สดุดี 60 เราจะปฏิบัติงานอย่างกล้าหาญ

ถึงหัวหน้านักร้อง ตามทำนอง “ดอกพลับพลึงแห่งคำพยาน”
เป็นมิคทามสำหรับสอนของดาวิดยามที่ท่านสู้กับ อารัม-นาหะราอิม และอารัม-โซบาห์ โยอาบได้กลับมาและสังหารชาวเอโดม 12,000 คนในหุบเขาเกลือ (2 ซามูเอล 8:13-14 และ 1 พงศาวดาร 18:3-4, 12-13)

ประเทศที่พ่ายแพ้
1 โอ พระเจ้า พระองค์ทรงละทิ้งเราแล้ว พระองค์ทรงทำลายที่มั่น
ของพวกเรา พระองค์ทรงพิโรธนัก
ขอทรงรื้อฟื้นพวกเราใหม่ด้วยเถิด
2 พระองค์ทรงเขย่าแผ่นดิน และแผ่นดินก็แยกเปิดออก
ขอทรงซ่อมรอยแยกนั้น เพราะมันสั่นไหว
3 พระองค์ทรงให้คนของพระองค์ต้องพบความทุกข์ยาก
พระองค์ประทานเหล้าองุ่นให้ดื่มจนเราเดินโซเซ

ธงสัญญาณ
4 พระองค์ประทานธงสัญญาณให้กับคนที่เกรงกลัวพระองค์
เพื่อว่าเขาจะหนีจากธนูโดยมุ่งไปทิศนั้น เซ ลาห์
5 ขอพระเจ้าทรงช่วยเราให้รอดด้วยพระหัตถ์ขวา
และขอทรงตอบข้า เพื่อว่าคนที่พระองค์ทรงรักจะได้รับการช่วยกู้

พระดำรัสของพระเจ้าเหนือประชาชาติ
6 พระเจ้าได้ตรัสในสถานนมัสการของพระองค์
​“เราจะชนะ เราจะแยกเชเคมออก
เราจะแบ่งหุบเขาเมืองสุคคทออกจากกัน
7 กิเลอาดเป็นของเรา มนัสเสห์เป็นของเรา
เอฟราอิมเป็นหมวกกันศีรษะยูดาห์เป็นคทาของเรา
8 โมอาบเป็นอ่างชำระของเรา
เราเขวี้ยงรองเท้าของเราไปยังเอโดม
เราโห่ร้องด้วยชัยชนะเหนือฟีลิสเตีย

วางใจในพระเจ้าอีกครั้ง
9 ใครจะนำเรามายังเมืองป้อม?ใครจะนำเราไปเอโดม
10 โอพระเจ้า พระองค์ไม่ได้ทอดทิ้งเราไปแล้วหรือ?
โอพระเจ้า พระองค์มิได้ดำเนินออกไปพร้อมกับกองทัพของเรา
11 ขอพระเจ้าทรงช่วยเราต่อต้านศัตรู
เพราะการช่วยเหลือของมนุษย์ก็ไร้ประโยชน์
12 เราจะปฏิบัติงานอย่างกล้าหาญเพราะพระเจ้าทรงอยู่ด้วย
พระองค์จะทรงเหยียบย่ำศัตรูของเรา

