ฮาบากุก 2 วิบัติทั้งห้า

2 ฮาบากุกรอคอยการตอบของพระเจ้า
คำถามของฮาบากุก
คำตอบจากพระยาห์เวห์คำบัญชาของพระเจ้าให้เขียน
2 พระยาห์เวห์ทรงตอบข้าพเจ้าว่า
จงเขียนนิมิตนี้ลงไป จารึกลงบนแผ่นศิลาให้เห็นชัดเจน
เพื่อว่าคนที่อ่าน ยังจะอ่านได้ชัดเจน
3 เพราะการเปิดเผยในนิมิตกำลังรอให้ถึงเวลากำหนด เป็นเรื่องของวาระสุดท้าย และพิสูจน์ได้ว่า ไม่ใช่คำเท็จ

แม้จะดูเนิ่นช้า ก็ขอให้รอต่อไป
เพราะมันจะมาถึงแน่และไม่ล่าช้า
ดูเถิด เขากำลังพองตัวขึ้น เขาไม่มีความถูกต้อง
แต่คนเที่ยงธรรมจะมีชีวิตได้โดยความเชื่อ
5 ความจริงคือ เหล้าองุ่นนั้นทรยศเขา บุคคลที่หยิ่งยะโสไม่เคยนิ่งสงบได้ ความอยากของเขานั้นขยายกว้างออกราวกับแดนตาย เขาเป็นเหมือนความตายที่ไม่เคยอิ่ม เขารวบรวมชาติต่าง ๆ มาเป็นของตน และกวาดคนมากมายไปเป็นเชลย

วิบัติทั้งห้าที่คนชั่วร้ายต้องเผชิญ
6 คนทั้งหลายจะไม่ร้องเยาะเย้ยด้วยวาจาเสียดสี กระทบกระเทียบเปรียบเปรยเกี่ยวกับเขาหรือว่า “วิบัติแก่คนที่สะสมกักตุนสิ่งที่ไม่ใช่ของตน และกอบโกยความมั่งคั่งด้วยการขู่เข็ญ.. จะเป็นอย่างนี้อีกนานเท่าไรหรือ?
7 แล้วเจ้าหนี้ของเจ้าจะไม่ลุกฮือขึ้นมาอย่างทันควันหรือ?
เขาจะไม่ตื่นขึ้นมา ทำให้เจ้าต้องตัวสั่นด้วยความกลัวหรือ?
แล้วเวลานั้น เจ้าจะกลายเป็นเหยื่อของเขา
8 เนื่องจากเจ้าได้ปล้นสะดมชาติต่าง ๆ มากมาย
ชาติที่เหลืออยู่จะกลับมาปล้นเจ้า
และเป็นเพราะเจ้าทำให้คนต้องหลั่งเลือด
เกิดความรุนแรงในแผ่นดิน ในเมืองต่าง ๆ
และกับผู้คนที่อาศัยในนั้น

9 วิบัติมีแก่คนที่สร้างบ้านเรือนของตนจากสิ่งที่ได้มาจากการคดโกง เพื่อสร้างรังไว้บนที่สูง เพื่อหลบหนีเงื้อมมือของความหายนะ
10 แผนของเจ้าจะทำให้ครอบครัวเจ้าต้องอัปยศอดสู เพราะเจ้าได้ทำลายชาติต่าง ๆ มากมาย เจ้าจะทำลายตัวเจ้าเอง
11  เพราะก้อนหินบนผนังจะส่งเสียงร้องออกมาจากผนัง และไม้คานก็จะร้องตอบกลับมา
12  วิบัติมีแก่คนที่สร้างเมืองด้วยการนองเลือด และวางรากฐานของเมืองด้วยความอยุติธรรม !
13  พระยาห์เวห์องค์จอมทัพได้กำหนดไว้แล้วไม่ใช่หรือว่า แรงงานของประชาชนนั้นจะกลายเป็นเชื้อไฟ
และงานที่แสนเหน็ดเหนื่อยกลับไร้ประโยชน์?
14  เพราะว่า โลกนี้จะเต็มด้วยความรู้
ถึงพระสิริของพระยาห์เวห์ ดั่งมวลน้ำที่ปกคลุมท้องทะเล

