เศคาริยาห์ 1 จินตภาพสองเรื่องแรก

เบื้องหลังเศคาริยาห์…
เนื้อหา ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความหวัง และการหนุนใจถึงพระเมสสิยาห์ องค์กษัตริย์ที่จะเสด็จมา
เศคาริยาห์ กล่าวถึงการเสด็จมาครั้งที่หนึ่ง และครั้งที่สองของพระเยซูมากกว่าผู้เผยพระดำรัสน้อย อีกสิบเอ็ดท่านรวมกัน
ดังนั้นจะมีสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และจะมีสิ่งที่พวกเราต้องรอจนกว่าจะเกิดขึ้น แต่สำหรับเรายุคนี้ มีหลายสิ่งกำลังเกิดขึ้นให้เห็นกับตา
ชื่อของเศคาริยาห์ แปลว่า พระเจ้าทรงจำ  มาจากฮีบรูว่า ซาคาร์ זָכַר  แปลว่า จำ ซึ่งมีความหมายเป็นสัญญลักษณ์ว่า พระเจ้าทรงจำพันธสัญญา และพระสัญญาของพระองค์ เป็นชื่อที่ใช้กันมาก เพื่อสะท้อนให้เห็นความหวังและมั่นใจว่า พระเจ้าทรงใส่พระทัยคนของพระองค์
ใน 2:4 ทูตสวรรค์เรียกเขาว่า ชายหนุ่ม แสดงว่า เขายังอายุน้อย

เศคาริยาห์เผยพระวจนะหลังจากคนอิสราเอลกลับมาจากการเป็นเชลยในบาบิโลน  เขาหนุนใจให้อิสราเอลสร้างพระวิหารในเยรูซาเล็มเหมือนกับฮักกัย ทั้งสองรับใช้พระเจ้าในเวลาเดียวกัน ประมาณ 520 ปีก่อนคริสตศักราช   แตกต่างที่ว่า เศคาริยาห์เห็นจินตภาพในยามกลางคืนแปดเรื่อง ที่เล่าเรื่องปัจจุบันและอนาคตของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
พระเมสสิยาห์ที่กำลังเสด็จมา 
หนังสือเศคาริยาห์นี้ ถูกอ้างถึงโดยพระคัมภีร์ใหม่มากกว่าหนังสือเล่มใด ๆมากกว่า 40 ครั้ง
พระเยซูได้ตรัสถึงเขาว่า เขาถูกฆาตกรรม ระหว่างพระวิหารกับแท่นบูชา ในมัทธิว 23:35 โดยที่เราไม่ทราบเหตุผล เพราะในหนังสือเล่มนี้ เราเห็นแต่คำที่จะหนุนใจให้ผู้คนกลับมาหาพระเจ้า




กลับมาหาพระเจ้า แล้วจะทรงกลับมาหาเจ้า
(เยเรมีย์ 3:11–25; โฮเชยา 14:1–3)
1 ในเดือนแปด ปีที่สองแห่งรัชกาลกษัตริย์ดาริอัส  มีพระดำรัสของพระยาห์เวห์มายังผู้เผยพระดำรัสเศคาริยาห์บุตรชาย เบเรคิยาห์ผู้เป็นบุตรอิดโดดังนี้ (ชื่อของทั้งสามรวมกันคือ พระเจ้าทรงจำพระสัญญาในเวลาของพระองค์)
2“พระยาห์เวห์ทรงกริ้วบรรพบุรุษของเจ้า 
3 ดังนั้น จงบอกประชาชนว่า พระยาห์เวห์องค์จอมทัพตรัสดังนี้ ‘จงกลับมาหาเรา พระยาห์เวห์องค์จอมทัพทรงประกาศ .. และเราจะกลับไปหาเจ้า’ พระยาห์เวห์องค์จอมทัพตรัสดังนั้น 
4 อย่าทำตัวเหมือนบรรพบุรุษของพวกเจ้า ซึ่งผู้เผยพระดำรัสในอดีตเคยแจ้งว่า นี้คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์จอมทัพตรัสไว้
‘จงหันจากทางชั่ว และการกระทำที่ชั่วร้ายของพวกเจ้า’  แต่พวกเขาไม่ฟัง ไม่ใส่ใจเราเลย พระยาห์เวห์ทรงประกาศ 
5 เวลานี้ บรรพบุรุษของเจ้าอยู่ที่ไหนกัน? และผู้เผยพระดำรัสล่ะ พวกเขามีชีวิตยืนยาวตลอดไปหรือ? 
6 แต่คำและกฎเกณฑ์ของเราซึ่งเราบัญชาเหล่าผู้เผยพระดำรัสซึ่งเป็นผู้รับใช้ของเรา ก็เกิดขึ้นจริงกับบรรพบุรุษของเจ้ามิใช่หรือ?  พวกเขาสำนึกผิดกลับใจและกล่าวว่า
“ก็เป็นอย่างที่พระยาห์เวห์องค์จอมทัพทรงประสงค์ที่จะทรงกระทำต่อพวกเราอย่างสาสม กับหนทางและการกระทำของเรา ..  พระองค์ได้ทรงกระทำอย่างนั้นต่อเรา”

