►
หนทางแห่งปัญญา (สุภาษิต 1:1–7)
1สติปัญญาได้สร้างบ้านของเธอ
โดยมีเสาหลักทั้งสิ้นเจ็ดต้น
2 เธอได้เตรียมเนื้อและผสมเหล้าองุ่นของเธอ
เธอจัดเตรียมโต๊ะอาหารไว้
3 แล้วก็ส่งสาวใช้ออกไป
เธอร้องเรียกจากยอดสูงสุดของเมือง
4“ให้คนที่อ่อนต่อโลกมาที่นี่เถิด!”
เธอกล่าวกับคนที่ขาดสามัญสำนึกว่า
5“มาเถอะ มากินอาหาร และดื่มเหล้าองุ่นที่เราผสมไว้
6 จงละจากความเขลาของเจ้า และเจ้าจะมีชีวิต
จงเดินในทางแห่งความเข้าใจ”
7 คนที่พยายามตักเตือนคนช่างเยาะเย้ยก็นำความอายมาสู่ตนเอง
คนที่เตือนสติคนชั่วร้ายก็กลับหาเรื่องให้ตัวเอง
8ดังนั้น อย่าตักเตือนคนช่างเยาะเย้ย เพราะเขาจะเกลียดเจ้า
จงเตือนสติคนมีปัญญา และเขาจะรักเจ้า
9 จงแนะนำคนมีปัญญา และเขาจะยิ่งมีปัญญามากขึ้น
จงสอนคนเที่ยงธรรม และเขาจะยิ่งเพิ่มการเรียนรู้
10 ความยำเกรงพระยาห์เวห์ เป็นที่เริ่มต้นของปัญญา
และการรู้จักองค์บริสุทธิ์ คือความเข้าใจ
11 เพราะว่าวันของเจ้าจะทวีขึ้น
และจะเติมจำนวนปีเข้ามาในชีวิตของเจ้า
12 หากเจ้ามีปัญญา
เจ้าก็มีปัญญาเพื่อประโยชน์ของตัวเจ้าเอง
แต่หากเจ้าไปเยาะเย้ยปัญญา
เจ้าเองจะได้รับความทุกข์ยาก
หนทางของคนโง่
13 หญิงที่ชื่อว่า โง่เง่า เป็นคนเสียงดัง
ทื่อทึ่มและไม่รู้อะไรเลย
14 มักจะนั่งอยู่หน้าประตูบ้าน นั่งในที่สูงของเมือง
15 ร้องเรียกคนที่ผ่านไปมา
คนที่กำลังเดินไปตามทางของตน
16“ใครที่โง่ ก็หันมาทางนี้”
นางกล่าวกับคนที่ขาดสามัญสำนึก
17“น้ำดื่มที่ขโมยมานั้นหวานนัก
และอาหารที่ต้องแอบกินก็อร่อยจริงๆ”
18 แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า ความตายอยู่ตรงนั้น
และคนที่เป็นแขกของนางต่างอยู่ในที่ลึกแห่งแดนตาย
อธิบายเพิ่มเติม
สุภาษิต 9:1-6
จำได้ไหมในบทที่ 7 เราเจอหญิงที่โง่ชวนชายหนุ่มไปทำสิ่งที่ทำลายชีวิตของเขา แต่ในบทนี้ เราพบว่า มีหญิงที่ฉลาด บ้านของเธอใหญ่ และมีที่ทางมากเพื่อให้ทุกคนอยากมาอยู่ที่บ้านนี้ อยู่ได้อย่างสบาย
เราเรียกเธอว่า คุณหญิงแล้วกัน คุณหญิงคนนี้ เป็นคนร่ำรวย และพร้อมที่จะรับแขกเสียด้วย การที่เธอเตรียมเนื้อและเหล้าองุ่นบ่งชัดว่า เธอเป็นคนมีนำ้ใจต้อนรับแขก การผสมเหล้าองุ่นนี้ คือการที่ผสมเหล้ากับน้ำ อาจมีเครื่องเทศใส่เข้าไปด้วย เมื่อเธอเตรียมโต๊ะพร้อม ก็ให้สาวใช้ออกไปเชิญคนเข้ามา เป็นฉากที่เหมือนกับใน 8:1-4
