สดุดี 48 นครแห่งพระเจ้าของเรา: ศิโยน

illustrations by E. M. Lilien (1874-1925) – Lieder des Ghetto (Book – 1903) of Morris Rosenfeld; translation from yiddish to german by Berthold Feiwel;

เพลงบทหนึ่ง บทสดุดีพระเจ้าของลูกหลานโคราห์

นครแห่งพระเจ้าของเรา: ศิโยน
1 พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ ทรงควรแก่การสรรเสริญอย่างสูงส่ง
ในนครของพระเจ้าของเรา ในภูเขาบริสุทธิ์ของพระองค์
2 ทรงรับการยกย่องขึ้นอย่างงดงามนัก
นี่เป็นความยินดีของโลกทั้งหมด
ภูเขาศิโยน ณ ทิศเหนือแสนไกล
คือ นครขององค์กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่  

ป้อมปราการของนคร
3 ภายในป้อมของนครนั้น
พระเจ้าทรงปรากฏพระองค์เป็นป้อมปราการ
4เพราะดูเถิด เหล่ากษัตริย์ทั้งหลายรวมตัวกัน
เขาเหล่านั้นยกทัพมาอยู่ด้วยกัน
5 แต่เมื่อเห็นภูเขาศิโยน ทันทีที่ได้เห็น
ต่างก็ตกใจกลัว พากันลนลานหนีออกไป
 6 ที่นั่นพวกเขาตัวสั่นด้วยความกลัว 
เจ็บปวดเหมือนกับสตรีที่กำลังคลอดบุตร
7 พระองค์ทรงทำลายเรือจากทารชิชด้วยลมตะวันออก
8 ตามที่เราได้ยิน เราได้เห็น
ในนครแห่งพระยาห์เวห์องค์จอมทัพ
ในนครของพระเจ้าของเรา
ที่ซึ่งพระเจ้าจะทรงสถาปนาเป็นนิตย์.
เซ ลาห์

ศิโยนยินดี
9 เราใคร่ครวญถึงความรักมั่นคงของพระองค์
โอพระเจ้า  ขณะที่อยู่ในพระวิหารของพระองค์ 
10 โอพระเจ้า คำสรรเสริญพระองค์ ไปถึงสุดปลายแผ่นดิน
     เหมือนอย่างพระนามของพระองค์.
พระหัตถ์ขวาเต็มด้วยความเที่ยงธรรม
11 ขอให้ภูเขาศิโยนยินดี 
ขอให้ลูกสาวแห่งศิโยนยินดีเพราะการพิพากษาของพระองค์!

อนาคตนิรันดร์ของศิโยน
12 จงเดินให้ทั่วศิโยน เดินไปรอบ ๆ และนับจำนวนหอคอย
13 จงพิจารณาดูกำแพง
และเดินให้ทั่วป้อมปราการ เพื่อว่าท่านจะได้บอกคนรุ่นต่อไปว่า
14 นี่คือองค์พระเจ้า พระเจ้าของเราตลอดไปเป็นนิตย์ 
พระองค์จะทรงนำชีวิตเราจนชีวิตจะหาไม่