จินตภาพเรื่องทหารม้า 
7 ในวันที่ยี่สิบสี่ เดือนที่สิบเอ็ด คือเดือชืชบัท  เป็นปีที่สองของรัชกาลดาริอัส   มีพระดำรัสของพระยาห์เวห์มายังผู้กล่าวพระคำเศคาริยาห์บุตรชาย เบเรคิยาห์ผู้เป็นบุตรอิดโด 
8 เวลากลางคืน ข้าพเจ้าเห็นบุรุษผู้หนึ่ง ขี่ม้าสีแดง เขายืนอยู่ท่ามกลางต้นเมอร์เทิลในหุบเขา และด้านหลังของเขามีม้าสีแดง น้ำตาลส้ม และขาว
9 “โอ.. ท่านเจ้าข้า สิ่งเหล่านี้คืออะไรหรือ?” แล้วทูตสวรรค์ที่สนทนากับข้าพเจ้าตอบว่า “เราจะแสดงให้ท่านเห็นว่า เหล่านี้คืออะไร”
10 แล้วบุรุษผู้ที่ยืนท่ามกลางต้นเมอร์เทิลจึงอธิบายว่า “พวกเขาเหล่านี้คือผู้ที่พระยาห์เวห์ได้ส่งลงมาลาดตระเวนทั่วแผ่นดินโลก”
11 ผู้ที่ขี่ม้าได้ตอบทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ผู้ยืนอยู่ท่ามกลางต้นเมอร์เทิลว่า “เราได้ลาดตระเวนไปทั่วแผ่นดินโลก และดูเถิด  ทั่วทั้งโลกอยู่ในสถานะพักผ่อนอย่างสงบสุข”
12 แล้วทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์กล่าวว่า “โอ พระยาห์เวห์องค์จอมทัพ นานเท่าไรที่พระองค์จะยังคงรั้งพระเมตตาจากเยรูซาเล็ม และเมืองต่าง ๆในยูดาห์ซึ่งพระองค์ทรงกริ้วมาถึง 70 ปี ?


13 แล้วพระยาห์เวห์ได้ตรัสตอบทูตสวรรค์ที่กำลังสนทนากับข้าพเจ้า ด้วยพระดำรัสที่อ่อนโยน และปลอบประโลมใจ
14 แล้วทูตสวรรค์ที่สนทนากับข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า “จงประกาศคำต่อไป นี่เป็นพระดำรัสของพระยาห์เวห์องค์จอมทัพ
‘เราหวงแหนเยรูซาเล็มและศิโยนยิ่งนัก 
15 แต่เราโกรธเกรี้ยวกับชาติต่าง ๆ ที่ ต่างรู้สึกไม่เกรงกลัวเรา เพราะเมื่อเราโกรธหน่อยเดียว แต่ชาติต่าง ๆ ก็กลับทำร้ายพวกเขาด้วยความคิดชั่วเกินขนาด
16 ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงตรัสว่า ‘เราจะกลับมาหาเยรูซาเล็มพร้อมกับความเมตตา และที่นั่น เราจะสร้างพระนิเวศของเราขึ้นมาใหม่  และจะมีสายดิ่งวัดเหนือเยรูซาเล็ม’ พระยาห์เวห์องค์จอมทัพทรงประกาศ
17 “จงประกาศต่อไปว่า พระยาห์เวห์องค์จอมทัพตรัสว่า ‘เมืองทั้งหลายของเราจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง พระยาห์เวห์จะทรงปลอบใจศิโยน และเลือกเยรูซาเล็มอีกครั้ง’


