
ความโศกเศร้าของอาโมส
1โอ วงศ์วานอิสราเอล
ขอให้เจ้าฟังเสียงคร่ำครวญของข้าถึงเจ้าว่า
2 “พรหมจารีอิสราเอลได้ล้มลง
และไม่อาจจะลุกขึ้นมาได้อีกเลย
เธอถูกทิ้งบนแผ่นดินของเธอเอง
โดยไม่มีใครช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้นเลย
3 เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสว่า “เมืองซึ่งส่งทหารเดินทัพออกไปนับพัน จะมีทหารเหลือเพียงร้อย และเมืองที่ส่งทหารออกไปนับร้อย จะมีเหลือเพียงสิบในวงศ์วานอิสราเอล
ความโศกเศร้าของอาโมส
5:1-2 คราวนี้อาโมสคร่ำครวญเพราะสิ่งที่เขาเห็น พรหมจารีอิสราเอลนั้นคือ ทั้งประเทศที่ยังไม่ทันเริ่มเป็นประเทศได้ดีก็ถูกทำลายเสียแล้ว แต่ความบาปของอิสราเอลก็นำมาซึ่งหายนะให้กับตัวเอง ถูกทิ้งบนแผ่นดินซึ่งเป็นของประทานจากพระเจ้า และก็ไม่มีใครหน้าไหนมาช่วยได้เลย
5:3 อิสราเอลได้ส่งทหารออกไปเพื่อปกป้องตนเอง แต่กลายเป็นความพ่ายแพ้ ไม่อาจทำลายศัตรู แต่กลับถูกศัตรูทำลาย
จงแสวงหาพระเจ้าและมีชีวิต
4 เพราะพระยาห์เวห์ตรัสกับวงศ์วานอิสราเอลดังนี้
“จงแสวงหาเราและมีชีวิตอยู่!
5 อย่าแสวงหาเบธเอล หรือไปยังกิลกาล หรือเดินทางไปเบเออร์เชบา เพราะกิลกาลจะต้องตกไปเป็นเชลยแน่ ส่วนเบธเอลก็จะไม่มีอะไรเหลือให้เห็น
6 จงแสวงหาพระยาห์เวห์และมีชีวิตอยู่ ไม่อย่างนั้น
พระองค์จะทรงออกไปเหมือนเพลิงเพื่อเผาผลาญวงศ์วาน
โยเซฟ ไฟนั้นจะผลาญทุกสิ่ง
ไม่มีใครในเบธเอลจะช่วยดับไฟนั้นได้
7 พวกเจ้าที่เปลี่ยนความยุติธรรมให้กลายเป็นความขมขื่น
ผู้เหวี่ยงความเที่ยงธรรมลงบนพื้น
จงแสวงหาพระเจ้าและมีชีวิต
5:4-5แล้วพระเจ้าก็ทรงบอกหนทางที่พวกเขาจะรอดได้
วิธีเดียวคือแสวงหาพระเจ้า และพระองค์จะทรงให้ชีวิตกับพวกเขา ไม่ต้องไปหาแท่นบูชาเทพในเบธเอล กิลกาล หรือเบเออร์เชบาซึ่งเป็นสถานที่อิสราเอลนิยมไปทำพิธีอันน่าชัง การหันไปหารูปเคารพคือความตาย
5:6-7 พระเจ้าทรงบอกซ้ำอีกครั้ง พวกเขาจะฟังหรือเปล่าทรงเป็นศัตรูกับคนที่กราบไหว้รูปเคารพอย่างชัดเจน
วงศ์วานโยเซฟในที่นี้คือชนชาติอิสราเอลทั้งเหนือและใต้
เมื่อไฟของพระเจ้ามา ไม่มีใครดับได้ …. ลองคิดถึงไฟที่ไหม้ป่าเป็นเวลานานต่อเนื่องจะดับเองต่อเมื่อหมดเชื้อไฟ
พระเจ้าทรงยืนยันถึงความผิดของพวกเขาอีกครั้ง…
ทำให้ความยุติธรรมกลายเป็นอยุติธรรม