พระคำเชื่อมโยง

1*สดุดี 46:4; 87:3; มัทธิว 5:35; มีคาห์ 4:1

2* สดุดี 50:2; มัทธิว ​5:35

3*เศคาริยาห์ 2:4-5; อิสยาห์ 4:5-6

4* 2 ซามูเอล 10:6,14; วิวรณ์ 20:8-9

5*อพยพ 14:25; 2 พงศ์กษัตริย์ 19:35-37

6*อพยพ 15:15; โฮเชยา 13:13; ดาเนียล 5:6

7* 1 พงศ์กษัตริย์ 10:22; เอเสเคียล 27:25

8* สดุดี 87:5; อิสยาห์ 2:2; มีคาห์ 4:1

9* สดุดี 26:3

10* ฉธบ. 28:58; โยชูวา 7:9; มาลาคี 1:11

11*สดุดี 97:8; วิวรณ์ 19:1-3

12* อิสยาห์ 33:18-20

13*สดุดี 78:5-7; 122:7

14* อิสยาห์ 58:11; สดุดี 73:24

สดุดี 48:1-2 นครแห่งพระเจ้าของเรา: ศิโยน
ผู้เขียนได้บรรยายว่า พระเจ้าได้ทรงเผยพระสิริของพระองค์ในศิโยนซึ่งเป็นนครของพระองค์เอง การที่นครนี้ยิ่งใหญ่ เพราะพระเจ้าประทับอยู่ด้วย เป็นนครที่ตั้งอยู่บนภูเขาศิโยน ในนี้กล่าวว่าศิโยน หรืออีกชื่อหนึ่งคือ เยรูซาเล็มเป็นที่ยินดีของชาวโลก เป็นที่ยินดีของผู้เชื่อ (และเราจะเห็นว่า ในปัจจุบัน เยรูซาเล็มถูกแบ่งเป็นหลายส่วน และเป็นที่ ๆ ทำให้เกิดข้อขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงมาโดยตลอด เราจะเห็นการต่อสู้ของฝ่ายตรงข้ามของพระเจ้าอย่างชัดเจนมาก)
สดุดีบทนี้ ไม่ได้พูดถึงอดีต แต่กำลังกล่าวถึงอนาคตในยุคสุดท้าย เมื่อเยรูซาเล็มจะถูกล้อมรอบด้วยศัตรูที่เกลียดชังพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง แต่พระเจ้าจะทรงเข้ามาช่วย พระเยซูจะเสด็จมาบนภูเขามะกอกเทศเพื่อที่พระองค์จะทรงปกป้องศิโยน หรือประชากรของพระองค์ไว้ (อิสยาห์ 24:23)
ก่อนจะถึงวันนั้น สภาพของเยรูซาเล็มจะเป็นอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน คือ มีวิกฤตเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน

สดุดี 48:3-8 ป้อมปราการของนคร
และข้อความนี้ได้บอกเราชัดเจนว่า กำแพงเมืองเยรูซาเล็มคือพระเจ้า พระองค์เอง ไม่ใช่ตัวกำแพง ไม่ใช่กำแพงใด ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น เราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเยรูซาเล็มอย่างแน่นอน กองทัพใดที่ยกทัพมาล้อมเมืองไว้จะต้องหนีไปกลัวราวกับผู้หญิงคลอดบุตรคือ เป็นความเจ็บปวด กลัวลานทันควัน รวดเร็ว

สดุดี 48:9-11 ศิโยนยินดี
เมื่อมีศัตรูเข้ามาและหนีไป ทำให้เราได้ใคร่ครวญ คิดถึงความรักมั่นคงของพระเจ้า และเวลานั้นได้อยู่ในที่ ๆ นมัสการพระองค์ เมื่อเกิดเหตุการณ์ล่อถอยทัพไปนั้น พระนามของพระเจ้าเป็นที่สรรเสริญทั่วโลก ตัวภูเขาศิโยน และลูกสาวแห่งศิโยนได้ยินดี คือคนของพระองค์ได้เห็นการมหัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงกระทำและพวกเขาจึงยินดีที่พระเจ้าเอง ทรงเป็นผู้พิพากษาชนทั้งหลาย

สดุดี 48:12-14 อนาคตนิรันดร์ของศิโยน
มีคำถามว่า ทำไมผู้เขียนจึงสั่งให้เดินทั่วศิโยน และนับจำนวน พิจารณา เพื่อจะบอกถึงความมั่นใจว่า พระเจ้าจะทรงเป็นพระเจ้าที่นำเราตลอดไป
เพราะเขาต้องการให้คนได้เห็นว่า ศิโยนมีความมั่นคง และปลอดภัย พวกเขาจะเห็นว่า ความปลอดภัยของเขาไม่ได้อยู่ที่กำแพง หอคอย ป้อมเหล่านั้น แต่อยู่ในพระเจ้าที่จะปกป้องพวกเขาตลอดไป