15 วิบัติแก่คนที่ให้เพื่อนบ้านดื่ม โดยเทเหล้าจากถุงหนังให้เขาจนเมา เพียงเพื่อต้องการดูร่างเปลือยของพวกเขา
16  เจ้าเองจะมีความอับอายแทนเกียรติยศ
และเจ้าเองก็ดื่มเช่นกัน และก็เปลือยอย่างคนไม่ได้เข้าสุหนัต ถ้วยจากพระหัตถ์ขวาขององค์พระผู้เป็นเจ้า
กำลังเวียนมาต่อต้านเจ้า
แล้วความอัปยศจะเข้ามาปกคลุมเหนือเกียรติยศของเจ้า
17 เพราะความรุนแรงที่เจ้าทำต่อเลบานอนจะท่วมท้นตัวเจ้า การที่เจ้าทำร้ายสัตว์ต่าง ๆ โดยทำให้มันหวาดกลัว เพราะการที่เจ้าทำให้คนต้องหลั่งเลือด เพราะความรุนแรงต่อแผ่นดิน เมืองต่าง ๆ และคนที่อาศัยในนั้น

18 รูปเคารพมีค่าอะไรในเมื่อมีคนแกะสลักมันขึ้นมา
 หรือรูปบูชาที่สอนความเท็จ
เพราะคนที่ทำมันขึ้นมาวางใจในสิ่งที่ตนสร้างขึ้น
 เขาทำรูปเคารพซึ่งไม่สามารถพูดได้
19 วิบัติแก่คนที่พูดกับสิ่งที่เป็นไม้ว่า ‘จงมีชีวิตขึ้นมา’หรือพูดกับหินซึ่งไม่มีชีวิตว่า ‘จงลุกขึ้นเถิด’
มันให้คำแนะนำได้หรือ มันถูกแปะด้วยทองคำ
และแร่เงินไม่มีลมหายใจ
20 แต่พระผู้เป็นเจ้าสถิตอยู่ในพระวิหารอันบริสุทธิ์ของพระองค์ให้ทั่วทั้งแผ่นดินโลก
นิ่งเงียบ ณ เบื้องพระพักตร์พระองค์”

อธิบายเพิ่มเติม

ฮาบากุก 2:1-5
2:1 เมื่อได้คำตอบจากพระเจ้าครั้งแรก เข้าใจแล้วว่า พระองค์จะใช้บาบิโลนมาสั่งสอนคนของพระองค์ ฮาบากุกก็ขึ้นไปประจำการเป็นยามบนกำแพงเมือง และเฝ้ายามอยู่ นี่คือ ยิ่งมองออกไปไกล ยิ่งหนักใจ เขาไม่อยากให้คำตอบที่ได้มานั้น เกิดขึ้นจริง เวลานี้เขาขึ้นมาบนกำแพงเมืองเพื่อจะฟังคำตอบของพระเจ้า
2:2 คราวก่อน พระเจ้าทรงตอบโดยการให้เขามองออกไปท่ามกลางชาติต่าง ๆ เขาต้องคอยพิจารณาดูว่า แต่ละชาติล้อมรอบนั้นเป็นอย่างไร แต่ครั้งนี้ พระเจ้าทรงสั่งเขียนนิมิตลงไปบนแผ่นหิน ในภาษาเดิมชัดว่าเป็นหลายแผ่น เมื่อเขียนก็เขียนให้ชัด ตัวโต อ่านง่าย ใครเห็นก็อ่านออกทันที แม้จะมองอย่างรวดเร็วก็อ่านได้ ไม่มีใครจะพลาดข่าวที่บอกอนาคตครั้งนี้ พระเจ้าทรงให้เขารักษาคำพยากรณ์นี้ไว้ เพื่อผู้คนจะได้รับรู้กันไปทั่ว 
2:3 พระเจ้าทรงท้าทายเลยว่า คำที่พระองค์ให้เขียนลงไป ไม่เป็นเท็จ จะเกิดขึ้นแน่ตามเวลาที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว
 2:4 เห็นชัดว่า คนเย่อหยิ่งพึ่งตนเอง แต่คนที่ถ่อมตนจะวางใจพระเจ้า คนที่เที่ยงธรรมจะอยู่ต่อพระพักตร์ของพระเจ้า ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อในพระองค์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม สถานการณ์จะดูกู้ไม่ได้ อาจถึงชีวิต แต่เขาก็ยังดำเนินในความเชื่อ อย่างเช่น เพื่อนทั้งสามของดานิเอลที่ถูกทิ้งในกองไฟ หรือดานิเอลเองที่ถูกทิ้งลงในถ้ำสิงโต (ดาเนียล 3, 6)
2:5 ข้อนี้ ฮาบากุกกำลังกล่าวถึง คนที่หยิ่งยะโส นั่นก็หมายถึงบาบิโลนนั่นเอง  พระยาห์เวห์ทรงบอกเลยว่า ที่เขาชั่วช้า ไม่หยุดที่จะทำร้ายคนอื่นนั้นเป็นเพราะเหล้าองุ่นที่พวกเขาดื่มไม่ยั้ง ทำให้ขาดสติ ไม่นิ่งสงบ ความต้องการของเขาเป็นเหมือนแดนตายที่ไม่เคยพอใจ ต้องการให้มีคนตายมากขึ้น ๆ (สุภาษิต 30:15)  พวกเขาพยายามกวาดคนทุกชาติมาเป็นข้ารับใช้ของตนเอง และสร้างความยิ่งใหญ่ของตนด้วยแรงงานของคนเหล่านี้ 

