ฮักกัย 1 สิ่งสำคัญอันดับแรก

เบื้องหลังฮักกัย

หลังจากที่กษัตริย์ไซรัสได้อนุญาตให้ยิวกลับจากบาบิโลนไปยังบ้านเกิดคือ นครเยรูซาเล็ม (ปี 538 กคศ.)พวกเขาก็กลับมาด้วยการที่ได้รับความช่วยเหลือมากมายจากองค์กษัตริย์ มาพร้อมกับเครื่องมือที่จะช่วยให้สร้างพระวิหาร กษัตริย์ไซรัสพอพระทัยที่จะให้พวกเขาได้อธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อท่านด้วย เมื่อพวกเขากลับมา
คนส่วนหนึ่งประมาณ 50,000 คนกลับมา แต่มียิวที่กลายเป็นพ่อค้า คนเหล่านี้ ส่วนใหญ่ตั้งใจอาศัยในบาบิโลน เพราะชีวิตสบายและดีกว่า


เรื่องราวอิสราเอลเริ่มกลับมาจากบาบิโลนอยู่ในเอสราบทที่ 3 พวกเขาเริ่มสร้างพระวิหาร แต่ก็มีอุปสรรคทำให้โครงการสร้างต้องชะงักไป มีคนท้องถิ่นคอยตามราวีไม่ให้สร้าง มีความพยายามจากพวกนี้เพื่อให้ล้มเลิกการสร้าง ทำให้คนอิสราเอลท้อใจ สร้างไปแล้วก็หยุด จนกระทั่งสิบหกปีต่อมาฮักกัยได้รับบัญชาจากพระเจ้ามาหนุนน้ำใจพวกเขา ทำให้ เริ่มสร้างอีก จนเสร็จในปี 516 ก่อนคศ. (เอสรา 6:14-15)
เวลาที่ฮักกัยเข้ามาสื่อพระบัญชาของพระเจ้า เป็นช่วงที่กษัตริย์ดาริอัสครองเปอร์เซียช่วง 521-486 ปีก่อนคริสตศักราช


พระเจ้าทรงใช้ฮักกัยมาเตือนให้พวกเขาได้มีความเชื่อขึ้นอีกครั้ง และทำในสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน 

ชื่อของฮักกัยมีความหมายถึงเทศกาล หรือ ผู้ที่เดินทางไปเทศกาล  ฮักกัยรับใช้พระเจ้า กับโยชูวาทำหนัาที่เป็นปุโรหิต และ เศรุบบาเบลเป็นผู้ว่าราชการแห่งยูดาห์คนแรกเมื่อเชลยกลับมาจากบาบิโลน 
ฮักกัยเป็นผู้เผยพระคำรุ่นเดียวกับเศคาริยาห์ด้วย

เหตุการณ์ตามลำดับเวลา

ปี 538 กคศ
หลังเป็นเชลย กษัตริย์ไซรัส
ให้กลับมา

ปี 536 กคศ
เริ่มสร้าง
พระวิหาร
เศรุบบาเบลนำ
เอสรา 3:10-11

ปี 534 กคศ
หยุดสร้าง
พระวิหาร!

ปี 520 กคศ
ฮักกัยมาเตือน เริ่มสร้างใหม่สมัยกษัตริย์ดาริอัส

ปี 516 กคศ
สร้างพระวิหารสำเร็จ

คำบัญชาให้สร้างพระนิเวศ

ดาริอัสกษัตริย์เปอร์เซียครองปี 522–486 ก่อนคริสตศักราช
1 ในวันที่หนึ่ง เดือนที่หก(สิงหาคม) ปีที่สองแห่งรัชกาลกษัตริย์ดาริอัส  พระดำรัสของพระยาห์เวห์มาถึงเศรุบบาเบลผู้ว่าราชการแห่งยูดาห์ ลูกชายเชอัลทิเอล และโยชูวา ลูกชายของมหาปุโรหิต เยโฮซาดัก

