
ทบทวนอดีต
1 เอฟราอิมวิ่งไล่ตามลม และไล่ตามลมตะวันออก
เขายังคงเพิ่มพูนการมุสาและความรุนแรง
เขาไปทำสัญญากับอัสซีเรีย
แล้วยังส่งน้ำมันมะกอกไปยังอียิปต์
2 พระยาห์เวห์ทรงมีข้อฟ้องร้องยูดาห์
พระองค์กำลังจะลงโทษยาโคบตามวิถีทางของเขา
พระองค์ทรงตอบแทนเขาตามการกระทำของเขา
3 ในครรภ์มารดา เขาก็ฉวยส้นเท้าของพี่ชาย
และเมื่อเติบโตขึ้นมาเขาก็ได้สู้กับพระเจ้า
4 ยาโคบได้สู้กับทูตสวรรค์ และเอาชนะท่านได้
เขาร้องไห้อ้อนวอนขอเมตตา
พระองค์ทรงพบเขาที่เบธเอล
และต่อมาพระเจ้าได้ตรัสกับเขาที่นั่น
ทบทวนอดีต
12:1 กลับไปยังบาปอย่างเดิม เอฟราอิมแทนที่จะกลับใจแต่กลับไปทำสิ่งที่ยิ่งยากขึ้นไปอีก เขาไปทำสัญญาไมตรีกับทั้งอียิปต์ และอัสซีเรีย การส่งน้ำมันมะกอกไปนั้น เป็นสัญญาว่าจะซื่อตรงต่ออียิปต์
12:2 พระเจ้าทรงบอกวิธีการตัดสินลงโทษของพระองค์ นั่นคือ ตัดสินตามการกระทำของพวกเขา
พระองค์ทรงกล่าวถึงยาโคบ ..
12:3-4 นั่นคือ ยาโคบเองได้ทำตัวคดโกงมาตั้งแต่อยู่ในท้อง(ปฐมกาล 25:26) นี่เป็นสิ่งที่สื่อว่า เขาต้องการเป็นพี่หัวปี แล้วเขาก็หลอกพ่อว่าเขาเป็นเอซาว เพื่อจะได้พรลูกหัวปี (ปฐมกาล 27:35-36)
ต่อมาก็สู้กับทูตสวรรค์ของพระเจ้า และยังเอาชนะได้ด้วย ไม่ยอมให้ไปนอกจากจะอวยพรเขาก่อน (ปฐมกาล 32) ในวันนั้น เขาขอเมตตาจากพระเจ้า นี่แสดงว่าเขาตระหนักแล้วว่า ชีวิตของเขาต้องขึ้นอยู่กับพระเจ้า และเมื่อเขาขอ เขาก็ได้พรจากพระเจ้า(ปฐมกาล 32:29)
เป็นคนกล้าที่จะขอ
5 พระยาห์เวห์ทรงเป็นองค์จอมทัพ
พระนามที่ควรจดจำคือพระยาห์เวห์
6 แต่เจ้าต้องกลับมาหาพระเจ้าของเจ้า
ผดุงรักษาความรักและความยุติธรรม
และวางใจหวังใจในพระเจ้าของเจ้าเสมอไป
12:5 แล้วพระเจ้าก็ทรงประกาศขึ้นมาว่า ทรงเป็นองค์จอมทัพ พระนามคือพระยาห์เวห์
12:6 ทรงเรียกให้พวกเขากลับมาหาพระเจ้า กลับไปหาความรัก ความยุติธรรม และการวางใจพระเจ้า
7 พวกพ่อค้าใช้ตาชั่งไม่เที่ยง
เขาโกงกับมือเลยทีเดียว
8 แต่เอฟราอิมกล่าวว่า
“ดูสิ ฉันร่ำรวยขึ้นมามากแค่ไหน
ฉันทำขึ้นมาด้วยตัวเอง
ไม่มีใครมาพบความชั่วหรือบาป
จากแรงงานของฉันเลย”
12:7-8 คนที่ขายของแล้วโกงต่อหน้าต่อตา ก็เป็นเหมือนคนที่โฮเชยากำลังพูดถึง ซึ่งไม่ได้มีแค่ในยุคนั้น แต่มีทุกวัน ทุกเวลา เกิดขึ้นในโลก พ่อค้ายิวจำนวนไม่น้อยที่โกงซึ่ง ๆ หน้าโดยที่ลูกค้าไม่รู้ตัว แถมยังอวดด้วยว่า ตนเองฉลาดหลักแหลม พอใจในวิธีการของตัวเองเพราะทำให้ตนรวยขึ้นมา
9 เราเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
ตั้งแต่ครั้งเจ้าอยู่ในอียิปต์
และเราจะให้เจ้ากลับไปอยู่ในเต็นท์อีกครั้ง
เหมือนเวลาที่มีเทศกาลตามที่กำหนดไว้
10 เรากล่าวผ่านผู้เผยพระดำรัส
และให้จินตภาพแก่พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
เรามอบปริศนาผ่านผู้เผยพระดำรัส
11 ในเมื่อกิเลอาดเต็มด้วยความชั่ว(เทวรูป)
ทั้งหมดไร้ค่าและจะสูญสิ้นไปเป็นแน่
พวกเขาถวายวัวผู้ในกิลกาล
แต่แท่นบูชาของเขา
จะกลายเป็นแค่กองหินบนทุ่งที่ไถแล้ว
.
