอ๋ย จงสรรเสริญพระยาห์เวห์
2 ข้าจะสรรเสริญพระยาห์เวห์
ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่
ข้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าของข้า
ในขณะที่ข้ายังมีชีวิต 

อย่าพึ่งมนุษย์
3 อย่าวางใจในเจ้านาย
ในมนุษย์ที่ไม่อาจช่วยให้รอดได้ 
4เมื่อลมหายใจของเขาจากไป
เขาก็กลับไปสู่ดิน
แผนการทั้งสิ้นของเขาก็หมดสิ้นไปในวันนั้น 

สรรเสริญพระเจ้าแล้วเป็นสุข
5 ความสุขเป็นของคนที่ได้รับความช่วยเหลือ
จากพระเจ้าของยาโคบ
คือผู้ที่หวังใจในพระยาห์เวห์ 
6  ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน ทะเล
และทุกสิ่งที่อยู่ในนั้น 
พระองค์ทรงรักษาพระสัญญาของพระองค์เสมอ
7 ผู้ทรงให้ความยุติธรรมแก่คนที่ถูกกดขี่
และประทานอาหารแต่คนที่หิวโหย
พระยาห์เวห์ทรงปล่อยผู้ถูกจำจองให้เป็นอิสระ  
8 พระยาห์เวห์ทรงเปิดตาคนตาบอด
พระยาห์เวห์ทรงยกคนที่ถูกกดขี่ขึ้นมา.
พระยาห์เวห์ทรงรักคนเที่ยงธรรม 
9 พระยาห์เวห์ทรงคุ้มภัยให้คนต่างด้าว
พระยาห์เวห์ทรงอุ้มชูหญิงม่ายและเด็กกำพร้าพ่อ
แต่ทรงทำลายทางของคนชั่วร้ายให้สิ้นไป

10 พระยาห์เวห์ทรงครอบครองตลอดไป
โอ ศิโยนเอ๋ย
พระเจ้าของเจ้าทรงครองอยู่ทุกชั่วอายุคน

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 135:1
2* สดุดี 63:4, 145:2,104:33
3* สดุดี 118:9, 118:8; อิสยาห์ 2:22; เยเรมีย์ 17:5; สดุดี 60:11, 108:12
4* สดุดี 104:29; ปัญญาจารย์ 12:7; โยบ 10:9, 34:14-15
5* สดุดี 144:15, 119:116, 2:12
6* สดุดี 115:15, 100:5, 117:2
7* สดุดี 103:6 , 107:9, 145:15, 105:20; อิสยาห์ 61:1; สดุดี 68:6
8* มัทธิว 9:30; ยอห์น 9:7; สดุดี 145:14, 147:6, 11:7
9* อพยพ 22:21; เฉลยธรรมบัญญัติ 10:18; อพยพ 22:22; สดุดี 10:14; 147:6
10*สดุดี 10:16

ตั้งแต่บทนี้ไปจนถึงบทที่ 150 เป็นสดุดีแห่งการสรรเสริญ ทั้งขึ้นต้นและจบบทด้วยการสรรเสริญพระเจ้า มุ่งไปที่พระเจ้าเท่านั้น ถ้าเป็นคำฮีบรูก็จะพูดว่า ฮาเลลูยาห์มากมาย
ข้อ 1-2 เป็นการประกาศการสรรเสริญพระเจ้า ปฏิญาณตนว่า ตราบเท่าที่มีชีวิตก็จะสรรเสริญพระองค์ ไม่ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรก็จะสรรเสริญพระเจ้า
ข้อ 3-4 แนะให้รู้ว่า อย่าไปหวังพึ่งมนุษย์คนใด เพราะเมื่อพวกเขาตายไป แผนทั้งสิ้นก็ตายไปด้วย จะไปช่วยใครได้ ในเมื่อตัวเองยังไม่พ้นจากความตายเลย และพวกเขากลับไปเป็นดิน แต่ทั้ง ๆ ที่ชวนแล้วว่าอย่าพึ่งมนุษย์ เราจะเห็นว่า กษัตริย์อิสราเอลก็มักหันไปพึ่งอียิปต์บ้าง บาบิโลนบ้าง ทั้ง ๆ ที่พวกนั้นก็ไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นศัตรู
ข้อ 5-9
พระเจ้าแห่งยาโคบ คือพระเจ้าผู้ทรงสร้าง พระเจ้าผู้ทรงรักษาสัญญา พระองค์ผู้ให้ความยุติธรรม พระองค์ผู้ทรงเลี้ยงดู ผู้ทรงปล่อยให้เป็นอิสระจากบาป ผู้ทรงเปิดตาคนตาบอด ยกคนที่ถูกกดขี่
ทรงปกป้องคนต่างด้าว ช่วยเหลือหญิงม่าย เด็กกำพร้า พระองค์ ผู้ทรงทำลายทางคนชั่ว พระองค์ทรงรักคนเที่ยงธรรม นี่เป็นการย้ำว่า พระเจ้าพระองค์นี้ ทรงเป็นอย่างไร ทรงทำอะไรเพื่อเรา และเมื่อเราอ่านไปอ่านมา พระเจ้าองค์นี้ก็คือ พระเยซูคริสต์นี่นา!

