ฟีเลโมน 3:1-2
จากเปาโล นักโทษเพื่อพระเยซูคริสต์และจากทิโมธี น้องชายของข้า. ถึงฟีเลโมน เพื่อนที่รักและเพื่อนร่วมงานของเรา
ถึงอัปเฟีย น้องสาวของเรา ถึงอาร์คิปปัส เพื่อนทหารรับใช้ด้วยกันกับเรา และถึงคริสตจักรที่ประชุมกันในบ้านของท่าน
ฟีเลโมน 3:3-4
ขอพระคุณและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเรา และพระเยซูคริสต์เจ้าของเราอยู่กับท่านข้าขอบพระคุณพระเจ้าของข้าเสมอ
เมื่อข้าอธิษฐานเพื่อท่าน
ฟีเลโมน 1:5-6
เพราะข้าได้ยินเรื่องความรักของท่านที่มีต่อวิสุทธิชนของพระเจ้า และความเชื่อที่ท่านมีในองค์พระเยซูเจ้า ข้าอธิษฐานว่า
ความเชื่อที่ท่านแบ่งปันกับคนอื่น ๆ นั้นจะส่งผลทำให้ท่านได้เข้าใจลึกซึ้งถึงสิ่งดีต่าง ๆ ที่เรามีในพระคริสต์
ฟีเลโมน 1:7-8
ข้าเองยินดีมาก และรู้สึกสบายใจยิ่งนัก
เพราะความรักที่ท่านมีต่อวิสุทธิชนของพระเจ้า ได้ทำให้พวกเขาได้สดชื่นดังนั้น ในพระคริสต์ ข้าจึงกล้าและสั่ง
ให้ท่านทำสิ่งที่ถูกต้องอย่างที่สมควร
ฟีเลโมน 1:9-10
แต่เป็นเพราะข้ารักท่าน ข้าจึงขอร้องท่านดีกว่า ในฐานะที่ข้าเปาโล ชราแล้วและยังเป็นนักโทษอยู่ในโรมเพราะรับใช้
พระเยซูคริสต์ ข้าขอร้องท่านในเรื่องลูกชายของข้าคือ
โอเนสิมัสที่มาเป็นลูกชายของข้า ขณะที่ข้าถูกจำจองอยู่
ฟีเลโมน 1:11-13
เมื่อก่อนเขาไร้ประโยชน์สำหรับท่าน แต่บัดนี้ เขามีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับท่านและข้า ข้าส่งเขากลับมาหาท่าน ซึ่ง
เท่ากับส่งหัวใจของข้าเองมา ข้าอยากให้เขาอยู่กับข้าเพื่อจะทำหน้าที่ช่วยข้าแทนท่านขณะที่ข้าถูกจำคุกเพื่อข่าวประเสริฐ
ฟีเลโมน 1:14
แต่ข้าไม่ต้องการทำสิ่งใดโดยไม่ถามความเห็นของท่านก่อน เพื่อว่าสิ่งดี ๆที่ท่านได้ทำให้นั้นจะไม่เป็นการบังคับให้ทำแต่เป็นความตั้งใจของท่านเอง
ฟีเลโมน 1:15-16
การที่โอเนสิมัสต้องห่างท่านไปสักพัก ก็เพื่อท่านจะได้เขากลับคืนไปหาท่านตลอดไป โดยไม่เป็นทาสอีกแต่ดียิ่งกว่าเป็นทาส คือกลายเป็นน้องที่รัก ข้ารักเขามากและท่านจะรักเขามากกว่านั้นอีก ทั้งในฐานะเพื่อนมนุษย์ และในฐานะพี่น้องในองค์
พระผู้เป็นเจ้า
ฟีเลโมน 1:17-18
ดังนั้น หากท่านเห็นว่าข้าเป็นผู้ร่วมงานของท่าน ก็ขอโปรดรับโอเนสิมัสเหมือนอย่างที่ท่านต้อนรับข้า
หากเขาได้ทำสิ่งใดผิดต่อท่านหรือหาก
เขาติดค้างสิ่งใดกับท่าน ก็ขอให้ท่าน
คิดเอาคืนจากข้าเถิด
ฟีเลโมน 1:19-20