เหวี่ยงความเที่ยงธรรมราวกับเป็นสิ่งไม่มีค่า
ทำให้ชีวิตของประชาชนคนยากจนเข็ญใจจำนวนมากพบความทุกข์แสนสาหัส
ยืนยันความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์
8 พระองค์ผู้ทรงสร้างดาวลูกไก่และดาวไถ
ผู้ทรงทำให้ความมืดกลายเป็นรุ่งเช้า
และทรงทำให้กลางวันกลายเป็นกลางคืนที่มืดสนิท
พระองค์ผู้ทรงเรียกน้ำทะเลมาให้โปรยลงบนพื้นผิวโลก พระนามของพระองค์คือ พระยาห์เวห์
9 พระองค์ทรงนำหายนะมายังสถานที่ ๆ แข็งแกร่ง
และหายนะเหล่านั้นทำให้เมืองป้อมต่าง ๆ ทลายลง
เวลาแห่งความชั่ว
10 พวกเขาเกลียดคนที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมที่ประตูเมือง และเกลียดชังคนที่กล่าวความจริง
11 ดังนั้น เป็นเพราะเจ้าได้เหยียบย่ำคนยากจน
และรีดไถเอาเมล็ดข้าวจากไร่ของเขา
เจ้าจะไม่ได้อาศัยในบ้านหินสกัด ที่เจ้าสร้างขึ้นมา
เจ้าจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากสวนองุ่นที่งดงามซึ่งเจ้าเป็นผู้ปลูก
12 เพราะเรารู้ว่าเจ้ากระทำการผิดมากเพียงใด
และบาปของเจ้าก็นับไม่ถ้วน
พวกเจ้าได้ข่มเหงคนเที่ยงธรรมและรับสินบน
และไม่ยอมให้ความยุติธรรมแก่คนยากจนที่ประตูเมือง
13 ดังนั้น คนที่หลักแหลมจะนิ่งเงียบ
ในเวลาเช่นนี้
เพราะเป็นวันเวลาแห่งความชั่ว
ยืนยันความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์
5:8 ทำไมอยู่ดี ๆ พระเจ้าทรงอ้างไปถึงดวงดาว?
เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้แค่กราบไหว้รูปเคารพเท่านั้น แต่ยังกราบนมัสการดวงดาวด้วย อาโมสได้แจ้งให้พวกเขาทราบว่า สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่พระ แต่เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างมาด้วยพระองค์เอง
พระองค์เป็นผู้ทำให้มืดกลายเป็นรุ่งเช้า คนสมัยก่อนยังไม่รู้ว่า พระเจ้าทรงสร้างระบบสุริยะของเรา พระองค์ทรงจัดเตรียมทุกอย่าง แล้วมนุษย์ค่อยมาค้นพบทีหลังว่าอะไรเป็นอะไร พระองค์ทรงสร้างอย่างไร วัฏจักรของน้ำคืออะไร
พระองค์ทรงบอกเรามาตั้งแต่ก่อนคริสตศักราชหลายร้อยปี พวกเราเองเพิ่งมาค้นพบ นี่เป็นพระคำที่มหัศจรรย์สำหรับเราในยุคนี้ พระยาห์เวห์คือพระนามที่ยิ่งใหญ่นี้
5:9 ดังนั้น พระองค์ผู้ทรงสร้างจักรวาลจึงทรงเป็นผู้ที่จะนำการทำลายมายังสถานที่ ซึ่งมนุษย์เข้าใจว่า แข็งแกร่ง ไม่มีใครจะทำลายได้!