สดุดี 145 พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่

ภาพจาก pexels.com

บทเพลงสรรเสริญของดาวิด
ต้องสรรเสริญพระเจ้าอย่างนี้สิ
1 โอพระเจ้าและองค์กษัตริย์ของข้า
ข้าขอยกย่องพระองค์
และขอถวายพระพรแด่พระนามของพระองค์
ตลอดไปเป็นนิตย์
2 ข้าจะถวายพระพร
และสรรเสริญพระนามของพระองค์
ตลอดไปเป็นนิตย์
3 พระยาห์เวห์ทรงยิ่งใหญ่
และสมควรที่จะทรงรับการสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง
ความยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้น
เกินกว่าที่เราจะค้นพบได้ทั้งสิ้น


ส่งต่อคำสรรเสริญจากรุ่นสู่รุ่น
4 ชนรุ่นหนึ่งจะชื่นชมราชกิจของพระองค์ให้ชนอีกรุ่นได้รับรู้
และจะประกาศราชกิจอันทรงฤทธิ์ของพระองค์
5 ข้าจะใคร่ครวญถึงพระสิริตระการอันสูงส่งของพระองค์
และใคร่ครวญถึงการอัศจรรย์ต่าง ๆ ของพระองค์
6 พวกเขาจะกล่าวถึง
อานุภาพแห่งราชกิจอันน่าเกรงขามของพระองค์
และข้าจะประกาศความยิ่งใหญ่ของพระองค์
7 พวกเขาจะเล่าถึงพระนามเลื่องลือ
ในความดีล้ำเลิศของพระองค์
และจะร้องเพลงถึงความเที่ยงธรรมของพระองค์
ด้วยเสียงอันดัง
8 พระยาห์เวห์ทรงพระคุณและพระเมตตายิ่งนัก
ทรงพิโรธช้า และเต็มล้นด้วยความรักมั่นคง
9 พระยาห์เวห์ทรงดีต่อทุก ๆ คน
และทรงเมตตาต่อทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา

10 โอ พระยาห์เวห์ พระราชกิจทั้งสิ้นจะถวายคำขอบพระคุณ
และวิสุทธิชนของพระองค์จะถวายพระพรแด่พระองค์
11 พวกเขาจะพูดถึงพระสิริแห่งราชอาณาจักร
และเล่าถึงฤทธิ์เดชของพระองค์
12 เพื่อให้ลูกหลานของมนุษย์ ได้รับรู้
ถึงพระราชกิจอันทรงฤทธิ์
และพระสิริตระการแห่งราชอาณาจักรของพระองค์
13 ราชอาณาจักรของพระองค์
เป็นราชอาณาจักรนิรันดร์
และการปกครองของพระองค์นั้น
สืบเนื่องตลอดทุกชั่วอายุคน

(พระยาห์เวห์ทรงซื่อตรงตามพระดำรัสของพระองค์
และทรงมีน้ำพระทัยต่อราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์ )
สองบรรทัดในวงเล็บนี้ มากจาก
Hebrew manuscript, Septuagint, Syriac.