พระคำเชื่อมโยง

1* ข้อ 10; สดุดี 44:9; 2 ซามูเอล 5:20; สดุดี 80:3

2* 2 พงศาวดาร 7:14

3* สดุดี 71:20; โยบ 21:20; อิสยาห์ 57:17,22

4* อิสยาห์ 5:26; 11:12; 13:2

5* สดุดี 108:6-13; ฉธบ. 33:12; เยเรมีย์ 11:15

6* สดุดี 89:35; โยชูวา 17:7; 13:27

7* โยชูวา 13:31; ฉธบ. 33:17; สดุดี 140:7; ปฐมกาล 49:10

8* 2 ซามูเอล 8:2; มัทธิว 3:11; 2 ซามูเอล 8:1

9* 2 ซามูเอล 8:14

10* ข้อ 1 ; สดุดี 44:9

11* สดุดี 146:3

12* สดุดี 108:13; 118:15,16; 44:5; อิสยาห์ 63:3

สดุดี 60:1-3 ประเทศที่พ่ายแพ้
สดุดีบทนี้ เป็นการคร่ำครวญเพื่อประชากรของพระเจ้าในฐานะที่กำลังถูกชนต่างชาติรุกราน โจมตี. นี่เป็นบทสดุดีเพื่อสอนคนของพระเจ้าว่า เมื่อเจอกับศัตรู เมื่อพ่ายแพ้ พวกเขาควรอธิษฐานอย่างไร
ชุมชนของพระเจ้ารู้สึกว่า พระเจ้าทรงทอดทิ้งพวกเขา พระองค์ทรงโกรธพวกเขามาก และทรงทำให้โลกของเขาสะเทือน แต่ถึงจะคิดว่า พระเจ้าทรงทิ้ง แต่เขาก็ขอให้พระเจ้าทรงรื้อฟื้นพวกเขาขึ้นใหม่ ถ้าพระเจ้าทรงให้พวกเขาแพ้ พระองค์ก็ทรงเปลี่ยนสถานการณ์ได้

สดุดี 60:4-5  ธงสัญญาณ
ข้อสี่คนที่เกรงกลัวพระองค์นั้น เป็นคนที่พระเจ้าทรงรักในข้อห้า กษัตริย์ดาวิดมั่นใจในธงสัญญาณจากพระเจ้า ท่านมั่นใจในการช่วยกู้ของพระเจ้าเต็มหัวใจ ใช่ เมื่อเรารักพระเจ้า เราจะเห็นสัญญาณที่พระเจ้าทรงนำเราไปในชีวิต การเดินไปกับพระองค์จึงน่าตื่นเต้นเสมอ

สดุดี 60:6-8 พระดำรัสของพระเจ้าเหนือประชาชาติ
พระเจ้าตรัสถึงแผ่นดินต่าง ๆ ว่าเป็นของพระองค์ พื้นที่ ๆ กล่าวถึงคือ เชเคม สุคคท กิเลอาด มนัสเสห์ เอฟราอิม ยูดาห์ เหล่านี้เป็นดินแดนที่พระเจ้าทรงสัญญาให้อิสราเอล แผ่นดินโมอับ เอโดม ฟีลิสเตียเป็นประเทศเพื่อนบ้าน แต่ทั้งสามนี้ก็เป็นของพระเจ้าด้วย ในสมัยของกษัตริย์ดาวิด ทั้งสามแห่งนี้ตกเป็นเมืองภายใต้การปกครองของท่าน

สดุดี 60:9-12 วางใจในพระเจ้าอีกครั้ง
จากคำตอนนี้ของกษัตริย์ดาวิด เราจะเห็นว่า แม้ท่านจะรู้ว่า ในบางขณะพระเจ้าไม่ได้ทรงอยู่ข้างท่าน แต่ท่านก็ไม่ยอมที่จะปล่อยให้ความคิดนั้นทำให้เลิกวางใจพระเจ้า ท่านรู้ว่า มนุษย์ไม่ได้สามารถช่วยให้ท่านได้ชัยชนะเลย ผู้เดียวที่จะประทานชัยชนะคือ พระเจ้า

สดุดี 59 พระผู้ทรงช่วยกู้ พระกำลังและป้อมปราการ

wallpaperflare.com

ถึงหัวหน้านักร้อง ตามทำนอง “โปรดอย่าทำลาย” เป็นมิคทามบทหนึ่งของดาวิด เมื่อกษัตริย์ซาอูลส่งคนไปเฝ้าที่บ้านดาวิดเพื่อจะสังหารท่าน

ดาวิดร้องทูลขอการช่วยกู้และการปกป้อง
1 โอ พระเจ้าของข้า ขอพระองค์ทรงกู้ข้าจากศัตรูของข้าเถิด
ขอทรงปกป้องข้าจากคนที่ลุกฮือขึ้นต่อต้านข้า
2 ขอทรงกู้ข้าจากคนที่ทำความบาปชั่ว
และทรงช่วยข้าจากคนที่กระหายเลือด
3 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทอดพระเนตร พวกเขาซุ่มดักข้า
คนที่มีกำลังโจมตีข้า แต่ไม่ใช่เพราะข้าทำบาปหรือทำการกบฎ 
4 ขอพระเจ้าทรงลุกขึ้นเพื่อช่วยข้า
ขอทรงมองดูพวกเขาวิ่งไปเพื่อโจมตี ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เป็นความผิดของข้า
5 โอพระยาห์เวห์ องค์จอมทัพ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งอิสราเอล
ขอทรงลุกขึ้นเพื่อลงโทษประชาชาติทั้งหลาย
ขออย่าทรงเมตตาต่อผู้ทรยศสักคน เซ ลาห์