จินตภาพเรื่องเขาสัตว์และช่างฝีมือ
18 แล้วข้าพเจ้าเงยหน้าขึ้น และเห็นเขาสัตว์สี่แท่ง 
19 ข้าพเจ้าจึงถามทูตสวรรค์ที่สนทนากับข้าพเจ้า “เหล่านี้คืออะไรกัน?” ท่านตอบว่า “เหล่านี้คือเขาสัตว์ซึ่งทำให้ยูดาห์  อิสราเอลและเยรูซาเล็มกระจัดกระจายไป”
20 แล้วพระยาห์เวห์ทรงแสดงให้ข้าพเจ้าช่างฝีมือสี่คน 
21 “คนเหล่านี้มาทำอะไร พระเจ้าข้า?”
ข้าพเจ้าทูลและพระองค์ตรัสตอบว่า
“นี่เป็นเขาสัตว์ที่ทำให้ยูดาห์กระจัดกระจายไป เพื่อไม่ให้ใครยกหัวขึ้นมาได้อีก แต่ช่างฝีมือได้มาเพื่อทำให้พวกเขากลัวลาน และพวกเขาจะเขวี้ยงเขาสัตว์ของชาติต่าง ๆ ที่ได้ยกเขาสัตว์ (อำนาจ)ขึ้นมาต่อต้านเพื่อทำให้แผ่นดินยูดาห์กระจัดกระจายไป”
เดือนเชบัทคือเดือนที่สิบเอ็ดในปฏิทินของฮีบรูประมาณเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์


คำอธิบายเพิ่มเติม

1:1  พอเห็นวันที่เศคาริยาห์กล่าว เราก็นำไปเทียบกับฮักกัยได้ แสดงว่า เขาทั้งสองอยู่ในรุ่นเดียวกัน ใต้การปกครองของดาริอัสเช่นเดียวกัน และเขาก็พูดเรื่องเดียวกัน ในการสร้างพระวิหารด้วย 

1:2 เศคาริยาห์บอกเหตุผลว่า ทำไมบรรพบุรุษของพวกเขาจึงต้องออกไปเป็นเชลยในบาบิโลน ให้คนต่างชาติกดขี่ ไปเป็นทาสรับใช้คนต่างชาติที่ยิวรังเกียจนัก 
1:3 แต่พระเจ้าไม่ได้แค่ทรงกริ้ว พระองค์ทรงหาทางให้เขากลับมาหาพระองค์ ตรัสเหมือนกับตรัสในมาลาคี 3:7 ในเวลาร้อยปีต่อมา  พระเจ้าตรัสดังนี้เสมอ ๆ เราต้องจำไว้ว่า เมื่อเราพลาดไป พระเจ้ายังทรงพระเมตตา 

1:4 สิ่งที่บรรพบุรุษของอิสราเอลทำคือ พระเจ้าทรงเตือนไม่ให้ทำชั่ว แต่พวกเขาไม่ฟัง 
ผู้เผยพระดำรัสในอดีต ก็คือ เหล่าผู้เผยพระดำรัสที่เตือนพวกเขาก่อนที่จะถูกกวาดไปเเป็นเชลย อย่างเช่น  เยเรมีย์  หรือแม้แต่เอเสเคียลที่เข้าไปอยู่ในบาบิโลนกับพวกเขา  นิสัยของพวกเขาคือ ไม่ฟังคำเตือนจากพระเจ้า!