14 พระยาห์เวห์ทรงโอบอุ้มทุกคนที่กำลังล้มลง
และทรงประคองทุกคนที่ถ่อมตนลงให้ลุกขึ้นมา

ความดีของพระเจ้าต่อสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง
15 ดวงตาทุกดวงจับจ้องอยู่ที่พระองค์
และพระองค์ได้ประทานอาหารให้ตามเวลา
16 พระองค์ทรงแบพระหัตถ์ออก
เพื่อทำให้ทุกสิ่งที่มีชีวิตได้อิ่มตามความปรารถนา
17 พระยาห์เวห์ทรงยุติธรรมในหนทางทั้งสิ้นของพระองค์
และทรงดีในราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์
18 พระยาห์เวห์ทรงอยู่ใกล้ทุกคนที่ร้องเรียกหาพระองค์
ใกล้ทุกคนที่ร้องเรียกหาพระองค์อย่างจริงใจ
19 พระองค์ทรงทำให้คนที่ยำเกรงพระองค์สมปรารถนา
ทรงยินเสียงคำร้องทูลและทรงช่วยพวกเขาให้รอด
20พระยาห์เวห์ทรงรักษาทุกคนที่รักพระองค์
แต่จะทรงทำลายคนที่โหดร้าย
21 ปากของข้าจะกล่าวคำสรรเสริญพระยาห์เวห์
และขอให้ทุกชีวิตได้ถวายพระพร
แด่พระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ ตลอดไปเป็นนิตย์

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 99:5,9, 98:6
2*สดุดี 146:2
3* สดุดี 48:1; โยบ 5:9; อิสยาห์ 40:28
4* อิสยาห์ 38:19
5* สดุดี 145:12
6* สดุดี 78:4
7* อิสยาห์ 63:7
8* สดุดี 86:5, 15
9* สดุดี 100:5
10* สดุดี 19:1; 103:22; 132:9,16
12* สดุดี 105:1, ข้อ 4; 150:2; เฉลยธรรมบัญญัติ 3:24; ข้อ 5
13* สดุดี 10:16
14* สดุดี 37:17,24; 146:8
15* สดุดี 104:27
16* สดุดี 104:28, 21; 147:8
17* สดุดี 116:5, 18:25; เยเรมีย์ 3:12
18* สดุดี 34:18; 119:151; เฉลยธรรมบัญญัติ 4:7; ยอห์น 4:23-24
19* สุภาษิต 10:24; ยอห์น 9:31; สดุดี 31:22
20* สดุดี 97:10
21* สดุดี 150:6

ต้องสรรเสริญพระเจ้าอย่างนี้สิ สดุดี 145:1-3
กษัตริย์ดาวิดทรงทูลพระเจ้าว่า พระองค์ทรงเป็นทั้งพระเจ้าเหนือชีวิต และทรงเป็นกษัตริย์ด้วย สำหรับเราพระเจ้าทรงเป็นแค่ไหน.. คนสมัยใหม่มักจะมองพระเจ้าเป็นเพื่อน ซึ่งก็ไม่ผิด แต่ทำไมเราไม่มองพระองค์ในฐานะกษัตริย์บ้าง?
การยกย่องพระองค์คือ ยกพระองค์ให้สูง ส่วนคำว่าถวายพระพรนี้ หมายรวมไปถึงการคุกเข่าลงถวายสรรเสริญพระองค์ด้วย ส่วนในข้อสามที่สรรเสริญพระองค์มีความหมายถึงการที่พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ และฉายแสงของพระองค์ลงมาเหนือเราที่สรรเสริญพระองค์
มนุษย์ในโลก คิดว่าตัวเองใหญ่ สามารถ เก่ง ค้นคว้า ทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย แต่คนที่เก่งจริง ๆ จะรู้ว่า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ แบบที่มนุษย์เราไม่อาจค้นสิ่งที่ทรงสร้างหมด ไม่อาจจะรู้จักพระองค์ได้ทั้งสิ้น