ศัตรูที่โอหัง
6 พวกเขากลับมาตอนเย็น โกรธเกรี้ยวขู่คำรามอย่างสุนัข
และเที่ยวออกหากินไปรอบ ๆ เมือง
7 ดูสิ พวกเขาพ่นคำที่บาดใจจากปาก พวกเขาคิดว่า “ใครจะฟังเรา”

ความมั่นใจในพระเจ้าของดาวิด
8 แต่พระยาห์เวห์เจ้าข้า พระองค์ทรงหัวเราะเยาะพวกเขา
พระองค์ทรงเย้ยประชาชาติทั้งสิ้น
9 โอ พระองค์ผู้ทรงเป็นกำลังของข้า ข้าเฝ้าคอยพระองค์
เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นป้อมปราการของข้า
10 พระเจ้าผู้ทรงซื่อตรงจะเสด็จมาพบข้า
พระองค์จะทรงให้ข้าอยู่เหนือเหล่าปฏิปักษ์

ขอพระเจ้าทรงจัดการศัตรูเพื่อพระเกียรติ
11 ขออย่าทรงสังหารพวกเขา มิฉะนั้น ประชาชนจะลืมเสีย
ขอทรงให้พวกเขากลายเป็นคนไร้บ้าน เร่ร่อนไป
และขอทรงฉุดพวกเขาลงเสีย
โอ พระยาห์เวห์ ผู้ทรงเป็นโล่ของพวกเราทั้งหลาย
12 เพราะบาปจากปากพวกเขา และคำจากริมฝีปากของเขา
ขอให้พวกเขาติดกับดักความโอหังของตนเอง
เพราะพวกเขากล่าวคำสาปแช่งและคำมุสา
13 ขอทรงผลาญพวกเขาด้วยพระพิโรธ
ขอทรงผลาญพวกเขาจนไม่มีใครเหลือ
และคนทั้งโลกจะทราบว่า พระเจ้าทรงปกครองเหนือยาโคบ เซ ลาห์

ศัตรูที่โอหัง
14 พวกเขากลับมาตอนเย็น
ขู่คำรามเหมือนสุนัขและออกหากินรอบ ๆ เมือง
15 พวกเขาตามล่าหาอาหาร และเห่าหอนหากยังไม่อิ่ม

ร้องเพลงสรรเสริญ แม้อันตราย
16 แต่ข้าจะร้องเพลงถึงพระกำลังของพระองค์
และจะประกาศด้วยความยินดีถึงความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้า
เพราะพระองค์ทรงเป็นป้อมเข้มแข็งของข้า ทรงเป็นที่ลี้ภัยในยามลำบาก
17 ข้าร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ผู้ทรงเป็นกำลัง
เพราะเจ้าทรงเป็นป้อมปราการของข้า
โอ พระเจ้าผู้ทรงซื่อตรงมั่นคง…

พระคำเชื่อมโยง

1* 1 ซามูเอล 19:11-24; สดุดี 18:48

2* สดุดี 139:19; 55:23

3* สดุดี 56:6; 69:4; 1 ซามูเอล 24:11

4*สดุดี 35:23; อิสยาห์ 51:9

5* ยากอบ 2:13; โรม 9:6

6*สดุดี 59:14; 22:16

7*สดุดี 57:4; 10:11; สุภาษิต 15:2

8* สดุดี 2:4; 37:13

9* สดุดี 9:9; 62:2

10*สดุดี 54:7; 21:3; 1 เปโตร 5:10

11*สดุดี 3:3; วิวรณ์ 9:6

12* สุภาษิต 12:13; โฮเชยา 4:2

13*สดุดี 83:18; 7:9;