เราหวังว่า จะได้เห็นชัยชนะของพระเจ้าในเร็ววันนี้ ขอพระเจ้าเสด็จมาเถิด…

สดุดี 47 ยินดีในองค์กษัตริย์ผู้ครอบครองทั้งโลก

ภาพจาก pexel.com ถ่ายโดยคุณ Shelagh Murphy

ถึงหัวหน้านักร้อง สดุดีของลูกหลานโคราห์

ยินดีในความดีเลิศของพระเจ้า
1 ชนชาติทั้งหลาย จงตบมือ
จงโห่ร้องแด่พระเจ้าด้วยเสียงแห่งชัยชนะ
เพราะพระยาห์เวห์ องค์ผู้สูงสุด ทรงดีเลิศล้ำ
พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่เหนือแผ่นดินโลก

3 พระองค์ทรงทำให้ประชาชนทั้งหลายสยบต่อเรา
และชาติต่าง ๆ อยู่ใต้เท้าของเรา
4  พระองค์ทรงเลือกแผ่นดินให้เป็นมรดกของเรา
เป็นความภาคภูมิใจของยาโคบที่พระองค์ทรงรัก เซลาห์
.
ยินดีที่พระเจ้าเสด็จขึ้นมา
5 องค์พระเจ้าเสด็จขึ้นพร้อมเสียงโห่ร้อง
พระยาห์เวห์เสด็จขึ้นพร้อมเสียงแตรเขาสัตว์
จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า จงร้องเพลงสรรเสริญ
จงร้องเพลงสรรเสริญองค์กษัตริย์ของเรา
จงร้องเพลงสรรเสริญ

7 เพราะพระเจ้าทรงเป็นกษัตริย์เหนือทั้งโลกนี้
จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าด้วยความเข้าใจ

ยินดีในสิทธิอำนาจสูงสุดของพระเจ้า
8 พระเจ้าทรงครอบครองเหนือชาติต่าง ๆ
พระองค์ประทับบนบัลลังก์บริสุทธิ์ของพระองค์
9 เจ้านายของประชาชนเข้ามารวมตัวพร้อมกับ
ประชาชนของพระเจ้าแห่งอับราฮัม
เพราะโล่ปกป้องโลกนี้เป็นของพระเจ้า
ทรงได้รับการยกย่องสูงสุด

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 98:4; 106:47; เยเรมีย์ 31:7

2* เฉลยธรรมบัญญัติ 7:21; เนหะมีย์ 1:5; สดุดี 76:12

3* สดุดี 18:47; 110:1

4* 1 เปโตร 1:4; อาโมส 8:7

5*สดุดี 68:24,25

6*มัทธิว 25:34; สดุดี 68:4

7* เศคาริยาห์ 14:9; 1 โครินธ์ 14:15

8* 1 พงศาวดาร 16:31; สดุดี 97:2, ภคซๅ

9* โรม 4:11-12; สดุดี 89:18

สดุดี 47:1-4 ยินดีในความดีเลิศของพระเจ้า
การตบมือ การโห่ร้อง เป็นการบ่งบอกว่า มนุษย์เราที่เป็นฝูงชนกำลังชื่นชมสุดใจกับผู้ที่อยู่ตรงหน้าเรา
แต่หากผู้ที่อยู่ตรงหน้าเราคือพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ เสียงแห่งชัยชนะจะไม่ดังทะลุฟ้าเลยหรือ เสียงนั้นจะดังยิ่งกว่าเสียงของฝูงชนในสนามฟุตบอลเสียอีก
พระเจ้าทรงเป็นผู้ทรงอำนาจเหนือทุกคนในโลก กษัตริย์ ผู้นำทั้งหลายต้องสยบต่อพระองค์ ไม่ว่าขณะนี้พวกเขาจะดูแข็งแรงขนาดไหน แต่แล้วไม่อาจสู้พระเจ้าได้เลย