เวลาแห่งความชั่ว
5:10-12 การเรียกร้อง ต่อสู้เพื่อความถูกต้องมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และเขาจะทำกันที่ประตูเมืองเพราะที่นั่นเป็นเหมือนศาลของเมือง ขบวนการทางกฎหมายจะเกิดขึ้นที่ประตูเมือง เป็นที่ ๆ ผู้ใหญ่ของเมืองประชุมกัน
การที่ผู้นำรีดไถเอาข้าวจากไร่ของคนยากจนเป็นภาษี ทำให้พวกเขาอดอยาก ผู้นำเหล่านี้มั่งคั่งจนสร้างบ้านหินสกัด แต่พระเจ้าจะไม่ให้เขาได้เสวยสุขจากบ้าน จากไร่องุ่นของพวกเขา เป็นเพราะ….
บาปของพวกเขานั้นนับไม่ถ้วน ทำผิดมากจนท่วมท้น นอกจากผิดต่อพระเจ้าแล้ว ยังเป็นความผิดต่อผู้อื่นอย่างชัดเจนมาก ๆ
5:13 คำว่าคนที่หลักแหลม บางแห่งแปลเป็นคนมีสติปัญญา ในที่นี้หมายถึงทั้งคนที่ประสบความสำเร็จ มั่งคั่ง ซึ่งก็คือคนที่ข่มเหงคนยากจนนั่นเอง พวกเขาอยู่นิ่งเฉยต่อหน้าสิ่งที่พวกเขาทำกับคนอื่น
พวกเขาจะนิ่งเพราะพระเจ้าทรงลงโทษพวกเขาอยู่
เป็นเวลาแห่งความย่อยยับของพวกเขา (ข้อนี้แปลความหมายอิง net bible)
หรือถ้าหากคำว่าคนหลักแหลม มีความหมายว่า เป็นคนมีสติปัญญา ดีที่สุดคือการนิ่งเงียบเพราะไม่อย่างนั้น เท่ากับหาเรื่องเข้าหาตัวนั่นเอง
สิ่งที่ต้องแสวงหา
14 จงแสวงหาความดี ไม่ใช่ความชั่วเพื่อว่าเจ้าจะมีชีวิตอยู่
แล้วพระยาห์เวห์องค์จอมทัพจะสถิตกับเจ้า
ตามที่พวกเจ้ากล่าวคำอ้างเอาไว้
15 จงชังความชั่วและรักความดี
รักษาความยุติธรรมที่ประตูเมือง
บางทีพระยาห์เวห์ พระเจ้าองค์จอมทัพ
จะทรงเมตตาต่อคนที่หลงเหลือของโยเซฟ
16 ดังนั้น พระยาห์เวห์ พระเจ้าองค์จอมทัพ
องค์พระยาห์เวห์ตรัสว่า
“จะมีการร้องไห้คร่ำครวญตามสี่แยก
พวกเขาจะร้องด้วยความเจ็บปวดตามถนนทุกแห่ง
ชาวนาชาวไร่จะถูกเรียกมาให้ร้องไห้ด้วยกัน
รวมทั้งคนรับจ้างร้องไห้ก็จะถูกเรียกมาด้วย
17 จะมีการคร่ำครวญในสวนองุ่นทุกแห่ง
เพราะเราจะผ่านไปท่ามกลางเจ้า”
พระยาห์เวห์ตรัส
สิ่งที่ต้องแสวงหา
5:14 อาโมสบอกอีกแล้วว่าให้กลับมาแสวงหาพระเจ้า เพื่อเขาจะมีชีวิต พระเจ้าจะทรงอยู่กับพวกเขา พวกเขานั้นรู้ดีว่า ควรทำอะไรทั้ง ๆที่ทำบาปอยู่ รู้ว่าควรกลับมาหาพระเจ้า แต่ก็ไม่ทำ
5:15 เผื่อว่าพระเจ้าจะทรงเมตตาต่อคนที่หลงเหลืออยู่ของคนทางเหนือที่ยังซื่อตรงต่อพระองค์ พวกเขาทุก ๆ คน ควรจะเกลียดชังความชั่ว รักความดี แต่แล้ว พวกเขายังดื้อด้าน ไม่ยอมทำ ไม่ยอมดีขึ้น.. ดังนั้น ความทุกข์จะเกิดขึ้นตามที่พระเจ้าทรงบอกล่วงหน้า
5:16-17 สองข้อนี้บอกชัดว่า พวกเขาจะต้องพบอะไร
การร้องไห้ ความเจ็บปวด คร่ำครวญ …เกิดขึ้นทั้งเมือง ทั้งชาติ ทุกหนแห่ง
และพระองค์จะทรงผ่านไปท่ามกลางพวกเขา ไม่ใช่เพื่ออวยพระพร แต่เพื่อก่อให้เกิดความตาย ผู้คนต่างต้องมาฝังศพคนที่ตาย เหตุการณ์นี้จะคล้ายกับตอนที่พระเจ้าทรงผ่านไปท่ามกลางคนอียิปต์เพื่อส่งวิบัติมาให้ (อพยพ 11:4-7; 12:12-13))
วันแห่งองค์พระยาห์เวห์
18 วิบัติแก่คนที่ปรารถนาวันของพระยาห์เวห์!