14*สดุดี 22:16; 59:6

15* โยบ 15:23; 109:10

16*เอเฟซัส 3:20 ; สดุดี 21:13

สดุดี 59:1-5 ดาวิดร้องทูลขอการช่วยกู้และการปกป้อง
ดาวิดทูลขอพระเจ้าทรงช่วยจากผู้ที่กำลังโจมตีท่าน พวกเขาคอยหาช่องเอาชีวิตของท่าน ท่านทูลว่า ท่านไม่ได้ทำผิดอะไรที่จะต้องโดนศัตรูทำร้ายเช่นนั้น
และในข้อห้า เราเห็นว่า การโจมตีนั้นไม่ได้มาถึงแค่ตัวท่าน แต่มาถึงชนชาติของพระเจ้าด้วย และดาวิดได้เรียกพระนามของพระเจ้าเรียงกันถึงสามพระนาม “พระยาห์เวห์ องค์จอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอล” ทั้งสามพระนามบ่งบอกความยิ่งใหญ่ที่แตกต่าง พระยาห์เวห์คือ พระเจ้าองค์นิรันดร์ องค์จอมทัพคือพระเจ้าผู้ทรงบัญชาการกองทัพแห่งสวรรค์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลคือ พระองค์ผู้ทรงครอบครองเหนืออิสราเอล ยืนยันได้ว่า ดาวิดมั่นใจในพระเจ้าจริง ๆ

สดุดี 59:6-7 ศัตรูที่โอหัง
กษัตริย์ดาวิดเปรียบศัตรูว่าเป็นเหมือนสุนัขป่า กินสิ่งที่ไม่สะอาด ที่ดุร้ายยามค่ำคืน อาวุธที่พวกเขาใช้คือคำเลวร้ายที่ออกมาจากปากอย่างโอหัง พวกเขากำลังทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกกลัว

สดุดี 59:8-10 ความมั่นใจในพระเจ้าของดาวิด
แต่ดาวิดมั่นใจว่า พระเจ้าจะทรงเยาะคนโอหังเหล่านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่าตนใหญ่โตขนาดไหน แต่ไม่มีใครจะสู้พระเจ้าได้ ท่านมองว่า พระเจ้าทรงเป็นทั้งกำลัง เป็นทั้งป้อมเข้มแข็ง และพระเจ้าองค์นี้จะทำให้ท่านเป็นต่อ เป็นผู้ชนะ

สดุดี 59:11-13 ขอพระเจ้าทรงจัดการศัตรูเพื่อพระเกียรติ
ดาวิดยังขอสิ่งที่แย่กว่าความตาย นั่นคือ ขอให้ศัตรูต้องเผชิญกับความหายนะ ให้พวกเขาติดกับดักความโอหัง และคำชั่วของตนเอง แล้วจากนั้นจึงขอทรงจัดการให้พวกเขาสูญไป. และเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น คนทั้งหลายจะได้มั่นใจว่า พระเจ้าทรงครองเหนืออิสราเอลจริง ๆ

สดุดี 59:14-15 ศัตรูที่โอหัง
ดาวิดยังคงมองศัตรูเหล่านี้เหมือนสุนัขหิวโหย ที่ตามล่าหากินไม่หยุดหย่อน

สดุดี 59:16-17
สุดท้าย ดาวิดบอกถึงความมั่นใจในพระกำลังของพระเจ้า ท่านกล่าวซ้ำ ๆ ว่าพระเจ้าทรงเป็นกำลังและป้อมปราการ ความรู้สึกนี้ อยู่กับเราอย่างดาวิดหรือเปล่า

สดุดี 58 ขอทรงลงโทษเจ้านายอธรรม

โดยคุณ Greg Rosenke unsplash.com

ถึงหัวหน้านักร้อง ตามทำนอง “โปรดอย่าทำลาย”
มิคทามบทหนึ่งของดาวิด

คำถามถึงผู้ปกครองที่โหดร้าย
1เจ้านายทั้งหลาย ท่านได้กล่าวคำอย่างถูกต้องหรือ?
ท่านพิพากษาบุตรของมนุษย์อย่างเที่ยงธรรมหรือ?
2  ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ใจของพวกท่านคิดแต่การอธรรม
มือของท่านแพร่ความรุนแรงไปในแผ่นดิน


ลักษณะของคนชั่วร้าย
3  คนชั่วร้ายนั้น ก็หลงทางมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่
พวกเขาพลัดหลงมาตั้งแต่เกิด พูดจาโกหก
4 พวกเขามีพิษร้ายเหมือนกับพิษของงู
เหมือนกับงูเห่าที่หูหนวกแล้วยังปิดหูอีกด้วย
5 เพื่อว่ามันจะไม่ฟังเสียงของหมองู
หรือเสียงจากหมอเสน่ห์ที่เต็มด้วยอุบาย

