ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิด
ทบทวนความดีของพระเจ้าต่ออิสราเอล
1 โอพระเจ้าข้า
คำสรรเสริญนั้นเหมาะสมยิ่งสำหรับพระองค์
ในศิโยน พวกเราจะทำตามที่ได้ปฏิญาณไว้ต่อพระองค์
2 เพราะพระองค์ทรงฟังคำอธิษฐาน
มนุษย์ทั้งหลายจึงหันเข้ามาหาพระองค์
3 ยามที่บาปชั่วของเราทั้งหลายท่วมท้น
พระองค์ก็ทรงอภัยให้
4 คนที่พระเจ้าทรงเลือก
และทรงทำให้เขามาอยู่ใกล้พระองค์ ก็เป็นสุข
พระองค์ทรงให้เขาอยู่ในที่พำนักของพระองค์
เราทั้งหลายจะอิ่มพึงใจกับสิ่งดีๆของพระนิเวศ
และความบริสุทธิ์แห่งพระวิหารของพระองค์
พระเจ้าผู้ทรงสร้างธรรมชาติ
5 โอพระเจ้าแห่งความรอดของเราทั้งหลาย
พระองค์ทรงตอบเราทั้งหลายด้วยราชกิจอันน่าเกรงขาม
พระองค์ทรงเป็นความหวังของทุกมุมโลก
และทรงเป็นความหวังของที่สุดปลายของทะเลที่ไกลโพ้น
6 พระองค์ทรงสร้างเทือกเขาขึ้นมาด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์
และทรงเต็มด้วยอานุภาพ
7 พระองค์ทรงระงับเสียงคลื่นทะเล
เสียงโครมครามของคลื่นทะเล
และเสียงวุ่นวายของชนชาติทั้งหลาย
8 คนทั้งหลายที่อาศัยทุกแห่งในโลกนี้
หวาดหวั่นต่อการอัศจรรย์ของพระองค์
พระองค์ทรงทำให้เวลาเช้า และเวลาเย็น
เต็มด้วยเสียงโห่ร้องด้วยความชื่นบาน
ขอแสดงความกตัญญูต่อพระคุณ
9 พระองค์ทรงมาเยี่ยมแผ่นดิน ทรงรดน้ำให้
ทรงทำให้ผืนดินอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก
ธารน้ำของพระองค์มีน้ำเต็มตลิ่ง
พระองค์ทรงจัดหาข้าวให้แก่ชาวโลก
ทรงจัดเตรียมโลกไว้อย่างนั้น
10 พระองค์ทรงรดน้ำให้ชุ่มดินด้วยฝนตามรอยไถ
ทรงทำให้หน้าดินราบเรียบด้วยสายฝน
และทรงอวยพรให้พืชพันธุ์เติบโต
11 พระองค์ทรงให้เป็นปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ จากพระองค์
พระองค์ทรงผ่านไปที่ใด พืชพันธ์ุที่นั่นก็งอกงามเต็มที่
12ทุ่งหญ้าเขียวขจีในถิ่นกันดาร
เนินเขายินดีปรีดา
13 ฝูงแพะแกะอยู่เต็มทุ่งหญ้า
ต้นข้าวเต็มอยู่ในหุบเขา
ทุกสิ่งต่างโห่ร้องด้วยความชื่นบาน
พระคำเชื่อมโยง
1* สดุดี 76:11, 62:1, 116:17-18,76:2
2* เยเรมีย์ 29:12-13; อิสยาห์ 65:24; กิจการ 10:31; สดุดี 145:18-19
3* สดุดี 38:4; ฮีบรู 9:14; อิสยาห์ 6:7; สดุดี 79:9
4* สดุดี 106:4-5, 84:4, 23:6; เอเฟซัส 1:4
5* เฉลยธรรมบัญญัติ 10:21; สดุดี 66:3; โรม 2:5
6* สดุดี 93:1; ฮาบากุก 3:6; มีคาห์ 6:2; อิสยาห์ 51:9
7*อิสยาห์ 17:12-13; สดุดี 89:9,107:29,93:3-4; ยอห์น 18:6
8*วิวรณ์ 11:3; กิจการ 5:38-39; ฮาบากุก 3:3-19; สดุดี 148:3, 136:8
9* สดุดี 104:13-15, 68:9-10; 46:4; วิวรณ์ 22:1