สดุดี 47:5-7 ยินดีที่พระเจ้าเสด็จขึ้นมา
พระเจ้าทรงเสด็จขึ้นมาเพื่อครองโลก เหนือชาติต่าง ๆ ในโลก เราจะเห็นว่า พระเจ้าทรงครองใจคนเป็นจำนวนมากในประเทศต่าง ๆ ยิ่งคนลำบากมากเท่าไร จะยิ่งเข้ามาหาพระเจ้ามากขึ้นเท่านั้น
เพราะในเวลาที่มืดมิดของชีวิต ผู้คนจะเริ่มตั้งคำถามของชีวิตและเริ่มตามหาความหมายของชีวิต
เมื่อพระเจ้าเสด็จขึ้นแล้ว มนุษย์จะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ ด้วยสุดหัวใจ ด้วยความเข้าใจ และเวลานั้นเป็นเวลาที่เราอยากอยู่ในที่นั้นพร้อมกับคนเป็นจำนวนมากด้วย

สดุดี 47:8-9 ยินดีในสิทธิอำนาจสูงสุดของพระเจ้า
ไม่ว่าเราจะเห็น จะยอมรับหรือไม่ พระคัมภีร์กล่าวว่า พระเจ้าทรงครอบครองเหนือทุกสิ่งในโลก พระองค์เท่านั้นทรงมีอำนาจสูงสุด ทรงสมควรที่จะได้รับการยกย่องอย่างสูง แผนการของพระเจ้าสำหรับโลกนี้จะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน พระองค์เท่านั้นที่จะปกป้องทุกคนได้

สดุดี 46 พระเจ้าองค์ป้อมปราการ

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ของวงศ์วานโคราห์
ตามทำนองอาลาโมธ หนึ่งบทเพลง

กำลังและที่ลี้ภัยของเรา
1 พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและทรงเป็นขุมกำลังของเรา
ทรงเป็นผู้ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน*ในยามลำบาก
2 ดังนั้น เราจะไม่กลัว แม้ว่าโลกจะสะเทือนสะท้าน
แม้ภูเขาทั้งหลายถูกเคลื่อนลงไปใจกลางทะเล
3 แม้ว่าทะเลคำราม คลื่นซัดสาดเป็นฟอง
แม้ภูเขาสั่นสะเทือนริมทะเลที่คลื่นแรงจัด เซ ลาห์

ธารน้ำในนครที่พระเจ้าประทับอยู่
4 ยังมีแม่น้ำซึ่งมีธารน้ำไหลที่ทำให้นครของพระเจ้ายินดี
ที่นั่น เป็นที่ประทับอันบริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุด
5 พระเจ้าประทับอยู่ใจกลางนครนั้น และนครนั้นจะไม่สั่นคลอน
ในยามอรุณรุ่ง พระเจ้าจะทรงช่วยกู้นครนั้น

จะโกรธแค่ไหนก็พ่ายแพ้
6 ชาติต่างๆ โกรธเกรี้ยวลุกฮือ อาณาจักรทั้งหลายถูกทำลาย
เมื่อพระเจ้าเปล่งพระสุรเสียงสนั่น โลกก็หลอมละลาย
7  พระเจ้าองค์จอมทัพทรงอยู่ฝ่ายเรา
พระเจ้าแห่งยาโคบทรงเป็นป้อมกำบังเข้มแข็งของเรา