วันขององค์พระยาห์เวห์จะเป็นอย่างไรต่อเจ้าหรือ?
จะเป็นวันแห่งความมืดไม่ใช่ความสว่าง !
19 จะเป็นเหมือนคนที่หนีจากสิงโตเพื่อไปเผชิญกับหมี เขากลับไปบ้านเอามือพิงกำแพง กลับถูกงูฉกกัด
20 วันขององค์พระยาห์เวห์จะเป็นวันที่มืด ไม่ใช่วันสว่าง มืดมิดจนไม่มีความสว่างสักนิดมิใช่หรือ?
21 เราเกลียด เราชังงานเทศกาลทั้งหลายของเจ้า เราไม่อาจทนกลิ่นเหม็นคละคลุ้งยามที่เจ้าประชุมกันอย่างเคร่งขรึม
22 แม้เจ้าจะนำสัตว์ถวายเป็นเครื่องบูชา และธัญบูชามาถวายเราก็จะไม่รับ เราไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมเพื่อถวายวัวขุน
23 จงหยุดส่งเสียงร้องเพลงของเจ้า เราจะไม่ฟังเสียงจากพิณของเจ้า
24 แต่จงให้ความยุติธรรมไหลเหมือนน้ำ
และให้ความเที่ยงธรรมไหลเหมือนน้ำในลำธารที่ไหลไม่ขาดสาย
25 “โอ วงศ์วานอิสราเอล ตลอดสี่สิบปีในถิ่นกันดารนั้น เจ้าได้ถวายเครื่องบูชา และธัญบูชาให้เราหรือ ?
26 แต่เจ้าได้ยกกษัตริย์ของเจ้า ฐานรูปเคารพของเจ้า
และเทพแห่งดวงดาวของเจ้าขึ้นซึ่งเป็น
รูปปั้นที่เจ้าสร้างขึ้นเพื่อตัวเจ้าเอง
27 ดังนั้นเราจะส่งเจ้าไปเป็นเชลยยังดินแดนที่ไกลกว่าดามัสกัส” พระยาห์เวห์องค์จอมทัพคือพระนามของพระองค์ เป็นผู้ตรัสดังนั้น
วันแห่งองค์พระยาห์เวห์
5:18-20 หากเราเจอคำว่า วิบัติ ในภาษาฮีบรูว่า ฮอย เป็นคำที่ประกาศวิบัติที่กำลังเคลื่อนเข้ามา คนไม่น้อยในสมัยอาโมสสนใจวันของพระเจ้า หรือวันของพระยาห์เวห์ พวกเขาหารู้ไม่ว่าวันนั้นเป็นวิบัติสำหรับพวกเขาที่ดื้อดึงต่อพระเจ้าตลอดมา (พวกเขาเข้าใจว่าเป็นวันที่พระเจ้าจะทรงชนะศัตรู และจะทรงปกครองเหนือโลกนี้ (โยเอล 3:18-21) แต่อาโมส กำลังบอกอีกมุมของวันแห่งพระยาห์เวห์ ว่าพวกเขาจะต้องเจอกับความหายนะ ความมืดมิด ถ้ายังทำตัวเช่นนี้ (เศคาริยาห์ 14:1-3)
5:21-23 พระเจ้าทรงบอกตรง ๆ ว่าทรงชังงานเทศกาลที่พวกเขาทำขึ้นมา ทรงรู้สึกเหม็นกับสิ่งที่พวกเขาทำ ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร ถวายสัตว์ ถวายธัญพืช วัว พระองค์ไม่รับทั้งสิ้น ไม่ฟังเสียงเพลงร้องสรรเสริญของพวกเขาด้วย