ฮาบากุก 2:6-11
บาบิโลนจะพบกับวิบัติห้าอย่าง … เพราะบาปทั้งห้าเวลาจะประกาศวิบัติ จะมีสองตอนคือ บอกว่าบาปนั้นคืออะไร และโทษคืออะไร
2:6 พระเจ้าทรงอธิบายกับฮาบากุกให้ทราบว่า คนที่ถูกพวกเขาทำร้าย จะไม่อยู่นิ่ง แต่โกรธแค้นและประกาศถึงสิ่งที่บาบิโลนทำ ความผิดแรกคือ การที่บาบิโลนไปปล้น เอาทรัพย์สมบัติจากประเทศต่าง ๆ มา รวมทั้งจากอิสราเอลด้วย แล้วก็เอาไปเก็บไว้ในคลังของตน นี่เป็นบาปแรกที่จะทำให้เกิดวิบัติแก่เขา
2:7 จากที่บาบิโลนเคยไปปล้นคนอื่น แล้ววันหนึ่งเขาจะถูกปล้นเช่นกัน สิ่งที่เขาเคยทำกับยูดาห์ จะกลับมาหาพวกเขา คำว่าเจ้าหนี้ มีความหมายที่รวมไปถึงคำว่า กัด คนที่เคยถูกบาบิโลนทำร้าย ชาติที่เคยถูกเรียกภาษีอย่างหนัก เป็นชาติที่จะกลับมาโจมตีอย่างรวดเร็ว
2:8 การที่เคลเดียหรือบาบิโลนปล้นชาติต่าง ๆ ทำให้เกิดการนองเลือด ความรุนแรง กับประชาชน ยังมีชาติที่เหลือ..จะเข้ามาปล้นบาบิโลน นี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงบอกล่วงหน้า
2:9 ชาวเคลเดียได้สร้างบ้านเรือนด้วยเงิน ด้วยวัสดุต่าง ๆ ที่ยึดคนอื่นเขามา แล้วแถมยังพยายามสร้างบ้านให้สูง เพื่อป้องกันการบุกรุกเอาคืนจากผู้ที่พวกเขาปล้นมา คนเหล่านี้ทำทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งร้าย หายนะกับพวกเขา ไม่ว่าจากสัตว์ร้ายหรือศัตรู
2:10 ความผิดที่สองคือการโกงเอาทรัพย์สินของผู้อื่นมาเป็นทุนสร้างเมืองของตนเอง การที่พวกเขาทำลายคนอื่นมาก่อน สิ่งที่เขาทำเพื่อตัวเองนั้น กลับกลายทำให้ตนเองอัปยศ และทำลายตัวเขาเอง พระเจ้าจะทรงให้บาบิโลนได้รับผิดชอบต่อการที่เขาสังหารคนจำนวนมาก
2:11 สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทุกสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมานั้น เป็นหลักฐานให้เห็นว่า เขาได้กระทำผิดอย่างไรบ้าง เป็นหลักฐานที่เด่นชัด ไม่มีทางปฏิเสธได้
นี่เป็นเหมือนบทกวี

