จากบทนี้ไป ผู้เขียนจะพูดคำเตือนใจเป็นประโยคสั้น ๆ แม้เป็นทุกวันนี้ก็ยังเป็นเทรนด์ ไม่ได้ล้าหลังมนุษย์เลย ส่วนใหญ่เป็นคำเปรียบเทียบระหว่างชีวิตของคนเที่ยงธรรมและคนอธรรม
1 ลูกที่มีปัญญานำความชื่นชมมาให้พ่อ
แต่ลูกที่โง่เขลานำความทุกข์ใจมาให้แม่
2 ทรัพย์สินที่ได้มาจากความชั่วร้ายนั้นไม่มีคุณค่า
แต่ความเที่ยงธรรมช่วยกู้จากความตาย
3 พระยาห์เวห์จะไม่ทรงปล่อยให้คนเที่ยงธรรมหิวโหย
แต่พระองค์ทรงปฏิเสธความอยากได้ของคนชั่วร้าย
4 มือที่อยู่เฉย ทำให้ยากจน
แต่มือที่ขยันขันแข็งทำให้มั่งคั่ง
5 ลูกที่มองการณ์ไกลเก็บสะสมพืชผลไว้ในฤดูร้อน
แต่คนที่นอนหลับระหว่างการเก็บเกี่ยวทำให้ขายหน้า
6 พระพรนั้นอยู่เหนือหัวของคนเที่ยงธรรม
แต่ปากของคนชั่วปกปิดแผนความรุนแรง
.
7 การที่เรา อระลึกถึงคนเที่ยงธรรมนั้นเป็นพระพร
แต่ชื่อของคนชั่วร้ายจะเสื่อมไป
8 ใจที่มีปัญญาจะรับคำบัญชา
แต่ปากของคนโง่จะถูกทำลาย
9 คนที่เดินในความเที่ยงตรงจะใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย
แต่คนที่เดินในทางคดจะถูกเปิดโปง
10 คนที่ขยิบตาให้สัญญาณเป็นคนสร้างความทุกข์ใจ
และปากของคนโง่จะถูกทำลาย
11 ปากของคนเที่ยงธรรมเป็นน้ำพุแห่งชีวิต
แต่ปากของคนชั่วร้ายปกปิดความรุนแรง
12 ความเกลียดชังก่อกวนให้เกิดความแตกแยก
แต่ความรักจะปกปิดความผิดทั้งปวง
13 จะพบปัญญาได้ในริมฝีปากของคนที่มีวิจารณญาณ
แต่ไม้เรียวมีไว้สำหรับหลังของคนที่ขาดสามัญสำนึก
14คนมีปัญญาสะสมความรู้
แต่ปากของคนโง่เชิญชวนหายนะ
15 ความมั่งคั่งของคนร่ำรวยเป็นดั่งเมืองป้อมของเขา
แต่ความยากจนเป็นหายนะของคนยากไร้
16 แรงงานของคนเที่ยงธรรมนำสู่ชีวิต
กิจกรรมของคนชั่วร้ายนำไปสู่ความบาป
17คนใดที่ใส่ใจคำสั่งสอนก็อยู่บนทางแห่งชีวิต
แต่คนที่ไม่รับฟังคำเตือนจะหลงทางไป
18คนที่ปกปิดความเกลียดชังเป็นคนลิ้นมุสา
และใครที่แพร่การใส่ร้ายเป็นคนโง่เขลา
19เมื่อมีการพูดพล่ามมาก เท่ากับเป็นการเชื้อเชิญบาป
แต่คนที่ระวังยั้งปากของตนนั้นเป็นคนมีปัญญา
20ลิ้นของคนเที่ยงธรรมเป็นเหมือนแร่เงินเนื้อดี
แต่ใจของคนชั่วร้ายไม่มีค่าอันใด
21ริมฝีปากของคนเที่ยงธรรมเลี้ยงชีวิตคนมากมาย
แต่คนโง่ตายเพราะขาดสามัญสำนึก
22 พระพรจากพระยาห์เวห์ทำให้มั่งคั่งขึ้น
และพระองค์ไม่ได้เพิ่มความทุกข์ใจให้
23คนโง่เพลินใจกับการกระทำที่น่าอับอาย
ส่วนปัญญาเป็นความยินดีของคนที่มีความเข้าใจ
24 สิ่งที่คนชั่วร้ายหวาดกลัวจะเข้ามาถึงเขา
แต่คนเที่ยงธรรมจะได้รับตามความปรารถนา
25 เมื่อพายุที่กระหน่ำมาผ่านพ้นไป
คนชั่วร้ายก็ไม่อยู่แล้ว แต่คนเที่ยงธรรมจะมั่นคงเป็นนิตย์
26 น้ำส้มทำให้เข็ดฟัน และควันทำให้ตาเคืองอย่างไร
คนที่เกียจคร้านก็เป็นเช่นนั้นกับผู้ที่ส่งเขาไปทำงาน
27 ความยำเกรงพระเจ้าทำให้ชีวิตยืนยาว
แต่วันของคนชั่วจะสั้นลง
28 ความหวังของคนเที่ยงธรรมคือความยินดี
แต่ความคาดหมายของคนชั่วนั้นไม่เหลืออะไรเลย
29 ทางของพระยาห์เวห์เป็นป้อมปราการสำหรับคนเที่ยงตรง
แต่ความหายนะรอคนที่ทำสิ่งชั่วร้ายอยู่
30คนเที่ยงธรรมจะไม่หวั่นไหวเลย
แต่คนชั่วร้ายจะไม่มีที่อาศัยในแผ่นดิน
31 ปากของคนเที่ยงธรรมนำปัญญามาให้
แต่ลิ้นที่บิดเบือนจะถูกเฉือนออกไป
32 ริมฝีปากของคนเที่ยงธรรมรู้จักกาละเทศะ
แต่ปากของคนชั่วนั้นมีแต่การบิดเบือน
พระคำเชื่อมโยง
1* สุภาษิต 1:1; 25:1; 15:20; 17:21, 25; 19:13; 29:3, 15
2* ลูกา 12:19-20; ดาเนียล 4:27
3* สดุดี 34:9-10; 37:254* สุภาษิต 19:15; 12:24; 13:4; 21:5
5* สุภาษิต 6:8; 19:26
7* ปัญญาจารย์ 8:10
8* สุภาษิต 10:10
9* สดุดี 23:4
12* 1โครินธ์ 13:4-7
13* สุภาษิต 26:3
14* สุภาษิต 18:715* โยบ 31:24
16* สุภาษิต 6:23
18* สุภาษิต 26:24; สดุดี 15:3; 101:5
19* ปัญญาจารย์ 5:3; ยากอบ 1:19; 3:2
22* ปฐมกาล 24:35; 26:12
23* สุภาษิต 2:14; 15:21
24* โยบ 15:21; สดุดี 145:19
25* สดุดี 37:9-10; 15:5
27* สุภาษิต 9:11; โยบ15:32
28* โยบ 8:1329* สดุดี 1:6
30* สดุดี 37:2231* สดุดี 37:30