สิ่งสำคัญที่สุดคืออะไร…ทำให้ถูกต้อง
2 “พระยาห์เวห์องค์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า ผู้คนเหล่านี้กล่าวว่า ‘ยังไม่ถึงเวลาที่จะสร้างพระนิเวศของพระยาห์เวห์’”
3 พระดำรัสของพระยาห์เวห์ตรัสผ่าน
ผู้เผยพระดำรัสฮักกัยว่า
4 “นี่เป็นเวลาที่พวกเจ้าจะอาศัยในบ้านกรุด้วยไม้ ในขณะที่พระนิเวศยังเป็นซากปรักหักพังอย่างนั้นหรือ?
5 พระยาห์เวห์องค์จอมทัพตรัสว่า
“บัดนี้ ขอให้เจ้าพิจารณาทางของเจ้าให้ละเอียด 
6 เจ้าปลูกมาก แต่เก็บเกี่ยวได้น้อย
เจ้ากิน แต่ก็มีอาหารไม่พอกินจนอิ่ม
เจ้าดื่ม แต่ก็ไม่มีพอที่จะหมดความกระหาย  เจ้าสวมเสื้อผ้า แต่ก็ไม่มีพอที่จะทำให้อุ่นได้ เจ้าได้ค่าแรง แต่ก็เอามาใส่ในกระเป๋าที่มีรู”



ฮักกัย 1:1-6  วันที่หนึ่ง เดือนที่หก(สิงหาคม) ปีที่สอง  ขณะที่พวกเขามีทุกอย่างพร้อมเพื่อทำการสร้างพระวิหาร  แต่ก็ทิ้งค้างเอาไว้ให้กลายเป็นเหมือนอาคารร้าง สกปรก มีแต่เศษวัสดุต่าง ๆ ระเกะระกะ

พระเจ้าทรงถามพวกเขา ..
โดยเริ่มจากถามเศรุบบาเบลผู้ว่าราชการ 
(เขาผู้นี้เป็นคนเชื้อสายของกษัตริย์อิสราเอล)
และโยชูวาลูกชายมหาปุโรหิต  เรื่องบ้านส่วนตัวที่คนอิสราเอลกำลังหมกมุ่นสร้างอยู่
 
การมีบ้านกรุไม้ เป็นการสร้างบ้านแบบพิถีพิถัน และใช้เวลามากกว่า พร้อม ๆ กับแก้ตัวกันว่า ยังไม่ถึงเวลาสร้างพระวิหาร พวกเขาคิดว่าจะสร้างแต่ยังไม่ทำในเวลานี้ ขอทำบ้านตัวเองก่อน
 
จากนั้น พระองค์ทรงให้พวกเขาพิจารณาทาง คือการใช้ชีวิต ผลที่ได้ สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ละเอียด..  พระองค์ทรงอธิบายเหตุผลว่า เหตุใดชีวิตของพวกเขาจึงไม่ก้าวหน้าทั้ง ๆ ที่ทำงานหนัก
พระเจ้าทรงให้พวกเขาพิจารณาการใช้ชีวิตของตนให้ละเอียดว่า เหตุใดชีวิตจึงไม่ได้รับพระพร

ทำไมทำงานเยอะ แต่ได้ผลน้อย  ทำไมจึงไม่อยู่ในสภาพที่ดี พวกเขาสนใจแต่ตนเอง ส่วนตัว ไม่สนใจการกลับมาหาพระเจ้า นมัสการพระองค์ ไม่สนใจชุมชนโดยรวม 

พระเจ้าทรงสอนเราด้วยจากเหตุการณ์ในอดีตผ่านมาแล้วกว่า 2500 ปี!