พระเจ้าจะทรงได้รับการยกย่องในโลกนี้
8  มาเถิด มาดูราชกิจในการรบของพระผู้เป็นเจ้า
มาดูว่าพระองค์ทรงทำให้โลกร้างเปล่าไปอย่างไร
9  พระองค์ทรงทำให้สงครามสงบจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก
พระองค์ทรงหักคันธนู และทำให้หอกหักกระจาย
พระองค์ทรงเผารถม้าด้วยไฟ
10 จงนิ่งสงบ และรู้ว่า เราคือพระเจ้า
เราจะได้รับการยกย่องท่ามกลางชาติทั้งหลาย
เราจะได้รับการยกย่องในโลกนี้
11 พระยาห์เวห์องค์จอมทัพทรงอยู่กับเรา
พระเจ้าแห่งยาโคบทรงเป็นป้อมกำบังที่เข้มแข็งของเรา
เซลาห์

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 62:7-8; 145:18
เฉลยธรรมบัญญัติ 4:7; *อย่างเต็มที่

2*สดุดี 23:4; ฮีบรู 13:6

3*สดุดี 93:3-4

4*เอเสเคียล 47:1-12; สดุดี 48:1,8; อิสยาห์ 60:14

5*เฉลยธรรมบัญญัติ 23:14; อิสยาห์ 12:6; เอเสเคียล 43:7; เศคาริยาห์ 2:5

6* สดุดี 2:1-2

7*กันดารวิถี 14:9; 2 พงศาวดาร 13:12

8* สดุดี66:5; อิสยาห์ 61:1

9*อิสยาห์ 2:4; สดุดี 76:3; เอเสเคียล 39:9

10* อิสยาห์ 2:11

11* เฉลยธรรมบัญญัติ 33:27; เยเรมีย์  16:19

สดุดี 46:1-3 กำลังและที่ลี้ภัยของเรา
เหตุการณ์ที่ผู้เขียนกล่าวถึงในข้อ 2 และ 3 นั้น เป็นเรื่องใหญ่ น่ากลัว และเมื่อเกิดขึ้นน่าจะมีคนตาย สาบสูญมากกมาย อ่านแล้วเหมือนคลื่นสึนามิ แต่ท่านได้เตรียมใจของเราให้รู้ว่า ที่ลี้ภัย กำลัง ความช่วยเหลือที่เร่งด่วนมาจากพระเจ้าเท่านั้น ยามลำบากคือยามที่เราอยู่ในจุดที่ช่วยตัวเองไม่ได้ เครียด หลังชนฝา หาทางออกไม่ได้เลย พระคำข้อนี้สมควรจะจำขึ้นใจไว้ ไม่ว่าจะเป็นสึนามิฝ่ายวิญญาณหรือฝ่ายกายก็ตาม เราต้องพึ่งพระเจ้าโดยด่วน

สดุดี 46: 4-5 ธารน้ำในนครที่พระเจ้าประทับอยู่
จากความโกลาหลในสามข้อแรก ก็มาถึงความสงบในนครของพระเจ้า สายน้ำของพระเจ้าทำให้ใจสงบ นครของพระเจ้าคือ นครที่มีพระเจ้าประทับอยู่ด้วย ..

สดุดี 46:6-7 จะโกรธแค่ไหนก็พ่ายแพ้
ในวันนี้ เราพบว่าโลกอยู่ในการลุกฮือ สงครามไม่มีหยุดหย่อน แต่เมื่อพระเจ้าตรัส โลกจะหลอมละลายไป และพระองค์ผู้ทรงพลังผู้นี้ทรงเป็นฝ่ายเรา เป็นป้อมแข้มแข็งของพวกเรา