ฮาบากุก 2:12-14
2:12 บาบิโลนยังได้สร้างเมืองของพวกเขาจากการนองเลือดในประเทศต่าง ๆ พวกเขาบังคับแรงงาน จากเชลยศึกให้สร้างเมืองสร้างบ้านเรือนให้กับพวกเขา พวกเขาคิดว่าการทำเช่นนี้จะทำให้พวกเขาเข้มแข็ง แต่ความจริงนั้นตรงข้าม
2:13 แต่พระเจ้าทรงบอกล่วงหน้าว่า ถึงอย่างนั้น แรงงานที่ลงไป ก็จะเหมือนไฟที่ไหม้ทุกอย่างทั้งหมด เป็นแรงงานที่พวกเขาจะไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะในที่สุด มันจะถูกทำลายไปหมด คำถามนี้ต้องการคำตอบว่า ไม่
2:14 แล้วพระเจ้าทรงย้อนกลับมากล่าวถึงพระสิริของพระองค์ที่ในยุคต่อมานั้นผู้คนจะจับต้อง รู้จักพระเจ้าได้ง่าย ความรู้ในพระองค์จะท่วมท้นโลกนี้ เราเองก็สัมผัสเรื่องนี้ในยุคเราที่สามารถเข้าถึงพระวจนะของพระเจ้าได้อย่างง่ายดายไม่เหมือนในอดีต
พระเจ้าทรงให้เห็นความแตกต่างของเทพของบาบิโลนกับพระองค์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ …​ พระเจ้าทรงสัญญาว่า สิ่งนี้จะเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่เราต้องตระหนักรู้ทุก ๆ วัน

ฮาบากุก 2:15-17
2:15 ความผิดที่สี่ซึ่งจะทำให้ได้รับวิบัติคือ การหมกมุ่น ทำร้ายคน ทำทารุณกรรมในเรื่องเพศ พวกเขามอมเมาคนเพื่อให้คนนั้นขาดสติ ทำอะไรก็ได้ที่พวกเขาสั่งตามต้องการ (ร่างเปลือยมีความหมายถึงความอับอาย) ต้องการเปิดเผยคน ๆ นั้น ทำให้พวกเขาเป็นเหยื่อทางเพศ ทำสิ่งวิตถารต่าง ๆ ที่พวกเขาพอใจ และได้หัวเราะเยาะเหยื่อเหล่านั้นอย่างไร้ความปรานี
2:16 ผลที่จะได้รับจากการทำเช่นนั้นคือ เขาจะได้รับความอับอายเช่นกัน จะถูกทำให้เปลือยอย่างคนไม่ได้เข้าสุหนัต (ไม่มีพันธสัญญากับพระเจ้า) ไม่มีการเชื่อมโยงใด ๆ กับพระเจ้า พระเจ้าจะใช้ถ้วยของพระองค์มาจากพระหัตถ์ขวานั้นที่น่าจะเป็นสิ่งดีให้กับเขากลับกลายเป็นความอัปยศ
2:17 เลบานอน อาจมีความหมายในภาษาฮีบรูเพิ่มเติมจากประเทศเลบานอน คือมีความหมายว่า สีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์ ชี้ไปถึงนครเยรูซาเล็ม ซึ่งมีพระวิหารของพระเจ้าอยู่ ข้อนี้มีความเชื่อมโยงกับข้อ 11 ด้วย การทำร้ายสัตว์ต่าง ๆ นี้คือ สัตว์ที่เขาเตรียมไว้ถวายพระเจ้า ชาวบาบิโลนก็เอาไปฆ่าสังเวยเทพของพวกเขา พวกเขาทำให้ชาวเยรูซาเล็มต้องตายไปมากมาย ดังนั้น พระเจ้าจะทรงเอาคืน ..เราอาจถามว่า พระเจ้าทรงส่งเขามาไม่ใช่หรือ คำตอบคือใช่ แต่บาบิโลนได้ทำเกินไปกว่าที่ควรจะทำ พวกเขาจึงต้องถูกพิพากษา