ข้าเปาโลเขียนจดหมายนี้ด้วยมือของข้าเองข้าจะใช้คืนทุกอย่างโดย ไม่กล่าวถึงชีวิตที่ท่านยังติดค้างข้าอยู่ ดังนั้นน้องชายเอ๋ยข้าขอให้ท่านทำสิ่งนี้เพื่อข้าจะได้ประโยชน์ขอทำให้ข้าได้สดชื่นขึ้นใหม่ในพระคริสต์
ฟีเลโมน 1:21-22
ข้ามั่นใจว่า ท่านจะเชื่อฟัง ข้าจึงเขียนจดหมายถึงท่าน ข้ารู้ว่าท่านจะทำให้มากกว่าที่ข้าขอร้อง อีกสิ่งหนึ่งคือ ขอให้ท่านเตรียมห้องพักสำหรับข้าด้วย เพราะข้าเชื่อว่า พระเจ้าจะทรงตอบคำอธิษฐานของท่าน นั่นคือข้าจะกลับมาหาท่านได้
ฟีเลโมน 1:23-25
เอปาฟรัส เพื่อนร่วมจำจองกับข้าเพื่อองค์พระเยซูคริสต์ ฝากความคิดถึงท่านมาระโก อาริสทาร์คัส เดมาส และลูกาซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของข้าก็ฝากความคิดถึงมายังท่านด้วย ขอพระคุณขององค์พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่
กับจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายเถิด
อธิบายเพิ่มเติม
ฟีเลโมน 3:1-2
ฟีเลโมนเป็นจดหมายสั้นๆจากท่านเปาโลและ ทิโมธีถึงพี่น้องหลายๆคนเป็นจดหมายที่ต้อง เดินทางไกลด้วยบุรุษไปรษณีย์โบราณที่เดินทาง ลุยข้ามน้ำข้ามทะเลทรายลงเรือเพื่อจัดส่งจดหมาย ให้ถึงที่หมายเราขอบคุณพระเจ้าที่ทรงบันดาลใจให้ ผู้นำคริสเตียนในสมัยสองพันปีก่อนได้เขียนเพื่อ หนุนใจและอธิบายความจริงเรื่องของพระเจ้าที่ ทำให้พี่น้องเติบโตฝ่ายวิญญาณ
ฟีเลโมน 3:3-4
นอกเหนือไปจากการเขียนจดหมายเพื่อสั่งสอนตักเตือนแล้ว ท่านเปาโลยังอธิษฐานเผื่อฟีเลโมนและคนใกล้ชิดของเขาเป็นประจำด้วย นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้รับใช้ของพระเจ้าเป็นคนที่เกิดผล เพราะเขาทำงานไปกับพระเจ้า ขอพระองค์ทรงเป็นผู้เปลี่ยนแปลงชีวิตพี่น้องเหล่านี้ เราจะเห็นว่าท่านเปาโลบอกเสมอว่า ท่านอธิษฐานเผื่อคนที่ท่านเขียนจดหมายถึง ฟิลิปปี 1:3, โรม 1:8
ฟีเลโมน 1:5-6
ท่านเปาโลและฟีเลโมนต่างก็มีความเชื่อในพระเจ้าอย่างเดียวกัน และยังรับใช้พระเจ้าร่วมกันด้วยทั้งสองมีความรักและปรนนิบัติพี่น้องด้วยหัวใจแบบเดียวกัน ท่านเปาโลเห็นแล้วว่า ฟีเลโมนเดินในเส้นทางเดียวกับท่าน ท่านจึงอธิษฐานขอพระเจ้าให้ฟีเลโมนจะได้เข้าใจในสิ่งที่ท่านกำลังจะขอร้องให้เขาทำเพื่อเห็นแก่พระเจ้าอีกอย่างหนึ่งนั่นคือการขอให้ยกโทษให้แก่โอเนสิมัสซึ่งได้หนีไปก่อนหน้านี้
ฟีเลโมน 1:7-8