ส่งต่อคำสรรเสริญจากรุ่นสู่รุ่น สดุดี 145:4-14
เมื่อพระเจ้าทรงสร้างอาดัมขึ้นมา พระองค์ทรงให้เขามีอำนาจที่จะดูแลครอบครองโลก ทรงให้เขามีลูกหลานมากมายบนแผ่นดิน … และหน้าที่สำคัญอีกประการคือ การที่จะส่งต่อความรู้ความเข้าใจเรื่องของพระองค์ให้คนรุ่นต่อไปได้สืบค้น และชื่นชมในพระราชกิจของพระองค์
หน้าที่สำคัญคือเล่า กล่าวถึง ประกาศ บอก ร้องเพลงถึงพระองค์ เป็นหน้าที่ ๆ ผู้ที่ติดตามพระเจ้าทุกคนต้องทำ ไม่ว่าจะในวงกว้างหรือวงแคบ ๆ ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงอนุญาตให้เราได้รับใช้พระองค์ในการนี้ มาดูสิว่า เขาทำอะไรบ้าง
1 ชื่นชมพระราชกิจให้ลูกหลานได้รู้ 2 ประกาศราชกิจออกไป 3 ใคร่ครวญถึงพระสิริ การอัศจรรย์ 4 กล่าวถึง พระอานุภาพ 5 ประกาศความยิ่งใหญ่ 6 เล่าถึงพระนาม ความดี 7 ร้องเพลงถึง พระองค์ 8 เขาจะถวายพระพรคำสรรเสริญ เขาจะพูดแล้วพูดอีกให้ลูกหลานได้รับรู้ พระสิริแห่งราชอาณาจักร
เราจึงเห็นว่า นอกจากคนของพระเจ้าจะประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าแล้ว ยิ่งนักวิทยาศาสตร์แขนงต่าง ๆ ค้นพบความมหัศจรรย์ของจักรวาล และโลกมากเท่าไร เราก็ยิ่งเห็นว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่านั้นมากมายนัก
และเมื่อเรารู้ว่า เวลาล้มลง เวลาทางตัน พระองค์ก็ทรงเป็นผู้ประคองโอบอุ้มให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง

ความดีของพระเจ้าต่อสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง สดุดี 145:15-21
พระคำตอนนี้ทำให้เรารู้ว่า ที่เรามีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะพระองค์ทรงเลี้ยงดู ไม่ว่าคนหรือสัตว์ พืช ล้วนต้องรับพระเมตตาของพระองค์ทั้งสิ้น
ข้อ 14 ข้างต้นลงมา เราพบว่า ชีวิตของเราขึ้นอยู่กับพระองค์จริง ๆ เป็นพระคำที่ต้องตระหนักไว้เพื่อว่าเราจะได้เข้าใจชีวิตแท้ในพระเจ้า และจะได้สรรเสริญพระองค์ตลอดไป

สดุดี 144 พระศิลาและป้อมปราการของชีวิต

จาก www.pxfuel.com

ของดาวิด

สรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงช่วยในการสงคราม
1 ขอถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์
ผู้ทรงเป็นพระศิลา
ผู้ทรงฝึกมือของข้าให้ทำสงคราม
ฝึกนิ้วของข้าเพื่อต่อสู้
2 พระองค์ทรงเป็นความรักมั่นคงของข้า
และทรงเป็นป้อมปราการ ที่กำบัง และผู้ช่วยกู้ของข้า
ทรงเป็นโล่และทรงเป็นผู้ที่ข้าเข้าไปลี้ภัย
ทรงทำให้คนในชาติของข้า ต้องสยบลงต่อข้า

พระเจ้าทรงห่วงใย ทรงรักมนุษยชาติ
3 โอ พระยาห์เวห์
มีอะไรในตัวมนุษย์ที่พระองค์จะต้องมาใส่พระทัย?
หรือบุตรมนุษย์เป็นใครที่พระองค์ทรงคิดถึง?
4 มนุษย์เป็นเหมือนลมหายใจ
วันคืนของเขาเป็นเหมือนเงาที่ผ่านไป