5:24 สิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์ไม่ใช่ของถวาย การกระทำที่ดูศักดิ์สิทธิ์ หรือการร้องเพลง การเล่นดนตรีเสียด้วยซ้ำ พระองค์ทรงประสงค์ให้พวกเขาเป็นคนยุติธรรมต่อคนยากจน ประพฤติตนต่อคนอื่นอย่างถูกต้องเที่ยงธรรมอย่างสม่ำเสมอ ไม่หยุด…
5:25-26 ในช่วงเวลาออกมาจากอียิปต์ อยู่ในถิ่นกันดารนั้น พวกเขาไม่ได้แค่ถวายเครื่องบูชา ธัญบูชาแด่พระเจ้า แต่ยังได้มีเทพอื่นติดตัวมาด้วย (กิจการ 7:42-43; อพยพ 32) พวกเขารักใส่ใจในพิธีกรรมที่ดูศักดิ์สิทธิ์ แล้วระหว่างทางยังได้สร้างวัวทองคำขึ้นมาอีก พวกเขาต้องการพระที่มองเห็นได้ ไม่ใช่พระยาห์เวห์ที่พวกเขาได้ยินพระสุรเสียงที่ภูเขาซีนาย แต่กลับมองไม่เห็น เห็นไม่ได้
ที่เขาสร้างรูปเคารพขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการหลายอย่างในตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการทางร่างกาย ทางเพศ เพราะเราจะเห็นได้จากพิธีกรรมที่อุจาดของพวกเขา (โรม 7 ชัดเจนเรื่องนี้)
5:27 ในเมื่ออิสราเอลดึงดันที่จะนมัสการพระอื่นแบบต่าง ๆ พระเจ้าจะทรงส่งพวกเขาไปไกลกว่าดามัสกัส ซึ่งเป็นเมืองหลวงของซีเรีย นั่นคือ ไปถึงอัสซีเรียเลย
พระคำเชื่อมโยง
อาโมส 5
1* เยเรมีย์ 7:29; 9:10, 17
4* เยเรมีย์ 29:13; อิสยาห์ 55:3
5* อาโมส 4:4; 8:14; 4:15
6* อิสยาห์ 55:3, 6-7
7* อาโมส 6:12
8* โยบ 9:9; 38:31; สดุดี 104:20 ; อาโมส
11* อาโมส 2:6; มีคาห์ 6:15
12* โฮเชยา 5:3; อาโมส 2:6; อิสยาห์ 29:21
13* อาโมส 6:10
14* มีคาห์ 3:11
15* โรม 12:9; โยเอล 2:14
16* เยเรมีย์ 9:17
17* อพยพ 12:12
18* อิสยาห์ 5:19; โยเอล 2:2
19* เยเรมีย์ 48:44
21* อิสยาห์ 1:11-16; เลวีนิติ 26:31
22* มีคาห์ 6:6-7
24* มีคาห์ 6:8
25* เฉลยธรรมบัญญัติ 32:17
26* 1 พงศ์กษัตริย์ 11:33
27* 2 พงศ์กษัตริย์ 17:6; อาโมส 4:13