สดุดี 46:8-11 พระเจ้าจะทรงได้รับการยกย่องในโลกนี้
ข้อ 8 ผู้เขียน กล่าวถึงพระเจ้าในฐานะที่ทรงเป็นผู้บัญชาการรบ และมาย้ำอีกครั้งในข้อ 11 ว่าทรงเป็นพระยาห์เวห์องค์จอมทัพ เวลาพระเจ้าทรงรบ พระองค์ทรงปราบศัตรู และทำให้สงครามสงบลงจริง ๆ
ข้อ 10 มีความหมายว่าให้หยุดดิ้นรนต่อสู้ หยุดตะเกียกตะกาย และตระหนักว่าพระเจ้าทรงดำรงตำแหน่งพระเจ้า ทรงมีพระลักษณะอย่างไร ทบทวนให้ดี และจะมีความเชื่อ ความหวังใจมากขึ้น
ทุกวันนี้ โลกอาจจะมองไม่เห็นพระเจ้า และมีความคิดว่าไม่มีพระเจ้าในโลก แต่เราเห็นว่า ยิ่งวิทยาศาสตร์เจริญขึ้น ค้นพบสิ่งที่มหัศจรรย์มากขึ้นเท่าไร เราก็ยิ่งเห็นพระเจ้าผู้ทรงสร้างในทุก ๆ อย่างที่พวกเขาค้นพบมากขึ้นเพียงนั้น และวันหนึ่งพระคำตอนนี้ก็จะเป็นจริงสำหรับคนทั้งโลก
ข้อ 11 พระเจ้าแห่งยาโคบ มีความหมายถึงพระเจ้าแห่งอิสราเอล

สดุดี 45 บทเพลงงานสมรส

ถึงหัวหน้านักร้องตามทำนองลิลลี่มัสคิลของบุตรชายโคราห์ บทเพลงรัก

ความสุขของผู้เขียน
1 ใจของข้าเต็มล้นด้วยเนื้อหาที่น่าชื่นชม
ข้าทูลข้อความนั้นถวายองค์กษัตริย์
ลิ้นของข้าเป็นเหมือนปากกาของอาลักษณ์ที่พร้อม*อยู่

เจ้าบ่าวผู้สูงศักดิ์
2 พระองค์ทรงสง่างามเหนือบุตรของมนุษย์ทั้งสิ้น
พระคุณนั้น เทลงมาเหนือริมฝีพระโอษฐ์ของพระองค์
พระเจ้าจึงทรงอวยพระพรแด่พระองค์ตลอดไป
3 โอ ท่านผู้มีฤทธิ์ ขอเตรียมดาบให้พร้อมที่เอว
ในความงามและความตระการของท่าน
4 ให้ท่านควบม้าออกไปด้วยชัยชนะ
เพื่อปกป้องความจริงและความเที่ยงธรรม
ขอให้พระกรขวาของท่านบรรลุราชกิจที่ยอดเยี่ยม
5 คันธนูของท่านนั้นคมกริบ แทงหัวใจของศัตรูขององค์กษัตริย์
ประชาชาติต่าง ๆ ล้มลงใต้พระบาท
6 โอ พระเจ้าข้า พระบัลลังก์ของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์
พระองค์ทรงปกครองด้วยพระคทาแห่งความเที่ยงธรรม
7 พระองค์ทรงรักความเที่ยงธรรมและทรงชังความโหดร้าย
ดังนั้น พระเจ้า ผู้ทรงเป็นพระเจ้าของพระองค์ได้ทรงเจิม
พระองค์ด้วยน้ำมันแห่งความยินดี
ยกชูพระองค์เหนือมิตรทั้งปวงของพระองค์

8 เสื้อคลุมของพระองค์เต็มด้วยกลิ่นของ
มดยอบ กฤษณา และ การบูน
เสียงแห่งเครื่องสายจากราชวังงาช้างทำให้พระองค์ทรงยินดี
9 ราชธิดาของกษัตริย์ทั้งหลายเป็นสตรีสูงศักดิ์ของพระองค์
เบื้องพระหัตถ์ขวานั้น คือพระราชินีผู้ทรงเครื่องทอง
จากเมืองโอฟีร์