พระเจ้าต้องมาก่อนตนเอง
7พระยาห์เวห์องค์จอมทัพตรัสดังนี้
จงพิจารณาทางของเจ้าให้ละเอียด  
8 จงขึ้นไปบนเนินเขาและตัดไม้ลงมาสร้างพระนิเวศ แล้วเราจะพอใจและเราจะได้รับพระเกียรติ” พระยาห์เวห์ตรัสดังนั้น  
“พวกเจ้าคาดหวังมาก แต่ดูเถิด เจ้าได้กลับคืนมาเพียงน้อยนิด เมื่อเจ้านำสิ่งที่เก็บเกี่ยวกลับมา เราก็ให้ลมพัดมันปลิวไป ทำไมหรือ?” พระยาห์เวห์ทรงประกาศ “เป็นเพราะพระนิเวศของเรายังถูกทิ้งเป็นซากปรักหักพังอยู่ ในขณะที่พวกเจ้ายังวุ่นอยู่กับบ้านของตนเอง
 10  เป็นเพราะพวกเจ้าเอง ท้องฟ้าจึงยับยั้งน้ำค้าง
และพืชผลจากผืนดิน
11 เราได้เรียกให้ความแห้งแล้งขาดแคลนเกิดขึ้นในทุ่งและบนเนินเขา เกิดกับเมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ น้ำมันมะกอก และอะไร ๆ ที่ผืนดินจะผลิตขึ้นมา รวมทั้งมนุษย์และสัตว์ และให้เกิดกับทุกอย่างที่เจ้าลงแรงไป”

ฮักกัย 1:7-11 พระเจ้าเป็นผู้ประทานฝน น้ำค้างให้กับพวกเขาที่จะทำให้พืชผลในไร่เติบโต แล้ว ตอนนี้ แรงที่ลงไปกับแผ่นดินกลับไม่เกิดผลมากอย่างที่คิด ..

พระเจ้าทรงสั่งให้เขาทำงาน เดินทางขึ้นไปบนเขาพร้อมเครื่องมือที่จะตัดไม้ลงมาสร้างพระวิหาร  ทุกคนต้องร่วมมือกันทำงานนี้ ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของไม่กี่คน  และเมื่อเขาทำไปด้วยกัน พระเจ้าทรงปลิ้มปิติที่พวกเขาถวายพระเกียรติไปพร้อม ๆ กัน  และเมื่อพบความสำเร็จ ผู้ที่ได้รับเกียรติสูงสุดคือองค์พระเจ้า .           
พระเจ้าทรงให้เหตุผลว่าเหตุใดพวกเขาจึงไม่เกิดผล เป็นเพราะพวกเขาไม่จัดลำดับความสำคัญของชีวิตให้ถูกต้อง

เขาสนใจตัวเองมากกว่าชีวิตติดสนิทกับพระเจ้า  
ผลผลิตที่สำคัญคือ ข้าว องุ่น น้ำมันมะกอก และพืชพันธ์ต่าง ๆ เป็นของจำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่แล้ว กลับขาดแคลน
แรงงานของพวกเขาเหมือนทิ้งเปล่า ๆ เพราะไม่ได้ผลอย่างที่ลงทุนไป นี่เป็นผลจากพฤติกรรมของเขาเอง  พระเจ้าทรงเป็นผู้บันดาลความแห้งแล้งนั้น
พระเจ้าทรงชี้ให้เห็นชัดว่า ความขาดแคลนในชีวิต การงาน นั้นเกิดจากอะไร

การตอบสนองจากประชาชน

12  ดังนั้น เศรุบบาเบล ลูกชายเชอัลทิเอล โยชูวา ลูกชาย เยโฮซาดักมหาปุโรหิต พร้อมกับประชากรที่ยังเหลือ ก็ได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา และคำกล่าวของฮักกัยผู้เผยพระดำรัส  เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาได้ส่งเขามา และประชากรก็ยำเกรงองค์พระยาห์เวห์
13  ฮักกัยผู้สื่อสารของพระยาห์เวห์ได้นำสารจากพระยาห์เวห์มายังประชากรทั้งหลาย ว่า “เราอยู่กับเจ้า” นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์
14 พระยาห์เวห์ได้ทรงเร่งเร้าใจ เศรุบบาเบล ผู้ว่าราชการของยูดาห์ ลูกชายเชอัลทิเอลและ โยชูวา ลูกชาย เยโฮซาดักมหาปุโรหิต พร้อมกับประชากรที่ยังเหลือ พวกเขาจึงเริ่มสร้างพระนิเวศของพระยาห์เวห์องค์จอมทัพ พระเจ้าของพวกเขา
15 ในวันที่ยี่สิบสี่ เดือนที่หก ปีที่สองในรัชกาลกษัตริย์ดาริอัส