1:5  บรรพบุรุษและผู้เผยพระดำรัส ต่างก็สิ้นชีวิตกันไป   คนรุ่นก่อน ถูกการตีสอนจากพระเจ้า แต่คนรุ่นใหม่ก็ไม่จดจำ 

1:6 พระเจ้าทรงเตือนว่า พวกเขาได้รับโทษ และรู้ว่า โทษนั้นสมควรจะได้รับ เป็นโทษที่มาจากพระเจ้า  ทรงใช้กษัตริย์ต่างชาติมาจัดการกับพวกเขา 
เศคาริยาห์ เตือนให้เขารู้ว่า ทุกอย่างที่พระเจ้าตรัสนั้น เกิดขึ้นจริง ดังนั้นอย่าทำหูด้านชาเหมือนบรรพบุรุษ

จินตภาพเรื่องทหารม้า : พระเจ้าทรงพร้อมที่จะออกไปรบเพื่อคนของพระองค์ 
1:7 เศคาริยาห์บอกชัดเจนว่า เขาได้เห็นจินตภาพยามค่ำเมื่อไร .. เป็นช่วงรัชกาลของดาริอัส เดือนเชบัท เท่ากับช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ของปฏิทินปัจจุบัน  ปี 519 ก่อนคริสตศักราช

1:8-11 เศคาริยาห์เห็นชายคนหนึ่งขี่ม้าสีน้ำตาลแดง  ยืนท่ามกลางต้นเมอร์เทิลในหุบเขา ยังมีชายขี่ม้าสีแดง สีน้ำตาลและสีขาวอยู่ข้างหลังเขาด้วย
ต้นเมอร์เทิลเป็นไม้พุ่ม ใบสีเขียวแก่ มีดอกสีขาว  มีความหมายถึงสันติสุข ความรุ่งเรือง และพระพรจากพระเจ้า สะท้อนพันธสัญญามั่นคงของพระเจ้าต่อคนของพระองค์​  และเกี่ยวพันกับการรื้อฟิ้นใหม่ของอิสราเอล เป็นต้นไม้ที่เคยปลูกล้อมรอบนครเยรูซาเล็ม (เนหะมีย์ 8:15)ดอกไม้ชนิดนี้มีกลิ่นหอมที่สามารถเอาไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย  เวลาขยี้จะได้กลิ่นหอม ซึ่งยังสื่อถึงพระคุณของพระเจ้าที่มีต่ออิสราเอลยามที่พวกเขาต้องทนทุกข์
ในจินตภาพนี้ มี เศคาริยาห์ ทูตสวรรค์ และชายสี่คนที่ขี่ม้าสี่ตัว ตระเวนในโลก
เศคาริยาห์ยืนอยู่กับทูตสวรรค์ซึ่งอธิบายว่า ชายเหล่านี้เป็นคนที่พระเจ้าทรงส่งมาลาดตระเวณดูความเป็นไปของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในโลก และเขาพบว่าโลกอยู่ในความสงบ 

1:12-15 เศคาริยาห์ได้ยินทูตสวรรค์สนทนากับพระยาห์เวห์  เขาทูลถามเหมือนจะบอกว่า เมื่อไรพระองค์จะเมตตาพวกเขาสักที เพราะพวกเขาลำบากกันมาแล้ว 70 ปีแล้วพระยาห์เวห์ทรงตอบทูตสวรรค์นั้นอย่างอ่อนด้วยการปลอบใจเขาที่รู้สึกกังวล แล้วพระองค์ให้เขาประกาศคำให้ทราบว่า พระองค์ทรงรักหวงแหนศิโยน และนครเยรูซาเล็ม ชาติต่าง ๆ ที่ทรงใช้มาสอนสั่งพวกเขาด้วยสงครามก็ได้ทำกับอิสราเอลเกินขนาด 

1:16-17 พระเจ้าทรงตั้งพระทัยจะรื้อฟื้นพระนิเวศขึ้นมาใหม่ จะทรงให้พวกเขารุ่งเรืองขึ้นมาอีก  การใช้สายดิ่งก็เพื่อวัดสำหรับการสร้างใหม่  การวัดนี้เป็นเหมือนสัญญาว่า จะมีการสร้างเกิดขึ้นจนสำเร็จ
และพระองค์ทรงสัญญาว่า เมืองทั้งหลายจะกลับมารุ่งเรืองอีก นับได้ว่า เป็นพระสัญญาที่น่าดีใจมากสำหรับเชลยที่เพิ่งกลับมาจากต่างแดน
(สี่ปีต่อมา มีการสร้างพระวิหารใหม่หลังจากเศคาริยาห์กล่าวคำพยากรณ์ครั้งนี้)