เจ้าสาวผู้งดงาม
10 ราชธิดาเอ๋ย ขอไปพิจารณา เอียงพระกรรณฟัง
ขอให้เธอลืมประชาชนของเธอ ลืมบ้านของพระบิดาที่จากมา
11 และองค์กษัตริย์จะปรารถนาความงามของพระนาง
จงน้อมองค์ลงต่อพระองค์ เพราะทรงเป็นเจ้านายของพระนาง
12 ธิดาจากเมืองไทระจะนำเครื่องบรรณาการมา
เพื่อจะได้รับความโปรดปรานจากพระนาง
คือเหล่าคนที่มั่งคั่งกว่าคนทั่วไป

ขบวนเจ้าสาว
13 เจ้าหญิงที่อยู่ในห้องประทับนั้นก็งดงามยิ่งนัก
ในเสื้อคลุมที่ทอด้วยเส้นไหมทอง
14 พระนางถูกนำไปเฝ้าองค์กษัตริย์ในเสื้อคลุมหลากสี
มีสาวพรหมจารีติดตามพระนางไป
15 พวกเธอถูกนำไปด้วยความยินดีและความชื่นชม
ขณะที่เดินเข้าไปในราชวังขององค์กษัตริย์

ลูกหลานที่จะได้ครอบครอง
16 ราชโอรสของพระนาง จะเป็นผู้ปกครองแผ่นดินต่อไป
สืบต่อจากบรรพบุรุษของท่าน
17 ข้าจะทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่จดจำทุกชั่วอายุคน
ชาติต่าง ๆ จึงจะสรรเสริญพระองค์ ตลอดไปนิรันดร์

พระคำเชื่อมโยง

1* เชี่ยวชาญ สดุดี 49:3; 2 ซามูเอล 23:2

2* ลูกา 4:22

3* อิสยาห์ 49:2; ฮีบรู 4:12; วิวรณ์ 1:16; ยูดา 25

4* วิวรณ์ 6:2

5* สดุดี 21:12;

6*สดุดี 93:2; ฮีบรู1:8-9; กันดารวิถี 24:17

7* สดุดี 2:2; 21:6; ฮีบรู 1:8-9

8* เพลงโซโลมอน 1:12-13; 4:14

9* เพลงโซโลมอน 6:8; 1 พงศ์กษัตริย์ 2;19

10* เฉลยธรรมบัญญัติ 21:13; รูธ 1:16-17

11* สดุดี 95:6, อิสยาห์ 54:5; เอเฟซัส 5:25-27

12* อิสยาห์ 49:23; สดุดี 22:29

13* วิวรณ์ 19:7-8; อิสยาห์ 61:10

14* เพลงโซโลมอน. 1:3-5

15* วิวรณ์ 7:15-17; 3:21

16* 1 เปโตร 2:9; วิวรณ์ 1:6; 20:6

17* มาลาคี 1:11; อิสยาห์ 62:3

ผู้เขียนกำลังมีความคิดดี ๆ ซึ่งกำลังจะทูลเสนอความคิดนั้นต่อองค์กษัตริย์ ดูเหมือนว่าเป็นบทเพลงสำหรับงานสมรสในข้อต่อ ๆ มา และลิ้นของท่านนั้นพร้อมกล่าวคำที่งดงามถวายราวกับปากกาของอาลักษณ์ที่ชำนาญงาน