เหมือนกับที่พระเจ้าทรงเตรียมงานเลี้ยงไว้ และเชิญคนทั้งหลายให้มาหาพระองค์ แต่มนุษย์ต่างก็ปฏิเสธ (มัทธิว 22:1-10) พระเจ้าทรงเรียกคนที่อ่อนต่อโลก คนที่ไม่เข้าใจความจริง คนบาป แต่ไม่ได้หมายความว่า คนที่เรียนจบสูง ๆ เป็นคนฉลาดกว่า เราพบว่า คนที่จบสูง รวยมาก ไม่ได้มีหลักประกันว่า พวกเขาเข้าใจความจริงของชีวิต
เพราะพวกเขาก็อาจเป็นคนที่ถูกหญิงโง่หลอกเอาได้เหมือนกัน (ข้อ 13-18)
สุภาษิต 9:7-9
บอกเราว่าจะตอบโต้กับคนโง่ และคนฉลาดอย่างไร ข้อความตอนนี้ ง่าย และจริงสำหรับเรา เราจึงไม่ต้องแปลกใจเมื่อเตือนคนโง่เรากลับได้รับการตอกกลับอย่างน่าเกลียด
เราจึงควรอยู่ใกล้กับคนที่ฉลาด และต่างเตือนสติกันดีกว่า เพราะต่างจะช่วยชีวิตของกันและกันให้ดีขึ้น
สุภาษิต 9:10-12
ปัญญาและความเข้าใจที่จะทำให้เราเดินไปได้อย่างดีในชีวิตการงาน ในครอบครัว ในความสัมพันธ์กับผู้อื่นนั้น
เกิดจากการที่เรารู้จักพระเจ้า ยิ่งรู้จักพระองค์ ยิ่งมีปัญญา รู้แบบนี้ ไม่ได้แล้ว ต้องรีบค้นหา ติดตามเพื่อที่จะรู้จักพระเจ้า เริ่มต้นดีที่สุดนั้น อยู่ที่ชีวิตส่วนตัวใกล้ชิดกับพระองค์ ฟังเสียงของพระองค์จากการอ่านพระคัมภีร์ เรียนรู้จากองค์พระวิญญาณก่อนเสมอ แล้วค่อยเจอกับอาจารย์ที่ไว้ใจได้
สุภาษิต 9:13-18
หญิงโง่กับคุณหญิงที่มีปัญญานี้มีเป้าหมายต่างกัน คนหนึ่งพาสู่ความตาย แต่อีกคนพยายามที่จะนำสู่ชีวิตที่ดี เราจะเห็นว่า คนในโลก มักเลือกทางแห่งความตาย พวกเขาชอบความสนุกสนานที่ตื่นเต้น ดำมืด เพราะมันทำให้ไม่ต้องคิดรับผิดชอบตัวเองหรือผู้อื่น ยินดีโดนเขาหลอก ชีวิตพังก็โทษคนอื่น
เราจะเห็นแบบแผนของบทนี้ชัดเจน คุณหญิงที่มีปัญญาเชิญไปงานเลี้ยง การตอบสนองต่อปัญญาอย่างโง่เขลา
การยำเกรงพระเจ้าให้ปัญญา และจบด้วยหญิงโง่ชวนไปตาย
พระคำเชื่อมโยง
1* มัทธิว 16:18
2* มัทธิว 22:4; สุภาษิต 23:30
4* สดุดี 19:7
5* อิสยาห์ 55:1
8* มัทธิว 7:6; สดุดี 141:5
9* มัทธิว 13:12
10* โยบ 28:28
11* สุภาษิต 3:2, 16
12* โยบ 35:6, 7
13* สุภาษิต 7:11
14* สุภาษิต 9:3
16* สุภาษิต 7:7-8
17* สุภาษิต 20:17
18* สุภาษิต 2:18; 7:27