คำทูลขอของดาวิด
6 โอ พระเจ้าข้า ขอทรงเลาะฟังจากปากพวกเขา
ขอทรงหักเขี้ยวของสิงโตหนุ่มทั้งหลาย โอ องค์พระผู้เป็นเจ้า
7  ขอให้เขาสูญสลายไปราวกับน้ำที่ไหลผ่านไป
เมื่อเขาดึงคันธนู ขอให้คมลูกศรของเขาทื่อด้านไป
8 ขอให้พวกเขาเป็นเหมือนหอยทากที่ละลายไปเป็นเมือก
เป็นเหมือนทารกที่ตายในท้องโดยไม่เห็นดวงอาทิตย์
9 ขอให้เขาถูกกวาดไปเร็วกว่าหม้อที่ตั้งไฟรอความร้อน
ไม่ว่าจากฟืนแห้งหรือสด
10 ผู้เที่ยงธรรมจะยินดีเมื่อเขาได้เห็นการแก้แค้นแทน
เขาจะเอาเลือดของคนชั่วมาล้างเท้า
11 ผู้คนทั้งหลายจะกล่าวว่า “จริงสิ มีรางวัลสำหรับคนเที่ยงธรรม
จริงสิ มีพระเจ้าที่ทรงพิพากษาโลกนี้”

พระคำเชื่อมโยง

1*สดุดี 82

2*อิสยาห์ 10:1

3* สดุดี 53:3; อิสยาห์

4*ปัญญาจารย์ 10:11

5*เยเรมีย์ 8:17;

6* โยบ 4:10

7* โยชูวา 2:11; สดุดี 112:10;

8* โยบ 3:16

9*สดุดี 118:12; โยบ 27:21

10*ฉธบ. 32:43; เยเรมีย์ 11:20

11*สดุดี 92:15; สุภาษิต 11:18

สดุดี 58:1-2 คำถามถึงผู้ปกครองที่โหดร้าย
ดาวิดตั้งคำถามที่น่าจะไปถึงผู้ปกครองทุกคนในแผ่นดินอิสราเอลเวลานั้น เพราะพวกเขากล่าวคำที่ไร้ความถูกต้อง เขาพิพากษาไม่ยุติธรรม เขาคิดการอธรรมออกมาเพื่อประโยชน์ของตน พวกเขาทำให้แผ่นดินเกิดความรุนแรง ประชาชนต้องเผชิญการกดขี่จากชนชั้นปกครอง
พระเจ้าเป็นผู้แต่งตั้งพวกเขาให้ปกครองประเทศ พวกเขามีหน้าที่ให้ความยุติธรรม รักษาความมั่นคง ทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดี และในสมัยของดาวิด พวกเขาต้องช่วยให้ประชาชนรู้จักพระเจ้าด้วย. เมื่อผู้ปกครองไม่เป็นอย่างที่ควร จึงเกิดคำถามขึ้นมา
จากสดุดีบทนี้เราเห็นว่า ดาวิดไม่ได้แก้แค้นด้วยตนเอง กลับหันมาหาพระเจ้าและขอให้พระองค์ทรงจัดการให้

สดุดี 58:3-5 ลักษณะของคนชั่วร้าย
ใจของดาวิดสรุปว่า คนชั่วร้ายนั้น ก็ร้ายตั้งแต่เกิด อาจดูดีในตอนแรก แต่แล้วอย่างไรเสีย เมื่อมีอำนาจก็จะแสดงจิตใจชั่วร้ายแท้จริงออกมา ที่สำคัญคือ ผู้นำกลับกลายเป็นผู้ที่โกหกเสียเอง ซึ่งมันก็ตรงกับผู้นำประเทศจำนวนมากในโลกที่โกหกกันหน้าตายทุกวัน และยังมีผู้นำที่ปากร้าย ทำลายชาติอีกมากมายด้วย พวกเขาคิดว่า คำของเขาโอเค แต่ในสายพระเนตรพระเจ้าแล้ว เป็นสิ่งที่ต้องทำลาย งูเห่าที่ปิดหู คือไม่ยอมฟังเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น
คนเหล่านี้แสดงความชั่วออกชัดเจนเพราะพวกเขาอยู่ในที่ ๆ คนเห็นชัด สิ่งที่พวกเขาทำก็คือ การทำตามธรรมชาติบาปที่เกิดมานั่นเอง เราทุกคนก็ไม่ต่างไปจากพวกเขาถ้าไม่ยำเกรงพระเจ้า บาปของเราไม่ดังเพราะไม่ใช่คนดัง แต่บาปก็คือบาป คนที่ทำบาปไม่ว่าจะเป็นใครก็บาปทั้งนั้น