10* สดุดี 147:8; 1 โครินธ์ 3:6-7; เฉลยธรรมบัญญัติ 32:2
11* โยเอล 2:21-26; สดุดี 5:12, 103:4; ฮักกัย 2:19
12* โยบ 38:26-27; สดุดี 104:10-13; โยเอล 2:22; อิสยาห์ 61:10-11, 59:9-13
13* อิสยาห์ 55:12, 44:23, 35:1-2 กิจการ 14:17; เศคาริยาห์ 9:17
สดุดีบทนี้ บอกเราถึงพระพรที่พระเจ้าทรงเทลงมาให้โลก เป็นสดุดีที่จะร้องในเทศกาลของยิว ผู้คนจะระลึกถึงความดีของพระเจ้าที่ทรงทำให้กับแผ่นดิน เป็นช่วงเวลาที่ร่าเริงที่สุดของคนยิวด้วย
สดุดี 6:1-4 ทบทวนความดีของพระเจ้าต่ออิสราเอล
กษัตริย์ดาวิดได้ประกาศก้องว่า จากศิโยน ประชากรของพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ คำปฏิญาณที่พวกเขาเคยให้ น่าจะเป็นว่า เมื่อพระองค์ทรงอวยพระพรให้พืชพันธ์ุธัญญาหารสมบูรณ์ พวกเขาก็จะสรรเสริญพระองค์
เพราะพระเจ้าทรงฟังคำอธิษฐาน ผู้คนจึงหันมาหาพระองค์ และไม่ใช่เฉพาะในยุคของดาวิดเท่านั้น แต่เป็นยุคปัจจุบันด้วย ผู้เชื่อรู้ว่า ไม่มีที่ใดจะเป็นคำตอบนอกจากที่เบื้องพระพักตร์พระเจ้า
กษัตริย์ดาวิดระลึกถึงยามที่อิสราเอลทำบาปต่อพระเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า พระองค์ก็ทรงยกโทษให้เสมอ และพวกเขาเป็นคนที่น่าจะเป็นสุขที่สุด เพราะพระเจ้าทรงเลือกให้เขาเป็นประชากรของพระองค์ ไม่เหมือนกับชนชาติใด ๆ
สดุดี 6:5-8 พระเจ้าผู้ทรงสร้างธรรมชาติ
พระเจ้าไม่ทรงเป็นเพียงความหวังแห่งความรอดของทุกคน แต่เริ่มต้นพระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้างสิ่งสารพัด พระองค์ทรงเป็นผู้ให้เกิดความสงบจากความวุ่นวายที่มนุษย์สร้างขึ้น การอัศจรรย์ของพระเจ้าเกิดขึ้นทุกวัน สิ่งเหนือธรรมชาติเป็นสิ่งที่ธรรมดาสำหรับผู้ที่เชื่อ!
สดุดี 6:9-13 ขอแสดงความกตัญญูต่อพระคุณ
คนที่ไม่เชื่อความดีของพระเจ้า จะไปอ้างว่า ทำไมพระเจ้าไม่ทรงช่วยคนยากจนอดอยากในแอฟริกา ทำไมพระเจ้าปล่อยให้คนทำร้ายกันและกัน แต่พวกเขาไม่ได้มองความดีพื้นฐานของธรรมชาติที่พระเจ้าทรงให้มีแดด มีฝน และทำให้มีอาหารอุดมสมบูรณ์ (ครั้งยังไม่มีโรงงานปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำ หรือปล่อยมลพิษลงในพื้นที่)
มนุษย์เราสามารถช่วยเหลือกันได้ในระดับ บุคคล ครอบครัว หมู่บ้าน ประเทศ หรือ ประเทศต่าง ๆ ช่วยเหลือกันได้อยู่แล้ว แต่เราไม่ได้ทำให้เพียงพอต่างหาก และมนุษย์เรายังเอาเปรียบกันอย่างไร้ยางอายอีกด้วย พระคัมภีร์ตอนนี้บอกเราชัดเจนว่า พื้นฐานของความอุดมสมบูรณ์ของโลกมาจากพระเจ้า ดังนั้น เราต้องเข้าใจว่า มนุษย์ซึ่งเป็นผู้ที่พระเจ้ามอบอำนาจให้ครอบครองธรรมชาติ เป็นผู้ต้องรับผิดชอบด้วยกันในการรักษาโลกนี้