ทูลขอการช่วยกู้
5 โอ พระยาห์เวห์
ขอทรงเปิดฟ้าสวรรค์ และเสด็จลงมา
ขอทรงแตะต้องภูเขา เพื่อมันจะปล่อยควันออกมา
6 ขอทรงปล่อยแสงฟ้าแลบ
และทำให้พวกเขากระเจิดกระเจิงไป
ขอทรงยิงลูกธนูของพระองค์
และให้เขากระจัดกระจายไป
7 ขอทรงยื่นพระหัตถ์ลงมาจากเบื้องสูง
ขอทรงช่วยกู้ข้า
และปลดปล่อยให้ข้าพ้นจากน้ำมากหลาย
พ้นจากเงื้อมมือของคนต่างชาติ
8 ที่ปากพูดมุสา
และมือขวาของเขาเป็นมือของการหลอกลวง

สรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงช่วยกู้
9 โอ พระยาห์เวห์
ข้าจะร้องเพลงบทใหม่ถวายพระองค์
ข้าจะเล่นพิณสิบสายถวายแต่พระองค์
10 พระองค์ทรงให้เหล่ากษัตริย์ได้รับชัยชนะ
พระองค์ผู้ทรงช่วยกู้ดาวิด ผู้รับใช้ของพระองค์

ขอทรงช่วยกู้ และให้คนของพระเจ้ารุ่งเรือง
11 ขอทรงช่วยกู้ข้า
และปลดปล่อยข้าจากมือของคนต่างชาติ
ที่ปากพูดมุสา
มีมือขวาเป็นมือของการหลอกลวง

12 ขอให้ลูกชายวัยหนุ่มของเรา
เป็นดั่งต้นไม้ที่เติบโตเต็มที่
และลูกสาวเป็นเหมือนเสาหลักมุม
ที่ถูกแกะสลักดั่งโครงร่างราชวัง
จัดเตียมอาหารหลากหลายชนิด
ขอให้แกะของเรามีลูกดก
นับพันนับหมื่นในทุ่งของเรา
14 ขอให้วัวของเรามีลูกมากมาย
ไม่มีการแท้งลูก ไม่มีการสูญเสีย….
ไม่มีใครต้องร้องไห้เป็นทุกข์ตามถนนของเรา
15 ชนชาติที่ได้รับพระพรเช่นนี้ ก็เป็นสุข
ชนชาติที่พระเจ้าของพวกเขา
คือพระยาห์เวห์นั้น ก็เป็นสุข

พระคำเชื่อมโยง


1* สดุดี 18:2, 31, 46; 18:34
2* สดุดี 59:10, 17; โยนาห์ 2:8 สดุดี 18:2; 91:2 ; 18:2; 59:9; 7:10; 18:2; 18:47; 144:2; 8:4; 31:7
4* สดุดี 39:5; 102:11; 109:23
5 สดุดี 18:9; อิสยาห์ 64:1; สดุดี 104:32
6 สดุดี 18:14 ;18:14
7 สดุดี 18:16; 69:14 ; 18:44, 45
8* สดุดี 12:2; 41:6 ; 106:26; ปฐมกาล 14:22; เฉลยธรรมบัญญัติ 32:40; Isa. 62:8
9* สดุดี 33:2, 3; 33:2, 3
10* สดุดี 18:50
11* ดูข้อ 7
12*สดุดี 128:3; เศคาริยาห์ 9:15
13*โยเอล 2:24; อิสยาห์ 30:23]
14*สดุดี 144:14; อิสยาห์ 24:11; เยเรมีย์ 14:2; 46:12
15* เฉลยธรรมบัญญัติ 33:29
สดุดี 33:12; 146:5

สรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงช่วยในการสงคราม ข้อ 1-2
ไม่ว่าจะทำสงคราม จะทำงานอะไร ถ้าจะให้สำเร็จด้วยดี ก็ต้องมีการฝึกมาอย่างเข้มข้น แม้กษัตริย์ดาวิดจะเป็นนักรบเก่งกล้าเพียงใด ท่านรู้ว่า ผู้ที่ฝึกท่านคือ พระเจ้าของท่าน
ไม่ใช่แค่ฝึก แต่เวลาต้องถอย ท่านก็จะกลับไปหาพระเจ้า เพราะว่า พระองค์คือที่ลี้ภัย ป้อมปราการที่จะทำให้ปลอดภัย ลองคิดถึงชีวิตของเราดูว่า พระเจ้าทรงฝึกอะไรให้เรา และเมื่อเราแพ้ หรือต้องถอยไปตั้งหลัก เราจะไปที่ไหน
อีกประการหนึ่งการฝึกฝนของพระเจ้า ไม่มีวันจบ ฝึกกันไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ …​