ฮักกัย 1:12-15 ข่าวสาร คำสอนจากพระเจ้านั้นเรียบง่าย ตรงประเด็น
ตอบสนองคำของพระเจ้า  ฟัง เชื่อฟัง ยำเกรง … และแล้วผู้นำทั้งสอง พร้อมกับประชาชนก็ฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า  เราจะเห็นภาพของผู้นำ กับผู้ตามชัดเจนในเรื่องนี้ว่า พวกเขายินยอมพร้อมใจกันทำตามคำของฮักกัย  พวกเขาต่างมีความยำเกรงพระเจ้าเหมือน ๆ กัน  มีความเชื่อ เข้าใจว่าพระเจ้าเป็นผู้ส่งฮักกัยมาเตือน  และคำสำคัญที่นี่คือ ประชาชนยำเกรงพระเจ้า ไม่ดื้อดึงต่อพระองค์ ประชาชนเหล่านี้คือคนที่กลับมาจากบาบิโลน
พระเจ้าทรงสัญญาผ่านฮักกัย ว่า พระองค์จะทรงอยู่ด้วย แม้จะมีแรงต้านจากคนในพื้นที่ หรือ คนที่มีอำนาจ  เมื่อพระเจ้าทรงสั่งให้ทำสิ่งใด พระองค์จะทรงให้เรามีกำลัง ทำตามที่ทรงบัญชา
แล้วพระเจ้าทรงเร่งเร้าใจ.. คริสตจักรทุกแห่งต้องการสิ่งนี้จากพระเจ้า และพระองค์ทรงเริ่มที่ผู้นำของชุมชนชาวอิสราเอล
ประชาชนโดยการนำของผู้ว่า ฯ และโยชูวาทั้งสองได้รับการเร้าใจจากพระเจ้าที่จะนำในการนี้ พวกเขายอมฟังคำเตือนจากฮักกัย  ..​เขาเริ่มสร้างพระวิหาร ในพระคัมภีร์บันทึกว่า พระวิหารของพระยาห์เวห์องค์จอมทัพ พระเจ้าของพวกเขา
หลังจากผ่านมา 23  วัน พวกเขาก็เริ่มทำงาน  


เราชินกับการอยู่กับพระเจ้าไปวัน ๆ หรือเปล่า ? เราได้รับการเร้าใจจากพระเจ้าบ้างไหม?

พระคำเชื่อมโยง

1* เอสรา  4:24; 5:1; 6:14; 2:2; 5:2-3; 1พงศ์กษัตริย์  6:15
3* เอสรา 5:1
4* 2 ซามูเอล 7:2
5* เพลงคร่ำครวญ 3:40
6* เฉลยธรรมบัญญัติ 28:38-40; เศคาริยาห์ 8:10
8* เอสรา 3:7

9* ฮักกัย 2:16-17
10* เฉลยธรรมบัญญัติ 28:23
11* 1 พงศ์กษัตริย์ 17:1; ฮักกัย 2:17
12* เอสรา 5:2
13* มัทธิว 28:20
14* เอสรา 1:1; ฮักกัย 2:21; เอสรา 5:2, 8

บรรณานุกรม
https://enduringword.com/bible-commentary/haggai-1/
https://netbible.org/bible/Haggai+1
Gary M.Berg and Andrew E. Hill, eds , “Commentary on the minor prophets“, Baker Publishing Group, 2012.