สดุดี 58:6-11 คำทูลขอของดาวิด
ดาวิดไม่ได้รวบรวมคนมาเดินขบวนต่อต้าน ท่านหันหาพระเจ้า และขอพระเจ้าทรงมอง ขอพระเจ้าทรงจัดการกับคนที่ทำร้าย เป็นคำอธิษฐานที่รุนแรงสำหรับศัตรู คนเหล่านี้ไม่ได้ทำร้ายแค่คน ๆ เดียวแต่ทำร้ายประชาชนจำนวนมากด้วย เพราะเขาอยู่ในตำแหน่งผู้ปกครอง พระคำข้อสุดท้าย เป็นคำมั่นสัญญาให้กับผู้ที่ต้องทนทรมานเพื่อพระคริสต์ทุกคน

สดุดี 57 ขอให้พระสิริเต็มทั่วแผ่นดิน

วันนี้ ฟ้าสวยมาก

ถึงหัวหน้านักร้อง ตามทำนอง “โปรดอย่าทำลาย” บทมิคทาม
ของดาวิดยามที่ท่านอยู่ในถ้ำช่วงที่หลบหนีกษัตริย์ซาอูล

จิตใจที่วางใจพระเจ้า
1 ขอทรงเมตตาต่อข้า โอพระเจ้า ขอทรงเมตตาต่อข้า
เพราะวิญญาณจิตของข้าลี้ภัยในพระองค์
ข้าพึ่งพักพิงใต้ร่มเงาแห่งปีกของพระองค์
จนกว่าหายนะจะพัดผ่านพ้นไป
2 ข้าร้องทูลเสียงดังต่อองค์พระเจ้าสูงสุด
ต่อพระเจ้าผู้ทรงกระทำตามพระประสงค์เพื่อข้าจนสำเร็จ
3 พระองค์จะทรงส่งความช่วยเหลือมาจากสวรรค์ และช่วยกู้ข้า
จะทรงทำให้คนที่ตั้งใจกลืนข้าต้องอับอายยิ่ง เซ ลาห์
พระเจ้าจะทรงส่งความรักมั่นคง
และความซื่อตรงของพระองค์ลงมา

เมื่ออยู่ท่ามกลางสิงห์
4 วิญญาณจิตของข้าอยู่ท่ามกลางสิงห์
ข้านอนอยู่ท่ามกลางสัตว์ป่าดุร้าย
คือบุตรหลานของมนุษย์ที่มีฟันเป็นหอก
และลูกธนู ที่มีลิ้นเป็นดาบคมกริบ
5 โอพระเจ้า ขอทรงได้รับการยกย่องอย่างสูง เหนือฟ้าสวรรค์
ขอให้พระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์คลุมเหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น

กับดักของศัตรู
6  พวกเขาวางตาข่ายดักเท้าของข้า
วิญญาณจิตของข้าน้อมลง
พวกเขาขุดหลุมพรางตามทางของข้า
แต่พวกเขาก็ตกลงไปในหลุมนั้นเอง เซ ลาห์

คำสรรเสริญจากใจที่มั่นคง
7 ใจของข้ามั่นคง โอ้พระเจ้า ใจของข้ามั่นคง
ข้าจะร้องเพลง และสรรเสริญพระองค์ด้วยบทเพลง
8 จงตื่นขึ้น ศักดิ์ศรีของข้า
จงตื่นขึ้น พิณสิบสายและพิณเล็ก ข้าจะปลุกรุ่งอรุณ
9 โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าจะถวายคำขอบพระคุณแด่พระองค์
ท่ามกลางประชาชน
ข้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
10 เพราะความรักมั่นคงของพระองค์นั้นสูงถึงสวรรค์
ความซื่อตรงของพระองค์สูงถึงเมฆ
11โอพระเจ้าข้า
 ขอพระองค์ทรงได้รับการยกย่องอย่างสูง เหนือฟ้าสวรรค์
ขอให้พระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์อยู่เหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น