12:9 พวกเขาลืมไปแล้วหรือว่า พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของเขาตั้งแต่ที่อยู่ในอียิปต์ พระองค์จะให้เขากลับไปอยู่อย่างคนเร่ร่อนอีกก็ได้ คล้ายกับเทศกาลอยู่เพิง เพื่อให้เขาไม่ลืมว่า เขามาจากไหน พระเจ้าทรงอยู่กับพวกเขาอย่างไร ทรงช่วยพวกเขาขนาดไหนจนกระทั่งเติบโตเป็นชนชาติอิสราเอล
12:10 พระองค์ทรงเตือนด้วยว่า ทรงส่งผู้เผยพระดำรัสมาไม่หยุดหย่อน พวกเขามีทั้งพระดำรัส มีนิมิต กล่าวคำด้วยปริศนาแก่คนอิสราเอล ถึงขนาดนี้แล้ว ผู้คนก็ยังไม่ฟังพระสุรเสียงของพระองค์
12:11 เหตุการณ์ที่เกิดในกิเลอาดนั้น เป็นเครื่องเตือนความทรงจำว่า พวกเขาเสื่อมทรามขนาดไหน
ที่กิลกาลพวกเขาก็ถวายเครื่องบูชาอย่างไม่อั้น
พระเจ้าทรงใช้เมืองทั้งสองมาพร้อม ๆ กันเพื่อบอกถึงความชั่วที่เกิดขึ้นในทั้งประเทศ และพระเจ้าจะทรงทำให้เห็นว่า แท่นบูชาเหล่านั้นก็แค่กองหิน ไม่มีค่าอย่างที่พวกเขาเข้าใจ
บทเรียนจากบรรพบุรุษ
12 ยาโคบหนีไปยังแผ่นดินอารัม
อิสราเอลทำงานเพื่อจะได้ภรรยา
เขาเลี้ยงดูฝูงแกะเพื่อจ่ายเป็นค่าตัวของเธอ
13 พระยาห์เวห์ทรงนำอิสราเอลจากอียิปต์
โดยผู้เผยพระดำรัสท่านหนึ่ง
และทรงให้ผู้เผยพระดำรัสนั้นดูแลพวกเขา
14 เอฟราอิมได้ยั่วยุพระองค์
ดังนั้น พระยาห์เวห์ของเขาจะปล่อยให้ความผิด
เนื่องจากการนองเลือดตกอยู่กับเขา
และจะทรงตอบสนอง
เพราะเขาหมิ่นประมาทพระองค์
บทเรียนจากบรรพบุรุษ
12:12 ไม่รู้หรือว่า ยาโคบซึ่งเป็นบรรพบุรุษนั้น เป็นคนที่หนีความผิดไปยังแดนไกล และทำงานเพื่อจะได้มีภรรยา ทำงานที่ต่ำต้อยในสายตาของผู้คน คือการเลี้ยงแกะ เขาเป็นคนเร่ร่อน เมื่อไปอยู่อียิปต์ ครอบครัวของเขาจึงกลายเป็นชนชาติใหญ่โตขึ้น (เฉลยธรรมบัญญัติ 26:5)
12:13 แต่พวกเขาถูกข่มเหง จนกระทั่งทรงส่งโมเสสไปนำพวกเขาออกมา และให้ดูแลจนกระทั่งได้เข้ามายังแผ่นดินที่ทรงสัญญา แต่พวกเขาไม่ได้เชื่อฟังผู้รับใช้ของพระเจ้า (ข้อ 10) ตั้งแต่สมัยของโมเสสเรื่อยมา เขาไม่รู้ว่า คนที่พระเจ้าทรงส่งมานั้น ช่วยดูแล ป้องกันไม่ให้พวกเขากลับไปเป็นทาสอีก อิสราเอลทั้งชาติยั่วยุพระเจ้าให้กริ้ว พวกเขาไร้ความกตัญญู เป็นคนทั้งโอหัง และโง่เขลา
พระคำเชื่อมโยง
1* โยบ 15:2-3; 2 พงศ์กษัตริย์ 17:4 ;
อิสยาห์ 30:6
2* มีคาห์ 6:2
3* ปฐมกาล 25:26; 32:24-28
4* ปฐมกาล 28:12-19; 35:9-15
5* อพยพ 3:15
6* มีคาห์ 6:8
7* อาโมส 8:5
8* วิวรณ์ 3:17
9* เลวีนิติ 23:42
10* 2 พงศ์กษัตริย์ 17:13
11* โฮเชยา 6:8; 9:15
12* ปฐมกาล 28:5;29:20,28
13* อพยพ 12:50-51; 13:3
14* เอเสเคียล 18:10-13; ดาเนียล 11:18