สดุดี 45: 2-9 เจ้าบ่าวผู้สูงศักดิ์
ข้อ 2-5ผู้เขียนได้กล่าวว่า องค์กษัตริย์ของท่านนั้น งามเหนือผู้ใด และคำตรัสของพระองค์ก็เหมาะสม เป็นคำที่ดี และนี่เป็นผลมาจากพระพรของพระเจ้าเหนือองค์กษัตริย์ คำตรัสของพระองค์นั้นนำพระพรมายังประชาชนของพระองค์
สดุดีบทนี้ เป็นสดุดีที่กล่าวถึงองค์พระเมสสิยาห์ที่จะเสด็จมาในอนาคต
ที่เราสรุปได้เช่นนั้น เพราะฮีบรู 1:8-9 ได้เขียนโยงมาถึงพระคำข้อนี้ (ที่เป็นตัวเอียง) ถ้าเราอ่านดี ๆ จะรู้สึกว่า กษัตริย์องค์นี้ยังหนุ่มแน่น พระลักษณะของพระองค์ก็เหมาะสมที่จะเป็นกษัตริย์ และพระองค์ทรงได้รับการยกย่องเหนือคนอื่น ๆ ฮีบรูว่าทูตสวรรค์ทั้งสิ้นของพระเจ้านมัสการพระองค์​ และชัยชนะเหนือศัตรูทำให้รู้ว่า พระองค์ทรงเป็นผู้ปกป้องประชาชนของพระองค์
ข้อ 6-7 พระบัลลังก์ที่ดำรงเป็นนิตย์ มีความหมายถึงพระบัลลังก์ของเชื้อสายผู้หนึ่งของกษัตริย์ดาวิด ทรงปกครองด้วยความเที่ยงธรรม (ถ้าเรากลับไปอ่านฮีบรู 1:5-9 จะเห็นว่า ผู้เขียนกำลังหมายถึงพระบุตรของพระเจ้าที่ทรงเป็นเชื้อสายของดาวิด)
ข้อ 8-9 องค์กษัตริย์ทรงสวมเสื้อคลุมที่มีกลิ่นหอม เป็นเครื่องหอมราคาแพงที่เหมาะกับพระองค์ ในราชวังของพระองค์ก็โอ่อ่าตระการ และมีนักดนตรีที่พร้อมเล่นเพลงถวายที่ทำให้พระองค์ทรงยินดี
ในวันนั้น ก็มีผู้ที่จะเป็นพระราชินีของพระองค์ประทับอยู่ข้างขวาพระหัตถ์

สดุดี 45:10-12 เจ้าสาวผู้งดงาม
เจ้าสาว(ราชธิดา) ที่บัดนี้เธอต้องเปลี่ยนความภักดีจากผู้ให้กำเนิดมาเป็นองค์กษัตริย์ซึ่งเธอจะสมรสด้วย เธอรับตำแหน่งใหม่ และจะได้รับความภักดีจากคนขององค์กษัตริย์
และเธอเป็นที่ปรารถนาขององค์กษัตริย์ เธอจึงควรถวายเกียรติแด่พระองค์
ข้อ 11 มีความหมายถึงการสมรสของพระคริสต์กับคริสตจักร (เอเฟซัส 5:25-27)
ข้อ 12 ธิดาจากเมืองไทระ คือประชาชนจากเมืองที่มั่งคั่ง เป็นเมืองท่าจะมาถวายความภักดีด้วย

สดุดี 45:13-15 ขบวนเจ้าสาว
ผู้เขียนได้บรรยายว่า ก่อนที่พระนางจะเข้ามายังท้องพระโรงของกษัตริย์นั้น เป็นอย่างไร เธองดงามในเสื้อคลุมทองคำ และมีเหล่าบริวารตามไปด้วย ทุกคนในที่นั้นเต็มด้วยความยินดี

สดุดี 45:16-17 ลูกหลานที่จะได้ครอบครอง
ลูกหลานที่จะเกิดจากครอบครัวใหม่นี้ จะเป็นผู้ที่ครอบครองแผ่นดินสืบไป พวกเขาจะกลายเป็นเจ้าชาย และเป็นกษัตริย์ที่รับหน้าที่ยิ่งใหญ่นี้
ผู้เขียนได้สัญญาว่าจะทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่ระลึกถึงตลอดไป และชาติต่าง ๆ ก็จะสรรเสริญพระองค์นิรันดร์ และเราขอบคุณพระเจ้าที่พระนามของพระเยซูคริสต์ยังคงเป็นที่สรรเสริญในวันนี้ และคนเป็นจำนวนมากยังคงเข้ามาหาพระองค์ทุก ๆ วัน