คำขอของท่านเปาโลตอนนี้ เกิดจากการที่ท่านมั่นใจในตัวของฟีเลโมนเป็นอย่างยิ่ง การที่เขารักพี่น้อง และแสดงออกมาให้เห็น ท่านเปาโลจึงกล้าที่จะขอร้องด้วยความรัก ไม่ใช่เป็นคำสั่งเหมือนอย่างหลายครั้งที่ท่านสั่งคริสตจักรอย่างเข้มงวดในเรื่องต่าง ๆ ตัวฟีเลโมนก็เป็นตัวอย่างของเราด้วยว่า จะให้ใครสักคนไว้ใจนั้น ต้องมาจากหัวใจจริง รักและเป็นห่วงจริง ไม่ใช่ทำเพราะหน้าที่หรืออยากให้คนอื่นยกย่องชมเชย
ฟีเลโมน 1:9-10
ตอนที่ท่านเปาโลเขียนถึงฟีเลโมนนี้ ท่านน่าจะอายุประมาณหกสิบปี แต่การที่ท่านต้องพบเจอกับอุปสรรคต่าง ๆ มากมายในชีวิต ต้องต่อสู้เพื่อความเชื่อ และยังต่อสู้เพื่อพี่น้อง เข้าคุกมาก็ตั้งหลายครั้ง ชีวิตของท่านในหนังสือกิจการจะทำให้เราได้เห็นว่า ท่านต้องพบเจออะไรบ้าง นี่อาจเป็นเหตุที่ทำให้ท่านรู้สึกว่า เหนื่อยอ่อน เป็นคนชราก็เป็นได้ ชีวิตสมัยก่อนนั้นยากกว่าสมัยนี้ ท่านใช้คำว่าขอร้อง …เพื่อโอเนสิมัส
ฟีเลโมน 1:11-13
โอเนสิมัสได้ทำผิดกฎหมายของโรม และยังมีปัญหาขโมยเงินของฟีเลโมนด้วย (ดูจากข้อ 18)เขาหนีไปโรม เพื่อว่าจะได้่หลบหนีง่าย ง่ายกว่าที่อยู่ในเมืองเล็ก แต่แล้วเขากลับมาพบท่านเปาโลและเมื่อได้ยินข่าวประเสริฐก็ได้กลับใจใหม่ และกลายเป็นคนที่คอยดูแลท่านเปาโลในขณะที่ท่านถูกจำจอง ท่านได้ส่งโอเนสิมัสพร้อมกับจดหมายไปกับทีคิกัส เพราะหากทาสเดินทางคนเดียวอาจถูกคนที่ชอบค้าทาสจับตัวไปได้ (โคโลสี 4:7-9)
ฟีเลโมน 1:14
คำพูดของท่านเปาโลจนถึงตอนนี้ ฟีเลโมนอ่านแล้วน่าจะเริ่มเห็นเงาราง ๆ ว่าท่านเปาโลต้องการอะไรกันแน่ ในขณะที่ท่านไม่ได้บังคับ แต่ก็เหมือนบังคับอย่างอ่อนโยน เพราะท่านแสดงความไว้ใจในตัวฟีเลโมนเป็นอย่างมาก ที่จริงแล้ว การที่ทั้งสองต่างเชื่อพระเจ้าองค์เดียวกัน เท่ากับมีมาตรฐานการตัดสินแบบเดียวกันอยู่แล้ว คืออยู่บนพื้นฐานแห่งความรักของพระเจ้า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรตามมา
ฟีเลโมน 1:15-16
คำขอของท่านเปาโลนั้น เป็นเรื่องยากที่คนทั่วไปจะทำให้ได้ โอเนสิมัสเคยร้ายต่อฟีเลโมน การที่ทาสทำอย่างที่เขาทำ ไม่น่าจะได้รับการให้อภัยสมควรที่จะโดนจำจองเสียด้วยซ้ำ แต่ท่านเปาโลกลับมองเห็นอีกแบบ ไม่ให้กลับมาให้ฐานะทาสแต่เป็นในฐานะน้องชาย เป็นลูกของพระบิดาเดียวกัน ฟีเลโมนจะทำให้ได้ไหม ขึ้นอยู่กับว่าตัวเขา ซาบซึ้งในพระคุณของพระเจ้าต่อตัวเองขนาดไหน
ฟีเลโมน 1:17-18