ฮาบากุก 2:18-20
2:18 แล้วพระเจ้าทรงบอกถึงความผิดชุดสุดท้ายนั่นคือ การสร้าง และกราบไหว้รูปเคารพ คนได้สร้างรูปปั้นขึ้นมากจากวัสดุต่าง ๆ ตั้งแต่ไม้ จนไปถึงทอง แล้วจากนั้นเขาก็ยกให้มันอยู่เหนือตัวของเขา ให้มันกลายเป็นสิ่งที่จะปกป้องเขาให้พ้นจากสิ่งร้าย
2:19 ความผิดสุดท้าย เป็นความผิดต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยตรง
พระเจ้าทรงประกาศวิบัติแก่คนที่สั่งให้รูปปั้นเหล่านั้นมีชีวิต ลุกขึ้นมา แต่ความจริงคือ สิ่งเหล่านั้นไม่อาจพูดได้ .. พวกเขาทำให้ไม้ หินเหล่านี้กลายเป็นเทพเพียงเพื่อพวกเขาจะกราบไหว้ แล้วพระเจ้าทรงเปรียบเทียบให้เห็นว่า พระองค์คือพระเจ้าเที่ยงแท้…. ผู้ประทับในพระวิหาร และมนุษย์จะต้องนิ่ง และทบทวนว่า พระองค์ทรงสั่งอะไร ทรงทำสิ่งใดเพื่อมนุษย์ ….
2:20 โลก ต้องนิ่งสงบต่อองค์พระเจ้า ต่อพระพักตร์ของพระองค์ ตอนนี้โลกไม่เคยสงบ ทุกคนต่างใช้วาจาปะทะตอบโต้ รองลงมาจากการทำสงครามโดยใช้อาวุธจริง แต่การสั่งให้นิ่งนั้นไม่ได้มีแค่ที่นี่ ในสดุดี 46:10 บอกว่า จงนิ่งสงบและรู้ว่า เราคือพระเจ้า เราจะได้รับการยกย่องท่ามกลางประชาชาติ เราจะได้รับการยกย่องในโลกพระเจ้าไม่ได้ทรงให้อิสราเอลเท่านั้นที่จะเข้ามานมัสการพระองค์ แต่คนทั้งโลกด้วย
การไหว้รูปเคารพ คือสั่งให้รูปเคารพเป็นอย่างที่เราต้องการ แต่การนมัสการพระเจ้าคือ เราจำนนต่อพระองค์ และการสำแดงของพระองค์ทุกประการ
เราต้องการฟังจากพระเจ้าเพื่อเราจะเชื่อและเชื่อฟังคำของพระองค์ไหม?​

พระคำเชื่อมโยง

1* อิสยาห์ 21:8, 11
2* อิสยาห์ 8:1
3* ดาเนียล 8:17, 19; เอเสเคียล 12:24-25;
ฮีบรู 10:37-38; 2 เปโตร 3:9
4* ยอห์น 3:36; โรม 1:17
5* อิสยาห์ 5:11-15
6* มีคาห์ 2:4
8* อิสยาห์ 33:1
9* โอบาดีย์ 4
10* นาฮูม 1:14

11* ลูกา 19:40
12* มีคาห์ 3:10
13* เยเรมีย์ 51:58
14* อิสยาห์ 11:915* โฮเชยา 7:5
16* อิสยาห์ 47:3; นาฮูม 3:5-6
17* เศคาริยาห์ 11:1; ฮาบากุก 2:8
18* เยเรมีย์ 10:8; 1โครินธ์ 12:2
19* สดุดี 135:17
20* เศฟันยาห์ 1:7