พระคำเชื่อมโยง

1* สดุดี 91:4; 36:7; 17:7-8

2* สดุดี 138:8; ฟีลิปปี 1:6; ฮีบรู 13:21

3* สดุดี 40:11; 43:3; 144:5-7

4*สดุดี 58:6; 55:21; สุภาษิต 30:4

5*สดุดี 72:19; ฮาบากุ 2:14; อิสยาห์ 6:3

6* มีคาห์ 7:2; สดุดี 145:14; 35:7-8

7* สดุดี57:7; 112:7; เอเฟซัส 5:20

8* สดุดี 16:9; 30:12; กิจการ 2:26

9* สดุดี 138:1; 96:3; 22:22-23

10* สดุดี 108:4; 103:11; 36:5

11* วิวรณ์ 5:3-4 ; สดุดี 8:1,9

สดุดี 57: 1-3 จิตใจที่วางใจพระเจ้า
เหนื่อยมาก ชอกช้ำใจ และโดดเดี่ยว ดาวิดหนีจากซาอูลเข้าไปในถ้ำ ท่านเกือบตายหลายครั้ง (สดุดี 56) ตอนนี้ท่านอยู่คนเดียวในถ้ำร้องขอพระเมตตาของพระเจ้าซ้ำ ๆ ขออยู่ใต้พระเจ้าจนกว่าภัยต่าง ๆ จะเคลื่อนไปจากท่าน
ในข้อสองนั้น บอกชัดถึงความเชื่อว่า พระเจ้าจะทรงทำทุกสิ่งสำเร็จตามที่พระองค์ทรงตั้งพระทัยว่า ดาวิดรู้ว่า พระเจ้าจะให้ท่านปกครองอิสราเอล แต่เหตุการณ์เฉพาะหน้าตอนนี้คือ ความน่ากลัว ท่านมั่นใจว่า พระเจ้าจะทรงความช่วยเหลือมาจากสวรรค์ คิดว่าตอนนี้ดาวิดน่าจะหมายถึงทูตสวรรค์ของพระเจ้า

สดุดี 57:4-5 เมื่ออยู่ท่ามกลางสิงห์
ดาวิดมองศัตรูเหล่านี้เหมือนสัตว์ป่า ที่ไม่มีเหตุผล มีแต่ความโหดร้าย น่ากลัว คำพูดทั้งเชือดเฉือนและสร้างความเกลียดชัง แต่ขณะที่ท่านกำลังคิดถึงศัตรู ใจก็กลับหวนไปหาพระเจ้า และยกย่องพระเจ้า ขอให้พระสิริของพระองค์เต็มโลก ปัญหาอยู่ข้างหน้า แต่ดาวิดกลับมองข้ามไปหาพระเจ้าได้

สดุดี 57:6. กับดักของศัตรู
ศัตรูพยายามวางกับดัก แต่ท่านหนีได้ และศัตรูก็ตกลงไปเอง ทำร้ายตัวเอง นี่เป็นการของพระเจ้าที่ทรงทำเพื่อดาวิด ท่านคงเห็นภาพนั้นจริง จึงได้บันทึกไว้ตรงนี้

สดุดี 57:7-11 คำสรรเสริญจากใจที่มั่นคง
จากนั้น ความคิดถึงรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก็จบลง กลายเป็นการสรรเสริญพระเจ้าอย่างสูงสุด ท่านมั่นใจว่า จิตใจของท่านมั่นคงในพระเจ้า มั่นคงจริง ๆ
ท่านมั่นใจว่า ในเช้าวันต่อมา ท่านจะสรรเสริญพระเจ้าแต่เช้าตรู่ จะร้องเพลงก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้น จะร้องเพลงถวายพระเจ้าแม้ว่าอยู่ในถ้ำนั้นอย่างโดดเดี่ยว ท่านมองเห็นว่า จะได้สรรเสริญพระเจ้าต่อหน้าประชาชาติทั้งหลายทั้งนี้ เป็นเพราะความรักมั่นคงและความซื่อตรงของพระเจ้านั้น สูงมาก เยอะมาก ไกลมาก และใกล้มาก สดุดีบทนี้ทรงคุณค่านัก เพราะสอนเราให้มองในที่ ๆ ควรจะมอง