เป็นคำขออย่างอ่อนโยน สุภาพ น่าฟัง ขอแบบนี้ขัดไม่ได้เลย ท่านเปาโลเอาตัวมาเป็นประกันว่าโอเนสิมัสจะเป็นคนที่ดี คนที่ใช้ได้ เป็นคนที่ฟีเลโมนไม่ต้องกังวลว่าจะทำสิ่งร้ายเหมือนเดิมอีก การที่ท่านเปาโลรับประกันขนาดนี้ เท่ากับว่าท่านเห็นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของทาสเก่าคนนี้จริง ๆ ท่านรักเขา พระเจ้าทรงอยู่ในตัวเขาจริงหากใครได้รับการยืนยันแบบนี้ น่าจะเป็นเกียรติของชีวิตมากเลย
ฟีเลโมน 1:19-20
ขอบคุณพระเจ้า ท่านเปาโลยังไม่ลืมที่จะบอกฟีเลโมนด้วยว่าเขา ก็ติดค้างท่านเหมือนกันสรุปแล้วว่าเมื่อเราอยู่ใน พระคริสต์จริงๆเราต้องฟังกันและกันเพื่อว่า สิ่งที่ร่วมมือทำด้วยกันนั้นจะสร้างเสริมชีวิตของ สองฝ่ายและคนอื่นที่อยู่รอบข้างหากฟีเลโมนได้ทำตามคำขอของท่านเปาโลแล้วก็ล้วนแต่จะมีความชื่นชมเกิดขึ้นในทุกฝ่ายหากฟีเลโมนยังมี ปัญหาติดค้างในใจท่านเองเป็นคนที่จะต้องจัดการใจของตนเองให้ทำอย่างถูกต้องกับพระเจ้า
ฟีเลโมน 1:21-22
ท่านเปาโลมั่นใจอย่างยิ่งว่า ฟีเลโมนจะฟังคำขอของท่าน นั่นคือ ปล่อยโอเนสิมัสให้เป็นไท ไม่เป็นทาสอีกต่อไป ให้รับเป็นน้องในพระคริสต์ และทำตาม
อย่างเต็มใจ ไม่มีความเคืองใจหลงเหลืออยู่เลยซึ่งจะทำให้โอเนสิมัสกลายเป็นคนหนึ่งที่จะรับใช้พระเจ้าต่อไปกับฟีเลโมน อย่างน้อย ทาสคนนี้ก็ได้ฝึกฝนที่จะรับใช้จากท่านเปาโลตอนที่ท่านอยู่ในคุกแล้ว เขาน่าจะเป็นคนหนึ่งที่มุ่งมั่นทำในสิ่งที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้ให้เขา (เอเฟซัส 2:10)
ฟีเลโมน 1:23-25
ท่านเปาโลมีเพื่อนร่วมงานรับใช้พระเจ้าหลายคนและท่านก็มักเอ่ยชื่อของพวกเขาในจดหมายที่ท่านเขียนไปตามที่ต่าง ๆ เอปาฟรัสถูกจำจองเพราะความเชื่อของเขา และเขาก็เป็นชาวโคโลสีด้วย (โคโลสี 1:7; 4:12) มาระโกเป็นญาติของบารนาบัส เดมาสเคยทำงานด้วยกัน แต่ก็จากกันไป(โคโลสี4:14; 2 ทิโมธี 4:10) ลูกาเขียนลูกาและกิจการ ส่วนอาริสทารคัส ได้เดินทางไปกับท่าน(กิจการ 19:29; 20:4; โคโลสี 4:10)
พระคำเชื่อมโยง
1* เอเฟซัส 3:1
2* โคโลสี 4:17
4* 2 เธสะโลนิกา 1:3
5* โคโลสี 1:4
6* ฟีลิปปี 1:9; 1 เธสะโลนิกา 5:18
10* โคโลสี 4:9
14* 2 โครินธ์ 9:7
16* โคโลสี 3:22
19* 1โครินธ์. 16:21
21* 2 โครินธ์ 7:16
22* ฟีลิปปี 1:25; 2:24; 2 โครินธ์ 1:11
23* โคโลสี 1:7; 4:12
24* กิจการ 12:12,25; 15:37-39; 19:29; 27:2; โคโลสี 4:14 ; 2 ทิโมธี 4:11
25* 2 ทิโมธี 4:22