จินตภาพเรื่องเขาสัตว์และช่างฝีมือ
1:18-21 เขาสัตว์ในพระคัมภีร์ มีความหมายถึงประเทศ และกษัตริย์  ที่มีอำนาจมาก ยังหมายถึงความเย่อหยิ่งด้วย  เขาของวัวผู้ก็เป็นพลังของพวกมัน  
มีความเห็นหลายแบบ
เขาสี่เขานี้ น่าจะหมายถึงประเทศที่เข้ามาโจมตีอิสราเอลซึ่งถ้ามองจากคำของดาเนียลบท 2, 7 เราก็จะได้ บาบิโลน  มีเดีย-เปอร์เซีย กรีซ และโรม
ช่างฝีมือดังกล่าวน่าจะเป็นคนที่ต้องใช้ค้อน เพื่อใช้เคาะ ทุบ ตีในการทำงานเป็นหลัก
ในดาเนียลได้บอกว่า แต่ละอาณาจักรจะถูกอาณาจักรที่เรืองอำนาจต่อมาทำลายกันเป็นลำดับไป จนกระทั่ง ถึงอาณาจักรของพระเมสสิยาห์ (อ่านดาเนียล 2:34,35,45) 
(Macarthur Study Bible)
พระเจ้าทรงใช้ชาติต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อสั่งสอนอิสราเอล แต่พวกเขาก็ทำชั่ว ทำความโหดร้าย เกินไปอยู่เสมอ 
จินตภาพเรื่องเขาสัตว์และช่างฝีมือ: จะมีสี่ประเทศที่เข้ามาโจมตีอิสราเอล พระเจ้าจะทรงชนะเขา และพระคริสต์จะเป็นช่างฝีมือที่จะปกครองเหนืออิสราเอลลงโทษประเทศที่เข้ามาข่มเหงอิสราเอล (พจ.สัญญาจะช่วยคนของพระองค์ ข้อ 13,17) ตรงนี้ เศคาริยาห์สนทนากับทูตสวรรค์ และพระยาห์เวห์ในเวลาเดียวกัน ดูตามโทราห์คลาส
พระเจ้าทรงใช้เขาเหล่านี้เพื่อจัดการกับยูดาห์ เพื่อทำให้พวกเขาหันมาหาพระเจ้า ขอความช่วยเหลือจากพระองค์ กลับใจใหม่ คืนดีกัน
คำว่าสี่ มีความหมายถึงขอบเขตกว้างขวางสุดโลก  เขาสัตว์สี่แท่ง หมายถึงอำนาจใด ๆ จากโลกที่ขึ้นมาทำลายอิสราเอล 
ส่วน ช่างฝีมือเหล่านี้มาเพื่อทำให้เขาสัตว์ เหล่านั้นกลัว .. พวกเขามาเพื่อจัดการกับความหวาดหวั่น .. เรื่องนี้พระเจ้าทรงกล่าวเฉพาะถึงยูดาห์

พระคำเชื่อมโยง

เศคาริยาห์ 1
1* เศคาริยาห์ 7:1; มัทธิว 23:35; เนหะมีย์ 12:4, 16
3* มาลาคี 3:7-10
4* 2 พงศาวดาร 36:15-16; อิสยาห์ 31:6
6* อิสยาห์ 55:11; เพลงคร่ำครวญ 1:18; 2:17
8* วิวรณ์ 6:4; เศคาริยาห์ 6:2-7


9* เศคาริยาห์ 4:4-5, 13; 6:4
10* ฮีบรู 1:14
11* สดุดี 103:20-21
12* สดุดี 74:10; เยเรมีย์ 25:11-12; 29:10
13* เยเรมีย์ 29:10
14* เศคาริยาห์ 8:2
15* อิสยาห์ 47:6

16* เศคาริยาห์ 2:10; 8:3; เอสรา 6:14-15; อิสยาห์ 44:28 ; เศคาริยาห์ 2:1-3
17* อิสยาห์ 40:1-2; 51:3 ; เศคาริยาห์ 2:12
18* เพลงคร่ำครวญ 2:17
19* เอสรา 4:1, 4, 7
21* สดุดี 75:10; 75:4-5