พระเจ้าทรงห่วงใย ทรงรักมนุษยชาติ ข้อ 3-4
พระเจ้าผู้ทรงเป็นพระผู้สร้าง พระเจ้าผู้ทรงเป็นองค์จอมทัพ ทรงยิ่งใหญ่นัก ไม่ได้ทรงต้องการอะไรเพิ่มเติมอีก แต่พระองค์กลับทรงห่วงใย ใส่พระทัย คิดถึงมนุษย์ที่เป็นลมหายใจ … พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์มาเพื่อให้เขาไม่เป็นแค่เงา แต่ได้อยู่กับพระองค์เป็นนิตย์ นี่เป็นพระกรุณาสูงส่งยิ่งนัก เราตอบคำถามนี้ไม่ได้เลย

ทูลขอการช่วยกู้ ข้อ 5-8
คำทูลช่วงนี้คือ ขอพระเจ้าทรงจัดการกับคนต่างชาติที่พูดมุสา และมือขวาหลอกลวง เราจะเห็นว่าท่านขอหลายอย่างทีเดียว ขอให้ฟ้าเปิด ขอทรงลงมา ขอทรงแตะให้ภูเขาพ่นควัน ขอฟ้าแลบ ขอลูกธนูของพระองค์ เพื่อให้ศัตรูวิ่งหนี กระจัดกระจายไป
นอกจากนั้น ขอทรงช่วยกู้ท่านให้พ้นจากน้ำมากหลายคือ ปัญหาสารพัน
เห็นอย่างหนึ่งไหม ปัญหาที่มาจากศัตรูนั้นคือ จากคนที่ไม่ใช่มาจากพระเจ้า เป็นคนที่จ้องทำลาย และดาวิดไม่ได้แค่รบด้วยมือของท่าน แต่ท่านรบด้วยการทูลขอจากพระเจ้า…. เราจึงไม่ลืมว่า เมื่อเราสู้สิ่งใดเราจะเข้ามาขอพระเจ้าทรงช่วยอย่างดาวิด

สรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงช่วยกู้ ข้อ9-11
และเมื่อพระเจ้าทรงช่วยกู้ สิ่งที่ดีสุดคือ บทเพลงใหม่ถวายพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นบทกวี คำกลอน คำประกาศก้องให้คนอื่นได้ยิน เป็นคำสรรเสริญ เป็นเพลง ได้ทั้งนั้น ผู้เชื่อทุกคนควรคิดคำใหม่ ๆ ที่จะสรรเสริญพระเจ้าเสมอ เป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ และสร้างความตื่นเต้นในหัวใจของเรา

ขอให้คนของพระเจ้ารุ่งเรือง ข้อ 12-15​
แล้วจากนั้น ก็ทูลขอเพื่อคนรุ่นต่อไป เพื่อชุมชนที่รุ่งเรืองแข็งแรง รักพระเจ้า ติดตามพระองค์ เมื่อเราอ่านพระพรที่เขาทูลขอจากพระเจ้า เราจะเห็นพระพรสำหรับชีวิตประจำวันเลยทีเดียว ลูกสาว ลูกชายที่โตมาอย่างดี อาหารบนโต๊ะ จำนวนของสัตว์เลี้ยง ชีวิตที่ไม่ต้องร้องไห้คร่ำครวญเพราะการสูญเสีย
ข้อ 14 เป็นข้อที่ทำให้เรารู้สึกท้อใจสำหรับสังคมปัจจุบันที่ไม่ได้ต้องการมีลูกมากมาย แต่คนเป็นจำนวนมาก ได้ทำแท้งอย่างไม่รู้สึกเสียใจ…​โดยไม่รู้ว่า การได้ลูกหลานที่แข็งแรง รักพระเจ้าเป็นพรสำหรับครอบครัวจริง ๆ ความเห็นของคนโบราณช่างต่างจากคนสมัยนี้ลิบลับ